ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Fic Exo] Half-breed

    ลำดับตอนที่ #1 : Intro

    • อัปเดตล่าสุด 19 ก.ค. 59


     

     

                 ผมเดินเหลียวซ้ายแลขวาอย่างหวาดระแวงในซอยเปลี่ยว ด้วยกลัวว่าจะมีแขกไม่ได้รับเชิญโผล่มาให้ช็อคเล่น ยิ่งเป็นเวลาดึกๆประกอบกับอากาศเย็นยะเยือกของฤดูหนาวและเสาไฟข้างทางที่ติดๆดับๆ มันยิ่งทำให้บรรยากาศโดยรอบน่าขนลุกเข้าไปใหญ่ ผมรีบเร่งฝีเท้าขึ้นเรื่อยๆ มือทั้งสองข้างที่ถือถุงของกินมากมายที่กะซื้อมาตุนไว้เริ่มมีเหงื่อซึมออกมาด้วยความตื่นเต้นทั้งที่อากาศออกจะหนาว

                ตึกๆ ตึกๆ

                ผมสะดุ้งโหยงเมื่อจู่ๆเสียงฝีเท้าของใครบางคนก็ซ้อนทับกับเสียงรองเท้าของผม ตอนนี้ในหัวมันว่างเปล่าไปหมด ความกลัวเริ่มกัดกินจิตใจที่ละนิดๆ ก่อนจะตัดสินใจใส่เกียร์หมาวิ่งแบบไม่คิดชีวิต

                บรู๊ว!!!!

                ไอ้หมาบ้าที่ไหนมาหอนตอนนี้ฟะ เดี๋ยวพ่อจับทำลูกชิ้นซะเลยเน้>0<!!!

                โอ๊ย! โคตรเหนื่อยเลย ผมหันหลังพิงเสาไฟ หอบหายใจจนตัวโยนด้วยความเหนื่อย พลางมองไปที่ประตูบ้านของตัวเองที่อยู่ริบๆ ก่อนจะค่อยๆออกเดินอีกครั้ง

                จา~ รีบ~ ปาย~ หนาย!!!” ผมก้าวได้เพียงไม่กี่ก้าวมือของใครบางคนก็คว้าหมับที่ไหล่ของผมพร้อมกับเสียงยานๆที่น่าขนลุก ผมลองเหล่มองด้วยหางตาก่อนจะเห็นตาโตๆใบหน้าขาวๆกับลิ้นที่แลบออกมาจากปาก เท่านั้นแหละ....

                ว๊ากกกกกก!!!!!!!!!!” แหกปากลั่นซอย ก่อนจะยกขายันโครมร่างที่ไม่รู้คนหรือผีเต็มแรงด้วยความลืมตัว แล้วหลับหูหลับตาปาข้าวของที่อยู่ในมือไม่ยั้ง หันหลังวิ่งโวยวายออกมาเหมือนคนสติแตก

                ปัง!!!

                ผมกระแทกประตูบ้านเข้าไปก่อนจะปิดลงอย่างแรง แล้วทรุดฮวบลงกองกลับพื้นอย่างหมดแรง

                ประตูบ้านไม่ใช่ที่ฝึกวูซูนะ เบาๆมือหน่อยสิ!” เสียงตำหนิของใครบางคนดังขึ้นเหนือหัว ผมไม่คิดจะเงยหน้ามองเพราะรู้อยู่เต็มอกว่ามันเป็นเสียงของคนที่ผมรักที่สุด

                พี่ลู่หาน!!!” ผมถลาเข้าไปกอดพี่ชายสุดที่รักอย่างแนบแน่น ซุกหน้าลงกับไหล่เล็กๆของเขา

                อะไรของนายเนี่ย!” พี่ลู่หานถามน้ำเสียงติดจะรำคาญนิดๆ แต่ก็ไม่ได้ผลักผมออก

                ผี... ผีหลอก!!!” ผมได้ยินเสียงหัวเราะเบาๆในลำคอของคนตัวเล็ก ไม่รู้ว่าพี่ลู่หานทำหน้ายังไง รู้แค่ว่าเขากอดผมตอบแล้วลูบหัวผมเบาๆ

                ผีที่ไหนกล้ามาหลอกแพนด้าน้อยของพี่เนี่ยพี่ชายโยกตัวไปมาเป็นเชิงปลอบใจ แต่ผมไม่รู้สึกว่าพี่เค้าปลอบเลยแหะ-__-!

                “หน้าตามันเป็นยังไง ลองบอกพี่มาสิ ผมเงยหน้าขึ้นมองหน้าพี่ลู่หานที่เปี่ยมไปด้วยรอยยิ้ม

                ตาโตๆ หน้าขาวๆ แลบลิ้นด้วยแล้วถ้าผมจำไม่ผิดขอบตามันดำๆ เหมือนกรีดอายไลเนอร์เลยอ่ะ และทันทีที่ผมพูดจบ พี่ลู่หานก็อ้าปากขำก๊ากอย่างไม่เกรงใจผมที่ยืนหน้าบูดอยู่ตรงหน้า

                แหม่! หัวเราะซะลั่นบ้านไม่คิดว่าคนอื่นจะอายเลยรึไง นี่ถ้าไม่ติดว่าเป็นพี่ชายสุดที่รักนะ ป่านนี้โดนฟรีคลิกออกนอกบ้านไปนานแล้ว-*-

                “ผีกรีดอายไลเนอร์... เกิดมาเพิ่งเคยได้ยิน!” ก็ยังคงอ้าปากขำต่อไป

                “ขำอะไรหนักหนาเล่า! ผมพูดเรื่องจริงนะผมทำแก้มป่อง จะงอนแล้วนะ-3-

                “โอ้ๆ อย่างอนนะ แค่ล้อเล่นนิดเดียวเอง พี่ลู่หานกอดและลูบหัวผมเบาๆเหมือนอย่างเคย ผมซุกหน้าลงกับไหล่เล็ก หลับตาเพื่อรับสัมผัสที่อบอุ่นจากพี่ชายต่างสายเลือดคนนี้

                ผมลืมบอกไปว่าผมกับพี่ลู่หานไม่ได้เป็นพี่น้องกันจริงๆ ผมเป็นแค่เด็กที่ป๋ากับม้าของพี่ลู่หานเก็บมาเลี้ยงตอนไปเที่ยวเฉิงตู ม้าบอกว่าตอนเจอผมยังเป็นแค่ทารกตัวแดงๆนอนอยู่ในตะกร้าที่ใครไม่รู้เอามาวางไว้หน้าประตูบ้าน ม้าเลยต้องคอยเลี้ยงดูผมจนกว่าจะหาพ่อแม่จริงๆเจอ แต่ก็ไม่มีวี่แววประกอบกับที่ป๋ากับม้าแล้วก็พี่ลู่หานผูกพันกับผมมากขึ้น ผมเลยกลายเป็นลูกคนที่สองอย่างเต็มตัว

                แต่เมื่อสองปีก่อนป๋ากับม้าก็เกิดประสบอุบัติเหตุเสียชีวิต โดยที่ผมเจ็บสาหัตเรียกได้ว่าเกือบไม่รอดเหมือนกัน ส่วนพี่ลู่หานไม่เป็นอะไรเลยเพราะโชคดีวันนั้นอยู่บ้าน ทำให้ตอนนี้เหลือผมกับพี่ลู่หานอยู่กันแค่สองคน 

                ถึงจะน่าเศร้าแต่ก็มีความสุข... รักพี่ชายคนนี้ที่สุดเลย!!!

     

                ปัง!!!

                ขณะที่ผมกำลังเพ้อฝัน เสียงกระแทกประตูก็ดังขึ้นมาอีกระลอก ผมสะดุ้งเล็กน้อยในอ้อมแขนของพี่ลู่หาน ก่อนจะเงยหน้ามองบุคคลที่ยืนบอกบุญไม่รับอยู่หน้าประตู ในมือเต็มไปด้วยข้าวของ และถ้าผมจำไม่ผิดมันคือสิ่งที่ผมใช้เป็นอาวุธไล่ผีที่เจอก่อนหน้านี้นี่หว่า-__-

                “อ้าว! แบคฮยอน พี่ลู่หานทักอย่างแปลกใจที่แบคฮยอนเพื่อนสนิทของผมดันโผล่มาดึกๆดื่นๆ มันหันไปยิ้มให้พี่ลู่หานน้อยๆ ก่อนจะตวัดสายตาอาฆาตมาให้ผมที่ยืนอยู่ข้างๆแทน

                อะไร!” ผมเกาหัวแกรกๆมองหน้ามันอย่างงงๆ

                ไม่ต้องมาอะรงอะไรเลย! แกทำอะไรกับฉันไว้จำได้รึป่าว!!!” มันเดินตึงตังมาหยุดอยู่ตรงหน้าผม

                 ว่าแต่! ผมไปทำอะไรมันตอนไหนวะ-__-?

                “ไม่ต้องมาทำหน้าใสซื่อเลยนะเว้ย!!!” มันยังไม่เลิกโวยวาย

                ฉันไปทำอะไรแกตอนไหน มั่วป่าว!”

                “ก็ก่อนหน้านี้ ไอ้ที่แกถีบฉันซี่โครงแทบปลิวเนี่ย อย่างบอกนะว่าลืมไปแล้ว มันจ้องหน้าผม

                ถีบหรอ! จำได้ว่าวันนี้ยังไม่ได้ถีบใครที่ไหนเลยนี่หว่า นอกจาก...O_O?

                “นี่แกอย่าบอกนะว่า... ผมชี้หน้ามัน... ตาโตๆ หน้าขาวๆ กรีดอายไลเนอร์ ชัดเลย-*-

                “เออ! ก็ไอ้ที่แกคิดว่าผีแล้วยันโครมฉันนั้นแหละ

                “งั้นก็สมควร ผมพูดทิ้งท้าย ก่อนเดินไปคว้ามือพี่ลู่หานที่ยืนเงียบๆฟังบทสนทนาของพวกเราสองคนให้เข้าในตัวบ้าน

                เฮ้ย! นี่แกไม่คิดจะขอโทษเลยรึไง มันเดินตามมาโวยวาย

                แล้วไอ้ที่แกแกล้งหลอกผีฉันล่ะ ไม่เตะแกคอหักตายก็บุญเท่าไรแล้ว มันเหมือนจะเถียงกลับแต่ผมชี้หน้า มันเลยยอมหุบปาก

                เอ้า! ของๆแก มันยกถุงในมือยื่นให้ผม แต่กลับเป็นพี่ลู่หานแทนที่เป็นคนรับถุงทั้งหมด

                รู้นะว่านายมาที่นี่ทำไม พี่ลู่หานยิ้มให้แบคฮยอน ก่อนจะยกถุงในมือขึ้นมา มันยิ้มตอบก่อนจะเดินควงแขนพี่ชายตัวเล็กของผมหายเข้าไปในครัว

                คิดว่าบ้านฉันเป็นเซเว่นรึไง ถึงจะได้หิวเมื่อไรก็แวะมา-*-

     

    ………………………………………….

     

                หลังจากที่เขมือบกันจนพุงกางเป็นที่เรียบร้อย ผมกับแบคฮยอนก็ช่วยกันเก็บโต๊ะอาหาร เอาจานไปไว้ในอ่างก่อนจะลงมือช่วยกันล้างอย่างรวดเร็ว ขณะที่พี่ลู่หานขอตัวไปอาบน้ำ พวกเราก็มานั่งแมะที่โซฟาหน้าทีวีล้วงขนมกินอย่างเอร็ดอร่อย

                เฮ้ยเทา! ฉันจะดูละคร แบคฮยอนหันมาโวยวายทั้งที่ขนมยังเต็มปาก เมื่อผมเปลี่ยนช่องทีวีไปเป็นสารคดีหมีแพนด้า ผมแลบลิ้นกวนประสาทใส่มัน

                เอามานี้เลย มันคว้ารีโมทจากมือของผมไปกดเปลี่ยนช่อง ภาพหนีแพนด้ากำลังนั่งแห้นต้นไผ่กลายเป็นฉากละครน้ำเน่าของมันในพริบตา

                เฮ้ย! อะไรวะมันทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้ใส่ผม ก่อนจะนั่งทับรีโมทเพื่อไม่ให้ผมแย่งมันได้

                ไอ้นี้มันจริงๆเลย ชอบทำเหมือนเป็นบ้านตัวเองอยู่เรื่อย-*-

                ผมขี้เกียจจะทะเลาะกับมันเลยจำใจยอม แล้วนั่งหาวดูละครน้ำเน่าของเพื่อนตัวเล็ก แล้วมันคงเห็นผมไม่ทำอะไรเลยได้ใจ เหยียดขามาพาดตักของผมแล้วเอนตัวนอนอย่างสบายอารมณ์

     

    .......................

    ..........

    ....

     

                เวลาผ่านไปนานเท่าไรไม่รู้ รู้แค่ว่าตอนนี้ละครน้ำเน่าที่นั่งถ่างตาดูมาตั้งนานได้จบลงซะที ขณะนั่งฟังเพลงตอนจบละคร ผมหันไปหาแบคฮยอนกะจะไล่มันกลับบ้านกลับช่อง แต่ปรากฏว่ามันหลับไปตั้งแต่เมื่อไรก็ไม่รู้ แถมกอดตุ๊กตาหมีแพนด้าของรักของหวงของผมซะแน่นอีกต่างหาก

                อ้าว! หลับซะแล้วหรอขณะที่ผมกำลังแงะอ้อมแขนของแบคฮยอนเพื่อเอาแพนด้าของผมคืน เสียงพี่ลู่หานก็ดังขึ้นมาจากทางบันได ผมหันไปมองก็เห็นพี่ลู่หานกำลังเดินยิ้มแป้นมาทางผม

                พี่ยังไม่นอนอีกหรอ

                เรานั้นแหละเมื่อไรจะนอน!” พี่ลู่หานขยี้หัวผมจนยุ่งเหยิงไปหมด แล้วกอดคอผมจากด้านหลัง มองจอทีวีที่เป็นนักประกาศข่าวหนุ่มกำลังอ่านข่าวอย่างตื่นเต้น พี่ลู่หานชอบดูข่าวหลังละครจบมาก โดยเฉพาะข่าวการตายอย่างปริศนาเนี่ยดูเหมือนจะชอบเป็นพิเศษ ไม่รู้เพราะอะไร...

                ตายอีกแล้วหรอ เดือนนี้กี่ศพเข้าไปแล้วเนี่ย ผมนั่งมองภาพข่าวอย่างไม่ค่อยใส่ใจอะไร ต่างจากอีกคนที่จ้องเขม็งตาแทบทะลักออกนอกเบ้า แถมบอกให้ผมเร่งเสียงให้ดังๆอีกต่างหาก

                แต่จะเร่งเสียงยังไงล่ะ! ในเมื่อไอ้เพื่อนผู้น่ารักของผมที่หลับไม่สนใจโลก มันนอนทับรีโมทอยู่นี่หว่า-__-

                “เร็วๆสิเดี๋ยวจบก่อน พี่ลู่หานเร่ง ผมจึงตัดสินใจถีบแบคฮยอนลงไปนอนกองบนพื้นข้างล่าง แล้วคว้ารีโมทขึ้นมาเร่งเสียง

                “เมื่อเวลาประมาณ 20.35 น. ได้มีคนพบเด็กหนุ่มวัยยี่สิบสองปี สัญชาติจีนคนหนึ่งนอนเสียชีวิตอยู่ที่บริเวณหลังโรงงานร้างทางตอนใต้ของปักกิ่ง สภาพศพไม่พบว่ามีบาดแผลหรือร่องรอยการต่อสู้ใดๆ ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงสันนิฐานว่าน่าจะเกิดอาการหัวใจวายเฉียบพลัน แต่ด้วยอาการที่ผู้ตายตาเหลือกค้างและมือที่เกร็งแข็งซึ่งเหมือนกำลังหวาดกลัวอะไรบางอย่าง ทำให้ยังหาข้อสรุปที่แน่ชัดไม่ได้ นอกจากรอผลชันสูตรทางแพทย์ต่อไป จึงถือว่าครั้งนี้เป็นการตายอย่างปริศนาอีกเช่นเคย และข่าวต่อไป.... ยังไม่ทันที่นักข่าวจะพูดจบ พี่ลู่หานก็คว้ารีโมทในมือผมไปกดปิดทีวีอย่างรวดเร็ว ก่อนจะซุกหน้าลงกับไหล่ของผม

                ใกล้เข้ามาอีกก้าว... พี่ลู่หานพึมพำเสียงอู้อี้ แต่ผมก็พอจะจับใจความได้

                พี่ลู่หาน ผมยกมือขึ้นเตะเบาๆลงบนเส้นผมสีน้ำตาลทองนุ่มลื่นของพี่ชายสุดรัก

                หมายความว่าไงกัน... อะไรใกล้เข้ามา?

                “โอ๊ย! ใครถีบลงมาฟะเนี่ย ผมกำลังจะอ้าปากถามพี่ลู่หาน เสียงงัวเงียติดจะไม่พอใจหน่อยๆของแบคฮยอนก็ดังขัดขึ้นมา ผมหันไปก็เห็นมันนั่งเกาหัวแกรกๆมองมาทางผมอย่างไม่พอใจ

                แต่จะว่าไป ผมถีบมันลงไปตั้งนานแล้วนะ มันดันมารู้สึกตัวเอาตอนนี้-*-

                ไปนอนดีกว่า!” ผมแถไปเรื่อย ก่อนจะวิ่งหนีขึ้นบันไดไปด้วยความเร็วสูง เสียงตะโกนของแบคฮยอนดังไล่หลังมาพร้อมกับเจ้าร่างเล็กที่วิ่งตามผมมาติดๆ

                ตัวก็เตี้ย ขาก็สั้น ยังจะพยายามอีกนะแก-__-

     

    ..............................................................

     

                เสียงโวยวายเงียบลงไปนานเท่าไรแล้วไม่รู้ เหลือทิ้งไว้เพียงความเงียบงันกับร่างเล็กที่ยังคงยืนนิ่งค้างอยู่ที่เดิม ใบหน้าขาวเนียนปราศจากรอยยิ้มอ่อนโยนที่เคยมอบให้น้องชายเพียงหนึ่งเดียว ในหัวที่ว่างเปล่ามีภาพของใครบางคนลอยวนไปเวียนมา ภาพเหตุการณ์ที่ตัวเองพยายามจะปิดผนึกไว้ในก้นบึงของหัวใจกลับถูกตีฟุ้งขึ้นมาอีกครั้ง

     

                 

                จะเอาอะไรก็เชิญ ขอแค่เด็กคนนั้นได้มีชีวิต... ฉันให้ได้ทุกอย่าง!’

               

     

                อีกไม่นานฉันจะมารับ ระหว่างนี้ก็มีความสุขกับน้องชายซะให้เต็มที่

               

                 

                “มันจะไวเกินไปรึป่าว เด็กหนุ่มพึมพำเบาๆกับตัวเอง พลางนึกถึงช่วงเวลาที่ได้ใช้ชีวิตแต่ละวันกับสิ่งสำคัญที่เหลืออยู่ในชีวิตเพียงชิ้นเดียว

                เด็กหนุ่มก้าวขาขึ้นบันไดตรงไปยังประตูห้องที่มีป้ายรูปหมีแพนด้าสลักชื่อเจ้าเจ้าของห้องแขวนอยู่ แล้วค่อยๆเปิดเข้าไปอย่างเงียบเฉียบเพื่อไม่ให้คนที่อยู่ในห้องตื่น

                จื่อเทา ร่างเล็กนั่งยองๆลงข้างเตียง ก่อนจะเอื้อมมือไปลูบเส้นผมสีดำนุ่มลื่นของคนที่นอนหลับอยู่บนเตียงอย่างแผ่วเบา แล้วก้มลงจูบหน้าผากน้องชายตัวโตของตัวเองด้วยความอ่อนโยน

                พี่รักนายนะ เจ้าแพนด้าน้อยของพี่เด็กหนุ่มเอ่ย ก่อนจะเดินออกจากห้องไป

                หลังจากเสียงประตูปิดลง ร่างที่ก่อนหน้านี้แกล้งหลับอยู่บนเตียงก็ค่อยๆลืมตาขึ้น ที่จริงตั้งแต่จบสงครามกับแบคฮยอนเค้ายังไม่ได้หลับ แค่นอนหลับตาเฉยๆ จนกระทั้งลู่หานเข้ามา มันทำให้เค้าได้ยิน... ในสิ่งที่เค้าต้องการได้ยินมาตลอด!

                “ผมก็รักพี่ครับ

                จื่อเทายิ้มน้อยๆ ก่อนจะพลิกตัวไปกอดแบคฮยอนที่นอนอยู่ข้างๆ เนื่องจากเค้าโดนเพื่อนผู้น่ารักที่ชอบเห็นบ้านคนอื่นเป็นบ้านตัวเองยึดหมอนข้างไป เลยใช้ร่างเล็กๆของแบคฮยอนแทนหมอนข้างซะเลย

     

    ......................................

    เพิ่งเคยแต่งฟิคเป็นครั้งแรก

    ไม่รู้มันจะออกมาเป็นไง

    เม้นบอกกันหน่อยเด้อ^^

     

     

     

    Heaven & Hell
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×