คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #7 : Level_7 《Rewrite》
“จอดตรงนี้แหละ”
เสียงใสเอ่ยขัดขึ้นเมื่อรถคันหรูกำลังจะเลี้ยวเข้าซอย
“ทำไมล่ะ ยังไม่ถึงบ้านนายเลยนิ”
“ส่งแค่นี้ก็พอไม่ต้องเข้าไปหรอก ผมไปนะขอบคุณที่อุตส่าห์ขับรถมาส่ง”
เมื่อล่ำลาเรียบร้อยยองแจก็หันไปเปิดประตูแต่กลับเปิดไม่ออก เขาจึงหันไปมองคนขับที่นั่งยิ้มหวานส่งมาให้ด้วยสีหน้างงๆ
“ยังไม่ให้ไปจนกว่านายจะให้พี่เข้าไปส่งถึงหน้าบ้านและเห็นนายเข้าบ้านอย่างปลอดภัย”
“พี่เล่นบ้าอะไรเนี่ย
เปิดประตูผมจะลงตรงนี้”
“ไม่ได้เล่น จริงจัง”
“นี่พี่คิดจะกวนตีนผมใช่ไหม”
“ไม่ได้กวน แค่เป็นห่วงมันดึกแล้วจะปล่อยให้นายเดินคนเดียวได้ไง”
“ผมก็เดินคนเดียวตลอดไม่เห็นเป็นไรเลยพี่เปิดประตูดีกว่า”
“ทำไมต้องดื้อ ทำไมให้ไปส่งไม่ได้”
แจ๊คสันจ้องหน้าอีกฝ่ายเขม่งพร้อมกับหัวคิ้วที่เริ่มขมวดเข้าหากันแน่น
“ไม่มีอะไรทั้งนั้นแหละแค่อยากลงตรงนี้ทำไมต้องทำหน้าหงุดหงิดด้วยไม่พอใจก็เปิดประตูดิวะ”
ยองแจเองก็เริ่มหมดความอดทนจึงโผงออกมาอย่างเหลืออด
“เฮ้อ…โอเคๆไม่ขับรถไปส่งก็ได้ งั้นขอเดินไปส่งแทนได้ไหม”
ร่างหนาถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่ก่อนจะยื่นข้อเสนอใหม่แทน
“จำเป็นต้องทำขนาดนี้ด้วยเหรอ”
“อย่าบ่นเลยน่าเพราะตอนนี้นายมีแค่สองทางเลือกระหว่างให้พี่ขับรถไปส่งกับเดินไปส่งเลือกเอา”
“โว้ย...ทำไมเรื่องเยอะขนาดนี้เนี่ยขับๆไปเลยไป”
“ก็แค่เนี้ย”
ได้ยินดังนั้นแจ๊คสันก็เลี้ยวรถเข้าไปในซอยทันทีขับต่อไปอีกไม่นานก็ถึงหน้าบ้านของรุ่นน้องซึ่งเป็นบ้านขนาดกลางไม่ใหญ่ไม่เล็กที่ยังคงเปิดไฟอยู่แจ๊คสันจึงจอดรถและดับเครื่องยนต์ก่อนจะเปิดประตูลงไปยืนบิดขี้เกียจเล็กน้อยแล้ววิ่งอ้อมไปอีกฝั่งเพื่อเปิดประตูให้ยองแจ
“ถึงแล้วลงมาสิ”
ยองแจก้าวลงจากรถเตรียมจะเดินเข้าบ้านแต่ก็ต้องช็อกค้างเมื่อรุ่นพี่ที่เพิ่งเจอกันเมื่อไม่กี่ชั่วโมงยื่นหน้าเข้ามาขโมยความหอมจากแก้มเนียน
“ฝันดีนะเด็กขี้แย”
แจ๊คสันฉีกยิ้มกว้างก่อนรีบวิ่งขึ้นรถและขับออกไปอย่างรวดเร็ว ส่วนยองแจก็ได้แต่ยื่นนิ่งค้างก่อนมือเรียวจะค่อยๆยกขึ้นจับแก้มข้างที่โดนหอม
“เวรเอ้ย...กล้าดียังไงมาหอมแก้มกูวะ ไอ้พี่แจ๊ค ไอ้โรคจิต สมองมีปัญหารึไงถึงทำแบบนี้ โถ่เว้ย !!!”
เมื่อเรียกสติกลับมาได้คำด่าทอมากมายก็ดังออกมาจากปากผู้เสียหาย
“คนอะไรวะแก้มยุ้ยดีชิบหายสงสัยป่านนี้ด่าลามไปถึงโคตรกูแล้วมั้ง ฮ่าๆๆๆ แต่ยังไงก็คุ้มแก้มหอมใช้ได้เลยนะ ชเว ยองแจ”
แจ๊คสันนึกขำกับสิ่งที่ตนทำลงไปเพราะตอนแรกเขาแค่จะแกล้งยื่นหน้าไปกระซิบกู๊ดไนท์เฉยๆแต่พอเอาเข้าจริงกลิ่นน้ำหอมอ่อนๆที่ลอยมาเตะจมูกก็ทำให้เขาอดที่จะกดจมูกลงไปที่แก้มเนียนนั้นไม่ได้
“ฮัลโหล...ไอ้แบมมึงมีของดีอยู่ข้างตัวก็ไม่ยอมบอกพี่บอกเชื้อบ้างเลยนะ”
แจ๊คสันหยิบโทรศัพท์ขึ้นมากดโทรออกหาน้องรัก
( ของดีอะไรของเฮียวะ...เมาเหรอ )
“กูมีสติครบถ้วนดี ว่าแต่ตอนนี้มึงอยู่ไหน”
( อยู่ที่คอนโด เฮียใกล้จะกลับยังฝากซื้อข้าวหน้าเป็ดปากซอยหน่อยดิ
หิวว่ะ )
“เออๆ เดี๋ยวกูแวะซื้อให้ งั้นแค่นี้นะกูใกล้จะถึงแล้วไว้ค่อยคุยกันกูมีเรื่องคุยกับมึงเยอะแยะเลย”
พูดจบเขาก็กดตัดสายไปใช้เวลาไม่นานนักเขาก็ขับรถมาถึงที่หมาย แจ๊คสันลงจากรถโดยไม่ลืมหยิบถุงข้าวหน้าเป็ดที่ไอ้แสบสั่งติดมือลงไปด้วย
“ไอ้แบม...อยู่ไหนวะมาเอาข้าวไปใส่จาน”
แจ๊คสันตะโกนเรียกน้องเสียงดังลั่นห้องทันทีที่เปิดประตูเข้าไป แบมแบมที่อยู่ภายในจึงรีบวิ่งออกมารับถุงจากมือพี่ชายก่อนวิ่งตรงไปยังห้องครัวทันที
ก็ตั้งแต่เที่ยงเขายังไม่มีอะไรตกถึงท้องเลยเพราะมัวแต่วุ่นวายอยู่กับไอ้รุ่นพี่หัวเทาที่เอาแต่หาเรื่องเขาไม่ยอมหยุด
“แล้วนี่ป๊ากับม๊าไปไหนวะ ทำไมเงียบจัง”
แจ๊คสันเอ่ยขึ้น หลังจากเดินตามน้องไปนั่งที่โต๊ะอาหาร
“เห็นทิ้งโน้ตไว้ว่าไปบ้านญาติที่ปักกิ่งกลับอาทิตย์หน้า”
“นี่เรามีญาติอยู่ปักกิ่งด้วยเหรอวะ
ทำไมกูไม่รู้”
“ขนาดเฮียยังไม่รู้แล้วผมจะรู้ไหม”
“เออเนอะก็จริง และข้าวได้ยังแค่ใส่จานทำไมนานนักวะ”
“ได้แล้วๆ”
แบมแบมเดินยกจานมาวางที่โต๊ะ
และนั่งลงฝั่งตรงข้ามกับพี่ชายก่อนจะเริ่มโกยอาหารเข้าปากโดยไม่พูดไม่จา แค่กๆๆ
“เอ้าๆ...จะรีบไปไหนกูไม่แย่งกินหรอกน่า”
แจ๊คสันรีบหยิบแก้วน้ำส่งไปให้ร่างบางที่ไอจนหน้าดำหน้าแดงไปหมด
“ก็มันหิวนิ
ตั้งแต่เที่ยงยังไม่ได้กินอะไรเลย”
“แล้วทำไมไม่กิน
มึงพึ่งกลับจากร้านอาหารนะกูได้ข่าว มัวแต่เหล่สาวอีกล่ะสิ”
“เหล่เหล่ออะไรล่ะนั่งเถียงกับเพื่อนเฮียก็หมดเวลาและ”
“เพื่อนกูใคร ไอ้มาร์คอะนะ”
“เออดิ...แล้วนี่เฮียรู้ไหมว่าเพื่อนเฮียเป็น”
“เป็นอะไร ???” “ก็เป็นเกย์ไง”
“มึงจะบ้าเหรอไอ้มาร์คเพื่อนกูแมนทั้งแท่ง กูคบกับมันมาตั้งแต่ม.ต้นถ้ามันเป็นกูก็ต้องรู้ดิวะ”
แจ๊คสันไม่จะอยากเชื่อสิ่งที่ได้ยินสมองของเขาเริ่มประมวลผลทันที
“เขาอาจพึ่งกลายพันธ์ก็ได้นะเฮีย”
“กลายพันธ์พ่อมึงสิเพื่อนกูไม่ใช่เอเลี่ยนนะ
ว่าแต่มึงไปเอามาจากไหนว่ามันเป็น”
“ก็เพื่อนเฮียจะจีบผม”
“ห๊ะ !!! ไอ้มาร์คเนี่ยนะจะจีบมึง”
“ใช่..”
แบมแบมตอบพร้อมกับตักข้าวเข้าปากคำโต
“มึงแน่ใจนะว่ามาร์คเพื่อนกู”
“เออ..เพื่อนเฮียนั่นแหละ”
“บ้าน่า เพื่อนกูที่หล่อๆ
บ้านรวยๆ ขับแลมโบกีนี่สีแดงอะนะ”
“เฮียมึงมีเพื่อนชื่อมาร์คกี่คน”
“เท่าที่นึกออกน่าจะคนเดียวมั้ง”
“แล้วจะถามหาพระแสงของ้าวอะไรไม่ทราบครับ”
“ก็กูตกใจนี่หว่า
ใครจะคิดว่าเพื่อนกูจะกลายพันธ์ว่าแต่มึงไม่ได้แอบดีดยาเสน่ห์ใส่เพื่อนกูใช่ไหมไอ้แบม”
“โอ้โห...เฮียก็คิดได้เนอะ"
"ใครจะไปรู้ก็กูเห็นมันควงแต่ผู้หญิงมาตลอดแล้วอยู่ๆมึงก็มาบอกว่ามันจะจีบมึงทั้งๆที่เป็นตัวผู้เหมือนกันที่สำคัญคือมันมาสนใจคนอย่างมึงเนี่ยนะ
เชื่อยากว่ะ"
“ทำไม..คนแบบผมมันทำไม
พูดดีๆนะเฮีย”
“ก็ไม่ทำไมกูแค่แปลกใจ
ว่าแม่งสนใจอะไรในตัวมึง”
"ผมจะไปรู้เหรอ ถ้าเฮียอยากรู้ก็ไปถามเพื่อนเฮียดิ"
"เดี๋ยวนะ หรือว่า..ไอ้แบมวันนี้มึงลงแข่งบาสด้วยใช่ไหม"
แจ๊คสันทำท่าเหมือนคิดอะไรขึ้นได้เอ่ยถามออกมาพร้อมกับจ้องหน้าแบมแบมที่อยู่ฝั่งตรงข้ามเขม่ง
"ก็ต้องลงดิ...ผมนี่แหละเป็นคนทำให้ทีมชนะไม่อยากจะคุย"
"ไม่น่าล่ะเป็นแบบนี้นี่เอง
เชี่ยมาร์คแม่งโคตรร้าย"
"อะไร ยังไง แล้วเกี่ยวอะไรกับการที่ผมลงแข่งด้วย"
"เมื่อกี้มึงบอกว่ามึงชนะด้วยใช่ไหม"
"แน่นอนเพื่อนเฮียกากจะตายไม่เห็นเก่งอย่างที่พูดกันเลย"
"ที่พูดนี่มั่นใจขนาดนั้นเชียว
กูล่ะสงสารมึงจริงๆไม่ได้รู้เหี้ยไรเลย"
"อะไรของเฮียวะ"
"ถ้ากูบอกว่าเพื่อนกูไม่ได้กากล่ะ”
“กากไม่กากวันนี้ผมก็พึ่งชนะเพื่อนเฮียมา
อ่อนก็คืออ่อนน่าอย่าแก้ตัวแทนเพื่อนหน่อยเลยเฮีย”
“งั้นถ้ากูบอกมึงว่าเพื่อนกูล้มบอลล่ะ มึงจะเชื่อกูไหม"
สิ้นเสียงร่างบางก็นิ่งไปทันที
"อ้าว...อึ้งแดก มึงคิดว่าเพื่อนกูกากถึงขนาดแพ้เด็กอย่างมึงจริงๆเหรอ
มันเป็นถึงประธานชมรมบาสของมหาลัยตอนนี้เลยนะเว้ย มันจะแพ้มึงง่ายๆเลยเหรอคิดดู"
"นี่เฮียกำลังจะบอกว่า มันแกล้งแพ้เหรอ"
"ฉลาดขึ้นมาบ้างแล้วนิ อ้าวเฮ้ย...นั่นจะไปไหนวะยังแดกข้าวไม่เสร็จเลย”
แจ๊คสันโผงออกมาเมื่ออยู่ๆร่างบางก็ลุกพรวดพราดขึ้น
“ไม่ดงไม่แดกมันแล้ว
เฮียขับรถไปส่งหน่อยดิ”
“มึงจะไปไหนดึกๆดื่นๆ”
“ก็ไปบ้านเพื่อนเฮียไง เฮียรู้ใช่ไหมว่าอยู่ที่ไหน
พาผมไปเดี๋ยวนี้เลย”
ตัดมาที่คลับในเวลาเดียวกัน
“ไปเอาเหล้ามาอีก”
เสียงโหวกเหวกดังขึ้นจนคนในร้านหันมามอง
“ผมว่าพอดีกว่าครับดูเหมือนคุณลูกค้าจะเมามากแล้ว”
พนักงานเอ่ยปรามด้วยท่าทีกล้าๆกลัวๆ
“บอกให้ไปเอาก็ไปเอามาดิ จะลีลาทำไมเนี่ย”
“แต่...”
ยังไม่ทันที่พนักงานคนนั้นจะตอบกลับไปก็มีมือใครบางคนมาจับไหล่ของเขาไว้เสียก่อน
“ไม่เป็นไร เดี๋ยวฉันจัดการเอง นายไปเถอะ”
พนักงานรีบพยักหน้าให้ผู้มาใหม่ก่อนจะเดินจากไป
แล้วปล่อยให้ร่างสมส่วนยืนมองคนที่เมามายตรงหน้านิ่งๆ
“เมามากแล้วกลับบ้านเถอะจินยอง”
“ใครเมา ไม่เมา ไปเอาเหล้ามา”
“มึงเมามากเกินไปแล้วกลับบ้าน”
“ทำไมยังไม่ไปเอามาอีก บอกให้ไปเอาเหล้ามา”
“เฮ้อ...ดื้อชิบหาย กูบอกให้กลับบ้านไง”
“ไม่กลับมึงเป็นใครกล้ามาสั่งกู
กูเป็นถึงประธานนักเรียนเลยนะเว้ย วอนแล้วมึงเดี๋ยวสักพักการเรียนแม่งเลย”
“มึงช่วยตั้งสติหน่อยได้ไหม”
ร่างสมส่วนฉุดแขนคนตรงหน้าให้ลุกขึ้นแต่ก็โดนอีกฝ่ายขัดขืนจินยองดิ้นไปมาไม่หยุดจนเขาเสียหลักล้มลงไปกองรวมกันที่โซฟาร่างสมส่วนจ้องใบหน้าคนใต้ร่างนิ่งขณะที่อีกฝ่ายก็มองกลับขึ้นมาเช่นกัน
ร่างบางใช้มือทั้งสองข้างจับหน้าคนด้านบนเอาไว้พร้อมยืนหน้าเข้าไปใกล้
“ทำไมมึงหน้าเหมือนพี่แจบอมจังวะ”
จินยองส่ายหัวไปมาเล็กน้อยก่อนปล่อยมือออกและยันคนตรงหน้าให้ลุกออกไป
“จะกลับได้รึยัง”
“ก็บอกว่ามะ...อ๊วกกก”
ยังไม่ทันจบประโยคของที่กินเข้าไปก็ย้อนกลับออกมาจนหมดใช้เวลาขย้อนของเก่าอยู่ไม่นานร่างบางก็ล้มตัวลงนอนบนโซฟาอย่างหมดสภาพ
“ให้มันได้อย่างงี้สิ”
เสียงเข้มดังขึ้นก่อนจะยกมือขึ้นเสยผมและจ้องไปยังร่างที่นอนหมดสภาพตรงหน้า
“ทำไมต้องกินให้เมาขนาดนี้ด้วยวะ แล้วนี่กูจะทำยังไงกับมึงดี”
ร่างสมส่วนมองอีกฝ่ายไม่นานก็ก้มลงไปช้อนตัวคนเมาขึ้นมาอุ้มเอาไว้แนบอกก่อนจะพาไปขึ้นรถที่จอดอยู่หน้าร้าน
“ทำไมกลิ่นเหมือนพี่แจบอมจัง...หอมดี”
เสียงเบาลอยมาจากคนในอ้อมแขนที่ตอนนี้ซุกหน้าเข้าอกแกร่งทั้งๆที่ยังหลับตาอยู่
“หอมแล้วชอบไหมล่ะ”
จินยองพยักหน้ารับก่อนที่ร่างสมส่วนจะรู้สึกได้ถึงความชื้นที่อกเสื้อ ทำให้รู้ว่าร่างบางในอ้อมแขนกำลังร้องไห้
เขายืนนิ่งอยู่สักพักก่อนจะพาอีกฝ่ายขึ้นรถแล้วขับออกไป
++++++++++++++++++++++++++++++++++++
>>> TBC <<<
เลเวลนี้ดูเหมือนจะเป็นการเกริ่นนำซะส่วนใหญ่
แต่รับรองว่าเรื่องราวต่อจากนี้จะเข้มข้นขึ้นอย่างแน่นอนค่ะ
สามารถคอมเม้นติชมกันเข้ามาได้เลยนะคะ
#ฟิคลองของ
ความคิดเห็น