คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #8 : เปิดเทอม
Charpter�8
�.............................................................
�“เฮ้ย ไอ้แจ เป็นอะไรว่ะ” พลั่ก.....ไอ้ฮยอนจุงมันเดินมากระแทกไหล่ผมแต่เช้า�
���� คนยิ่งหงุดหงิดอยู่ถูกอาปาทำโทษตัดเงินค่าขนมโทษฐานที่แอบไปแข่งรถจนบาดเจ็บ เงินพนันเมื่อวานซืนก็โดนฮีนิมจิ๊กไปซื้อครีมCreBeau Jeff ซะหมดแล้วยังมีหน้าเอาของแถมมาแบ่งผมด้วยน่าตาเฉย เอากับพี่แกสินี่ถ้าไม่เกรงใจว่าเป็นพี่นะพ่อจะกัดให้จมเขี้ยวเลยคอยดู(จิ จิ สะกิดนิดหนึ่งนะแจจ๋า ตกลงคนหรือหมาอ่ะมีกัดให้จมเขี้ยวด้วย)ไรท์เตอร์อย่าพึ่งยุ่งได้ป่ะ คนยิ่งอารมณ์ไม่ดีอยู่อยากโดนด้วยหรือไง (ไม่จ้า กลัวแล้วจ้า แจดุอ่ะ) อีกเดือนก็จะถึงวันครบรอบคบกัน 100 วันของผมกับน้องฮโยจู แล้วผมจะเอาเงินที่ไหนไปทำเซอร์ไพร์ซื้อของขวัญให้สุดที่รักผมเนี่ย คิมแจจุงเครียด
�“ทำหน้าเป็นตูดเลย เมื่อเช้าลืมเข้าห้องน้ำหรือไง ว่ะ”�
�“ยุ่ง “
�“อ้าว ไอ้นี่ทักดีๆทำมาเป็นของขึ้น แล้วแผลที่หัวเป็นไงบ้างว่ะ” ฮยอนจุงจับหน้าผมหันมาทางมัน แล้วเอานิ้วจิ้มๆที่ผ้าพันแผลผมดู
�“เจ็บนะโว้ย ไอ้นี่นิ” ผมผลักมันออก ก็มันเล่นจิ้มแผลผมเล่นแบบนี้ เจ็บเป็นเหมือนกันนะ
�“สมน้ำหน้าซ่าดีนัก ห้ามแล้วก็ไม่ฟัง ฉันก็พลอยซวยไปด้วย รถคันนั้นราคาเท่าไรแกรู้ไหมเนี่ยเล่นชนซะท้ายยับไปหมด ดีนะพ่อกับแม่ฉันยังออนทัวร์อยู่ที่ยุโรป ไม่อย่างนั้นฉันไม่มีชีวิตรอดมาเจอหน้าแกแบบนี้หรอก ไอ้แสบเฮ้ย”�
���ฮยอนจุงมันร่ายยาวความในใจของมันพร้อมผลักหัวผมเพิ่มอีกหนึ่งที ผมได้แต่ลูบหัวปอยๆ นี่มันเห็นผมเป็นตุ๊กตาหรือไงผลักเอา ผลักเอา แล้วจะไม่เจ็บอ่ะ ไอ้เพื่อนบ้าพวกนี่นิ ผมค้อนมันหนึ่งที เชอะ
�“ไป ไปขึ้นห้องเรียน� ปานนี้ไอ้บอมกับไอ้เทมป์รอตายแล้ว”� ฮยอนจุงคว้าคอผม แล้วลากขึ้นตึกเรียนไปพร้อมมัน
....
.............
..................
�กรี๊ด กรี๊ด ๆๆๆๆๆๆ อุปป้า ทางนี้ค่ะ มองมาที่ฉัน ฉันอยู่ทางนี้ กรี๊ดๆๆๆ
�อ๊ากกกกเยซองอุปป้า เท่ห์ที่สุดเลย อ๊ายยยยยยยยคังอินอุปป้า� อุ้ยเธอนั้นไงๆๆ เห็นหรือเปล่ากลุ่มดอกไม้ของโรงเรียนมาแล้ว อ๊ายยยยน่ารักมากเลยอ่ะ คนนั้นไงลีทงเฮที่เต้นเก่งๆนะ อุ้ย มากับฮยอกแจด้วยอ่ะเธอน่ารักชะมัดเลยดูสิๆ กรี๊ดอุปป้าฉันเป็นแฟนคลับพี่นะ อ๊ายยยเธอพี่เขายิ้มให้ฉันด้วยหล่ะ อ๊ายยย กรี๊ดดดดดดด
�“นี่มันอะไรกันว่ะยูชอน เด็กผู้หญิงพวกนี้มาทำอะไรกันเยอะแยะหน้าโรงเรียนเราเนี่ย”�
���
���ผมถามขึ้นเมื่อยูชอนขับรถมาทางหน้าโรงเรียนแล้วปรากฎมีกลุ่มเด็กผู้หญิงจำนวนมาก มายืนออกันอยู่ส่งเสียงโวยวายเหมือนพวกแฟนคลับคลั่งนักร้องดังอย่างไงอย่างนั้น แถมมีทั้งป้ายข้อความต่างๆ รูปหนุ่มๆที่เด็กพวกนั้นส่งเสียงเรียกชื่อกันวุ่นวายไปหมด�
�“ก็ไม่มีอะไรมากหรอกไอ้ยุน น้องๆพวกนี่ เป็นพวกบรรดาแฟนคลับของเด็กในโรงเรียนเราไง”
�“แฟนคลับ เด็กนักเรียนมีแฟนคลับด้วยหรอ ไม่ใช่ดาราสักหน่อย”� ผมตอบกลับยูชอนอย่างไม่เข้าใจ� เพราะถึงผมจะป๊อบมากที่กวางจูแต่ที่นั้นก็ไม่ได้ดูวุ่นวายแบบนี้ อย่างมากก็แค่คอยตามคอยเอาของมาให้ และก็ไม่ได้มาวิ่งตามกรี๊ด มีป้ายผ้าป้ายไฟอย่างกับงานคอนเสิร์ตแบบนี้
�“อยู่ไปเดี๋ยวแกก็รู้ โรงเรียนนี้มีอะไรดีๆอีกเยอะ ดีนะเนี๊ยที่ฉันเอารถมา ถ้าเดินเข้าโรงเรียนมาธรรมดาๆ สงสัยสาวๆต้องตามคลั่งยูชอนคนนี้เป็นแน่ ฮ่าๆๆๆ”
�“ไอ้หลงตัวเอง ปากดีไปแก คงมีคนตาบอดหลงแกหรอก”
�“ชริ..ไอ้นี่ดูถูก อย่างกับแกหล่อเป็นคนเดียวนิ ไปเลยไปลงไปก่อนเลยไป แล้วรอแถวนี้แหละฉันเอารถไปจอดก่อน เดี๋ยวขึ้นไปรายงานตัวด้วยกัน”
�“โอเค”
......
.............
�“ซินครับ ซิน รอผมก่อน เรายังคุยกันไม่รู้เรื่องเลยนะครับ อย่าเดินหนีผมอย่างนี้สิ เมื่อวานคุณก็หนีผมมาทั้งวันแล้วนะ”
�“ใครใช้ให้นายตาม แล้วฉันก็ไม่อยากคุยด้วย” วันนี้ผมอุตส่าห์หนีมาเข้าทางลับด้านหลังโรงเรียนที่พวกไอ้แจ น้องชายสุดแสบของผมใช้เข้าออกแทนประตูหน้าเพราะรำคาญบรรดาสาวๆ ที่มาตามกรี๊ดอยู่บ่อยๆ แต่ก็ยังหนีคนๆนั้นไม่พ้นสักที
�“คิมฮีชอล วันนี้คุณต้องคุยกับผมให้รู้เรื่อง เรื่องผู้หญิงคนนั้น ผมกับเขาไม่ได้มีอะไรกันจริงๆ”
�“ไม่ ฉันไม่อยากฟัง นายคิดว่าฉันแคร์ ฉันสนหรอว่านายจะไปไหนต่อไหนกับใคร แล้วก็ถอยไป ฉันจะไปเรียน” ผมพยายามเดินเลี่ยงคนตรงหน้าที่เข้ามาขวางทางผมไว้ แต่เหมือนจะไม่ง่ายเพราะเขาเล่นดักผมไว้ทุกทางจนไม่มีทางหนี
�“ไม่ ผมก็ไม่ไปไหนเหมือนกัน ถ้าคุณยังไม่ยอมฟังผมบ้าง ผู้หญิงคนนั้นชื่อทิฟฟานี่เป็นนางแบบสังกัดเดียวกับผม เราสองคนไม่มีอะไรกันเลย วันนั้นที่คุณเห็นผมกับเขากอดกัน ที่จริงแล้วเขาเมามากแล้วเดินไปขึ้นรถเองไม่ไหว พวกพี่ๆเลยให้ผมเดินมาส่ง ระหว่างที่ขึ้นรถเธอเกิดเสียหลักจะล้ม ผมเลยรับเธอไว้ก็แค่นั้นเองไม่มีอะไรจริงๆนะครับ คุณเชื่อใจผมนะ”�
���� เชวชีวอนนายคิดว่าฉันโง่ดูไม่ออกหรอว่ายัยนั้นมันคิดจะงาบนาย แกล้งเมาชัดๆ มีแต่นายแหละที่ดูไม่ออก ที่ฉันโกรธ โกรธในความโง่ของนายต่างหาก ฉลาดทุกเรื่องโง่อย่างเดียวก็ไอ้ตรงมารยาผู้หญิงเนี่ยแหละ ฉันของอนให้นายสำนึกหน่อยแล้วกัน เพราะคิมฮีชอลคนนี้ไม่ใช่ง่ายๆใครๆ ก็รู้
���� “พูดจบแล้วใช่ไหม พูดจบแล้วก็ปล่อยมือฉันด้วย วันนี้เวรฉันไปรับอาจารย์ขึ้นไปสอน” ผมบิดข้อมือออกจากการเกาะกุมของคนตรงหน้า
���� “ซิน นี่คุณไม่เชื่อผมเลยหรอ” ชีวอนอย่าทำตาละห้อยแบบนั้นได้ไหม ถ้าฉันใจอ่อนจะทำยังไงเนี่ย ไม่ ใจแข็งหน่อยฮีชอลนายต้องทำให้ไอ้หล่อเนี่ยสำนึกให้ได้ว่าอย่าได้บังอาจสนใจใครนอกจากคิมฮีชอลคนนี้เท่านั้น ไม่ได้การต้องหาตัวช่วย ผมสอดส่ายสายตาหาตัวช่วยทันที และแล้วก็เจอเหยื่อไอ้น้องหมีเพื่อนร่วมบ้านนั้นเอง งานนี้พี่ขอยืมตัวหน่อยแล้วกัน�
���� “ยุนโฮอยู่นี่เอง พี่ตามหาแทบแย่” ผมยิ้มหวานพร้อมทั้งเรียกไอ้น้องหมีที่ยืนโง่อยู่หน้าตึกเรียน เป็นเป้าสายตาให้บรรดาเคะในโรงเรียนแทะโลมด้วยสายตาอยู่ เจ้านั้นก็งงจนทำอะไรไม่ถูกที่อยู่ดีๆ ผมก็เดินไปเกาะแขนทำราวกับสนิทสนมกันมานาน
���� “ผมหรอ พี่ตามหาผมทำไม” เจ้าหมีน้อยยังมองผมเหมือนเจอสิ่งประหลาด
���� “ก็เรื่องที่นายต้องไปรายงานตัวไงทำเป็นลืม จะให้ฉันพาไปไม่ใช่หรอ ไปสิยืนงงอยู่ทำไมหละ” ผมรีบลากเหยื่อเฮ้ย หมีน้อยเดินผ่านชีวอนที่มองผมตาค้าง แต่ยังคงสีหน้านิ่งยืนตัวแข็งราวกับถูกสาปที่ผมควงคนอื่นเดินผ่านไปต่อหน้าต่อตา
...
.......
���� “เจ๊ นิเจ๊ลากผมไปไหนเนี่ย”�
����� ผมกำลังยืนรอยูชอนเพื่อนผมอยู่หน้าตึกดีๆ อยู่ๆ เจ๊ฮีชอลก็เข้ามาควงแขนพูดจาไม่รู้เรื่องแล้วก็ลากผมเดินตามมาโดยที่ผมยังไม่รู้ต้นสายปลายเหตุอะไรเลย (ยุนแกก็ใจง่ายเนาะ เดินตามเขามาเฉยเลย) แต่ที่ทำให้ผมอึ้งกว่าก็สายตาที่จะกินเลือดกินเนื้อของเฮียเนี้ยบเชวชีวอนญาติผมสิ ที่มองผมเหมือนกำลังจะแย่งของรักเขางั้นแหนะ สองคนนี้มันต้องมีอะไรๆ กันแน่ ๆ แต่ผมเกี่ยวอะไรกับเขาด้วยเนี่ย ตกลงมีจะใครอธิบายได้ไหมครับว่ามันเกิดอะไรขึ้น
���� “แกเรียกใครเจ๊” ผลัว.........
���� “เจ๊ตบหัวผมทำไมเนี่ย ผมทำอะไรผิด”
���� “ผิดสิแกเรียกฉันเจ๊”
���� “ไม่ให้ผมเรียกเจ๊แล้วเรียกว่าอะไรหละ หรือพี่สาว” ผลัว.....
���� “โอ้ย ผมเจ็บนะ”
���� “ก็แกกวนฉันทำไมหละ แล้วจะไปไหมรายงานตัวหนะ” ผมได้แต่พยักหน้าเดินตามพี่ฮีชอลอย่างว่าง่ายกว่าเดิม เหตุผลกลัวโดนประทุษร้ายรอบที่ 3 คนอะไรมือหนักเป็นบ้า
���� “แต่พี่ฮีชอลรู้จักเฮียวอนด้วยหรอ”
���� “เฮียวอน เชวชีวอนนะหรอก็ อืม.. ถามทำไม?”
���� “ไม่มีอะไรหรอก ผมเห็นตอนที่เจ๊ เฮ้ย พี่ลากผมออกมาเฮียแกมองผมซะขนลุกเชียว” ผมรีบตะคุบปากตัวเองแล้วเปลี่ยนสรรพนามที่เรียกแกทันที ก่อนที่จะเจอฝ่ามือพิฆาตอีกครั้ง
���� “ทำไมแกกลัวหมอนั้นหรือไง?” พี่ฮีชอลหันมาถามผม
���� “กลัว ทำไมผมต้องกลัวเฮียวอน”
���� “ก็ชีวอนหนะอยู่ชมรมเทควันโด ได้สายดำดั้ง 5 เชียวนะ เป็นนายแบบ เป็นรองประธานนักเรียน เป็นสุดยอดหนุ่มในฝันที่สาวมัธยมอยากออกเดทด้วยที่สุด และเป็นหนึ่งในกลุ่มสตาร์ไอดอลของโรงเรียนเราด้วย ไม่เชื่อนายดู”�
���� พี่ฮีชอลอธิบายพร้อมกับหยิบนิตยสารชื่อดังในกระเป๋าที่หน้าปกมีรูปเฮียวอนเป็นนายแบบ และเปิดให้ดูเนื้อหาด้านในที่มีบทสัมภาษณ์พร้อมประวัติคุณงามความดีของเฮียวอนประกอบแบบภูมิใจสุดๆ ประหนึ่งเหมือนคนเป็นแม่กำลังอวดลูกชายสุดที่รักก็ไม่ปาน
����
���� �ผมมองจากท่าทางของพี่ฮีชอลที่อธิบายเรื่องราวของเฮียวอนแล้วตาเป็นประกายสุดๆ ก็พอจะรู้ว่าสองคนนี้ต้องมีอะไรที่ไม่ธรรมดาอย่างที่ผมคิดแน่ๆ แล้วไอ้ที่อธิบายมาทั้งหมดเฮียแกน่ากลัวตรงไหน จะมีแต่ไอ้เทควันโดสายดำดั้ง 5 หละมั้งที่ดูเหมือนจะเป็นคำขู่ แต่สำหรับ ชองยุนโฮ ทายาทรุ่นที่ 13 ของสำนักชินโจมันน่ากลัวซะที่ไหนหละ
����� “เป็นยังไงหละวอนนี่ของฉัน เจ๋งไหมหละ”
���� “ผมเข้าใจแล้วหละ ที่แท้พี่ก็เป็นพี่สะใภ้ผมนั้นเอง ฝากตัวด้วยนะครับพี่สะใภ้”ผมยื่นนิตยสารคืนแล้วก้มหัวให้พี่ฮีชอลที่ยังงงกับท่าทางของผมอยู่ แล้วผมก็เดินต่อเพื่อจะตรงไปห้องพักอาจารย์เพื่อรายงานตัวสักที
���� “พี่สะใภ้อะไรของแก ฉันไม่เข้าใจ แล้วแกจะฝากตัวกับฉันซ้ำทำไมเมื่อวานแกก็ทำแล้ว”พี่ฮีชอลได้สติรีบเดินตามมาถามผม เพื่อไขข้อข้องใจของตนเองทันที
���� “ก็เมื่อวานพี่เป็นแค่พี่ชาย แต่วันนี้พี่เป็นพี่สะใภ้ผม ผมเลยต้องฝากตัวใหม่เพราะผมกับเฮียวอนเป็นลูกพี่ลูกน้องกัน ผมลำดับญาติผิดหรอครับ”
������ ผมตอบข้อสงสัยของพี่ฮีชอลที่ยังคงทำตาโตมองผมแบบไม่ค่อยเชื่ออยู่ ผมกำลังจะอธิบายต่อแต่สิ่งที่สั่นอยู่ในกระเป๋ากางเกงของผมเบนความสนใจเสียก่อนจนผมต้องหยิบขึ้นมาดู เมื่อเห็นชื่อที่โชว์อยู่หน้าจอโทรศัพท์ก็ยิ่งเพิ่มความมั่นใจว่าขอสัญนิฐานทั้งหมดของผมไม่ผิด
���� “ว่าอย่างไงครับเฮีย พี่ฮีชอลหรอ ก็อยู่ข้างผมเนี่ยแหละ ผมว่ามีอะไรพวกเฮียเคลียร์กันเองดีกว่า ผมไม่อยากยุ่งด้วยหรอก ตอนนี้หนะหรอผมอยู่หน้าห้องสภานักเรียนรีบมาแล้วกัน” ผมวางสายแล้วรีบจับฮีนิมที่ตั้งท่าจะหนีตั้งแต่ที่จับใจความได้ว่าผมคุยอยู่กับใคร
���� “พี่สะใภ้มีอะไรคุยกันดีๆ ดีกว่าน่า....อย่าเล่นตัวมากเลยพี่ เฮียผมถึงจะถูกอบรมมาดี ความอดทนอดกลั้นสูงแต่มันก็มีขีดจำกัดนะครับ ยิ่งเห็นของรักของหวงของตัวเองเดินควงชายอื่นต่อหน้าต่อตา ถึงผู้ชายคนนั้นจะเป็นน้องชายก็เถอะเป็นผม ผมก็ทนไม่ได้นะ พี่จะหนีหรือจะรอก็คิดเองแล้วกัน ผมไปหละ”
������ พูดเสร็จผมก็ปล่อยคุณพี่สะใภ้ผมตัดสินใจเอาเอง แล้วเลี่ยงเดินออกไปกดโทรศัพท์หาไอ้เพื่อนรักผมทันทีปานนี้คงหงุดหงิดน่าดูที่ผมไม่รอมัน
........
......................
.............................
�“นี่ไอ้ยุนฉันไปหาที่จอดรถแป๊บเดียว แกหนีฉันไปก่อนเลยหรอ ไม่รอกันบ้างเลยนะแก ห๊ะ มีเรื่อง เรื่องอะไรว่ะ เออๆ ได้งั้นแกรอฉันที่หน้าห้องนั้นแหละแล้วไม่ต้องเสือกหนีเข้าไปก่อนอีกนะเว่ย ถ้ามีอีกคราวนี้กลับบ้านเองเลยแก ฉันไม่รับส่งแกแล้ว เออแค่นี้แหละกำลังขึ้นไป โอ้ย อะไรว่ะเนี่ย” ปลั่ก.....
���� หลังจากที่ผมวางสายจากไอ้ยุนเพื่อนผมก็มีวัตถุประหลาดที่พุ่งมาด้วยความเร็วสูงอัดใส่หัวผมแบบเต็มๆ ผลทำให้ผมล่วงลงไปนั่งกลุมหัวกับพื้นข้าวของที่ถือมากระจายไปคนละทาง�
���� ผมส่ายหัวไล่ความมึนแล้วมองหาเจ้าสิ่งนั้นทันที ที่แท้ก็ไอ้ลูกบอลบ้านี่เอง ผมรีบหยิบลูกบอลแล้วลุกขึ้นหาผู้ก่อเหตุที่ทำให้สุดหล่อปาร์คยูชอนคนนี้ต้องบาดเจ็บ แต่มองซ้ายแล้วมองขวาแล้วไม่เห็นมีใครเลย
���� “ลูกบอลของใคร” ผมตะโกนถามผู้รับผิดชอบแต่ยังคงได้รับความเงียบกลับมาเหมือนเดิม ผมสำรวจลูกบอลทันทีเผื่อเจอหลักฐานอะไรที่บ่งบอกว่าไอ้เจ้านี่มาจากไหนได้บ้าง ก็เจอตัวเอสย่อ J.S. แล้วมีรูปปลาโลมาโต้คลื่นอยู่ข้างๆ
���� “น่าเสียดาย... ลูกบอลยังใหม่ๆ อยู่เลยนะเนี่ย ของแพงซะด้วย แต่เจ้าของคงทิ้งแล้วหละมั่ง” ผมลองพูดยั่วเจ้าของลูกบอลดู เพราะรู้ว่ายังไงก็ต้องแอบอยู่แถวนี่แน่ๆ ไม่น่าจะหนีไปไหนได้เร็วขนาดนั้น ผมลองมองหาดูอีกครั้งก็ไปสะดุดก้นของผู้ต้องสงสัยเข้าอย่างจัง ที่โผล่พ้นพุ่มไม้ข้างสนามคงคิดว่าหลบพ้นแล้วมั่งนั้น
���� “ถ้าอยากได้คืนก็ตามไปเอาที่ห้อง 2-B แล้วกัน อีกอย่างฉันชื่อปาร์คยูชอนจำไว้ให้ดีหละ”�
������ ผมไม่มีเวลามานั่งเล่นเกมส์โปลิสจับขโมยตอนนี้หรอก อีกอย่างตอนแรกมันก็โมโหอยู่หรอกนะ แต่ตอนนี้มีเรื่องอื่นให้สนใจมากกว่าเพราะผมต้องรีบขึ้นไปยื่นเอกสารรายงานตัว ถ้าเจ้านั้นอยากได้คืน คงตามมาหาผมเองแหละ ถึงตอนนนั้นรับรองจะเรียกค่าเสียหายให้หมดตัวเลยทีเดียว ผมรีบเก็บของแล้วเดินขึ้นไปหายุนโฮทันที
�������
���� “ตายแน่ซึงรีอ่า คนๆนั้นเขาเอาบอลเราไปแล้วอ่ะ เพิ่งได้มาเมื่อวานเองทำไงดีหละ”
���� “ใจเย็นน่า เขาบอกแล้วไม่ใช่หรอว่าถ้าอยากได้คืน ให้ไปเอาที่ห้อง 2-B ไง ไม่เห็นจะยาก เดี๋ยวพอพักเที่ยงเราค่อยย่องไปดูก็ได้ว่าอยู่ที่นั้นจริงหรือเปล่า”
���� พูดเหมือนเป็นเรื่องง่ายๆตลอดเลยเพื่อนผมคนนี้ ไม่รู้ไปพกเอาความกล้าบ้าบิ่น ความมั่นใจเกินร้อยมาจากไหนหนักหนา อีซึงฮยอนคนนี้ถึงได้กล้าทำอะไรตามที่ผมหรือใครๆบอกไปซะทุกเรื่อง
����� อย่างเช่นไอ้ที่ผมท้าให้เตะบอลอัดหน้าคนๆนั้นให้หายหมั่นไส้สักที อีซึงฮยอนหรือซึงรีซึ่งเป็นอีกชื่อหนึ่งที่ผมกับเพื่อนมักใช้เรียกเนื่องมาจากนิสัยใจกล้าชอบเอาชนะของมัน(เออ....แต่ไอ้ที่หนูสองคนหลบเขาเมื่อกี้มันวิสัยของคนกล้าตรงไหนจ๊ะลูก)
���� “ไม่เห็นจะยากอะไรหละ ถ้าบอลอยู่ที่นั้นจริงเราจะไปเอาคืนยังไงหละ ให้เดินไปสารภาพผิดเลยแล้วเอาคืนมาเราไม่ทำหรอกนะ ไม่รู้ว่าคนๆนั้นจะโมโหแล้วกระโดดขย้ำคอเราหรือเปล่า โดนบอลอัดไปเตรียมแรงแบบนั้น ”
����� แต่ก็สะใจซะไม่มี...อิอิอิ ผมกระหยิ่มยิ้มย่องในใจเมื่อนึกถึงตอนที่คนๆนั้นโดนลูกเตะสายฟ้าของซึงรีเข้าไป เล่นเอามึนจนตั้งสติไม่ทันแบบนั้นแล้วมันสะใจดีจริงๆ การลงทุนย้ายมาอยู่โรงเรียนนี้มันช่างคุ้มจริงๆ
���� “ว่าแต่นายจะไม่บอกฉันหน่อยหรอ ว่าโกรธอะไรคนนั้นหนักหนาถึงท้าให้ฉันทำกับเขาแบบนั้น” (ตกลงซึงรีหนูทำลงไปทั้งๆ ที่ยังไม่รู้เลยหรอว่าเขาทำอะไรกับเพื่อนหนู กรรมจริงๆ -_-)
���� “ช่างมันเถอะ นายอย่ารู้เลย รู้แต่ว่าลูกเตะสายฟ้าของนายแน่นจริงๆแค่นั้นพอ” ผมเยียดมุมปากยิ้มอย่างชั่วร้าย
���� “พี่จุนซูหางพี่โผล่แล้ว” ผมรีบหันไปทางต้นเสียงที่แซวผมทันที ที่แท้ไอ้เด็กนรกข้างบ้านชิมชางมินนั้นเอง ลืมไปซะสนิทว่ามันก็เรียนอยู่ที่นี่ด้วย
���� “ยุ่ง เรื่องของฉันไม่เกี่ยวกับแก” ผมแว๊ดใส่ไอ้เด็กนรกนี่ทันที
���� “ไม่สำนึกบุญคุณผมบางเลยนะพี่ ที่พี่สอบผ่านเข้ามายืนแก้แค้นคนๆนั้นได้อย่างนี้ ไม่ใช่เพราะผมที่เสียสละ ลงทุนติวแอนด์เกร็งข้อสอบให้พี่จนได้ดิบได้ดีเข้ามาป่วนคนอื่นเข้าแบบนี้หรอ”
������ หนอยไอ้เด็กนรกมีหน้าทวงบุญคุณ แถมทำหน้าทำตาประกอบการเหน็บแนมได้กวนสุดยอด ถ้าไม่ติดว่าไอ้เด็กชิมชางมินมันสูงอย่างกับเสาไฟฟ้านะ แม่จะตบให้หัวหลุดเลยค่อยดู(อุ้ย โลมาโหด แต่เอ๊ะแต่งไปแต่งมาทำไมเคะเรื่องนี้นิสัยอย่างนี้ทุกคนหว่า?)แล้วเขาจะรู้กับแกไหมหละไรท์เตอร์/จุนจังเองครับ
����� “ยังกล้าทวง แล้วค่าอาหารที่แกกินล้างกินผลาญจากฉันไปหละ ฉันว่ามันมากพอจะจ้างครูดีๆจากสถาบันกวดวิชาดังๆสอนฉันตัวต่อตัวได้ทั้งเดือนเลยนะ”
������� ผมโต้กลับไม่ลดละ เพราะใครใช้ให้ไอ้เด็กบ้านี่มันดันเกิดมาอัจฉริยะสอบเข้าโรงเรียนนี้ได้ในอันดับที่หนึ่งในครั้งแรกหละ แต่ผมขนาดสอบซ่อมยังไม่ผ่าน ดีว่าทางโรงเรียนให้มีการสอบแก้ตัวได้สองครั้งแต่เวลาเตรียมตัวจากครั้งแรกมันเพียงอาทิตย์เดียวใครจะไปเกร็งข้อสอบทัน ไม่จวนตัวจริงๆ คิมจุนซูคนนี้ไม่คิดจะไปอ้อนวอนไอ้เด็กบ้านี้ให้เสียเส้นแบบนี้หรอก
���� “มันก็เป็นสิ่งที่ผมควรจะได้ไม่ใช่หรอ เพราะเป็นค่าเหนื่อยที่ต้องมานั่งสอนเด็กซิ้วสมองทึบอย่างพี่ รู้ไหมกว่าที่ผมจะทำให้พี่เข้ามาเรียนที่นี่กับผมได้ในเวลาจำกัดเพียงอาทิตย์เดียว มันทำให้เส้นเลือดในสมองผมหวิดแตกกับความโง่ของพี่ไปกี่ครั้ง ถ้าไม่ติดว่าผมใจอ่อนที่เห็นพี่นั่งร้องไห้หมดอะไรตายอยากแบบนั้นอ่ะนะ จ้างให้ผมก็ไม่ช่วยให้เปลืองแรงหรอก ชริ... “
���� ไอ้เด็กชางมินพูดใส่หน้าผมพร้อมกับเอามือที่ตอนแรกทำท่ากอดอกอธิบายความเหนื่อยยากของมัน มาล่วงกระเป๋ากางเกงทั้งสองข้างแล้วก็เดินสะบัดหน้าอย่างน่าหมั่นไส้ไปทางตึกเรียน�ทิ้งให้ผมกับซึงรียืนมองหน้ากันแล้วส่ายหัวระอากับท่าทางที่กวนอวัยวะเบื้องล่างของมันเป็นอย่างมาก�
������ ผมกับซึงรีสนิทกันเพราะเราก็สอบซ่อมมาด้วยกันตั้งแต่ไม่ผ่านรอบแรก และด้วยอานิสงฆ์จากแนวข้อสอบของไอ้เด็กบ้านี่ ทำให้เราสอบผ่านรอบสองมาพร้อมกันและได้อยู่ห้องเดียวกันอีกด้วย แต่เหมือนเคราะห์ซ้ำกรรมซัดที่เราทั้งคู่ก็ต้องอยู่ห้องเด็กเดียวกับได้เด็กบ้าชางมินเหมือนกัน เพราะที่โรงเรียนนี้เขามีการคละเด็กเก่งกับเด็กธรรมดาให้อยู่รวมกันไม่มีการแยกห้องแยกอันดับเหมือนที่อื่น
���� “แล้วพวกพี่ก็อย่าไปเข้าห้องสายหละ เปิดเรียนวันแรกช่วยเรียนให้คุ้มกับที่ยอมซ้ำชั้นกับมาเรียนใหม่ด้วยหละจุนจัง แล้วโทรศัพท์เนี่ยถ้าเอาไปแลกเปลี่ยนกับลูกบอลของพี่ ผมว่ายังไงเจ้าของเขาก็คงรีบคืนโดยไม่มีข้อแม้อะไรหรอก”�
������ไอ้เด็กชางมินที่ผมคิดว่ามันเดินขึ้นตึกไปแล้ว หันกลับมาพูดเหน็บผมพร้อมกับก้มหยิบอะไรบางอย่างตรงทางเดินขึ้นมากดเล่น ก่อนจะยื่นมันมาให้ผม�
���� ผมรับวัตถุชิ้นนั้นอย่างงงๆ แล้วมองชางมินที่เดินไปขึ้นห้องเรียนจริงๆ ซะที ผมกลับมาสนใจสิ่งของในมืออีกครั้งแล้วก็พบความกระจ่าง มือถือของปาร์คยูชอน
......
............
.................
.
�“แกทำท่ายุกยิกหาอะไรอยู่ว่ะไอ้ยูชอน”
�� ผมถามยูชอนอย่างสงสัยเพราะตั้งแต่เห็นมันรีบวิ่งมาหาผมพร้อมกับถือลูกบอลที่ไม่รู้มันไปขโมยเด็กที่ไหนมา เพื่อมาเซ็นชื่อลงทะเบียนให้ทันผม แล้วรออาจารย์พาไปที่ห้องเรียนพร้อมกัน มันก็ทำท่ารื้นนู้นรื้อนี่อยู่ไม่สุขตลอดเวลา
�“โทรศัพท์ฉันดิว่ะ จำได้ว่าใส่ไว้ในกระเป๋ากางเกง แต่หาเท่าไรก็ไม่เจอ ในเป้ก็หาแล้วไม่มีไอ้ที่ว่าจะลืมไว้ในรถก็ไม่ใช่ เพราะฉันยังใช้คุยกับแกก่อนขึ้นมาเนี่ย” ยูชอนพูดไปพร้อมทั้งยังพยายามหาโทรศัพท์มือถือของมันต่อไป
�“แกไปทำหล่นไว้ที่ไหนหรือเปล่า คิดดีๆ สิ” ผมลองเสนอทางออก ได้ผลมันหยุดหา ทำท่าคิดทบทวนเหตุการณ์พร้อมกับพูดทวนความจำของตัวเองแล้วทำท่าประกอบ
�“ฉันลงรถมา เดินมาหาแกที่ตึกแต่ไม่เจอ แล้วเผอิญแกก็โทรเข้าเครื่องฉัน ฉันหยิบขึ้นมารับแล้วถามว่าแกอยู่ไหน เสร็จแล้วแกก็บอกว่าโดนพี่สะใภ้แกลากหนีเฮียแกที่กำลังทะเลาะกันมาส่งที่หน้าห้องอาจารย์ แล้วฉันก็บอกให้แกรอจากนั้นก็ ตูม... ใช่แล้วฉันนึกออกแล้ว ฉันโดนไอ้ลูกบอลบ้าเนี่ยอัดเข้าหน้า มันต้องหล่นตอนนั้นแน่เลย ทำไงดีว่ะ?”
����� พอนึกออกยูชอนก็ทำท่าร้อนรนทันทีเพราะจะออกไปเอาตอนนี้ก็คงทำไม่ได้ เนื่องจากอาจารย์กำลังพาไปแนะนำตัวกับเพื่อนๆในห้อง
���� “เอางี้ เอาโทรศัพท์ของฉันลองโทรเขาเครื่องนายดูเพื่อมีคนเก็บได้ แล้วจะได้นัดให้เขาเอามาคืน” ผมหยิบโทรศัพท์จากกระเป๋ากางเกงยื่นให้ยูชอน
���� “เออ ดีเหมือนกันถ้าหากมีคนเก็บได้ฉันจะได้สมนาคุณเขาอย่างงามเลย เพราะนั้นชีวิตฉันทั้งชีวิตเลย เบอร์สาวๆคนอื่นไม่เท่าไรแต่เบอร์ที่บ้านฉันบ้านคุณยายแล้วก็เบอร์น้องฉันเนี่ยสิ อ๋ออีกอย่างเบอร์น้องเยจินสุดสวยที่ฉันพึ่งได้มาจากพี่คังอินวันแข่งกับลูกแมวน้อยของแก ถ้าหายไปแย่แน่ๆเลยวันนี้ตอนเย็นฉันนัดน้องเขาไปแดนซ์ด้วย”
���� “ไวไฟจริงนะแก ที่นี่ยังไม่บรรลุนิติภาวะใครเขาให้เข้ากัน”
���� “ชองยุนโฮครับ หัดซิกแซกซะบ้างสิครับ เดินตรงๆแบบที่บ้านแกสอนมันน่าเบื่อจะตาย” ยูชอนพูดไปพร้อมกดมือถือแล้วยกขึ้นแนบหูอยู่สองถึงสามครั้ง
���� “ไม่ติดหรอ”
���� “เอออะดิ ตอนแรกก็ติดอยู่หรอกแต่ไม่มีคนรับ แล้วสักพักก็กดตัดสาย ฉันโทรเข้าไปใหม่ก็ปรากฎว่าปิดเครื่องไปเรียบร้อยแล้วว่ะ สงสัยต้องมีมือดีเก็บได้แล้วคิดจะเอาไปขายแน่เลย”ยูชอนยื่นโทรศัพท์คืนผมอย่างหัวเสีย
���� “ถ้างั้นก็ถือว่าทำทานไปเถอะว่ะ เดี๋ยวตอนเที่ยงแกค่อยโทรไประงับเครื่องหาย แล้วเย็นนี้เราไปก็อปเบอร์แล้วซื้อเครื่องใหม่กัน” ผมปลอบใจยูชอนเพราะเห็นว่ามันกำลังทึ้งหัวตัวเองด้วยความโกรธ
���� “ก็คงต้องเป็นอย่างนั้น เพราะแกคนเดียวเลย....ไอ้ยุนถ้าแกไม่ใจง่ายเดินตามพี่สะใภ้แกไปจนฉันตอนเดินหาแก จนซวยเจอลูกบอลอัดหน้า จนทำให้มือถือหายแบบนี้หรอก”�
���� มันพาลครับตอนนี้ไอ้เพื่อนผมมันกำลังพาลผมใหญ่ที่เป็นต้นเหตุให้โทรศัพท์มันหาย แล้วคิดหรอว่าผมจะง้อมันคิดผิดคิดใหม่ได้เลยไอ้ยูชอน เรื่องนี้ถ้าจะโทษไปโทษไอ้เฮียเนี้ยบเลยที่มันทำแฟนมันโกรธจนมาลากผมเอี่ยวด้วยแบบเนี่ย คนหล่อเซ็ง
�������
���� “เอ๊า... เธอสองคนจนยืนคุยกันตรงนั้นอีกนานไหม รีบเข้ามาแนะนำตัวกับเพื่อนๆในห้องสิ เดียวก็หมดชั่วโมงกันพอดี ฉันมีสอนต่อที่ตึก4นะ มันเดินไกลรู้บ้างไหม” อาจารย์โซอินยองอาจารย์ประจำชั้นผมเดินออกมาเรียกผมกับยูชอนที่ยังคงเถียงกันเรื่องโทรศัพท์อยู่หน้าห้อง ให้เข้าไปแนะนำตัวกับเพื่อนๆ
���� “ครับ/ครับ”ผมกับยูชอนขานรับแล้วเดินตามอาจารย์เข้าไป
���� “อย่างที่ครูบอกวันนี้จะมีนักเรียนใหม่เข้าเพิ่มในห้องเราสองคน เงียบ.....แล้วก็ทำความรู้จักกับพวกเขาด้วย”
����� อาจารย์อินยองกล่าวนำให้พวกผม และบอกเตือนเพื่อนๆในห้องที่ส่งเสียงกันเซ็งแซ๋อย่างไม่สนใจ เสร็จแล้วก้พยักหน้าให้ผมกับยูชอนแนะนำตัว โดนยูชอนมันยืนใกล้อาจารย์กว่าผมจึงเดินไปเขียนชื่อบนกระดานและแนะนำตัวก่อน�
���� ระหว่างที่ยูชอนแนะนำตัวไป ผมก็มองสำรวจเพื่อนๆในห้องทีหละคน จนไปสะดุดกับหัวบ้างคนที่พยายามเอาหนังสือบังตัวเองไว้แอบหลับอยู่หลังห้อง จะให้ไม่คุ้นได้ยังผ้าพันแผลยังเด่นเป็นสง่าอยู่บนหัว แล้วบรรดาเพื่อนๆที่นั่งอยู่รอบข้างอย่างกับไข่ขาวล้อมไข่แดง ไม่ผิดแน่เจ้าแมวน้อยจอมดื้อคิมแจจุงแน่นอน ถ้าเป็นอย่างนี้ฉันก็ต้องเจอนายตลอด 24 ชั่วโมงเลยนะสิ ทั้งที่บ้านและที่โรงเรียน เหมือนเราจะหนีกันไม่พ้นจริงๆแหละนะลูกแมวน้อย
������ *******************************************************
�������
���� มาแล้วจ้า......
���� พยายามอยู่ให้ตัวละครทั้งหมดทยอยออกมาให้ครบองค์กันสักทีถึงจะยังไม่หมดก็ตาม แก็งค์เทพก็ออกมาจนครบเป็นที่เรียบร้อยหละนะ หวังว่าคงจะชอบกันนะจ๊ะ ไปแระ วันนี้มาเร็วไปไวนิดหนึ่ง
�������
�������
�������
������
ความคิดเห็น