ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [The Fic]Reborn Vongola:เรื่องวุ่นๆจากอนาคต

    ลำดับตอนที่ #2 : charter 1 :รุ่นที่ 11 อะไรกัน ผมไม่เอาหรอก!

    • อัปเดตล่าสุด 11 ต.ค. 58



    Charter 1 :รุ่นที่ XI อะไรกันผมไม่ยอมรับหรอก!!!

     

    ในช่วงเดือนพฤษภาคมเป็นช่วงฤดูใบไม้ผลิแห่งการเริ่มต้น....

    แสงของดวงตะวันสาดส่องลงมายังบานหน้าต่างห้องนอนในบ้านตระกูลซาวาดะ เด็กสาวตัวน้อยเจ้าของเรือนผมสีเหลืองทองกำลังหลับพริ้มไม่ได้สติอยู่บนเตียงอุ่นๆ ร่างเล็กนอนกระสับกระส่ายก่อนจะสะดุ้งตื่นด้วยความหวาดกลัว หยาดเหงื่อไหลอาบใบหน้างาม ดวงตาสีส้มเบิกกว้างอย่างตกใจก่อนจะก้มลงมองซากนาฬิกาข้างกาย

    ‘ฝันนั้นอีกแล้ว อึก...ทำไมถึงฝันแบบนี้อีกแล้ว’ เด็กสาวนั่งคิดอยู่ที่เตียงสักพักก่อนจะยุติความคิดถึงหมดแล้วเดินไปหยิบผ้าขนหนูกับชุดที่จะเปลี่ยนแล้วเดินเข้าห้องน้ำไป

    ตอนนี้เด็กสาวร่างบางอยู่ในชุดนักเรียนหญิงมัธยมต้นของโรงเรียน ‘นามิโมริ’ ซึ่งพี่ชายของเธอก็เรียนอยู่ที่นี้เหมือนกัน เด็กสาวเดินลงมายังชั้นล่างที่มีชายหญิงคู่หนึ่งกำลังนั่งจัดโต๊ะทำอาหารกันอย่างเคร่งครัด เธอเดินมาหยุดอยู่ตรงบันไดขั้นสุดท้ายก่อนจะกล่าทักทายชายหญิงทั้งสองพร้อมกับส่งยิ้มให้

    “อรุณสวัสดิ์คะ พี่เคียว คุณแม่”

     “อรุณสวัสดิ์สึมิเระ วันนี้ตื่นเช้าจังเลยนะ”เสียงทุ่มขิงชายหนุ่มผมสีเหลืองราวแสงอาทิตย์พูดขึ้น ดวงตาสีฟ้าประกายแวววาวจับจ้องไปยังเด็กสาวที่อยู่ในชุดนักเรียนนามิโมริ ก่อนจะมีเสียงกล่าวทักทายของหญิงสาวที่มีฐานะในบ้านหลังนี้เป็น ‘แม่’

    “อรุณสวัสดิ์จ๊ะสึมิเระจัง มาเร็วทั้งสองคนมากินข้าวกันเถอะจ๊ะ”คุณแม่เรียกให้เราทั้งสองคนมาทานข้าวที่ตนทำ เมื่อได้ยินอย่างนั้นแล้ว คนที่ถูกเรียกก็เป็นอันต้องเดินไปนั่งที่โดยปริยาย ก่อนจะจัดการกับอาหารตรงหน้าอย่างไม่มีเหลือแล้วต่างคนต่างจัดกระเป๋านักเรียนของตัวเองให้เข้าที่แล้วให้แน่ใจว่าไม่ลืมอะไรแล้วทั้งสองจึงเดินออกจากบ้านไปโดยไม่ลืมกล่าวลาคนเป็นแม่ที่ออกมาส่งพวกเธอ

    “ตั้งใจเรียนนะจ๊ะ เคียวสึเกะคุง สึมิเระจัง”

    “ค่ะ / ครับ”สิ้นคำแล้วพวกเธอก็เดินมาเรื่อยๆจนเกือบจะถึงหน้าโรงเรียนนามิโมริที่ตนอยู่แล้ว ก็มีเสียงทักทายอันเป็นเอกลักษณ์ของคนสองคนที่มักจะมาทักทายพวกเขาเสมอในยามเช้า

    “อรุณสวัสดิ์ครับ ท่านเคียวสึเกะ”เสียงทักทายของคนที่เป็นอัจฉริยะที่สุดในโรงเรียนดังขึ้น เส้นผมสีเงินปลิวไปตามสายลม ดวงตาสีเทามองมายังคนข้างกายของชายหนุ่มก่อนจัดการเดินไปขยี้ผมสีเหลืองให้ฟูฟ่องขึ้นมากกว่าเดิม“ไง ยัยเตี้ย”

    “โย่ รุนหวัดเคียว เจ้าตัวเล็ก”ชายหนุ่มผมสีฟ้าตัดสั้น ดวงตาสีฟ้าเข้มที่ฉายแววขี้เล่นอยู่เหมือนเดินไม่เคยเปลี่ยนไม่ว่าจะตั้งแต่เด็กยังโตเจ้านี้ก็ไม่เปลี่ยนไป

    “แง~~ พี่ทาเครุ ผีหัวปลาหมึกเผือกแกล้งหนูอ่ะ ช่วยหนูด้วย”เด็กสาวพูดก่อนจะรีบวิ่งไปหลบข้างหลังชายหนุ่มผมดำยาว

    “หน่อยแน่ เมื่อกี้เธอว่ายังไงนะยัยเตี้ย”

    “เอาน่าฮารุกะ ซึมิเระยังเด็กอยู่เลยนะอย่าไปแกล้งเธอมากนักสิ”ทาเครุพูดปลอบให้เพื่อนสนิทของตัวเองหยุดแกล้งเด็กสาวที่หลบอยู่ข้างหลังของเขา

    “เด็กบ้านแกดิอายุ 13 ยัยนี้ไม่ใช่เด็กแล้วนะ”ฮารุกะเถียง ใช่มันเป็นความจริงเพราะเด็กสาวตรงหน้าพึ่งจะอายุ 13 ปีเอง

    “ใช่แล้วละพี่ทาเครุ ซึมิเระไม่ใช่เด็กแล้วนะ ใช่มะพี่เคียว”ซึมิเระหันไปขอความช่วยเหลืองจากคนที่ยืนมองสถานการณ์ตรงหน้าอย่างขอความเห็น

    “ก็เห็นๆกันอยู่ไม่ใช่หรอ.....ว่าสึมิเระเป็นเด็กนะ”คำพูดของเคียวสึเกะทำให้ซึมิเระแทบจะถีบหน้าพี่ชายแท้ๆของเธอมากๆเลยละ เด็กน้อยได้แต่ส่งสายตาขอความช่วยเหลือไปยังอีกคนที่ดูเหมือนจะเป็นคนเดียวที่ยังไม่คิดว่าซึมิเระเป็นเด็ก

    “ไม่ใช่นะ ซึมิเระไม่ใช่เด็กนะ พี่ฮารุกะก็บอกว่าซึมิเระไม่ใช่เด็ก”เธอเริ่มโอนเองไปทางฮารุกะที่บอกออกไปว่าเธอไม่ใช่เด็ก

    “ขอเปลี่ยนคำพูด เธอยังเป็นเด็กอยู่จริงๆนั้นละ เป็นเด็กยังไงก็ยังเป็นเด็กอยู่วันยังค่ำ”ฮารุกะพูดก่อนที่ทั้ง 4 คนจะเดินเข้าโรงเรียนไป โดยมีเสียงทะเลาะของฮารุกะกับสึมิเระดังอยู่เรื่อยๆตามมาตลอดทาง

    พอถึงตึกที่ 1 ซึ่งเป็นอาคารเรียนของเด็กปีหนึ่ง ซึมิเระก็เรียนอยู่ที่ตึกนี้ซึ่งห้องที่เธออยู่นั้นคือ ม.1 ห้อง A นั้นเอง พอมาถึงตึกอาคารเรียน 1 เธอก็ขอตัวแยกกับพวกพี่ๆของเธอ

    เมื่อเห็นว่าซึมิเระไปที่ห้องเรียนแล้ว พวกเคียวสึเกะจึงเดินไปยังห้องเรียนขอพวกเขาบ้าง ซึ่งระหว่างทางก็ได้เจอกับรุ่นพี่เรียวอิจิ ซึ่งเป็นกับตันชมรมมวยสากลที่กำลังดังมากๆในตอนนี้ พี่ท่านก็ได้มาชวนเคียวสึเกะเข้าชมรมอีกครั้งโดยไม่ละความพยายาม ซึ่งนี้เป็นครั้งที่ 99 แล้ว ก่อนที่รุ่นพี่เรียวอิจิจะกลับไปก็เจอกับพวกรุ่นพี่อัตสึชิกับรุ่นพี่ยางิโระกำลังทะเลาะกันอยู่ซึ่งกรรมการจำเป็นก็คงหนีไม่พ้นทาเครุเหมือนเดิม ก่อนที่สงครามขนาดย่อมๆจะเกิดขึ้น

    กว่าพวกเขาจะได้ขึ้นห้องเรียน ทั้งสามคนก็นั่งหมอบลงกับโต๊ะเรียนประจำของพวกเขาอ่าว

    “พวกพี่เคียวไปไหนมาค่ะ หนูตามหาตั้งนานเนอะ โรบิน”ซึมิเระเดินมาพร้อมกับเด็กชายรุ่นราวคราวเดียวกับเธอ ผมสีเขียวน้ำทะเลและดวงตาสีฟ้าราวกับทะเลมองมายังร่างของรุ่นพี่ทั้งสามที่นอนหมอบอย่างหมดสภาพ

    “เป็นอะไรรึป่าวครับ รุ่นพี่เคียว รุ่นพี่ทารุ เจ้าหัวปลาหมึก”โรมิโอพูดทักทั้งสามคนก่อนจะหันหน้าไปมองสึมิเระ

    “มีอะไรรึป่าว โรบิน”ซึมิเระถามเพราะเห็นโรมิโอมองหน้าเธอนานเกินไปโดยไม่พูดอะไรออกมาเลยสักนิด

    “ปะ...ป่าวหรอก มะ...ไม่มีอะไร”โรมิโอพูพร้อมกับใบหน้าที่เริ่มแดงขึ้นเรื่อยๆ

    “นี้ๆ ซึมิเระใกล้เวลาเรียนแล้วนะกลับห้องกันเถอะ”ว่าแล้วโรเมโอก็ดึง(ลาก)ซึมิเระให้กลับห้องไปกับตน ซึมิเระก็ยังดูงงๆกับการกระทำของเพื่อนตัวเองเลยหันมาบอกลาพวกพี่ชายของเธอ

    “ งั้นเจอกันที่ดาดฟ้านะค่ะทั้งสามคน”ว่าแล้วพอสึมิเระออกไปไม่นาน อาจารย์ที่ปรึกษาประจำห้องก็เดินเข้ามาก่อนจะเริ่มการสอนต่อไปเรื่อยๆ โดยที่เคียวสึเกะก็โดนอาจารย์ถามคำถามอยู่บ่อยๆเพราะชอบนั่งเหม่อ ซึ่งเคียวสึเกะก็ตอบได้หมดทุกๆคำถามเหมือนกัน

    และแล้วก็ถึงเวลาพักเที่ยงของนักเรียนทุกๆคน ซึ่งคนส่วนมากเมื่อได้ยินเสียงกริ่งพักกลางวันก็ได้วิ่งออกไปจากห้องเรียนจนถูกพวกอาจารย์ดุเอา แต่ก็ยังทีกลุ่มคนที่พอซื้ออาหารเสร็จก็หายตัวไปอย่างไม่มีใครหาเจอก่อนที่พวกเขาเหล่านั้นจะได้เดินขึ้นไปยังดาดฟ้าของโรงเรียน

    “พวกพี่มาช้าจังเลยนะ”เสียงทักอันสดใสของเด็กสาวตัวเล็กดังขึ้นทำให้ความเครียดของทุกคนที่อยู่บริเวณนั้นรู้สึกผ่อนคลายได้เป็นอย่างดีเพราะความสดใส บริสุทธิ์นี้แหละที่ทำให้พวกเขามีกำลังใจขึ้นมาได้ เพราะฉะนั้นพวกเขาขอสาบาลเลยว่าจะปกป้องเธอคนนี้ตลอดไปก็ซึมิเระนะเหมือนแสงสว่างในจิตใจของทุกคนเลยนี้นะ

    “ขอโทษทีนะ สึมิเระพอดีกว่าพวกพี่จะหนีมาได้เกือบตายนะ”เคียวสึเกะพูดกับน้องสาวของตัวเอง

    “ไม่เป็นไรหรอกค่ะพี่ชาย ยังไงหนูก็รอได้”เธอยิ้มแต่แค่แปปเดียวร้อยยิ้มก็หมองหม่นไป

    “เป็นอะไรไป ยัยเตี้ย”ฮารุกะถามเพราะเขาเป็นห่วงซึ่งเขาไม่ค่อยได้เห็นใบหน้าที่เศร้าสร้อยแบบนี้มาหลายปีแล้ว

    “คือว่าช่วงนี้หนูฝันร้ายนะค่ะ”

    “ฝันว่าอะไรหรอ เล่าให้พี่ฟังหน่อยสิได้ไหม”ว่าแล้วทาเครุก็เปิดโต๊ะรับคำปรึกษาทันทีเพราะทาเครุเป็นพวกที่ชอบช่วยคำอื่นแต่ยังน้อยกว่าเคียวสึเกะเมื่อก่อนมากนัก

    “หนูฝันว่า อยู่ๆก็มีแสงสว่างวาบส่องลงมายังตัวพวกเราทั้ง 8 คน ซึ่งมีทั้งหนู พี่เคียว พี่ทาเครุ พี่ฮารุกะ พี่เรียว พี่อัตสึชิ พี่ยางิโระและโรบิ้น จากนั้นพวกเราก็ไปในยุคที่มีคนหน้าเหมือนเรายกเว้นหนู จากนั้นไม่นานก็ก็ฝันว่าหนูโดนยิง” พอเธอเล่าจบก็ดึ่งเอาหน้าอกของทาเครุเป็นผ้าเช็ดหน้าชั่วคราว

    “เป็นความฝันที่น่ากลัวจึงเลยนะ โอ๋ๆๆๆๆ ไม่ร้องนะเด็กดี”ทาเครุพูดปลอบใจก่อนจะมีเสียงปริศนาดังขึ้นซึ่งสร้างความตกใจเป็นอย่างมากโดยเฉพาะเคียวสึเกะ

    “เพราะยัยนั้นมีความสามารถในการมองเห็นอนาคตยังไงละ โอ๊ะ ไงทุกคน”เสียงของชายปริศนาดังขึ้นทางด้านหลังของพวกเขาทั้งแปดคน ร่างของชายปริศนาในชุดสูทสีดำที่มีกิ้งก่าอยู่บนปีกหมวกสีดำ ดวงตาสีเหลืองจับจ้องไปยังร่างของสึมิเระที่อยู่ในอ้อมกอดของทาเครุ

    “นายมาที่นี่ทำไม ไม่ได้ไปอยู่กับหมอนั้นหรอฮ่ะ รีบอร์น!!!!เคียวสึเกะตะโกนขึ้นมาพร้อมกับปืนคู่ใจที่หันปากกระบอกปืนที่มักจะเอาติดตัวไว้ตลอดไปทางรีบอร์น

    “หืม เอ้อฉันมาตามคำสั่งเจ้าห่วยนะ เคียวสึเกะนายต้องขึ้นเป็นบอส รุ่นที่ 11 ต่อจากสึนะน่ะ  เรื่องนี้นายก็น่าจะรู้ดีนี้น่า”คำพูดของรีบอร์นยิ่งทำให้เพลิงโกรธที่อยู่ในตัวของเคียวสุเกะลุกขึ้นมากกว่าเดิม

    “หึ! จะให้ผมเป็นบอสนะหรอเหอะ ฝันไปเถอะเพราะรุ่นที่ 11 อะไรนั้นนะผมไม่ต้องการหรอก” เคียวสึเกะพูดพร้อมกับจ้องมองตาของรีบอร์น ฝ่ายรีบอร์นเองเมื่อถูกท้าทายมีหรือที่จะไม่รับคำท้า ทั้งสองยกปืนขึ้นมาก่อนจะยิงกันไปคนละนัด ลูกกระสุนของเคียวสึเกะเฉียดหน้ารีบอร์นไปนิดนึก ส่วนกระสุนของรีบอร์นนั้นยิงไปโดน..........

     

     

     

     



     


    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×