คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : charter 1 :รุ่นที่ 11 อะไรกัน ผมไม่เอาหรอก!
Charter 1 :รุ่นที่ XI อะไรกันผมไม่ยอมรับหรอก!!!
ในช่วงเดือนพฤษภาคมเป็นช่วงฤดูใบไม้ผลิแห่งการเริ่มต้น....
แสงของดวงตะวันสาดส่องลงมายังบานหน้าต่างห้องนอนในบ้านตระกูลซาวาดะ
เด็กสาวตัวน้อยเจ้าของเรือนผมสีเหลืองทองกำลังหลับพริ้มไม่ได้สติอยู่บนเตียงอุ่นๆ ร่างเล็กนอนกระสับกระส่ายก่อนจะสะดุ้งตื่นด้วยความหวาดกลัว
หยาดเหงื่อไหลอาบใบหน้างาม
ดวงตาสีส้มเบิกกว้างอย่างตกใจก่อนจะก้มลงมองซากนาฬิกาข้างกาย
‘ฝันนั้นอีกแล้ว อึก...ทำไมถึงฝันแบบนี้อีกแล้ว’
เด็กสาวนั่งคิดอยู่ที่เตียงสักพักก่อนจะยุติความคิดถึงหมดแล้วเดินไปหยิบผ้าขนหนูกับชุดที่จะเปลี่ยนแล้วเดินเข้าห้องน้ำไป
ตอนนี้เด็กสาวร่างบางอยู่ในชุดนักเรียนหญิงมัธยมต้นของโรงเรียน
‘นามิโมริ’ ซึ่งพี่ชายของเธอก็เรียนอยู่ที่นี้เหมือนกัน เด็กสาวเดินลงมายังชั้นล่างที่มีชายหญิงคู่หนึ่งกำลังนั่งจัดโต๊ะทำอาหารกันอย่างเคร่งครัด
เธอเดินมาหยุดอยู่ตรงบันไดขั้นสุดท้ายก่อนจะกล่าทักทายชายหญิงทั้งสองพร้อมกับส่งยิ้มให้
“อรุณสวัสดิ์คะ
พี่เคียว คุณแม่”
“อรุณสวัสดิ์สึมิเระ วันนี้ตื่นเช้าจังเลยนะ”เสียงทุ่มขิงชายหนุ่มผมสีเหลืองราวแสงอาทิตย์พูดขึ้น
ดวงตาสีฟ้าประกายแวววาวจับจ้องไปยังเด็กสาวที่อยู่ในชุดนักเรียนนามิโมริ
ก่อนจะมีเสียงกล่าวทักทายของหญิงสาวที่มีฐานะในบ้านหลังนี้เป็น ‘แม่’
“อรุณสวัสดิ์จ๊ะสึมิเระจัง
มาเร็วทั้งสองคนมากินข้าวกันเถอะจ๊ะ”คุณแม่เรียกให้เราทั้งสองคนมาทานข้าวที่ตนทำ
เมื่อได้ยินอย่างนั้นแล้ว คนที่ถูกเรียกก็เป็นอันต้องเดินไปนั่งที่โดยปริยาย
ก่อนจะจัดการกับอาหารตรงหน้าอย่างไม่มีเหลือแล้วต่างคนต่างจัดกระเป๋านักเรียนของตัวเองให้เข้าที่แล้วให้แน่ใจว่าไม่ลืมอะไรแล้วทั้งสองจึงเดินออกจากบ้านไปโดยไม่ลืมกล่าวลาคนเป็นแม่ที่ออกมาส่งพวกเธอ
“ตั้งใจเรียนนะจ๊ะ
เคียวสึเกะคุง สึมิเระจัง”
“ค่ะ / ครับ”สิ้นคำแล้วพวกเธอก็เดินมาเรื่อยๆจนเกือบจะถึงหน้าโรงเรียนนามิโมริที่ตนอยู่แล้ว
ก็มีเสียงทักทายอันเป็นเอกลักษณ์ของคนสองคนที่มักจะมาทักทายพวกเขาเสมอในยามเช้า
“อรุณสวัสดิ์ครับ
ท่านเคียวสึเกะ”เสียงทักทายของคนที่เป็นอัจฉริยะที่สุดในโรงเรียนดังขึ้น
เส้นผมสีเงินปลิวไปตามสายลม ดวงตาสีเทามองมายังคนข้างกายของชายหนุ่มก่อนจัดการเดินไปขยี้ผมสีเหลืองให้ฟูฟ่องขึ้นมากกว่าเดิม“ไง
ยัยเตี้ย”
“โย่ รุนหวัดเคียว
เจ้าตัวเล็ก”ชายหนุ่มผมสีฟ้าตัดสั้น
ดวงตาสีฟ้าเข้มที่ฉายแววขี้เล่นอยู่เหมือนเดินไม่เคยเปลี่ยนไม่ว่าจะตั้งแต่เด็กยังโตเจ้านี้ก็ไม่เปลี่ยนไป
“แง~~ พี่ทาเครุ ผีหัวปลาหมึกเผือกแกล้งหนูอ่ะ ช่วยหนูด้วย”เด็กสาวพูดก่อนจะรีบวิ่งไปหลบข้างหลังชายหนุ่มผมดำยาว
“หน่อยแน่ เมื่อกี้เธอว่ายังไงนะยัยเตี้ย”
“เอาน่าฮารุกะ ซึมิเระยังเด็กอยู่เลยนะอย่าไปแกล้งเธอมากนักสิ”ทาเครุพูดปลอบให้เพื่อนสนิทของตัวเองหยุดแกล้งเด็กสาวที่หลบอยู่ข้างหลังของเขา
“เด็กบ้านแกดิอายุ 13
ยัยนี้ไม่ใช่เด็กแล้วนะ”ฮารุกะเถียง
ใช่มันเป็นความจริงเพราะเด็กสาวตรงหน้าพึ่งจะอายุ 13 ปีเอง
“ใช่แล้วละพี่ทาเครุ ซึมิเระไม่ใช่เด็กแล้วนะ
ใช่มะพี่เคียว”ซึมิเระหันไปขอความช่วยเหลืองจากคนที่ยืนมองสถานการณ์ตรงหน้าอย่างขอความเห็น
“ก็เห็นๆกันอยู่ไม่ใช่หรอ.....ว่าสึมิเระเป็นเด็กนะ”คำพูดของเคียวสึเกะทำให้ซึมิเระแทบจะถีบหน้าพี่ชายแท้ๆของเธอมากๆเลยละ
เด็กน้อยได้แต่ส่งสายตาขอความช่วยเหลือไปยังอีกคนที่ดูเหมือนจะเป็นคนเดียวที่ยังไม่คิดว่าซึมิเระเป็นเด็ก
“ไม่ใช่นะ ซึมิเระไม่ใช่เด็กนะ
พี่ฮารุกะก็บอกว่าซึมิเระไม่ใช่เด็ก”เธอเริ่มโอนเองไปทางฮารุกะที่บอกออกไปว่าเธอไม่ใช่เด็ก
“ขอเปลี่ยนคำพูด
เธอยังเป็นเด็กอยู่จริงๆนั้นละ เป็นเด็กยังไงก็ยังเป็นเด็กอยู่วันยังค่ำ”ฮารุกะพูดก่อนที่ทั้ง
4 คนจะเดินเข้าโรงเรียนไป โดยมีเสียงทะเลาะของฮารุกะกับสึมิเระดังอยู่เรื่อยๆตามมาตลอดทาง
พอถึงตึกที่ 1
ซึ่งเป็นอาคารเรียนของเด็กปีหนึ่ง ซึมิเระก็เรียนอยู่ที่ตึกนี้ซึ่งห้องที่เธออยู่นั้นคือ
ม.1 ห้อง A นั้นเอง พอมาถึงตึกอาคารเรียน 1
เธอก็ขอตัวแยกกับพวกพี่ๆของเธอ
เมื่อเห็นว่าซึมิเระไปที่ห้องเรียนแล้ว
พวกเคียวสึเกะจึงเดินไปยังห้องเรียนขอพวกเขาบ้าง ซึ่งระหว่างทางก็ได้เจอกับรุ่นพี่เรียวอิจิ
ซึ่งเป็นกับตันชมรมมวยสากลที่กำลังดังมากๆในตอนนี้
พี่ท่านก็ได้มาชวนเคียวสึเกะเข้าชมรมอีกครั้งโดยไม่ละความพยายาม
ซึ่งนี้เป็นครั้งที่ 99 แล้ว ก่อนที่รุ่นพี่เรียวอิจิจะกลับไปก็เจอกับพวกรุ่นพี่อัตสึชิกับรุ่นพี่ยางิโระกำลังทะเลาะกันอยู่ซึ่งกรรมการจำเป็นก็คงหนีไม่พ้นทาเครุเหมือนเดิม
ก่อนที่สงครามขนาดย่อมๆจะเกิดขึ้น
กว่าพวกเขาจะได้ขึ้นห้องเรียน
ทั้งสามคนก็นั่งหมอบลงกับโต๊ะเรียนประจำของพวกเขาอ่าว
“พวกพี่เคียวไปไหนมาค่ะ
หนูตามหาตั้งนานเนอะ โรบิน”ซึมิเระเดินมาพร้อมกับเด็กชายรุ่นราวคราวเดียวกับเธอ
ผมสีเขียวน้ำทะเลและดวงตาสีฟ้าราวกับทะเลมองมายังร่างของรุ่นพี่ทั้งสามที่นอนหมอบอย่างหมดสภาพ
“เป็นอะไรรึป่าวครับ
รุ่นพี่เคียว รุ่นพี่ทารุ เจ้าหัวปลาหมึก”โรมิโอพูดทักทั้งสามคนก่อนจะหันหน้าไปมองสึมิเระ
“มีอะไรรึป่าว โรบิน”ซึมิเระถามเพราะเห็นโรมิโอมองหน้าเธอนานเกินไปโดยไม่พูดอะไรออกมาเลยสักนิด
“ปะ...ป่าวหรอก
มะ...ไม่มีอะไร”โรมิโอพูพร้อมกับใบหน้าที่เริ่มแดงขึ้นเรื่อยๆ
“นี้ๆ ซึมิเระใกล้เวลาเรียนแล้วนะกลับห้องกันเถอะ”ว่าแล้วโรเมโอก็ดึง(ลาก)ซึมิเระให้กลับห้องไปกับตน
ซึมิเระก็ยังดูงงๆกับการกระทำของเพื่อนตัวเองเลยหันมาบอกลาพวกพี่ชายของเธอ
“ งั้นเจอกันที่ดาดฟ้านะค่ะทั้งสามคน”ว่าแล้วพอสึมิเระออกไปไม่นาน
อาจารย์ที่ปรึกษาประจำห้องก็เดินเข้ามาก่อนจะเริ่มการสอนต่อไปเรื่อยๆ
โดยที่เคียวสึเกะก็โดนอาจารย์ถามคำถามอยู่บ่อยๆเพราะชอบนั่งเหม่อ
ซึ่งเคียวสึเกะก็ตอบได้หมดทุกๆคำถามเหมือนกัน
และแล้วก็ถึงเวลาพักเที่ยงของนักเรียนทุกๆคน
ซึ่งคนส่วนมากเมื่อได้ยินเสียงกริ่งพักกลางวันก็ได้วิ่งออกไปจากห้องเรียนจนถูกพวกอาจารย์ดุเอา
แต่ก็ยังทีกลุ่มคนที่พอซื้ออาหารเสร็จก็หายตัวไปอย่างไม่มีใครหาเจอก่อนที่พวกเขาเหล่านั้นจะได้เดินขึ้นไปยังดาดฟ้าของโรงเรียน
“พวกพี่มาช้าจังเลยนะ”เสียงทักอันสดใสของเด็กสาวตัวเล็กดังขึ้นทำให้ความเครียดของทุกคนที่อยู่บริเวณนั้นรู้สึกผ่อนคลายได้เป็นอย่างดีเพราะความสดใส
บริสุทธิ์นี้แหละที่ทำให้พวกเขามีกำลังใจขึ้นมาได้ เพราะฉะนั้นพวกเขาขอสาบาลเลยว่าจะปกป้องเธอคนนี้ตลอดไปก็ซึมิเระนะเหมือนแสงสว่างในจิตใจของทุกคนเลยนี้นะ
“ขอโทษทีนะ สึมิเระพอดีกว่าพวกพี่จะหนีมาได้เกือบตายนะ”เคียวสึเกะพูดกับน้องสาวของตัวเอง
“ไม่เป็นไรหรอกค่ะพี่ชาย
ยังไงหนูก็รอได้”เธอยิ้มแต่แค่แปปเดียวร้อยยิ้มก็หมองหม่นไป
“เป็นอะไรไป
ยัยเตี้ย”ฮารุกะถามเพราะเขาเป็นห่วงซึ่งเขาไม่ค่อยได้เห็นใบหน้าที่เศร้าสร้อยแบบนี้มาหลายปีแล้ว
“คือว่าช่วงนี้หนูฝันร้ายนะค่ะ”
“ฝันว่าอะไรหรอ
เล่าให้พี่ฟังหน่อยสิได้ไหม”ว่าแล้วทาเครุก็เปิดโต๊ะรับคำปรึกษาทันทีเพราะทาเครุเป็นพวกที่ชอบช่วยคำอื่นแต่ยังน้อยกว่าเคียวสึเกะเมื่อก่อนมากนัก
“หนูฝันว่า
อยู่ๆก็มีแสงสว่างวาบส่องลงมายังตัวพวกเราทั้ง 8 คน ซึ่งมีทั้งหนู พี่เคียว
พี่ทาเครุ พี่ฮารุกะ พี่เรียว พี่อัตสึชิ พี่ยางิโระและโรบิ้น
จากนั้นพวกเราก็ไปในยุคที่มีคนหน้าเหมือนเรายกเว้นหนู
จากนั้นไม่นานก็ก็ฝันว่าหนูโดนยิง”
พอเธอเล่าจบก็ดึ่งเอาหน้าอกของทาเครุเป็นผ้าเช็ดหน้าชั่วคราว
“เป็นความฝันที่น่ากลัวจึงเลยนะ
โอ๋ๆๆๆๆ ไม่ร้องนะเด็กดี”ทาเครุพูดปลอบใจก่อนจะมีเสียงปริศนาดังขึ้นซึ่งสร้างความตกใจเป็นอย่างมากโดยเฉพาะเคียวสึเกะ
“เพราะยัยนั้นมีความสามารถในการมองเห็นอนาคตยังไงละ
โอ๊ะ ไงทุกคน”เสียงของชายปริศนาดังขึ้นทางด้านหลังของพวกเขาทั้งแปดคน ร่างของชายปริศนาในชุดสูทสีดำที่มีกิ้งก่าอยู่บนปีกหมวกสีดำ
ดวงตาสีเหลืองจับจ้องไปยังร่างของสึมิเระที่อยู่ในอ้อมกอดของทาเครุ
“นายมาที่นี่ทำไม
ไม่ได้ไปอยู่กับหมอนั้นหรอฮ่ะ รีบอร์น!!!!”เคียวสึเกะตะโกนขึ้นมาพร้อมกับปืนคู่ใจที่หันปากกระบอกปืนที่มักจะเอาติดตัวไว้ตลอดไปทางรีบอร์น
“หืม
เอ้อฉันมาตามคำสั่งเจ้าห่วยนะ เคียวสึเกะนายต้องขึ้นเป็นบอส รุ่นที่ 11
ต่อจากสึนะน่ะ เรื่องนี้นายก็น่าจะรู้ดีนี้น่า”คำพูดของรีบอร์นยิ่งทำให้เพลิงโกรธที่อยู่ในตัวของเคียวสุเกะลุกขึ้นมากกว่าเดิม
“หึ!
จะให้ผมเป็นบอสนะหรอเหอะ ฝันไปเถอะเพราะรุ่นที่ 11 อะไรนั้นนะผมไม่ต้องการหรอก”
เคียวสึเกะพูดพร้อมกับจ้องมองตาของรีบอร์น
ฝ่ายรีบอร์นเองเมื่อถูกท้าทายมีหรือที่จะไม่รับคำท้า ทั้งสองยกปืนขึ้นมาก่อนจะยิงกันไปคนละนัด
ลูกกระสุนของเคียวสึเกะเฉียดหน้ารีบอร์นไปนิดนึก
ส่วนกระสุนของรีบอร์นนั้นยิงไปโดน..........
ความคิดเห็น