คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #4 : STORY : SFลมเปลี่ยนทิศ [Laychen] [1/4]
SF : LAYCHEN
ลมเปลี่ยนทิศ
'พี่อี้ชิง...ผมไม่นึกเลยว่าพี่จะโง่ขนาดนี้!'
รอยยิ้มที่เคยมองว่าสดใสสวยงามและจริงใจบัดนี้กลับเชือดเชือนทำร้ายหัวใจแทบย่อยยับ....
'จงแด...'
น้ำเสียงนุ่มสั่นไหวเรียกชื่อคนตรงหน้าเสียงแผ่ว
'หึคิดว่าผมรักพี่มากงั้นเหรอ? จำใส่สมองไว้ว่าพี่ไม่มีค่ามากไปกว่าคนแก้เหงาหรอก!!'
รอยยิ้มมาดร้ายถูกส่งตรงเข้ากระแทกหัวใจเจ้าของลักยิ้มสวยที่บัดนี้ไม่สามารถกลั้นน้ำตาไว้ได้เลย
'ไม่จริง...จงแดรักพี่! ตลอดสามปีที่ผ่านมาระ...'
'เราเป็นอดีต!!'
'...!!!!'
'พอกันทีกับคนหน้าเบื่ออย่างพี่...ลาก่อน'
แผ่นหลังเล็กที่เดินห่างออกไปพร่าเลือนอยู่หลังม่านน้ำตา
ความรักที่คอยประคับประคองมา เปรียบเสมือนต้นไม้สูงใหญ่ที่สามารถล้มลงได้ เพียงแค่ลมเปลี่ยนทิศ...
2 ปีผ่านไป
ร่างสูงโปร่งของอี้ชิงยืนนิ่งอยู่ท่ามกลางแสงอาทิตย์อัสดงยามเย็น สายตาเหม่อมองออกไปไกลสุดขอบฟ้าอีกฟากของทะเลที่แปรเปลี่ยนเป็นสีเข้มตามแสงจากดวงตะวัน
เสียงคลื่นสาดกระทบฝั่งไม่ได้ทำลายความเงียบสงบภายในจิตใจของเขา
ทำไมกันนะ...ทั้งที่เวลาผ่านล่วงเลยมานายนับปี แต่เขาก็ไม่สามารถที่จะลืมรอยยิ้มของคนๆนั้นได้...
ไม่ว่าจะเป็นรอยยิ้มที่ทำให้เขามีความสุข
หรือจะเป็นรอยยิ้ม...
ที่ทำร้ายหัวใจเขาอย่างไม่ปราณี
"อี้ชิง ฉันหิวแล้วนะ ไปกินข้าวกันเถอะ"
เสียงนุ่มจากด้านหลังปลุกอี้ชิงให้ตื่นจากภวังค์ นัยน์ตาหม่นแสงกลับมาวูบไหวมีชีวิตชีวาอีกครั้ง อี้ชิงถอนหายใจเบาๆก่อนจะยกยิ้มกว้างปรากฏลักยิ้มสวย พร้อมกับหันกลับไปเผชิญหน้ากับ 'คนรัก'
ใช่...เขามีคนรักใหม่แล้ว...คนที่อยู่ข้างเขาตลอดมา และเขาควรจะลืมอดีตได้แล้ว
ลืมไปซะ
ว่าเขารักคิมจงแดมากมายขนาดไหน...
"นายสั่งมาเยอะแยะขนาดนี้จะกินหมดได้ไงกันลู่หาน" อี้ชิงถามอึ้งๆ ก่อนจะหัวเราะออกมาเบาๆ เมื่อเห็นใบหน้าที่เริ่มหงิกงอของคนตรงหน้า
"ก็ฉันหิวมากๆเลยนี่ คนที่ไม่เคยหิวอย่างนายไม่เข้าใจหรอก" ลู่หานบ่นงุบงิบพลางตักนู่นนี่เข้าปากไม่หยุด ทุกอิริยาบถอยู่ในสายตาของอี้ชิง
เขาคบกับลู่หานมาหนึ่งปีแล้ว และวันนี้ก็เป็นวันครบรอบ ทั้งคู่จึงตัดสินใจกันว่าจะมาเที่ยวทะเลช่วงวันหยุด
ลู่หานเป็นคนสดใสและนิสัยดีมาก ทั้งหน้าตาที่หวานเกินชายนั่นยิ่งทำให้เขาเป็นที่ดึงดูด ต่างกับอี้ชิงที่ถึงแม้จะหน้าตาดีและเป็นที่นิยม แต่เขาก็เป็นคนเรื่อยเฉื่อยๆ ออกจะดูนิ่งๆด้วยซ้ำ
ถึงแม้จะเป็นอย่างนั้นทั้งสองคนก็คอยประคับประคองกันมาตลอด
"โอเคๆ นายกินเถอะ ฉันไม่ได้ว่าอะไรสักหน่อย" อี้ชิงหัวเราะเบาๆ มือเรียวเอื้อมไปยีผมอีกคนอย่างเอ็นดู
"ผมยุ่งหมดแล้ว" ลู่หานปัดมืออีกคนออก เบะปากอย่างงอนๆ เรียกเสียงหัวเราะจากคนรักได้อย่างดี
แต่แค่เพียงเสี้ยววินาที รอยยิ้มที่ประดับอยู่บนใบหน้าก็เลือนหายไป
เสียงกระดิ่งดังขึ้นเรียกความสนใจจากคนในร้านเล็กน้อย ร่างบางสองร่างย่างกายเข้ามาภายในร้านใบหน้าที่ดูน่ารักก็ดึงความสนใจได้เยอะเหมือนกัน แต่สำหรับอี้ชิงมันไม่ใช่เพราะเหตุผลนั้นที่ทำให้เขาจดจ้องอยู่กับผู้มาใหม่
หนึ่งคนผู้ซึ่งไม่เคยพบเจอแต่อีกคนหนึ่ง ช่างคล้ายคลึงกับคนที่เขาคิดถึงอยู่เสมอ
และเพียงแค่ใบหน้านั้นเบือนมาทางเค้า รอยยิ้มกว้างบนริมฝีปากหยักก็ทำให้อี้ชิงมั่นใจได้ทันที
คิมจงแด!
เปล่า...อี้ชิงไม่ได้ลุกพรวดพราดแล้ววิ่งออกไปกระชากแขนอีกคนมาถามไถ่ พร่ำเพ้อ เขาเพียงแค่มองตามอย่างไม่ละสายตา สองร่างเล็กเดินประคับประคองกันสนิทแนบแน่นผ่านโต๊ะของเขาไป คิมจงแดไม่ได้เหลียวมองเขาเลยสักนิด นัยน์ตากลมสวยมองตรงไปข้างหน้าและยิ้มสดใสให้กับคนข้างกายเท่านั้น
นั่นมันทำให้อี้ชิงเจ็บปวดจนแทบขาดใจ
ทั้งที่ทำใจมานานเป็นปี
เจอกันไม่กี่นาที...นายทำให้พี่รู้สึกเจ็บปวดเหมือนพึ่งผ่านเหตุการณ์นั้นมา..
และตอนนี้นายกำลังมีความสุข...
มีความสุขโดยไม่มีคนน่าเบื่ออย่างพี่ข้างกาย...
"อี้ชิงอี้ชิง!"
"ห๊ะ...อะ อ่าว่าไง" อี้ชิงละสายตาจากโต๊ะที่อยู่ห่างกันไม่ไกลมามองใบหน้าหวานที่เริ่มจะหงุดหงิด
"นายกะจะนอกใจฉันใช่มั้ย!" ลู่หานกัดฟันพูดเสียงหนัก ถลึงตากลมโตใส่
"จะบ้ารึไง เปล่าสักหน่อย..." อี้ชิงชะงักไปเพียงเล็กน้อยก่อนจะตอบด้วยท่าทีร่าเริง ...ท่าทีที่เขาทำบ่อยๆ และลู่หานก็เชื่อหมดใจว่ามันคือท่าทีที่แสดงออกว่าไม่มีอะไร
ทั้งที่จริงๆมันมี...
และคำตอบที่เขาต้องการรู้มาตลอดมันอยู่ใกล้แค่เอื้อม แค่ถัดไปไม่กี่โต๊ะ แต่มันกลับช่างดูแสนไกล ไกลจนแค่มองยังรู้สึกสิ้นหวัง....
"ก็นายเอาแต่มองสองคนนั้นตั้งแต่เดินเข้าร้านมา นี่ฉันไม่ได้ตาบอดนะถึงจะมองไม่เห็นน่ะ"
"ไม่เอาน่าลู่หาน นายก็รู้ดีว่าฉันรักเดียวใจเดียว"
ใช่...ใจเดียวเสมอมา
"มันก็ไม่แน่" ลู่หานย่นจมูกใส่ ความจริงแล้วเขารู้ดีว่าคนอย่างอี้ชิงไม่มีทางนอกใจคนรักแน่ เขาเป็นคนดี...ดีเกินไปจนลู่หานเองก็ชักกลัวว่าอาจทำให้อี้ชิงเสียใจ
"จงแด นายอยากกินอะไรเพิ่มอีกนอกจากที่ฉันสั่งมั้ย" ใบหน้าเล็กยื่นเข้าใกล้อีกคนซึ่งนั่งเหม่ออยู่ตรงข้ามกัน
"ไม่เอาอะไรแล้วล่ะมินซอก" จงแดยิ้มหลุดจากภวังค์พร้อมกับส่งยิ้มร่าเริงให้อีกคน
"โอเค...ว่าแต่นายมัวเหม่ออะไรอยู่ได้เนี่ย" มินซอกมองใบหน้าหวานด้วยสีหน้าวิตกเล็กน้อย ที่เขาพาเพื่อนมาที่นี่เพื่ออยากจะให้มาผ่อนคลาย หลังจากที่จมอยู่กับความทุกข์มานาน...
นานจนแทบจะพังทลายชีวิตที่ควรจะดีกว่านี้ได้...
"อะ เอ่อ ฉันแค่ลองนึกดูว่าแสงของอาทิตย์ยามเย็นจะเป็นยังไง"
"..."
"ผู้คนจะมีใบหน้ายิ้มแย้มสดใสกันแค่ไหน"
"..."
"นายจะทำหน้ายังไง"
"..."
คำตอบของคิมจงแด ทำเอาคิมมินซอกนิ่งไป ใบหน้าหวานมองคนตรงหน้าที่ใบหน้าแต้มไปด้วยรอยยิ้ม แต่นัยน์ตาสวยที่สะท้อนกับแสงแดดยามเย็นกลับเหม่อลอยหม่นแสง
โต๊ะเงียบจนกระทั่งพนักงานนำอาการมาเสิร์ฟ มินซอกจึงเลือกที่จะหัวเราะร่าเริงแล้วตักนู่นตักนี่ใส่จานจงแดกว่าจะหยุดก็เมื่อจงแดร้องห้ามเสียงหลงเมื่อรู้สึกได้ว่าจานของเขากำลังจะล้นไปด้วยกับข้าว
บรรยากาศบนโต๊ะกลับมาอบอวลด้วยความสุขอีกครั้ง โดยไม่รู้เลย...ว่ามีสายตาคู่หนึ่งที่คอยจ้องมองรอยยิ้มของพวกเขาอยู่...
จ้องมองอย่างอิจฉา
"จงแด นั่งรอฉันอยู่ตรงนี้อย่าไปไหนนะ ฉันจะไปซื้อน้ำให้แปปเดียว"
มินซอกบอกในขณะที่จงแดทิ้งตัวลงนั่งบนเก้าอี้ไม้เล็กๆบนหาดทรายซึ่งอยู่ไม่ไกลจากร้านอาหารนัก หลังจากที่พวกเขาดินเนอร์กันเรียบร้อยแล้ว
"ฉันจะไปไหนได้ล่ะ" จงแดพูดติดตลก ก่อนจะต้องลูบหัวตัวเองเพราะถูกเขกจากร่างเล็กด้วยความหมั่นไส้
"โอเค ระวังตัวด้วยนะ มันมืดแล้ว"
จงแดไม่ตอบเพียงแค่พยักหน้าสองสามที มินซอกเดินห่างออกไป แต่ก็ยังไม่วายเหลียวกลับมามองด้วยความเป็นห่วง
ความเงียบเข้าครอบคลุมพื้นที่เล็กๆของจงแดทันที แขนเล็กสองข้างถูกยกขึ้นมาโอบกอดตัวเองไว้คล้ายจะป้องกันความเย็นจากลมทะเลยามค่ำคืน
เสียงฝีเท้าเบาๆก้าวเข้ามาใกล้จนจงแดรู้สึกได้ แต่ก็เลือกที่จะไม่หันหน้ากลับไปมองด้านหลัง
"ซื้อน้ำเร็วจังมินซอก แต่ก็ดีเหมือนกัน ฉันง่วงแล้วล่ะ"
"..."
ไม่มีคำตอบกลับมา มีเพียงความเงียบเท่านั้น
"มินซอก? เงียบทำไมเล่า"
"...คิมจงแด"
"...!"
เสียงนุ่มที่ยังคงตราตรึงในหัวใจไม่เคยจางหาย
ยังคงโหยหาแม้ไม่มีความหวังอีก
ตอนนี้...มันกำลังกระซิบชื่อของคิมจงแดออกมาด้วยน้ำเสียงคล้ายเจ็บปวด
“พี่อี้ชิง...” จงแดพึมพำออกมาเบาๆ ยังคงพยายามปลอบตัวเองว่ามันเป็นแค่จิตนาการที่ตนเองชอบฝันถึงอยู่บ่อยๆ
“สบายดีรึเปล่าคิมจงแด”
อี้ชิงมองแผ่นหลังเล็กที่สั่นไหวอยู่ตรงหน้าและได้แต่ยืนกำหมัดแน่น ทั้งที่ใจจริงแล้วอยากจะวิ่งเข้าไปดึงตัวมาถามให้รู้ถึงเหตุผลที่ต้องทิ้งตัวเองไปให้แน่ใจสักที
“ผม...ผมสบายดีอยู่แล้ว!”
นัยน์ตาคมแข็งกร้าวขึ้นมาทันทีที่ได้รับคำตอบจากปากคนที่ตัวเองรักและโหยหามาตลอด นั่นสินะ นายคงสบายดีจนลืมคนน่าเบื่ออย่างพี่ไปแล้ว!
“หึ มาเที่ยวกับแฟนเหรอ”
น้ำเสียงนุ่มนวลเลือนหายไปจนจงแดแปลกใจและวินาทีต่อมาร่างเล็กก็ถึงกับต้องสะอึกเมื่อเจอกับคำพูดเสียดสีจากอี้ชิงที่ตัวเองไม่เคยได้ยินมาก่อน
“แฟนใหม่นายคงจะหลงนายน่าดูสิท่า ลีลาบนเตียงนายมันเร้าใจจนฉันยังแอบคิดถึงมันบ่อยๆด้วยล่ะนะ”
“...!!!”
“แหม จะว่าไปก็เสียดายนายอยู่นิดหน่อยล่ะนะ ว่าไง อยากย้อนความหลังกันสักครั้งมั้ย”
“พี่อี้ชิง!!”
จงแดลุกพรวดขึ้นอย่างสุดจะทน ไม่อยากจะเชื่อหูตัวเองว่าคำพูดพวกนั้นถูกเอ่ยออกมาจากชายที่เขารัก สรรพนามที่เมื่อก่อนอี้ชิงเคยใช้แทนตัวเองว่า ‘พี่’ ก็ถูกแทนที่ด้วย ‘ฉัน’ จนจงแดใจหาย
ผู้ชายที่สุภาพและแสนดีเสมอมากลับกลายเป็นปีศาจร้ายเพียงเพราะโดนย่ำยีหัวใจ แต่ในใจลึกๆแล้วเขาไม่ได้ต้องการจะพูดคำพวกนั้นสักนิด...แต่กลับไม่สามารถหยุดตัวเองได้เพราะความโกรธและน้อยใจ...
“โกรธเหรอ? ฉันแค่เข้ามาทักทายตามประสา ‘คนเก่า’ ที่นายเบื่อก็เท่านั้น ไม่คิดจะหันหน้ามามองกันหน่อยรึไง”
พี่อยากเห็นใบหน้าของนายใกล้ๆอีกครั้ง...
พี่อยากเห็นรอยยิ้มของนายที่ส่งมาให้พี่อีกครั้ง...
“ไม่! แค่นี้ผมก็รู้สึกขยะแขยงจะแย่แล้ว!” จงแดกลั้นใจตอบออกไปด้วยน้ำเสียงเหยียดหยาม
ผมเอง...ก็อยากจะหันกลับไปมองหน้าพี่ แต่มันคงเป็นไปไม่ได้...
เพราะไม่ว่ายังไงผมก็ไม่สามารถที่จะได้เห็นมันอีกแล้วตลอดชีวิต
“ขยะแขยงเหรอ!”
อี้ชิงกัดฟันกรอด ด้วยความโกรธทำให้เขาพุ่งตัวเข้าประชิดอีกคนอย่างรวดเร็วก่อนจะกระชากแขนเล็กอย่างแรงจนจงแดเซไปซบอกกว้างพร้อมกับที่ท่อนแขนแกร่งโอบรัดไว้แน่น
“จะ จะทำอะไร! ปล่อยผมนะ!” จงแดรีบผลักอีกคนออกอย่างยากลำบากแต่ก็ไม่อาจสู้แรงอี้ชิงได้เลย ความมืดมิดทำให้เขาเริ่มรู้สึกกลัว เขาไม่สามารถมองเห็นอะไรได้และนั่นก็เป็นปัญหาใหญ่ที่จะต่อกรกับใครต่อใคร โดยเฉพาะจางอี้ชิง ในใจได้แต่ภาวนาให้มินซอกกลับมาโดยเร็ว
“มองหน้าฉันสิคิมจงแด!! คนที่นายเฝ้าทำร้ายหัวใจซ้ำแล้วซ้ำเล่า!!”
อี้ชิงตวาดลั่น จงแดสะดุ้งและได้แต่ก้มหน้าไว้ เขาไม่ต้องการให้ผู้ชายคนนี้รู้ ว่าเขาไม่สามารถมองเห็นได้
เขาไม่ต้องการให้รู้...
ถึงเหตุผลที่เขาต้องเป็นคนบอกลาและเดินจากมา...
“ไม่! พี่ปล่อยผมนะ อย่ามายุ่งกับผม”
“ฉันไม่ปล่อย! นายจะต้องชดใช้กับสิ่งที่นายเคยทำไว้กับฉัน!!”
“...พี่อี้ชิง” จงแดอ่อนเสียงลง พยายามกลั้นหยาดน้ำตาที่เอ่อคลออยู่อย่างยากลำบาก
“ไม่ต้องมาทำสำออย ฉันไม่มีทางหลงไปกับมารยาของนายอีกแล้ว!”
อี้ชิงรวบข้อมือเล็กไว้ในมือพร้อมกับออกแรงกระชากให้อีกคนเดินตาม โดยไม่ทันสังเกตถึงร่างบางที่ยืนนิ่งมองภาพตรงหน้าห่างออกไป ลู่หานขมวดคิ้วแน่นด้วยความไม่เข้าใจ ว่าคนรักของตนกำลังพยายามจะทำอะไรอยู่ ท่าทีเย็นชาที่เขาไม่เคยได้สัมผัส ทำให้ในใจลู่หานสั่นไหว
‘ผู้ชายคนนั้นเป็นใคร มีอิทธิพลต่อนายมากแค่ไหนกันอี้ชิง’
“นี่คุณกำลังจะทำอะไร!” เสียงเล็กตะวาดลั่น แก้มน้ำในมือถูกปล่อยให้ล่วงลงกระทบพื้นทรายโดยไม่ได้ใส่ใจมันอีกต่อไป
ทั้งอี้ชิงและจงแดหยุดชะงัก อี้ชิงมองใบหน้าหวานของคนตัวเล็กที่ยืนตัวแข็งทื่อ ข้อมือเล็กพยายามบิดตัวให้หลุดจากพันธนาการจากเขา อี้ชิงสบถเบาๆก่อนจะหันขวับไปเผชิญหน้ากับเจ้าของเสียงเล็ก
“คุณคงจะเป็น...แฟนใหม่ของคิมจงแด” อี้ชิงเอ่ยถามเสียงหนัก มองใบหน้าหวานของคนตรงหน้านิ่ง มินซอกเลือกที่จะมองเลยไปที่เพื่อนสนิทของตน ที่ยืนหน้าซีดอยู่ด้านหลัง มินซอกรู้ดีว่าคนที่เขากำลังเผชิญหน้าอยู่คือใคร จางอี้ชิงรักเดียวในใจของคิมจงแด และเมื่อเห็นว่าจงแดกำลังเม้มริมฝีปากหยักของตัวเองแน่น ก็ทำให้มินซอกพอจะตัดสินใจได้ว่าควรจะตอบว่ายังไง
“ใช่ แล้วคุณล่ะเป็นใคร เท่าที่ผมเห็น คุณกำลังพยายามจะฉุดแฟนของผมอยู่” มินซอกเน้นคำว่าของผมอย่างชัดเจน ความไม่พอใจฉายชัดออกมาทางนัยน์ตาคมของอี้ชิงทันที
“ผมเป็นเพื่อนเก่าแค่อยากคุยอะไรสัพเพเหระ” อี้ชิงเน้นคำว่าเพื่อน โดยไม่ลืมเบือนหน้ากลับมามองคนด้านหลัง นัยน์ตาคมกลับต้องวูบไหวอย่างเจ็บปวดอีกครั้ง เมื่อพบว่าคิมจงแดไม่ได้มองมาที่เขาเลยแม้แต่วินาทีเดียว นัยน์ตาสวยเพียงแค่มองตรงไป ตรงไปยังร่างบางที่ยืนเผชิญหน้ากับเขาอยู่
อย่าทำเหมือนพี่ไม่มีตัวตนได้มั้ยจงแด
“ตะ แต่ฉันอยากกลับแล้วมินซอก!” จงแดโพล่งขึ้นมาทั้งที่ยังยืนนิ่งอยู่ที่เดิม เขาไม่กล้าขยับไปไหนด้วยความกลัวว่าจะสะดุดล้ม หรือชนอะไรเข้า มันไม่ง่ายเลยที่จะเคลื่อนที่ได้ด้วยตัวคนเดียว
“ผมว่าไว้คุณกับจงแดค่อยคุยกันวันหลังดีกว่านะครับ” มินซอกส่งสายตากดดันพร้อมกับรอยยิ้มกว้าง ร่างบางเคลื่อนเข้าไปใกล้ก่อนจะดึงตัวจงแดมาไว้ในอ้อมแขน
อี้ชิงได้แต่ยืนกำหมัดแน่น หากปล่อยคิมจงแดไป ก็เท่ากับว่าทั้งชีวิตเขาไม่รู้ว่าอีกเมื่อไหร่ถึงจะได้พบเจอกันอีก
ไม่ พี่ไม่มีทางปล่อยนายไปเป็นครั้งที่สองแน่!
TBC.
ไรท์ไม่ชอบเรื่องดราม่า จริงๆนะเคอะ -3-
ความคิดเห็น