ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    No Office บริษัทตามล้างทั่วปฐพี

    ลำดับตอนที่ #4 : No 3 >> Going to a vocation ไปพักร้อนที่ซ่องโจรกันเถอะ!

    • อัปเดตล่าสุด 23 ม.ค. 53


    black  memory

    <<No 3>>

    Going to a vocation!

    ไปพักร้อนที่ซ่องโจรกันเหอะ! <2>

    ประตูไม้เก่าคร่ำครึที่เชื่อมต่อกับส่วนโรงครัวภายในเป็นเพียงฉากบังหน้า หลังแผ่นปุปะนั่นคือเหล็กกล้าหนาหลายนิ้วที่ลงอาคมไว้อย่างแน่นแทบจะกลายเป็นปิดตายชนิดที่ว่าถ้าไม่มีกุญแจก็คงต้องใช้ระเบิดอัดกันให้กระจุยไปข้างหนึ่ง

    พอฉันส่งสัญญาณนายก็ชิ่งเข้าไปด้านหลังประตูเลยนะ

    ไอรินอสหันมาสั่งการเจ้าคนที่ไม่ได้คิดจะฟังคำสั่งจากใครเลยแม้แต่น้อย

    ใครตั้งให้นายเป็นหัวหน้าตั้งแต่เมื่อไหร่วะ

    เมื่อไหร่ก็เอาเหอะ

    เจ้าตัวเล็กตอบแบบปัดๆ

    ถ้าไม่ติดว่าต้องใช้มันอีกเยอะพ่อยันโครมไปแล้วนะเนี่ย

    สวัสดีครับพี่ชาย

    เสียงเล็กดังขึ้นเมื่อเจ้าจิ้งจอกพันหน้าออกปฏิบัติการ

    หืม

    ยามร่างสูงร้องออกมาด้วยความประหลาดใจ ไม่บ่อยนักที่จะมีใครล่วงล้ำมาถึงส่วนนี้ได้ แม้กระทั่งพวกค่าหัวสูงๆก็ตามที

    ผมอยากเข้าห้องน้ำจังเลยครับ

    แถวนี้ไม่ใช่แล้วล่ะเจ้าหนู

    งั้นพี่ชายพาผมไปหน่อยได้ไหมครับ

    คนถูกถามนิ่วหน้าเล็กน้อยอย่างครุ่นคิด ก็จะถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่

    เอาก็เอาวะ!”

    พูดจบก็จูงมือเล็กออกจากบริเวณนั้นทันที

    คลิ๊ก

    ฝ่ายคนที่ซุ่มอยู่ขยับตัวอย่างรู้ทันขณะที่เสี้ยวใบหน้าของลูกชายกำมะลอผินมาทางกล่องไม้ที่กำบัง ชักดาบคู่ใจออกช้าๆ

    คมดาบเงินคมกริบสะท้อนแสงไฟสลัวของหลอดไฟอันน้อยนิด เสียงที่กรีดร้องของดาบยามเสียดสีกับฝักดูราวกับเสียงเพรียกสู่ก้นบึ้งของนรก

    [ถ้าพวกเจ้ายังไม่รู้จัก No Office ดีพอ....]

    เรียวปากบางคล้ายอิสตรีกระตุกยิ้มเหี้ยม ย่างกรายออกจากที่กำบังอย่างไม่รีบร้อน

    สอดกิ๊ฟดำอันเล็กผ่านรูกุญแจ หมุนไปมาไม่นานประตูบานโตก็เปิดออก

    ไม่เสียทีที่อุสาต์ฝึกวิชามารมาน่ะนะ!

    พลั่ก

    ตึ้ง!

    เสียงร้องครวญครางด้วยความเจ็ดปวดที่ลอยมาตามสายลมพร้อมกับกลิ่นคาวเลือดเป็นสัญญาณบ่งบอกว่าอีกฝ่ายก็คงจะจัดการอะไรๆ เรียบร้อยแล้ว

    เดย์เฟรียสกระชับดาบในมือแน่นก่อนก้าวเดินไปตามทางแคบๆอย่างสบายอารมณ์

    กว่าจะเสร็จก็นานอยู่นะ...ไหนคุยว่าเก่งนักเก่งหนา

    คำกระเซ้าถูกตอบรับด้วยรอยยิ้มแยกเขี้ยวของคนที่ตัวเล็กกว่าเกือบครึ่ง

    เจ้านี่ยังเหมือนเดิมสิน่า

    คิดดีแล้วเหรอที่เดินสบายๆแบบนี้

    เห?

    ไม่แน่นะว่าตอนนี้พวกมันอาจจะรู้ตัวแล้วก็ได้

    อย่าบอกนะว่านาย...

    ไม่ทันขาดคำเสียงสัญญาณเตือนภัยก็ดังไปทั่ว ประตูเหล็กที่อยู่หน้าพวกเขากำลังเลื่อนลงต่ำทีละน้อย

    บัดซบแล้วไง!

    ไอรินอส เซเฟอร์! นายเขียนอะไรลงไปบนกระดาษนั่น

    ปิศาจตัวจิ๋วแย้มยิ้มรับ ก่อนจะหัวเราะหึๆอย่างมีเลศนัย

    เปล๊า! แค่บอกให้พวกมันบ้านบึ้มไปซะแค่นั้นเอง

    นายสั่งอะไร?

    สปาเก็ตตี้ผัดอวัยวะรวมน่ะ ^^”

    ไอ้!”

    ไม่รู้ก็เข้าขั้นโง่รับประทานแล้วครับพี่น้อง!

    แบบนี้อีกไม่นานพวกมันคงแห่กันมาเป็นฝูงแน่นอน

    ชัวร์ป้าบ!

    แต่ที่น่าเป็นห่วงก็คือ...เจ้าคุณแม่ที่ยังไม่รู้อิโหน่อิเหน่ข้างนอกนั่นน่ะสิ!

    ตายแน่...ตายแน่ๆ
    ไม่ใช่ตายธรรมดาด้วยนะ! งานนี้มันตายหยั่งเขียด!
    ไอริสปั้นหน้าเครียด กวาดมองร่างของชานฉกรรจ์จำนวนมากที่ยืนล้อมหน้าล้อมหลัง ไม่รู้ว่าฝ่ายโน้นทำพลาดอะไรตรงไหนเสียงออดเตือนภัยถึงได้ดังขึ้นจนพวกมันไหวตัวกันได้ทัน
    เม้มปากแน่นแล้วล้วงหาอาวุธในกระเป๋าสะพาย...
    "หึๆ แสบมากนะแม่หนูเอ๋ย..."
    "อะ...อะไร"
    ฝืนตวาดไปทั้งแบบนั้นแหละ ทำเป็นพูดดี จริงๆแล้วดาบคู่ใจก็อยู่ในระหว่างเข้าอู่เคลมประกันอยู่แท้ๆ มันจะเอาอะไรสู้กับเจ้าพวกถึกทึนนี้ฟร่ะ!
    "แหม~....น่ากลัวเนอะ"
    "ไปตายซะไป!"
    ทันทีที่ควานเจออะไรบางอย่างที่สัมผัสคุ้นมือก็กะชากออกมาข่มขู่ทันที
    "เฮ้ย!....เอ๊ะ...นี่มัน"
    เสียงอุทานด้วยความตกใจปนโล่งอกของเหล่าชายฉกรรจ์ทำให้ต้องเหลือบตามอง
    เวร!
    ไม่ใช่มีดสั้นแต่เป็นมาสคาร่า!

    จะต้องขอบคุณใครดีที่มันกวาดอาวุธเขาไปเกลี้ยงคลังเนี่ย!

    "ฮ่าๆ น้องสาวจะเอามาสคาร่ามาแทงพี่เหรอจ๊ะ"
    "อึ้ก..."

    อาวุธก็บ๋อแบ๋

    เห็นทีตอนนี้คนที่ไม่ถนัดด้านการต่อสู้มือเปล่าอย่างเขาคงต้องพึ่ง

    หมัดมวยและหมัดเมากันล่ะงานนี้

    ตุ้บ

    เหวี่ยงร่างๆหนึ่งขึ้นไปบนฟ้าก่อนจับทุ่มลงเคาท์เตอร์

    "เฮ้ย!...เป็นอะไรมากไหมวะ"

    ไร้เสียงตอบรับจากร่างที่แน่นิ่ง ที่ใบหน้าของสายร่างสูงทั้งหมดต่างปรากฏแววสงสัยและไม่อยากเชื่อสายตาตัวเอง

    "จับมันมาให้ได้!"

    สิ้นคำสั่งของคนที่ดูเหมือนจะเป็นหัวหน้า ทุกคนก็พุ่งเข้ามาอย่างบ้าคลั่ง
    ซวยโว้ยยยยยย
    ไม่น่าหลวมตัวเชื่อเจ้าเด็กนรกนั่น เขากัดปากแน่นแล้วกระโดดขึ้นไปยืนบนเคาท์เตอร์หินอ่อน จับบาร์เทนเดอร์สาวกระชากขึ้นมายืนข้างๆกัน
    "ถ้าเข้ามาแม้แต่ก้าวเดียว ฉันบึ้มยัยนี่แน่!"
    เสียงใสที่ไม่ต่างอะไรจากผู้หญิงตะโกนก้อง  ปรายตามองร่างเล็กนุ่มนิ่มในอ้อมแขน ดวงตาสีมรกตกลมโตฉายแววดื้อรั้นจ้องมองมาตรงๆอย่างไม่เกรงกลัว เส้นผมสีเดียวกับดวงตาถูกมัดรวบเป็นแกละสองข้างยาวถึงเอว แต่สิ่งที่ทำให้เขาตกใจมากที่สุดคือเรียวปากที่กำลังหยักยิ้มนั่น
    "ยัยโง่!"
    เป็นเพียงคำเดียวที่หลุดออกมาจากปากของคนที่เรียกได้สนิทใจว่าเป็นตัวประกัน ไม่ใช่เพียงแค่เขาเท่านั้นที่งุนงงกับท่าทีอวดดีเกินฐานะแต่พวกที่อยู่ข้างล่างก็ด้วย
    "เธอว่ายังไงนะ!"
    "ยัยโง่เอ๊ย! จนป่านนี้ก็ยังโง่!"
    บาร์เทนเดอร์สาวจับแขนเขาหักไปข้างหลังแล้วกระโดดหนีด้วยความเร็วที่เกินกว่าคนปกติ บ้าเอ๊ย! ยัยนั่นมันอะไรกันวะเนี่ย! 
    "แล้วเจ้าพวกที่ยืนอยู่ข้างล่างก็บื้อกันอยู่ได้!"
    เจ้าหล่อนแหวเสียงดัง ยกมือขึ้นเท้าเอวอย่างวางอำนาจ ร่างเล็กในชุดรัดรูปไม่แสดงความเกรงกลัวอะไรทั้งสิ้น 
    "เธอ...เป็นใครน่ะ"
    "ชิส์! ไอ้พวกใช้การไม่ได้!"
    เสียงเล็กตวาดเอาแต่ใจแล้วสะบัดหน้ามาทางเขา ง้างธนูขึ้นด้วยท่าทีไม่เป็นมิตร
    เอาแล้วไง! ซวยยกกำลังสอง!
    "ลาขาด...ยัยโง่! โทษฐานที่มาขัดขวางงานของฉัน"
    ไอริสรีบฉวยขวดหลังเคาท์เตอร์ขึ้น ปาร่อนออกไปอย่างไม่คิดชีวิต
    บรั่นดีปี 60 ลาก่อนนะ...
    "ไอ้ผู้หญิงถึกโว้ยยยยย"
    ตอนนี้ก็ได้แต่ภาวนาให้พวกนั้นกลับมาก่อนที่เขาจะโดนลูกธนูเสียบตายคาที่ไปเสียก่อน

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×