คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : จุดเริ่มต้นของจุดจบ... [ รีไรท์ ]
ตึก M.Tower ( วันรุ่งขึ้น )
“รายงานสรุปการประชุมผู้บริหารเมื่อเช้านี้ครับ”
มือเรียวยื่นแฟ้มเล่มหนาในมือไปให้คนตรงหน้าที่นั่งกอดอกมองมาที่เขาด้วยใบหน้าเรียบเฉย ดวงตาคมจ้องมองเขานิ่ง แบมแบมเหลือบมองคนตรงหน้าเพียงเล็กน้อยก่อนวางแฟ้มในมือลงบนโต๊ะทำงานและเตรียมจะเดินออกมา
“เดี๋ยว !!!”
เสียงทุ้มต่ำดังขึ้นทันทีที่เขาหันหลังให้ แบมแบมยืนนิ่งไม่กล้าไม่ไหวติ่งเมื่อรับรู้ได้ถึงลมหายใจอุ่นที่รดลงมาบริเวณต้นคอ เพราะตอนนี้ร่างหนาเดินมายืนซ้อนหลังเขาเอาไว้ ทำให้แบมแบมดวงใจกระตุกวูบเขาได้แต่ยืนเกรงเม้มปากเข้าหากันพร้อมมือบางที่ถูกกำไว้แน่น มันแน่นเสียจนเส้นเลือดปูดขึ้นมา
“จะรีบไปไหนล่ะ...”
“กรุณาถอยออกไปด้วยครับคุณมาร์ค”
“อย่าพูดจาห่างเหินนักสิ คนกันเองแท้ๆ”
“ได้ยังไงล่ะครับ คุณเป็นถึงผู้บริหาร T.Group พนักงานต่ำต้อยอย่างผมไม่กล้าตีตัวเสมอหรอกครับ”
“ถ้านายว่างั้น...แสดงว่าถ้าฉันสั่งให้นายทำอะไรนายก็จะทำใช่ไหม”
แบมแบมถอนหายใจเฮือกใหญ่ก่อนหันกลับไปเผชิญหน้ากับผู้เป็นนาย ทำให้เห็นรอยยิ้มร้ายที่ฉายชัดบนใบหน้าหล่อเหลานั้นทันที
“ถ้าเป็นความประสงค์ของคุณผมก็คงต้องทำ เชิญสั่งมาได้เลยครับ”
“ดี...งั้นเย็นนี้ไปกินข้าวกับฉัน”
“ห๊ะ !!!”
“ตกใจอะไร ไหนบอกจะทำทุกอย่างที่ฉันสั่งไง และถ้านายคิดจะเบี้ยวล่ะก็ พรุ่งนี้ก็ไม่ต้องมาทำงานที่นี่อีก ฉันมีเรื่องจะบอกแค่นี้ไปทำงานได้แล้ว”
“.....”
ร่างบางได้แต่ยืนนิ่งค้างพร้อมกับมองไปที่อีกฝ่ายด้วยความไม่เข้าใจ
“มีอะไรรึเปล่า...ทำไมยังไม่ไปทำงานอีก”
“เปล่าครับงั้นผมขอตัว”
สิ้นเสียงร่างบางก็เดินออกไปจากห้องเหลือไว้เพียงมาร์คที่ยืนมองตามแผ่นหลังนั้นไม่วางตา
“เหมือนเดิมไม่เปลี่ยน ไม่เปลี่ยนเลยสักนิด”
รอยยิ้มถูกฉายชัดบนใบหน้าหล่อเหลาอย่างห้ามไม่ได้ แต่เมื่อเขานึกย้อนไปถึงเรื่องในอดีตที่ทำไว้กับร่างบางรอยยิ้มที่มีก็ค่อยๆหดหายไป
ย้อนกลับไปเมื่อ 3 ปีก่อน
“พี่มาร์ค...แบมอยากไปดูหนังไปดูด้วยกันนะ เห็นเขารีวิวว่าเรื่องนี่สนุกมากเลย”
“ไม่อยากไปอ่ะ ขี้เกียจ”
มาร์คที่นอนเล่นโทรศัพท์อยู่บนเตียงเอ่ยเซ็งๆ มือหนากดเข้าโปรแกรมแชทยอดฮิตโดยไม่แม้แต่จะหันไปสนใจ ร่างบางที่นอนอยู่ข้างๆ
“ไปเหอะ นะๆๆ เดี๋ยวแบมขับรถเอง ไปนะ”
ร่างบางยังไม่เลิกล้มความพยายาม เขาเขย่าแขนแฟนหนุ่มอ้อนๆ แต่มาร์คกลับสะบัดมือนั้นออกอย่างไม่ใยดี
“บอกว่าไม่ก็ไม่ดิแบม อย่าเซ้าซี้ได้ไหมมันน่ารำคาญ”
“ทำไมต้องขึ้นเสียงด้วย แล้วนั้นจะออกไปไหน...”
“ไปหาเพื่อน วันนี้ไม่กลับนะไม่ต้องรอ”
ร่างหนาพูดจบก็เดินออกจากห้องไป
ปล่อยให้แบมแบมนั่งมองตามแผ่นหลังนั้นด้วยดวงตาที่ร้อนผ่าว
กริ๊งๆๆ
เสียงโทรศัพท์ที่วางทิ้งไว้บนเตียงดังระงมไปทั่วห้อง
แบมแบมรีบวิ่งเข้ามาดูก็เห็นโทรศัพท์ของมาร์ควางอยู่บนเตียง
“สงสัยจะลืม...”
แบมแบมหยิบโทรศัพท์ขึ้นดูก็เห็นว่าเป็นเบอร์ที่ไม่ได้เมมชื่อไว้เลยกดรับ เผื่อปลายสายจะมีเรื่องสำคัญ
“ฮัลโหล..”
ร่างบางกรอกเสียงลงไปทันทีที่กดรับสาย
“มาร์คเหรอคะ..ใกล้ถึงรึยังแคทรอนานแล้วนะ รีบมาเร็วๆเลยเขาเหงาจะแย่แล้วเนี่ย”
เสียงหญิงสาวตอบกลับมาซึ่งก็เดาได้ไม่ยากว่าเธอต้องการอะไร แบมแบมนิ่งไปทันทีก่อนจะค่อยๆรวบรวมสติและตอบอีกฝ่ายกลับไป
“เอ่อ..คือ มาร์คลืมโทรศัพท์ไว้น่ะครับ แต่เดี๋ยวเขาจะไปหาคุณใช่ไหม ยังไงผมรบกวนขอที่อยู่คุณหน่อยได้ไหมครับผมจะได้เอาโทรศัพท์ไปให้เขา”
เอาจริงๆร่างบางเผื่อใจเรื่องนี้มาสักพักแล้ว เพราะเรื่องพวกนี้เข้าหูเขามาหลายต่อหลายครั้งแต่เป็นเขาเองที่ไม่ยอมเชื่อ คงถึงเวลาที่เขาจะพิสูจน์ให้เห็นกับตาตัวเองแล้วว่าสิ่งที่คนอื่นพูดจริงรึเปล่า
“อ้าว..งั้นเหรอ งั้นเดี๋ยวฉันบอกที่อยู่ให้แล้วนายเอามาให้เขาแล้วกันนะ”
“ขอบคุณมากนะครับ...ตู๊ดๆๆ”
แบมแบมกดวางสายอย่างร้อนรน ขออย่าให้เป็นอย่างที่คิดเลย อย่าเชียวนะ เพราะถ้าใช่เขาคงทนไม่ไหวอีกต่อไป
ร่างบางมองกระดาษที่จดชื่อโรงแรมแห่งหนึ่งเอาไว้ มือเรียวเย็นชื้นไปหมด แบมแบมคว้ากุญแจรถบนโต๊ะหัวเตียงก่อนวิ่งออกไปจากห้อง รถเคลื่อนตัวมาจอดตรงหน้าโรงแรมแห่งหนึ่ง แบมแบมก้มลงมองกระดาษชิ้นเล็กในมืออีกครั้ง
“โรงแรมงั้นเหรอ...”
มือเรียวที่กำลังจะเปิดประตูรถถึงกับชะงักไปเพราะคนที่เขาเฝ้าภาวนาขออย่างให้เจอกำลังเดินดุ่มๆเข้าไปด้านใน มือเรียวเริ่มสั่นเทาทันที
“มาจริงๆสินะ ”
น้ำเสียงสั่นๆถูกเอ่ยออกมาก่อนขายาวจะก้าวลงจากรถและเริ่มเดินตามร่างหนาเข้าไปในโรงแรม ไม่นานนักก็เดินมาหยุดอยู่หน้าห้องพักที่ร่างหนาพึ่งเปิดประตูเข้าไป แบมแบมหยุดยืนค้างอยู่หน้าประตูคิ้วบางขมวดเข้าหากันมือเรียวกำแน่นจนห้อเลือดไปหมด
“เฮ้ออ...เอาวะ”
ก๊อกๆๆๆ แบมแบมรวบรวมความกล้าอยู่พักใหญ่ก่อนจะเคาะบานประตูตรงหน้า ในใจก็เฝ้าคิดว่า คงเป็นเรื่องเข้าใจผิด
“ใครมาขัดตอนนี้วะ...งั้นเดียวมาร์คไปดูเอง อดใจรอแปปนึงนะครับคนดี เดี๋ยวมาร์คมา”
เสียงที่รอดผ่านประตูออกมาทำให้หัวใจของร่างบางแตกสลายไม่เหลือชิ้นดี น้ำตาที่พยายามกลั้นเอาไว้ไหลพรั่งพรูออกมาอย่างห้ามไม่อยู่
แก๊ก... เสียงบานประตูเปิดออกเผยให้เห็นร่างหนาที่นุ่งเพียงผ้าเช็ดตัวผืนเดียว กับหญิงสาวหน้าตาสะสวยนั่งเปลือยเปล่าอยู่บนเตียงแบมแบมมองเข้าไปภายในห้องก่อนหันกลับมาจ้องคนตรงหน้านิ่ง ดวงตาที่เต็มไปด้วยหยาดน้ำตาท้อประกายตัดพ้อ เย็นชา และว่างเปล่า ร่างหนาผงะเล็กน้อยเมื่อเห็นว่าคนที่มาเคาะห้องเป็นใคร
“แบมแบม...”
“จำผมได้ด้วยเหรอ”
“มาได้ยังไง”
มาร์คมีสีหน้าเครียดขึ้นทันทีเมื่อเห็นร่างบางที่กำลังมองมาที่เขาด้วยใบหน้าอาบน้ำตา
“สำคัญด้วยเหรอ ทำแบบนี้สนุกมากไหม...นี่พี่เห็นผมโง่มากเลยสินะ
ผมคงดูควายมากในสายตาพี่ ทำไมพี่ทำกับ
ผมแบบนี้ ผมก็มีหัวใจนะเว้ย ผมก็เป็นคนผมเจ็บเป็น”
“......”
มาร์คไม่ได้ตอบอะไรกลับมาเขาแค่มองอีกฝ่ายนิ่งๆ และนั้นทำให้ร่างบางตัดสินใจได้ในทันที
“ผมเหนื่อยว่ะ ไม่ไหวแล้วไม่ทนแล้ว พอกันทีกับคนเหี้ยๆแบบพี่”
“......”
“ผมว่า...เราเลิกกันเหอะ
หลังจากนี้พี่จะได้ทำอย่างที่อยากทำ ผมก็จะไปตามทางของผมเหมือนกัน”
“ก็เอาสิ...ไหนๆก็มาถึงขนาดนี่แล้ว
จะได้จบๆไป”
“พี่คงรอวันนี้มานานแล้วสินะ”
ร่างบางเริ่มร้องไห้จนตัวโยน ทำให้มาร์คเอื้อมมือออกไปเพื่อจะจับแต่ก็ต้องชะงักเมื่อเห็นสายตาที่อีกฝ่ายส่งมา
“และถ้าฉันรั้งนายจะอยู่ไหม”
“ไม่”
“งั้นฉันจะไม่รั้ง เราจะจบกันตรงนี้ตามที่นายต้องการ”
“ผมไม่เคยต้องการให้เป็นแบบนี้ คนที่ต้องการนั่นมันพี่ !!!”
น้ำเสียงเกรี้ยวกราดถูกส่งออกมา ทั้งๆที่เขาพยายามให้เรื่องนี้จบแบบเงียบที่สุดแต่ความอดทนที่มีก็ขาดสะบั้นลงจนได้
“ผมทำอะไรผิดเหรอทำไมพี่ถึงทำแบบนี้ พี่ทำให้ผมรักแล้วก็หักหลังความรักของผมอย่างเลือดเย็น พี่มันไม่ใช่คนมาร์คพี่เคยรักใครจริงๆบ้างไหม พี่มันก็แค่คนเห็นแก่ตัวที่มั่วไม่เลือก”
ร่างบางกดเสียงต่ำน้ำตาก็ยังคงไหลออกมาไม่ขาดสาย เขามองคนตรงหน้าด้วยสายตาตัดพ้ออย่างเห็นได้ชัด เรื่องแบบนี้คงไม่เกิดขึ้นถ้าคนตรงหน้ารู้จักคำว่าพอ
“มันจะมากไปแล้วนะแบมแบม”
“อะไรที่มากล่ะ สิ่งที่ผมพูดหรือความมักมากของพี่”
เพี๊ยง !!!
ใบหน้าหวานหันไปตามแรงตบ แบมแบมนิ่งไปพอๆกับมาร์คที่นิ่งค้างอยู่แบบนั้น
“แบมแบม คือ พี่ขอ..”
มาร์ครีบพุ่งเข้าไปจับอีกฝ่ายแต่ก็โดนแบมแบมปัดมือนั้นออกอย่างแรง
“ไม่ต้องมาโดนตัวกู ”
สรรพนามที่ถูกปล่อยออกมาเปลี่ยนไปทันที สายตาเศร้าสร้อยก็แปรเปลี่ยนเป็นวาวโรจน์ แบมแบมยกมือขึ้นแตะริมฝีปากก่อนหันไปมองอีกฝ่าย
“หลังจากนี้มึงกับกูไม่เกี่ยวข้องอะไรกันอีก
อยากไปตายที่ไหนก็ไป อ่อ...แล้วก็อย่ามั่วให้มันมากนักล่ะแค่นี้ก็น่าขยะแขยงมากพอแล้ว”
“หึ...ของอย่างงี้มันห้ามยาก ยังไงก็กลับดีๆนะครับ น้องแบมแบม”
ในเมื่ออีกฝ่ายแรงมาคนอย่างมาร์คก็มีแต่จะแรงกลับทำให้การเลิกกันครั้งนี้ดูจะจบไม่สวยเท่าไหร่
“ไม่ต้องไล่กูไปแน่...หวังว่าหลังจากนี้กูคงไม่ต้องเจอคนอย่างมึงอีกนะ ลาขาด”
พูดจบแบมแบมก็หันหลังและเดินจากมาโดยไม่หันกลับไปมองคนๆนั้นอีก ส่วนมาร์คที่ยืนพิงประตูอยู่ก็มองตามอีกฝ่ายไปตลอดทางจบลับตา...เสียงถอนหายใจยาวเหยียดดังขึ้นพร้อมกับมือหนาที่ยกขึ้นลูบใบหน้าตนเอง
“นี่กูทำอะไรลงไปวะเนี่ย...แม่งเอ้ย”
มาร์คสบถออกมาพร้อมกับเตะประตูห้องอย่างแรงเพื่อระบายอารมณ์ที่คั่งค้างในใจ
หลังจากเหตุการณ์วันนั้นแบมแบมก็ไม่เคยเฉียดเข้าใกล้มาร์คอีกเลย
ร่างบางทำเรื่องย้ายมหาลัย เปลี่ยนเบอร์โทรศัพท์และล่องหนไปจากชีวิตของมาร์ค จนมาตอนนี้ตอนที่โชคชะตาเล่นตลกโดยการพาร่างบางมาพบเขาอีกครั้ง
เขายอมรับว่าเรื่องที่เกิดขึ้นตอนนั้นเป็นความผิดของเขาเอง มันเกิดขึ้นจากอารมณ์ชั่ววูบ เขาไม่ได้ตั้งใจให้เป็นแบบนั้นและถ้าถามว่าหลังจากเหตุการณ์วันนั้นเขาเป็นยังไง
บอกได้เลยว่าย่ำแย่มาก เขาที่เสียร่างบางไปพึ่งได้รู้ว่าเขารักอีกฝ่ายมากแค่ไหน
แต่ก็มารู้ตอนที่สายไปแล้ว มาร์คพยายามหาทางขอโทษอีกฝ่ายอยู่หลายครั้งแต่ไม่สามารถติดต่อร่างบางได้เลย
จึงต้องทนเก็บความรู้สึกผิดเอาไว้อย่างนั้นเรื่อยมา
กลับมา ณ
ปัจจุบัน
“จะไปกันรึยัง...”
ร่างหนาเดินมาหยุดอยู่หน้าโต๊ะทำงานของแบมแบมที่กำลังง้วนอยู่กับการจัดเอกสารกองหนาเตอะบนโต๊ะ ร่างบางเงยหน้าขึ้นมามองเพียงเล็กน้อยก่อนจะหันกลับไปสนใจงานตรงหน้าอีกครั้ง
“กันต์พิมุกต์...”
“.....”
ร่างบางยังคงทำเป็นไม่สนใจอีกฝ่ายและดูเอกสารในมือต่อ
“แบมแบม...”
“.....”
“แบม...”
เสียงทุ้มเอ่ยขึ้นก่อนจะหมดความอดทน มาร์คเดินอ้อมไปดึงร่างบางให้ลุกขึ้น และลากให้เดินตามตนออกไปโดยไม่สนใจสายตานับสิบที่มองมาแม้แต่น้อย แบมแบมพยายามสะบัดมือออกจากการจับกุมแต่ดูเหมือนยิ่งขัดขืนแรงบีบที่ข้อมือยิ่งมีมากขึ้น จนในที่สุดทั้งคู่ก็เดินมาถึงรถที่จอดอยู่
“ทำไมฉันเรียกแล้วไม่สนใจ”
“เพราะผมกำลังทำงาน
ถ้าคุณมาร์คมีตาคงพอเห็น”
“ต่อปากต่อคำเก่งนักนะ...ขึ้นรถ”
“ขอโทษนะครับ ผมคงไม่สะดวกไปกับคุณเพราะยังมีงานต้องทำอีกเยอะ
ยังไงผมขอตัว”
“ไม่ได้ ฉันสั่งนายก็ต้องไป”
มาร์คจับร่างบางยัดเข้าไปด้านในก่อนรีบวิ่งไปนั่งด้านคนขับแล้วขับรถออกไปทันที
“นายหิวไหม..อยากกินอะไรเดี๋ยวฉันพาไป”
“......”
ไร้ซึ่งเสียงตอบกลับใดๆ แบมแบมได้แต่มองออกไปนอกรถด้วยแววตาเรียบเฉยไร้ซึ่งอารมณ์ใดๆ เขาไม่หันมามองหรือสนใจมาร์คเลยแม้แต่น้อย มาร์คหันมามองร่างบางก็ถึงกับรอบถอนหายใจออกมา
“งั้นไปร้านที่นายชอบแล้วกัน ฉันจำได้ว่านายชอบลาซานญ่าร้านนี้”
“.....”
“แบมแบม...”
“.....”
มาร์คหักรถเข้าจอดข้างทางก่อนหันไปหาคนที่นั่งเหม่อลอยอยู่ข้างๆ
“หันมานี่หน่อย”
“.....”
“ฉันสั่ง...หันมาเดี๋ยวนี้”
มาร์คเอ่ยเสียงเข้มทำให้ร่างบางยอมหันมามองเขา ตามจริงเขาไม่ได้อยากขู่ร่างบางแต่มันคงเป็นทางเดียวที่อีกฝ่ายจะยอมทำตามที่เขาบอก
“ทำไมต้องทำเป็นไม่สนใจด้วย หรือเป็นเพราะเรื่องตอนนั้น ถ้าใช่ฉันก็อยากขอโทษนาย...เป็นความผิดฉันเองที่เราจบกันไม่สวยเท่าไหร่”
“พอเถอะ...เรื่องก็นานมากแล้วคุณจะขุดขึ้นมาพูดทำไม”
แบมแบมเอ่ยเสียงเรียบ ขณะที่มือเรียวกำลังบีบเข้าหากันจนแน่นเพื่อข่มอารมณ์บางอย่างที่เกิดขึ้นในใจ
“ฉันแค่อยากให้นายรู้ว่าฉันก็เสียใจกับเรื่องที่เกิดขึ้น
ฉันไม่ได้อยากให้เรื่องของเราต้องจบลงแบบนั้น”
“แต่มันก็จบแบบนั้น...คุณคิดว่าการที่คุณมาขอโทษผมตอนนี้มันจะทำให้อะไรๆดีขึ้นงั้นเหรอ ความรู้สึกที่มันเสียไปแล้วจะให้กลับมาเป็นเหมือนเดิมคงยาก ผมว่าคุณเก็บคำขอโทษพวกนั้นไปเถอะ ผมไม่ต้องการ”
ร่างบางพูดจบก็เบือนหน้าไปอีกทางเพราะตอนนี้หัวใจเจ้ากรรมกำลังเริ่มกลับมาเจ็บปวดอีกครั้งอย่างห้ามไม่อยู่
“แล้วฉันต้องทำยังไงนายถึงจะยอมยกโทษให้ล่ะ”
มาร์คที่แอบเห็นสายตาไหววูบของร่างบางเอ่ยขึ้นเพราะเขารู้สึกถึงอะไรบางอย่างที่บอกว่าเขายังพอมีหวัง
“คุณไม่ต้องทำอะไรทั้งนั้น
แค่เลิกยุ่งกับผมก็พอ ”
แบมแบมหันมาตอบเสียงแข็งพร้อมกับจ้องมาร์คนิ่ง สายตาที่ส่งมาดูแข็งกร้าวปนตัดพ้อทำให้มาร์คยื่นหน้าเข้าไปใกล้อีกฝ่ายมากขึ้น
“ไม่...ฉันจะไม่ปล่อยนายไปเป็นครั้งที่สองแน่แบมแบม นายเตรียมตัวไว้ได้เลย”
เสียงทุ้มประกาศกร้าวก่อนจะหันไปมองถนนตรงหน้าและออกรถอีกครั้ง ระหว่างทางมาร์คเหลือบมองร่างบางเป็นระยะขณะที่ร่างบางก็รอบถอนหายใจออกมาเป็นครั้งคราวเช่นกัน...
**********************************************
>>> TALK <<
กลับมาอัพพร้อมคำตอบว่าเกิดอะไรขึ้นระหว่างมาร์คและแบมแบม
ตอนนี้ดูไม่ค่อยมีอะไรมากนัก
แต่อยากให้ติดตามนะคะว่าสุดท้ายแล้วเรื่องนี่จะจบลงในรูปแบบไหน
อย่าลืมเม้นกันเยอะๆน้า หรือจะติดแท็ก #ฟิคเลิกรา
ก็ได้จร้า...
ความคิดเห็น