ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    รวมเรื่องสั้น/นิยายเก่าๆ ของ Black back

    ลำดับตอนที่ #5 : เรื่องยาว พี่ผม.เป็น.SUPERSTAR!! ตอนที่ 1 (แนวรักๆวัยรุ่นญี่ปุ่น)

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 392
      1
      1 ก.ค. 51

    Part 1
    ฤดูใบไม้ร่วง

    1.

    สัญญาณไฟเขียวให้คนข้ามถนนกะพริบถี่ๆ เร่งให้เด็กหนุ่มผมดำกระเซอะกระเซิงขาดการหวีให้เรียบร้อย รีบจ้ำพรวดๆ ตามหลังกลุ่มชายหนุ่มพนักงานบริษัทในชุดสูทโก้เก๋ 

    เด็กหนุ่มผู้เริ่มย่างก้าวสู่วัยรุ่นได้ไม่กี่ปี ร่างกายจึงยังไม่โตนัก ถ้าหากนำนักเรียนทั้งห้องมายืนต่อแถวตามลำดับความสูงแล้ว เรียกได้ว่าเกือบจะอยู่ที่โหล่เลยก็ว่าได้ หน้าตาออกจะติดหวานเหมือนผู้หญิง ผิวขาวกระจ่างแบบเด็กญี่ปุ่นทั่วไป ผลการเรียนก็กลางๆ  ส่วนเรื่องกีฬายิ่งไม่เอาอ่าว มีเพื่อนสนิทอยู่แค่คนเดียว ไม่ได้เป็นคนเด่นดังอะไรในห้อง และไม่ได้เป็นคนโปรดของอาจารย์ ใช้ชีวิตเยี่ยงนักเรียนชั้นมัธยมต้นธรรมดาๆ ที่มีอยู่ดาษดื่น อยู่บ้านขนาดกลางซึ่งพบได้ทั่วไปในเขตโตเกียว พ่อกับแม่ก็ทำงานอยู่ต่างประเทศทั้งสองคน มีเพียงพี่ชายอายุ19 ปีคอยดูแลเป็นผู้ปกครอง 

    ทุกสิ่งทุกอย่างรอบตัวดูเหมือนจะธรรมดาไปเสียหมด ยกเว้นก็แต่.. พี่ชายคนนี้นี่ละ ที่สุดแสนจะไม่ธรรมดาเอามากๆ!!

    สัญญาณไฟดับลงพอดีเมื่อเด็กหนุ่มก้าวแตะขอบฟุตบาท รถที่จอดติดไฟแดง หน้าสถานีโอโมเตซันโด(1) จึงได้ฤกษ์เคลื่อนตัวออกไป เด็กหนุ่มถอนหายใจด้วยความเซ็ง ก่อนที่จะเดินไปโรงเรียน ซึ่งอยู่ห่างจากสถานีไปประมาณ 2 บล็อคถนน  

    ...เบื่อๆๆๆ เมื่อไรจะเป็นวันอาทิตย์ซะทีน้า จะได้อยู่เล่นเครื่องเพลย์สเตชั่น 3 ทั้งวันเลย เขาคิด  

    “นี่แน่! คึกคักหน่อยสิ ชอบทำให้อากาศดีๆ ต้องมาคุๆ แต่เช้าเลย”

    สาวน้อยท่าทางแก่นแก้วหน้าตาดี ผมซอยสั้นเลยติ่งหูแค่ไม่กี่ซม. ใช้ฝ่ามือตีเข้าไปกลางหลังเด็กหนุ่มดังป้าบเป็นการทักทาย

    “ยูมิเองเหรอ อรุณสวัสดิ์”

    เด็กหนุ่มทักเนือยๆ กับยูมิจัง หรือชื่อเต็มๆ ว่า ไอซาว่า ยูสึ เพื่อนคนเดียวของเขา เรียนอยู่ห้องเดียวกันตั้งแต่ชั้นปีที่ 1 จนถึงเดี๋ยวนี้ปกคอเสื้อนักเรียนติด 2 ขีดแล้ว บ่งบอกถึงความเป็นนักเรียนปี2 ห้อง C ของโรงเรียนมัธยมต้นคิตาโน่ เขตโคโตะโดริ ชิบูย่า โตเกียว

    ปกติแล้วเขาเป็นคนขี้อาย เรียกได้ว่าเกือบจะอาการหนักเลยทีเดียว ไม่กล้าพูดคุยกับเพื่อนผู้หญิงในห้อง โดยเฉพาะกับเด็กผู้หญิงที่เขาแอบชอบ มิโนะมิยะ ชิสึกะ สาวสะสวยดุจนางฟ้าประจำห้อง เธอเป็นที่ชื่นชอบของพวกผู้ชายทั้งโรงเรียน ได้ลงในนิตยสารวัยรุ่นดังฉบับหนึ่ง ในหน้าแนะนำวัยรุ่นสุดฮอต ซึ่งเขาเองก็มีเล่มหนึ่งอยู่ในห้องนอน หากแต่กับยูมิ เขากลับคบเป็นเพื่อนได้อย่างสนิทใจ ไม่เคอะเขิน ซึ่งอาจเป็นเพราะท่าทางของเธอเหมือนผู้ชาย ร่าเริงแจ่มใส ไม่มีจริตจะก้านเหมือนสาววัยรุ่นส่วนใหญ่ และเธอยังดูเด็กกว่าเพื่อนๆ ในห้องที่พากันโตเป็นสาวเร็ว แล้วในห้อง ทั้งสองคนยังนั่งติดกัน อีกทั้งยูมิยังช่วยสอนหนังสือ เธอเป็นเด็กฉลาด สอบได้อันดับที่เลขตัวเดียวในจำนวนนักเรียนทั้งหมดของชั้นปี 

    “รายงานวิชาประวัติศาสตร์ญี่ปุ่นที่ต้องทำด้วยกันเนี่ย ช่วงเย็นหลังเลิกเรียนเราไปทำกันที่ไหนดีล่ะ?” ยูมิถาม

    เพราะอีกไม่กี่วันก็จะถึงกำหนดส่งรายงาน อาจารย์ทากามูระ ชายหัวล้านวัยกลางคนผู้ไม่เป็นที่ชื่นชอบของนักเรียน ให้การบ้านเป็นรายงานคู่ กำหนดหัวข้อ ‘เหตุการณ์สำคัญในช่วงปฏิวัติระบบโชกุน’

    “ตามใจเธอก็แล้วกันนะ”

    เด็กหนุ่มผมกระเซิงตอบแบบขอไปที 

    “อืมม์.. ที่บ้านฉันไม่ว่างมีแขกมา ที่ร้านกาแฟก็ไม่มีเงิน งั้นเอาเป็นว่าไปทำที่บ้านเธอก็แล้วกัน”

    “หา! บ้านฉันอะนะ  อย่าดีกว่ามั้ง”

    เขาทำท่าตกอกตกใจเกินเหตุ

    “ทำไมล่ะ  ไม่สะดวกหรอ?”

    คิ้วยูมิขมวดน้อยๆ

    “คือ... เอ่อ....”

    เขาอึกอักพลางคิด

    …วันนี้ตอนเช้า พี่บอกว่าจะกลับดึกเพราะติดงาน คงไม่เป็นไรมั้ง พอค่ำก็ให้รีบกลับเลย ถ้าหากยูมิจังมาเจอพี่เข้าละก็ เป็นเรื่องแน่ๆ!

    “กะ ก็ คงได้มั้ง ไปบ้านฉันก็ได้”

    “เย้! จะได้เห็นบ้านนายแล้ว  รู้จักกันมาตั้งปีกว่า  ไม่เคยไปบ้านฮิโร่คุงเลยซักครั้ง”

    ยูมิกระโดดโลดเต้นไปรอบๆ

    อาซาโอกะ ทาดาฮิโร่ ถอนหายใจ ได้แต่ภาวนาให้เหตุการณ์ช่วงเย็นน่าจะผ่านไปได้ด้วยดี อย่างน้อยก็ขอให้พี่อากิระไม่โผล่หน้ามา ในขณะที่พวกเขากำลังทำรายงานกันอยู่

    ทั้งสองเดินเลียบคูคลอง น้ำสีเขียวในคูสะท้อนสีสันต้นฤดูใบไม้ร่วง พอต้นเดือนกันยา อากาศที่แสนร้อนอบอ้าวจะผ่านพ้น ลมหนาวใกล้มาเยือน อีกไม่นานถึงหน้าฤดูที่ต้องเปลี่ยนเครื่องแบบสำหรับฤดูร้อนไปเป็นเครื่องแบบในฤดูหนาว(2) แทน ไกลออกไป สีเขียวของแมกไม้รายรอบพระราชวังปรากฏอยู่เบื้องหน้า ทำให้ลบภาพควันพิษจากทางด่วนหมายเลข 3 และเส้นถนนรอบๆ เมืองที่มาบรรจบกันแถวๆ นี้ไปได้


    เมื่อมาถึงโรงเรียน ทั้งคู่พากันขึ้นไปยังห้องปี 2/c ซึ่งเพื่อนร่วมห้องมากันเกือบจะครบแล้ว หัวหน้าห้องตระเตรียมทำความสะอาดโต๊ะอาจารย์ประจำชั้น รอเวลาที่อาจารย์จะเข้ามาโฮมรูม นักเรียนกลุ่มหนึ่งสุมหัวคุยกันหัวเราะคิกคักอยู่รอบโต๊ะของมิโนะมิยะดาวประจำห้อง

    ฮิโร่ลอบชำเลืองมองอยู่หน้าประตู ใจหนึ่งนึกอยากจะเข้าไปคุยด้วย อีกใจหนึ่งก็ไม่กล้า อีกทั้งเขาเองก็ไม่ได้สนิทกับมิโนะมิยะ เป็นแค่เพื่อนร่วมห้องธรรมดา แล้วในที่สุดฮิโร่คงก็ทำเหมือนทุกที นั่นคือกลับไปนั่งที่ของเขาเงียบๆ ข้างๆ ยูมิเพื่อนผู้แสนห้าว แต่ก่อนจะเข้าห้อง ทาดาฮิโร่ชะงักเท้าไว้ ปล่อยให้ยูมิเข้าไปก่อน เพราะเขาต้องทำกิจวัตรอะไรบางอย่างก่อนเป็นประจำวันทุกเช้า นั่นก็คือ ทำใจ ทำใจให้กล้าก้าวเท้าเข้าห้อง และทำใจกับคำถากถาง ดูถูกต่างๆ นานา

    “มาแล้วๆ เจ้าห่วยมาแล้ว!”

    “ทรงผมก็สะเหร่ออีกแล้วว่ะ”

    “วันนี้ไม่ได้ทำการบ้านมาอีกล่ะซี่ โดนอาจารย์ทำโทษอีกแหงๆ”

    “เมื่อไหร่จะไปกระโดดตึกซะทีไอ้กะเทย”

    ฮิโร่เม้มปาก พยายามทำหูทวนลม แต่ยูมิกลับทำท่าฮึดฮัด และจะเข้าไปหาเรื่องพวกปากหมาทั้งหลาย แต่ฮิโร่ดึงแขนไว้ ส่ายหน้าช้าๆ

    “วู้ๆ วันนี้ก็ให้ยัยทอมปกป้องอีกแล้ว กะเทยกับทอมนี่ก็เข้ากันได้ดีนะ”

    ปกติฮิโร่เจอแบบนี้เป็นประจำ แต่รู้สึกวันนี้จะมากกว่าปกติ เขาถอนใจยาวๆ 

    แต่อยู่ดีๆ มิโนะมิยะดาวประจำโรงเรียนก็ลุกพรวด หันไปมองหน้าพวกที่แซวฮิโร่เขม็ง

    “นี่พวกนาย หุบปากกันได้แล้วนะ แซวฮิโร่เขาทุกวันไม่เบื่อหรือไง!”

    ทุกคนชะงัก หันมามองกันหมด ฮิโร่อ้าปากค้าง เพราะปกตินางฟ้าในดวงใจไม่เคยพูดกับเขาเลยสักครั้ง แต่วันนี้กลับออกหน้าปกป้อง

    …นี่มันอะไรกัน นี่เธอรู้จักชื่อเราด้วยเหรอเนี่ย? ไม่น่าเชื่อเลย..

    พอทุกคนเงียบกันหมด มิโนะมิยะเดินมาหาฮิโร่ที่โต๊ะ สร้างความประหลาดใจให้แก่เขายิ่งนัก หัวใจเต้นโครมครามแทบจะกระเด้งออกมา เธอยิ้มอย่างประหม่าและพูดกับเขาว่า

    “อาซาโอกะคุง อย่าไปสนใจพวกนั้นเลยนะ เอ่อ.. จริงสิ! ช่วยรับจดหมายนี่ทีนะ แต่อย่าเพิ่งอ่านตอนนี้ล่ะ ช่วงพักค่อยเปิดอ่าน” 

    แล้วมิโนะมิยะก็ยัดจดหมายสีชมพูใส่มือฮิโร่อย่างรวดเร็ว แล้วเธอก็รีบกลับไปนั่งที่เดิม

    ทาดาฮิโร่มองตามหลังด้วยความงุนงง ปกติมิโนะมิยะแทบจะมองไม่เห็นฮิโร่อยู่ในสายตา แต่ทำไมวันนี้เธอถึงได้มาพูดกับเขา แถมยังมีจดหมายมาให้อีก  

    เด็กหนุ่มก้มลงมองจดหมาย ซองจดหมายสีชมพูลายแมวเหมียวคิตตี้จัง จ่าหน้าซองเขียนชื่อ อาซาโอกะ ทาดาฮิโร่ อย่างชัดเจน ทันใดนั้นเอง หัวใจดวงน้อยก็พองโต หรือว่า หรือว่าจะเป็น..

    “ชิสึกะให้จดหมายรักเธอเหรอ?!!”

    ยูมิที่ดูเหตุการณ์อยู่นานก็ถามโพล่งขึ้นมา สีหน้างงงวยเช่นเดียวกัน

    ฮิโร่หน้าแดงซ่าน

    “ม.. ไม่รู้สิ”

    ตอบพลางลอบมองมิโนะมิยะ เขาเห็นว่าเธอเองก็หลบสายตา และมีท่าทีเอียงอาย แสร้งทำเป็นหาของในกระเป๋าแก้เขิน ด้วยอากัปกิริยาอย่างนั้น ยิ่งทำให้หน้าฮิโร่แดงก่ำมากขึ้น


    เด็กหนุ่มรอคอยเวลาพักด้วยใจจดจ่อกระวนกระวาย พอสัญญาณออดดังกังวาน เขาก็รีบเผ่นออกทางประตูหลังห้อง วิ่งเข้าไปในห้องน้ำ ปิดประตู แกะจดหมายออกอย่างรีบร้อน มือสั่นๆ ถือกระดาษ ซึ่งเนื้อความในนั้นเขียนว่า

     อาซาโอกะจ๊ะ บอกไว้ก่อนว่า ฉันต้องทำใจอยู่นาน ถึงจะกล้าตัดสินใจเขียนจดหมายมาหาเธอ คืองี้นะ ฉันแอบเฝ้ามองเธอมานานแล้ว นับตั้งแต่ที่เราอยู่ห้องเดียวกันตอนปี 2 จวบจนถึงวันนี้ แม้เราจะแทบไม่เคยคุยกันเลย แต่ฉันก็อยากสารภาพกับเธอว่า ที่จริงฉันชอบเธอมากเลยจ้ะ (อ๊าย..อายจัง!) เรามาคบกันจะได้ไหม  หลังพักเที่ยง ฉันจะรอเธออยู่ที่ด้านหลังโรงยิมเพื่อฟังคำตอบ 

          รักนะ

    มิโนะมิยะ ชิสึกะ

     หลังจากอ่านจดหมายแล้ว ฮิโร่ไม่รู้เลยว่าคาบถัดไปอาจารย์สอนอะไรบ้าง เพราะเขามัวแต่นั่งอมยิ้มไม่หุบ จิตใจลอยไปอยู่กับมิโนะมิยะตลอดเวลา จนกระทั่งมารู้สึกตัวอีกทีก็เมื่อกริ่งสัญญาณพักเที่ยงดังขึ้น

    ทาดาฮิโร่รีบตักอาหารใส่ปาก ดึ่มนมอึกๆ จนแทบสำลัก ทำให้ยูมิที่ทานอยู่ข้างๆ จ้องมองด้วยความสงสัย หลังจากจัดการกับอาหารกลางวันที่ทางโรงเรียนจัดให้เกลี้ยง ฮิโร่ก็เดินตัวลอยไปคอยมิโนะมิยะที่ด้านหลังโรงยิมตามนัด

    เขายืนรอด้วยใจที่เต้นตุ้มๆ ต่อมๆ ไม่นึกไม่ฝันมาก่อนเลย ความรักใกล้สมหวังแล้ว โลกพลันเปลี่ยนเป็นสีชมพูสดใส ฮิโร่ยืนรอได้ไม่ถึงสิบนาที เธอคนนั้นผู้ที่ขโมยรักแรกของฮิโร่ไปได้ก็เดินเข้ามา

    “รอนานไหม  อาซาโอกะคุง?” 

    มิโนะมิยะถาม เธอก้มหน้าลงต่ำ มีท่าทีเอียงอาย

    ทาดาฮิโร่ตกอยู่ในภวังค์สัก 5 วินาที กว่าจะได้สติพูดออกมาได้

    “ม... ไม่ ไม่นานหรอกฮะ”

    ปากคอสั่น มือเย็นเฉียบหากแต่ชื้นเหงื่อ

    “เธออ่านจดหมายแล้วสินะ?”

    ฮิโร่พยักหน้าหงึกหงัก

    “ฉันรอฟังคำตอบอยู่นะ”

    สาวสวยเงยคาง มองเด็กหนุ่มด้วยดวงตาเป็นประกายงดงามประดุจนางฟ้า จนหน้าฮิโร่ร้อนวูบวาบพอจะทอดไข่ได้

    “คะ.... คือ.....ฉ.... ฉัน....  กะ.... ก็.....ช....ชอบ  มิโนะมิยะ”

    ฮิโร่ตะกุกตะกัก มิโนะมิยะเอียงคอถามย้ำ

    “อะไรนะ ไม่ได้ยินเลย เธอช่วยพูดดังๆ หน่อยสิ”

    “ฉันชอบเธอเหมือนกัน!!”

    คราวนี้ฮิโร่ตะโกนเสียดังลั่นด้วยความตื่นเต้น

    “อ๋อ.... เธอชอบฉันอย่างงั้นใช้ม้า”

    มิโนะมิยะเอ่ยพร้อมกับยิ้มกริ่มอย่างมีเลศนัย

    “เอ้า! เพื่อนๆ ทุกคนได้ยินกันทั่วแล้วนะ!!”

    เธอกล่าวเสียงดังพลางหัวเราะขบขัน

    กลุ่มเพื่อนๆ ในห้องพากันทยอยออกจากที่ซ่อนตัว เรียกได้ว่ายกโขยงมากันเกือบทั้งห้องก็ว่าได้ ถ้าดูดีๆ แล้วรู้สึกว่าจะมีเด็กห้องอื่นมาแจมด้วยนะ ทั้งหมดต่างหัวเราะอย่างขบขัน สนุกสนานที่ได้รวมหัวกันกลั่นแกล้งเด็กชายที่อ่อนแอปวกเปียกที่สุดในห้อง  

    โลกพลิกคว่ำ สวรรค์ที่อยู่ตรงหน้าล่มลงเสียอย่างนั้น นรกผุดขึ้นมาแทนที่ ฮิโร่คิดไปเองว่าวันนี้ดอกฟ้าได้โน้มกิ่งลงมาหา แต่ที่ไหนได้ เขากลับกลายเป็นตัวตลกให้เพื่อนๆ  ได้หัวเราะเยาะไปเสียนี่

    “ฮะๆ ขอโทษนะ แต่แหม.. เธอเชื่อเป็นจริงเป็นจังด้วยเหรอ เชื่อที่ฉันทำไปเมื่อเช้า ก็เพราะชอบเธอน่ะเหรอ?”

    มิโนะมิยะพยายามปั้นหน้าให้เป็นปกติ แต่ก็อดขำไม่ได้

    “ว๊าว!! อาซาโอกะสารภาพรักกับมิโนะมิยะด้วยล่ะพวกเรา ช่างไม่เจียมตัวเลยแฮะ”

    “ฉันว่าแกไปตายและเกิดใหม่ดีกว่ามั้ง ที่จะให้ดาวของพวกเราชอบแก ฮ่าๆๆ”

    เพื่อนๆ ที่อยู่ในกลุ่มเมื่อเช้าตะโกนบอกกลั้วหัวเราะ

    ฮิโร่แทบทรุด หัวใจเจ็บแปลบดั่งถูกมีดกรีด

     ...ถ้าอย่างนั้นเมื่อเช้า ก็เป็นเพียงละครฉากหนึ่งที่เธอกับพรรคพวกร่วมแสดงกันเท่านั้นน่ะสิ ทำไม.. ทำไมต้องแกล้งกันขนาดนี้ด้วย! เอาความรักมาเป็นของเล่น รักแรกจบลงแล้ว มันเจ็บปวดยิ่งกว่าถูกหักอกเสียอีก! 

    เขาอับอายแทบแทรกแผ่นดินหนี ฮิโร่ก้มหน้าก้มตาวิ่งหนีไป ไม่ยอมสบสายตาเพื่อนๆ มือทั้งสองข้างปิดหูไว้ไม่อยากได้ยินเสียงหัวเราะ เขาวิ่งผ่านเพื่อนๆ ฝูงใหญ่ แต่หางตากลับเห็นยูมิยืนอยู่ในกลุ่มนั้นด้วย

    ...อะไรกัน แม้แต่ยูมิก็เป็นไปกับเค้าด้วยงั้นเหรอ?

    เขาร่ำร้อง หัวใจดวงน้อยๆ กลับยิ่งถูกบาดลึกลงไปอีก..    

    .....................................................

    1  สถานีโอโมเตซันโด เป็นสถานีรถไฟฟ้าใต้ดินของกรุงโตเกียว ที่นั่นจะมีรถไฟใต้ดินให้เลือกใช้บริการหลายเส้นทาง ทั้งของโตเอ เอดัง และเจอาร์ ค่ารถไฟต่ำสุด (ปี2548) คือ 160 เยน
     

    2 เครื่องแบบนักเรียนของญี่ปุ่นมี 2 ชนิด เครื่องแบบฤดูร้อนและเครื่องแบบฤดูหนาว โดยกำหนดอย่างเป็นทางการว่า เครื่องแบบฤดูร้อนจะเริ่มตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนายน และเครื่องแบบฤดูหนาวจะเริ่มวันที่ 1 ตุลาคม 

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×