คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : Level_2 《Rewrite》
การแข่งขันกำลังจะเริ่มขึ้นในอีกไม่กี่นาทีข้างหน้าไอ้เชนเลยเรียกรวมพลเพื่อบอกแผนการเล่นให้ลูกทีมฟัง ผมที่วอร์มร่างกายอยู่จึงรีบเดินเข้าไปสมทบทันที
“รุ่นพี่ที่มาแต่ละคนไม่ธรรมดาโดยเฉพาะพี่มาร์คอดีตกัปตันทีมคนดัง งานนี้พวกมึงห้ามประมาทเด็ดขาดและวันนี้ไอ้แบมมึงเปลี่ยนมายืนเป็น SF แทนไอ้เนสนะกูจะให้มึงประกบพี่มาร์คเพราะมึงคล่องตัวกว่าแล้วให้ไอ้เนสไปเล่น PF แทนมึง”
( * SF = Small Forward ตำแหน่งปีกที่สามารถเล่นได้ดีทั้งวงนอกและวงใน
)
( * PF = Power Forward ตำแหน่งที่เป็นตัวทำคะแนนใต้แป้นซะส่วนใหญ่
)
“แล้วทำไมมึงไม่ประกบพี่เขาเองวะ”
ผมเริ่มบ่นอิดออดเล็กน้อยไม่ใช่ว่าเล่นไม่ได้ ผมสามารถเล่นได้ทุกตำแหน่งอยู่แล้วแต่ประเด็นอยู่ที่มันเล่นโยนขี้มาให้ผมหน้าตาเฉยถ้าพี่เขาเก่งมากมายขนาดนั้น แล้วผมจะเอาอยู่ได้ยังไง
“ทำไม มึงกลัวพี่เขารึไง”
ไอ้เชนเอ่ยสบประมาทผมด้วยสีหน้าเย้ยหยัน
“ใครกลัวคนอย่างกูเนี่ยนะ ให้มันน้อยๆหน่อยไอ้เชน”
“งั้นมึงก็คงไม่มีปัญหาอะไร”
“เออๆ แม่งเหี้ยไรก็กู”
ผมทำหน้าเซ็งๆส่งไปให้มัน
มันเลยตบไหล่ผมปุๆก่อนจะขำออกมาคนอื่นๆในทีมก็เป็นไปด้วยพากันขำใส่ผมคิกคัก
ปรี๊ด...เสียงนกหวีดดังขึ้นบ่งบอกว่าเกมนัดสำคัญได้เริ่มขึ้นแล้ว
พวกผมหันหน้าเข้าหากันทุกคนวางมือประสานกันก่อนเปล่งเสียงดังก้องเพื่อเรียกขวัญและกำลังใจ
“เอาตามนี้นะ ตั้งใจเล่นนะเว้ยเพราะนัดนี้เป็นนัดสุดท้ายที่กูกับไอ้แบมจะได้เล่นกับพวกมึง พวกกูอยากจบออกไปพร้อมชัยชนะว่ะ”
ไอ้เชนมองหน้าผมก่อนจะมองน้องๆในทีมด้วยสีหน้ามุ่งมั่น
พวกมันเลยพยักหน้ารับกันอย่างพร้อมเพียง
“เล่นให้เต็มที่แสดงให้พวกเขาเห็นว่ารุ่นน้องอย่างเราก็มีดี ไปเว้ยออกไปสู้”
เสียงไอ้เชนประกาศกร้าวสร้างแรงฮึกเหิมให้พวกผมได้เป็นอย่างดี
ผมเดินตามมันลงไปในสนามบรรยากาศรอบๆเงียบกริบจนได้ยินเสียงลมหายใจของคนข้างๆอย่างชัดเจน กรรมการกำลังจะโยนลูกเปิดเกมโดยมีพี่มาร์คที่เป็นกัปตันของทีมรุ่นพี่และไอ้เชนกัปตันคนปัจจุบันยืนจ้องกันอยู่กลางสนาม
กรรมการค่อยๆโยนลูกขึ้นไปในจังหวะนั้นพี่มาร์คก็กระโดดคว้าลูกเอาไว้ได้จึงทำให้ทีมรุ่นพี่ได้เปิดเกมลุกก่อน
ผมรีบวิ่งเข้าไปประกบรุ่นพี่ผมเทาทันทีแต่ดูเหมือนความไวที่มีจะไม่เพียงพอเมื่อพี่มาร์ควิ่งเข้าไปทำเลย์อัพลูกลงห่วงอย่างง่ายดาย ผมจ้องคนตรงหน้านิดๆพี่เขาก็มองกลับมาเช่นกันก่อนจะวิ่งผ่านผมไปเพื่อรอตั้งรับในแดนของตัวเอง
ไอ้เชนที่วิ่งเลี้ยงลูกอยู่ค่อยๆเข้าไปใกล้เส้นหัวกะโหลก มันหันมาพยักหน้าให้ผมเป็นอันเข้าใจตรงกันว่าผมต้องเข้าไปกันพี่มาร์คออกจากแดนกลางเพื่อให้ไอ้เปอร์ที่เป็นเซ็นเตอร์ทำแต้ม ผมรีบวิ่งเข้าไปประกบพี่มาร์คทันทีคราวนี้ผมใช้ตัวเบียดพี่เขาจนต้องถอยล่นออกไปด้านนอกไอ้เปอร์จึงได้โอกาสทำแต้มให้ทีมผม พี่มาร์คเริ่มจ้องมาที่ผมพร้อมเลิกคิ้วเล็กๆ ผมเลยจ้องกลับไปแต่ไม่ได้ใส่ใจอะไรมากนักเพราะผมต้องรีบวิ่งกลับแดนตัวเองขณะกำลังวิ่งอยู่ผมก็ได้ยินเสียงพี่มาร์คเรียกเพื่อนให้ส่งลูกมาให้ เขาเริ่มเลี้ยงลูกเข้ามาหาผมด้วยความเร็ว ผมรีบตั้งรับเต็มที่กะว่าต้องมีการปะทะแน่ๆแต่ผิดคาดเมื่อเขาหยุดนอกหัวกะโหลกและกระโดดชู๊ตลูกออกไป ซวบ..ลูกลงห่วงอย่างสวยงามและเก็บ 3 แต้มไปได้ผมขยี้หัวด้วยความหงุดหงิดที่ทำอะไรรุ่นพี่คนนี้ไม่ได้เลย พี่มาร์คเดินมาหยุดตรงหน้าผมก่อนจะกระตุกยิ้มและยักคิ้วกวนๆส่งมาให้ ผมอึ้งไปเล็กน้อยนี่มันหยามกันชัดๆมันจะมากไปแล้ว ผมกำหมัดแน่นเตรียมพุ่งเข้าใส่คนตรงหน้าแต่ถูกไอ้เชนวิ่งเข้ามารั้งไว้ก่อน
“ใจเย็นมึงกูว่าไปลงในเกมดีกว่า ทำให้เขารู้ว่ามึงเจ๋งแค่ไหน”
ไอ้เชนที่เห็นเหตุการณ์ทั้งหมดเอ่ยขึ้นพร้อมตบไหล่ผมเบาๆ
“เออ...กูต้องชนะให้ได้ มึงค่อยดูแล้วกัน”
ผมเอ่ยเสียงกดต่ำขณะที่เกมการแข่งขันผ่านมาจนถึงควอเตอร์สุดท้ายซึ่งทีมผมมีคะแนนตามอยู่เล็กน้อย ผมจึงวิ่งเข้าปะทะตัวบล็อกของอีกทีมก่อนจะได้โอกาสขึ้นทำแต้มเป็นผลให้คะแนนของทั้งสองทีมเสมอกัน ทั้งสนามจึงเข้าสู่โหมดตรึงเครียดทันทีเพราะศักดิ์ศรีคล้ำคอกันทั้งสองฝ่าย
ปรี๊ด...ในที่สุดกรรมการก็เป่านกหวีดหมดเวลาและเมื่อผลออกมาเสมอกันทำให้ต้องมีการต่อเวลาเกิดขึ้นทั้งสองทีมจึงเรียกรวมตัวลูกทีมอย่างเร่งด่วน
“พวกเราทำได้ดีแล้ว แต่กูอยากให้มึงวิ่งตัดบอลให้ไวกว่านี้”
ไอ้เชนหันไปบอกไอ้จุนที่เป็นตัวตัดบอลก่อนจะหันมาหาผมที่ยืนเช็ดเหงื่ออยู่ข้างๆมัน
“ส่วนมึงไอ้แบม กูอยากให้มึงหาจังหวะทำ 3 แต้มให้ได้”
ผมพยักหน้ารับนิดๆ
“สู้ๆกันหน่อยเว้ย กูเชื่อว่าเราทำได้”
ไอ้เชนเอ่ยเรียกขวัญอีกครั้งก่อนจะยืนมือออกมาด้านหน้าและเมื่อเห็นดังนั้นพวกผมก็รีบวางมือทับลงไปทันที
“สู้โว้ย..!!!”
ทุกคนตะโกนออกมาพร้อมกันเรียกเสียงเชียร์จากข้างสนามได้ไม่น้อย
ผมหันไปมองพี่มาร์คที่นั่งกินน้ำอย่างสบายใจซึ่งเขาก็มองกลับมาเช่นกัน ผมเลยเดินเข้าไปหาเขาทันที
“มีอะไร”
พี่มาร์คมองผมก่อนเอ่ยเสียงเรียบ
ผมไม่ได้ตอบคำถามเพียงแค่ยักไหล่กวนๆส่งกลับไปแล้วเดินกลับมายังที่นั่งทีมตัวเอง ผมหันไปมองพี่มาร์คอีกครั้งและแน่นอนว่าเขายังจ้องมาที่ผมด้วยสีหน้านิ่งๆ
ผมเลยแกล้งทำปากจู๋ส่งจูบไปให้หนึ่งทีทำให้อีกฝ่ายเด้งตัวลุกขึ้นพร้อมกับมองหน้าผมไม่วางตา
“มึงนี่ขยันหาเรื่องจริงๆเลยนะไอ้แบม”
เสียงไอ้เชนดังขึ้นก่อนมันจะนั่งลงข้างๆผม
“ก็กูหมั่นไส้นี่หว่า เก๊กอยู่ได้หล่อตายห่าอะ”
“กูว่าพี่เขาก็หล่ออยู่นะ หรือมึงว่าไม่หล่อ”
ส่วนนี่เสียงไอ้จินยองที่มายืนอยู่ข้างหลังพวกผมตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้
“อ้าว...ไอ้ประธาน มึงเตรียมงานเสร็จแล้วเหรอ”
ผมหันไปถามอีกฝ่าย
“กูแค่ไปตรวจความเรียบร้อยนิดหน่อย อีกอย่างเกมสำคัญขนาดนี้กูจะพลาดได้ไงนี่ก็เกือบมาไม่ทันอยู่แล้ว ดีนะมีต่อเวลา”
มันตอบกลับมาพร้อมนั่งลงข้างๆไอ้ยองแจที่เอาแต่ก้มหน้าก้มตาเล่นโทรศัพท์ไม่เลิกผมล่ะสงสัยจริงๆว่ามันเล่นอะไรทั้งวี่ทั้งวัน นี่ถ้าโทรศัพท์หายมันคงขาดใจตายแน่ๆ
ปรี๊ด..เสียงนกหวีดเริ่มเกมในช่วงต่อเวลาดังขึ้นเรียกให้นักกีฬาทยอยเดินลงไปในสนาม
การต่อเวลาจะเล่นกันแค่ 5 นาทีเท่านั้น เกมจึงดำเนินไปอย่างรวดเร็วผมวิ่งเข้าไปกันคนหัวเทาทันทีทำให้เขาโยกตัวหลบผมด้วยความว่องไวแล้วหันไปส่งลูกให้เพื่อนแต่ก็ถูกไอ้จุนวิ่งเข้าไปตัดบอลไว้ได้
ไอ้จุนส่งลูกต่อไปให้ไอ้เชนส่วนผมยังคงพยายามยันพี่มาร์คเอาไว้
“ไอ้เชน ส่งลูกให้กู”
ผมตะโกนบอกไอ้เชนที่กำลังเดินเลี้ยงลูกอยู่ ก่อนจะใช้ตัวกระแทกพี่มาร์คจนเขาเซไปด้านหลังแล้ววิ่งผละออกมาเพื่อรับลูก เมื่อไอ้เชนส่งลูกมาให้ตามคำขอ ผมก็รีบกระโดดรับ และชู้ตออกไปทันทีทำให้ทุกคนหยุดยืนค้างมองลูกบอลสีส้มลอยไปกระแทกขอบแป้นก่อนจะชิ่งลงห่วงไปช้าๆ
ปรี๊ด...เสียงสัญญาณหมดเวลาดังขึ้นในเวลาต่อมา
“มึงทำได้แล้วไอ้แบม พวกเราทำได้แล้วโว้ยย !!!”
เสียงไอ้เชนตะโกนดังลั่นสนามพร้อมกับคนอื่นๆที่วิ่งกรูเข้ามาหาผมก่อนจะยกผมขึ้นโยนกลางอากาศนักเรียนที่มาเชียร์ล้วนแต่ส่งเสียงโห่ร้องกันอย่างเมามัน
“กูทำได้แล้ว ฮ่าๆๆ”
ผมหัวเราะออกมาอย่างบ้าคลั่งในที่สุดผมก็ทำสำเร็จพวกมันวางผมลงแล้วไปยืนเรียงแถวหน้ากระดานพวกรุ่นพี่ก็ทำเช่นเดียวกัน
“ขอบคุณมากนะครับ ที่สละเวลามาแข่งกับพวกผมเกมวันนี้สนุกมากครับ”
ไอ้เชนเอ่ยเสียงดังฟังชัดเมื่อต้องยืนเผชิญหน้ากับรุ่นพี่
“ขอบคุณมากครับ”
ทุกคนในทีมตะโกนออกมาพร้อมกันก่อนจะโค้งให้อีกฝ่าย
“พวกฉันก็ขอบใจที่พวกนายเล่นกันเต็มที่ ถึงจะแพ้แต่ก็สนุกมาก”
กัปตันทีมรุ่นพี่เอ่ยรับยิ้มๆพวกรุ่นพี่เดินเข้ามาจับมือพวกผม
ส่วนรุ่นพี่หัวเทาเดินตรงมาหาผมที่ยืนอยู่ตรงหน้าก่อนจะยื่นมือออกมา ผมจึงรีบยื่นมือไปจับทันที
“ชื่อ แบมแบม ใช่ไหม”
ประโยคคำถามดังมาจากรุ่นพี่ตรงหน้า
“ใช่ครับ พี่รู้จักชื่อผมด้วยเหรอ”
ผมเอ่ยตอบพร้อมมองคนตรงหน้าไปด้วย
“พอดีได้ยินเพื่อนนายเรียกน่ะ”
“อ่อ...งั้นยินดีที่ได้รู้จักนะครับ”
“เช่นกันว่าแต่ทำไมฉันไม่เคยเห็นหน้านายมาก่อน”
“พอดีผมเข้ามาเรียนที่นี่ตอนม.4 พี่น่าจะเรียนจบไปแล้ว“
“ใช่...มันมาตอนพี่จบไปแล้ว พี่จะเจอมันได้ไง”
เสียงไอ้จินยองดังแทรกขึ้นเรียกให้ผมและพี่มาร์คหันไปมอง
มันเดินมายืนข้างๆผมก่อนโค้งให้พี่มาร์คนิดๆ ความจริงแล้วผมกับไอ้จินยองเคยแยกกันเรียนตอนม.ต้นเพราะผมต้องตามครอบครัวไปอยู่เมืองนอกและพึ่งย้ายกลับมาเรียนที่นี่ตอนม.ปลายทำให้ไม่ค่อยรู้จักรุ่นพี่พวกนี้เท่าไหร่
“ไงไอ้จินไม่เจอกันนานเลยนะ”
พี่มาร์คหันไปทักทายมันด้วยท่าทีสนิทสนม
ดูเหมือนมันกับพี่มาร์คจะสนิทกันพอสมควร
“ครับ...ว่าแต่พี่ก็ยังเรียกเสียงกรี๊ดได้เสมอเลยนะครับ”
มันยกแขนขึ้นมาวางบนไหล่ผมแถมยังยื่นหน้ายื่นตาคุยกับรุ่นพี่ตรงหน้าโดยไม่สนใจผมสักนิดผมเลยปัดแขนมันลงจากไหล่
แล้วเตรียมจะเดินไปรวมกลุ่มกับเพื่อนนักบาสที่จับกลุ่มกันอยู่อีกฟากของสนามแต่ก็โดนเสียงทุ้มดังขัดขึ้นซะก่อน
“วันนี้ไปแดกเหล้ากันไหม กูเลี้ยงเอง”
ผมหันไปตามเสียงด้วยสีหน้างงๆ
ที่พูดนี่คือชวนกูด้วยหรือชวนแค่ไอ้จินยองคนเดียววะ ผมคิดในใจ
“ชวนมึงด้วยนั่นแหละไม่ต้องทำหน้างง กูรู้สึกถูกชะตากับมึงพูดกูมึงไม่ถือใช่ไหม”
พี่มาร์คพูดยิ้มๆ ส่วนไอ้จินยองก็หันมาขำแปลกๆใส่ผม มีอะไรกันรึเปล่ามองกูแล้วขำนี่ยังไง ต้องการอะไร ???
“เต็มที่เลยพี่ผมไม่ถือ และถ้าพี่จะเลี้ยงผมก็ไม่ขัดศรัทธานะ ยังไงผมขอตัวก่อนไว้เจอกันครับ”
พูดจบผมก็เดินไปรวมกลุ่มกับเพื่อนๆนักบาสที่ยืนอยู่ไม่ไกลจากตรงนั้น
“ถูกชะตาเนี่ยนะไม่เนียนวะพี่ ผมว่าพี่ถูกใจเพื่อนผมมากกว่ามั้ง”
จินยองพูดขึ้นลอยๆแต่ก็ไม่สามารถเรียกความสนใจจากคนที่ยืนอยู่ข้างๆได้ มาร์คยังคงมองตามร่างบางที่เดินไกลออกไปก่อนจะยกยิ้มมุมปากอย่างที่ยากคนนักจะได้เห็นและแน่นอนว่าจินยองที่รู้จักกับมาร์คมาหลายปีย่อมรู้ดีว่าคนๆนี้ไม่ได้เงียบขรึมอย่างที่ใครๆคิด
“ไอ้จินงานนี้มึงต้องช่วยกู”
“ทำไมต้องเป็นผมด้วยล่ะ ???”
“ก็มันเป็นเพื่อนมึง มึงถึงต้องช่วยกูไง”
“แล้วถ้าผมไม่ช่วยล่ะ”
ประธานหนุ่มเอ่ยหยั่งเชิง
“กูก็จะบอกไอ้เจบีว่ามึงแอบชอบมัน”
มาร์คหันไปพูดกับรุ่นน้องพร้อมรอยยิ้มร้าย
“นี่พี่ขู่ผมเหรอ”
จินยองเริ่มหน้าเครียดขึ้นมาทันที
“ตกลงจะช่วยหรือไม่ช่วย”
มาร์คหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาพร้อมกดโทรออก
ทำให้จินยองเริ่มรนรานแต่ก็ยังพอมีสติหยุดคิดถึงสิ่งที่จะตามมาเพราะยังไงซะแบมแบมก็เป็นเพื่อนเขามาตั้งแต่เด็ก จะให้หักหลังมันก็ใช่เรื่อง
“ฮัลโหล…ไอ้เจบี”
เพียงแค่ได้ยินชื่อบุคคลปลายสายจินยองก็รีบพุงไปแย่งโทรศัพท์ในมือมาร์คมาถือเอาไว้ทันที
เรื่องผิดชอบชั่วดีคงต้องเอาไว้ทีหลังตอนนี้ขอเอาตัวรอดจากเรื่องนี้ให้ได้ก่อน
“โอเคๆ ผมจะช่วยพี่”
จินยองพูดออกมาโดนไม่มีเสียง
มาร์คยกยิ้มอย่างผู้มีชัยก่อนจะหยิบโทรศัพท์คืนมาจากรุ่นน้องตรงหน้า
“ก็แค่เนี่ย..ฮัลโหลไอ้เจบี กูจะโทรมาบอกว่าวันนี้เจอกันร้านเดิมนะ เออๆงั้นแค่นี้แหละเดี๋ยวเจอกัน”
พูดจบมาร์คก็กดวางสายและเก็บโทรศัพท์เข้ากระเป๋ากางเกงตามเดิม
“พี่เล่นบ้าอะไรวะตกใจหมด อย่าแม้แต่จะคิดเชียวนะไอ้พี่มาร์ค ส่วนเรื่องไอ้แบมผมยอมช่วยพี่ก็ได้เพราะผมก็อยากรู้เหมือนกันว่าพี่กับมันใครจะอยู่ใครจะไป”
“ทำไม เพื่อนมึงแสบขนาดนั้นเลยรึไง”
“เดี๋ยวพี่ก็รู้เองแหละ แต่ตอนนี้ผมหิวแล้วพี่เลี้ยงข้าวผมหน่อยดิ”
“นี่มึงเห็นกูเป็นเอทีเอ็มเคลื่อนที่รึไงเจอหน้ากูทีไรให้เลี้ยงข้าวทุกที”
“โถ่...แค่นี้ขนหน้าแข้งพี่ไม่ร่วงหรอก นานๆเจอผมทีเลี้ยงน้องไม่ได้รึไง”
“เออๆๆ และที่บอกจะช่วยกูก็อย่าลืมแล้วกัน”
มาร์คกอดคอจินยองแล้วเดินไปด้วยกันโดยหารู้ไม่ว่าทุกๆการกระทำตกอยู่ในสายตาของใครอีกคนที่เฝ้าดูเหตุการณ์ตลอดเวลา
“น่าสนุกนิ มีอะไรให้เล่นแก้เบื่อซะที”
เสียงปริศนาเอ่ยออกมาอย่างแผ่วเบาก่อนจะเดินหายไปพร้อมฝูงชน
+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
>>> TBC <<<
อะแฮ่มๆๆ เลเวลสองมาแล้วนะคะ มาพร้อมบุคคลปริศนาเค้าจะเป็นใครกันน้าาา ???
คอมเม้นติชมกันได้เลย อย่าลืมเม้นกันเยอะๆนะคะและไปพูดคุยกันได้ใน
Tag : #ฟิคลองของ
ความคิดเห็น