ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Mafia thelove

    ลำดับตอนที่ #2 : Mafai :1

    • อัปเดตล่าสุด 28 ม.ค. 57


                                           

                                                       (  Mafai 1: School )

    มาเฟียที่รัก

     

                                             

     

     

    "เฮ้! ชานยอล" เสียงเรียงที่ดังมาขณะที่เค้ากำลังเดินเข้าไปภายในโรงเรียนชายล้วนที่เค้าเรียนอยู่  จะเป็นใครไปไม่ได้ คริส เพื่อนตัวสูงที่เค้าแทบจะสนิทกันสุดๆ ทั้งสองแทบจะเป็นฝาแฝดกันเลยด้วยซ้ำ 

    "มาสายหรอว่ะ" เพื่อนตัวสูงเอ่ยถามก่อนจะยัดขนมปังเข้าปากนั่นบ่งบอกถึงนี่คืออาหารเช้ามัน

    "เออ มึงเองก็..."

    "มาสาย" เพื่อนตัวสูงตัดประโยค ก่อนที่ทั้งคู่จะหันมองหน้ากันแล้ว "ฮ่าๆๆ " ขำกันกันแหลกลาน

    "ไอบ้า "ชาลยอลเปิดสนทนากันความเงียบขณะกำลังขึ้นบันไดไปยังห้อง

     "What ..มีไร "?

    "..อืมม ในเมื่อตอนนี้มันสายแล้ว มาแข่งกันขึ้นห้องไหม"?

    "มันสายแล้วแข่งเพื่อ?" - -"

    "ก็....." ไม่ทันจะต่อความชาลยอลก็วิ่งขึ้นไปอย่างไม่รอเพื่อนตัวสูงที่มัวแต่สงสัย จะรอทำไมหล่ะ ?

    ปกติ ก็ทำแบบนี้ประจำ

    "เห้ยย!!" คริสตวาดไล่ตามคนที่กำลังวิ่งขึ้นไปอย่างไม่รอตน ไอบ้านี่ "ชิ๊!"คนตัวสูงขัดใจเล็กน้อยแต่ก็อดไม่ได้ที่จะวิ่งตามชาลยอลขึ้นไปยังห้อง 

     

    "แฮ่กๆ...นายแพ้" ร่างสูงผงาดตัวทั้งที่ยังหอบอยู่ก่อนที่คริสจะกระตุกยิ้ม แล้วเปิดประตูเข้าไปภายในห้อง

    หากแต่ดีหน่อยที่พวกเค้าขึ้นมาทันก่อนคาบ 1 จะเรื่มไม่งั้นมีหวังคงโดนทำโทษหน้าชั้นเรียนไปแล้วหล่ะ

    "โอเค ถือว่าเป็นความดีความชอบของนายแล้วกันที่วันนี้ไม่โดนทำโทษ"....

     

     

     

     

      "ครืด ครืดด~ " เสียงสั่นของเครื่องมือสื่อสารที่ทำไห้แบคฮยอนต้องตื่นอย่างงัวเงีย มืิอเรียวเคลื่อนมือไปยังโต๊ะโคมไฟสีสวยลูบคลำหาโทรศัพท์ตนแล้วกดรับอย่างอัตโนมัติด้วยความเคยชิน

     

    "ฮัล..โหล"เสียงแหบพร่าที่ยากจะเปล่งออกไป ไห้ผู้ถือสายอีกฝั่งได้ยิน

     

    "อ้อ อ ทำไรอยู่" เสียงเพื่อนสาวเอ่ยถาม เสียงนี้มันทำไห้แบคฮยอนสามารถเดาได้ทันทีว่าเพื่อนสาวสุดสวยของเค้าต้องการอะไร

     

    "ไปเทียวอ่ะ ชั้นไม่ไปน้ะ"แบคฮยอนปฎิเสธคำขาด กับเพื่อนสาวก่อนที่จะเคลื่อนนิ้วโป้งไปกดปิด แต่ทว่ากลับต้อง ลืมตาขึ้นจากประโยคที่ได้ยินเมื่อครู่ อะไรน้ะ จะย้ายไปเรียนต่อต่างปะเทศงั้นหรอ??

     

    "อะ อะไรน้ะ"อาจจะไม่ไช่เรื่องใหญ่อะไร แต่การที่แบคฮยอนเพิ่งกลับมาจากต่างประเทศและพึ่งจะมีเพื่อนไม่กี่คน ได้ข่าวเช่นนี้ มันก็ทำไห้แบคฮยอยรู้สึกอยากจะเป็นบ้าจริงๆ 

     

    "อื้อ ฉันต้องไปเรียนต่อต่างประเทศอ่ะ ดูแลตัวเองดีๆน้ะ อย่าเจ็บอย่าปว่ยหล่ะ "

     

    "นี่ อย่าโกหกน่ะ ชั้นไม่เล่นน้ะโว๊ยย...อือ จะไปจริงๆหรอ มันจำเป็นต้องเรียนด้วยหรือไงห๊ะ หนังสือเนี่ย! เฮ้อ~"   ถึงแม้จะหงุดหงิดแค่ไหน แต่ก็ต้องปล่อยเลยตามเลย

     

    "อ้อ ไปนะ บายเพื่อนรัก"

     

    "อื้ออ ไว้เจอกันน้ะ"

     

    ติ๊ด! ...

     

     "งั้นชั้นก็ควรเรียนสิ่น้ะ เฮ้อ!~" แบคฮยอนบอกกับตัวเองก่อนจะหยิบใบสมัครเข้าเรียนที่อยู่บนโต๊ะขึ้นมาอ่าน ถึงแม้ว่าเค้าเองยังอยากเที่ยว แต่ตนก็รู้ดีว่าพ่อเค้าคงไม่จบแค่นี้แน่นอน...


     

     

           


                 "เป็นไงบ้างหล่ะ" ? คริสถามเพื่อนตัวสูงที่นั่งข้างๆเค้า ในยามพักเืที่ยง แม้ว่าจะแทบไม่ค่อยได้เจอกันในช่วงเวลานี้ ต่างคนก็มีหน้าที่ และคริสเองก็มีงานทำ ไม่รู้สิเห็นรวยเอาๆ

     

    "หมายถึง ?" แน่นอนชานยอลไม่เข้าใจคำถามที่คริสถามเค้ามา

     

    "หมายถึง มึงไม่สบายอ่ะเป็นไงบ้าง ?" ไม่สบาย ถ้าไห้เดา มันคงรู้ว่าที่เค้าไม่มาสองวันนี้คงไม่สบายเพราะคนอย่างชานยอลน่ะหรอ จะหยุดเรียนง่ายๆ

     

    "อ้อ อ ก็ดีขึ้นแล้วหล่ะ "

     

    "อ่อ..." และแล้วความเงียบก็ปกคลุมอีกครั้ง

     

    "คริส"ชานยอลเปิดสนทนาอีกครั้ง

     

    "ว่า"???

     

    "คือ.... ช่างเถอะ ไม่มีไร" ชานยอลส่ายหน้้าท่าทีมีพิรุธเอามาก ความจริงแล้วเค้าอยากถามเรื่อง..

     

    "มีไร บอกมาเถอะ มีไรไห้ช่วยไหม?" คริสเป็นเพื่อนที่ดีที่สุดในตอนนี้ ..

     

    "คริสส เดี๋ยวนี้นายก็รวยไช่ไหมหล่ะ อยากได้เด็กไปเลี้ยงสักคนไหม"??

     

    "ก็อยากนะ....นี่ มึงคงไม่ได้มีลูกไช่ไหม ไปทำใครเข้าท้องหล่ะเด็กเรียนอย่างมึงเนี่ยย?" ตาเบิกกว้างกับความคิดของเพื่อนร่างสูง ที่คิดว่าเค้าไปทำใครท้อง บ้าจริง!

     

    "เห้ย! ไม่ไช่ๆ.. อยากมีไหมล่ะ เด็กน่ารักๆหน่ะ เอาไว้เลี้ยง"

     

    "แล้วชั้นต้องทำไงบ้างอ่ะ"

     

    "ก็ไม่ยาก 1. ส่งเรียน 2. ไห้กินข้าว ดูแลดีๆไง ^^ ไม่ยากหรอก ฮ่า าๆ "

     

    "ง่ายดีน้ะ อายุหล่ะ "?

     

    "18..."

     

    "เฮ้ย!ใครว่ะ ?"

     

    "กูไง! ฮ่าาาา ๆ" ถึงแม้น้ำเสียงที่ดูสนุกสนานแต่ถว่า คำถามที่อยากถามมจริงนะ มันยากเกินไป หรือไม่ศักศรีย์เค้าเองก็ต้องเสียไปด้วย ชานยอลเลือกที่จะเปลี่ยนเรื่องเพื่อไม่ไห้เพื่อนร่างสูงเพื่อนเค้าต้องสงสัยและเป็นห่วงไปกว่านี้

     

    "ย๊าา!!~ นายนี่ จริงๆเลยน้ะ ไอบ้าเกิดกูตอบตกลงมึงไปก่อนหน้ามีหวังซวยไปตลอดชาติ"แต่ทว่า สายตาแปรเปลี่ยน รอยยิ้มที่มุมปากกลับหุบแับบฉับพลันก่อนจะเปลี่ยนเป็นสงสัย "...เอาดีๆ มี่เรื่องอะไร"คริสถามชาลยอลเพราะด้วยความที่ตนพอรู้ว่าเพื่อนตัวเองเป็นยังไง และปกตอก็ไม่เล่นมุขแปกๆ พวกนี้หรอก


    "ไม่มีไร๊"เสียงสูงที่จงใจไห้รู้ว่าตนโกหก ชาลยอลไม่มีไรไห้หวังหรอก มันจะทำไห้คนอื่นรำคานป่าวๆ แตดูท่าคริสจะไม่เชื่อ แถมมองด้วยสายตาแบบนี้อีก"ไม่มีอะไร จริงๆ"เพื่อความแน่ใจ ชานยองจึงย้ำประโยคเดิม


    "เออ ถ้ามีอะไรก็บอกน้ะ ยังไงก็เพื่อน" ถึงจะอย่างนั้นก็ตาม คริสเป็นเพื่อนที่ดีมาตลอดแต่ถ้าถามว่าเค้าเองอยากรบกวนคริสไหม ไม่อยากเลย...

    "อือ" ชานยอลตอบรับในสิ่งที่คริสบอก.. คนดีจริงๆ...


       

      มือกร้านหยิบโทรศัพท์คู่กายขึ้นมาหวังจะโทรหาคริสหลังจากเรื่องที่เค้าได้คุยกันเมื่อช่วงเที่ยง อะไรหลายอย่างผุดขึ้นมาในหัวสมองของชานยอลก่อนจะทิ้งโทรศัพท์ลงข้างกาย ทำยังไงก็ไม่กล้าอยู่ดี หากเป็นเมื่อก่อนเค้าคงบอกคงคุยอะไรได้ง่ายๆ แต่ใครจะไปรู้หล่ะว่าคริสมันจะดูเปลี่ยนไปขนาดนี้หลังจากเค้าได้ทำงาน
    ก็ไม่รู้หรอกว่างานอะไร แต่มันทำไห้คริสดูหยิ่งและ น่ากลัวแปลกๆ คริสเองก็รวยเอาๆ แต่ชาลยอลคนนี้เหมือนจะดับลงเรื่องทั้งเรื่องเรียน หลายอย่าง เงินเท่านั้น เมื่อคิดได้เช่นนั้น ชาลยอลจึงตัดสินต่อสายไปยังอีกคนทันที..

    (ว่าไง)
    "เอ่อ... คริสนายทำไรอยู่..พอจะว่างไหม"
    (ว่างๆ มีไรคุยมาเลย)
    "..."
    (นี่  มีอะไร เงียบแบบนี้ น่ากลัวน้ะเว้ย) นายแหละที่น่ากลัว
    "คือ...พอดีพ่อกูเข้าโรงบาลว่ะ กูเลยต้องการไช้ตังแบบด่วนเลยอ่ะ มึงพอมีเงินไห้กูยืมไหมว่ะ ถ้ากูหางานได้กูจะช้คืนไห้อย่าเร็วเลย ...แต่ถ้า"
    (เออ เท่าไหร่หล่ะ) ยังไม่ทันได้พูดจบ คริสก็แทรกขึ้นมาเสียก่อน
    "จริงๆ หรอ"ตาเบิกกว้างกับคำตอบ ไม่อยากเชื่อว่าจะง่ายอะไรขนาดนี้
    (อ้อออ)
    "งันกูขอยืมสัก แสนนึงได้ไหมว่ะ" ความจริงแล้วต้องการมากกว่านั้นแต่หากถึงเวลาต้องไช้คืนชานยอลคนนี้อาจจะจนก่อนก็เป็นได้
    (โอเคเดี๋ยวกูจัดการไห้แล้วกัน)
    "โอเค" 

    ติ๊ด..

    (ตริ๊ง)
    ไม่นาน สักสิบนาทีได้ ชานยอลก็ได้รับข้อความ ชาลยอลถึงกับยิ้มออกเค้าถอนหายใจเฮือกใหญ่ หลังจากเห็นข้อความบนโทรศัพท์ตน
    "เงินเข้าแล้วนี่หว่า"ชานยองรีบไปโอนเงินไห้แม่อย่างเร็วอย่างที่ตนได้สัญญาไว้ว่าจะโอนเงินไปไห้  แล้วเหลือไห้ตัวเองเพียงห้าพัน เพราะอีกไม่กี่วันเค้าจะต้องจ่ายค่าห้องเพื่อไม่ไห้ค้างและไห้เป็นภาระตนเอง

    "กรี๊ดดดดดด อย่าน้ะ อย่าเข้ามาน้ะเว้ย! ไม่รู้หรอว่ากูคือใคร ถ้ากูเรียกบริการ์ดกูมาพวกมึงตายแน่!" เสียงใครสักคนกรีดร้องออกมาจากร้านอาหารข้างทางที่ห่างออกไปไม่มากจากที่ๆคนตัวสูงยืนอยู่ ชานยอลส่ายหัวกับความคิดที่จะเข้าไปช่วยแต่มันไม่ไช่เรื่องอะไรของเค้าหนิ อีกอย่า่งเห็นบอกว่ามีบริการ์ดอยู่แล้วคงไม่เป็นไรหรอกมั้ง
    ชานยอลเดินออกห่างจากที่ตรงนั้นแต่เหมือนกับอะไรสักอย่างหยุดเค้าไว้เมื่อเสียงกรีดร้องมันดังขึ้นเรื่อยๆแทนที่จะเบาลงคล้ายเหมือนจะอยู่ไกล้ๆยังไงยังงั้น ชานยอลเดินตามเสียงไปแล้วสิ่งที่เค้าคิดมันผิดอย่างยิ่งดีแล้วที่เค้ามาเจอเพราะความจริงแล้ว... มันไม่ไช่ร้านอาหารแต่เป็ซอกซอยเล็กๆ ที่เสี่ยงและอันตรายและคนเข้าถึงยากขนาดจะหาที่มาของเสียงยังคิดผิดเลย...

    (Chanyeol talk)
    "เห้ย!"ผมส่งเสียงขัดก่อนที่มือของใครสักคนในกลุ่มผู้ชายพวกนั้นกำลังจะตบชายตัวเล็กๆคนนึง และมีชายร่างใหญ่อีกคนจับแขนทั้งสองข้างเอาไว้ รั้งตัวไห้ติดกับกำแพง
    "ช่วยด้วย  ช่วยผมด้วย"เสียงชายตัวเล็กตะโกนบอก ไม่บอกผมก็ต้องช่วยอยู่แล้วหล่ัะ
    ในทางซอยเปลี่ยว เต็มไปด้วยขยะ อย่างกับซลัม ผมมองแทบไม่เห็นใครเพราะมันมืดมากแต่ขาก็ยังเดินเข้าไปแม้มันจะเสี่ยงก็ตาม  สองรุมหนึ่ง
    ในระยะห่างเพียงไม่กี่เมตรมันอัตรายจริงๆ "เห้ย!พวกนายน่ะ ไม่อยากเจ็บตัวก็ปล่ยเด็กมันไปเถอะ พวกแกคงไม่คิดสั้นหรอกนะ"ผมเอ่ยขู่พวกมัน มันเหมือนสันชาติยานที่ควรทำ ผมไม่เก่งต่อสู้เท่าไหร่หรอกแต่ก็เก่งพอที่จะเอาชนะ เทาได้ ใครนะหรอคู่อริตัวกาดเลยแหละ 
    "นี่ไอตัวสูง! ถ้ามึงไม่อยากตายหล่ะก็...มึงรีบวิ่งออกไปไห้เร็วเลยก่อนที่กูจะต้องฆ่าพวกไห้ตายไปทั้งสองตัว"
    "ถ้ากูวิ่งออกไปตามคำสั่งมึง แล้วกูจะเข้ามาทำซากห่าอะไรว่ัะ และมึงคิดว่ากูกลัวมึงสิ่น้ะ คิดผิดแล้วหล่ะ"...
    สายตาแปรเปลี่ยนผมวิ่งสุดแรงก่อนจะคว้าหมัดสาดเข้าไปยังใบหน้าชายผู้นั้น จนซุดลงไปนอนกับพื้น ก่อนไอลูกน้องที่จับคนตัวเล็กอยู่รีบวิ่งไปพยุงมันลุกขึ้น จึงได้จังหวะผมรีบคว้าแขนคนตัวเล็กที่ดูหวาดกลัวกับเหตุการณืที่เกิดขึ้นในเวลาอย่านี้ท่าจะวิ่งมันอันตรายเกินไปเกิดมันมีอาวุธ ไม่ลูกน้องมันคนนึงก็พุ่งตัวเข้ามาหวังจะต่อยหากแต่ผมหลบทันซะก่อนผมใช้ขายาวไห้เป็นประโยชน์เตะเข้าไปที่ท้องจนกระเด็นไปอีกฝากได้้โอกาสก็รีบคว้าแขนแล้ววิ่งอย่างเร็ว ตอนนั้นผมยังไม่แม้แต่จะได้เห็นหน้าคนที่ผมช่วย ได้แต่จับมือแล้วพาวิ่งอย่างไม่คิดชีวิตเลยสักนิด ผมไช้เวลาไม่กี่วิหันไปมองหน้าคนตัวเล็กทิ่กำลังวิ่ง น่ารักจังเพียงแต่เค้าวิ่งจนไม่ได้มองหน้าผมกลับไม่อยากหยุดวิ่งเลย...



    (baekhyun talk)
     อะไรกันเนี่ย ทำไม ทำไมโชคดีแบบนี้น้ะ ถ้าไม่ได้เค้าผมคงแย่แล้วแน่ๆเลย ได้จับมือเค้าแล้ววิ่งไปด้วยกันแบบนี้มันอย่างกับในหนังเลย งั้นนี่ก็พระเอกสิ่น้ะ  ผมไม่เคยตกหลุกรักใครขนาดนี้มาก่อน ทั้งสูงและแม้จะมองจากด้านหลังก็ยังหล่อขนาดนี้ทั้งที่ยังไม่ได้เห็นหน้า หูเค้าช่างมีเสน่จริงๆ แถมบวกกับผมบรอนทองนี้มันแทบอยากจะขาดใจไปตรงนี้เลย
    "นี่ นา..คุณ ครับ หยุดวิ่งได้แล้วครับ"ในจังหวะนั้นผมก็ได้เห็นใบหน้าของคนที่ช่วยชีวิตผมไว้เพราะหยุดวิ่งแล้วหันมา หล่อจริงๆ
    "อ้ออ ครับโทดที คิดว่าคงปลอดภัยแล้วหล่ะ เรียกบริการ์ดไห้มารับสิครับแถวนี้มันอันตรายนะ ยิ่งตอนดึกๆแบบนี้ ยิ่งอันตรายไปใหญ่
    "ครับ ขอบคุณมากครับถ้าไม่ได้คุณผมคง... ว่าแต่คุณรู้ได้ไงว่าผมมีบริการ์ดหล่ััะ"
    "ก็แค่ผ่านมาแล้วได้ยินหน่ะ คือ ไม่ต้องเรียกคุณๆ ผมๆ หรอกชั้นไม่ไช่พวกคนรวยอะไรขนาดนั้น"ผมได้ยินไม่ผิดไช่ไหม ผมคิดว่าเค้าน่าจะไม่ค่อยชอบคนรวยเท่าไหร่น้ะ
    "ชื่อหล่ะครับ ชื่ออะไร"?
    "ชานยอลครับ ปาร์ค ชานยอล" เหมือเวลาจะผ่านไปเร็วจริงผมยังอยากคุยกับเค้าอยู่เลยหากแต่รถคันสีดำมาจอดข้างททาง และบริการ์ดลงมาจากรถอยากเร็ว ทำไห้ผมรู้ทันทีว่าควรบอกลา
    "ผมชื่อ แบคฮยอน นะครับ นี่นามบัตรผม ยินดีที่ได้รู้จะนะครับ" ผยื่นนามบัตรใบสวยของผมไห้เค้าไป และหวังว่า...เค้าจะโทรมา
    "ครับยินดีที่ได้รู้จัก" ผมหวังว่าเราจะเจอกันอีก หากนี่มันคือความรักของผมจริงๆ แม้มันจะเป็นเวลาช่วงสั้น ที่รู้สึกขอบคุณ และมันทำไห้ผมอยากรู้จักเค้ามากกว่านี้ ปาร์ค ชานยอล...


     

     
     
    THE★ FARRY
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×