ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [ RE-Write ] Try..!!! { MarkBam } // THE END

    ลำดับตอนที่ #11 : Level_11《Rewrite》

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 16.05K
      235
      14 ก.พ. 64


    ผ่านมาเกือบสองอาทิตย์แล้วตั้งแต่วันที่ผมท้าไอ้รุ่นพี่หัวเทาแข่งบาสแต่ก็โดนเบี้ยวตลอดชอบทำเป็นอ้างนู้นอ้างนี้ไม่ว่างบ้างล่ะ มีซ้อมบ้างล่ะพูดแล้วของจะขึ้น

    เป็นเหี้ยไรนั่งทำหน้าเหมือนหมาแดกแฟ้บอยู่ได้” 

    เสียงไอ้หมีควายยูคยอมที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามผมดังขึ้นเพราะตอนนี้ผมไอ้ยองแจและไอ้ยูคยอมมาทำเรื่องเรียนต่อที่มหาวิทยาลัยเคมหาลัยชื่อดังที่ถูกขนานนามว่าเข้ายากสุดๆและแน่นอนผมใช้โควต้านักกีฬาในการเข้าเรียนที่นี่

    เสือก”  

    สัส..ตอบดีๆบ้างได้ไหม

    จำเป็นเหรอ...ทำอย่างกับมึงถามกูดีนักนิ แล้วนี่ไอ้จินยองใกล้จะถึงรึยัง ช้าชิบหาย”

    แล้วทำไมมึงไม่โทรไปถามมันล่ะ” 

    ไอ้ยองแจพูดขึ้นบ้างหลังจากนั่งเงียบอยู่นาน

    กูโทรแล้วแต่มันไม่รับ ตั้งแต่มีแฟนนี่ลืมเพื่อนลืมฝูงเลย

    นินทาไรกูไอ้แบม” 

    เสียงไอ้จินยองดังมาจากทางด้านหลัง พวกผมสามคนเลยหันกลับไปมองทำให้เห็นว่าพี่แจบอมก็เดินตามหลังมันมาด้วย แหม..ตั้งแต่ได้กันนิห่างกันไม่ได้เลยสินะน่าหมั่นไส้

     กูด่าไม่ได้นินทากว่าจะเสด็จนะมึง  

    ก็มาแล้วนี่ไง

    เฮียเจบี หวัดดีครับ” 

    ไอ้ยูคยอมหันไปทักทายรุ่นพี่ตาตี๋ที่เดินคู่มากับไอ้จินยอง ผมกับไอ้ยองแจเลยหันไปทักทายพี่เขาเช่นกัน พี่เขาเลยพยักหน้ารับนิดๆ

    และนี่พวกมึงยื่นเรื่องกันเรียบร้อยรึยัง” 

    ยัง...ก็รอมึงอยู่คนเดียวเนี่ย

    งั้นไปยื่นเรื่องกัน พี่จะมาด้วยไหม” 

    ไอ้จินยองพูดกับพวกผมก่อนหันไปถามแฟนมันที่ยืนอยู่ข้างๆ

    ไม่ดีกว่าว่าจะไปหาเพื่อนซะหน่อยทำเรื่องเสร็จก็โทรมาและกัน” 

    ไอ้จินยองพยักหน้ารับพี่แจบอมเลยขยี้หัวมันเล็กน้อยก่อนเดินผละไปอีกทาง

    เอ้าๆ ยืนยิ้มอยู่นั่นเมื่อไหร่จะได้ไปยื่นเรื่อง” 

    ผมเอ่ยแซะไอ้จินที่ยืนยิ้มน้อยยิ้มใหญ่มองตามพี่แจบอมไม่วางตา

    ขี้อิจฉา...กูบอกแล้วว่าถ้ามึงตกลงเป็นแฟนกับพี่มาร์คไปซะ ก็ไม่ต้องมาคอยอิจฉากูแบบนี้หรอก

    ให้มันน้อยๆหน่อย ใครอิจฉามึงกูรำคาญ จะตัวติดกันไปไหนวะเห็นแล้วหมั่นไส้ กลัวคนเขาไม่รู้หรือไงว่าได้กันแล้วและจะไปยื่นเรื่องได้ยัง”   

    มึงขี้บ่นแบบนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่วะไอ้แบม บ่นไม่เลิกสักที เมนไม่มาไง” 

    ไอ้จินยองพูดกลับมาด้วยสีหน้าเซ็งๆ

    มันเป็นแบบนี้ตั้งแต่วันที่พี่มาร์คเบี้ยวแข่งบาสกับมันแล้ว ไม่รู้จะหงุดหงิดเหี้ยไรนักหนาไหนบอกไม่ชอบเขาไง” 

    เป็นไอ้ยูคยอมที่พูดขึ้นมาพร้อมกับมองผม

    ก็ไม่ชอบไงแค่อยากแข่งให้มันจบๆไปแบบนี้มันคาใจเว้ย”

    เหรอ...ไม่ใช่ว่าอยากเป็นแฟนพี่มันจนตัวเนื้อสั่นเหรอ กูถามจริงนะมึงคิดว่าจะเอาชนะพี่เขาได้จริงๆเหรอวะ

    เออดิ มันต้องได้มาเป็นทาสกูแน่ ไม่เชื่อพวกมึงคอยดู

    มั่นหน้าเหลือเกินนะมึง แพ้ขึ้นมาอย่าโวยวายแล้วกัน พวกกูไม่ช่วยนะบอกไว้ก่อน

    กูไม่แพ้แน่ แต่ตอนนี้ไปยื่นเรื่องให้เสร็จๆได้ไหม กูต้องไปทำอย่างอื่นต่อ

    อ้าว...มึงมีนัดต่อเหรอไอ้แบม กูว่าจะชวนไปแดกเหล้าซะหน่อย” 

    ไอ้ยูคยอมหันมาพูดกับผม

    เออ..กูนัดเด็กไว้ แต่ถ้าเสร็จเร็วอาจตามไป  มึงไปแดกร้านไหนก็ไลน์บอกกูและกัน

    ถี่ไปรึเปล่ามึง คือมึงกะจะฟันสาวจนทำลายสถิติโลกเลยรึไง เพลาๆบ้างเหอะว่ะ กูกลัวมึงติดโรค” 

    “ห่านิ...มึงจะแช่งกูทำไม กูป้องกันทุกครั้งเว้ย

    แต่กูว่ามึงเว้นๆบ้างก็ดีนะไอ้แบม กูสงสารน้องชายมึง เหี้ยใช้งานโคตรสมบุกสมบัน” ไ

    อ้ยองแจรีบเอ่ยเสริมทัพแทบจะทันที

    พวกมึงนี่ห่วงอะไรไม่เข้าเรื่อง ไปๆไปยื่นเรื่อง น้องเขาไลน์มาตามกูแล้วเนี่ย”      

    พวกมันหันมองหน้ากันก่อนถอนหายใจออกมาด้วยท่าทีหน่ายๆจะว่าไปผมก็ไม่ได้เซ็กจัดถึงขนาดต้องมีอะไรกับใครทุกวันหรอกแต่ผมทนเสียงเรียกร้องไม่ไหวอย่างว่าแหละครับคนลีลาเด็ดแบบผมมันหายาก พวกผมใช้เวลาในการยื่นเรื่องเข้าเรียนต่อไม่นานนักก็เสร็จเรียบร้อย จากนั้นก็แยกย้ายกันไปโดยผมขอแยกตัวออกมาก่อนเพราะมีนัดกับน้องเกรซคนสวยเอาไว้ และขณะที่ผมกำลังก้มหน้าก้มตาเดินโดยไม่ได้สนใจใครก็บังเอิญชนเข้ากับใครบางคนจนข้าวของหล่นกระจัดกระจายไปทั่วผมรีบก้มลงเก็บของที่หล่นก่อนเอ่ยขอโทษขอโพยคนที่ผมเดินชนเป็นการใหญ่

    ขอโทษครับผมไม่ทันมอง คุณเจ็บตรงไหนรึเปล่า

    ไม่เป็นไร นายล่ะเจ็บตรงไหนไหม

    ไม่ครับ ผมเดินไม่ดูเองต้องขอโทษจริงๆดูสิของคุณหล่นหมดเลย

    ช่างเถอะ นายเรียนที่นี่เหรอ

    คือผมมายื่นเรื่องขอเรียนต่อที่นี่น่ะครับแล้วคุณเรียนที่นี่เหรอ

    ใช่ ฉันเรียนที่นี่ แล้วนายลงคณะอะไรไว้ล่ะ

    ผมมายื่นเรื่องขอเข้าเรียนที่คณะวิทยาศาสตร์การกีฬาน่ะครับ

    บังเอิญจังนะ แสดงว่านายกำลังจะมาเป็นรุ่นน้องฉันน่ะสิ”  

    “ครับ???

    “ฉันชื่อ เซฮุน เรียนอยู่คณะวิทยาศาสตร์การกีฬาเหมือนกัน

    อ๋อครับ...ผมชื่อ แบมแบม ยินดีที่ได้รู้จักนะครับพี่เซฮุน

    เช่นกันนะ ฉันหวังว่าจะได้เจอนายที่คณะเร็วๆนี้ ขอให้โชคดีกับการสอบสัมภาษณ์ ยังไงฉันขอตัวก่อนสายมากแล้ว

    ผมต้องขอโทษอีกครั้งที่เดินชนพี่นะครับ” 

    ไม่เป็นไร ไม่ต้องคิดมากหรอก” 

    พี่เขาหันมาโบกมือลาก่อนเดินจากไปผมมองตามไปเล็กน้อยและหันมาสนใจโทรศัพท์ในกระเป๋ากางเกงที่สั่นไม่ยอมหยุด

    ฮัลโหล...ว่าไงคะเกรซไม่ได้เบี้ยวพอดีพี่เกินอุบัติเหตุนิดหน่อย ไม่ได้โกหกพี่เคยโกหกเราเหรอไม่เอาน่าอย่างอแงสิครับ พี่กำลังไปนะได้สิถึงแล้วเราไปหาไรกินกันเนอะแล้วเจอกันครับ” 

    ผมกดวางสายด้วยใบหน้าเรียบเฉยบอกตามตรงการที่ผมมีอะไรกับคนนั้นคนนี้ไปทั่วไม่ได้ทำให้ผมรู้สึกตื่นเต้นเร้าใจเหมือนแต่ก่อนสักเท่าไหร่การมีเซ็กสำหรับผมก็คงเหมือนกับการออกกำลังกายอย่างนึงล่ะมั้งถ้าถามว่าไม่ทำได้ไหม ก็คงได้แต่ผมขอทำดีกว่าอย่างน้อยก็มีอะไรสนุกๆให้ทำแก้เซ็งและวันนี้ก็มาถึงวันประกาศผลการสอบสัมภาษณ์ว่าผมจะได้เข้ามหาวิทยาลัยเคอย่างที่ตั้งใจไว้รึเปล่า ผมกับไอ้ยูคยอมยืนหยู่หน้าบอร์ดประกาศขนาดใหญ่ที่ตอนนี้โดนลุ่มล้อมจนแทบมองไม่เห็นใช่ครับผมกับไอ้ยูคยอมลงเรียนคณะเดียวกันโดยมันใช้โควต้านักบอลในการสมัครขณะที่ผมใช้โควต้านักบาสในการสมัครผมพยายามแทรกตัวเข้าไปจนถึงบอร์ดประกาศผลและเมื่อถึงบอร์ดผมก็ค่อยๆไล่นิ้วเพื่อหาชื่อตัวเองกับไอ้ยูคยอมทันที

    เป็นไงบ้างวะ” 

    ไอ้ยูคยอมพุงเข้ามาหาผมแทบจะทันทีที่ผมแทรกตัวกลับออกมา

    ไม่..”  

    ไอ้เหี้ยเอาดีๆไม่นี่ไม่อะไรของมึง” 

    ไม่พลาดสิวะ มึงกับกูได้เรียนที่นี่แล้วเว้ย

    เชี่ย...มึงหลอกกูปะเนี่ยไอ้แบม”  

    กูจะหลอกมึงทำห่าไร บอกว่าผ่านก็ผ่านดิวะ”

    เหยด...อย่างงี้ต้องฉลองกันหน่อยแล้ว วู้ๆๆ เข้าได้แล้วโว้ยยย

    เออ..แต่กูว่าเราไปลงชื่อที่คณะก่อนดีกว่าเดียวคนแม่งเยอะกูขี้เกียจต่อแถว 

    ผมกับมันเดินออกมาจากบริเวณบอร์ดประกาศผลเพื่อเดินไปยังคณะไม่นานก็เดินมาถึงลานกว้างหน้าคณะวิทยาศาสตร์การกีฬาที่ตอนนี้คลาคล่ำไปด้วยผู้คน ผมกับมันรีบเดินตรงไปที่โต๊ะลงทะเบียนทันที

    มาอีกสองแล้วครับผม” 

    เสียงรุ่นพี่คนนึงที่ยืนอยู่บริเวณโต๊ะลงทะเบียนตะโกนขึ้นทุกคนบริเวณนั้นหันมามองพวกผมเป็นตาเดียวก่อนจะมีเสียงกลองดังระงมไปทั่วผมกับไอ้ยูคยอมหันมองหน้ากันงงๆคือแค่มาลงทะเบียนต้องเล่นใหญ่เบอร์นี้เลยเหรอ

    น้องชื่ออะไรกันครับ” 

    พี่ที่ทำหน้าที่รับลงทะเบียนเงยหน้ามาถามพวกผม

    ผม กันต์พิมุกต์ ภูวกุล ครับ

    กันต์พิมุกต์ๆ อ่า เจอแล้ว เซ็นชื่อตรงนี้นะ และน้องอีกคนชื่ออะไรครับ

    คิม ยูคยอม ครับ

    คิม ยูคยอม โอเคงั้นเดี๋ยวเซ็นชื่อต่อจากเพื่อนเลยนะแล้วอย่าลืมเขียนชื่อเล่นลงในป้ายที่พี่ให้ด้วยล่ะวันรับน้องจะได้เรียกกันถูก” 

    พูดจบพี่เขาก็ยื่นป้ายแขวนคอขนาดไม่ใหญ่ไม่เล็กส่งมาให้ผมกับไอ้คยอมคนละอันพวกผมสองคนเอื้อมมือไปหยิบก่อนเอ่ยรับคำ

    ครับ” 

    ผมกับไอ้ยูคยอมตอบพร้อมกันเสียงกลองยังดังไม่หยุดรุ่นพี่สองสามคนยืนเต้นอยู่ใกล้ๆพวกผมแล้วอยู่ๆพี่หนึ่งในนั้นก็เดินตรงมาทางผมก่อนหยุดยืนตรงหน้าพวกผมด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม

    “ล้วงเลยครับน้องหยิบคนละใบ” 

    รุ่นพี่ผิวคล้ำยื่นกล่องที่ใส่กระดาษเอาไว้ด้านในมาให้พวกผม ผมจึงล้วงมือลงไปหยิบขึ้นมาขณะที่ไอ้คยอมล่วงลงไปหยิบในกล่องอีกใบ พอหยิบเรียบร้อยพี่เขาก็บอกให้เปิดออกดูและเมื่อผมกางกระดาษในมือออกก็พบกับคำว่า ‘เจ้าชายน้ำแข็ง’ 

    มันคืออะไรเหรอพี่ ไม่เห็นเข้าใจเลย

    นั่นเป็นคำใบ้สายรหัสของน้อง พวกน้องต้องตามหาให้เจอก่อนการรับน้องจบลงถ้าไม่เจอจะมีบทลงโทษรออยู่

    แล้วผมจะหาเจอได้ไงครับ พี่ไม่ใบ้เพิ่มหน่อยเหรอ

    น้องจับได้อะไรล่ะ” 

    พี่เขาถามก่อนจะเอื้อมมือมาหยิบกระดาษในมือผมไปดู

    เฮ้ยๆ...มีคนจับได้เจ้าชายน้ำแข็งแล้วเว้ย” 

    อยู่ดีๆพี่เขาก็ตระโกนออกมาทำให้รุ่นพี่คนอื่นๆวิ่งเข้ามามุงดูกระดาษในมือรุ่นพี่คนนั้นกันยกใหญ่

    ไหนๆเอามาให้กูดูดิ ไอ้มิโน” 

    รุ่นพี่อีกคนวิ่งเข้ามาแย่งกระดาษไปดูก่อนเดินตรงมาที่ผม ผมมองรุ่นพี่คนนั้นด้วยท่าทีงงๆนี่มันอะไรกันวะทำไมทุกคนถึงได้ดูตกอกตกใจกันขนาดนี้  

    น้องคนที่จับได้ชื่ออะไร” 

    ชื่อ กันต์พิมุกต์ ครับว่าแต่มันทำไมเหรอพี่ ทำไมทุกคนดูแตกตื่นขนาดนี้

    “ไม่มีอะไรหรอก คือสายรหัสที่น้องจับได้เป็นสายที่รับมือยากหน่อยก็แค่นั้นเพราะสายนี้มีแต่พวกหัวๆทั้งนั้น”

    “หัวกระทิเหรอพี่”  

    “ป่าว...หัวโจก”

    ไอ้ห่า...มึงอย่าไปขู่น้องมันดิว่ะ สายนี้เขาออกจะหน้าตาดีมีรถขับ ถึงจะปากไวไปหน่อยก็เหอะ” 

    รุ่นพี่ที่น่าจะชื่อมิโนมั้งถ้าผมจำไม่ผิดเอ่ยออกมาขำๆ

    “แล้วทำไมทุกคนต้องตื่นเต้นด้วยล่ะพี่”

    “ก็เพราะสายนี้แม่งชนะการแข่งทุกปีเลยน่ะสิ”  

    “แข่ง...แข่งอะไรเหรอครับ”

    “เดี๋ยวก็รู้เองนั่นแหละ” 

    พี่มิโนพูดยิ้มๆก่อนจะมีเสียงหนึ่งดังขึ้นเรียกให้ทุกคนที่ยืนอยู่ตรงนั้นหันกลับไปมอง

    ยืนมุงอะไรกัน” 

    เสียงใครบางคนดังขึ้นข้างหลังทำให้รุ่นพี่คนอื่นๆแตกตัวออกไปคนละทิศคนละทาง ผมหันไปมองก็เจอรุ่นพี่ที่ผมเดินชนวันก่อนพร้อมกับรุ่นพี่อีกสองสามคน เขามองมาที่ผมก่อนยิ้มออกมาอย่างเป็นมิตร

    อ้าว...ว่าไงแบมแบมในที่สุดก็ได้เจอกันอีกจนได้นะ

    สวัสดีครับ พี่เซฮุน”  

    และนี่ลงทะเบียนเรียบร้อยรึยัง

    เรียบร้อยแล้วครับ นี่เพื่อนผมชื่อยูคยอมครับ 

    ผมหันไปแนะนำไอ้ยูคยอมให้พี่เซฮุนรู้จักเขาเลยหันไปยิ้มให้มันเล็กน้อยก่อนหันมาสนใจผมอีกครั้ง

    จับคำใบ้สายรหัสแล้วใช่ไหม ได้อะไรล่ะ

    ได้เจ้าชายน้ำแข็งครับ คือพี่พอจะรู้ไหมว่าเป็นใคร เพราะพี่คนอื่นๆดูแตกตื่นมากที่รู้ว่าผมจับได้สายนี้

    นายจับได้เจ้าชายน้ำแข็งเหรอ” 

    เสียงกดต่ำถูกส่งมาพร้อมกับคิ้วหนาที่ขมวดเข้าหากันทำให้สีหน้าของพี่เซฮุนตอนนี้ดูจริงจังขึ้นจนน่ากลัว

    ทำไมเหรอครับ ผมชักจะกลัวแล้วนะพี่

    ไม่มีอะไรหรอก ก็แค่พวกที่ชอบวางมาดคิดว่าตัวเองเจ๋งกว่าคนอื่น

    กำลังพูดถึงใครไม่ทราบครับ คุณประธานคณะ” 

    เสียงใครบางคนดังขัดขึ้น ผมรีบหันไปทางต้นเสียงทันทีและสิ่งที่พบคือรุ่นพี่สี่ห้าคนที่กำลังเดินตรงมาทางพวกผมและหนึ่งในนั้นก็มีไอ้รุ่นพี่หัวเทาที่หายหน้าหายตาไปหลายวันรวมอยู่ด้วย

    พี่มาร์ค...มาได้ไงวะ” 

    ไอ้ยูคยอมยื่นหน้ามากระซิบข้างหูผม ผมได้แต่ส่ายหน้าแทนคำตอบแต่จะว่าไปผมก็ไม่เคยถามพี่มันว่าเรียนที่ไหนเพราะมัวแต่เถียงกันจนไม่ได้สนใจเรื่องพวกนี้

    กูพูดลอยๆ ใครจะรับก็รับไป” 

    พี่เซฮุนหันไปพูดใส่หน้าพวกรุ่นพี่ที่พึ่งเดินมาถึงทำให้ตอนนี้พวกเขายืนเผชิญหน้ากัน ผมได้แต่หันไปมองพี่เซฮุนสลับกับรุ่นพี่คนนั้นด้วยสีหน้ากลืนไม่เข้าคายไม่ออก

    ก็อย่าให้รู้แล้วกัน อย่าคิดว่าเป็นประธานคณะแล้วจะปากดีได้นะครับคุณพี่เซฮุน

    มึงจะทำไมกู ไอ้ฮันบิน” 

    พี่เซฮุนกดเสียงต่ำขณะพี่ที่ชื่อฮันบินยักไหล่กวนๆส่งกลับไปก่อนหันมามองกระดาษที่อยู่ในมือผมแล้วยิ้มออกมาด้วยท่าทีแปลกๆ พี่เซฮุนไม่ได้พูดอะไรต่อเขาเดินผละไปอีกทางด้วยท่าทีหงุดหงิดจากที่เห็นดูเหมือนว่ากลุ่มพี่เซฮุนกับกลุ่มของพี่มาร์คจะไม่ถูกกันเอามากๆผมว่ามันต้องมีเบื้องหน้าเบื้องหลังแน่ๆ

    “โถ่ กูนึกว่าจะแน่” 

    พี่คนนึงในกลุ่มเอ่ยไล่หลังพวกพี่เซฮุนด้วยท่าทางเอาเรื่อง นั่นทำให้ผมยิ่งมั่นใจว่าพวกเขาคงมีเรื่องไม่กินเส้นกัน

    “ปากไวไม่เปลี่ยนเลยนะไอ้ฮับบิน” 

    พี่มิโนที่ยื่นอยู่ไม่ไกลเอ่ยแซวขำๆ

    “ไวไม่ว่าเสือกปากหมาด้วยนี่สิ” 

    พี่อีกคนที่ยืนอยู่ข้างๆพี่มิโนเสริมทัพขึ้น ทำให้คนที่ยืนอยู่บริเวณนั้นพากันหัวเราะออกมายกใหญ่รวมถึงพี่ที่ชื่อฮันบินด้วย



    +++++++++++++++++++++++++++++++++




    >>> Talk <<<

    การปรากฎตัวของเซฮุนจะมีอะไรให้ตื่นเต้นเร้าใจขนาดไหนหรือไม่ต้องติดตามนะจ๊ะ

    #ฟิคลองของ 

      ?
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×