คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : Level_1 《Rewrite》
“มึงสายอีกแล้วนะไอ้แบม”
เสียงก้าวดังมาจากด้านหลังเรียกให้เจ้าของชื่อหันกลับไปมองก่อนจะพบกับเพื่อนร่วมรุ่นเดียวกันอย่าง นาย ปาร์ค จินยอง ประธานนักเรียนสุดเหี้ยมที่ทุกคนต่างพากันขนานนามเรื่องความโหด
“กูก็สายแบบนี้ทุกวันมึงจะบ่นทำไม”
“แต่นี่มันวันจบการศึกษามึงจะทำตัวดีๆกับเขาสักวันไม่ได้เลยใช่ไหมไอ้แบม”
ประธานหนุ่มเอ่ยเสียงเข้ม
“ไอ้คุณปาร์ค จินยองครับ มึงเป็นเพื่อนกูมาตั้งแต่ตีนเท่าฝาหอยน่าจะรู้จักกูดีที่สุดนะฉะนั้นเลิกบ่นเถอะว่ะ
มึงก็รู้ว่ากูไม่ฟังหรอก”
“ใช่ กูเป็นเพื่อนมึงและเพื่อนมึงคนนี้ก็เป็นประธานนักเรียนด้วย ยังไงกฎก็ต้องเป็นกฎไม่มีข้อยกเว้น มึงไปวิ่งรอบสนามเลยไป”
จินยองออกคำสั่งเสียงแข็งตามสไตล์ผู้นำจอมเผด็จการ
“โหย...กูไม่ไปได้ไหมแดดโคตรแรงผิวกูเสียหมดพอดี”
ร่างบางเริ่มโอดครวญออกมาทันที
มีอย่างที่ไหนให้คนหล่อๆอย่างเขาไปวิ่งตากแดดตากลมแบบนั้น
“มึงจะไปหรือไม่ไป คราวก่อนที่มึงมีเรื่องกับไอ้ยูคยอมกูยังไม่ได้เคลียร์เลยนะ แต่ถ้ามึงกลัวร้อนมากนักงั้นไปนั่งเล่นในห้องปกครองแทนดีไหมแอร์เย็นฉ่ำถูกใจมึงแน่”
“เออๆวิ่งก็วิ่งวะ แค่นี้ต้องขู่กูด้วย”
เสียงแหบปนหวานตอบด้วยท่าทีเซ็งๆก่อนจะเริ่มออกวิ่งไปตามทางเดินรอบสนามบอลอย่างอ้อยอิ่ง
“เฮ้ยๆ พวกมึงดูนั่นวิ่งหอบเป็นหมาตากแดดเลยว่ะ”
น้ำเสียงกลั้วหัวเราะดังมาจากนาย คิม ยูคยอมและผ่องเพื่อนที่เคยมีเรื่องมีราวกับรางบางเมื่อไม่นานมานี้
และเสียงแซวทำให้แบมแบมหยุดวิ่งทันทีก่อนหันไปมองทางคู่อริที่ยืนอยู่ไม่ห่างนัก
“พวกมึงนี่หิวตีนกันแต่เช้าเลยนะ”
แบมแบมตอกกลับพร้อมกับจ้องอีกฝ่ายเขม่ง
“แหม...ดุซะด้วยพันธ์ไรวะเนี่ย”
“ไอ้สัส !!!”
เมื่อความอดทนหมดลงร่างบางก็พุงตัวเข้าไปหาอีกฝ่ายทันทีก่อนจะกระชากคอเสื้อยูคยอมอย่างแรงจนร่างสูงโน้มตัวลงมาตามแรงดึง
แต่ยังไม่ทันได้ปล่อยหมัดออกไป จินยองก็วิ่งเข้ามาห้ามทัพซะก่อน
“หยุดๆๆ...กูบอกให้หยุดไง ไอ้แบมปล่อยมือจากคอเสื้อมันเดี๋ยวนี้”
ท่านประธานเอ่ยเสียงเครียดพร้อมกับพยายามแยกทั้งคู่ออกจากกัน
“ก็มันเริ่มก่อน มึงจะมาห้ามกูทำไม”
มือเรียวยังคงกำคอเสื้ออีกฝ่ายเอาไว้แน่นขณะที่ยูคยอมยังคงทำหน้าตากวนอวัยวะเบื้องล่างส่งกลับไปอย่างไม่มีใครยอมใคร
“ไอ้แบมกูบอกให้ปล่อยมือไง ส่วนมึงก็เลิกกวนตีนมันสักทีได้ไหมไอ้ยูคยอม ห่าเอ้ย...เรื่องผ่านมาตั้งนานแล้วจะแค้นเหี้ยอะไรกันนักหนาวะ”
จินยองที่หมดความอดทนเอ่ยเปิดประเด็นบาดหมางเก่าของทั้งคู่ขึ้นมา
เรื่องนี้เกิดขึ้นตอนแบมแบมย้ายกลับมาจากเมืองนอกเพื่อเรียนต่อ ม.4 ที่นี่ตอนนั้นพวกเขาค่อนข้างเป็นที่รู้จักในวงกว้างเพราะแบมแบมได้ลงเป็นตัวจริงให้ทีมบาสยูคยอมก็คัดตัวติดเข้าทีมฟุตบอล ส่วนจินยองได้รับเลือกเป็นรองประธานนักเรียน ตอนแรกทุกอย่างผ่านไปอย่างสวยหรูพวกเขามีคนชื่นชอบและชื่นชมมากมายจนกระทั่งวันที่ แบมแบมแอบไปมีอะไรกับแฟนเพื่อนซึ่งก็คือรุ่นน้องคนสวยแฟนสาวของ คิม ยูคยอม ผ่านไปไม่นานวันโลกาสามวินาศก็มาถึงเมื่อยูคยอมจับได้ว่าร่างบางแอบย่องไปตีท้ายครัวเขาถึงคอนโดทำให้ทั้งคู่กลายเป็นศัตรูกันนับตั้งแต่นั้นมา ส่วนคนกลางอย่างจินยองที่ไม่รู้ว่าต้องทำตัวยังไงก็ได้แต่คอยใช้ตำแหน่งรองประธานนักเรียนเข้าไปเคลียร์เรื่องทะเลาะวิวาทของทั้งคู่ จนตอนนี้พวกเขาม.6แล้วแถมปีนี้ก็เป็นปีสุดท้ายที่พวกเขาจะอยู่ในรั้วโรงเรียนแต่ดูเหมือนเรื่องบาดหมางนี้จะยิ่งทวีคูณขึ้นเรื่อยๆทั้งที่พวกเขาเคยเป็นเพื่อนสนิทที่วิ่งเล่นกันมาตั้งแต่เด็กๆแท้ๆ
“มึงพูดเรื่องนี้ขึ้นมาก็ดี เพราะกูก็อยากรู้เหมือนกันว่าทำไมเพื่อนที่กูไว้ใจถึงกล้าแทงข้างหลังกูแบบนี้”
ยูคยอมจ้องไปที่แบมแบมด้วยสายตาเจ็บปวดในแบบที่ร่างบางเองก็ไม่เคยเห็นมาก่อน
เขาจึงยอมปล่อยมือออกจากคอเสื้ออีกฝ่ายและถอยหลังออกมาเล็กน้อยเพื่อเว้นระยะห่าง
“เออ...กูรู้ แต่มึงก็ควรรู้ไว้ซะด้วยว่าเด็กนั่นไม่ได้ใสซื่ออย่างที่มึงคิดแม่งมั่วจะตายมึงคิดว่ามันแอบมีอะไรกับกูแค่คนเดียวรึไงและที่กูทำก็เพราะอยากให้มึงตาสว่างซะที”
“มึงคิดว่าคนอย่างกูดูไม่ออกรึไง กูรู้หมดแหละว่ามันแอบไปมีอะไรกับใครบ้างแต่ทำไมต้องเป็นมึง”
น้ำเสียงกร้าวเอ่ยออกมาด้วยความไม่เข้าใจ
ทั้งคู่จ้องกันไปมาอย่างไม่ยอมกัน
“กูว่าพวกมึงพอเหอะเราคุยเรื่องนี้กันมากี่รอบแล้วพวกเราเป็นเพื่อนกันมาตั้งแต่เด็กนะเว้ย ทำไมต้องมาแตกคอกันเพราะผู้หญิงแรดๆคนเดียวด้วยวะ”
จินยองที่ยืนฟังอยู่พูดแทรกขึ้นมาด้วยน้ำเสียงจริงจังทำให้ที่สองคนหันไปมองยังต้นเสียง
“ก็มันไม่ยอมจบมึงจะให้กูทำไง ขอโทษก็แล้วจะเอาไงอีกวะ วุ่นวายชิบหาย”
ร่างบางยกมือขึ้นเสยผมอย่างหัวเสีย เพราะเขาเคยขอโทษเรื่องนี้ไปแล้วและคนอย่างเขาไม่มีวันขอโทษใครซ้ำสองแน่
“พวกมึงก็พอๆกันอ่ะ ไอ้ยูคยอมทั้งๆที่รู้ว่าถูกสวมเขาก็เสือกโง่ให้เขาหลอกอยู่ได้ ส่วนมึงนะไอ้แบมต่อให้อ้างว่าทำเพราะอยากให้มันตาสว่าง แต่มันไม่ถูกวิธีไงและถ้ามึงจะช่วย เพลาๆเรื่องพวกนี้ลงหน่อยจะดีมากของเพื่อนของฝูงก็หัดเว้นๆบ้างเหอะว่ะ ถือว่ากูขอล่ะ”
ท่านประธานเริ่มร่ายยาวก่อนจะทำหน้าเซ็งใส่เพื่อนวัยเด็กทั้งสองคนที่ยังยืนจ้องกันไม่ละสายตา
“งั้นตกลงมึงจะเอาไงเพราะกูก็รำคาญเรื่องนี้เต็มทนและ วันนี้เคลียร์ให้จบๆไปเลยจะได้ไม่ติดค้างกันอีก”
แบมแบมยืนกอดอกจ้องอีกฝ่ายนิ่ง ส่วนยูคยอมก็ถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่เขาจ้องตอบก่อนร่างสูงจะค่อยๆเดินเข้าไปใกล้มากขึ้นก่อนจะ
พลั่ก !!!
“หมัดนี้สำหรับที่มึงแอบไปกินกันลับหลังกู”
ของเหลวสีแดงสดค่อยๆซึมชื้นออกมาตรงมุมปากของแบมแบมทันที เพราะอีกฝ่ายปล่อยหมัดออกมาโดยที่เขาไม่ทันตั้งตัวทำให้ร่างบางเซไปด้านหลังเล็กน้อยยังไม่ทันหายเมาหมัดแรกหมัดที่สองจะตามมาติดๆ
พลั่ก !!!!! หมัดที่สองกระทบใบหน้าหวานซ้ำมุมเดิมอย่างจัง
“ส่วนหมัดนี้กูคิดดอกเบี้ยแล้วหลังจากนี้มึงกับกูไม่ติดค้างกันอีก ถ้าไม่มีอะไรแล้วงั้นกูไปก่อนนะไอ้ประธานแล้วเจอกันที่หอประชุม”
ยูคยอมหันไปพูดกับจินยองก่อนเดินผละออกไปอีกทาง ปล่อยให้ร่างบางยืนเหวออยู่ตรงนั้น
แบมแบมมองตามอีกฝ่ายไปพร้อมกับยกมือขึ้นแตะมุมปากข้างที่โดนต่อยอย่างเบามือ
“สัส...มันใช้มือหรือตีนวะ เจ็บชิบหาย”
ร่างบางยกมือไปปาดเลือดออกจากมุมปาก
“สมน้ำหน้า เสือกไปตีท้ายครัวมันก่อน ยังดีนะที่มันแค่ต่อยเป็นกูจะเรียกเพื่อนมากระทืบมึงซ้ำด้วย”
“ไอ้ประธานไม่ช่วยก็อย่าซ้ำได้ไหม”
“แล้วมันน่าไหม ทีหลังก็อย่าไปตีท้ายครัวใครเขาอีกล่ะกูขี้เกียจตามไปเก็บศพมึง”
นักเรียนชั้น ม.3 และ ม.6 ที่จบการศึกษาในภาคเรียนนี้
กรุณาไปรวมตัวกันที่หอประชุมเวลา14.00 น เพื่อร่วมพิธีจบการศึกษา
ขอความร่วมมือโปรดแต่งกายให้ถูกต้องตามระเบียบและตรงต่อเวลา
เสียงประกาศดังขึ้นเรียกความสนใจได้ในทันที ทำให้จินยองที่เป็นประธานนักเรียนต้องรีบวิ่งไปเตรียมงานพิธีจบการศึกษาที่หอประชุม
พวกเขาเลยแยกย้ายกันไปในขณะที่จินยองเดินตรงไปยังหอประชุม แบมแบมก็เดินเลี่ยงไปยังม้านั่งด้านข้างสนามซึ่งเป็นที่นั่งประจำของพวกม.6 แต่ก่อนจะเดินไปถึงก็โดนใครบางคนสะกิดจากด้านหลังทำให้ต้องหันกลับไปรุ่นน้องผู้หญิงกลุ่มหนึ่งยืนส่งยิ้มหวานมาให้เขาพร้อมกับดอกกุหลาบและถุงใส่ของขวัญในมือ
“พี่แบมแบมคะ ช่วยรับดอกไม้กับของขวัญจากพวกเราหน่อยนะคะ”
ร่างบางมองสิ่งที่พวกเธอยื่นมาให้ก่อนรับของพวกนั้นมาถือเอาไว้
“ขอบใจนะ”
เสียงหวานเอ่ยพร้อมรอยยิ้มก่อนจะเดินต่อไปจนถึงม้านั่งข้างสนาม
“พี่แบมแบมคะ”
เขาหันไปตามเสียงเรียกอีกครั้ง
เป็นไปตามคาดเมื่อมีรุ่นน้องหนึ่งในกลุ่มเมื่อกี้วิ่งตามเขามา น้องคนนั้นเดินมาหยุดตรงหน้าเขาก่อนจะยื่นกระดาษแผ่นเล็กๆมาให้
เสียงใสเอ่ยทิ้งท้ายไว้ด้วยประโยคสองแง่สองง่าม
“ถ้าพี่เหงาก็ไลน์มานะคะ มินนี่จะไปคลายเหงาให้เอง”
รอยยิ้มร้ายฉายชัดทันทีที่ได้ยินสิ่งที่น้องมินนี่คนสวยพูด
“ได้สิครับ ถ้าพี่อยากเมื่อไหร่จะไลน์ไปนะ”
แบมแบมตอบพร้อมยกยิ้มร้ายทำให้อีกฝ่ายอึ้งไปนิดแต่ก็ไม่วายยังส่งยิ้มหวานกลับมาก่อนเดินจากไป
ร่างบางก้มลงมองกระดาษแผ่นเล็กๆในมือก็พบเบอร์โทรศัพท์และไอดีไลน์เขียนเอาไว้อย่างครบถ้วนแต่นั้นไม่ได้ดึงดูดความสนใจของเขาสักเท่าไหร่เขาจึงทิ้งกระดาษลงในถุงของขวัญที่ได้รับมาก่อนหน้านี้
แบมแบมเดินต่อไปก่อนจะนั่งลงข้างๆเพื่อนร่วมห้องของเขานาย ชเว ยองแจ บุคคลที่ไม่เคยเงยหน้าขึ้นจากจอโทรศัพท์เกินห้านาทีและเมื่อมีคนนั่งลงข้างๆอีกฝ่ายก็แค่หันมามองเล็กน้อยว่าเป็นใครแล้วหันกลับไปสนใจโทรศัพท์เครื่องหรูในมืออีกครั้ง
“ได้อีกแล้วสิมึง วันนี้คนที่เท่าไหร่แล้วล่ะ”
นี่คือประโยคแรกที่ไอ้ยองแจทักผม
“ไม่รู้วะพอดีกูไม่เคยนับ และนี่มึงมาถึงนานยัง”
“ก็นานพอจะเห็นมึงโดนสั่งวิ่งรอบสนามแล้วก็ถูกไอ้ยูคยอมต่อยปากเจ่อก่อนจะได้ของขวัญจากบรรดาแฟนคลับมึงนี่ไง”
ผมหันไปมองมันอึ้งๆ นี่มันเห็นทุกอย่างได้ยังไงในเมื่อมันก้มหน้าก้มตาเล่นโทรศัพท์อยู่แบบนี้
“องค์เจนญาณทิพย์ลงมึงรึไงเห็นซะละเอียดเชียว แล้วนี่คนอื่นไปไหนกันหมดวะ”
“ก็ไปสนามบาสไง ว่าแต่ทำไมมึงยังนั่งอยู่นี่วะ นัดนี้ไม่ลงเหรอ”
สิ้นเสียงผมก็ยักไหล่กวนๆส่งกลับไปให้มันแทนคำตอบ
“กูได้ข่าวว่ารุ่นพี่ที่จบไปแล้วจะกลับมาแข่งกับรุ่นเรา ประธานชมรมบาสที่เคยพาทีมไปชนะโรงเรียนอื่นก็จะลงแข่งด้วย
ทำไมมึงยังไม่ไปเตรียมตัวอีกใกล้จะได้เวลาแข่งแล้วไม่ใช่ เหรอวะ”
“กูก็กำลังจะไปนี่ไง”
ผมเอ่ยอย่างใจเย็นทำให้มันมองผมด้วยท่าทีหน่ายๆ
ผมเอื้อมไปหยิบกระเป๋าสัมภาระมาถือและเดินไปยังสนามบาสทันทีเมื่อไปถึงก็พบกับฝูงชนจำนวนมากที่ยืนออกันแน่นถนัดริมขอบสนาม
ผมกับไอ้ยองแจค่อยๆแทรกตัวผ่านฝูงชนเข้าไปจนเจอไอ้เชนประธานชมรมบาสคนปัจจุบันที่นั่งเตรียมตัวอยู่ข้างสนาม
“มาสักทีนะมึง หายหัวไปไหนมาติดต่อก็ไม่ได้ มาป่านนี้มึงไม่มาพรุ่งนี้เลยล่ะ”
ไอ้เชนหันมาทักผมอย่างหัวเสีย คงเพราะผมปิดเครื่องทำให้มันติดต่อผมไม่ได้
“อ้าว...ได้เหรอวะ แล้วก็ไม่บอกแต่แรกงั้นกูไปนะ”
ผมทำท่าจะหันหลังกลับ
“ไอ้สัส...กูประชด”
“โถ่...กูก็มาแล้วนี่ไง ทำเป็นประชดประชันไปได้”
ผมเอ่ยขำๆพร้อมกับหยิบชุดออกมาจากกระเป๋าและทำการเปลี่ยนชุดเพื่อเตรียมลงแข่งทันที
“มึงนี่จริงๆเลยนะ รู้ทั้งรู้ว่ามีแข่งยังเสือกมาสายและนั้นปากไปโดนใครเอาตีนทาบมาอีกล่ะ”
ไอ้เชนจับหน้าผมบิดไปมาเพื่อดูร่องรอยตรงมุมปากที่เริ่มบวมขึ้น
“ไม่เอาไม่ขี้เสือกดิ”
“ก็เพราะปากดีแบบนี้ไง นี่ถ้าเป็นกูจะเอาให้หนักกว่านี้อีกปากจะได้หายหมาซะบ้างไปเลยมึง ไปวอร์มเขารอมึงอยู่คนเดียวเนี่ย”
ไอ้เชนไล่ให้ผมไปวอร์มร่างกายเพราะใกล้จะได้เวลาลงแข่งแล้ว
ผมเริ่มวอร์มร่างกายบริเวณข้างสนามพร้อมกับแอบหันไปสำรวจคู่แข่งที่นั่งอีกด้านของสนามด้วยความสนใจ
“งานนี้ดูถ้าจะไม่หมูซะแล้ว”
และเมื่อเห็นว่าคู่ต่อสู้เป็นใครผมก็อดที่จะหวั่นๆไม่ได้เพราะดูเหมือนอดีตแชมป์จะกลับมารวมตัวกันอย่างพร้อมเพียงเพื่อลงแข่งนัดกระชับมิตรครั้งนี้…
+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
> > TBC < <
Hi everyone. Bluetear is BACK. คิดถึงกันมั้ยเอ่ยไรท์คิดถึงทุกคนจังค่ะ
กลับมาครั้งนี้พร้อมการรีไรท์ครั้งใหญ่โดยจะพยายามให้เนื้อหาคงเดิมมากที่สุด
ไม่ต้องกลัวว่าเนื้อเรื่องจะเปลี่ยนไปนะคะ ยังไงอ่านแล้วคอมเม้นติชมได้เต็มที่เลยนะ
หรือถ้าอยากสปอยฟิคเรื่องนี้ก็สามารถติดแท็ก #ฟิคลองของ ได้เลยจ้า
ความคิดเห็น