ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    รวมเรื่องสั้น/นิยายเก่าๆ ของ Black back

    ลำดับตอนที่ #13 : พี่ชาย/น้องสาว แต่ไม่ได้มาจากดาวดวงเดียวกัน!? ภาค 1 บทที่ 6

    • อัปเดตล่าสุด 15 ก.ค. 51



     “ยี.. ยีตื่นได้แล้ว ถึงบ้านแล้วนะ ยี!”

     นนท์เขย่าเรียกน้องสาวอยู่หลายรอบ แต่เธอก็เอาแต่หลับอยู่ตรงเบาะหลังรถท่าเดียว แม่เด็กแก้มป่องขี้เซา เปลือกตาปิดสนิท ทำปากแจ๊บๆ

     เขาเพิ่งกลับมาถึงบ้าน หลังจากส่งน้องครีมเสร็จ โดยมียีติดรถมาด้วย

     “โธ่.. ทำไมถึงได้ตื่นยากตื่นเย็นอย่างนี้นะ ลุกๆ!”

     เด็กหนุ่มพยายามปลุกจนเหนื่อยอกเหนื่อยใจ เขาฉุดแขนดึงยีขึ้นมา สาวน้อยนั่งตาปรือ และล้มตัวลงไปนอนกับเบาะต่อ

     “อุวะ! ชักโมโหแล้วนะ ถ้าไม่ยอมลุกงั้นคืนนี้ก็นอนนี่ก็แล้วกัน!”

     “มีอะไรหรือจ๊ะนนท์ เสียงดังถึงในบ้านเชียว?”

     “อ๊ะ สวัสดีครับน้าวิชุดา คือผมกำลังปลุกหนูยีอยู่น่ะครับ คือพอดีผมเจอน้องเค้าระหว่างทาง ก็เลยรับมาด้วยกัน แต่คุณน้ามาก็ดีแล้วครับ มาช่วยผมหน่อยสิครับ เนี่ย.. ผมปลุกเท่าไหร่ๆ ก็ไม่ยอมตื่น”

     แม่เลี้ยงแสนสวยชะโงกหน้ามาดู พอเห็นลูกสาวนอนอุตุก็หัวเราะขบขัน แล้วจึงอธิบายให้นนท์เข้าใจ

     “หนูยีนี่ประจำเลยน้า.. ลงได้นอนกลางวันเมื่อไหร่ละก็ ปลุกยากจะตายไป มีทางเดียวคือต้องปล่อยให้แกหลับเต็มตื่นแล้วตื่นเองนั่นแหละจ้ะ ขืนไปฝืนปลุก เดี๋ยวก็ได้เอาแต่งอแงหงุดหงิดอารมณ์เสียเปล่าๆ”

     “อ้าว.. แล้วเราจะทำยังไงล่ะครับ ปล่อยให้ยีนอนตรงนี้ก็ไม่ได้เสียด้วยสิ”

     “ก็คงต้องรบกวนนนท์ช่วยอุ้มแกไปนอนในห้องให้หน่อยแล้วจ้ะ นะนนท์ อุ้มน้องไปหน่อย”

     เฮ้อ.. เอาก็เอาวะ ไหนๆ มาเป็นน้องฉันแล้วนี่!

     ฮึบ..! โห หนักเหมือนกันนะ เห็นตัวเล็กๆ อย่างนี้

     นนท์แบกยีขึ้นหลัง เด็กสาวร่างนุ่มนิ่มคอพับอยู่ตรงไหล่ เขานึกภาวนาในใจ ขณะที่เดินขาลากขึ้นบันไดไปยังชั้น 2

     ยัยเด็กขี้เซา อย่าทำน้ำลายหยดใส่เสื้อฉันเชียวนะ มันแพงเฟ้ย!!

     อืม.. แต่ก็ไม่ถึงกับเด็กแล้วแฮะ ก็พอมีกับเค้าบ้างเหมือนกันนะเรา ^ ^

     นนท์คิดและยิ้มไปพลาง เมื่อรู้สึกถึงอะไรที่มันเล็กๆ หยุ่นๆ มารบกวนหลังเขาอยู่

     ยีค่อยๆ ถูกวางลงบนเตียง เธอขดตัวหลับต่อไปอย่างเป็นสุข นนท์ช่วยจัดกระโปรงให้เรียบร้อย เอาผ้ามาห่มให้ กรีดผมที่ปรกหน้าออกไป ยีหายใจยาวๆ แล้วซุกหน้ากับหมอน นนท์ยิ้มก่อนจะลุกออกไป แต่แล้ว.. เสียงเพลงจากโทรศัพท์หนูยีก็ดังขึ้นมา สาวน้อยทะลึ่งพรวดจนนนท์สะดุ้งตกใจ ยีนั่งจุมปุ๊กแต่ไม่ลืมตา ขมวดคิ้วทำหน้ายุ่งๆ แล้วล้มตัวไปนอนต่อ นนท์รำคาญเสียงก็เลยรับแทน

     “ฮัลโหล!”

     เขาพูดเสียงห้าวๆ ห้วนๆ

     (ขะ ขอโทษครับ สงสัยจะโทรผิด)

     แล้วสัญญาณก็ตัดไป

     เสียงผู้ชายนี่ ใครวะ?

     นนท์จ้องมองมือถือของน้องสาวอย่างหงุดหงิด

     แล้วสักพัก เสียงโทรศัพท์ก็ดังอีก เบอร์เดิมเสียด้วย

     “มีอะไร!”

     (…..เอ่อ นั่นโทรศัพท์ของยีใช่หรือเปล่าครับ?)

     “ก็ใช่ ฉันพี่ชายของยีพูด มีอะไรก็ว่ามา”

     (อ้อเหรอครับ ผมนึกว่าได้เบอร์มาผิดเสียอีก สวัสดีครับ ผมชื่อนิค พอดีเพิ่งได้เบอร์ของยีมาก็เลย..)

     นนท์นึก นิคๆๆๆๆ อ้อรู้แล้ว! นักร้องนำวง 4play ที่ยีเล่าให้ฟังนี่เอง ที่ว่าไปเจอกันที่จตุจักร

     “แล้วมีธุระอะไรกับน้องฉัน?”

    นนท์กรอกเสียงเข้มไปตามสาย

     (เอ่อ คือ.. แหม แล้วน้องยีไม่อยู่เหรอครับ ผมอยากคุยกับน้องยี)

    นนท์มองหนูยี ที่เริ่มกรนหน่อยๆ

    “หนูยีไม่ว่าง อาบน้ำอยู่ ไว้คราวหน้าค่อยโทร.มานะ หรือจะไม่โทร.มาอีกเลยก็ยิ่งดี”

    (ง่า.. เอางั้นเลย ^ ^;; แต่ได้คุยกับพี่ชายก็ดีเลย คืองี้ครับ ผมอยากจะคบกับยีเป็นเป็นเพื่อนน่ะครับ พี่คงไม่ว่าอะไรนะครับ?)

    ไอ้หมอนี่มันกล้าแฮะ!

    “นายอายุเท่าไหร่?”

    (หา..?!)

    “ฉันถามว่านายอายุเท่าไหร่แล้ว?”

    (ปีนี้ 16 แล้วครับ อยู่ชั้นม.5)

    “แต่น้องฉันเพิ่ง 13 เองนะ นายคิดว่าไม่เด็กไปหน่อยเหรอ ที่จะให้น้องฉันมาเป็นเพื่อนกับนาย?”

    (…ผมคิดว่าไม่ครับ การที่คนเราจะเป็นเพื่อนกัน มันต้องดูที่อายุด้วยหรือ ผมว่ามันอยู่ที่ความสมัครใจของทั้งสองฝ่ายมากกว่า และการที่ผมขอยีเป็นเพื่อน มันก็ไม่ได้เสียหายตรงไหน แล้วพี่เองก็คงไม่ได้เดือดร้อนอะไรนี่ครับ)

    มันร้ายๆ ฝีปากใช้ได้เลย มันบอกอ้อมๆ ว่าเป็นเรื่องของมันกับหนูยี พี่ไม่เกี่ยว..

    “นี่ฉันเองก็เพิ่ง 17 แก่กว่านายนิดหน่อย ไม่ต้องเรียกพี่ก็ได้ แต่ว่า!”

    (ครับ..)

    “ฉันรู้นะว่านายคือนิคแห่งวง 4play แต่บอกไว้ก่อนนะ ว่าฉันไม่ค่อยชอบพวกคนในวงการนี้เท่าไหร่ ดีแต่ชอบสร้างภาพคอยเป็นข่าวฉาวโฉ่ แล้วฉันจะแน่ใจได้อย่างไร ที่จะปล่อยให้คนอย่างนายมาเป็นเพื่อนกับน้องสาวฉัน!”

    (..คุณชื่ออะไรครับ?)

    “นนท์ นนทพัฒน์ ลูกชายของท่านรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง จำใส่หัวไว้ และที่ฉันบอกอย่างนี้ นายคงจะเข้าใจนะ ว่าน้องสาวฉันไม่ใช่ลูกตาสีตาสาธรรมดา”

    เสียงในสายเงียบไปชั่วอึดใจ อึ้งไปเลยล่ะซี่!

    (งั้นเหรอครับ ดูท่าว่าผมคงจะไม่ปลื้มในสายตาคุณเลย โอเค ไม่เป็นไรครับ วันนี้ผมขอถอยไปตั้งหลักใหม่ แต่ใจจริงแล้วผมอยากเจอคุณนนท์นะ คุณจะได้เห็นว่าจริงๆ แล้วผมมีนิสัยเป็นอย่างไร แล้วไม่แน่ ผมกับคุณอาจจะถูกชะตาได้เป็นเพื่อนกันก็ได้)

    ฝันไปก่อนเถอะ!

    (ถ้างั้น.. ฝากบอกน้องยีว่าผมโทร.มานะครับ แล้วไว้วันหลังผมจะโทร.มาใหม่ ดีใจที่ได้คุยกับคุณ สวัสดีครับ)

    “เออหวัดดี!”

    นนท์กดปุ่มวางสายอย่างแรง เขาหรี่ตามองน้องสาว

    เด็กๆ อย่างนี้ยังอุตส่าห์มีหนุ่มๆ มาชอบอีกแฮะ แถมยังเป็นนักร้องชื่อดังอีกด้วย เจ้ายีมันน่ารักขนาดนั้นเลยเหรอ?

    รู้สึกหงุดหงิดขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูก หรือว่านี่คืออารมณ์ที่พี่ชายหวงน้องสาว อืม.. ต้องใช่แน่ๆ!

    นนท์ลุกขึ้นและเดินออกไป ขณะเอื้อมมือไปที่ลูกบิดประตู เขาก็ชะงัก เห็นโปสเตอร์รูปวง 4play ติดหรา

    ไอ้เจ้าผมทองคนนี้เอง ที่เพิ่งคุยกับเราเมื่อกี้ หน้าตามันกวนteenดีชะมัด แต่ว่ามันก็หล่อเข้าทีดีนะ ไม่! ยังไงมันก็หล่อน้อยกว่าเราอยู่แล้ว และอย่านึกว่าฉันจะบอกเรื่องที่แกโทร.มาให้หนูยีรู้ น้องข้าใครอย่าแตะเฟ้ย!

    แล้วนนท์ก็ถลึงตาใส่รูปโปสเตอร์ตรงประตู ก่อนจะออกจากห้องไป


    “นี่ๆ พวกเธอเดากันไม่ถูกแน่ๆ ว่าเมื่อวันอาทิตย์ที่สวนจตุจักรพวกฉันไปเจอใครมา!”

    “ใครๆ บอกหน่อยดิ๊!?”

    พวกสาวๆ ในห้องกระเถิบเข้ามาฟังจอยเล่าอย่างตื่นเต้น

    “ก็พี่นิคสุดหล่อวง 4play ไงเล่าจะมีใคร!”

    กรี๊ดดดดดด!!!!!!!!!!!

    เพื่อนๆ ในห้องส่งเสียงกรี๊ดกร๊าดกันใหญ่ เล่นเอาหนูยีหูอื้อไปเลย และยิ่งทำให้เรียกร้องความสนใจของเพื่อนคนอื่นๆ จนแห่กันเข้ามาร่วมฟังด้วย จอยได้ทีก็เม้าท์ใหญ่ บางช่วงก็ใส่ไข่เสียเกินจริง

    “ดูเหมือนพี่นิคจะชอบยีเอามากๆ เลย พี่เค้าเอาแต่คุยกระหนุงกระหนิงกับยีแค่สองคน”

    ยีหน้าแดงซ่านด้วยความเขิน เมื่อพวกเพื่อนๆ เล่นหันมามองเธอกันหมด

    “แล้วทีนี้นะ ก่อนจะกลับก็ตื้อขอเบอร์โทร.ใหญ่ แถมยังชวนหนูยีนัดเดตด้วยนะ และถ้ามีคอนเสิร์ตก็จะพาหนูยีเราไปออกงานด้วย!”

    เอ.. หนูยีว่าไอ้อย่างหลังมันไม่มีนะ –“-

    พอได้แล้วน่าจอย.. โธ่.. ยีไม่ได้ชอบเค้าซักกะหน่อย ยีมีพี่นนท์อยู่ในดวงใจแล้วนะ ทีเมื่อก่อนยังเชียร์พี่นนท์อยู่เลย T__T

    “ต๊าย! จริงหรือเปล่าย๊ะ ที่นังยีถูกพี่นิคขวัญใจของชั้นจีบ แกอย่ามาปล่อยแมงโม้ปากพล่อยๆ แถวนี้นะยะนังจอย!”

    เสียงดัดจริตที่ฟังก็รู้ว่าเป็นกะเทยคนเดียวของห้อง เจ้าบอยไม่ดื่มนี่เอง

    “ทำไม! อิจฉาตาร้อนจนทนไม่ได้เลยหรือไง อะโด่ เรื่องอะไรฉันต้องไปโกหกโกเจ็ดโกแปดแกวะ พยานรู้เห็นก็มีออกเยอะแยะ จริงมั้ยเบล เดช?”

    “จริงซี แถมเรายังได้เล่นกับน้องหมาของพี่นิคด้วย ชื่อบิงโก ก็นี่แหละน้า ตัวยึกยือสองเพศอย่างแกไม่มีวาสนาเองนี่นะ อิอิ”

    “กรี๊ดๆๆๆ นังเบล อีชะนีเสาไฟฟ้า ทนม่ายได๋ บอยทนไม่ได้!”

    บอยสะดีดสะดิ้งอย่างน่าถูกถีบ ก่อนที่จะมีเสียงแปร๋นๆ มาแทรก

    “ใจเย็นๆ ก่อนบอย ถอยออกไป เรื่องนี้เดี๋ยวโยโกะเคลียร์เอง!”

    เด็กสาวร่างสูงหุ่นอบอั๋นไปทุกส่วนสัด โดยเฉพาะหน้าอกหน้าใจ ใบหน้าสวยแบบเด็กลูกครึ่งไทยญี่ปุ่น ก็เดินกระแทกเท้าเข้ามา เจ้าบอยกระหยิ่มยิ้มย่องไปยืนข้างๆ ลูกพี่

    “โยโกะไม่เชื่อหรอก อย่างยัยยีเนี่ยนะ ที่พี่นิคจะมาชอบ เฮอะ โม้มากกว่ามั้ง”

    จอยทนไม่ได้ ลุกขึ้นยืนประจัญหน้า แม้จะเตี้ยกว่าก็ตาม

    “ทำไมจะไม่จริง อย่างยีน่ารักจะตาย ก็ไม่เห็นแปลกที่พี่นิคจะขอเบอร์”

    “ฮึ! เบอร์ก็อาจจะขอจริง แต่โยโกะว่า พี่นิคเค้าก็แค่ขอเล่นๆ ไปอย่างนั้นแหละ อีกอย่าง พวกเธอไม่รู้หรือไง พี่นิคเค้ากำลังคบอยู่กับนางเอกมิวสิคคนที่เพิ่งแสดงด้วยกันอยู่”

    “เธอหมายถึงพี่ครีม ดาวม.5 ใช่มะ ถ้างั้นเธอก็ตกข่าวแล้วละ เพราะเมื่อวานฉันเห็นพี่นนท์พาพี่ครีมไปเที่ยวด้วยกันอยู่เลย!”

    ทุกคนหันไปมองหน้าโยโกะ ที่ตอนนี้ซีดเผือด หน้าหดเหลือไม่ถึงสองนิ้ว เถียงปากคอสั่น

    “ไม่จริงน่า แกเอาที่ไหนมาพูด เมื่ออาทิตย์ที่แล้วโยโกะเพิ่งไปเดตกับพี่นนท์อยู่เลย”

    ทีนี้ทุกคนหันมามองจอย

    “ก็เพราะเห็นเต็มสองตานี่แหละ เธอน่ะไม่รู้อะไร พี่นนท์กับพี่ครีมอี๋อ๋อสวีตกันจะตาย พวกฉันเห็นกันตั้งหลายคน ที่หน้าบิ๊กเบนสยามฯ แล้วรู้ไว้ด้วยนะ อย่างพี่นนท์น่ะ เค้าไม่สนเด็กที่โตแต่ตัวอย่างเธอหรอก!”

    โยโกะถึงกับช็อค พูดแต่ว่า ไม่จริงๆ แล้วเธอก็ทำฮึดฮัด

    “ฉันไม่เชื่อ ตอนพักเที่ยงโยโกะจะไปถามพี่นนท์กับตัวเลย คอยดูสิ!”

    แล้วเธอก็ดึงบอยเพื่อนคู่หู่กลับไปนั่งที่ ซึ่งก็พอดีที่อาจารย์พิมลเข้ามาสอน พวกนักเรียนต่างวงแตกแยกย้ายกับเข้าประจำที่ ระหว่างทีหยิบหนังสือออกมา หนูยีสังเกตเห็นใบหน้าซีดๆ ของโยโกะแล้วก็สงสาร พี่ชายเนี่ยน้า.. ทำให้ผู้หญิงน้ำตาเช็ดตาปลา (หัวเข่ามันสูงไป) มาไม่รู้กี่รายต่อกี่รายแล้ว

    อย่าว่าแต่โยโกะเลย สำหรับตัวหนูยีเอง พี่นนท์ก็ไม่ค่อยมาสนใจเธอเท่าไหร่ ดีแต่ปั้นหน้าเคร่งขรึมใส่ และก็ชอบทำเสียงดุๆ กับหนูยี จนเธออยากจะร้องไห้ออกมาวันละหลายๆ รอบ

    โดยเฉพาะเมื่อคืน พี่ชายก็กลับมาเป็นคนเดิมอีกแล้ว ไม่รู้ว่าเป็นเพราะอะไร ทั้งๆ ที่สองสามวันที่ผ่านมา ก็เห็นยังดีๆ กับหนูยีอยู่เลย ไหนจะซื้อมือถือให้เอย พาไปเลี้ยงเค้กเอย นี่ยีฝันไปหรือเปล่านะ เพราะเมื่อตื่นมาตอนหัวค่ำ ก็เจอแต่พี่นนท์ที่หน้าบูดบึ้งรออยู่ที่ห้องนั่งเล่น

    “พี่นนท์คะ ทำไมหนูถึงไปนอนอยู่ที่ห้องได้ล่ะคะ?”

    สาวน้อยทรุดตัวลงนั่งข้างๆ เด็กหนุ่มร่างสูง จากกลิ่นสบู่กับใบหน้าที่ดูสดชื่น ทำให้รู้ว่าพี่นนท์เพิ่งอาบน้ำมา แล้วนัยน์ตาคมๆ ที่ทำเอาหัวใจของหนูยีชอบเต้นผิดจังหวะอยู่บ่อยๆ ก็ตวัดฉับมา

    “พี่อุ้มไปเอง ก็ยีเอาแต่นอนอยู่นั่นแหละ ปลุกเท่าไหร่ก็ไม่ยอมตื่น”

    พี่อุ้มเรา! ว้ายๆ ตื่นเต้นจัง ทำไมถึงมัวแต่หลับไม่รู้เรื่องนะ แย่จัง! ^ ^;; -o-

    หนูยีหน้าแดง เลยกดรีโมตหารายการทีวีดูเล่น ก็พอดีเปิดเจอช่องเพลง ที่กำลังฉายมิวสิควง 4play เธอก็เลยสะกิดบอกพี่นนท์อย่างตื่นเต้น

    “พี่นนท์ๆ ดูสิคะ มีพี่ครีมแสดงด้วย ว้าว..น่ารักมากๆ เลย ส่วนพี่นิคก็เท่จัง แต่ยีว่าตัวจริงก็หล่อกว่าในทีวีอีกนะ!”

     พี่นนท์ถอนสายตาจากนิตยสารรถยนต์ จ้องมองทีวีสลับกับหนูยี แล้วอยู่ดีๆ เขาก็คว้ารีโมตไปจากมือ พร้อมกับกดปุ่มปิด

    “ไร้สาระน่า! มัวแต่บ้านักร้องอยู่ได้ ไม่เห็นจะมีดีตรงไหน!” นนท์พูดเสียงดัง

    พี่ไปกินรังแตนจากไหนมาเนี่ย T.T

    “ตะ แต่หนูจะดูพี่ครีมนี่นา..”

    “วันนี้ก็เห็นแล้วไง ที่โรงเรียนก็เจอ จะดูทำไมอีก น่ารำคาญจริงเธอเนี่ย!”

    พะ พี่นนท์คนเก่ามาอีกแล้ว T___T

    “แล้วดูซิเนี่ยขี้ตาเขรอะไปหมด ป่านนี้แล้วยังไม่อาบน้ำอีก เหม็นเหงื่อจะตาย ไป๊! ไปห้องน้ำเลย อาบเสร็จแล้วก็หัดหยิบหนังสือมาอ่านบ้างนะ การบ้านน่ะมีหรือเปล่า พรุ่งนี้ต้องไปโรงเรียนแล้ว”

    พี่นนท์บ่นๆๆๆ และก็บ่นๆๆๆ จนหนูยีต้องรีบลุกออกไป พออาบน้ำเสร็จก็ได้แต่หงอยเหงาเศร้าซึมอยู่ในห้องคนเดียว


    พักเที่ยง ไม่รู้เป็นเพราะอะไร พวกเด็กนักเรียนม.2 ห้องเดียวกับหนูยี จึงพร้อมใจกันมานั่งล้อมหน้าล้อมหลัง ทานอาหารอยู่ใกล้ๆ กับโยโกะ ถ้าให้เดา แสดงว่าเดี๋ยวต้องมีเรื่องอะไรสนุกๆ เกิดขึ้นแน่ๆ!

    และก็จริงตามคาด เพราะเมื่อกลุ่มเด็กม.6 กลุ่มหนึ่งเดินมา โยโกะก็ลุกพรวดขึ้นทันที ใบหน้าแดงก่ำโกรธจนตัวสั่นระริก ก็นนท์ประธานนักเรียนรูปหล่อ เล่นเดินควงมากับครีม สาวสุดสวยม.5 เสียนี่!

    “พี่นนท์! นี่มันอะไรกันคะ ทำไมพี่ถึงทำกับโยโกะอย่างนี้ ก็ไหนพี่บอกว่าชอบโยโกะไง?!”

    นนท์ตกใจ เมื่อตั้งสติได้ก็รีบปราม

    “เบาเสียงลงหน่อยสิ ที่นี่โรงอาหารนะ”

    “โยโกะไม่สน! พี่นนท์ตอบหนูมานะ!”

    คราวนี้ครีมปรี่มายืนขวาง พร้อมกับส่งสายตาชวนสยอง แต่ยังพูดเนิบๆ

    “นึกว่าใคร ที่แท้ก็สาวน้อยแสนสวยม.ต้นนี่เองนะคะ น้องโยโกะเข้าใจอะไรผิดไปหรือเปล่าคะ พี่ครีมว่า พี่นนท์เค้าคงเอ็นดูน้องโยโกะแบบน้องสาวมากกว่านะ”

    “ไม่จริง! ก็พี่นนท์ยังเคยพาโยโกะไปเดตด้วยเลย ก็แสดงว่าพี่เค้าต้องชอบโยโกะสิ!”

    เด็กสาวเถียงปากคอสั่น น้ำตาคลอเบ้า

    ครีมจุ๊ปาก ส่ายหน้าช้าๆ

    “โถๆ.. น่าสงสารจังนะ แหมพี่นนท์ขา ทีหลังเวลาพาเด็กๆ ไปเที่ยวด้วยก็ต้องบอกพวกเธอหน่อยสิคะ ว่าพาไปในฐานะอะไร แล้วบอกด้วยว่าแฟนตัวจริงของพี่คือใคร”

    “เอ่อ…”

    นนท์พูดไม่ออก ได้แต่มองสองสาวตาปริบๆ

    “ไม่จริง.. ฮือๆ พี่นนท์บอกโยโกะสิว่าพี่นังคนนี้พูดมามันไม่จริง ฮือๆ”

    ครีมเข้ามาลูบหลัง พูดเสียงหวาน

    “ใจเย็นๆ ค่ะน้องโยโกะ พี่นนท์น่ะเค้าเป็นแฟนพี่นะคะ น่าสงสาร ที่จริงพี่เองก็ไม่อยากบอกหรอกนะ แต่พี่ไม่อยากให้น้องเข้าใจผิดไป อย่าร้องไห้เลยจ้ะ”

    แล้วครีมก็ยื่นหน้ามากระซิบพอให้ได้ยินแค่สองคน

    “อย่างเธอ เป็นได้อย่างมากก็แค่กิ๊กเท่านั้นแหละ จำใส่สมองกลวงๆ ไว้ซะด้วย ยัยเด็กโตแต่ตัว!”

     คนถูกว่าโตแต่ตัวอ้าปากค้าง โมโหจนตัวสั่น นึกคำพูดเพื่อจะตวาดโต้กลับไม่ออก ครีมรีบถอยไปเกาะแขนนนท์ พลางพูดอย่างน่ารัก (น่าตบ)

     “พี่นนท์ ครีมหิวข้าวแล้วค่ะ ปล่อยน้องเขาไว้ที่นี่แหละ สักพักเดี๋ยวก็ทำใจได้เอง นะคะๆ”

     เด็กหนุ่มกุมขมับ พยายามจะเข้าไปปลอบโยโกะ ที่เอาแต่ร้องไห้ฟูมฟายสักประโยคสองประโยค แต่ก็ติดที่ครีมเซ้าซี้ฉุดดึงอยู่นั่นละ ระหว่างที่เดินผ่านโต๊ะที่พวกแก๊งเสียงใสเฝ้าชมเหตุการณ์อย่างตื่นเต้น พี่นนท์ทำหน้ากระอักกระอ่วน ส่วนครีมก็ส่งยิ้มหวานให้หนูยี แต่สาวน้อยกลับรู้สึกว่าในรอยยิ้มนั้น มันเสแสร้งไม่จริงใจเลยสักนิด

     


    ตลอดช่วงบ่าย โยโกะเอาแต่ซึมเศร้า เรียนหนังสือไม่รู้เรื่อง อาจารย์ถามอะไรก็ได้แต่อึกอักๆ ตอบไม่ได้ บอยเพื่อนซี้พยายามพูดปลอบใจ แต่ก็ไม่ทำให้รู้สึกดีขึ้น รังแต่จะทำให้ยิ่งแย่ลง จนบางครั้งถึงกับน้ำตาซึม และไปแอบร้องไห้ในห้องน้ำ

    ยัยเด็กโตแต่ตัวสมองกลวง..! อย่างพี่นนท์เค้าจะมาสนใจอะไรแก เฟ้อฝัน คิดเอาเองข้างเดียว แกมันโง่ๆๆ

    ใบหน้าและเสียงของครีมแทรกซึมอยู่ในหัว แล้วภาพใบหน้าของเพื่อนร่วมห้องก็โผล่มารุมประณาม

    ..ยัยเด็กโตแต่ตัว! ร้องไห้ฟูมฟายขายขี้หน้า ยังเด็กโตแต่ตัว!

    ไม่จริง!! โยโกะตวาดกับจินตนาการเหล่านั้น

    ..ทำไมจะไม่จริง จินตนาการเถียง ..ลองส่องกระจกดูตัวเองซิ อยู่ม.2 แท้ๆ ตัวโตเบ้อเร่อไม่เหมือนเพื่อนคนอื่นๆ  

     ก็ฉันเป็นลูกครึ่งนี่! และก็ออกจะสวยด้วย!

     ..สวย? ถ้าสวยแล้วทำไมพี่นนท์ถึงไปชอบยัยครีมล่ะ ตอบมาซิ!

     “….”

     ..ยอมรับเถอะน่า เธอน่ะดีแต่ตัวโต แต่นิสัยแย่ นอกจากไอ้บอยที่ดีแต่ประจบประแจงไปวันๆ แล้ว มีใครที่ไหนอยากจะคบกับคนอย่างเธอบ้าง?

     “นั่นสิ ทุกคนที่คบกับฉัน ก็เพราะว่าฉันสวย ฉันรวย มีหน้ามีตาในสังคมเท่านั้นเอง ไม่มีใครจริงใจด้วย ฮือๆ”

     “โยโกะ นั่นโยโกะใช่มั้ย นี่ยีเองนะ เธอร้องไห้อยู่เหรอ นี่ๆ วิชาต่อไปอาจารย์เริ่มสอนแล้วนะ ยีมาตาม”

     เสียงจากหน้าห้องน้ำ ทำให้เธอชะงัก

     นั่นมันเสียงยัยเปี๊ยกนี่?!

     “อะไรเล่า! ยุ่งอะไรด้วยล่ะ เธอมาทำไม จะมาเยาะเย้ยฉันงั้นเหรอ?!!”

     เด็กสาวตัวโตตวาดพลางเช็ดน้ำตา

     “ปะ เปล่านะ ยีเป็นห่วงก็เลยออกมาตามจริงๆ โยโกะอย่าร้องไห้เลยนะ ออกมาข้างนอกเถอะ”

     น้ำเสียงอ้อนวอนลอดบานประตูมา ฟังดูไม่ได้เสแสร้ง โยโกะกรอกตาแดงๆ ไปมา

     “ฉันไม่เชื่อเธอหรอก เธอน่ะโกรธเกลียดฉันอยู่นี่ ที่ไปแกล้งเธอวันนั้น เธอจะมาทำดีด้วยทำไม คงสมน้ำหน้าฉันแล้วล่ะสิ อยากจะมาดูฉันตอนร้องไห้ใช่ม้า.. สะใจเธอแล้วไม่ใช่เหรอ!”

     โยโกะตะโกน พร้อมกับทุบประตูดังปัง!

    “ไม่นะ..” เสียงเด็กเปี๊ยกสั่นนิดๆ “ยีไม่ได้โกรธเคืองอะไรเลย แต่.. แต่ว่าวันนั้นยีเสียใจมากกว่า เสียใจที่เราเป็นเพื่อนที่ดีต่อกันไม่ได้ ทั้งๆ ที่เราก็อยู่ห้องเดียวกัน ยีอยากเป็นเพื่อนกับโยโกะนะ”

    “เพื่อนเหรอ?” โยโกะหัวเราะทั้งน้ำตา “เธออยากเป็นเพื่อนกับคนอย่างฉันด้วยเหรอ เด็กที่โตแต่ตัวที่ใครๆ ก็ไม่รักเนี่ยนะ?!”

    “…..”

    “ฉันพูดถูกใช่มั้ยล่ะ เธอก็เห็นอย่างนั้นเหมือนกัน.. เฮ้อ.. เธอไปเถอะยี ฉันไม่อยากเจอใครทั้งนั้น”

    เสียงนอกห้องเงียบไปแล้ว โยโกะนึกว่ายีจะยอมไปแต่โดยดี แต่แล้วเสียงยีก็ดังขึ้นมาอีก เสียงที่พูดอย่างหนักแน่น

    “โยโกะไม่ได้โตแต่ตัว! โยโกะทั้งสวยทั้งน่ารัก เรียนก็เก่งกว่ายีตั้งเยอะ แถมเป็นหัวหน้าห้องด้วย พวกผู้ชายในโรงเรียนต่างก็ชอบมองเธอกันทั้งนั้น ยีอิจฉาเธอนะ”

     “หึ! เธอนี่อินโนเซ้นต์จังนะ เด็กผู้ชายพวกนั้นไม่ได้มองฉันเพราะชอบหรอก พูดไปเธอก็ไม่เข้าใจอยู่ดี ช่างเถอะ เพราะถึงยังไงก็ไม่เคยมีใครมาเข้าใจฉันสักคน”

    โยโกะเริ่มพูดด้วยน้ำเสียงประชดประชัน แต่ความทุกข์ในอกค่อยเบาลงได้บ้าง

    “ยีคิดว่ายีเข้าใจ ยีเข้าใจว่าโยโกะรู้สึกยังไง และยีก็เสียใจด้วยจริงๆ พี่นนท์เองก็ทำเกินไปแล้ว คบกับพี่ครีมอยู่ แต่ก็ยังพาโยโกะไปเดตอีก เธออย่าร้องไห้ต่อไปอีกเลย ยีจะอยู่ข้างโยโกะนะ!”

    “อยู่ข้างฉัน? หึ! จริงสิ.. เธอเองก็แอบชอบพี่นนท์อยู่นี่นา เธอก็เลยโมโหที่พี่นนท์คบอยู่กับยัยครีม?”

    “เอ่อ..นั่นมัน.. ตะ แต่พี่เค้านิสัยไม่ดีเลยนะ ฮึม! ยีเองก็โมโหแล้ว ในเมื่อพี่ชอบตวาดใส่หนูยีนัก ยีก็จะงอนไม่พูดกับพี่นนท์อีกแล้ว คอยดูสิ!”

    โยโกะที่ยืนพิงผนังห้องน้ำอยู่ก็ขมวดคิ้ว ไม่เข้าใจในสิ่งที่ยีพูด

      “อะไรของเธอน่ะ ยีพูดอย่างกับสนิทกับพี่นนท์อย่างงั้นแหละ ทำไมเธอจะไม่พูดกับพี่นนท์ หรือว่าเธอก็เคยไปเดตกับพี่นนท์เหมือนฉัน?”

     “ไม่ใช่อย่างนั้นหรอก คือว่า ว้า..จะพูดไงดี พี่นนท์ไม่ให้บอกใครซะด้วย แต่ช่างเถอะ! ในเมื่อยีโป้งพี่นนท์แล้ว ยีจะบอกให้เธอรู้นะ คือ.. ขอโทษนะที่ฉันปิดเธอ คือจริงๆ แล้วยีกับพี่นนท์เป็นพี่น้องกันน่ะ!”

     โยโกะตกตะลึงพรึงเพริด กับข้อมูลใหม่ที่เพิ่งบรรจุใส่สมองของเธออย่างสดๆ ร้อนๆ ประตูที่เคยปิดกั้นระหว่างเด็กสองคนมานานก็เปิดออกพลั้ว!

     “เมื่อกี้นี้ยีพูดว่าไงนะ พี่น้องกันงั้นเหรอ ถ้าเป็นอย่างนั้นจริง แล้วทำไมเธอถึงแอบชอบพี่นนท์ได้เล่า และทำไมตอนนั้นเธอกับพี่นนท์ถึงทำเป็นไม่เคยรู้จักกันมาก่อน?!”

     คำถามที่รัวเป็นชุดๆ ทำให้เด็กสาวตัวเล็ก ที่ยืนยิ้มรอเธออยู่ในตอนแรก ต้องทำหน้าเจื่อนลงทันใด ก่อนจะเอ่ยปากออกมาว่า

     “คือเรื่องมันยาวน่ะจ้ะ แต่ว่าเราไปเข้าห้องเรียนกันก่อนดีไหมจ๊ะ แหะๆ”

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×