ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    รวมเรื่องสั้น/นิยายเก่าๆ ของ Black back

    ลำดับตอนที่ #3 : เรื่องสั้น ตัณหาราตรี (ไม่เหมาะกับเด็กต่ำกว่า 18 ปี)

    • อัปเดตล่าสุด 30 มิ.ย. 51


    ควรใช้วิจารณญาณในการอ่านให้มากๆ



    1.


    เที่ยงคืนกับอีกสิบสองนาที ผมอ่านตัวเลขจากหน้าปัดนาฬิกาดิจิทัล แสงสีเหลืองเรืองตรงข้อมือส่องสว่างราวกับก้นหิ่งห้อย ท่ามกลางความมืดสลัว ผมอยู่ในคราบชุดออกปฏิบัติการยามราตรี ได้เวลาแล้ว.. ผมพยักเพยิดเป็นสัญญาณให้ไอ้ปื๊ด ลูกน้องคนสนิทเริ่มลงมือสะเดาะกลอนประตู  มันค่อยๆ สอดลวดเข้าไปอย่างระมัดระวัง ผมยืนคุมหลังอยู่ห่างๆ สายตาคอยมองไปที่ถนนหน้าบ้าน ไม่มีใครผ่านมาหรอกในเวลาอย่างนี้ ผมคิด ไอ้ปื๊ดไขก๊อกๆ แก๊งๆ สักพักก็ได้ยินเสียงดังกริ๊ก คิดถูกแล้วที่หนีบมันมาด้วย ไอ้ปื๊ดผู้ชำนิชำนาญในการย่องเบาเปิดประตูให้ผมเข้าไป เสียงเครื่องปรับอากาศภายในบ้านดังหึ่งๆ ท่ามกลางเครื่องเรือนที่มองเห็นเป็นเงาตะคุ่ม อากาศเย็นเฉียบแต่ในใจผมกลับร้อนด้วยราคะ เมื่อได้จินตภาพถึงสาวน้อยร่างขาวอวบอั๋นหนั่นแน่น บิดกายกอดหมอนนอนหลับไม่รู้ราวบนเตียง ในปราการห้องหับของเธอบนชั้นสอง ฮึ! คุณหนูลูกผู้มั่งคั่ง ดอกฟ้าบนยอดภูสูง เธอมันช่างน่าฟัดเสียยิ่งกะไร คืนนี้หมาวัดแก่ๆ อย่างข้าจะขอล่อแม่นี่ให้ขาถ่างเลือดสาดไปเลย!




    2.

    คุณจเรเป็นเศรษฐีคนหนึ่งในจังหวัดอุบลราชธานี หน้าตาอัปลักษณ์ พุงพุ้ยอ้วนเผละ แต่ด้วยความที่ตัวแกเป็นคนไม่ถือตัว และอัธยาศัยดี จึงมีผู้คนชื่นชอบและนับหน้าถือตามากพอสมควร คุณจเรเป็นพ่อม่ายวัยสี่สิบปีเศษ หย่าขาดกับเมียไปนานแล้ว แต่เรื่องนี้ผู้คนในแถบนี้ไม่ค่อยจดจำเท่าไร เพราะผลิตผลที่เมียของคุณจเรทิ้งไว้ให้อยู่กับเขาต่างหากเล่า ที่ผู้คนจดจำและนำมาเป็นหัวข้อพูดคุยในสภากาแฟอยู่บ่อยๆ นั่นก็คือ ลูกสาวคนสวยของแก 
     

    นุจรีเป็นเด็กสาววัยสิบห้าหยกๆ สิบหกหย่อนๆ กำลังแตกเนื้อสาวสะพรั่งไปทั่วตัว ชาวบ้านส่วนใหญ่ต่างลงความเห็นว่า ผิวพรรณขาวปานหยวกกล้วยของเธอ รวมถึงดวงตากลมโตพริ้งพรายประกายระยิบ  ทั้งริมฝีปากรูปกระจับสีชมพูชวนมอง ซึ่งคอยอวดยิ้มสวยให้กับหนุ่มๆ ที่ชม้ายตามองเจ้าหล่อน แล้วยังจมูก โครงหน้าและใบหูอีกเล่า ซึ่งต่างถอดแบบมาจากแม่ของเธอเกือบหมด จนไม่เหลือส่วนหนึ่งส่วนใดที่คล้ายกับพ่อเธอเลย ทำให้ครหากันไปทั่ว นุจรีน่าเป็นลูกชู้เสียมากกว่า

     
    ผมไม่รู้หรอกนะว่าเท็จจริงเป็นเช่นไร แต่รู้เพียงอย่างเดียวว่าเธอสวย สวยมาก คนที่เห็นเธอตั้งแต่ยังเป็นเด็กตัวเล็กๆ จนเติบใหญ่เป็นสาวสะพรั่งอย่างผม ยังอดใจเต้นไม่ได้เมื่อเธอเฉียดกายเข้าใกล้ กลิ่นหอมจรุงจากกายสาวกำดัด  อกอวบเต่งตึง เอวคอดกิ่ว สะโพกกลมกลึง อรชรอ้อนแอ้น ทำเอาผมเพ้อ จนเก็บไปจินตนาการและช่วยตัวเองในยามดึกคืนละหลายรอบ มีบางครั้งที่ผมอยากจะจัดการกับเธอเสียให้รู้แล้วรู้รอด จนเกือบพลั้งเผลอแสดงอาการให้คนรอบข้างจับได้ เช่นตอนที่คุณจเรพาเธอมาเยี่ยมผม ผมอดลอบมองโลมเลียเธอด้วยตัณหาที่แทบล้นทะลักไม่ได้ จนเศรษฐีเริ่มรู้สึกผิดสังเกต  แต่ผมก็รีบกลบเกลื่อนได้อย่างรวดเร็ว อดทนสิ อดทนไว้และรอเวลา เวลาที่เพาะบ่มเธอจนสุกงอม

     
    ความสัมพันธ์ระหว่างผมกับเธอ ไม่มีอะไรมากไปกว่าคนรู้จัก แม้เธอจะนับถือในฐานะที่ผมมีอายุรุ่นราวคราวเดียวกับคุณจเร แต่ผมไม่อยากให้นุจรีมองผมอย่างญาติผู้ใหญ่ผู้น่านับถือแบบนั้น แม้ด้วยความที่ผมเองก็เป็นบุคคลที่ผู้คนในชุมชนเคารพเทิดทูน แต่นั่นเป็นเพียงหัวโขน หรือเครื่องแต่งกายซึ่งครอบสวมอยู่ต่างหากเล่า เป็นเปลือกนอกดั่งแผ่นทองเปลว ที่แปะทับองค์พระอิฐพระปูนที่แตกร้าว!




    3.


    “แหะๆ พี่ครับ วันนี้มีแผ่นใหม่ๆ มามั้ยครับ ผมชักกระสันอยากจะเสียวตั้งแต่หัวค่ำยังไงไม่รู้สิ”

     
    ไอ้ปื๊ดคลานเข้ามาหาอย่างพินอบพิเทา ชงเหล้าผสมโซดาให้ผม พลางบีบนวดต้นแขนอย่างเอาใจ 

     
    “อยู่ในลังโน่นไง มึงไปเลือกเอาเอง อ้อไอ้ปื๊ด แล้วงานที่กูให้มึงไปสืบน่ะ ได้เรื่องอะไรบ้างวะ?”
     

    ผมถามมัน ขณะที่สายตายังคงจับจ้องภาพหญิงเปลื้องเปลือยในจอทีวี ขยับยักย้ายส่ายสะโพกบนร่างหนุ่มกำยำอย่างเมามัน 

     
    “อ๋อ เรียบร้อยดีครับพี่ ผมหลอกถามไอ้ชดคนรถของเสี่ยจเรมาแล้ว” 

     
    ไอ้ปื๊ดบอกผม ขณะง่วนหาซีดีโป๊แผ่นที่ถูกใจอยู่ 

     
    “คืนพรุ่งนี้เสี่ยจเรจะไปทำธุระที่หนองคาย และก็จะค้างที่นั่นเลย ไอ้ชดก็ไปด้วย ดังนั้นหนูนุจรีคนงามก็เลยต้องนอนหง่าวอยู่บ้านกับสาวใช้แค่สองคน”

     
    ผมหยิบเนื้อทอดในจานฉีกกิน แล้วกระดกแก้วซดเหล้าให้รื่นคอ แลบลิ้นเลียริมฝีปาก

     
    “หวานกูละ เล็งแม่งมาตั้งนานแล้ว อยากรู้นักของสาวๆ อย่างหนูนุจรีจะอร่อยลิ้นซักแค่ไหน!”


    “แต่ผมสิแย่ ต้องเสียยาบ้าให้ไอ้ชดมันฟรีๆ ไปตั้งหลายเม็ดเป็นค่าข่าว” ไอ้ปื๊ดหันมาโอด พลางเบะปากส่ายหน้าอย่างเซ็งๆ


    “ไม่ต้องบ่น มึงเอานี่ไป ถือว่าเป็นค่าข่าวและก็ค่ายาของมึงด้วย”


    ผมโยนแบงค์สีเทาให้มันปึกหนึ่งอย่างไม่ยี่หระ แล้วหันไปสนใจกับภาพจากวีดีโอโป๊ต่อ เสียงคราญครางสำลักความสุขของหนุ่มสาวในเรื่อง ลีลาร่อนส่ายสะบัดร้อน ทรวงอกกระเด้งดึ๋งดั๋ง ปากเผยอใบหน้าเหยเกของสาวร่านสวาท ทำเอาลูกชายของผมแข็งชูชัน ผมลูบมันอย่างละมุนมือ หากเปลี่ยนหญิงในเรื่องเป็นเด็กสาวนุจรีแล้ว จะมันถึงอกถึงใจสักเพียงไหนนะ ผมคิด แล้วก้มไปพูดกับแก่นกลางตัว ที่ผงกหัวโผล่พ้นชายผ้ามาทักทาย



    อดทนไว้ลูกพ่อ พรุ่งนี้เอ็งก็จะได้ในสิ่งที่ต้องการแล้ว พ่อจะงัดเอากลเม็ดทุกกระบวนท่าให้จดจำไปจนตาย!

    4.

     
     ผมย่องกริบขึ้นบันไดไปชั้นสองของตัวบ้าน บรรลุถึงหน้าห้องนอนของเธออย่างรวดเร็ว มิเสียแรงที่วานให้ไอ้ปื๊ดจ่ายเงินเจ้าชดไปสองร้อยเป็นค่าถามทาง ประตูไม่ได้ลงดาลดังคาด ผมยิ้มกริ่มและเปิดเข้าไป
     

    แสงจากดวงไฟตรงเสาไฟฟ้าหน้าบ้าน อาบทุกสิ่งภายในห้องเป็นสีเงินยวง เด็กสาวคนงามในชุดนอนบางนอนหลับใหลอยู่บนเตียง ผ้าห่มผืนหนาถูกถีบสลัดไปอยู่ตรงปลายเท้า ดวงตาปิดสนิทขนตายาวงอนไหวนิดๆ ทรวงอกนูนเด่นขยับขึ้นลงเป็นจังหวะสม่ำเสมอ  ชายเสื้อเผยอเผยให้เห็นสะดืองามและหน้าท้องแบนราบ ผมกลืนน้ำลายลงคอ เรือนกายตรงหน้าเต็มไปด้วยเสน่ห์วัยแรกหญิง อัดแน่นไปทุกส่วนสัด สติผมเริ่งกระเจิดกระเจิง ขณะก้าวเท้าไปหา

     
     ผมใช้จมูกซอกซอนสูดกลิ่นกายสาวไปทุกพื้นที่บนร่างเธอ เลียแก้มนิ่มหอมแล้วไล่ไปเรื่อยจนหยุดบนริมฝีปากอิ่มและเผยอน้อยๆ ผมประกบจูบ แล้วส่งลิ้นดันเข้าไปสำรวจลิ้นนุ่ม กระหวัดคว้านไปทั่วช่องปาก นุจรีครางอือในลำคอแต่ยังไม่รู้สึกตัว ผมแกะกระดุมเสื้อนอนออกทีละเม็ด ยกทรงลายลูกไม้โผล่ให้เห็น ผมร่นยกทรงขึ้นไป มองบัวตูมขาวยอดเป็นติ่งวงเล็กตั้งชูชัน ผมก้มลงเม้มที่ปลายยอด เด็กสาวบิดตัวแอ่นอก ครางในลำคอ ผมวาดรูปด้วยลิ้นบนอกของเธอ นุจรีหายใจหนักๆ ขนแขนลุกชัน และ.. สะดุ้งตื่น!        




     
    5.

     ศพของนุจรีถูกตั้งบำเพ็ญกุศลบนศาลาใหญ่ของวัด ผมเฝ้าดูชาวบ้านในละแวกนั้น ต่างมาร่วมงานกันอย่างเนืองแน่น จนศาลาอันใหญ่โตดูคับแคบไปถนัดใจ ศาลาที่ชาวบ้านผู้มีจิตศรัทธาในตัวเจ้าอาวาสผู้อยู่ในศีลในธรรม ซึ่งร่วมกันบริจาคเงินทองช่วยกันสร้างขึ้นมาอย่างใหญ่โตและสวยงาม แต่นั่นไม่เกี่ยวกับผม จเรเศรษฐีใหญ่ในชุดสูทสีดำนั่งคอตก อยู่ในอาการซึมเศร้าที่เก้าอี้ประธาน ลูกสาวคนเดียวของเขาถูกฆ่าข่มขืน แต่ก็นั่นแหละ กว่าจเรจะรู้ว่าลูกสาวที่หายตัวไปอย่างลึกลับ ได้กลายเป็นศพเปลือยหมกพงหญ้ารกชัฏ เวลาก็ผ่านไปหลายสัปดาห์แล้ว
     

    คืนนี้เป็นคืนสุดท้ายที่จะสวดศพบำเพ็ญกุศลให้แก่ดวงวิญญาณของนุจรี จนป่านนี้แล้วยังไม่มีใครหรือเจ้าหน้าที่คนใดระแคะระคาย ว่าร่างที่นอนอยู่ในโลงบนนั้นเป็นฝีมือผม ก็ผมเตรียมการไว้อย่างดี ด้วยความร่วมมือของไอ้ปื๊ด เจ้าเด็กวัดตัวเขื่องและลูกน้องที่ไว้ใจได้ คราวนี้ผมเสียเงินให้มันไปหลายหมื่นบาท เพราะงานคราวนี้มีระดับค่อนข้างยาก แต่ก็ไม่เป็นปัญหาสำหรับไอ้ปื๊ด มันจัดการงานแบบนี้มาหลายปีแล้ว ไม่มีทางที่จะสาวมาถึงตัวผม ไอ้ชดคนรถเองก็ถูกเก็บทีหลัง แต่ด้วยมันเป็นคนจนๆ คนหนึ่ง เลยไม่มีใครให้ความสนใจเท่าไรนัก อีกทั้งคราบอสุจิบนร่างของเด็กสาวก็ไม่มี เพราะผมใช้ถุงยางอนามัย และอีกอย่าง ไม่มีใครมาสงสัยคนที่มีฐานะทางสังคมซึ่งดีและสูงส่งอย่างผม


    “ทุ่มตรงแล้วขอรับ ได้เวลาสวดแล้ว เชิญนิมนต์หลวงพี่ขึ้นศาลาเลยขอรับ”


    เสียงมัคนายกบอก พร้อมกับพนมมือด้วยอาการสำรวมและเคารพในที


    ผมเลยจัดจีวรให้เข้าที่ แล้วเดินเข้าไปในศาลา ซึ่งญาติโยมนั่งรอกันหน้าสลอนและเปี่ยมด้วยแรงศรัทธา


    ……………………………………………

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×