ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Fic Exo] Half-breed

    ลำดับตอนที่ #11 : :Half-Breed: 10 (40%)

    • อัปเดตล่าสุด 13 พ.ค. 57



     
    Half-Breed: 10

     

                    ร่างเล็กของเอสเปอร์ตัวน้อยนอนทอดกายนิ่งสนิทอยู่บนเตียงใหญ่กลางห้อง ดวงตาที่อยู่ภายใต้เปลือกตาสีมุกกลิ้งกลอกไปมาราวกับกำลังเผชิญกับฝันร้าย เหงื่อเม็ดเล็กผุดขึ้นมาตามใบหน้าขาวใส คิ้วขมวดเข้าหากันเป็นปม มือเล็กทั้งสองข้างขยุ้มผ้าปูที่นอนสีขาวสะอาดแน่นจนมันแถบจะขาดติดมือมาด้วย ร่างเล็กเริ่มเกร็งขึ้นมาเหมือนคนที่กำลังเป็นลมชัก กลีบปากชมพูระเรื่อเอื้อนเอ่ยชื่อของใครบางคนขึ้นมาอย่างแผ่วเบา

     

                    "....พี่จุน... มยอน"

     

                    หยดน้ำใสไหลรินออกมาจากใต้เปลือกตาที่ปิดสนิท เขากำลังกลัว กลัวอะไรสักอย่างในความฝันที่ไม่มีใครสามารถเข้าไปได้นอกจากตัวของร่างเล็กเอง

                    ฉับพลันดวงตากลมโตก็เบิกโพลงขึ้นมาอย่างกระทันหัน เผยให้เห็นนัยน์ตาสีน้ำตาลอ่อนที่กำลังวาวโรจน์ หัวใจดวงน้อยเต้นแรงจนมันแทบทะลุออกมาด้านนอก  แก่นวิญญาณของร่างเล็กเริ่มสั่นคลอนจนอุณหภูมิของร่างกายเพิ่มสูงขึ้นอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน วงแขนเล็กโอบกอดร่างของตัวเองเอาไว้ด้วยความทรมาน

     

                    ....เหมือนกับว่าจิตวิญญาณกำลังเรียกหาอะไรบางอย่าง และสิ่งนั้นเองก็ร้องเรียกเขาเช่นกัน

     

                    "กำลัง... จะตื่น..." เสียงแผ่วเบาดังลอดออกมาจากปากบางพร้อมกับนัยน์ตาที่ถูกย้อมเป็นสีแดงสดซึ่งต่างจากทุกทีที่เป็นสีฟ้าน้ำทะเลสดใส ฝ่ามือยันพื้นเตียงยันตัวลุกขึ้นนั่ง แววตาที่ว่างเปล่าเลื่อนลอยไปยังเบื้องหน้า แต่สิ่งที่เขากำลังจ้องมองกลับไม่ใช่ภาพของห้องนอน หากแต่เป็นภาพของอนาคตอันใกล้ที่อาจจะเกิดขึ้นในอีกไม่กี่ชั่วโมงข้างหน้านี้ก็เป็นได้

     

                    แก็ก!!!

     

                    บานประตูเปิดอ้าออกอย่างแผ่วเบาพร้อมกับร่างของชายหนุ่มที่เดินเข้ามา เขาชะงักค้างทันทีเมื่อเห็นร่างที่กำลังนั่งอยู่บนเตียง อุตส่าห์จะเข้ามาเงียบๆเพื่อไม่ให้คนตัวเล็กตื่นตามคำสั่งของจุนมยอนแท้ๆ ชายหนุ่มเดินเข้ามาหาร่างเล็กที่ข้างเตียง ก่อนจะโค้งน้อยๆเพื่อแสดงความเคารพ

     

                    "คุณหนูคยองซู นายท่านจุนมยอนบะ....!"

     

                    ยังไม่ทันที่จอมเวทย์หนุ่มจะพูดจบ สายตาเย็นยะเยือกก็ตวัดมองมาจนคนพูดถึงกับชะงัก นัยน์ตาแดงฉานจ้องมองชายหนุ่มเขม็ง ปฏิกิริยาตอบสนองที่แสนเย็นชาต่างจากทุกทีที่เคยเห็นจากคุณหนูตัวเล็กที่มักจะยิ้มกว้างให้ตนอย่างร่าเริง มันทำให้ขนลุกเกรียวทั้งตัว ความรู้สึกเสียวสันหลังแล่นขึ้นสมองอย่างช่วยไม่ได้

     

                    ร่างเล็กที่เอาแต่จ้องเขม็งด้วยสายตาที่คาดเดาอารมณ์ไม่ได้ค่อยๆก้าวขาลงมาจากเตียงใหญ่ ก่อนจะเดินตรงไปหาชายหนุ่มอย่างเชื่องช้าแล้วมาหยุดอยู่ตรงหน้า ฝ่ามือเล็กเอื้อมไปจับคอเสื้อของบุคคลที่ยืนตัวแข็งทื่อก่อนจะกระชากลงมาอย่างแรงเพื่อให้หน้าลงมาอยู่ในระดับเดียวกัน

     

                    "พาฉันออกไป!" สรรพนามที่เปลี่ยนไปจากเดิมและดวงตาที่แข็งกร้าวทำให้ชายหนุ่มเกิดอาการตื่นตระหนกขึ้นมาอย่างกระทันหัน เขารู้ดีว่าถึงแม้ภายนอกคุณหนูตรงหน้าจะดูไร้พิษภัยเพียงใด แต่สายเลือดส่วนหนึ่งที่สูบฉีดอยู่ภายในร่างกายที่บอบบางนั้นเป็นสิ่งที่น่าหวั่นเกรงที่สุด แค่รอวันที่มันจะตื่นขึ้นมาอย่างเต็มที่เท่านั้น

     

                    "จะ... ออกไป นะ...ไหนหรอครับ" คำพูดตะกุกตะกักลอยออกจากปากของชายหนุ่มด้วยความหวั่นเกรง คนตัวเล็กยกยิ้มเย็นก่อนจะผลักอกชายหนุ่มออกไปห่างๆอย่างไม่ใยดีแล้วเดินไปยังประตู

     

                    “ไปฆ่าคน!”

     

     

    ...............................................................................................

     

     

                    เสียงที่ดังสะนั่นและความเจ็บจี๊ดที่แล่นขึ้นสมองมันไปดึงเอาสติที่จมดิ่งอยู่ในความมืดมิดกลับมาสู่โลกเห็นความเป็นจริงอีกครั้ง เปลือกตาที่หนักอึ้งเปิดขึ้นช้าๆ ประสาทสัมผัสค่อยๆเริ่มกลับมาใช้งานได้ดังเดิม มือขวายกขึ้นกุมขมับที่ปวดตุบๆราวกับมีใครเอาค้อมปอนมาทุบ มืออีกข้างค่อยๆยันตัวลุกขึ้น แต่ก็ต้องล้มลงไปนอนอีกครั้งเมื่อความเจ็บปวดตรงเข้าเล่นงานอย่างจัง

     

                    หัวหน้าอย่าพึ่งขยับนะครับ!!!” ชายหนุ่มสมาชิกของหน่วยแพทย์ร้องขึ้นก่อนจะวิ่งหน้าตาตื่นเข้ามาหาจุนมยอน ที่พยายามกัดฟันฝืนความเจ็บปวดเพื่อยันตัวลุกขึ้นอีกครั้ง

     

                    จื่อเทาอยู่ไหน!” คำถามที่ไม่เคยเป็นห่วงตัวเองทำให้ผู้ที่ทำหน้าที่รักษาถึงกับถอนหายใจเฮือกใหญ่เบือนสายตาไปอีกทาง จุนมยอนจึงมองตามสายตาของอีกคนไป

     

                    ภาพเบื้องหน้าทำให้ดวงตาเบิกโพลงดวงความตกใจ....

     

                    อู้อี้ฟานกำลังสู้อยู่กับจองซูหัวหน้าของตัวเองที่ไม่รู้โผล่มาตั้งแต่ตอนไหน ก่อนจะเบนสายตาไปจ้องเขม็งอยู่ที่มังกรตัวมหึมาที่ยืนจังก้าเตรียมจะพ่นเปลวไฟนรกใส่ใครก็ตามที่เข้าใกล้  แต่อะไรก็ไม่ทำให้จุนมอยนหน้าเสียได้เท่าลูกไฟที่อยู่ข้างหลังเจ้ามังกรตัวใหญ่ ร่างที่ไร้สติของจื่อเทาถูกจับขังไว้ในเปลวไฟที่ทำหน้าที่เป็นกรงกักตัวนักโทษ

     

                    บ้าเอ้ย!!” จุนมยอนพุ่งตัวออกไปอย่างรวดเร็วจนหน่วยแพทย์ที่อยู่ข้างๆคว้าตัวไว้ไม่ทัน

     

                    หัวหน้า!!!”

                    จุนมยอนตะโกนเสียงดัง ดวงตาสีน้ำตาลเข้มเบิกกว้างอย่างตกใจเมื่อร่างของจองซูกระเด็นไปกระแทกกำแพงที่อยู่อีกฝั่งอย่างแรงด้วยฝีมือของอี้ฟาน เขารีบพุ่งตัวไปหาหัวหน้าตัวเองทันทีก่อนจะช่วยพยุงให้ลุกขึ้น

     

                    เป็นอะไรรึป่าวหัวหน้า!” เขาถามด้วยความเป็นห่วงแต่กับโดยนัยน์ตาสีแดงฉานของหัวหน้าตัวเองตวัดมองอย่างไม่พอใจ

     

                    แกจะเข้ามายุ่งทำไม อยากตายมากใช่มั้ย!” เสียงกดต่ำจนดูน่ากลัวต่างจากหัวหน้าคนเดิมที่เคยรู้จัก ยังไม่ทันได้ตอบโต้อะไรก็โดนฝ่ามือเรียวผลักกระเด็นไปอีกทาง ความเจ็บปวดจากบาดแผลที่ท้องแล่นปรี๊ดขึ้นถึงสมองจนแทบจะไม่มีแรงยืน

     

                    ความร้อนระอุจากเปลวเพลิงที่ถูกส่งมาให้เป็นของฝากจากอี้ฟานถูกสกัดไว้ก่อนที่มันจะถึงตัวจุนมยอน พลังเวทย์ที่แข็งแกร่งของจองซูทำหน้าที่เป็นโล่ป้องกันอย่างแน่นหนา จุนมยอนอาศัยจังหวะนั้นพยายามกัดฟันข่มความเจ็บแล้วยันตัวลุกขึ้น

     

                    แกกลับไปซะ ทางนี้ฉันจัดการเอง!!” คำสั่งขั้นเด็ดขาดถูกส่งเข้าโสตประสาทของจุนมยอนเสียงดังฟังชัด แต่เจ้าตัวไม่ยอมขยับแม้แต่นิดเดียว

     

                    ไม่ ผมจะไม่มีทางทิ้งหัวหน้าแน่นอน!”

     

                    เสียงที่ไม่มีความลังเลสักนิดของผู้ใต้บัญชาทำให้จองซูถึงกับตวัดสายตามองอย่างไม่พอใจ แต่ก็ต้องหันมาสนใจสิ่งที่ตนกำลังต้านเอาไว้แทนเพราะดูเหมือนมันจะรุนแรงขึ้นเรื่อยๆจนเกราะใสๆเกิดรอยร้าวเล็กๆและค่อยๆรามไปเรื่อยๆ

     

                    บ้าเอ้ย! แบบนี้ไม่ไหวแน่.....

     

                    ในวินาทีที่เกราะใสกำลังจะแตก แรงดันจากข้างหลังก็ส่งขึ้นมาพร้อมๆกับพลังเวทย์ที่ไหลผ่านฝ่ามือขาวๆที่เอื้อมมาช่วยเสริมพลังเวทย์ของตัวเอง

     

                    ก็บอกแล้วไงว่าผมจะไม่ทิ้งหัวหน้า!”

     

                    รอยยิ้มเล็กๆกระตุกขึ้นบนใบหน้าขาวเนียนของจองซู พลังที่เสริมกันเพิ่มมากขึ้นจนมันดันก้อนเปลวไฟร้อนระอุให้สลายหายไป และเนื่องจากที่ตัวเองยังไม่พร้อมและพลังเวทย์ที่เสียไปทำให้จุนมยอนถึงกับทรุดฮวบลงอย่างหมดแรง

     

                    จุนมยอน... อ๊ากกกกกกกก!!!”

                    เสียงร้องด้วยความเจ็บปวดของหัวหน้ามันเรียกสติของจุนมยอนให้กับคือมา พอเงยหน้ามองก็พบกับร่างสูงของอี้ฟานที่ยืนค้ำหัวอยู่ จุนมยอนเบิกตากว้างเมื่อเห็นว่าหัวหน้าตัวเองนอนกุมท้องที่นองไปด้วยเลือดสีแดงฉาน

     

                    ตายยากเหลือเกินนะ!” ร่างสูงเอ่ยเรียบๆก่อนจะกระชากกลุ่มผมนุ่มอย่างแรงจนหน้าเชิดขึ้น สายตาที่เย้ยหยันจ้องลึกเข้าไปในดวงตาสีน้ำตาลเข้ม

     

                    แต่อีกเดี๋ยวก็คงไปเกิดใหม่ล่ะ!” รอยยิ้มเย็นปรากฏขึ้นบนใบหน้าหล่อพร้อมกับดาบยาวที่ค่อยๆกดปลายเข้าไปที่หน้าอกซ้ายของอีกฝ่ายอย่างใจเย็น ความเจ็บปวดแล่นปรี๊ดขึ้นมาแต่ก็ทำได้แค่กัดฟันเอาไว้

     

                    ตูม!!!องล้มลงไปนอนอีกครั้งเมื่อ

                    เสียงระเบิดดังลั่นเรียกความสนใจจากร่างสูง เขารีบผละออกจากจุนมยอนทันทีเพื่อหลบบางอย่างที่พุ่งตรงมาอย่างรวดเร็วชนิดเฉียดปลายจมูกไปไม่กี่เซน

     

                    กระสุนเงิน...

     

                    เอ้า! จะหลบทำไมวะ หมดสนุกเลย!”

                    เสียงติดเล่นนิดๆดังขึ้นพร้อมกับร่างเล็กในชุดคลุมสีดำที่เดินตรงมาหาจุนมยอน ในมือถือปืนสีดำสนิท นัยน์สีแดงฉานจับจ้องใบหน้าหล่อเหลาอย่างไม่เกรงกลัว

     

                    คยอง... ซู!”

                    จุนมยอนพึมพำออกมาอย่างไม่เชื่อสายตา คนถูกเรียกก้มหน้ามองยิ้มน้อยๆก่อนจะลงไปช่วยพยุงขึ้นมาจากพื้น

     

                    หมดสภาพเลยนะ!” คนตัวเล็กพูดนิ่งๆ สายตาเบนไปทางอี้ฟานที่ยืนอยู่ไกลๆ

     

                    นายมาที่นี่ได้ยังไง มันอันตรายนะ!”

     

                    หึ...!” ไม่มีคำตอบมีเพียงเสียงหัวเราะในลำคอเท่านั้น

     

                    แปลก... คือคำแรกที่ผุดขึ้นมาในหัวของจุนมยอนเวลานี้ คนตัวเล็กตรงหน้าเปลี่ยนไปจากเดิมมาก เสื้อผ้าที่เคยมีแค่สีขาวบัดนี้กลายเป็นสีดำ ผมที่เคยเป็นสีดำสนิทตอนนี้กับมีประกายแดง แววตาที่เคยไร้เดียงสาเวลานี้ช่างดูน่ากลัว และที่สำคัญคือนัยน์ตาสีแดงฉานนั่น

     

                    นายเป็นใคร!”

                    เสียงราบเรียบดังมาจากร่างสูงที่ยืนอยู่ไกลๆ คนตัวเล็กแสยะยิ้มน้อยๆก่อนจะเดินเข้าไปใกล้เรื่อยๆอย่างไม่มีความกลัวเลยสักนิดจนจุนมยอนต้องรีบคว้าตัวเอาไว้เพราะกลัวคนน้องจะเป็นอันตราย คยองซูเหลือบมองจุนมยอนนิ่งๆเหมือนจะขัดใจ แต่ก็ยอมยืนอยู่เฉยๆแต่โดยดี

     

                    “ฉันชื่อคยองซู หรือจะเรียกว่าดีโอก็ได้นะ เป็นคนที่จะมามอบความตายให้นายภายในเร็ววันนี้ล่ะ!” คนตัวเล็กพูดยิ้มๆ มันเป็นรอยยิ้มที่เหมือนจะเป็นมิตร แต่กลับแฝงไปด้วยความเจ้าเล่ห์

     

                    ความตายงั้นหรอ!” อี้ฟานขมวดคิ้วจนเป็นปม รู้สึกคุ้นๆยังไงชอบกล

     

                    คุ้นๆมั้ยล่ะ หึหึหึ!”

     

    Loading...
     

     

    ..........................................................
    เรื่องนี้รูปก็หายอีกแล้ว มันเกิดไรขึ้น O[]O
    ดองไว้นานอีกแล้ว ขอโทษจริงๆนะครับ
    แต่ไม่ทิ้งนะครับทั้งสามเรื่อง ฝากเม้นเป็นกำลังใจด้วยนะ
    เพราะแนวนี้มันเขียนยากมากอ่ะ ต้องการกำลังใจอย่างมากเลย



    Heaven & Hell
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    นิยายแฟร์ 2024

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×