ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [ RE-Write ] Try..!!! { MarkBam } // THE END

    ลำดับตอนที่ #20 : Level_19

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 14.54K
      202
      26 ก.ย. 58




    BamBam Past

     


    “แบมแบม “



    “.......”



    “ไอแบม”



    “.......”



    “ไอเหี้ยแบม..!!!



    “เชี่ยย..มึงจะตะโกนหาพ่องมึงเหรอนั่งกันอยู่แค่นี้”  

    ผมยกมือขึ้นปิดหูก่อนหันไปโวยใส่ไอคยอมที่นั่งอยู่ข้างๆ



    “กูเรียกตั้งนานแล้วเป็นห่าไรนั่งเหม่ออยู่ได้”



    “.......”



    “กลัวแพ้รึไง” 

    ส่วนนี่เสียงไอเนียร์ที่นั่งดูดนมเย็นอยู่ฝั่งตรงข้ามผม



    “กูว่าใช่แน่ๆ มึงกลัวแข่งแพ้พี่มาร์คล่ะสิ” 

    ไอคยอมรีบเสริมทัพทันที



    “กูไม่ได้กลัว”



    “หรา..”



    “เออดิ ทำไมกูต้องกลัวด้วย” 

    ผมหันไปพูดด้วยสีหน้าจริงจัง



    “พี่มันบอกข้อตกลงใหม่รึยัง” 

    ไอเนียร์ถามขึ้นลอยๆ



    “ยัง”



    “แล้วพี่มันบอกมั้ยว่าทำไมถึงขอเปลี่ยน ตอนแรกกูเห็นเค้าอยากได้มึงเป็นแฟนจนออกนอกหน้า”



    “นั้นดิ หรือพี่เค้าเบื่อมึงแล้วว่ะก็มึงแม่งเล่นตัวเหลือเกินเป็นกูกูก็เบื่อ” 

    ไอคยอมพูดขึ้น



    “แล้วมึงคิดว่ากูอยากเป็นแฟนมันนักรึไง!!!” 

    ผมตะโกนออกไปสุดเสียงจนคนทั้งโรงอาหารหันมามองพวกผมเป็นตาเดียว



    “เชี่ยแบม มึงจะตะโกนทำไมเนี่ยดูดิคนมองกันใหญ่แล้ว” 

    ผมหันไปมองรอบๆก็เห็นคนมองมาทางพวกผมจริงๆนั้นแหละ



    “ที่หงุดหงิดเนี่ยเพราะกลัวเค้าไม่อยากได้มึงเป็นแฟนแล้วใช่มั้ย” 

    ไอเนียร์ก็ยังคงเป็นไอเนียร์ที่ตรงไปตรงมาเหมือนทุกครั้ง ผมมองหน้ามันนิ่งๆไม่ได้โต้ตอบอะไรจะว่าไปที่พวกมันพูดมาก็น่าคิดนะ ทำไมอยู่ดีๆไอหัวเทาถึงอยากเปลี่ยนข้อตกลงทั้งๆที่มันพร่ำเพ้อขอผมเป็นแฟนทุกครั้งที่มีโอกาสหรือมันเบื่อที่ต้องตามตื้อผมแล้วจริงๆแต่ใครสนล่ะผมก็ไม่ได้อยากเป็นแฟนมันสักหน่อยอีกอย่างมันก็เป็นผู้ชายทำไมผมต้องอยากมีแฟนเป็นผู้ชายด้วย ไร้สาระ...



    “อย่ามาไร้สาระคนอย่างกูไม่แคร์เรื่องแบบนั้นหรอกเสียเวลา”



    “ปากดี..” 

    ไอคยอมยังแควะผมไม่เลิก



    “งั้นที่มึงนั่งจิตหลุดอยู่เนี่ยเป็นอะไร”



    “กูแค่คิดว่าจะเล่นยังไงให้ชนะเท่านั้นเอง”



    “แล้วคิดออกมั้ย”



    “ถ้าออกกูจะนั่งเครียดทำห่าอะไร



    “ไม่ออกก็เลิกคิดดิ มึงเอาเวลามาคิดดีกว่าว่าพี่มาร์คจะเปลี่ยนข้อตกลงเป็นอะไร”



    “จะอะไรก็ช่างแม่งเหอะถ้ากูชนะซะอย่างมันก็ไม่มีผลอะไรอยู่แล้ว”



    “มั่นหน้าไปอีกเพื่อนกู” 

    ไอคยอมสายหน้าไปมาอย่างเอือมระอาส่วนไอเนียร์ก็ถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่



    “ทำไม..พวกมึงคิดว่ากูจะแพ้รึไง”



    “มันก็น่าคิดป่ะว่ะ มึงเก่งอันนี้พวกกูรู้แต่พี่มาร์คนี่เรียกว่าโคตรเทพ กูได้ยินมาว่าพี่แกยืนชูตจากกลางสนามยังลงอ่ะ”



    “ไอสัส อย่าเว่อร์”



    “เห้ย..จริงๆนะมึงเค้าลือกันไปแซด”



    “เค้าไหนของมึงกูไม่เห็นเคยได้ยินเลย”



    “เออน่า มึงก็อย่าประมาทแล้วกันที่พวกกูพูดเพราะเป็นห่วงมึงนะ”



    “กูไม่แพ้แน่ พวกมึงคอยดูแล้วกัน...”



    ซวบ...เสียงลูกบอลสีส้มรอดห่วงสีขาวร่วงลงสู่พื้นสนาม ผมยืนหอบหายใจอย่างหนักไม่ต่างกับไอรุ่นพี่หัวเทาที่ยืนก้มลงใช้สองมือยันเข่าเอาไว้เหงื่อเม็ดหนาหยดลงกับพื้นสนามไม่ขาดสาย ผมหันไปมองสกอร์บอร์ดก่อนทรุดลงนั่งอย่างไร้เรี่ยวแรง ผลเป็นยังไงนะเหรอ



    “โถ่เว้ยย..” 

    ผมสบถออกมาอย่างหัวเสีย ใช่ครับผลออกมาอย่างที่ทุกคนคิดนั้นแหละผมแพ้ไอหัวเทา แพ้ขาด แพ้โคตรอนาถ แพ้แบบอายลูกอายหลาน คือถ้ามึงจะเก่งขนาดนี้มึงไปเล่นใน NBA เหอะ



    “พร้อมจะฟังข้อตกลงรึยัง..” 

    ร่างหนาเดินมายืนคล้ำหัวผมก่อนเอ่ยเสียงต่ำผมตวัดสายตาขึ้นไปมองพร้อมถอนหายใจออกมาอย่างเซ็งๆ



    “เออ..”



    “งั้นกลับห้องกัน” 

    ผมขมวดคิ้วฉับ



    “บอกมาตรงนี้แหละอย่าเรื่องเยอะได้มั้ย” 

    ทำไมต้องกลับไปบอกที่ห้องด้วย ประสาทป่ะว่ะ



    “ก็นี่ไงบอกอยู่” 

    เอ้า..เอาเข้าไปสะหมงสมองไปหมดและอะไรของพี่มันว่ะกูงง



    “อะไรของพี่ว่ะ เพ้อเจ้ออะไรเนี่ย”



    “ทำไมเข้าใจอะไรอยากจังว่ะ กูก็บอกอยู่นี่ไงว่ากลับห้องกัน”



    “เอ้า...ก็บอกให้พูดมาตรงนี้แหละจะกลับไปบอกที่ห้องทำไมว่ะ” 

    ผมเริ่มขึ้นเสียงตอบกลับไป



    “เฮ้ออ.. งั้นมึงตั้งใจฟังนะ” 

    ผมพยักหน้ารับอย่างลืมตัว



    “มึงต้องย้ายมาอยู่ที่คอนโดกู เริ่มมีผลตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป”



    !!!!

    ผมเบิกตากว้างทันทีที่มันพูดจบให้ผมไปอยู่กับมันเนี่ยนะ เหี้ยแล้ววว..



    “ไม่ไป..” 

    ผมรีบแย้งขึ้นมาทันที



    “มึงจะผิดสัญญาเหรอ”



    “ป่าวเว้ย..แต่ให้ทำอย่างอื่นได้มั้ยแบบนี้ผมไม่โอเค”



    “ทำไม..กลัวกูรึไง” 

    ก็เออดิ อยู่กับมึงกูจะหลับลงมั้ย ผมได้แต่เถียงในใจในขณะที่ปากเอ่ยเถียงออกไป



    “ไม่ได้กลัวเว้ย..”



    “ไม่กลัวก็ดี งั้นไปเก็บของแล้วย้ายมาวันนี้เลย”



    “แต่..”



    “ไหนว่าไม่กลัวไง” 

    ไอหัวเทาเอ่ยขัดอย่างรู้ทัน ผมมองมันนิ่งไม่พูดอะไรต่อที่นิ่งนี่ไม่ใช่อะไรนะกำลังประเมินผลอยู่ว่าการที่มันขอให้ผมไปอยู่ด้วยก็มีทั้งข้อดีและข้อเสียนั้นแหละ ข้อดีคือผมจะได้ประหยัดค่าใช้จ่ายของตัวเองแล้วไปผลาญทรัพย์สินของมันแทนส่วนข้อเสียคงหนีไม่พ้นเรื่องความปลอดภัยของช่วงล่างที่อาจโดนพรากไปตอนไหนก็ได้ แต่ถ้าผมปฏิเสธออกไปรับรองได้เลยว่าผมต้องโดนประนามหาว่าเป็นพวกไม่รักษาคำพูดแน่ๆทำไมผมต้องมาเจออะไรแบบนี้ตลอดเลยว่ะ



    “เฮ้ออออ...” 

    ผมถอนหายใจออกมาเสียงดังก่อนลุกขึ้นยืนเต็มความสูงแล้วหันไปเผชิญหน้ากับไอหัวเทาที่ยืนอยู่ข้างๆ



    “งั้นทุ่มนึงมารับหน้าหอด้วย” 

    ผมพูดแค่นั้นก่อนเดินผละออกมาไหนๆเรื่องก็มาถึงขนาดนี้แล้วคงทำอะไรไม่ได้นอกจากปล่อยเลยตามเลยนี่ถ้าไม่ติดว่าศักดิ์ศรีคล้ำคออยู่ผมไม่มีทางยอมไปอยู่กับมันแน่ๆอีกอย่างมันคงไม่กล้าปล้ำผมหรอก..มั้งนะ



    “มารอหน้าหอและกันเดี๋ยวกูขับหนูแดงไปรับ” 

    เสียงทุ่มต่ำดังไล่หลังมาก่อนที่ผมจะเดินพ้นประตูโรงยิม



    “เอาน่าไอแบม ไม่มีอะไรน่ากลัวหรอกอย่างน้อยก็ได้นั่งแลมโบล่ะว่ะ” 

    ผมเอ่ยปลอบใจตัวเอง ทั้งๆที่ใจเต้นรัวจนรู้สึกได้อย่างชัดเจน

     





    Mark Past



    ผมมองตามแผ่นหลังบางที่เดินพ้นขอบประตูออกไปรอยยิ้มกว้างเริ่มฉายชัดบนใบหน้าของผมทันที ไม่คิดว่าไอแสบจะยอมไปอยู่กับผมง่ายๆแบบนี้ ตอนแรกผมกะว่ามันต้องโวยวายเหวี่ยงใส่จนเป็นเรื่องใหญ่โตแต่ที่ไหนได้กลับยอมตกลงง่ายๆจนผมต้องประหลาดใจ



    “เป็นคนที่คาดเดาไม่ได้จริงๆสินะ” 

    ผมเอ่ยออกมาขำๆขายาวก้าวตรงไปหยิบกระเป๋าขึ้นมาสะพายเตรียมเดินไปเปลี่ยนชุด แต่ก็ต้องชะงักไปเมื่อมีเสียงดังขัดขึ้น



    “ฝีมือยังไม่ตกนิ กูนึกว่าหมดยุคมึงไปแล้วซะอีก”



    “.....” 

    ผมเงียบไม่โต้ตอบอะไร และก้าวขาเพื่อจะเดินออกไปจากตรงนั้น



    “แอชลี่กลับมาแล้วนะ” 

    ผมหันกลับไปมองคนพูดก่อนหรี่ตาลงนิดๆ



    “มาบอกกูทำไม”



    “เผื่อมึงอยากรู้ “



    “กูไม่อยากรู้ ทางที่ดีไม่ต้องเอาเรื่องผู้หญิงคนนั้นมาบอกกูอีก”



    “ใจแข็งจังน้าาา..ทั้งๆที่เมื่อก่อนรักมากขนาดนั้นแท้ๆ” 

    ผมตวัดตามองมันนิ่ง



    “มึงต้องการอะไรไอเซฮุน “



    “กูก็แค่อยากรู้ว่ามึงจะมีปฏิกิริยายังไงถ้ารู้ว่าแอชกลับมาแล้ว แต่จากที่เห็นดูเหมือนไม่แคร์แล้วนิ”



    “กุว่ามึงไปให้พ้นๆหน้ากูดีกว่า กูกำลังอารมณ์ดีไม่อยากมีเรื่อง”



    “ได้ของเล่นชิ้นใหม่แล้วล่ะสิ”



    “เสือก..”



    “โอเคๆ กูไม่เสือกก็ได้ งั้นกูไปนะเพื่อนรัก” 

    มันพูดขึ้นด้วยท่าทางกวนอวัยวะเบื้องล่าง ผมขบฟันแน่นจ้องมันเขม่งขณะที่มันเดินห่างออกไป



    “เมื่อไหร่พวกมึงจะหายไปจากชีวิตกูสักที” 

    ผมกำมือแน่นจนเอ็นขึ้น เรื่องราวในอดีตค่อยๆทะลักออกมาอย่างห้ามไม่ได้

     





    สองปีที่แล้ว...



    พลั่ก..หมัดหนักๆถูกปล่อยออกไปกระแทกเข้ากับหน้าใครอีกคนจนเซถลาไปด้านหลัง มาร์คในชุดนักศึกษาวิ่งตามไปคร่อมอีกคนพร้อมปล่อยหมัดออกไปอีกครั้งและอีกครั้ง



    “หยุดนะมาร์ค..เราบอกให้หยุดไง” 

    เสียงหญิงสาวกรีดร้องทั้งน้ำตา ทั้งยังพยายามห้ามเด็กหนุ่มในชุดนักศึกษาสองคนที่ตะลุมบอนกันอยู่หน้าคณะวิทย์กีฬาที่ตอนนี้มีผู้คนหยุดดูมวยกันอย่างเนื่องแน่น



    “ไอสัส..มึงคิดว่ากูโง่มากรึไง คิดว่ากูไม่รู้เหรอว่ามึงเอากับแฟนกู ตอนกูไม่อยู่” 

    มาร์คตะคอกใส่คนตรงหน้าสุดเสียง



    “เออ..พวกกูมีอะไรกันลับหลังมึง แต่กูกับแอชรักกันมาก่อนมึงตังหากที่มาทีหลัง “ 

    เซฮุนตะคอกกลับทั้งๆที่ยังโดนมาร์คนั่งคร่อมอยู่มือหนากระชากคอเสื้อเซฮุนขึ้นมาหมายจะใช้หมัดหนักๆกระแทกไปที่ใบหน้าเปื้อนเลือดอีกครั้ง



    “หยุด..” 

    เสียงแหบปนหวานดังขึ้นพร้อมแรงกระชากจากด้านหลัง



    “เป็นเหี้ยอะไรกัน อยู่คณะเดียวกันแท้ๆกัดกันอย่างกับหมา” 

    จียงรีบวิ่งมาทันทีที่มีรุ่นน้องโทรไปตามจะไม่ให้รีบได้ยังไงก็ไอน้องรหัสเค้าคนนี้เลือดร้อนอย่างกับอะไรดี มีเรื่องทีต้องมีคนเจ็บหนักไม่ก็ปรางตายจนต้องหามส่งโรงพยาบาล จียงรีบดึงมาร์คให้ลุกขึ้นจากตัวเพื่อนมันใช่ได้ยินไม่ผิดหรอกไอเซฮุนเป็นเพื่อนไอมาร์คเป็นเพื่อนที่มันรักมากที่สุด เซฮุนนับเป็นเพื่อนคนเดียวที่มันไว้ใจไอมาร์คเคยเล่าให้ฟังว่ามันกับเซฮุนโตมาด้วยกันเพราะพ่อแม่เป็นเพื่อนกันมันเลยสนิทกันมาตั้งแต่เด็กพวกมันเรียนที่เดียวกันตลอดเรียกได้ว่ามีไอมาร์คที่ไหนมีไอเซฮุนที่นั้น แล้วนี่มันเกิดเรื่องอะไรขึ้นทำไมพวกมันถึงทะเลาะกันแบบนี้



    “พี่จียงปล่อยผม...”  

    มาร์คสะบัดแขนออกจากการจับกุมของพี่รหัสแต่ก็ถูกรั้งเอาไว้อีกครั้ง



    “นั้นเพื่อนมึงนะไอมาร์ค มีอะไรค่อยๆคุยกันดิว่ะ”



    “มันไม่ใช่เพื่อนผม ผมไม่เคยมีเพื่อนเหี้ยๆแบบมัน” 

    มาร์คคำรามลั่นทั้งยังดิ้นไปมาจนจียงต้องเรียกเพื่อนมาช่วยจับเอาไว้



    “เป็นไรมั้ย เซฮุน” 

    เสียงหญิงสาวดังขึ้นก่อนร่างบางจะเดินเข้าไปประคองคนที่นอนจมกองเลือดอยู่ตรงหน้า



    “เราไม่เป็นไร แอชไม่โดนอะไรใช่มั้ย” 

    เซฮุนเอ่ยเสียงอ่อนพร้อมยันตัวลุกขึ้นโดยมีหญิงสาวคอยประคองไม่ห่าง



    “ไอเหี้ยเอ้ยย..” 

    มาร์คสะบัดตัวหลุดจากการจับกุมและพุ่งตรงไปกระชากเซฮุนเข้าหาตัวแอชลี่รีบเข้าไปจับมือมาร์คเอาไว้แน่นก่อนเอ่ยเสียงสั่น



    “อย่านะมาร์ค ถ้ามาร์ครักเราปล่อยพวกเราไปเถอะ” 

    มาร์คก้มลงมองหญิงสาวข้างๆตัวก่อนเอ่ยเสียงกร้าว



    “รักมันมากใช่มั้ย”



    “.......”



    “กูถามว่ารักกันมากใช่มั้ย !!!” 

    หญิงสาวสะดุ้งสุดตัวเมื่อมาร์คกลายเป็นมาร์คที่เธอไม่เคยรู้จัก



    “ตอบมา กูบอกให้ตอบ !!!



    “ใช่เรารักเซฮุน พอใจรึยัง”  

    หญิงสาวตอบเสียงแหบพร่าร่างบางสะอื้นจนตัวโยน



    “แล้วมึงมาคบกับกูทำไม เพราะเงินกูเหรอ หรือเพราะหน้าตากู มึงถึงกล้าทำกับกูขนาดนี้ มึงทำได้ยังไง”



    “คือ...คือเรา”



    “มึงอยากโง่เองทำไม กูพยายามบอกมึงหลายครั้งแล้วมึงเคยฟังมั้ย” 

    เซฮุนเอ่ยตระกุกตระกัก



    “เราขอโทษนะมาร์ค ขอโทษจริงๆ เราขอโทษ”

    แอชลี่ทรุดลงไปนั่งกับพื้นอย่างอ่อนแรงมาร์คหลับตาแน่นมือหนาปล่อยออกจากคอเสื้อคนตรงหน้าก่อนผลักร่างอาบเลือดออกห่างตัวส่งให้อีกฝ่ายล้มลงไปกองข้างๆหญิงสาวที่นั่งร้องไห้และพร่ำเอ่ยคำขอโทษออกมาไม่ยอมหยุด



    “เอามันไปให้พ้นหน้ากูก่อนที่กูจะฆ่ามัน แล้วต่อจากนี้พวกมึงจะไปตายห่าที่ไหนก็ไป ไป !!!” 

    หญิงสาวสะดุ้งมือเรียวรีบเข้าไปพยุงร่างที่นอนหมดสภาพข้างๆให้ลุกขึ้นอย่างทุลักทุเล



    “มึงอย่าคิดว่ากูจะยอมให้มึงทำกูฝ่ายเดียวนะไอมาร์ค “ 

    เซฮุนกัดฟันพูดก่อนค่อยๆดันตัวลุกขึ้นโดยมีหญิงสาวค่อยช่วยอยู่ไม่ห่างมาร์คได้ยินดังนั้นก็พุงตัวเข้าไปหาอีกฝ่ายทันทีแต่ถูกรุ่นพี่เข้ามารั้งตัวเอาไว้ได้ทัน



    “พอแล้วไอมาร์ค ไอเจย์มึงพามันไปสงบสติที่ห้องชมรมก่อนเดียวกูตามไป” 

    จียงเอ่ยเสียงเครียด รุ่นพี่ที่ชื่อเจย์พยักหน้ารับก่อนลากรุ่นน้องให้เดินตามตนไปยังห้องชมรมจียงมองหนุ่มสาวตรงหน้าด้วยสายตาคาดโทษพร้อมเอ่ยเสียงเรียบ



    “อย่าให้กูเห็นพวกมึงสองคนเข้าใกล้มันอีกไม่งั้นอย่าหาว่ากูไม่เตือน” 

    พูดจบก็เดินจากไปปล่อยให้คนที่พึ่งโดนขู่หน้าถอดสีอย่างเห็นได้ชัดใครๆก็รู้ว่าจียงมีอิทธิพลในมหาลัยมากขนาดไหน



    “ไปทำแผลกันเถอะ ดูสิเลือดไหลใหญ่แล้ว” 

    หญิงสาวยกมือขึ้นปาดเลือดออกจากหางคิ้วชายตรงหน้า เซฮุนเอื้อมมือไปจับมือเรียวเอาไว้ก่อนพาหญิงสาวเดินแหวกฝูงชนออกไป



    “เรื่องไม่จบแค่นี่แน่ กูจะเอาคืนมึงให้ได้ไอเหี้ยมาร์ค..” 

    รอยยิ้มเหยียดฉายชัดบนใบหน้าเปื้อนเลือด และหลังจากเหตุการณ์วันนั้นไม่นานแอชลี่ก็บินไปเรียนต่อต่างประเทศ ในขณะที่อดีตเพื่อนรักอย่างมาร์คกับเซฮุนก็เขม่นกันเรื่อยมาและเริ่มหนักข้อขึ้นเมื่อพี่รหัสของมาร์คเรียนจบออกไปบวกกับเซฮุนได้รับเลือกให้เป็นประธานคณะวิทย์กีฬา เซฮุนมักจะหาวิธีกลั่นแกล้งมาร์คเสมอ ทั้งตัดงบชมรมบาส สั่งปิดโรงยิมไม่ไห้เข้าไปซ้อม และอีกสารพัดจนทำให้รุ่นน้องสายรหัสของมาร์คที่รู้เรื่องพวกนี้พาลเกลียดประธานคณะคนนี้ไปด้วยอย่างช่วยไม่ได้ ส่วนมาร์คก็เปลี่ยนไปอย่างเห็นได้ชัดจากคนร่าเริงกลายเป็นก้อนน้ำแข็งเดินได้เค้านิ่ง เงียบ ไม่แคร์ใคร ไม่สนใจว่าจะโดนมองยังไงและที่สำคัญเค้าไม่ยอมเปิดใจให้ใครอีกเลย...




      ++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++



    >>> TBC <<<


    ทำให้น้องยอมไปอยู่ด้วยกันจนได้และอย่างงี้เสือแบมจะรอดจากเงื้อมมือปู่รหัสไปได้หรือไม่ ???

    แล้วอดีตที่ตามหลอกหลอนมาร์คจะมีผลกับเรื่องราวในอนาคตรึเปล่า ต้องติดตามกันต่อไปนะคะ ^ ^


    #ฟิคลองของ

     

     

     

    ?THE ORA


     
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×