คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : เจ้าชายกวางจูมาแล้ว(แก้แล้ว)
ตอนที่ 2
“พ่อครับ ทำไมผมต้องไปด้วยหละให้ผมอยู่คอนโดก็ได้ ผมอยู่ได้ ไม่เห็นจำเป็น ต้องเป็นบ้านเพื่อนพ่อเลย”
(แกไม่ต้องมาต่อรองกับฉัน ฉันปรึกษากับแม่แกแล้ว แกไปอยู่นู้นดีที่สุด อยู่คนเดียวฉันไม่ไว้ใจ)
“โธ่ พ่อครับ พ่อคิดว่าผมเป็นคนยังไง ผมจะทำตัวดีๆ ไม่สร้างปัญหาให้พ่อแน่นอนผมรับรองน่า พ่อไว้ใจผมบ้างได้ไหม”
(ไม่!!! ฉันยังไม่อยากเสี่ยง แกเปลี่ยนมากี่โรงเรียนแล้ว และไม่ต้องคิดกบฎกับฉันด้วย มาให้ทันนัดตอนเย็นด้วย แค่นี้แหละ)
“พ่อ!! พ่อครับ!!พ่อ.. โธ่เว้ย ว่างสายใส่ผมอีกแล้วนะ”
ชองยุนโฮสถบอย่างหัวเสีย หลังจากที่หวังเจรจาต่อรองกับผู้เป็นพ่อให้ใจอ่อนปล่อยให้เขาอยู่คอนโดคนเดียวในระหว่างที่อยู่ที่โซล แต่ดูเหมือนจะไม่เป็นผล ตัวเขาเองอุตส่าห์หาเรื่องที่จะไม่ไปอยู่บ้านของญาติผู้พี่ ‘เชวซีวอน’ แล้วแท้ ๆ แต่พ่อเขาก็จับเข้าไปอยู่บ้านเพื่อนรักของพ่ออีกจนได้ แถมให้ข้ออ้างว่าอยู่ใกล้โรงเรียนใหม่อีกต่างหาก พอเขาคิดเถียงก็เปลี่ยนเรื่องพูด ทำเป็นไม่สนใจ เดินหนีเสียเฉยๆ หรือไม่ก็วางสายใส่เขาซะทุกครั้ง
“หงุดหงิดอะไรอีกว่ะ? ไอ้ยุน ทำไม แกยังต่อรองกับพ่อไม่สำเร็จอีกหรอ” ปาร์คยูชอน ชายหนุ่มร่างสูงดีกรีนักเรียนนอกที่นั่งฟังบทสนธนาของเพื่อนรักถามขึ้น
“ก็ใช่สิว่ะ พูดเท่าไรก็ไม่ยอมฟังเลยว่ะ อุตส่าห์ต่อรอง ไม่ยอมไปนอนบ้านไอ้พี่เนียบได้แล้ว แต่ก็ยังให้ฉันไปนอนบ้านเพื่อนเขาแทน เซ็งโคดเลยว่ะ แล้วนี่เห็นว่าชั้นบนเป็นบ้านชั้นล่างเป็นร้านอาหารวุ่นวายแน่ ๆ หมดกันชีวิตสงบสุขของฉัน”
ยุนโฮโวยวายอย่างขัดใจพร้อมกับทึ้งหัวตัวเอง เป็นภาพที่เพื่อนปาร์คเห็นแล้วต้องส่ายหน้าในบุคลิกเด็กเอาแต่ใจ เห็นแล้วอย่างเขาไปตบกระโหลกมันสักทีให้หายหมั่นไส้
นี่หรอเจ้าชายยุนโฮแห่งกวางจู ที่สาวๆทั้งจังหวัดคลั่งนักคลั่งหนา ถึงขั้นตบตีแย่งมันมาแล้วก็มี จนหนุ่มๆ ที่นั้นพากันอิจฉาและค่อยหาเรื่องมันอยู่บ่อยๆ แต่ก็ไม่เป็นปัญหาสำหรับชองยุนโฮทายาทรุ่นที่ 13 ของสำนักชินโจ สำนักสอนศิลปะป้องกันตัวอันเลื่องชื่อของกวางจูที่มีทั้งคนท้องถิ่นแล้วชาวต่างชาติเข้ามาฝากตัวเป็นลูกศิษย์กันมากมาย ไม่นับบริษัททัวร์ต่างๆ ที่ติดต่อเข้ามาขอเยี่ยมชมการเรียนการสอนอีก
ตระกูลมันจึงติดอันดับผู้ทรงอิทธิพลของกวางจูเลยทีเดียวเผลอๆ อาจจะของเกาหลีเลยก็ว่าได้ เพราะว่าสำนักมันดังไปไกลหลายต่อหลายประเทศในเอเชีย และแถบยุโรปบางประเทศ วัดได้จากกรุ๊ปทัวร์ชาติต่างๆ ที่เข้ามาเยี่ยมชม ลูกศิษย์ หรือแม้นิตยสารหัวนอกต่างๆ ที่มาขอสัมภาษณ์ และเห็นว่าพ่อมันมีทีท่าว่าจะขยายโครงการไปเปิดค่ายยังต่างประเทศ แต่ยังตกลงกันไม่ได้ว่าจะเริ่มต้นที่ประเทศใดก่อน
แม้แต่ตัวเขาเองก็เคยเข้าไปเรียนที่สำนักของยุนโฮมาแล้วเกือบ 6 ปี ก่อนที่เข้าจะย้ายตามพ่อไปอเมริกากับน้องชาย แม้เขาจะไปอยู่อเมริกาแล้วก็ยังติดต่อกับยุนโฮอยู่เสมอ จนเป็นเพื่อนสนิทเพียงคนเดียวของยุนโฮ คงจะด้วยเพราะบุคลิกภายนอกที่เป็นคนเคร่งขรึม ใบหน้าเรียบเฉยไม่แสดงอารมณ์ การวางตัวแสนสุภาพบวกกับหน้าอันหล่อเหลาของมัน จึงทำให้ได้ฉายาเจ้าชายแห่งกวางจู และทำให้มันเองเป็นคนมีเพื่อนน้อยเพราะต้องค่อยวางตัวให้ดูดีอยู่เสมอ พร้อมกับการฝึกหนักของตระกูล เนื่องด้วยมันเป็นผู้สืบทอดคนต่อไปของสำนัก เลยมีภาระอันหนักอึ่งไว้กับมันทั้งสองบ่า จึงทำให้ไม่มีเวลาใกล้ชิดกับเพื่อนคนไหนที่โรงเรียน
ติดกับจะเป็นที่หมั่นไส้ของผู้ชายทั้งโรงเรียนมากกว่า เพราะสาวๆ ตามล้อมหน้าล้อมหลังมันไม่ขาดสาย เช้า กลางวันเย็น อีกทั้งครูสาวๆ ในโรงเรียนก็ต่างเอาอกเอาใจมันตลอดจนมีเรื่องกับอาจารย์หนุ่มๆ บ้างนักเรียนชายบ้าง ทำให้ย้ายมาแล้วหลายโรงเรียน จนมันรู้ว่าผมกลับมาอยู่ที่โซลแล้วจึงวางอุบายกับพ่อมันของมาอยู่โซลกับผมด้วย เพราะโรงเรียนที่ผมย้ายมาเรียนนั้นเป็นโรงเรียนชายล้วน ซึ่งแน่นอนว่าปลอดภัยจากบรรดาสาวๆ เข้ามาวุ่นวายชีวิตมันแน่นอน แต่สำหรับผมปาร์คยูชอนมันเป็นชีวิตที่ขาดสีสันสิ้นดีเมื่อไม่มีสาวๆ
เห็นมันว่าใช้ทั้งลูกตื้อลูกอ้อนจนพ่อมันยอมใจอ่อนให้มันย้ายมาอยู่ได้ แต่ที่ผมเล่าเบื้องต้นว่ามันแสนจะดูดีเฟอร์เฟ็คอย่างนี้แต่นิสัยจริงๆ มันนะต่างกันสุดขั้วเลยทีเดียว
อ่ะอะไรนะ!! คุณอยากรู้แล้วหรอว่านิสัยจริงๆ มันเป็นยังไง...
...ไม่บอก...(อ้าวชายปาร์คค่ะ เล่ามาแล้วทำไมไม่เล่าให้จบหล่ะค่ะ) อย่าหลอกถามผมให้ยากเลย เอาเป็นว่าคุณค่อยๆ ดูไปแล้วกันว่าเด็กชายชองยุนโฮเป็นคนยังไง นี่ผมบอกใบ้นิยามความเป็นมันให้แล้วนะ อุ๊ย..เล่ายาวคอแห้ง ขอพักกินน้ำแป๊บกลับเข้าสู่เนื้อเรื่องกันดีก่า...(พูดเองตัดเองเฉยเลยนะค่ะ)
“นี่แล้วแกจะให้ฉันไปส่งที่บ้านเพื่อนพ่อแกเลยไหมหละ? “
“ไม่ต้องอ่ะ ยังไม่ถึงเวลาไปหารุ่นพี่ของแกก่อนดีกว่านัดไว้ไม่ใช่หรอ”
“เออ! ลืมเลยว่ะ ปานนี้พี่แกบ่นแย่แล้วมั้ง ขอบใจที่เตือน เออว่าแล้วแกจะเข้าชมรมเดียวกับฉันเลยหรือเปล่าว่ะ จะได้คุยกับพี่เขาให้ ไม่ต้องคัดตัวหรอฝีมือทายาทรุ่นที่ 13 ของชินโจ ซะอย่าง เซ็นชื่อเข้าชมรมวันนี้เลยก็ได้”
“พูดมากนะ!! ขับรถไป! ดูทางด้วยฉันยังไม่อยากตายก่อนมีเมีย”
“ครับๆๆๆ ตามบัญชาเลยครับเจ้าชาย”
ผมเผลอเรียกฉายาที่มันว่ายังไงก็ไม่ชอบออกไป ผลทำให้มันทำหน้างอแถมสะบัดบ๊อบใส่ผม ทำเสียงจิจ๊ะในลำคอเบือนหน้าออกไปนอกหน้าต่างท่าทางเหมือนเด็กขัดใจเป็นที่สุด มาแล้วครับนิสัยเด็กชายชองยุนโฮ เห็นแล้วอยากบิดปากห้อยๆ ของมันเหลือเกินถ้าไม่ติดว่าผมขับรถอยู่นะ (อย่านะค่ะปาร์ค -_-; ) ผมจึงได้แต่หัวเราะพร้อมกับส่ายหน้าให้กับท่าทางของมันแทน
.
.
.
.
.
“เฮ้ย!!!อีกนานไหมว่ะ ขี้เกียจรอแล้วนะเว้ย” คนสวยใจร้อนเริ่มนั่งไม่ติดแล้ว เพราะว่าฝ่ายตรงข้ามเลยเวลานัดมาครึ่งชั่วโมงแล้ว และเขาต้องรีบเอารถไปเก็บพร้อมทั้งช่วยอาปาปิดร้านที่วันนี้ดูจะปิดเร็วกว่าปกติ เพราะก่อนออกมาอาปาสั่งนักสั่งหนาว่าให้รีบกลับมาช่วยให้ทันปิดร้าน 5 โมงเย็น เหมือนจะรู้ว่าเขาจะเถลไถลไปที่อื่นต่อ
“ใจร้อนไปได้แก เดี๋ยวมันคงมาแล้วหล่ะรออีกหน่อยแล้วกัน”เป็นฮยอนจุงที่ตอบคำถามผมเหมือนเคย อีกสองคนคงไม่ต้องถามเพราะไอ้หน้าหล่อคุยโทรศัพท์นัดสาวๆ ของมันตามนิสัยคาสโนว่าฆ่าไม่ตาย
เพราะอะไรนั้นหรอเพราะมันเคยถูกสาวในสต๊อกจับได้ว่าคบหญิงพร้อมกันทีเดียว15 คน โอ้!!!! (O0O) มันทำได้ยังไงนะหรอผมก็ไม่รู้มากน้อยหรอก เห็นมันหัวหมุนตามง้อคนนู้นคนนี้อยู่ได้อาทิตย์หนึ่ง และมันก็เลิกบอกไม่สนแล้ว ‘ไว้เก็บสแปรใหม่ก็ได้ ยังมีอีกเพียบ’ โอ้!!!!อีกครั้งมันช่างกล้า แต่ก็จริงของมันเพราะหลังจากนนั้นไม่นาน สาวๆ ที่เคยงอนกลับเป็นฝ่ายโทรหามันซะเองจนมันจัดคิวแทบไม่ทัน หมั่นไส้สุดๆๆๆๆ ไอ้หล่อเลือกได้ ส่วนไอ้คุณชายแก้มป่อง ถึงมันจะมีบุคลิกที่นิ่งและแสนเย็นชาแค่ไหน แต่ใครๆ ก็รู้ทั้งนั้นว่ามันนะติดแฟนมักมากกก ก็จะใครซะอีกหละถ้าไม่ใช่คุณหนูลีทงแฮ ที่อยู่ชมรมเต้นของโรงเรียนผู้โด่งดัง เพราะอยู่ในกลุ่มดอกไม้งามของโรงเรียนด้วย
เอาะ!!!! ผมลืมเล่าไป ว่าโรงเรียนผมเป็นโรงเรียนชายล้วนที่ดังมากในโซลเพราะมีแต่เด็กฐานะดีหน้าดีของประเทศมารวมตัวกัน รุ่นพี่หลายคนเลยในโรงเรียนผมที่จบไปแล้วเป็น ดารา นายแบบ นักร้องบ้างหละ นักการเมือง นักธุรกิจชื่อดังบ้างหละ หรือแม้กระทั้งประธานาธิบดีของประเทศ เห็นไหมหละว่าโรงเรียนผมน่ะเจ๋งขนาดไหน แต่ว่าใช่ว่าใครก็เข้ามาเรียนได้นะครับถึงบ้านคุณจะรวยล้นมีเงินจ่ายค่าเทอมโรงเรียนผมมากแค่ไหน แต่ถ้าสอบเข้าไม่ได้ก็อย่าหวังว่าจะได้เรียน ไม่ใช่แค่สอบข้อเขียนที่มีแต่คนหัวดีเท่านั้นที่ผ่าน ยังมีสอบสัมภาษณ์สุดโหด และการสอบความสามารถพิเศษอีกหลายด้าน เห็นไหมครับว่ายากแค่ไหน คนระดับแย่ๆ ของโรงเรียนผมแต่ก็เป็นระดับท็อปของอีกหลายโรงเรียนเลยทีเดียว
แต่ก็มีสิทธิพิเศษสำหรับลูกหลานศิษย์เก่าที่เคยเรียนในโรงเรียนนี้ ที่ไม่จำเป็นต้องสอบข้อเขียนเพียงแต่สอบวัดความสามารถและสัมภาษณ์อีกนิดหน่อยก็เข้าได้แล้ว ฮ่ะ~ฮะ~ผมเข้าโรงเรียนนี้ได้ยังไงหนะหรอเพราะผมเก่ง ผมเท่ห์ ผมหน้าตาดี ยังไงหละ ฮะฮะฮ่า(สักนิดนะแจอ่า..-_-‘ ได้ยินมาว่าพ่อแจเป็นศิษย์เก่าที่นี้ไม่ใช่หรอ) ไม่ต้องบอกทั้งหมดก็ได้นะไรเตอร์ =3= (ขอโทษนะแจจุงอ่าเล่าต่อ น่ะ นะ)
หมดอารมณ์แระไว้เล่าต่อวันหลังแต่วันนี้ ผมต้องชำระความกับไอ้หมียักษ์คังอินก่อน กล้านัดคิมแจจุงแล้วมาสายเดี๋ยวแม่ เฮ้ย!! พ่อพาลไม่แข่งแล้วเอารถไปขายตลาดมืดเอาเงินไปให้อาปาเปิดสาขาที่ญี่บุ่นซะเลยเห็นอาปาบ่นๆ อยู่ว่าจะขยายสาขา คนสวยโกรธ
“ใจเย็นน่า...ฉันโทรไปบอกอาปาแกแล้ว ว่าแกต้องรีบมาช่วยฉันทำรายงานกลุ่ม หลังจากที่แกไม่โผล่หน้ามาช่วยฉันเลย 3 วัน ที่แกถูกอาปาแกทำโทษที่หนีไปกินเหล้ากับไอ้สองตัวเนี่ยจนเช้า” คิมคิบอมเพื่อนรักผมเก็บโทรศัพท์ที่ตอนแรกผมนึกว่ามันโทรไปอ้อนอาหมวยแฟนมัน แต่ผิดคลาดมันกับโทรไปเคลียร์ทางกับอาปาให้ผมต่างหาก มันช่างเป็นเทวดาในชีวิตผมซะจริงๆๆ โอ้!!!!คิบอมเพื่อนเลิฟ ผมทำตาซึ้งวิ้งๆๆๆใส่มันทันที
“หยุดเลย!!! ไม่ต้องมาทำตาวิ้งๆๆ หว่านเสน่ห์ใส่ฉันซะให้ยาก ยังไงฉันก็รักทงเฮคนเดียว แล้วก็ไม่ได้ช่วยฟรีๆ เงินเดิมพันวันนี้ส่วนของแกต้องให้ฉัน 10 %”
ผมฟังแล้วปรับสีหน้าโหมดเซงขึ้นมาทันที ที่ชมมันอยู่เมื่อกี้นี้ลบมันจากสมองให้หมด คิมคิบอมก็ยังคงเป็นคิมคิบอม ‘ไอ้งก’ ฉันขอแช่งให้คุณหนูทงแฮของแกแอบนอกใจแก!!!!เพี้ยง
“เลิกทำหน้างอได้แล้ว คนที่แกบ่นหามานู้นแล้ว”คราวนี้ไอ้หน้าหล่อสะกิดบอกผม ที่กำลังทำปากขมุบขมิบแช่งไอ้แก้มป่องนั้นอยู่
“ว่าไงครับรุ่นพี่ เห็นว่าวันนี้รุ่นพี่อยากล้างตา ผมก็ลืมหยิบน้ำยาล้างตาติดมือซะด้วย ฮึๆ” (มุขหรือนั้น:ไรท์เตอร์) ผมพูดพร้อมสงสายตากวนเท้าให้รุ่นพี่หน้าหมีเส้นเลือดที่หน้าผากเต้นตุบๆนิดหน่อยพอเป็นพิธี ความจริงผมกับพี่คังอินไม่ถึงกับเกลียดกันมากมายหรอเพียงแต่ผมหมั่นไส้เฮียแกนิดหน่อยที่เวลาไปไหนมาที่โรงเรียนที ต้องมีลูกน้องเดินตามกันเป็นพรวนอย่างผู้ทรงอิทธิพล แต่ใครใช้ให้คุณพี่หมีแกเป็นผู้คุมกฎของโรงเรียนผมหละ และประเด็นใหญ่ๆ เลยคือพี่มันเป็นผู้คุมกฎประสาอะไรครับ มันทำผิดหมดทุกข้อ ไม่รู้ตอนเลือกเนี่ยประธานนักเรียนคิดอะไรอยู่ครับ พี่’อีทึก’
อีกอย่างประธานนักเรียนโรงเรียนผมเป็นที่หมายตาของพี่หมีแกอยู่ แกจะไม่เกลียดผมเท่าไรถ้าผมไม่เผอิญเป็นน้องสุดที่รักของพี่อีทึกประธานนนักเรียนหวานใจแก ผมว่าแกคงอิจฉาที่ผมนะสนิทใกล้ชิดกับพี่ชายสุดที่รักของผมทุกวัน แกก็เลยหาเรื่องพาลผมได้ทุกวันเช่นกัน แต่ถึงจะหาเรื่องผมยังไงพี่ชายที่น่ารักก็เข้าข้างผมอยู่ดี จนกลุ่มผมก็เป็นที่จับตาของพี่แก พวกเราเลยไม่ค่อยลงรอยกันเท่าไร ดูอย่างแข่งรถครั้งนี้สิผู้คุมกฎที่ไหนมาท้ารุ่นน้องแข่งเอาของพนันอย่างนี้
“ไม่ว่ายังไงหรอก เพียงแต่ว่าวันนี้ฉันแค่มาเอารถที่ให้นายยืมคืนเท่านั้นเอง” ดูพี่พูดหน้าตาเฉยผมยืมพี่เมื่อไรครับ!!!
“ผมยืมพี่เมื่อไรครับ? เพราะเท่าที่จำได้รถคันนี้... ผมได้มาเป็นของรางวัลที่ผมแข่งรถชนะพี่!!!” ไวเท่าความคิดผมรีบพูดข้อเท็จจริงออกไป และไม่ลืมเน้นประโยคสุดท้ายให้พี่หมีได้ยินอย่างชัดเจน พร้อมทั้งมุ้ยหน้าไปทางไอ้รถคนที่ไอ้เทมป์มันนั่งอยู่ตั้งแต่ตอนที่ผมมาคนนั้นแหละ เพราะคิมแจจุงคนนี้คิดอะไรก็พูดออกมาอย่างนั้นเสมอ
“จะด้วยอะไรก็ช่าง วันนี้ฉันจะมาเอาคืน และต้องได้คืนด้วยเพราะวันนี้ไพ่ตาย นายเตรียมตัวแพ้เลยคิมแจจุง”
“ผมก็อยากรู้เหมือนกันว่าไพ่ตายของพี่จะเด็ดแค่ไหน” และทั้งสองก็แลกสายตาพิฆาตกันอย่างดุเดือด
"และมีอีกอย่างที่ผมอยากจะบอก" ผมปรายตามองไอ้พี่หมีอีกครั้ง
"อะไรของแก บอกมาไม่ต้องลีลา"
"พี่ลืมรุดซิบว่ะ ฮะฮ่าฮ่า..."
..............................................................................................
สั้นไปไหม แต่พระเอกก็ออกแล้วนะเออ ยังไงซะเจ้าชายเราก็น่ารักเนาะ
แจจุงแสบไหมหละ ตัวป่วนเลยก็ว่าได้ เลยต้องให้เจ้าชายเราปราบไงหละ
ยังไงก็ฝากเรื่องนี้ด้วยแล้วกันนะ
ความคิดเห็น