ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ~@~Pretty BOY~@~ทำยังไงดีผมไม่อยากเป็นเคะ!!!(YunJae)-Yaoi

    ลำดับตอนที่ #15 : ตีตราจองแล้วนะ

    • อัปเดตล่าสุด 27 ก.ค. 53


    Chapter 14
     

    *************************

     "เฮ้ย.. เฮ้ย..ไอ้ยุน...คุณชาย....คุณชายชองครับ...เฮ้ย" 


         ผมกำลังพยายามดึงสติสะตัง ของไอ้เพื่อนยุนกลับมา โดยตะโกนเรียกชื่อและโบกมือผ่านหน้าอันแสนไร้อารมณ์ ของมันแต่ก็ไม่มีผลตอบรับใด ๆ กลับมาเลย ไม่รู้เป็นเพราะอะไรพักนี้ไอ้เพื่อนสุดหล่อของผม ท่านชายชองถึงได้มีท่าทางซึม ๆ หงอย ๆ เหมอลอยทั้งวัน เหมือนคนไม่มีวิญญาณ อย่างกับคนอกหัก


         แต่เดี๋ยว....อกหัก? คนอย่างเจ้าชายชองอ่ะนะอกหัก นี่มันข่าวใหญ่ในรอบ 18 ปีเลยนะครับเนี่ย ไม่รอช้าผู้สื่อข่าวปาร์คยูชอนต้องทำหน้าที่สัมภาษณ์เสียหน่อยแล้ว


         "ไอ้ยุนนนน......" ผมเลือกจะตะโกนใส่หูไอ้เพื่อนหน้าหมีที่นั่งเป็นรูปปั้นอยู่กว่าชั่วโมงแล้วตั้งแต่เลิกเรียนแล้วมานั่งอ่านหนังสือด้วยกันที่สวนในห้องสมุด


         โครม.....และได้ผลในที่สุดเจ้าชายชองของเราก็รู้สึกตัวแล้ว แต่มันไม่ดีตรงที่


         "ทำไมแกต้องถีบฉันว่ะไอ้หมีบ้า" ผมที่พยุงตัวเองลุกขึ้นหลังจากลงไปนอนวัดพื้นในสวนว่านิ่มหรือเปล่าด้วยฝีมือของเจ้าชายหน้าหมี


         "แล้วแกเรียกซะเสียงดังทำไมหละ อยู่ใกล้ ๆ กันแค่เนี่ย ฉันก็ตกใจนะสิ" ดูมัน...ยังจะโวยนะสุดหล่อผู้มีรอยยิ้มและคารมบาดใจสาวต้องมาเจ็บตัวเพราะแกสำนึกมีบ้างไหมไอ้เพื่อนยุน



         "แล้วที่ฉันเรียกแกดี ๆ แกได้ยินไหมหละ มัวแต่เหมออยู่ได้ สองสามอาทิตย์นี้แกเป็นอะไรไปว่ะ ทำอย่างกับคนอกหัก" ผมรีบทำประตูทันที


         "ใคร?...อกหักอะไร....แกบ้าหรือเปล่าคนอย่างฉันเนี่ยนะอกหัก" ดูมันยังอุตส่าห์เซฟลูกไว้ได้อีก ต้องเอาใหม่ปากแข็งนักนะแก ไอ้หน้าหมี


         "งั้นก็แล้วไป อย่าให้รู้นะว่าแกแอบคบกับใครแล้วไม่บอกฉันหนะ" ผมทำท่างอนขึ้นมาทันที


         "จะบ้ากันไปใหญ่แล้ว...ฉันเนี่ยนะ...มีใครแล้วจะไม่บอกแกคนแรก ทำเป็นน้อยใจไปได้อ่า ยูชอนอ่า..." ยุนโฮเข้ามากอดผมที่นั่งหันหลังกอดอกทำท่างอนใส่มันอยู่ทันทีจากด้านหลังของผม



         "ไม่ต้องมาทำเป็นพูดเลย ฉันว่าพักนี้แกมีอะไรปิดบังฉันอยู่ อย่านึกว่าฉันโง่ดูไม่ออกนะโว้ย" ผมพูดทั้งที่ยังนั่งหันหลังให้มันกอดอยู่อย่างนั้น (โอ้ไม่นะ......ทูยูหรอเนี่ย?)



         "โอ๋....ชอนชอนคนดีเพื่อนสุดที่รัก....อย่างอนยุนยุนเลยนะ" 



         ยุนโฮพูดพร้อมเอาหน้ามาซุกที่ไหล่ผม มาแล้วครับสรรพนามสุดเคะของมัน มันจะงัดมาใช้ก็ต่อเมื่อต้องการจะอ้อนใครสักคนที่มันแคร์มาก ๆ ซึ่งใครจะได้เห็นองค์ชายยุนจิตหลุดในภาคนี้มีไม่กี่คนเท่านั้นแหละครับ มันจะทำท่านี้โหมดนี้เฉพาะอ้อนผม ออมม่าของมันและจีเฮยน้องสาวสุดรักสุดหวงของมันเท่านั้น



         ตุ๊บ.......ผมได้ยินเหมือนเสียงกองหนังสือกองใหญ่ตกพื้นอยู่ใกล้ ๆ ทำให้ทั้งผมและเพื่อนยุนหันไปดูตรงต้นเสียงพร้อมกันทันที แล้วตัวของผมต้องชาวูบ เมื่อเห็นเจ้าตุ๊กตาตัวนุ่มของผมยืนแข็งอย่างกับรูปปั้นมองผมกับไอ้เพื่อนยุนกอดกันกลม ท้าทายสายตาเหล่าบรรดาเคะ เมะในโรงเรียนอยู่



         "ไม่ใช่อย่างที่นายคิดนะ....เฮ้ย...ปล่อยได้แล้วเว้ย" ผมพูดออกมาทันทีหลังจากที่มองแววตากลมใสที่จ้องผมกับไอ้ยุนอย่างไม่กระพริบพร้อมกับอ้าปากค้าง



         ขณะที่ผมหันไปบอกเพื่อนหน้าหมีของผมที่ตอนนี้มันทำหน้างง ๆ ที่ผมอยูดี ๆ ก็หันมาตวาดมันทั้ทีเมื่อกี้ยังเล่นกันดี ๆ อยู่เลย แต่เมื่อหันกลับมา กลับเจอแต่ความว่างเปล่าเพราะเจ้าตุ๊กตาของผมวิ่งดุ๊ก ๆ หนีออกไปแล้ว ผมไม่รอช้ารีบวิ่งตามไปทันที



         ผมวิ่งตามเจ้าตัวเล็กมาจนเกือบสุดทางเชื่อมตึกเรียน ทั้งที่เห็นตัวเล็ก ๆ ขาสั้น ๆ ทำไหมถึงวิ่งได้ไวขนาดนี้ ทั้งที่ผมเร่งฝีเท้าวิ่งไล่ตามมาติด ๆ 


         "เผลอแป๊บเดียว เจ้าตัวเล็กหายไปไหนซะแล้วเนี่ย..ไวจริง ๆ "


         ......................


         ..................................


         ..........................................



         "ซึงรี พักนี้นายเป็นอะไรไปหรือเปล่า เดี๋ยวนี้พอเลิกเรียนนายหายไปไหนทุกวันเลย วันนี้ถ้าฉันไม่บังคับนายมาทำรายงานปานนี้นายคงหนีกลับบ้านไปแล้ว" 


         ผมที่กำลังเดินเลือกหนังสือในห้องสมุดกับซึงรีอยู่ จึงตัดสินใจถามออกไปเมื่อเห็นว่าพักนี้เพื่อนของผมทำตัวเหมือนมีอะไรปิดบังไว้อยู่


         "เปล่านิ...นายนะคิดมาก" ซึงรีปฏิเสธผม แล้วทำทีเดินหนีไปดูหนังสือที่ชั้นถัดไปทันที อย่างนี้ยิ่งมีพิรุทเข้าไปใหญ่ ผมเดินตามไปถามต่อทันที



         "นายมีอะไรปิดบังฉันอยู่หรือเปล่า"


         "จุนซู ฉัน...อืมถ้าหากนายจะต้องตกอยู่ในสถานการณ์ที่...ที่..ที่...เอิม.." ผมมองซึงรีที่กำลังพยายามที่จะอธิบายเหตุผลอยู่อย่างติด ๆ ขัด ๆ อย่างขัดใจ



         "ที่อะไรหรอ?"


         "เอิม...ช่างมันเถอะ" 


         "พี่สองคนหาเจอหรือยัง ผมรอตั้งนานแล้วนะ แล้วอย่างนี้จะทำเสร็จไหมรายงานหนะ ไม่ไหวเลยจริง ๆ แค่ให้หาหนังสือแค่เนี่ยหายกันไปซะนาน"


         มาอีกแล้วไอ้เด็กนรกชิมชางมิน มาแต่ละครั้งปากไม่เคยอยู่สุขสักครั้ง ต้องคอยเหน็บคอยกัดผมตลอดเลยให้ตายสิ แล้วทำไมผมต้องซวยมาทำรายงานกลุ่มเดียวกับไอ้เด็กนี่ทุกทีสิน่า...


         "ก็กำลังหาอยู่นี่ไงหละ เก่งมากนักก็มาหาเองเลยสิ"



         "ไม่ต้องรอให้พี่บอกหรอกจุนจังผมหาในส่วนของผมเสร็จตั้งนานแล้ว อยู่นู้น..." 



         ชางมินชี้ให้ผมดูกองหนังสือกองใหญ่ที่ตั้งอยู่บนโต๊ะใกล้ ๆ ชั้นวางหนังสือที่ผมยืนอยู่ มันหาเสร็จตั้งแต่เมื่อไรเนี่ย เพราะตั้งแต่จำได้หลังจากที่เข้าห้องสมุดมาเจ้านี้ก็แจกแจงเรื่องรายงานแล้วก็ให้ผมกับซึงรีเข้ามาหาหนังสือ 



         โดยที่ตัวเองนอนรอที่โต๊ะในสวนข้างนอกแทน แล้วมันเอาเวลาที่ไหนเข้ามาหาหนังสือเป็นตั้งได้เร็วขนาดนี้ โดยที่ผมกับซึงรียังหากันไม่เจอสักเล่ม


         "อึ้งเลยหละสิ...ถ้าพี่รู้จักระบบสืบค้นในห้องสมุดบ้างผมคงไม่ต้องเหนื่อยลุกมาหามันเองแบบนี้หรอก" เจ้าเด็กกวนประสาทพูดพรางทำท่าบิดขี้เกียจ ผมมองแล้วเหยียดปากอย่างหมั่นไส้แล้วจูงมือซึงรีออกจากทางเดินระหว่างชั้นหนังสือเพื่อที่จะกลับไปนั่งที่โต๊ะ



         "แล้วนั้นพี่จะไปไหนหละ" ชางมินหันมาถามผมที่กำลังเดินเลี่ยงออกไป



         "ก็กลับไปนั่งรอคนเก่งอย่างนายหาหนังสือที่เหลือทั้งหมดเองไง เก่งนักก็หาทั้งส่วนของฉันและซึงรีด้วยสิไอ้เด็กบ้า..แบร่.." ผมตอบข้อข้องใจของชางมินที่ตอนนี้หน้าเจื่อนลงทันที



         "ได้ไงหละนี่มันรายงานกลุ่มนะ ต้องทำด้วยกันสิพี่จะยกทุกอย่างให้ผมทำคนเดียวได้ยังไงหละ"


         "ไม่สน" ผมทำท่าจะเดินหนีไปอีกรอบ จนชางมินต้องคว้าข้อมือผมไว้


         "ก็ได้..งั้นพี่ต้องยกหนังสือที่ผมหาทั้งหมดกลับไปไว้ที่โต๊ะด้วย ส่วนซึงรีนายมาช่วยฉันหาหน่อยแล้วกัน" ผมและซึงรีหันมามองหน้ากันแล้วพยักหน้าตกลงไปให้ชางมิน



         ผมยกหนังสือที่เจ้าเด็กบ้านั้นหามามากกว่า 5 เล่มแล้วแต่ละเล่มหนา ๆ ทั้งนั้น หนักเป็นบ้า ไม่รู้ทำไมอาจารย์สั่งงานแต่ละอย่างไม่เห็นใจโลมาตัวน้อยอย่างผมบ้างเลย



         ขณะที่ผมกำลังเดินพร่ำพรรณาคิดโทษอาจารย์เพลิน ๆ ระหว่างทางไปที่โต๊ะอยู่นั้น ก็มาเจอกับช็อตเด็ดบาดตาเข้าอย่างจัง ไม่อยากจะเชื่อปาร์คยูชอนที่ขึ้นชื่อเรื่องเป็นเสือผู้หญิงกำลังทำท่าแสนงอนที่เห็นแล้น่าหมั่นไส้ยิ่งกว่าผู้หญิงทำเสียอีก 


         กำลังกอดกันกลมอยู่กับเจ้าชายแห่งกวางจูที่บรรดาเคะในโรงเรียนกำลังคลั่งไคล้กันอยู่ ที่มีข่าวลือกันว่าชอบพอกันอยู่นางฟ้าสุดห้าวของโรงเรียน คิมแจจุง แล้วที่เขาลือกันอีกว่ายุนโฮมีเรื่องทำให้นางฟ้าของโรงเรียนโกรธ จนกระทั้งหน้ายังไม่อยากจะมอง คงไม่ใช่ว่ามากิ๊กกั๊กกับคนไม่รักษาสัญญาปาร์คยูชอนหรอกนะ



         ผมยังคงอึ้งกับภาพที่เห็นจนตัวชาไปหมด มือไม้ก็เหมือนไม่มีแรงยิ่งเห็นตอนที่ยุนโฮเอาหน้าซุกลงที่ไหล่ระหว่างซอกคอของยูชอนด้วยแล้วทำให้หนังสือในมือที่ผมถือมาล่วงลงพื้นทันทีจนเกิดเสียงดัง ทำให้ทั้งสองคนที่กำลังสวีทกันอยู่หันมามองที่ผมเป็นตาเดียว แต่ก็ยังไม่ผละออกจากกัน


         พอยูชอนเห็นผมก็รีบปฏิเสธทันที แต่ตอนนั้นสมองผมมันมึนไปหมดไม่อยากได้ยินได้ฟังอะไรทั้งนั้น เท้าผมก็รีบก้าวออกจากที่นั้นทันทีโดยไม่สนใจคำคัดค้านใด ๆ ทั้งสิ้น จนออกมาพ้นเขตห้องสมุดจากเดินเร็วเปลี่ยนเป็นวิ่งทันที หวังเพียงไปให้พ้น ๆ กับภาพที่ทำให้ใจของผมเจ็บอย่างไม่มีสาเหตุ จนมาชนกับใครบางคนเข้าเข้าอย่างแรง....ผลั๊ก...


         "เฮ้ย...เดินยังไงเนี่ยไม่ดูเลยหรือไง" (เขาวิ่งมาค่ะ)


         "ขอโทษครับคือผม...ผมไม่ได้ตั้งใจนะครับ" ผมรีบเอ่ยขอโทษทันที หลังรู้สึกตัวว่ากำลังนั่งทับอยู่ขาของใครบางคนอยู่พร้อมทั้งก้มหน้าไม่กล้ามองหน้าเขาแม้แต่น้อย


         "โอ้ย....ขอโทษแล้วมันหายไหมหละ แล้วช่วยลุกขึ้นซะทีฉันหนักนะ" ผมรีบสปริงตัวลุกขึ้นทันที 



         "โอ้ย...ทำไมซวยอย่างนี้ว่ะ แล้วทีเนี่ยจะไปแข่งได้ไหมเนี่ย เพราะนายแท้ ๆ เลยทำไมไม่รู้จักระวังที่นี่เป็นระเบียงทางเดินนะไม่ใช่สนามเด็กเล่นที่นายจะได้มาวิ่งซนได้"


         คู่กรณีของผมโวยวายขึ้นเมื่อเขาขยับลุกขึ้น แล้วพบว่าขาข้างที่ผมเผลอล้มไปทับเข้านั้นเกิดแพลงขี้นมา ผมเองที่ตอนนี้รู้สึกสับสนไปหมดทั้งความรู้สึกผิดที่ทำให้เขาต้องเจ็บตัวและเสียใจที่คน ๆ นั้นกำลังกอดกับคนอื่นททำให้น้ำตาที่คิดว่ามันไม่น่ามาไหลตอนนี้ก็เกิดไหลเอ่อออกมาอย่างไม่ขาดสาย




         "ฮึก..ฮึก...ผม...ขอโทษ...ฮึก....ฮือๆๆๆ" ผมเริ่มร้องไห้ออกมาเสียงดังอย่างไม่อาย ผลทำให้คู่กรณีผมตอนนี้หน้าหดเหลือ 2 นิ้วทันที


         "เฮ้ย...นายจะร้องไห้ทำไมเนี่ยฉันแค่เจ็บขาเพราะนายยังไม่ได้ตายสักหน่อย หยุดร้องเดียวนี้นะ คนอื่นเขามองกันใหญ่แล้ว"



         "ฮือๆๆๆ...ทำ..ไม..ต้อง..โกรธ...ด้วยอ่า...ผมไม่ได้ตั้งใจ....ฮือๆๆ"


         "จะบ้าตายฉันไม่ว่านายแล้วก็ได้ ได้โปรดเถอะหยุดร้องเสียทีได้ไหม ถือว่าฉันขอร้อง นะ..นะ.." เมื่อได้ฟังอย่างนั้นผมก็พยายามหยุดร้องทันที แต่ผลมันกลับตรงกันข้ามแทน


         "ฮือๆๆ..ฮึก..ผม..หยุด..ไม่..ได้อ่า...โฮๆๆๆ..." ผมทิ้งตัวนั่งลงร้องไห้ออกมาอีกครั้งอย่างไม่หยุด ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมถึงหยุดร้องไม่ได้เสียที นี่ผมกำลังเสียใจให้กับเรื่องไหนอยู่เนี่ย


         "แล้วฉันจะทำยังไงดีเนี่ย เอาว่ะ...เงียบซะนะ โอ๋ๆ"


         คู่กรณีผมขยับเดินกระเผลก ๆ เข้ามาใกล้ผมแล้วย่อตัวลงนั่งข้างผมพร้อมทั้งดึงผมเข้ากอด ลูบหลังให้ผมและโยกตัวไปมาเหมือนกำลังปลอบเด็กที่กำลังร้องไห้ และก็แปลกซึ่งมันได้ผล อยู่น้ำตาที่กำลังไหลมาไม่ขาดสายของผมก็หยุดลงเหมือนปิดสวิทยังไงยังงั้น



         "ถือว่าวันนี้ฉันซวยเองแล้วกัน" คู่กรณีผมพูดขึ้นอย่างปลง ๆ ทำให้ผมที่กำลังซบหน้าอยู่กับอกเขาต้องเงยหน้าขึ้นมามอง และสิ่งที่ผมค้นพบก็คือ....



         ตอนนี้ผมกำลังอยู่บนสวรรค์ใช่ไหมทำไมถึงมีนางฟ้ามาปลอบผมได้ ผมเห็นประกายวิ้ง ๆ อย่างกับออร่าสว่างจ้ามาจากใบหน้าของคน ๆ นี้ หรือเป็นเพราะน้ำตาผมที่ยังเอ่อ ๆ อยู่ที่ขอบตาทำให้ผมมองเห็นภาพแบบนั้น


         ทำไมตอนที่ชนเมื่อกี้ถึงไม่ได้สังเกตุว่าผมกำลังชนกับอะไรผมรีบผละออกทันที นี่ผมต้องทำความผิดใหญ่หลวงแน่ ๆ ที่ทำให้นางฟ้าเจ็บตัว ผมรีบมองหาปีกข้างหลังนางฟ้าทันที


         "นายมองหาอะไร เป็นอะไรไปอีกหละทีเนี่ย"


         "ผม ๆ แค่สงสัย.."


         "สงสัยอะไรของนาย"


         "สงสัยว่าปีกของคุณหายไปไหน" ผมพูดพร้อมกับชี้นิ้วไปข้างหลังนางฟ้าทันที


         "ปีกบ้าอะไรของนายฉันไม่ใช่ไก่นะจะได้มีปีก ร้องไห้จนเพี้ยนหรือไง หรือว่าจริง ๆ นายเพื้ยนอยู่แล้ว จะบ้าตายนี่ฉันนั่งคุยนั่งปลอบคนบ้าอยู่หรือเนี่ย..โอ๊ะ..โอ้ย..."


         นางฟ้าผมขอเรียกอย่างนี้ก่อนแล้วเพราะผมยังไม่รู้จักชื่อคน ๆ นี้เลยนิ รีบลุกขึ้นยืนอย่างหัวเสีย แต่เพราะรีบลุกขึ้นเร็วเกินไปจึงทำให้เกิดเจ็บที่ข้อเท้าขึ้นมาอีก


         "ให้ผมช่วยนะ ผมต้องขอโทษอีกครั้งที่ทำให้คุณต้องเจ็บตัวเพราะความซุ่มซามของผม" ผมรีบลุกขึ้นแล้วช่วยพยุงนางฟ้าทันที


         "รู้ตัวก็ดีแล้ว ว่าทำให้คนอื่นเดือดร้อน" นางฟ้ายังคงดุผม ทำไมนางฟ้าไม่ใจดีเหมือนในนิทานที่แม่ผมชอบเล่าให้ฟังก่อนนอนตอนเด็ก ๆ หละ ถึงแม้นางฟ้าจะใจดีปลอบผมจนหยุดร้องไห้แต่ก็ไม่เห็นพูดดีกับผมสักคำ


         "ว่าแต่ไปห้องพยาบาลไหม? ผมว่าคุณขาแพลงไปให้อาจารย์ที่ห้องพยาบาลดูก่อนไหม?"


         "ไม่เอา..ฉันไม่ชอบห้องพยาบาล ไม่ชอบกลิ่นยา"


         "แล้วจะทำยังไงดี เอาอย่างนี้แล้วกันคุณนั่งรอตรงนี้เดี๋ยวนะ" ผมรีบพยุงนางฟ้าให้นั่งรอผมที่ม้าหิน ใกล้ ๆ บริเวณนั้น จากนั้นผมก็รีบวิ่งไปที่ร้านขายน้ำในบริเวณใกล้ ๆ ทันที และไม่ลืมแวะไปเอายาที่ห้องพยาบาลแทนนางฟ้าที่เกลียดห้องพยาบาล




         ........


         ....................



         .............................



         "ยอโบเซโย..เฮ้ยไอ้บอมวันนี้ฉันคงไปแข่งไม่ได้ว่ะ ไม่ต้องรู้หรอกว่าเพราะอะไร เอาเป็นว่าให้ไอ้เทมป์แข่งแทนไปเลยไม่ก็ไอ้ฮยอนจุงมันนั้นแหละ เออฉันรู้น่าว่าคนวางข้างฉันเยอะอยู่ แต่มันไปไม่ได้นิหว่า...แกจะให้ฉันทำไง น่า...วันนี้แค่วันเดียวแค่นี้นะ"



         ผมรีบชิงวางสายก่อนที่ไอ้เพื่อนแก้มป่องมันจะเทศนาผม เพราะความจริงวันนี้ผมก็ไม่อยากไปแข่งสักเท่าไรหรอก แค่คิดว่าจะต้องไปแข่งแก้มือกับรุ่นพี่คังอินที่ไม่เข็ด หนีพี่ทึกกี้มาขอแข่งกับผมอีกรอบเพราะยังข้องใจในฝีมือที่แท้จริงของรุ่นน้องคนสำคัญที่เขาอุตส่าห์ภูมิใจนำเสนอว่าสามารถชนะผมได้แน่ กลับชนะเพราะรถผมมีปัญหา




         ผมก็ยิ่งไม่อยากไปเพราะแน่ใจอย่างมากว่าไอ้หมีอารมณ์แปรปวนนั้นต้องไปด้วยอย่างแน่นอน ยิ่งคิดแล้วยังโมโหไอ้บ้านั้นไม่หาย ที่มันเห็นผมเป็นที่รองรับอารมณ์มันหรือไงถึงขยันมากวนประสาทผมเสียทุกที


         แต่ดีที่ตั้งแต่ผมยื่นคำขาดตั้งกฎให้เจ้านั้นไม่มีวันเข้ามาใกล้และทำให้ผมต้องรำคาญใจอีก ก็ดูเหมือนจะได้ผล เพราะตั้งแต่วันนั้นผมก็ไม่เห็นหน้าหมี ๆ ของเจ้านั้นอีกเลย แม้ต้องเจอกันบ้างในห้องเรียนผมก็เลือกที่จะมองข้ามไม่สนใจราวกับเจ้าหมีนั้นไม่เคยมีตัวตนอยู่เลย


         หรือแม้จะอยู่บ้านเดียวกัน แต่ก็ดีที่เจ้านั้นรักษาระยะห่างทำให้ผมเกือบลืมไปแล้วด้วยซ้ำว่ายังอยู่บ้านเดียวกันจริง ๆ แต่ถ้าผมไปวันนี้ก็มีโอกาสทำให้ต้องเจอหน้ากันจัง ๆ อีกคิดแล้วเสียอารมณ์จริง ๆ 


         ดีแล้วที่ผมมาขาเจ็บแบบนี้ ว่าไปแล้วก็น่าขอบใจเจ้าเด็กนั้นที่วิ่งมาชนผมแล้วล้มมานั่งทับขาผม ถึงต้องเจ็บตัวนิดหน่อยก็ยังดีกว่าจะต้องไปเจอหน้าไอ้หมีบ้านั้น


         "ว่าแต่ไอ้เด็กนั้นทำไมไปนานจังว่ะ แล่วตกลงมันจะให้เรารออะไรเนี่ย เอ๊ะ...แล้วเราจะรอทำไมหละ กลับบ้านไปนอนเล่นเกมส์ดีกว่า"


         ผมที่คิดได้ดังนั้นก็ลุกขึ้น เตรียมตัวกลับบ้านทันทีพอกลับหลังหันจะเดินกลับบ้านเท่านั้นแหละก็ต้องเจอกับคนที่อุตส่าห์พยายามแทบตายที่จะหนีหน้า ชองยุนโฮ ที่เหมือนจะตกใจเหมือนกันที้เห็นผมเข้า ก็ทำท่าจะเดินหนีผมเหมือนกันแต่ก็หยุดเพราะ...



         "โอ้ย...ไอ้บ้าเอ้ยทำไมต้องมาเจ็บตอนนี้ รอให้มันไปก่อนก็ไม่ได้"


          ผมได้แต่ลอบบ่นกับตัวเองเสียงเบา เพราะไม่อยากออกอาการมาให้เจ้าบ้านั้นรู้ โดยกัดฟันเดินกระเผลกต่อไปอย่างไม่สนใจ แต่ก็ต้องตกใจอีกครั้งเมื่อเจ้าหมีนั้นจับข้อมือผมไว้ขณะที่ผมกำลังเดินผ่านไปจนพ้นอยู่แล้ว



         "นายเป็นอะไร"


         "ไม่เกี่ยวกับนาย..ปล่อย" ผมสั่งเสียเฉียบเพราะไม่อยากอยู่ใกล้คน ๆ นี้มากนัก


         "ไม่...นายตอบฉันก่อน"


         "แต่เท่าที่ฉันจำได้ นายไม่มีสิทธิมาถามฉันและอยู่ใกล้ฉันแบบนี้นะ" ผมจ้องหน้าเจ้าหมีอย่างไม่กลัว ให้มันรู้ไปถ้านายจะงัดข้อกับฉันก็ลองดูอีกก็ได้ว่าใครจะชนะ


         "นายจะบอกเพราะว่าข้อตกลงของนายกับฉันงั้นหรอ งั้นก็ฟังใหม่นะถ้านายบอกว่าฉันเป็นเบ้นายเพราะว่าฉันแพ้พนันนั้นก็คงใช่ แต่ถ้านายว่าฉันอยู่ใกล้นายไม่ได้เพราะนายสั่งห้ามอันนั้นมันก็สิทธิของนาย" 


         ผมที่ลองพยายามกลั้นใจยืนฟังเหตุผลของเจ้านี้อยู่ ก็เป็นงงกับคำพูดที่เหมือนจะให้เหตุผลแต่ก็ไม่เห็นได้อะไรเลย เพราะยังไงผมก็ยังเป็นฝ่ายเหนือกว่าอยู่ดี



         "แล้วไงนายต้องการจะบอกอะไรกันแน่?"



         "ฉันบอกให้นายฟังก่อนยังไงหละ" เจ้าหมีมองผมแล้วพูดเสียงเรียบ ดูมันยังจะทำมาเป็นสั่งทำเสียงเข้มอยู่ ๆ ก็มาในโหมดคลุมเคลืออีกแล้ว


         "ก็เข้าประเด็นสักทีดิ ชักแม่น้ำทั้ง 5 อยู่ได้ ต้องการบอกอะไรก็ว่ามา ฉันเบื่อเต็มทีแล้วกับบุคลิกกลับไปกลับมาของนายจะเอายังไง พูดมากน่ารำ....."



         ผมพูดได้เพียงเท่านั้น เพราะอยู่ ๆ เจ้าบ้าเนี่ยก็คว้าตัวผมไว้แล้วประกบปากหนาของมันกับปากผมทันที ส่งผลให้คำพูดของผมที่กำลังจะพ้นคำด่าเจ้านี่อยู่ต้องถูกกลืนหายไปพร้อมกับจูบที่เจ้าบ้าเนี่ยเข้ามาปล้นมันไปจากผม



         พอผมเริ่มหายจากอาการตกใจก็รีบสะบัดหน้าหนีทันที แต่ก็ไม่สามารถทำได้ถนัดเพราะเจ้าบ้านี้ใช่มือหนาที่มันดูจะเรียวสวยกว่าผู้หญิงเสียอีกจับล็อกใบหน้าของผมไว้ พร้อมจับปรับองศาเพื่อต้องการที่จะรุกล้ำและไล่ต้อนผมให้จนมุมมากกว่าเดิม ผมพยายามใช้มือทั้งสองข้างทั้งทุบไปที่มือและตามแขนแต่เจ้านั้นดูไม่สะทกสะท้านแม้แต่น้อย



         อีกทั้งขบริมฝีปากล่างของผมที่พยายามอย่างยิ่งที่เม้มให้สนิทเพราะไม่อยากให้ เจ้าหมีบ้านี่ปล้นชิงจูบแรกของผมให้ลึกซึ้งขึ้น จูบแรกที่ผมกะจะมอบมันให้น้องฮโยจูในวันครบรอบแต่กลับจะต้องมาเสียมันให้คนตรงหน้าเนี่ยหรอผมไม่มีวันยอม 



         เหมือนเจ้าหมีจะอ่านใจผมออกเจ้านั้นแกล้งผละจูบออกมา แล้วใช้นิ้วเรียวทั้งสองข้างเกลี่ยที่แก้มของผมเล่นพร้อมทั้งจ้องมองมาที่ดวงตาผมเหมือนพยายามจะบอกอะไรบ้างอย่าง แต่กลับก้มลงมากระซิบที่ข้างหูผมแทน


         "ตัวนายสั่นขนาดนี้ อย่าบอกนะว่าฉันเป็นจูบแรกของนาย เพราะถ้าเป็นแบบนั้นหละก็........ชีวิตนี้นายไม่มีทางได้จูบใครอีกแล้วหละคิมแจจุง" ผมมองเจ้าหมีบ้าที่มันเริ่มคำพูดเข้าใจยากกับผมเข้าให้อีกแล้ว




         "นายอยากรู้ไหมหละว่าเพราะอะไร"


         "เพราะ...อื้ม..." 


         แล้วผมก็เสียรู้ให้เจ้าบ้านี่จนได้ เพราะพอผมเปิดปากพูดอีกครั้งเจ้าบ้านี่ไม่รอช้ารีบประกบปากผมกลับทันทีอีกทั้งยังส่งลิ้นร้อนกวาดต้อนผมจนแทบทั้งเพดานปาก ลิ้นหนาพยายามเกี่ยวกระหวัดลิ้นเล็กของผมที่พยายามจะหลบหนีมันทุกทาง



         เจ้าหมีเลยเบนความสนใจผมโดย เลื่อนมือที่จับใบหน้าผมไว้มาลูบไปที่ลำคอผมไล่มาจับไว้ที่ไหล่มน และไล่กลับมาลูบที่ลำคอใหม่จนผมขนลุกแทบทั้งตัวจากสัมผัสแปลกใหม่ที่เจ้าบ้าหยิบยื่นให้อย่างที่ผมไม่เต็มใจเลยสักนิด 


         จนผมเริ่มออกฤทธิ์ขัดขืนปัดมือหนาที่เปลี่ยนมาลูบแขนและหลังผมแทน แต่เจ้าหมีนั้นยิ่งจูบผมเร่าร้อนกว่าเดิม อีกทั้งจับมือผมทั้งสองข้างรวบไว้ด้วยมือเดียวแล้วมืออีกข้าง โอบหลังผมให้แนบชิดเข้ามามากว่าเดิมจนแทบจะไม่เหลือช่วงระหว่างตัวผมกับไอ้หมีนี่แม้แต้น้อย



         ผมที่ตอนนี้จนมุมมันแทบทุกทางได้แต่ปล่อยให้เจ้าหมีบ้านี่ ผมได้แต่หลับตามปล่อยให้มันตักตวงจากผมจนพอใจ น้ำร้อน ๆ ก็เริ่มเอ่อออกมาจนท่วมดวงตาทั้งสองข้างอย่างเก็บกักมันไม่ได้อีกต่อไปแล้ว ผมที่พยายามอย่างยิ่งที่จะเข้มแข็งมาตลอดแต่ตอนนี้ผมได้เรียนรู้คำว่าแพ้แล้วหละ




         แล้วเหมือนว่าเจ้าหมีนี่จะรับรู้อีกครั้งว่าผมรู้สึกยังไง คงเป็นเพราะน้ำตาของผมเป็นแน่ที่สามารถตอบความรู้สึกของผมตอนนี้ทั้งหมดได้ ทำให้เจ้านั้นถอนจูบออกมาพร้อมมือข้างที่โอบเอวผมไว้ยกขึ้นมาเช็ดน้ำตาผมแทน



         "ถ้าฉันบอกว่าขอโทษ ฉันรู้ว่าแน่นอนนายไม่ทางให้อภัย เพราะฉะนั้น ฉันจะไม่พูดมันออกมาให้นายได้ยินแน่ แต่จะยืนยันคำเดิมแทนว่าต่อจากนี้ไป นายไม่มีทางได้จูบใครอีกแล้วหละคิมแจจุง นอกจากฉันชองยุนโฮคนเดียวเท่านั้น"



         ผมลืมตาจ้องมองคนตรงหน้าเหมือนว่า ที่ผ่านมาผมได้รู้จักใครกัน ใครคือชองยุนโฮตัวจริงกันแน่ คนเย็นชาไม่สนใจความรู้สึกใคร คนที่เอาแต่ใจตัวเอง คนที่ขี้เล่นคอยกวนประสาทพูดจาไม่เข้าหู หรือคนที่อบอุ่นคอยปกป้องผมอยู่เสมอ ตอนนี้ผมเหมือนกับเจอความว่างเปล่า ผมไม่สามารถรู้ได้เลย.......ตกลงนี่คือตัวตนที่แท้จริงของนายใช่ไหมชองยุนโฮ



         "และจากวันนี้เป็นต้นไป นายจะไม่ทางหนีฉันพ้นอีกแล้ว เพราะฉันจะเริ่มต้นทำทุกวิถีทางให้นายเป็นของฉันเพียงแค่คนเดียวตลอดไป เตรียมใจไว้ได้เลย"


         **************************************************

       
      อร๊ากกกกกกกกกกกกกกกก.... เกิดอะไรขึ้นกับหมีของเราเนี่ย เปลี่ยนโหมดกลายเป็นหมีหื่นเสียอย่างนั้น ทั้งที่ตอนแรกยังสับสนอยู่เลย แล้วประกาศความเป็นเจ้าของคิมแจขนาดนั้น จะรอดไหมเนี่ยแจจุง


         ส่วนคนที่รอคู่ยูซูที่แอลสปอยไว้ตั้งแต่ตอนที่แล้ว ต้องขอบอกว่าพยายามแต่งให้แล้ว (หลบรองเท้าที่ผู้อ่านปามาอย่างหวุดหวิด)


         ชายปาร์ค : เนี่ยนะพยายามผมออกมาแป๊บเดียวเองแถมยังทำให้โลมาน้อยเข้าใจผิดหนีผมไปอีกด้วย ไรท์เตอร์คนไม่รักษาคำพูด


         ไรท์เตอร์ : ปาร์คค่ะอย่างน้อยใจไรท์เตอร์อย่างนั้นสิค่ะ ยังไรท์เตอร์ก็ไม่ทำให้ปาร์คต้องผิดหวังหรอค่ะ น้องโลมากับปาร์คยังไงก็เนื้อคู่กระดูกคู่แน่นอนค่ะรออีกนิดนะค่ะ
        

              เพราะเราต้องทำการปลุกดีเอ็นเอความหื่นในตัวเจ้าชายหมีก่อน ไม่อย่างนั้นความสัมพันธ์ของคู่หลักเราจะดูคลุมเคลือจนเกินไปค่ะ หวังว่าสาวกยูซูคงยังไม่โกรธกันนะ   >-<; 
           
           
          
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×