ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Blue Rose] โนอาห์ ภาคกุหลาบสีเงิน (yaoi)

    ลำดับตอนที่ #3 : การเปลี่ยนแปลงครั้งที่ 2 เพื่อนหรอ...ผมไม่ต้องการหรอก

    • อัปเดตล่าสุด 13 มี.ค. 61


    บทที่ 2 เพื่อนหรอ...ผมไม่ต้องการหรอก

     

                ผมเบื่อความวุ่นวาย ทำไมพระเจ้าต้องประทานความวุ่นวายเข้ามาในชีวิตของผมด้วยก็ไม่รู้ ผมรู้สึกว่าความวุ่นวานเหล่านี้มันมากเกินไปแต่ผมก็สามารถรับมือกับมันได้ ถึงแม้ว่าผมจะโดนมองเป็นอย่างอื่นก็ตามผมก็ไม่สน ถ้าสามารถกำจัดความวุ่นวายนั้นออกไปจากชีวิตของผม

     

                เมื่อวานหลังจากที่ผมออกมาจากห้องของท่านผู้อำนวยการแล้ว ผมก็รีบตรงมายังห้องของตัวเองทันที

                ตอนนี้ผมอยู่ในห้องของผมแล้ว ภายในห้องตกแต่งสไตล์เรียบๆเน้นโทนดำ ภายในแบ่งออกเป็น 4 โซนใหญ่ๆคือ ห้องนอน ห้องน้ำ ห้องนั่งเล่นและระเบียง จัดได้ว่าเป็นห้องที่สวยพอสมควรขนาดห้องที่ใหญ่ทำให้มีพื้นที่ว่างมากมาย ผมไม่รอช้ารีบจัดห้องจนเสร็จเพราะผมเหนื่อยมากกว่าจะเสร็จก็เป็นเวลา 21.00น. ซะแล้วผมจึงอาบน้ำก่อนจะเข้านอนทันที โดยไม่ลืมจดไดอารี่ นั้นคือสิ่งที่ผมทำเมื่อวานนี้ ซึ่งผมไม่อยากทำเลยสักนิด

     

    ตี๊ด...    ตี๊ด...    ตี๊ด...!!!!!!!!!!

     

                โอ๊ย!!!รู้แล้วๆตื่นแล้วๆผมรีบตื่นขึ้นมาอย่างงัวเงีย ปกติผมไม่ค่อยเป็นแบบนี้หรอกจะเป็นก็ต่อเมื่อผมนอนไม่เต็มอิ่มเท่านั้น ขณะนี้เป็นเวลาตีห้าตรงซึ่งเป็นเวลาตื่นนอนประจำของผม

                ผมตื่นขึ้นมาในเช้าวันใหม่ซึ่งอารมณ์ของผมนั้นเรียกได้ว่า บูดสนิท ปกติผมจะนอนในเวลาสองทุ่มแต่เมื่อวานมันเหนื่อยและนอนไม่หลับเพราะไม่คุ้นที่จึงปาเข้าไปสี่ทุ่มผมจึงสามารถข่มตาหลับได้

                ช่วงเวลานี้เป็นเวลาที่ผมจำต้องออกกำลังกายยามเช้าที่อากาศแสนจะเย็นสบายจนหนาวเช่นนี้ ผมใส่เสื้อฮู้ดสีดำตัวเดิมกางเกงขายาวสีเทา รองเท้าสำหรับวิ่งสีขาวดำเตรียมตัวพร้อมสำหรับการวิ่งนี้แล้ว เริ่มตั้งแต่หน้าห้องตัวเองวิ่งไปยังชั้นห้าแล้ววิ่งกลับมาที่ห้องตัวเองโดยไม่-ลืมใส่เหล็กถ่วงน้ำหนักที่แขนและเท้า

     

                หลังจากที่ผมวิ่งเสร็จแล้วผมก็รีบวิ่งตรงมายังห้องของตัวเอง แล้วเตรียมอาบน้ำและออกไปทานข้าวเช้าที่โรงอาหาร ระหว่างทางผมก็เดินไปฟังเพลงไปด้วยจนถึงโรงอาหาร ชายวัยกลางคนไว้หนวดที่ยืนอยู่หน้าเคาน์เตอร์สั่งอาหารมองมาทางผมแล้วเลิกคิ้วอย่างแปลกประหลาดใจ

                โอ้ว! วันนี้มีคนตื่นเช้าด้วยหรอเนี้ย นี้มันพึ่งหกโมงเองชายคนนั้นอุทานอย่างแปลกใจ แต่คุณลองคิดว่าคนอย่างผมจะสนหรอ ผมเดินเข้าไปถามชายไว้หนวดทันที

                มีอะไรมั้ง

                “สั่งอะไรก็ได้เจ้าหนู ของที่นี้ฟรีชายไว้หนูพูดอย่างยิ้มๆก่อนจะส่งรายการอาหารมาให้ผมได้เลือก

    ของชุด 2 นั่งทานตรงนี้...ครับว่าจบผมก็นั่งอยู่ตรงหน้าเคาน์เตอร์ทันทีระหว่างรอผมก็นั่งอ่านหนังสือไปพลางมองวิวข้างนอกไปด้วย

                เอ้าเจ้าหนู ว่าแต่แกเป็นนักเรียนใหม่ของที่นี่หรอไม่ยักจะเคยเห็นหน้าผมไม่ตอบอะไรได้แต้พยักหน้า

                ว่าแต่เราชื่ออะไรละ

                “…..ยามาโมโตะ จุนยะ

                ยามาโมโตะ จุนยะ เป็นคนญี่ปุ่นงั้นหรอเจ้าหนู

                “อืม...ผมนั่งทานไปตอบไป ชุด 2 ที่ผมสั่งนั้นประกอบไปด้วยข้าวสวย น้ำซุป ผักและปลาเท่านั้น

                ฉันกริม เป็นหัวหน้าพ่อครัวของที่นี้ ยินดีที่ได้รู้จักยามาโมโตะผมยังคงทำเป็นไม่สนใจทานข้าวต่อไปเรื่อยๆอย่างไม่รีบร้อน

    ว่าแต่แกเรียนอยู่คลาสไหนละ

                “.....พริ้นซ์ ห้องA”

    อืมงั้นหรอ นายย้ายมาใหม่คงไม่รู้อะไรสินะ ไม่เป็นไรเดียวเจ้าพวกนั้นก็จัดการเองละกริมพูดโดยทิ้งปริศนาเอาไว้โดยไม่บอกอะไรผมสักอย่างก่อนที่ผมจะทานข้าวเช้าเสร็จและเดินออกไป

                หึ..ขอบคุณสำหรับอาหาร อร่อยมากงั้นหรอ ฮ่าฮ่าฮ่า

     

                ตัวผมนั้นหลังจากที่ออกมาจากห้องอาหารแล้วไม่มีที่จะไปและที่สำคัญนักเรียนบางคนเรื่องที่จะลงมาทานข้าวกันและ บางส่วนก็คงอยู่ในห้องซึ่งผมตัดสินใจเดินเล่นไปเรื่อยๆโดยไม่สนใจสายตาของทุกคนที่กำลังมองมาที่ผมด้วยสายตาสงสัยเต็มที่

                ผมชอบที่จะเดินเล่นมองดูพืชพรรณไม้ต่างๆ ก่อนที่จะหยุดอยู่หน้าม้านั่งตรงหน้าเรือนกระจก ตอนนี้ผมไม่สนใจสิ่งใดอีกแล้ว หนังสือวิชาต่างๆที่อยู่ในกระเป๋านั้นถูกหยับขึ้นมาอ่านจนเวลาล่วงเลยไป

                นี้นาย ฉันขอนั่งตรงนี้ด้วยได้ไหมผมเงยหน้าขึ้นมามองบุคคลที่อยู่ตรงหน้า ซึ่งเป็นคนเดียวกันที่ผมได้เจอในภายห้องของท่านผู้อำนวยการ แต่ผมไม่อยากจะเสียเวลาอ่านหนังสืออันมีค่าของผมไปกับการคุยกับคนตรงหน้า ผมจึงขยับตัวไปอยู่ริมทันที

                ขอบใจแล้วคนตรงหน้าก็ก้มลงอ่านหนังสือเหมือนกันกับผมแต่ใครสน ผมแผ่บรรยากาศไม่เป็นมิตรอย่างเต็มที่แต่คนข้างๆก็ยังไม่มีท่าทีจะขยับไปไหนซ้ำยังแผ่รังสีไม่พอใจกลับมาที่ผมอย่างเต็มที

                เป็นอย่างนี้ไม่กี่นาทีในความรู้สึกของผมแต่สำหรับคนอื่นคงนานนับเป็นชั่งโมงตอนนี้ผมยังคงไม่ยอมคนข้างผมเริ่มเก็บบรรยากาศไม่เป็นมิตร แต่กลับปล่อยรังสีความไม่พอใจออกมาอย่างเต็มที่ จนคนข้างเริ่มหันมามองผมก่อนจะปล่อยบรรยากาศน่าเกรงขามออกมาทำให้ผมสะอึก

    ไม่คิดว่าจะมีคนแบบนี้อยู่ ฮึน่าสนุกแต่ยังไม่ทันที่ผมจะแผ่จิตสังหรออกมาชายร่างสูงก็เดินเข้ามาหาพวกผมโดยที่ใบหน้ามีหยาดเหงื่อเกาะประปรายเต็มไปหมด

    “Iว่าพวกyouเก็บบรรยากาศพวกนี้ออกไปก่อนที่พวกอาจารย์จะมาดีกว่านะหลังจากที่ชายร่างสูงพูดจบผมก็เก็บจิตคุกคามออกไปจนแทบไม่เหลือแต่คนข้างๆกับยังไม่เก็บบรรยากาศน่าเกรงขามออกไป

    เก็บมันออกไปให้หมดผมพูดชายร่างสูงดูท่าจะไม่เข้าใจในคำพูดของผมแต่คนข้างๆกลับยกยิ้มขึ้นมาก่อนจะถอดแว่นเก็บลงในกระเป๋าทำให้เห็นดวงตาสีไพลินราวกับท้องฟ้าที่ฉายแววเรืองอำนาจมากมายสบเข้ากับดวงตาสีอำพันของผม ก่อนจะเก็บบรรยากาศอันน่าเกรงขามลง

                เจอกันอีกแล้วนะ นายนะคนที่นั่งข้างๆผมถามก่อนจะลุกขึ้นยื่นพร้อมกับเดินไปยื่นข้างๆชายร่างสูง

    ....ผมไม่ตอบได้แค่ส่งสายตาไม่เป็นมิตรไปให้คนตรงหน้าเท่านั้น

                “Hey! stopพวกyouหยุดจ้องหน้ากันได้แล้วผมหันมาจ้องร่างสูงก่อนจะนึกออกว่าคนตรงหน้าเป็นใคร

                ....คริสโตเฟอร์ ริชาร์ดชายร่างสูงหันมามองผมก่อนจะตะโกนพร้อมกับชี้หน้าผม

                อ้อyouนี้เอง จูนยะ

                “รู้จักกันหรอคนตรงหน้าผมหันไปถามคริสโตเฟอร์ที่กำลังมองมาทางผมด้วยสีหน้ายิ้มแย้มร่าเริงเต็มที่ เสแสร้งอีกแล้ว น่าขยะแขยงเสียจริง

                “Yah ก็คนที่Iเล่าให้ฟังไงละ

                อ้อคนๆนี้เองงั้นหรอชายตรงหน้าหันมามองผมด้วยสายตาราวกับจะพิจารณาอะไรสักอย่างในตัวของผม ผมเกลียดสายตาแบบนั้น

                “.......

                “ว่าแต่ทำไมนายถึงมาอยู่ที่นี้ละคริสชายตรงหน้าหันไปถามคนข้างตัวก่อนจะรับฟังข้อมูลที่ได้มา

                อ้อพอดีว่ามีคนมาร้องเรียนนะว่ามีคนกำลงจะฆ่ากันให้สวนเรือนกระจก Iที่ได้รับรายงานเป็นคนแรกเลยมาดูก่อน แล้วก็ได้เจอกับแรงกดดันมหาศาลที่อยู่ภายในสวนนะตอนแรกคิดว่ากำลังฟัดดันอยู่และคงจะรุนแรงน่าดูทีนี้พอเข้ามาใกล้ๆกลับรู้สึกหนาวอย่างบอกไม่ถูกเลยละ แล้วก็มาเจอพวกyouนี้ละ

                หลังจากที่ผมฟังคริสโตเฟอร์เล่าได้ไม่นานก็ปรากฏร่างของคนสามคนเข้ามายืนในวงสนทนาของเราทันที

                เป็นไงบ้างครับ จับคนทะเลาะกันได้หรือยังครับคุณคริสเด็กชายตัวน้อยรีบวิ่งไป  ถามคริสโตเฟอร์ทันทีด้วยความรีบร้อน

                รายงานที่เรารับมานะผิดพลาดไปเยอะเลยละไม่มีคนทะเลาะกันหรอกมีแค่คนสองคนที่นั่งอ่านหนังสือเท่านั้นละคริสอธิบายก่อนที่ชายผมยาวจะถาม

                แล้วสองคนนั้นละขอรับ

                “ก็กียุลกับจุนยะนะสิ

                “อ่าวคุณในตอนนั้นนิขอรับชายผมยาวพูดก่อนจะหันมามองหน้าผมเป็นจังหวะเดียวกับที่อีกสองคนมาใหม่หันมาพอดี

                อ่ะนายในตอนนั้นนิ

                มนุษย์ต่างดาว!!!!!!!”หลังจากนั้นเราก็พูดคุยกันนิหน่อยซึ่งผมก็ไม่พูดอะไรทั้งนั้น ซึ่งทำให้ผมได้รู้จักกับคนทั้งห้าที่ยื่นอยู่ตรงหน้าของผม

                คนแรกเป็นคนที่ผมเจอครั้งแรกในเครื่องบินชื่อคริสโตเฟอร์ ริชาร์ดเขาให้เรียกสั้นๆว่า คริสเป็นคนเลือดร้อนที่สุดในกลุ่ม ต่อมาเป็นชายผมยาวชื่อฮอรัส ปโตเลมีกับเด็กหนุ่มลึกลับชื่อ อเล็กเซ่ คอนสแตนติน แล้วก็ไอ้บ้าต่างดาวที่ชื่อลีโอนาโด้ ดันเต้ สุดท้ายเป็นคนที่นั่งแผ่รังสีใส่ผมชื่อว่าคิม กียุล  

                “ไหนๆก็ไหนๆแล้วเรามาเป็นเพื่อนกันดีไหม จุนจังอเล็กเซ่ถามด้วยใบหน้าที่ยิ้มอย่างเต็มเปี่ยม ทุกคนเองก็เช่นกันแต่ผมรู้นะว่านั้นนะมันหลอกลวง

                ขอปฏิเสธ.....ผมน่ะนะคำว่าเพื่อนผมไม่ต้องการหรอกผมพูดก่อนจะเดินออกไปโดยทิ้งคำพูดไว้เบาๆ

                อย่ามายุ่งกับผมอีก



    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×