คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #4 : ช่วยชีวิต
Chapter 4
ใครทำน้องฉันเจ็บเดี๋ยวเจอกัน อิอิอิ
************************************************
"ฮยอนจุงฉันว่า รถไอ้แจมันแปลกๆว่ะ มันมีปัญหาอะไรหรือเปล่าว่ะ"
"ไม่รู้เหมือนกันว่ะไอ้เทมป์ ฉันก็ว่าอยู่มันส่ายๆยังไงไม่รู้ หรือแกว่าไงว่ะไอ้บอม"
"ฉันว่าเราถามมันดีกว่าว่ะ เดี๋ยวก่อนนะ ดีว่าฉันติดวิทยุสื่อสารไว้ในรถแกด้วย"คิบอมกำลังกดปรับสวิซเครื่องส่งสัญญาณในรถของคุณชายซึงฮยอน
"ได้แล้ว ไอ้แจ ไอ้แจ ได้ยินฉันไหมแก ตอบด้วย แจจุง คิมแจจุง"
ผมกำลังใช้ความพยายามอย่างมากในการบังคับรถอยู่ อยู่ๆตรงช่องวิทยุในรถผมก็มีไฟแดงๆ สว่างวาบเป็นระยะ ผมจึงเอื้อมมือไปกดสวิซ ข้างๆดู ปรากฎผมได้ยินเสียงคิบอม กำลังเรียกชื่อผมอยู่ ที่แท้ปุ่มที่กดนี่เป็นปุ่มเปิดสวิซวิทยุสื่อสารที่คิบอมติดไว้ในรถนี่เอง
"ได้ยินแล้วว่ายังไง"ผมตอบกลับไป
"รถแกเป็นอะไรรึเปล่า ฉันเห็นมันส่ายไปส่ายมาผิดปกติ"
"ไม่รู้เหมือนกันว่ะ คุมยากซิบเป๋ง มันเหมือนแกว่งๆ ตรงข้างขวาว่ะ"
"เดี๋ยวนะเว้ย! ฉันขอดูก่อน ว่าไงว่ะไอ้ท็อปเห็นอะไรบ้าง"ท้ายประโยคหันไปถามซึงฮยอนที่กำลังถือกล่องส่องทางไกลดูความผิดปกติของล้อรถทางด้านขวา ของรถเจ้าปัญหาอยู่
"ดูเหมือนยางมันจะรั่วว่ะ มันถึงส่ายๆ แล้วเป็นล้อหน้าด้วยว่ะ"ซึงฮยอนตอบกลับคิบอมไป
"ไอ้แจดูเหมือนล้อหน้าแก จะไปเหยียบอะไรมาว่ะ ยางมันรั่วรถแกถึงได้แกว่ง เชื่อฉันนะแกหยุดซะ!! ชะลอความเร็วเดี๋ยวนี้เลย!!! ไม่ต้องแข่งแล้ว เฮ้ย!!แกขับเร็วเกินไปแล้ว ชะลอความเร็วเดี๋ยวนี้เลยนะเว้ย!!!! มันอันตราย!!!"
คิบอมไขข้อสงสัยให้ผมรู้ พร้อมทั้งยังสั่งผมให้หยุดเกมส์แต่อีกนิดเดียว นิดเดียวจริงๆ ผมจะชนะอยู่แล้วเรื่องอะไรผมจะยอมแพ้ ผมจึงยังคงเร่งความเร็วเพิ่มขึ้น แล้วปิดวิทยุสื่อสารไป
"อะไรว่ะ!! มันไม่ฟังกันบ้างเลย มันจะดื้อไปทำไมว่ะ"คิบอมบ่นอย่างหัวเสีย เมื่อเห็นแจจุงยังไม่มีทีท่าจะชะลอความเร็วตามที่เขาบอก มิหนำซ้ำดูเหมือนจะเร่งความเร็วขึ้นด้วย
"แล้วฮยอนจุงตอนแกเช็ครถดูดีแล้วแน่หรือเปล่าว่ะ" คิบอมถาม
"ดีแล้วโว้ย ฉันเช็คทุกล้อเองกับมือ ระหว่างที่ไอ้ท็อปมันเช็คเครื่องยนต์"
"ตอนที่ฉันให้ลูกน้องป๊า มาเคลียร์พื้นที่ก็ดูกันดีแล้วนะเว้ย ว่าไม่มีตะปูหรือของมีคมเลย แล้วมันไปเหยียบโดนอะไรมาที่ไหนว่ะ ไอ้บอมแกกล่อมไอ้ดื้อนั่นอีกทีดิ"
ซึงฮยอนเริ่มร้อนใจที่เพื่อนหน้าสวยของเขายังดื้อที่จะเอาชนะเกมส์นี้อยู่ และเข้าก็ยังแครงใจว่าตั้งแต่เมื่อวานที่ฮยอนจุงได้รับโทรศัพท์ท้าทายจากรุ่นพี่ เขาก็ให้พวกลูกน้องพ่อเขาที่คุมอยู่แถวเขตนี้มาเคลียร์พื้นที่ ที่ใช้ในการแข่งเรียบร้อยแล้ว ทำไมยังมีสิ่งแปลกปลอมเข้ามาอีก(หึ หึ หึ แบบว่าพ่อท็อปเป็นมาเฟียที่มีอิทธิพลมาคนหนึ่งของ
เกาหลีค่ะ)หรือว่าฝ่ายตรงข้ามจะเป็นคนทำ แต่เขาเองต้องเก็บข้อสันนิฐานไว้ในใจก่อนเพราะยังหาหลักฐานไม่ได้ อีกอย่างตอนนี้ชีวิตของเพื่อนจอมดื้อสำคัญกว่า
"ผมว่าที่ไปเหยียบอะไรมา ถามคนนี้จะดีกว่า"ผมที่เดินกึ่งลากกึ่งจุงชินดงมา ตอบความข้องใจของฝ่ายตรงข้ามพร้อมทั้งผลักชินดงออกไป เพื่ออธิบายความจริงให้พวกนั้นฟัง
"นายเป็นใคร?"คนที่ผิวขวา จมูกโด่ง หน้าเรียวงาม อย่างกับรูปปฎิมากรรมถามผม
"ฉันก็เป็นเพื่อนของคู่แข่งเพื่อนนายในสนาม"
"แล้วหมายความว่าไง? ที่ว่าไอ้อ้วนนี้รู้ดีว่ารถไอ้แจไปเหยียบอะไรมา"
คราวนี้เป็นคนคิวเข้ม แก้มป่องถามผม ส่วนคนหน้าคมสายตาพิฆาตกลับเดินไปที่ชินดงพร้อมทั้งกระชากตัวหมอนั้นไปชิดติดกับกระโปรงรถคันงามอีกทั้งดัดแขนแล้วพลิกตัวชินดงเอาหน้ากดลงกับกระโปรงรถ
"บอกมาที่หมอนั้นพูดว่านายรู้ว่า รถแจจุงไปเหยียบอะไรมาหมายความว่าไง หา ฉันสงสัยอยู่แล้วเชียวว่าพวกแกเล่นไม่ซื่อ ตกลงว่าไง"
ชินดงที่ตอนนี้ทั้งตัวโดนกดอยู่กกับกระโปรงรถกลัวจนลนลาน แต่มันก็น่าอยู่หรอก ก็ไอ้คนที่จำมันกดอยู่ท่าทางน่ากลัวน้อยซะที่ไหนหละ อีกทั้งเสียงขู่ที่ฟังดูยังไงว่าไม่ใช่แค่ขู่แต่กำลังจะเอาจริงมากกว่า ผมเองก็จะเข้าไปห้าม แต่ถูกคนหน้าเรียวขวางไว้ เจตนาผมแต่แรกเพียงเพื่อมาเตือนแล้วอยากให้ชินดงสารภาพผิดเท่านั้น แต่ดูเหมือนเรื่องราวกำลังจะใหญ่โตกว่าเดิม
"เออ ผมว่าคุณห้ามเพื่อนคุณให้ได้ก่อนดีกว่า"ผมลองเจรจาดู
"จริงด้วยว่ะไอ้บอม ติดต่อไอ้แจอีกทีดิ บอกมันเลิกดื้อซะที" คนที่ขวางผมหันไปพูดกับเพื่อนแก้มป่องของเขาที่กำลังกำวิทยุสื่อสารในมืออยู่
"เออแป๊บนะ เฮ้ย!! ไอ้แจ! ไอ้แจฉันของบอกแกครั้งสุดท้าย!เลยนะชะลอความเร็วเดียวนี้ ไม่ต้องแข่งแล้ว ได้ยินที่ฉันพูดไหม!! แจจุง! คิมแจจุง!! ย่าห์!!! คิมแจจุง
!! โธ่เว้ย!! ไอ้บ้า!!นี่ มันปิดสัญญาณไปแล้ว ทำไงดีว่ะ!!"
"สวดมนต์มั้งไอ้บ้าถามมาได้!! บอกมาเดี๋ยวนี้!ว่าไอ้พี่คังมันใช้ให้แกทำอะไร"คนหน้าคมเข้มหันไปตอบเพื่อน แล้วรีบกระชับแขนเพิ่มแรงกดลงไปที่ร่างของชินดงทันที
"โอ้ย!! บอกแล้วจ๊ะ บอกก็ได้จ๊ะ ฉันเป็นคนบอกให้เด็กมันเอาหมุดไปวางไว้เองตอนพวกนายเผลอ เรื่องนี้ลูกพี่ไม่เกี่ยว อย่าทำอะไรฉันเลยนะ อ๊ากกกก"เสียงกระดูกชินดงเริ่มลั่น
หลังจากที่อีกฝ่ายเพิ่มแรงกด
"ไม่ต้องมาแก้ตัวแทนไอ้พี่คัง งานนี้ถ้าเพื่อนฉันเป็นไรไปนะ พวกแกทั้งหมดเจอดีแน่ แล้วเอาไงกันต่อ"คนหน้าคมหันไปหาเพื่อนหน้าเรียว
"งั้นผมขอลองติดต่อเพื่อนผมได้ไหม?" ผมลองเจรจาดูอีกครั้ง หลังจากที่พวกนั้นพยักหน้าผมก็กดโทรศัพท์หายูชอนทันที ใจหนึ่งก็รู้อยู่ว่าสถานการณ์แบบนี้ใครจะรับ แต่อยากจะหวังให้ปฎิหารมันมีจริงดูสักครั้ง
------ตู๊ด------ตู๊ด------ตู๊ด-------ตู๊ด-----
เสียงสัญญาณดังแต่ละครั้งเหมือนจะหยุดลมหายใจ อีกทั้งสายตาหลายคู่ที่กำลังจ้องมาที่ผมอย่างกดดัน ผมได้แต่ภาวนาให้ไอ้เพื่อนรักกดรับดูสักครั้ง แต่ไม่ได้ผล
"รถหมอนั้นเป็นอะไร ทำไมมันดูแปลกๆ ว่ะ แต่ก็ช่างเหอะ อีกนิดเดียวฉันก็จะแซงนายได้แล้ว คราวนี้แหละเบอร์ของน้องเยจินก็จะเป็นของพี่มิกกี้"
อีกไม่ถึง 100 เมตร ผมขอใช้โอกาสตอนที่รถหมอนั้นมีปัญหาหน่อยแล้วกัน อย่าว่ากันเลยนะเพื่อน มันก็แค่เกมส์ ผมเร่งความเพื่อแซงรถคันหน้าทันที เขตธงแดงอยู่อีกไม่ไกลแล้ว หมอนั้นก็ยังพยายามคุมตำแหน่งกันผมไว้ แต่ผมว่าดูท่าจะไม่ง่ายกับรถที่สภาพแบบนั้น อีกนิดเดียวเท่านั้นผมก็จะแซงได้อยู่แล้วผมใช้จังหวะนี้แกล้งออกซ้ายตามคาดหมอนั้นตามเข้ามากันไว้
ผมจึงรีบเปลี่ยนหักกลับมาขวาแล้วเบียดเข้าเส้นชัยพอดี อยากกู่ร้องให้ดังๆเลยครับพี่น้องมิกกี้ยูชอนทำได้แล้วครับ รีบเบรกอย่างแรงพอรถจอดสนิทแล้วรีบลงจากรถทันที
แล้วผมก็เห็นไอ้ยุนเพื่อนผมวิ่งเข้ามาหา มันคงจะมาแสดงความยินดีกับผมเป็นแน่
"ไอ้ยุนฉันชนะว่ะ ฮ่าฮาๆ"ผมตะโกนตอบกลับอย่างดีใจ เมื่อเห็นมันวิ่งเข้ามาใกล้ แต่ที่แปลกมันวิ่งเลยผมไป แล้วผมก็เห็นรถคู่แข่งผมมุมวนจนท้ายรถปัดไปชนกันลังไม้ขนาดใหญ่ที่ใช้กั้นเลน สนามแข่งชั่วคราวครั้งนี้เข้าอย่างจัง
"ยืนบี้ออะไรอยู่ว่ะ!!ไอ้ไก่ ไปสตาร์สรถเดี๋ยวนี่เลย!!ฉันจะพาคนเจ็บไปโรงพยาบาล!!"
ไอ้เพื่อนยุนหันมาตะโกนสั่งผมเสียงเฉียบ ผมงงจนทำอะไรไม่ถูกวิ่งกลับไปประจำตำแห น่งคนขับแล้วสตาร์สรถตามที่มันบอกทันที ไม่นานมันก็กลับมาพร้อมคู่แข่งผมที่หมดสติอยู่ในอ้อมอกมัน คือมันอุ้มเขามาในท่าเจ้าชายอุ้มเจ้าหญิงแล้วเปิดประตูหลังวางคู่แข่งผมกับเบาะพร้อมกับตัวมันแทรกเขามาจับหัวหมอนั้นวางไว้กับตักมัน แล้วสั่งผมรีบออกรถ ผมเตรียมที่จะเข้าเกียร์เพื่อออกรถ อยู่ๆประตูที่นั่งข้างผมก็เปิดออกพร้อมกับบุคลปริศนาเข้ามานั่งประจำตำแหน่งแล้วปิดประตูลง
"มองอะไรเล่า? รีบไปดิ ถ้าเพื่อนฉันเป็นอะไรไปน่ะพวกนายต้องรับผิดชอบ"งงครับปาร์คงงอย่างแรงไอ้แก้มป่องนี่เป็นใครครับอยู่ๆก็ขึ้นมาสั่งเอา สั่งเอาผมมองคนนั่งข้างอย่างชั่งใจ
"ไปโรงพยาบาลพ่อฉัน ยังจะมองอีก นายจะขับไหมไม่ขับฉันขับเอง"ไม่ว่าเปล่าเจ้านั่นพุ่งมาแย่งพวงมาลัยผมเขยิบเตรียมเปลี่ยนตำแหน่งทันที ผมจึงเหยียบคันเร่งออกรถเมื่อเห็นฝ่ายนั้นทำจริงตามที่พูด
หลังจากออกรถมา บรรยากาศในรถเงียบมากจนน่าขนลุกผมมองไปที่กระจกหลังเห็นไอ้ยุนมันถอดเสื้อเชิ้ตสีอ่อนที่มันใส่เป็นเสื้อคลุมออกเหลือแต่เสื้อยืดสีเทาข้างในของมัน แล้วมันใช้เสื้อตัวที่มันถอด กดแผลที่หัวคนเจ็บทันทีเพื่อห้ามเลือดชั่วคราว ผมลอบมองคนนั่งข้างอย่างเกรงๆ ก็มันทำหน้าเครียดมองการกระทำของเพื่อนผมที่เบาะหลังอย่างไม่วางตา ผมเลยจึงคิดทำลายบรรยากาศที่แสนอึดอัดนี้ลง โดยการหันไปถามไอ้แก้มป่องหน้าเข้มข้างผมว่า
"แล้วโรงพยาบาลพ่อนายนั้น ไปทางไหน?" ได้ผลไอ้หมอนั้นหันมาทางผมทันที
"ไม่รู้แล้วทำไมไม่บอก!!!"
"ก็...ก็...พวกนายเร่งฉันจนทำอะไรไม่ถูกนิ"ผมตอบกลับอย่างเกรงๆ มันนิดๆ ก็มันเล่นตะโกนตอบมองผมตาขวางน่ากลัวอยู่ไหมหละ?
"เดี๋ยวพอถึงแยกข้างหน้านายเลี้ยวขวา แล้วเลี้ยวซ้าย แล้วก็เลี้ยวขวาอีกทีโรงพยาบาลอยู่ซ้ายมือ ฉันโทรบอกที่นั้นเรียบร้อยแล้ว"ผมทำตามที่สั่งทันที ไม่นานผมก็ถึงที่หมายถึง หมอและบุรุษพยาบาลเข้ามารุมกันที่รถผมเพื่อจะดูคนเจ็บ ทุกอย่างเกิดขึ้นอย่างรวดเร็วตอนนี้ผมกับไอ้ยุนมารอฟังผลอยู่หน้าห้องฉุกเฉิน ส่วนไอ้แก้มป่องลูกเจ้าของโรงพยาบาลยังคงวุ่นวายอยู่กับเหล่าคุณหมอและนางพยาบาลเรื่องเอกสาร สักพักเหล่าสมาชิกผู้รู้เห็นในสนามแข่งทั้งหมดก็กรูกันเข้ามาออกันอยู่ตรงหน้าห้องกันแน่นถนัดรวมทั้งพี่คังอินที่ดูร้อนใจเป็นพิเศษ
"เป็นอย่างไงบ้างว่ะ ไอ้แจจุงมันเป็นไงบ้าง" พี่คังอินตรงดิ่งเข้ามาถามผม
"ผมก็ยังไม่รู้เหมือนกันพี่ หมอยังไม่ออกมาเลย ใช่ไหมไอ้ยุน"
"อือ"
ผมตอบยูชอนไปสั้นๆ สีหน้าพี่คังอินดูไม่ค่อยดีเท่าไร ไม่นานผมก็เห็นเพื่อนๆของคนเจ็บตามมากันจนครบ และผมยังเห็นชินดงที่หน้าตาปูดบวมเดินตามมาห่างๆ 'โทษทีนะเพื่อน นายมันหาเรื่องเองนี่หว่า' ผมมองชินดงอย่างรู้สึกผิดหน่อยๆ ชินดงหลบตาผมเดินเลี่ยงไปทางพี่คังอินโดยมีคนหน้าคมเดินตามไปประกบ ไม่นานชินดงคุกเข่าแล้วพูดอะไรบางอย่างกับพี่คังอิน แต่พี่คังอินดูโมโหมาก สังเกตุได้จากการที่ชินดงพูดจบปุ๊บ พี่คังอินก็ถีบกลับปั๊บทันทีจนชินดงร้องไห้เข้าไปกอดขาเหมือนอ้อนวอนอะไรสักอย่าง แล้วพี่คังอินก็เดินหน้าเครียดมาทางผมกับยูชอน
"นายใช่ไหมที่ช่วยแจจุงไว้"พี่คังอินถามผมเสียงขรึม
"ค...ครับ" ผมตอบกลับอยาางเกรงๆแล้วหันหน้าไปหายูชอนเหมือนหาตัวช่วย เพราะท่าทางพี่เขาเหมือนข้องใจอะไรผมสักอย่าง หรือว่าจะโกรธที่ผมเอาเรื่องที่ชินดงทำไปบอกฝ่ายตรงข้าม แต่อยู่ๆพี่คังอินยื่นมือมาจับมือผมไว้
"ขอบใจนายมากเลยที่ช่วยแจจุงไว้ ไม่งั้นนะอีทึกเอาฉันตายแน่ถ้ารู้เรื่อง ขอบใจนายจริงๆ" ผมหันไปมองหน้ายูชอนอีกทีอย่างงงๆ ยูชอนก็มองผมกลับด้วยความรู้สึกเดียวกัน
"แต่เอ๊ะ มือนายมีแผลนิ" ผมมองกลับไปดูที่มือตามที่พี่คังอินบอก 'เออ จริงด้วยสิสงสัยจะเป็นตอนที่พยายามทุบกระจกรกช่วยเจ้านั้นออกมา' รอยแผลที่เกิดจากคมกระจกกระจายทั่วหลังมือ และตามแขนเล็กน้อย อีกทั้งมีเศษกระจกฝังอยู่ประปราย ที่ไม่ทันสังเกตุเป็นเพราะทุกคนรวมทั้งผมยังอยู่ในอาการตกใจกันอยู่ และเสื้อตัวที่ผมใช้ห้ามเลือดหมอนั้นที่ผมยังคงถือมันไว้อยู่บังแผลเอาไว้จึงทำให้ไม่มีใครเห็นมัน
"เฮ้ย แผลเยอะขนาดนี้ทำไมไม่บอกว่ะ ไอ้บ้ายุนนิ มัวแต่ห่วงคนอื่นอยู่ได้"ยูชอนเข้ามาดูแล้วดุผมทันที ตามมาด้วยคนที่ว่าเป็นลูกเจ้าของโรงพยาบาล เดินเข้ามาจับมือผมแล้วเรียกนางพยาบาลทันที
"คุณจวน ช่วยมาพาเพื่อนผมไปทำแผลด้วย แผลเล็กพวกนี้คงไม่เป็นไร แต่ก็มีแผลใหญ่ด้วยบางทีอาจต้องเย็บ เย็บสดได้ไหม?"วิเคราะห์หลังจากดูแผลที่มือแล้วก็แขนผม แล้วเงยหน้าขึ้นมามองผมเหมือนขอคำตอบ ผมจึงพยักหน้ากลับไป
"ดี งั้นคุณจวนฝากจัดการด้วย"
"ค่ะ"
พยาบาลผู้มาใหม่พยักหน้าแล้วขานรับแล้วพาไปห้องทำแผลทันที หลังจากทำแผลเสร็จผมก็เดินกลับมาที่เดิม แต่ดูเหมือนจะมีสมาชิกใหม่มาเพิ่มจากตอนแรก ที่ดูสะดุดตาผมก็คงจะเป็นผู้ชายร่างบางหน้าตาสวยไม่แพ้คนที่ผมช่วยชีวิตไว้ แต่ดูอารมณ์ร้ายน่าดู กำลังโว้ยวายอยู่หน้าห้องฉุกเฉิน โดยมีผู้ชายหน้าตาน่ารักอีก2-3คนคอยจับไว้ไม่ให้อาระวาดมากกว่านี้
"คิมแจจุงอยู่ไหน? คิบอมบอกมาไอ้น้องบ้านั้นมันอยู่ไหน"
"ใจเย็นก่อนน่า....ฮีชอล แกทำอย่างนี้น้องๆ มันกลัวกันหมดแล้ว"
"ยงเย็นอะไรกันหละ อีทึกพวกนี้มันก่อเรื่องกันขนาดนี้ จะให้ฉันใจเย็นได้ยังไง ว่าไงคิบอมบอกพี่มาเดี๋ยวนี้ ว่าแจจุงมันอยู่ไหน"
"คือ...คือพี่ครับ แจจุงอยู่ข้างในครับหมอเขากำลังตรวจอยู่ พี่รอข้างนอกสักพักนะเดี๋ยวก็ออกมา เอาอย่างนี้นะเดี๋ยวผมเข้าไปดูให้แล้วกัน"พูดจบคิบอมก็วิ่งเข้าไปในห้องฉุกเฉินทันที ปล่อยให้พวกที่เหลือยืนหน้าเจื่อนอยู่หน้าห้อง รองรับอารมณ์หนุ่มหน้าสวยแต่อารมณ์ร้ายต่อไป
****************************************************
ฮีนิม ออกมาแล้ว หุหุหุ สนุกหละคราวนี้ แจจุงตื่นมาจะเป็นไงบ้างก็ไม่รู้
แต่เจ้าชายหมีของเค้าสิ บาดเจ็บอ่ะน่าสงสาร งั้นเค้าขอไปดูแลก่อนนะอิอิอิ (จะโดนชมรมคนรักหมีเหมือนกันรุมไหมเนี่ย โทษฐานคิดจะเก็บพ่อหมีไว้คนเดียว ไม่รอช้าวิ่งหนีด้วยความเร็วสูง ฟิ้วววววว......)
ขอบคุณสำหรับทุกเม้มท์เลยนะค่ะ ซาบซึ้งจนน้ำตาจะไหลเลย ไม่ได้เว่อร์นะ จริงๆ
แค่ทุกคนติดตามผลงานของเค้า เค้าก็ดีใจมากแล้ว และทุกเม้นท์ก็๋เป็นแรงใจให้เค้าแต่งต่อไปได้อย่างดีเลยแหละ
เป็นแรงใจให้กันต่อไปนะ แล้วเค้าสัญญาว่าจะมาอัพบ่อยๆ ไม่ปล่อยให้ทุกคนค้างแน่นอน สัญญาด้วยเกียรติสมาชิกลัทธิยุนแจเลยเอา
เจอกันตอนหน้านะจ๊ะ
ความคิดเห็น