ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ~@~Pretty BOY~@~ทำยังไงดีผมไม่อยากเป็นเคะ!!!(YunJae)-Yaoi

    ลำดับตอนที่ #14 : หวั่นไหว

    • อัปเดตล่าสุด 18 ก.ค. 53


    Chapter 13

      

    ***********************************

     ริมแม่น้ำฮัน ลมพัดเย็นสบายผู้คนต่างมาหามุมพักผ่อน บ้างก็พาหมามาเดินเล่น บ้างก็มาออกกำลังกาย พวกเด็กนักเรียนนก็ต่างมาหากิจกรรมคลายเครียดบ้างก็เล่นกีฬา จับกลุ่มกันคุยหรือเต้นแล้วแต่ความชอบ


     ผมกับพี่เขยตอนนี้เลือกมุมสงบ ๆ นั่งปรับทุกข์กันพร้อมโซจูเพื่อนรักแอนด์ของโปรด อีก 2 3 4 5 6 เอิ๊ก......หลายขวด(แล้วแกจะนับเพื่อ....)เรียงรายอยู่บนพื้นพร้อมเฮียวอนที่ดูนั่งแทบทรงตัวไม่อยู่


     นี่ผมคิดถูกคิดผิดที่ชวนเฮียแกมาอืม.....เป็นภาระว่ะเนี่ย....หวังว่าจะช่วยหาวิธีง้อฮีนิมเพื่อชีวิตอันสงบสุขเสียหน่อย แต่ตอนนี้เหมือนกำลังเพิ่มความทุกข์ให้ตัวเองยังไงไม่รู้


     “เฮีย...ไหวไหมเนี่ย” ผมเริ่มเป็นห่วงพี่เขยผมที่ตอนนี้หน้าแดงไปถึงหูแล้ว

     “หวาย.....ทาม...มาย...จา...มาย...หวาย..” 


         เฮียวอนที่ตอนนี้พูดอ้อแอ้ยิ่งกว่าเด็ก 5 ขวบ หันมาตอบให้ผมพร้อมส่งยิ้มหวานอย่างที่สุด ใครว่าเหล้ากินแล้วสามารถเปลี่ยนเราจากคนหนึ่งเป็นอีกคนได้เมื่อเริ่มเมา สงสัยจะเป็นจริงตามนั้นเพราะจากเฮียวอนคุณชายสุดเนื้ยบ ตอนนี้กลายมาเป็น เด็กชายชีวอนจอมเอาแต่ใจแล้วจะบอกให้


         “แจจุงอ่า....เฮียผิดมากหรอ...อึก..ทาม..มาย..ซินถึงเกลียด...เฮีย..อ่า” 


         คำถามรอบที่ร้อยหลังจากเมาเริ่มอีกแล้วครับ ผมทำหน้าบอกบุญไม่รับทันที ถ้าไม่เห็นแก่เงินรางวัลถ้าหากทำให้      ฮีนิมหายโกรธได้นะ ผมไม่ลงทุนมอมเหล้าพี่เขยจนตัวเองลำบากแบบนี้หรอกให้ตายสิ


         ฮโยจูจ๋ารออุปป้าอีกนิดนะ อุปป้ากำลังพยายามเก็บเงินเพื่อฉลองครบร้อยวันของเราอยู่ ยังไงอุปป้าก็จะพยายามเพื่อความรักของเรา ผมได้แต่บอกตัวเองแบบนี้ 


         เพราะตั้งแต่นั่งรถออกมากับเฮียวอนผมก็นึกวิธีนี่ออกทันทีว่าถ้าหากผมทำให้ฮีนิมกับเฮียวอนดีกันเมื่อไรผมต้องได้ค่าตอบแทนที่ทำความดีเพื่อพี่เขย ก็ในเมื่อมีพี่เขยรวยเราจะกลัวอะไร ฮ่าๆๆๆๆๆๆ 


         แล้วอีกอย่างถ้าผมทำสำเร็จก็เท่ากับความสงบสุขในชีวิตผมก็จะกลับมาเป็นปกติแน่นอน เห็นไหมว่าคิมแจจุงมีแต่ได้กับได้ ฮ่าๆๆๆๆๆ หัวเราะในใจอีกครั้งเพื่อความสะใจ


         “โธ่..เฮียผมก็บอกเฮียแล้วไงคนอย่างฮีนิมอ่ะนะจะเกลียดเฮีย ไม่มีทางเพราะนอกจากเฮียมีใครบ้างไหมจะทนนิสัยพี่ผมได้” ผมก็ยังคงย้ำความจริงรอบที่ร้อยให้เฮียวอนแกกลับไป ตอนไม่เมาไม่เห็นช่างพูดช่างถาม ทำไมตอนเมาถามเก่งจังว่ะ


         “เฮีย...ไม่เข้าจาย...แล้วทามมาย...ซินถึงคอยหลบหน้าเฮีย...อึก...” เฮียวอนยังคงถามผมต่อพร้อยยกขวดโซจูในมือขึ้นจ่อปากดี่มอย่างกับมันเป็นน้ำเปล่า ผมเห็นแล้วต้องแอบกลืนน้ำลายที่เฮียดื่มอย่างดุเดือดเกินเหตุ


         “พอแล้วเฮีย ดื่มมากไปเดี๋ยวก็ขับรถไม่ได้กันพอดี” ผมดึงขวดโซจูออกจากมือของพี่เขย พร้อมทั้งบอกความจริงซึ่งก็ไม่น่าพูดเพราะจากสภาพมันไม่น่าหวังให้ขับได้อยู่แล้วเละเทะซะขนาดนี้

         “ขาบ..กาบมายด้าย..ก้อ..เดิน..อึก..” ดูยังจะตอบเดินไปคนเดียวเถอะเฮีย จากแม่น้ำฮันไปคอนโดเฮียมันตั้งกี่กิโล พูดไม่คิด


         “นี่เฮียไม่อยากเจอฮีนิมแล้วหรอ” ผมคงต้องจำแลงกลายเป็นพี่เลี้ยงหลอกล่อเด็กชายซีวอนแล้วหละอารมณ์นี่ไม่งั้นถ้าปล่อยเฮียแกเมาไปกว่านี่ก็ผิดแผนหมดอ่ะดิ


         “อยาก..อึก”


         “ดีมาก ถ้าอยากเฮียต้องเขื่อผมกลับบ้านกัน เพราะถ้าเฮียเลิกกินและกลับบ้านตอนนี้รับรองไม่เกินครึ่งชั่วโมงฮีนิม ต้องมาหาเฮียแน่นอน”


         “จริงอ่ะ...ซินมาจริงอ่ะ...”


         เฮียวอนรีบปล่อยขวดโซจูที่พึ่งแย่งจากมือผมทันทีแล้วลุกขึ้นทำท่าจะเดินไปที่รถ ดีนะยังจำได้ว่าเอารถมาด้วย นึกว่าเฮียแกจะเดินกลับจริง ๆ ผมได้แต่เดินตามพร้อมเก็บซากขวดโซจูทั้งหลายใส่ถุงเพื่อไปทิ้ง เห็นไหมครับถึงผมจะชอบสร้างความเดือดร้อน แต่ก็มีความรับผิดชอบนะ


         เมื่อมาถึงคอนโดโดยสวัสดิภาพเพราะผมเป็นคนขับ ผมกับพี่รปภ.ก็ช่วยลากเฮียวอนที่เมื่อขึ้นรถก็หมดสติสัมปชันญะทันที แล้วแผนผมจะสำเร็จไหมเนี่ย ผมจึงรีบหาผ้าชุบน้ำเย็นเรียกสติเฮียแกทันที แล้วได้ผมเฮียแกสะลืมสะลือตื่นมาทันที


         “ซิน...อยู่หนาย...” ตื่นมาก็เรียกหาแม่เลยนะเฮีย เดี๋ยวจัดให้ไม่ต้องห่วง งานนี้ไม่ให้พลาดหรอก

         “เดี๋ยวฮีนิมก็มา เฮียรอแป๊บหนึ่ง” ผมรีบละจากเฮียวอนโทรหาฮีนิมทันที

          “ฮีนิมหรอ นี่เค้าเองนะ”

         (มีอะไรของแก ไอ้แจทำไมยังไม่กลับบ้าน เดี๋ยวอาปาก็โกรธอีกหรอกคราวนี้ฉันไม่ช่วยแกแล้วจริง ๆ นะ)


         แหม...ฮีนิมไม่หลุดคอนเซ็ปเลยนะ ได้ยินเสียงผมปุ๊บบ่นปั๊บ สงสัยวิญญาณออมม่าเข้าสิง ซึ่งความจริงถึงไม่สิงก็เหมือนจนอาปาจะแยกไม่ออกอยู่แล้ว ดีนะที่เป็นผู้ชาย? ถ้าฮีนิมเป็นผู้หญิงผมหละไม่อยากจะคิด อาปาต้องไม่ปล่อยให้ฮีนิมเป็นอิสระแน่ฟันธง 

         “ฮีนิมมารับเค้าหน่อยสิ ตอนนี้เค้ากลับบ้านไม่ได้”

          (เป็นอะไรของแกถึงกลับบ้านไม่ได้ แล้วตอนนี้แกอยู่ไหน) 

         “ เค้าอยู่คอนโดฯเฮียวอน ตอนนี้เฮียวอนเมามากเลยอ่ะ เค้าจะทำยังไงดี เฮียวอนเอาแต่เพ้อถึงฮีนิมไม่หยุดเลย กว่าเค้าจะลากกลับมาได้แทบตาย”


         ผมรีบปั้นหน้าเศร้าเล่าความเท็จ พร้อมทำเสร็จให้น่าสงสารประหนึ่งกำลังตกในสถานการณ์อันสุดแสนลำบากใจ เสียเหลือเกิน ซึ่งความจริงมันก็เหมือนจะเป็นอย่างนั้นจริง ๆ  แต่ก็ไม่ลืมเปิดสปิงเกอร์โฟนให้เฮียวอนได้ยินเสียงฮีนิม 


         ซึ่งเป็นไปตามคาดเมื่อเฮียแกได้ยินเสียงฮีนิมเท่านั้นแหละ จากที่นั่งสัปหงกก็เด้งตัวขึ้นอย่างกับติดสปิง โดดจากโซฟาพุ่งมาทางผมพร้อมส่งเสียงโหยหวนขึ้นมาทันที

         “... ซินจ๋า...อึก..วอนผิดไปแล้ว....อย่าทิ้งวอนเลยน้า.....อึก...” ผมไม่รอช้ารีบ ทำตามแผนต่อทันที


         “โอ้ย....เฮียผมไม่ใช่ฮีนิม ไม่ต้องมากอด...ผม... ฮีนิมได้ยินแล้วใช่ไหมมาด่วนเลยนะเค้าจะรับมือไม่ไหวแล้ว” 


         พอบรรจุจุดประสงค์ผมก็รีบวางสายทันที ต้องขอบคุณเฮียวอนที่ให้ความร่วมมือโดยไม่ตั้งใจ แค่ปฎิบัติการง้อนางมาร เฮ้ย เจ้าหญิงให้เจ้าชายก็สำเร็จ 


         พอผนขั้นแรกสำเร็จ ผมก็เตรียมจรลีออกจากห้องทันเพราะอย่างที่บอกเฮียวอนไป ว่าไม่เกินครึ่งชั่วโมงฮีนิมมาถึงแน่ แต่ก่อนกลับ ผมเดินไปที่โซฟาตัวเดิมที่ผมจับเฮียแกมานอนรอฮีนิมอีกรอบ


         “เฮีย...ยังไงผมก็เป็นน้องภรรยานะ...ผมช่วยเฮียมาขนาดนี้ นี่ถือเป็นค่ามัดจำนะ เพราะผมต้องการค่าแท็กซี่จะให้ผมนอนเฝ้าเฮียกับฮีนิมมันก็ไม่ควรใช่ไหมหละ ยังไงซะขอให้โชคดีแล้วกันนะ..บ้าย..บาย..”


         ผมบอกลาเฮียแกที่หมดฤทธิ์อีกรอบ โดยที่ไม่ลืมหยิบธนบัตรสี่ห้าใบจากกระเป๋าตังค์เฮียแก เป็นค่ารถกลับบ้าน และสอดกระดาษข้อความที่ผมเขียนไว้ใส่แทนธนบัตรที่หยิบออกมา โดยไม่ลืมดึงปลายกระดาษออกจากตัวกระเป๋านิดหน่อยให้พอเป็นที่สังเกตุ


         หลังจากนั้นก็รีบลงมานั่งรอดูผมงานข้างล่างตรงล็อบบี้ เพื่อเพิ่มความมั่นใจว่าแพนการสำเร็จจริง โดยเลือกนั่งมุมอับที่ลับตาคนแต่ก็มองเห็นภายในล็อบบี้อย่างชัดเจน แล้วหลังจากที่ผมลงมานั่งหาอะไรอ่านฆ่าเวลาไม่ถึงสิบนาที เป็นไปตามคาดเหยื่อของผมวิ่งตาลีตาเหลือกเข้ามาอย่างไม่สังเกตุรอบข้างเลยสักนิด มุ่งตรงไปยังลิฟท์ทันที


         ผมรอให้ฮีนิมขึ้นลิฟท์ไปก่อนแล้วค่อยกดลิฟต์อีกตัวตามไปติดเพื่อรอดูผลงาน พอลิฟท์จอดปุ๊บผมก็ค่อย ๆ โผล่หน้าออกมาสังเกตุการณ์เพื่อความชัวร์ และสิ่งที่ผมเห็นก็คือฮีนิมกำลังอาละวาดอยู่ตรงหน้าประตูเพราะไม่มีใครมาเปิดให้ ดีนะที่ผมไม่ใช่คนที่อยู่ในห้องนั้น ไม่งั้นไม่อยากคิดสภาพ...


         พอหลังจากนั้นฮีนิมหยิบคีย์การ์ดขึ้นมาเพื่อเปิดประตูและกดรหัส แต่ยังไม่ได้กดเปิดประตูก็เปิดขึ้นเสียก่อน แล้วผมก็เห็นมือปริศนาดึงฮีนิมเข้าไปทันที คงไม่ต้องเดาแล้วหละว่าเป็นใคร ฮ่าๆๆๆๆๆ 


         “เคลียร์กันเองนะครับเฮีย ผมฝากฮีนิมไว้สักคืนแล้วกัน ฮิ ฮิ ฮิ” เมื่อทุกอย่างสำเร็จเป็นอันว่าภารกิจของผมลุล่วง ถึงทีที่ฮีโร่ต้องกลับบ้านแล้วหละ ผมกดลิฟท์เพื่อเตรียมตัวกลับบ้านทันที


         .................

         .......................

         ................................


         “อ้าว...เฮ้ย....”

         “ซินจ๋า....ในที่สุดซินก็มาจริง ๆ “

         “เฮ้ย...ปล่อยนะ ไอ้สิงโตบ้า” 


         ผมที่กำลังจะเปิดประตูเข้าไปในห้องต้อง เพราะอยู่ ๆ ประตูก็เปิดแล้วผมกลายเป็นฝ่ายถูกลากเข้ามาในห้องซะเอง โดยฝีมือของเจ้าสิงโตบ้าตัวเนี่ยที่ตอนนี้มีสภาพไม่ต่างจากลูกแมวขี้อ้อนธรรมดา ๆ เลยไม่เหลือคราบราชสีห์สุดเท่ห์เลยสักนิด แต่นี่ก็ไม่ใช่เวลามานั่งวิเคราะห์สถานการณ์เพราะจุดประสงค์ของผมคือมาชำระความแล้วพาเจ้าน้องชายตัวแสบกลับบ้าน


         ผมพยายามดิ้นออกจากสิงโตน้อยที่ตอนนี้ได้แปลงร่างเป็นปลาหมึกอีกแล้ว ทั้งเกาะแน่นจนแกะไม่ออกแถมยังซุกซนเที่ยวเลื้อยไปเรื่อยอีก


         “เชวซีวอน ปล่อย” ผมเริ่มใช่โหมดโหดสั่งเจ้าสิงโตน้อย พร้อมจ้องหน้านิ่งได้ผล ซีวอนปล่อยผมทันที


         “ตอบฉันมาก่อน แจจุงอยู่ไหน” เจ้าสิงโตคอตกทรุดตัวนั่งลงที่โซฟา ส่ายหัวไปมา

         “หมายความว่ายังไง พวกนายออกไปด้วยกันไม่ใช่หรอ แล้วไอ้แจจุงก็โทรบอกฉันเองว่าอยู่ที่นี่กลับบ้านไม่ได้เพราะนาย แล้วตอนนี้นายมานั่งส่ายหน้าไม่รู้ไม่ชี้นี่มันเรื่องอะไรกันแน่”


         ผมยังคงเค้นเอาคำตอบกับคนตรงหน้าที่ได้แต่ก้มหน้านิ่ง ไม่พูดอะไรออกมาสักคำเห็นแล้วมันพลาดหงุดหงิดขึ้นมาทันที และผมก็ฉุกคิดขึ้นได้เลยเดินไปดูตามห้องต่าง ๆ ทันที แล้วก็เจอคำตอบไม่ผิดแน่ ไอ้น้องทรยศมันกล้าคิดแผนหักหลังผมตายแน่คิมแจจุง 

         เมื่อผมเจอคำตอบของเรื่องราวทั้งหมดแล้ว ผมก็กลับหลังหันเตรียมมุ่งตรงไปที่ประตูห้องทันทีเพื่อจะกลับไปชำระความกับไอ้น้องทรยศที่บ้าน แต่ก็ต้องหยุดเพราะเสียง ๆ หนึ่ง


         “รังเกียจผมมากขนาดนั้นเลยหรอ” เพราะอยู่เจ้ารูปปั้นสิงโตที่นั่งนิ่งอยู่ตั้งนาน ก็เกิดพูดประโยคระคายหูผมเข้า


         “ผมมันผิดมากใช่ไหมคุณถึง ทำเหมือนผมไม่มีตัวตน ถ้าผมมันแย่ขนาดนั้น ผมคงไม่กล้าดิ้นรนแล้วหละ” ผมได้แต่มองท่าทางของซีวอนอึ้ง ๆ นี่ผมกำลังแกล้งเจ้านี่แรงไปใช่ไหมเนี่ย


         “ส่วนเรื่องแจจุง อย่าไปโทษน้องเลยเพราะยังไงซะ เขาเจตนาดีที่อยากให้คุณกับผมปรับความเข้าใจ แต่เมื่อมันไม่เป็นผล และทำให้คุณลำบากใจขนาดนี้ ผมก็ขอโทษด้วย” 


         ซีวอนลุกขึ้นเงยหน้าที่ตอนนี้เจือไปด้วยหยาดน้ำตา สายเล็ก ๆ บนแก้มกราน มองมาที่ผมอย่างตัดพ้อ ซึงมันทำให้หัวใจผมตอนนี้หล่นวูบไปถึงตาตุ่ม จิตใต้สำนึกของผมพร่ำด่าตัวเองที่คอยเล่นกับความรู้สึกคน ๆ นี้มากเกินไป พอซีวอนพูดจบก็ก้มหัวให้ผมและหมุนตัวเตรียมเดินกลับเข้าห้องไปทันที


         ผมไม่รอให้เรื่องราวมันเลยเถิดใหญ่โตไปกว่านี้ น้ำตาที่ไม่คิดว่าจะไหลให้ใครง่าย ๆ กลับไหลเอ๋อเพราะคำพูดไม่กี่ประโยคของคน ๆ นี้ ผมรีบวิ่งไปกอดเจ้าสิงโตขี้น้อยใจจากข้างหลังทันที หวังเพียงที่จะให้เขาหยุดและฟังความจริงที่ผมอยากจะบอกตอนนี้


         “นายไม่ต้องขอโทษ นายไม่ผิด คนผิดทั้งหมดเป็นฉันเอง..ฮึก...” 


         ผมปล่อยโฮเสียงดังอย่างไม่มีความอายอีกต่อไปแล้ว ได้ผมซีวอนหยุดเดินหนีผมทันที แล้วหันหลังกลับมาใช่มือทั้งสองข้างประคองหน้าผมขึ้นมาเช็ดน้ำตาอย่างอึ้ง ๆ เพราะตั้งแต่คบกันมา 2 ปี ผมไม่เคยมีเรื่องให้ต้องมาเสียน้ำตาแบบนี้นอกจากตอนแสดงละคร


         “อย่าร้องนะคนดีของผม ผมมันไม่ดีเองที่ทำให้คุณต้องเสียใจ”

         “ไม่ใช่ฉันต่างหากที่ไม่ดี นายไม่ได้ผิดสักนิดแต่ฉันก็ยังอยากแกล้งนาย”

         “แกล้ง...”ซีวอนทวนคำบอกเล่าของผมอย่างงง ๆ 

         “ใช่..ฉันจงใจจะแกล้งนายเอง ฉันรู้ว่านายกับยัยฟานนี่ไม่ได้มีอะไรกันหรอก แต่ฉันแค่คิดว่าจะลองทำเป็นโกรธนายดู อยากรู้ว่านายจะทำยังถ้าฉันไม่หายงอนขึ้นมาจริง ๆ” 


         ผมตัดใจเล่าความจริงออกไปอย่างอาย ๆ เหมือนเด็กโดนคุณครูจับได้เมื่อทำความผิด ซึ่งสิ่งที่ได้กลับมาก็คือรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ของราชสีห์สุดหล่อตรงหน้า


         “แล้วรู้หรือเปล่าว่าเด็กดื้อ ที่ชอบแกล้งคนอื่นจะต้องถูกทำโทษ” ผมส่ายหน้าปฏิเสธ แล้วก้มหน้าลงเพื่อหนีสายตาของเจ้าสิงโตเจ้าเล่ห์ที่คิดจะกวางน้อยอย่างผม


         “อ้าว..ไม่รู้หรอกหรอ ผมนึกว่าซินคนเก่งของผม จะรู้ใจผมบ้างซะอีก คิดแล้วมันน่าน้อยใจจัง” สงสัยเจ้าสิงโตนี่จะอยู่กับผมมากเกินไป เพราะจากซื่อ ๆ เริ่มจะเจ้าเล่ห์ทันเหลี่ยมผมขึ้นทุกวัน


         “ตกลงไม่รู้จริง ๆ หรอ” เจ้าสิงโตนี่ยังไม่หยุดทำให้ผมอายสักที ผมได้แต่พยักหน้าแรงเพื่อตอบกลับไป


         “ผมให้โอกาสแล้วนะ ว่าจะยอมรับโทษเองหรือจะให้ผมต้องลงมือลงโทษด้วยตัวเอง แต่ผมบอกไว้ก่อนนะ ถ้าผมลงมือ ไม่ยอมให้กลับบ้านจริง ๆ ด้วย” 


         ท้ายประโยคเจ้าป่าเจ้าเล่ห์ไม่ลืมก้มลงมากระซิบที่หูผมพร้อมเป่าลมร้อนใส่ที่หูเหมือนต้องการแกล้ง ตอนนี้ผมเริ่มเข้าใจความรู้สึกของนักโทษประหารแล้วสิ ว่าก่อนโดนแขวนคอรู้สึกอย่างไร จะหนีก็ไม่ได้จะมีชีวิตอยู่ก็ไม่ได้เช่นกัน แต่ถ้าผมต้องโดนแขวนคอเพราะคนตรงหน้า ผมก็คงต้องยอมแล้วหละเพราะว่าถ้าเขาปล่อยผมให้เป็นอิสระจริงผมก็คงไม่เหมือนกัน


         เพราะฉะนั้นเชวซีวอนนายมีหน้าที่ ที่ต้องคอยดูแลและควบคุมหัวใจของฉันไปตลอดชีวิตจำไว้ ผมจึงต้องยอมรับการลงโทษนี้ด้วยตัวเอง โดยการเงยหน้าเขย่งปลายเท้าขึ้นเพื่อรับการลงโทษจากเจ้าป่าที่ตอบสนองการกระทำของผมอย่างโหยหาเพราะนี่คือสถิติที่เชวซีวอนกับคิมฮีชอลอยู่ห่างกันนานถึงสองอาทิตย์โดยไม่มีการติดต่อกันใด ๆ ในรอบ 2 ปี


         ....................

         ............................

         .......................................


         ทำไมป่านนี้ผมถึงยังนอนไม่หลับสักที ผมได้แต่พลิกตัวถามตัวเองไปมาบนเตียงหลังจากที่ ทำการบ้านเสร็จแล้วส่งเจ้ายูชอนเพื่อนตัวดีของผมกลับบ้านไปแล้วโดยที่ไม่ลืมชวนกินข้าวเย็นฝีมือของป้าเยอึน


         นี่ก็ล่วงเข้าไปจะเที่ยงคืนแล้ว ผมยังไม่ได้ยินเสียงอะไรเลยจากข้างห้องผมทั้งสิ้น นั้นก็แสดงว่าเจ้าแมวน้อยยังไม่กลับบ้าน ป่านนี้แล้วไปเล่นซนกับเฮียวอนของผมที่ไหนเนี่ย ยิ่งคิดผมก็ยิ่งนอนไม่หลับ


         “โอ้ย...ทำไมมันร้อนอย่างนี่เนี่ย” 

         ผมผลุดลุกขึ้นจากเตียงอย่างหงุดหงิดทั้งที่วันนี้ผมเปิดแอร์ตั้ง 23 องศา แล้วทำไมผมถึงรู้สึกไม่สบายตัวแบบนี้ ผมเลยคิดจะไปอาบน้ำอีกรอบเพื่อหวังว่าจะคลายความร้อนได้บ้าง 


         แต่พอผมคว้าผ้าเช็ดตัวเปิดประตูห้องออกไปเพื่อจะอาบน้ำ ก็เจอกับเจ้าลูกแมวพอดี ที่เดินฮัมเพลงจากเจ้าเครื่องเล่นเพลงตัวเล็กในกระเป๋ากางเกงผ่านหน้าห้องผมไปโดยไม่มีการสังเกตุเห็นผมสักนิดว่ายืนอยู่ ผมไม่รอช้ารีบคว้าข้อมือเจ้าลูกแมวไว้ทันที


         “เฮ้ย...อะไรว่ะเนี่ย อุ๊บ...อาย ว่ะ...เอี่ย...”พอเจ้าลูกแมวเสียงดังผมรีบเอามือตะคุบปากแดง ๆ ที่กำลังโวยวายนั้นทันที แต่ลูกแมวน้อยคิมแจจุงหรอจะหมดฤทธิ์... ไม่มีทาง....เจ้าตัวเล็กฟาดแขนฟาดขาใส่ผมไม่ยั้ง 


         “หยุดก่อน...นี่ฉันเอง” ผมส่งเสียงบอกเจ้าลูกแมวที่ตอนนี้กำลังพยศผมอย่างเต็มที่อยู่ พอเจ้าลูกแมวเห็นว่าเป็นผม แทนที่จะหยุดกลับฟาดกลับไม่ยั้งกว่าเดิมเข้าไปอีก


         “โอ้ย...ก็บอกไงว่าฉันเอง” ผมปล่อยเจ้าลูกแมวทันที ที่เจ้านั้นเตะเข้าที่หน้าขาผมอย่างแรง


         “เพราะเป็นนาย ฉันยิ่งต้องป้องกันตัวเองเข้าไปใหญ่ ไอ้คนไม่รักษาสัญญา” น่านโดนเตะไม่พอยังโดนด่าซ้ำเข้าไปอีก นี่มันกรรมเวรอะไรของผมเนี่ย


         “แล้วมาทำอะไรมืด ๆ ทำไมไม่ไปหลับไปนอน”


         “จะไปอาบน้ำ”


         “งั้นก็ไปดิ มายืนเก็กอยู่ขัดลูกตา” เจ้าลูกแมวต่อปากต่อคำกับผมเสร็จก็รีบทำท่าจะชิ้งเข้าห้องทันที แต่มีหรอที่ผมจะปล่อยให้โอกาสแกล้งเจ้านี่หลุดมือ

         “เดี๋ยว...”

         “อะไรอีกหละ” เจ้าลูกแมวแว๊ดใส่ผมทันที ที่ขัดใจ

         “ฉันหิวข้าว”

         “อะไรของนาย เมื่อตอนเย็นไม่ได้กินหรือไง ทำไมต้องมาหิวตอนดึก ๆ บ่อย ๆ ด้วย”

         “ก็กินแต่ตอนนั้นไม่ค่อยหิวเลยกินไปนิดเดียว แต่ตอนนี้หิวแล้ว”

         “ไม่..ทำ.. ไม่มีอารมณ์ เหนื่อยด้วย” เจ้าลูกแมวปฏิเสธผมทันที ดื้อไม่มีใครเกิน

         “ไม่ได้ นายสัญญากับฉันแล้วจะเบี้ยวหรอ ทีฉันยังไม่เบี้ยวนาย” ผมเริ่มปฏิบัติดกระตุกหนวดลูกแมวทันที


         “ยังจะกล้าพูดไอ้ที่นายทำเบี้ยวฉันยังดีกว่า พูดแล้วของขึ้นว่ะ..นายกล้าดียังไงพูดให้คนเข้าใจผิดไปทั้งโรงเรียนแบบนั้น แล้วทีเนี่ยฉันจะเอาหน้าไปไว้ที่ไหน ป่านนี้คนทั้งโรงเรียนไม่ลือเรื่องฉันกับนายหมดแล้วหรอ”


          เจ้าแมวรีบกระชากคอเสื้อผมถามไม่ยั้งทันที


         “ไม่เห็นต้องทำอะไร ในเมื่อนายไม่ได้เป็นอะไรกับฉันจริงทำไมต้องแคร์หละ” ผมตอบกลับไปหน้าตาเฉย ก็มันเรื่องจริง ยังไงผมกับเจ้านี่ไม่มีอะไรกันอยู่แล้วจะกลัวอะไร


         “พูดไม่คิด ก็ไอ้ที่นายทำเมื่อตอนเย็นมันทำให้ยังไงก็ต้องแคร์ เพราะถ้านายอยู่ใกล้ฉันก็แปลว่าเรื่องที่ว่านั้นมันจริง แล้วเราก็เรียนห้องเดียวกัน อยู่บ้านหลังเดียวกันอีกถ้าเพื่อน ๆ ที่โรงเรียนรู้ ฉันไม่ต้องตกเป็นแฟนนายไปตามที่เขาลือกันหรอ”


         “งั้นก็เป็นจริง ๆ ไปเลยสิ เอาไหมหละ” 

         นี่ผมพูดอะไรออกไปเนี่ย พูดไปโดยยังไม่ได้กลั่นกรองออกจากสมองเลยนะนั้นทำยังไงดีหละ แต่ว่าเจ้าแมวนิ่งไปเลยหละครับงานนี้  เจ้าแมวน้อยปล่อยคอเสื้อผมผลักออกทันที


         “นะ..นาย...ว่ายังไงนะ”

         “อะไร ฉันว่าอะไร ไม่ได้พูดอะไรเลยหูฟาดไปป่ะ” เจ้าแมวน้อยพยักหน้าอึ้ง ๆ

         “เออ..สงสัยจะใช่ฉันคงเบลอๆ นิดหน่อย นายคงไม่คิดอะไรบ้า ๆ แบบนั้นหรอ งั้นฉันไปนอนดีกว่า”


         “เดี๋ยวนายจะชิ้งอีกหรอ ข้าวฉันหละ” พอเจ้าลูกแมวทำมึนเดินเข้าห้องผมก็รีบจับไว้ทันที

         “ยุ่งจริงไปอาบน้ำไปเดี๋ยวทำให้ ราฮยอนเหมือนเดิมแล้วกัน ขี้เกียจ” 


         ผมรีบทำตามคำสั่งเจ้าแมวน้อยทันที แต่เมื่อกี้มันเหมือนภรรยาไล่สามีไปอาบน้ำแล้วคอยทำกับข้าวรอเลย ผมคิดไปพลางยิ้มไปพลางระหว่างอาบน้ำ เอ๊ะ..แต่ไม่สิจัเป็นแบบนั้นได้ยังไง ผมก็ผู้ชายเจ้านั้นก็ผู้ชายจะคิดบ้า ๆ แบบนั้นได้ยังไง ไม่ได้ ไม่ได้ เกิดอะไรขึ้นกับผมเนี่ยจะบ้าไปกันใหญ่แล้ว


         ผมออกมาจากห้องน้ำหลังอาบน้ำแล้วแต่ตัวเสร็จสรรพในนั้น ก็เห็นถ้วยเจ้าแมวน้อยกำลังยกหม้อราฮยอนมาวางที่โต๊ะพอดี


         “เสร็จแล้วมากินสิ” ผมกำลังจะเดินเข้าไปแต่ก็คิดได้ถึงความสับสนเมื่อกี้จึงชะงัก

         “ไม่..นายกินเถอะฉันไม่อยากกินแล้ว”ผมรีบปฏิเสธแล้วเดินกลับเข้าห้องทันที เจ้าแมวน้อยโว้ยผมตามหลังทันที

         “นี่นายผีเข้าหรือไงเมื่อกี้บ่นหิวจะตาย พอฉันทำเสร็จนายก็บอกไม่กิน อย่างนี่มันแกล้งกันชัด ๆนี่หว่า”

          เจ้าแมวน้อยพุ่งตามผมมาทันที แต่ก็ไม่ทันพอ เพราะผมก้าวเขาห้องปิดประตูลงกลอนแล้วล้มตัวลงนอนทันที  จ้าแมวได่แต่โวยวายผมอยู่หน้าห้อง


         “ชองยุนโฮ มันจะมากไปแล้วนะฉันไม่ใช่คนใช้นายหรือคนที่มานั่งรองรับอารมณ์ผีเข้าผีออกของนายนะ ไอ้บ้านี่ออกมาคุยกันให้รู้เรื่อง ชองยุนโฮ..” เจ้าแมวยังตะโกนด่าอยู่หน้าห้องผม 


         “ดีนายไม่ออกมาใช่ไหมถ้างั้นในฐานะที่นายเป็นเบ้ฉันเป็นเจ้านาย ฉันขอสั่งนายว่าต่อแต่นี่ไปห้ามนายเข้าใกล้ฉันเกิน 2 เมตร เจอหน้าไม่ต้องทัก ไปโรงเรียนก็นายต้องรอให้ฉันไปก่อนนายถึงค่อยไป ห้ามไปพร้อมกันเด็ดขาด ตอนกินข้าวฉันก็ไม่อยากเจอนายโดยไม่จำเป็น ไม่ต้องมาให้เห็นหน้าทั้งที่บ้านและที่โรงเรียน แล้วอยู่ให้ห่างฉันมากที่สุดเท่าที่จะมากได้”


         พอเจ้าแมวน้อยบอกจุดประสงค์เสร็จผมก็ได้ยินเสียงก็องแก็งในครัว เสียงเปิดน้ำที่อ่างล้างจานทันที บ่งบอกได้ว่าอาหารมื้อดึกที่เจ้านั้นทำคงลงถังขยะไปเรียบร้อยแล้ว  แล้วตอนนี้ผมเป็นอะไรไปเนี่ยทำไมอยู่ ๆ ไอ้ความคิดบ้า ๆ เนี่ยมันเข้ามาในหัวบ่อยจัง


         (นี่มันสมัยไหนแล้วว่ะ ชอบผู้ชายด้วยกันแล้วมันผิดตรงไหนความรักมันเลือกได้หรอว่ะว่าต้องหญิงชายเท่านั้น ชายรักชายไม่มีสิทธิ์) คำพูดของยูชอนอยู่ ๆ ก็แว๊บเข้ามาในหัวทันที


         “ไม่จริงอ่ะ ฉันคิดอะไรกับแจจุงที่ไหน ไม่จริง” ผมพูดบอกความคิดที่กำลังตีกันในหัวผมบวกกับคำพูดของยูชอน


         (แกอย่าปฏิเสธเลยว่ะว่าแกไม่ชอบเขา หลักฐานมันเห็น ๆ กันอยู่ ที่แกตามตอแยเขา หาเรื่องเขา แล้วที่แกตะโกนบอกเขาเมื่อตอนเย็นอีก มันตะโกนบอกรักกันชัด ๆ)


         “ไม่จริง...ฉันไม่ได้คิดอะไรกับนายแจจุง ฉันไม่ได้ชอบนายสักหน่อยเป็นไปไม่ได้” ผมปฏิเสธความคิดของยูชอนที่ฝั่งอยู่ในหัวผมแล้วหยิบหมอนปิดหน้าข่มตาหลับทันที

    *************************************

      อ๊ากกกกกหมีของเราเริ่มสับสนแล้วหละสิ แต่ว่าโดนสั่งห้ามเจอหน้ากันขนาดนั้น แล้วความรักของสองคนนี้จะเป็นยังไงต่อไปหละ(ยังจะกล้าถาม...แกแต่งเองไมใช่หรอ) ส่วนยูซูอย่าพึ่งน้อยใจ ตอนหน้าออกแน่นอนไม่ต้องห่วง งั้นวันนี้ไปก่อนนะ เจอกันครั้งหน้าจ้า..................
           
          

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×