ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    รวมเรื่องสั้น/นิยายเก่าๆ ของ Black back

    ลำดับตอนที่ #12 : พี่ชาย/น้องสาว แต่ไม่ได้มาจากดาวดวงเดียวกัน!? ภาค 1 บทที่ 5

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 256
      0
      11 ก.ค. 51


     
    เสียงโทรศัพท์มือถือเครื่องใหม่เอี่ยมของหนูยีดังเป็นเพลง พอรับแล้วก็ปรากฏว่าเป็นจอยโทร.มาชวนไปเที่ยว เธอเซ้าซี้ขณะที่หนูยียังลังเล

     “ไปนะหนูยี วันหยุดทั้งที พวกเราไปกันครบทีมเลย”

     “แต่ว่ายีไม่ค่อยรู้จักทางนี่ กลัวจะไปไม่ถูกน่ะ”

     “ถูกซี่ ก็ฉันมารับเธอเองเลยนี่ ชะโงกหน้าออกมาดูหน้าบ้านสิจ๊ะ อิอิ”

     พอได้ยินดังนั้น หนูยีก็วางสาย รีบวิ่งตื๋อออกไป และพบจอยยืนยิ้มแฉ่งอยู่จริงๆ ยีเปิดประตู

     “แหม แทนที่จะกดออด โทร.มาให้เสียงตังค์เปล่าๆ”

     “ก็เซอร์ไพรส์ไง แต่..โห! บ้านเธอหลังใหญ่จัง!”

     จอยทำตาโต เมื่อเดินเข้ามาด้านใน หนูยีบอกแม่บ้านหาน้ำมาให้เพื่อนดื่ม ระหว่างนั้นคุณวิชุดาก็ออกมาต้อนรับ คุณแม่กับจอยรู้จักกันดีอยู่แล้ว ทำให้ไม่อยากเลยที่เธอจะขออนุญาตพาหนูยีไปเที่ยว

     “รับรองค่ะ หนูจะพายีกลับมาส่งบ้านอย่างปลอดภัย”

     “ได้สิ น้าอนุญาต ไปเที่ยวกันให้สนุกนะ และก็อย่ากลับกันเย็นมากนักล่ะ”

     หนูยีขึ้นไปแต่งชุดเที่ยวแบบสบายๆ เสื้อยืดแขนกุด มีแจ็คเก็ตสีแดงอมชมพูสวมทับ และใส่กางเกงยีนกับรองเท้าผ้าใบสีเข้ากันกับเสื้อตัวนอก ส่วนผมเผ้าก็ปล่อยสยายเคลียหลัง แต่เอากิ๊บหนีบตรงข้างหน้าผากไว้

     เสร็จแล้วเพื่อนสาวตัวกลมกับหนูยีก็ออกจากบ้านไปด้วยกัน ก่อนหน้านั้นพวกเธอปฏิเสธที่จะให้คนขับรถที่บ้านไปส่ง เพราะต้องการนั่งรถไฟฟ้าไปกันเอง

     “จริงสิยี แล้วพี่นนท์ล่ะ ทำไมฉันไม่เห็นเลย?”

     หนูยีส่ายหัว

     “ไม่อยู่ พี่เค้าออกจากบ้านไปตั้งแต่เช้าแล้ว เห็นขับรถไปด้วยนะ”

     “พี่นนท์มีรถขับด้วยเรอะ โห! เท่ชะมัดยาด ว่าแต่พี่เค้าไปไหนเหรอ?”

     “เอ.. คงไปเรียนกวดวิชามั้ง เห็นหอบหนังสือไปด้วย”

     ยีบอก จอยทำตาเป็นประกายวิบวับ

    “ขยันจัง เพราะอย่างนี้นี่เองถึงได้เรียนเก่งนัก ยีโชคดีจังเลยน้าที่มีพี่ชายเจ๋งๆ เรางี้โคตรอิจฉาเลย!”

    ^__^ ช่ายเนอะ เรานี่โชคดีจัง!

    สองสาวน้อยคุยกันถึงเรื่องพี่นนท์อย่างสนุกสนาน ระหว่างทางที่รถไฟฟ้าแล่นอยู่เหนือกรุงเทพฯ แล้วสักพักใหญ่ จอยกับยีก็มาถึงสวนจัตุจักร หรือเจเจมาร์เก็ต ชื่อที่พวกวัยรุ่นชอบเรียกกัน พวกเธอไปสมทบกับเบลและเดช ที่มารออยู่แล้วตรงด้านล่างของสถานี และกำลังโบกไม้โบกมือกระโดดไปมา

    ในตลาดนัดซึ่งเปิดขายเฉพาะวันหยุด ผู้คนมากหน้าหลายตา เดินเบียดเสียดกันไป สองข้างทางตลอดตามตรอกซอกซอยที่แยกย่อยอย่างถี่ยิบ เต็มไปด้วยร้านรวงต่างๆ มากมาย มีของขายเกือบทุกอย่างที่นึกถึงและนึกไม่ถึง ไม่ว่าจะเป็นเสื้อผ้า เครื่องประดับ ของตกแต่งบ้าน เทปซีดี ของที่ระลึก และอีกสารพัดจิปาถะ พวกเด็กๆ เดินดูนู่นดูนี่ เข้าร้านนั้นออกร้านนี้กันเป็นที่สนุกสนาน แม้จะไม่ค่อยได้ซื้ออะไร เพราะเงินในกระเป๋าไม่เอื้ออำนวยก็ตาม

    วันนี้แดดไม่ร้อนมากนัก แต่ก็อบอ้าวพอสมควร เหงื่อซึมออกตามไรผมเล็กน้อย  เด็กๆ เลยชวนกันซื้อไอติมแท่งเสียบไม้ ที่คนขายดึงออกมาจากถังหลุมๆ ใส่น้ำแข็ง ซึ่งจับหมุนๆ เพื่อให้น้ำหวานที่เทหยอดใส่ตามช่องแข็งตัวเร็ว หนูยีทานจนปากเป็นสีแดงไปหมด

    อร่อยดีเนอะ เพิ่งจะเคยกินนะเนี่ย! 

    เลยเที่ยงมาได้หน่อย พวกแก๊งน้ำแข็งใสก็หาอะไรใส่ปากใส่ท้องกันที่ตรอกแห่งหนึ่ง ซึ่งมีร้านอาหารให้เลือกทานกันหลากหลาย หลังจากสั่งน้ำแข็งใสมากินกันอย่างเอร็ดอร่อยจนอิ่มหนำแล้ว พวกเด็กๆ ก็ไปตะลุยกันต่อที่ซอยด้านหลัง ถัดจากหอนาฬิกาเลยลึกเข้าไปอีก ซึ่งแถบนี้ทั้งหมดจะขายกันแต่สัตว์เลี้ยง ยิ่งพวกเขาเดินเข้าไปใกล้ย่านนั้นเท่าไหร่ ก็ได้กลิ่นกับเสียงสารพัดสัตว์เพิ่มมากขึ้น

    เมื่อมาถึง หนูยีก็เห็นว่าซอยค่อนข้างแคบ แต่มีคนมาเดินดูสัตว์กันเยอะแยะไปหมด พวกเด็กๆ หยุดเดินแล้วไปออกันอยู่หน้าร้านหนึ่ง ที่มีลูกกระต่ายขนปุย กับหนูแกสบี้ เลี้ยงโชว์ไว้อยู่ในกระบะไม้ที่มีขี้เลื่อยปู เดชอุ้มกระต่ายขนสีขาวนุ่มมาให้เบลเล่น ส่วนจอยกับยีก็สนุกกับการเอาเศษผักให้เจ้าหนูขนฟูกิน

    ที่จริงหนูยีไม่ชอบหนูเลยนะ แต่กับเจ้ากะปุ๊กๆ ตัวนุ่มพวกนี้ ก็ยกเว้นไว้ละกัน! ^__^

    แต่บางร้าน หนูยีกับเพื่อนๆ ก็ไม่ชอบ และรู้สึกน่ากลัวและขยะแขยง เพราะมีสัตว์ป่ามาขายอย่างผิดกฎหมาย ยีก้มดูสัตว์เหล่านั้นที่ถูกขังอยู่ในกรง ดวงตาของพวกมันแต่ละตัว ช่างดูเศร้าสร้อยน่าสงสาร สัตว์ป่าแปลกๆ ก็มีชีวิตจิตใจ  ถ้าพวกมันพูดได้ ก็คงอ้อนวอนพวกเราว่า ปล่อยฉันไปเถอะ เอาฉันมาขังไว้ทำไม ฉันอยากกลับเข้าป่า ไปหาพ่อหาแม่ของฉัน ฮือๆ

    หนูยีได้แต่ถอนหายใจอย่างเวทนาในชะตาชีวิตของพวกมัน เธอเห็นหนุ่มสาวคู่หนึ่งกำลังซื้อกระรอกสีเทาตัวเล็กเปรียว กระรอกวิ่งไปมาอยู่ในกรงอย่างตื่นกลัว หนูยีได้แต่หวังว่า พวกเขาจะรักและเอ็นดูมันไปตลอด ไม่ใช่แค่เลี้ยงไว้ดูเล่นสนุกๆ ประเดี๋ยวเดียวก็ปล่อยให้มันไปตายตามยถากรรม

    พวกเพื่อนๆ ไม่อยากแวะอยู่ที่นี่นาน จึงชักชวนกันไปต่อ แล้วพวกเขาก็แวะดูลูกสุนัขกันที่ร้านติดแอร์ซึ่งอยู่ถัดไปหนึ่งบล๊อค ร้านนี้มีสุนัขหลายสายพันธุ์มาก ทั้งพันธุ์ขนาดกระเป๋า อย่างชิวาวา ปอมเมอร์เรเนียน ยอคเชียร์ ขนาดเล็กไปจนถึงกลางๆ อย่างชิสุ เทอร์เรีย ปั๊ก พิทบลูฯ และขนาดใหญ่เช่น เซนต์เบอร์นาร์ด คอลลี่ และโกลด์เด้นรีทรีฟเวอร์ เป็นต้น

    แต่เจ้าตัวที่หนูยีชื่นชอบบมากที่สุดก็เห็นจะเป็นน้องหมาปอมเมอร์เรเนียนตัวเล็กๆ ขนสีน้ำตาลหน้าเหมือนสุนัขจิ้งจอกนี่แหละ ที่กระดิกหางประจ๋อประแจ๋สุดฤทธิ์

    “น่ารักจังเลย!”

    ยีอุทานและเรียกเพื่อนๆ มาดูกัน

    “จริงด้วยๆ น่ารักสุดๆ นี่มันหมาไฮโซเลยนะเนี่ย!”

    จอยขยับเข้ามา พลางเอานิ้วเขี่ยหูชี้ๆ ของมันเล่น น้องหมาเห่าบ๊อกๆ

    “ว่าแต่ทำไมถึงเรียกหมาไฮโซล่ะ?” ยีถาม

    เดชที่ยืนอยู่อีกด้านก็หมุนป้ายราคา (อันน่าตื่นตระหนก) มาให้ดู

     “ในบรรดาหมาๆ ไอ้เจ้านี่มันแพงที่สุดแล้ว หนูยีนี่ตาแหลมจังนะ”

     “หวาย.. แพงอะ ตัวนิดเดียวแค่นี้!”  

     เธอผงะไป และถอยออกมา แพงจนไม่กล้าจับเลย!

     ขณะนั้นเอง หนูยีดันถอยมาชนกับเจ้าโกลด์เด้นฯ ตัวใหญ่ยักษ์ ที่เจ้าของร้านเพิ่งตัดแต่งขนเสร็จใหม่ๆ ยีขอโทษพลางตบหัวมันเบาๆ เจ้าโกลเด้นรีทรีฟเวอร์เป็นหมาขี้เล่นอยู่แล้ว มันก็เลยนึกว่าหนูยีอยากเล่นด้วย ก็เลยยืนสองขาโถมตัวกระโดดเกาะ สาวน้อยหวีดร้องออกมา และล้มลงไปกับพื้น

     ก็ตัวมันหนักใช่เล่น แถมหนูยียังตัวเล็กกว่ามันตั้งเยอะ ไม่ล้มก็แปลกแล้ว!

     ว้ายๆ ออกไปนะ! T.T

    “ตายละ! เจ้าบิงโกมานี่เดี๋ยวนี้นะ ถอยมานี่เลย!”

     เสียงตวาดของเจ้าของ ทำให้เจ้าน้องหมายักษ์ที่พยายามจะเลียหน้าขาวๆ ของหนูยี ทำหูหางลู่และยอมถอยออกมาแต่โดยดี แล้วไปกระดิกหางอยู่ข้างๆ เด็กหนุ่มคนหนึ่ง

     หนูยียังคงทรุดอยู่กับพื้น ยังไม่หายหน้าซีดตกใจ ขณะยังไม่ทันที่จอยซึ่งอยู่ใกล้สุด จะรู้สึกตัวเข้ามาช่วยพยุง เด็กหนุ่มเจ้าของหมาก็ถือวิสาสะเข้ามาฉุดเธอขึ้นเสียก่อน พร้อมกับถามว่า

     “เป็นอะไรมั้ยน้อง พี่ต้องขอโทษด้วยนะครับ คือเจ้าบิงโกมันขี้เล่นไปหน่อย เห็มมันตัวโตๆ อย่างนี้ ที่จริงมันเพิ่งแปดเดือนเอง เป็นน้องหมาอยู่เลยครับ”

     หนูยีลุกขึ้นมายืนข้างๆ เขาอย่างงงๆ พอเห็นใบหน้าเขาชัดๆ เธอก็หน้าแดง

     หล่อจัง.. พอๆ กับพี่นนท์เลยนะเนี่ย แต่คนนี้หล่อแบบตี๋เจแปน ^ ^

     เอาละซี่ งานนี้นางเอกของเราจะปันใจไปไหมเอ่ย..?

     “ไม่เป็นไรค่ะ ยีแค่ตกใจนิดหน่อย แต่หมาของพี่ก็น่ารักนะคะ ชื่อบิงโกเหรอคะ?”

     เขายิ้ม ดวงตาเป็นประกายสุกใส แฝงแววขี้เล่นในที เด็กหนุ่มจับปลอกคอเจ้าตัวโตไว้ เพราะมันอยากจะโถมเข้าไปเล่นกับหนูยีอยู่ร่ำไป

     “จะว่าของพี่ก็ได้นะครับ เพราะพี่เลี้ยงมันตั้งแต่เล็กๆ แต่ที่จริงเจ้าบิงโกเป็นหมาของทางร้านน่ะ”

     หนูยีเห็นว่าเจ้าบิงโกอยู่นิ่งดีแล้ว ก็ลูบหัวและเกาหลังหูให้มัน และหันไปชักชวนเพื่อนๆ มาร่วมลูบคลำเล่นด้วย แต่ทั้งจอยและเบลกลับทำหน้าแปลกประหลาด เอาแต่จ้องหน้าเด็กหนุ่มอยู่นั่นละ แล้วจอยก็เป็นคนแรกที่พูดโพล่งออกมา

     “เป็นพี่นิคหรือเปล่าคะ พี่นิคนักร้องนำวง4play!?”

     “เป็นพี่ เอ๊ย ใช่ครับ นิคเอง”

     ทันทีที่พูดจบ เท่านั้นละ ทั้งจอยและเบลก็กรี๊ดกันสนั่นร้าน

     “จริงง่ะ กรี๊ดๆๆ ได้คุยกับพี่นิคตัวเป็นๆ กรี๊ดๆๆ!!”

     นิคคนถูกกรี๊ดหัวเราะแหะๆ เขินๆ ส่วนหนูยีอ้าปากหวอไปแล้ว!

     ถึงว่า ทำไมหน้าคุ้นๆ ตงิดๆ ใจอยู่แล้วเชียว! O.O

     แต่หนูยีไม่ได้บ้าดาราถึงขั้นอย่างยัยจอย ก็แค่ชอบดูบ้าง เพราะหล่อดี

     ทั้งจอยและเบลปรี่มารุมล้อมขอลายเซ็น และถามนิคใหญ่

     “แล้วพี่มาทำอะไรที่ร้านนี้คะ แถมยังใส่ผ้ากันเปื้อนด้วย”

     นิคยิ้ม (ขยันยิ้มจริงๆ ตานี่!)

     “คือพี่สาวพี่เป็นเจ้าของร้านนี้เองครับ พอดีวันนี้พี่ว่าง ก็เลยมาช่วยงานที่ร้านครับ”

     “จริงเหรอคะ?! ว้ายๆ อย่างนี้ต้องแวะมาบ่อยๆ แล้วล่ะ เนอะๆ เบล”

     “ช่าย.. ว่าแต่เมื่อกี้พี่เพิ่งตัดขนเจ้าบิงโกมาเหรอคะ?”

     “อือ ขนมันเริ่มยาวแล้ว ก็เลยเล็มๆ มันหน่อยน่ะ”

     แล้วพี่นิคก็ถือโอกาสพาแก๊งน้ำแข็งใสดูสัตว์เลี้ยงในร้านทีละตัว ซึ่งนอกจากสุนัขแล้ว แมวขนสวยก็มีอยู่เยอะ แต่เจ้าตัวที่หนูยีชอบมากที่สุด ก็ยังคงเป็นน้องหมาปอมๆ ขนน้ำตาล

     “ปกติพันธุ์ปอมเมอร์เรเนียนจะมีขนสองชั้นครับน้องยี ขนชั้นในจะนุ่มๆ ส่วนขนชั้นนอกก็จะสากหน่อย หนึ่งปีก็จะผลัดขนครั้งนึง ปอมเนี่ยเป็นหมาพิเศษ มันมีทุกสีให้เลือกเลี้ยง ในปัจจุบันจะแบ่งเป็นสายพันธุ์อเมริกา กับสายพันธุ์อังกฤษแท้”

     “แล้วมันต่างกันยังไงคะ?” หนูยีถามพลางอุ้มน้องหมา ที่พยายามจะเลียหน้าเธอ

     “ก็ถ้าทางอเมริกา ตัวมันจะใหญ่หน่อยครับ และก็หน้ามู่ทู่เหมือนหมี ส่วนทางอังกฤษจะตัวเล็กกว่า หน้าแหลมๆ เหมือนหมาจิ้งจอก”

     หนูยีเกาตรงแผงหน้าอก น้องหมาดูท่าจะชอบมาก แหงนคอให้เกาใหญ่

     “ดูท่ามันจะติดใจน้องยีเข้าซะแล้วล่ะ อยากได้ไปเลี้ยงมั้ยครับ” นิคหัวเราะ

     “ง่า..แหะๆ” สาวน้อยยื่นน้องปอมให้เด็กหนุ่มอุ้มแทน “ไม่ไหวหรอกค่ะ แพงจะตาย อีกอย่าง คุณพ่อกับคุณแม่คงไม่ยอมให้ยีเลี้ยงหรอก”

     บ้านใหม่ของหนูยีไม่มีสัตว์เลี้ยงสักตัว นอกจากปลาในบ่อ ~”~

     “ที่จริงพี่ว่าตัวนี้ก็ไม่แพงมากนะ เพราะมันเป็นปอมเกรดเลี้ยงไว้ดูเล่น”

     “หมายความว่ายังไงคะ เกรดเลี้ยง?”

     ยีทำหน้าสงสัย นิคอธิบายให้กระจ่าง

     “คืองี้ครับ ปอมเกรดเลี้ยงไว้ดูเล่นลักษณะจะธรรมดาๆ คุณลักษณะจะไม่ค่อยครบถ้วนตามที่ปอมแท้ๆ เข้าประกวดกัน ราคาก็จะอยู่ที่ 10,000 – 20,000 บาท ถ้าเกรดสูงขึ้นไปก็จะเป็นปอมเกรดที่ไว้สำหรับผสมพันธุ์โดยเฉพาะ พวกนี้จะลักษณะดี แข็งแรง มีเพ็ตดีกรีดี มีไว้เป็นพ่อพันธุ์แม่พันธุ์ ราคาก็ 20,000 – 50,000 บาท แต่ถ้าแพงที่สุดเลยก็พวกเกรดประกวด มีเพ็ตดีกรีระดับสายพันธุ์แชมป์ ซึ่งราคาก็ประมาณ 50,000 ขึ้นไปจนถึงเป็นแสนบาท”

     พวกเด็กๆ ทึ่งจัด กับนักร้องวงขวัญใจวัยรุ่น แต่กลับมีความรู้เรื่องหมาๆ ราวกับมืออาชีพ พวกเขาใช้เวลาขลุกอยู่แต่ร้านนี้เป็นชั่วโมง ซึ่งนิคเองก็ไม่ได้แสดงท่าทีรำคาญอะไร และออกจะถูกใจน้องๆ กลุ่มนี้ด้วย จนกระทั่งเดชต้องออกมาเตือนเป็นรอบที่ 5 แล้วนั่นละ ถึงได้ตัดสินใจบอกลาอย่างเสียดาย

     “ไปก่อนนะคะพี่นิค วันนี้สนุกม้ากมากเลย”

     “ครับน้องจอย ไว้โอกาสหน้าเจอกัน อ้อน้องยีครับ ไม่ทราบว่าพี่จะขอเบอร์มือถือของน้องจะได้ไหม?”

     อยู่ดีๆ ก็มาขอเบอร์ซะงั้น! หนูยีประหลาดใจ แต่พวกเพื่อนๆ ประหลาดใจยิ่งกว่า!

    “เอ๋? เอ่อ..”

     หนูยีลังเล เพราะเบอร์นี้พี่นนท์เป็นคนเลือกให้

     “คือพี่คุยกับน้องแล้วมันชิวๆ ดีครับ ก็เลยอยากเจอน้องยีอีก นะครับ”

    นิคพูดเสียงหวาน แต่ยังไม่ทันจะตัดสินใจ จอยก็ชิงบอกไปเสียก่อน

    “เบอร์หนูยีก็ 09-753-XXXX ค่ะพี่นิค! แล้วจะเอาเบอร์หนูเป็นของแถมด้วยมั้ยคะ อิอิ”

    ตลอดทางที่แก๊งน้ำแข็งใสเดินออกมาจากเจเจมาร์เก็ตแล้วไปขึ้นรถไฟฟ้า พวกเขาก็เอาแต่คุยกันถึงเรื่องพี่นิค และต่างลงความเห็นกัน ว่านักร้องนำสุดหล่อแห่งวง4play ต้องสนใจหนูยีของเราแน่ๆ

    “ถ้าไม่สนใจ แล้วพี่นิคจะขอเบอร์เธอเหรอ?”

    จอยบอกพร้อมกับส่งสายตาแกมอิจฉามา

     “ก็ เขาอาจแค่อยากคุยกับยีเฉยๆ ก็ได้นี่”

    เจ้าตัวแย้ง แต่ในใจก็อดแอบปลื้มไม่ได้

     “แต่ฉันว่าไม่ใช่นา.. สายตาพี่เค้ามันฟ้อง!”

     “ใช่ๆ แหมเจ้ายีนี่น้า.. น่ารักซะจนได้เรื่องเลย ขนาดมีหนุ่มๆ ระดับนักร้องชื่อดังมาจีบ เห็นเด็กๆ อย่างนี้ ร้ายจริงๆ นะ หุหุ”

     ยีอายหน้าแดง เบลได้ทีสัพยอกเพื่อนต่อไปอีกว่า

     “เดี๋ยวนี้เทรนด์นิยมเด็กกำลังมาแรงซะด้วย พวกผู้ชายนิยมเลี้ยงต้อยกัน โดยเฉพาะอย่างเจ้ายีเราน่าเลี้ยงที่สุด”

     “นั่นสิ อย่างยีนะ พอโตกว่านี้ต้องสวยมากแน่ๆ” จอยเห็นด้วย

     อย่างยีเนี่ยนะสวย?! =.=

     ถ้าจริงอย่างที่เพื่อนๆ ว่ามา ทำไมพี่นนท์ถึงไม่เคยสนใจเลยน้า T__T

     ‘สถานีต่อไป สยาม ท่านผู้โดยสารที่จะเปลี่ยนเส้นทางไปสายสีลม สามารถ..’

     เสียงผู้หญิงจากลำโพงดังขึ้น เป็นภาษาไทยและอังกฤษ ขณะที่รถไฟฟ้าตีวงโค้งจะเข้าสู่สถานีสยาม เบลกับเดชเห็นว่าเพิ่งจะบ่ายสามเอง ก็เลยชวนลงสถานีนี้ และไปหาอะไรทานกันก่อนกลับ ซึ่งจอยกับยีไม่ขัดข้อง

     นานๆ จะได้ออกมาเที่ยวกับเพื่อนๆ ทั้งที ฮิฮิ ^___^@

     แต่เงินใกล้จะหมดแล้วอะ เค้าได้ค่าขนมจากแม่มานิดเดียวเอง T.T

    เบล เดช จอย และยี ตกลงกันไปนั่งดื่มชานมไข่มุกกันที่ร้านเล็กๆ แต่ดูอบอุ่นเป็นกันเองแห่งหนึ่ง ตั้งอยู่ตรงข้ามกับโรงเรียนกวดวิชาบิ๊กเบน โรงเรียนชื่อดังของย่านสยามฯ เซ็นเตอร์พ้อยท์ เครื่องดื่มของร้านนี้รสชาติอร่อย มีให้เลือกหลากหลายเมนู และราคาไม่แพง ในระดับที่เด็กนักเรียนซื้อทานได้

     เมื่อได้เครื่องดื่มของตัวเองกับครบทุกคนแล้ว พวกเด็กๆ ก็คุยกันอย่างสนุกสนาน พลางเอาของในถุงที่หิ้วมาจากจตุจักรมาดูกัน แล้วขณะนั้นเอง มันก็ประจวบเหมาะที่บิ๊กเบนได้เวลาเลิกเรียนวิชาสุดท้ายพอดี ดังนั้นหน้าโรงเรียนกวดวิชาตอนนี้ จึงคลาคล่ำไปด้วยเด็กนักเรียนม.ปลายทั้งชายและหญิง (ม.ต้นเลิกเรียนไปก่อนแล้ว)

     พวกแก๊งน้ำแข็งใสต่างให้ความสนใจ เจ้าเดชมองหารุ่นพี่สาวๆ สวยๆ เบลกับจอยก็ดูรุ่นพี่หนุ่มหล่อ ในคลื่นมนุษย์หัวดำที่ทยอยกันออกมา จอยที่สายตาดีสุดก็สังเกตเห็นใครคนหนึ่ง

     “เฮ้ๆๆ!! นั่นพี่นนท์นี่หว่า ใช่จริงๆ ด้วย! พี่นนท์ขาทางนี้ค่ะ มาทางนี้หน่อย!!”

     เด็กสาวตัวกลมตะโกนโหวกเหวกอย่างไม่แคร์สายตาใคร ส่วนหนูยีก็แอบบีบมือตัวเองอย่างตื่นเต้น

     นี่ขนาดอยู่บ้านเดียวกันแล้วนะ ยังไม่วาย.. O.o!

     พี่นนท์เห็นพวกเขาแล้ว จึงเดินแหวกทาง และข้ามฝั่งมา แต่ทว่า เมื่อหนูยีเห็นเขาชัดๆ หัวใจก็พลันห่อเหี่ยวแฟบลง เพราะเขาไม่ได้มาคนเดียว พี่นนท์ยังหนีบหญิงสาวสะสวย ที่มองแต่ไกลก็จำได้

     ยัยครีม ดาวม.5 เด็กสาวสวยใสไร้สติ คู่ปรับรายใหม่คนนั้นนั่นเอง!

     


     ครีมเป็นเด็กสาวที่เกิดมาในบ้านที่มีความเป็นอยู่ในระดับปานกลาง ภายนอกดูเรียบร้อย น่ารัก อ่อนหวาน และหน้าตาก็ยังสวยอีกต่างหาก จึงไม่แปลกที่มีแมวมองมาชวนเธอเข้าวงการบันเทิง ผลงานล่าสุดคือแสดงเป็นนางเอกมิวสิควีดีโอ ให้กับวง4play ซึ่งเล่นประกบคู่กับนิคเลยทีเดียว และยังเป็นมิวสิคที่สร้างความฮือฮาที่สุดในขณะนี้อีกด้วย

     แต่นั่นมันภายนอกของเจ้าหล่อน เพราะตัวจริงแล้ว ครีมเป็นเด็กเที่ยวกลางคืนตัวยง และสถานที่ที่แมวมองไปเจอหล่อนน่ะ คือที่ร้าน Stim ผับดังย่าน RCA! ขณะที่กำลังแดนซ์กระจาย ด้วยความมึนเมา!

     และนอกจากนี้ ทั้งคนในวงการ กะเทย กระเทียม และสารพัดซ้อ ต่างลือกันให้แซด ว่าเจ้าหล่อนน่ะ ขายตัวตั้งแต่นมตั้งเต้า! O.O

     เอาเถิด.. ข่าวลือยังไงก็คือข่าวลือ จริงหรือไม่จริง เวลาจะพิสูจน์เอง แต่ที่แน่ๆ ใครๆ  ต่างก็รู้กันทั้งนั้น ว่าแม่นี่กำลังกิ๊กอยู่กับหนุ่มไฮโซ ลูกชายคนเดียวของท่านรัฐมนตรีกระทรวงใหญ่ และดูเหมือนว่า ครีมเองก็ชอบใจที่ให้เป็นอย่างนั้น และคอยทำตัวเป็นเจ้าเข้าเจ้าของ ป่าวประกาศเสียเอง อย่างหน้าชื่นบาน

    หากแต่วันนี้นี่ซี่ ที่เธอกลับต้องมาอารมณ์บูดอย่างสุดๆ และอยากจะวีนอย่างที่เคยถนัด แต่ก็ทำไม่ได้ เพราะต้องรักษาภาพพจน์เด็กสาวหน้าใส ใสซื่อ(บื้อ) และไร้เดียงสาไว้

    -“- อุตส่าห์วางแผนไว้ดิบดี ว่าระหว่างทางที่พี่นนท์ขับรถไปส่งที่บ้าน จะถือโอกาสชวนพี่ไปดินเนอร์กันในโรงแรม แล้วก็จะแกล้งทำเป็นมึนๆ หลอกให้พี่นนท์ขึ้นไปบนห้องที่เราจองไว้ล่วงหน้า (เป็นเดือน) แล้วก็จัดการซะ!

    แต่นี่มันอะไรกัน(วะ!) ทำไมยัยเด็กเปี๊ยกม.ต้น หน้าตาพอไปวัดไปวาได้ ถึงได้เหาะมานั่งหน้าแป้นแล้นเสนอหน้ามากับชั้นได้(วะ!)

    โอ๊ยเสียแผนหมด! พินาศป่นปี้เพราะนัง ก้าง ขวาง คอ คนเดียวแท้ๆ!

    ยิ่งคิดก็ยิ่งโมโห เจ้าเด็กเปี๊ยกม.ต้นที่เธอพูดถึง กำลังนั่งสัปหงกอยู่ที่เบาะหลัง เมื่อครึ่งชั่วโมงที่แล้ว นนท์แนะนำให้ครีมได้รู้จัก บอกว่าเป็นน้องสาว ชื่อยี เธอทำหน้าแปลกใจ เพราะไม่ว่าจะเป็นพี่นนท์ หรือเพื่อนคนอื่นๆ ไม่เคยบอกเลยว่ามีน้องสาวด้วย

    นังเด็กนี่อยู่ดีๆ ก็โผล่มาพร้อมกับกลุ่มเพื่อนๆ ของหล่อน ตอนที่เธอกับนนท์ควงแขนกันออกมา หลังจากที่เพิ่งเลิกเรียนกวดวิชา ตอนแรกก็หวาดระแวง นึกว่าเป็นเด็กปากไม่สิ้นกลิ่นน้ำนม ที่แอบมาหลงได้ปลื้มหนุ่มสุดหล่อ หน้าตาเหมือนนายแบบ แต่พอได้รู้ว่าเป็นน้องสาว ก็โอเคนะ รับได้ กะว่าจะต้องเอาใจไว้ก่อน แต่พวกเพื่อนๆ หล่อนนี่ซี่ ที่ทำให้เธอออกอาการหงุดหงิด ก็แต่ละคนแสบๆ กันทั้งนั้น และสุดท้ายยังคะยั้นคะยอให้ยัยเด็กนั่นกลับบ้านพร้อมกับพี่ชายซะงั้น!

    โอ๊ย! มาเที่ยวกันเองได้ก็น่าจะกลับเองได้ ทำไมจะต้องให้ติดรถมาด้วยนะ?!

    “หนูยีง่วงนอนเหรอ ฮึๆ ท่าทางจะเที่ยวกับเพื่อนๆ จนเพลียเลยนะ แล้วไปไหนกันมาล่ะ?”

    พี่นนท์ซึ่งเหลือบดูกระจกมองหลังอยู่ เอ่ยปากถามยิ้มๆ

    “อืม.. หนูก็ไปจตุจักรมาค่ะ สนุกจัง ที่นั่นมีของขายเยอะแยะเลย และก็ไปเล่นกับน้องหมามาด้วยค่ะ”

    ยีตอบจ้อยๆ พลางอ้าปากหาว

    น่าเกลียดจัง หาวซะปากกว้างเลย ไม่รู้จักเอามือปิด เป็นน้องพี่นนท์ได้ไง?! –“-

    “ต๊าย!” ครีมส่งเสียง “น้องยีไปที่นั่นทำไมคะ แออัดจะตาย ร้อนก็ร้อน มีแต่เชื้อโรคทั้งนั้น ไฮโซระดับลูกสาวท่านรัฐมนตรีอย่างน้อง น่าจะไปช็อปห้างหรูๆ มากกว่านะคะ!”

    ยี้! ทำตัวโลว์ไม่มีระดับเลย อย่างชั้นไม่ไปเหยียบให้รองเท้าแพงๆ เสียราคาหรอก!

    “แต่ยีว่าก็ไม่ค่อยแออัดหรอกค่ะ ถึงจะร้อนบ้างนิดหน่อย พี่ครีมว่างๆ ก็ลองไปสิคะ ห้าว..”

    ยัยเด็กม.ต้นหาวอีกรอบ ทำตาสะลึมสะลือ

    หนอย ฉันอุตส่าห์แนะให้แล้วนะ ยังจะมาเถียงอีก เด็กอะไรน่าหยิกให้เนื้อเขียวเชียว!

    “หนูยีเอนตัวนอนไปก่อนนะ ถ้าถึงบ้านแล้วเดี๋ยวพี่ปลุกเอง”

    “อือ.. ค่ะพี่นนท์ งั้นหนูขอนอนก่อนนะ”

    ว่าแล้วก็เอาหมอนที่วางอยู่เบาะหลังมาหนุนนอน

    ดีๆ รีบๆ หลับไปซะ พูดมากน่ารำคาญ ชั้นจะได้คุยกับพี่นนท์กันสองคน!

    “อ้อพี่นนท์.. วันนี้หนูบังเอิญเจอนักร้องวง4play ด้วยล่ะ เขาขอเบอร์ยีด้วยนะ แล้วหนูก็ให้เค้าไป”

    อะ อะไรนะ นิควง4play น่ะเหรอ กิ๊กเก่าฉันนี่นา หนอยๆ ยัยเด็กนี่ร้ายใช่เล่น ท่าทางจะทำดีด้วยต่อไปไม่ได้แล้ว!

    ครีมเริ่มหงุดหงิดในใจขึ้นมาทุกทีๆ แต่ยังคงปั้นสีหน้ายิ้มแย้มไว้ แต่พี่นนท์นี่สิ กลับชักสีหน้าบึ้งตึง

    “ใครนะ นักร้องอย่างนั้นเหรอ แล้วมาขอเบอร์หนูยีอีกต่างหาก ฮึ! พี่ไม่เห็นด้วยเลยนะ พี่ไม่ได้ซื้อโทรศัพท์มาเพื่อที่น้องจะเอาเบอร์ไปให้คนแปลกหน้าพร่ำเพรื่อแบบนี้ ถ้าเป็นเพื่อนๆ ก็ว่าไปอย่าง”

    “อืม.. หนูไม่ได้ให้.. แต่จอยเค้าบอกไป..”

    ยีงึมงำกับหมอน

    พี่นนท์บ่นใหญ่ แต่ยัยเด็กนั่นดันหลับไปซะแล้ว นี่สินะ อารมณ์พี่ชายหึงหวงน้องสาว

    ครีมคิดขณะมองใบหน้าด้านข้างที่แสนดูดีของนนท์

    รถแล่นมาจอดหน้าบ้านครีม ซึ่งมีมะม่วงต้นใหญ่ปลูกอยู่ใกล้ๆ ประตูรั้ว ครีมบอกขอบคุณที่มาส่ง แต่ในใจนึกเสียดาย ที่แผนการณ์ต้องมาพังมลาย เพราะยัยเด็กเปี๊ยกนี่คนเดียว ครีมเหล่มองเด็กสาวร่างเล็ก ที่ยังหลับต่อไปไม่รู้เรื่อง แถมยังทำน้ำลายยืดหยดแหมะๆ ลงบนหมอนอีก

    อี๊! ไม่เป็นลูกผู้ดีเอาซะเล้ย! > <

    แต่ยังไม่ทันจะก้าวลงจากรถ พี่นนท์ก็ดึงเธอไว้เสียก่อน ครีมหัวใจเต้นตึกๆ

    “เดี๋ยวก่อนน้องครีม พี่มีอะไรอยากจะถามหน่อยสิ?”

    อิอิ สงสัยจะนัดเดตครั้งหน้าแหงๆ

    “ค่ะ มีอะไรหรือคะพี่นนท์”

    ครีมส่งยิ้มหวานจ๋อย

    “เอ่อ.. คือพี่รู้มาว่าน้องครีมเพิ่งเล่นมิวสิคให้กับวง4play ก็เลยอยากรู้ว่านักร้องคนนั้นเค้านิสัยเป็นยังไง?”

    อ้าว.. ไหงมาถามถึงพี่นิคได้ล่ะ ง่า.. ตอบไงดีหว่า แต่ขืนบอกมากไปเดี๋ยวพี่นนท์ก็จะสงสัย หาว่าสนิทกัน แล้วเรื่องที่กิ๊กกันอยู่ก็แตกกันพอดี!

    “นิคน่ะเหรอคะ ก็.. ไม่รู้เหมือนกันค่ะ ตอนอยู่ที่กองถ่าย ครีมไม่ค่อยได้คุยกับเขาเท่าไหร่ แต่คิดว่านิสัยดีใช้ได้มั้งคะ”

    “เหรอครับ ผมคิดว่าน้องครีมจะสนิทกับเขาเสียอีก เห็นหนังสือพิมพ์ลงข่าวอย่างนั้น”

    “แหมพี่นนท์คะ พวกพี่ๆ สื่อก็เขียนข่าวไปอย่างนั้นเอง ข่าวลือไม่มีมูล ครีมน่ะ มีพี่นนท์อยู่ในดวงใจคนเดียวนะคะ!”

    นนท์ถามถึงนิคอีกหลายเรื่อง จนครีมสงสัยว่าอยากรู้ไปทำไม ระแคะระคาย หึง หรือว่าหวงน้องสาว ครีมชักเริ่มเบื่อๆ เซ็งๆ ก็เลยทำเป็นงอน นนท์อมยิ้มไม่ถามต่อ แล้วง้อเสียงอ่อนเสียงหวาน และจนเมื่อเขาสัญญาว่าจะพาเธอไปเลี้ยงอาหารหรูๆ พร้อมกับของขวัญอีกหนึ่งชิ้นแล้วนั่นละ ครีมถึงเลิกงอน ทำสะดีดสะดิ้งจีบปากจีบคอ พร้อมกับจุ๊บแก้มชายหนุ่มไปหนึ่งที

    ครีมโบกมือลานนท์แล้วค่อยเปิดประตูเข้าบ้าน แต่เด็กสาวไม่ได้เข้าไปทันที เธอหลบมุมแอบดูพี่นนท์ที่ยังไม่ได้ถอยรถออกไป

    หล่อจัง รวยก็รวย ให้พี่นนท์เป็นที่รักหมายเลขหนึ่งเลย แล้วให้นิคเป็นเบอร์สอง หุหุ ร้ายจริงๆ เลยเรา!

     อ๊ะๆ! พี่นนท์หันไปดูน้องสาวใหญ่ หือ.. ทำอะไรน่ะ? อ้อ ทีแท้ก็เอาผ้าไปเช็ดปากให้น้องนั่นเอง เด็กจริงๆ เลยน้ายัยนี่ ดูๆ พี่นนท์ท่าทางจะเอ็นดูน้องน่าดู พี่นนท์นี่เป็นคนที่อบอุ่นจังนะ ดูดวงตาที่มองน้องเขาสิ! แต่เอ.. ทำไมเราถึงได้รู้สึกแปลกๆ นะ มันยังไงๆ อยู่น้า พี่น้องคู่นี้มันมีอะไรแปลกแตกต่างอย่างบอกไม่ถูก..

    ไม่เอาน่ะ! คิดมากไปแล้วครีม แกต้องคิดอยู่อย่างเดียวแล้วตอนนี้ ว่าจะทำอย่างไรให้พี่นนท์มาเป็นของเราให้ได้ สู้โว้ย!

    ครีมตัดสินใจอย่างมุ่งมั่น ขณะที่สายตามองรถที่แล่นลับตาไป ก่อนจะกลับเข้าบ้าน บ้านที่ไม่มีใครอยู่ต้องรับเธอเลยแม้แต่คนเดียว

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×