ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    รัญจวนรักเพลิงพิศวาส

    ลำดับตอนที่ #6 : ตอนที่ 6 เธอคือใคร

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 645
      0
      14 ต.ค. 58







     

    ภูรินท์ปล่อยให้เธอได้หลับสบายทั้งคืนโดยที่เขาไม่ยอมกวนใจเธอทั้งที่อยากทำใจแทบขาด เขาลุกออกไปตอนรุ่งเช้าโดยที่หญิงสาวยังคงหลับสนิท เป็นคืนแรกในรอบหลายปีที่เขาได้หลับอย่างเป็นสุข แค่ได้นอนกอดกลับทำให้รู้สึกอิ่มใจเพียงนี้ หากแต่พอเมื่อกลับมาถึงบ้าน ความรู้สึกผ่อนคลายที่เพิ่งได้รับก็มลายหายไปเมื่อเจอมัญชรีนั่งรออยู่ด้วยสีหน้าเอาเรื่องเช่นเคย

    “คุณหายไปไหนมาทั้งคืน” คำถามแรกมาพร้อมกับแววตาที่ส่อประกายราวกับนางเสือร้ายหมายจะตะปบเขาให้สิ้นฤทธิ์ เพียงแต่กิริยานี้ไม่เคยเป็นผลกับเขาเลย ต่อให้อีกฝ่ายจะแผลงฤทธิ์ใส่มากแค่ไหนก็ตาม

    “ไปค้างบ้านเพื่อน”  ภูรินท์เดินผ่านเธอมาพร้อมกับถอดเสื้อสูทของตนออกน้ำเสียงของเขายงคงเฉื่อยชาเช่นเดิมเหมือนๆ กับทุกครั้งที่อยู่กับเธอเขาไม่เคยทีรอยยิ้มให้

    “เพื่อน! ผู้หญิงหรือผู้ชาย” มัญชรียังตามมาแบบไม่ลดล่ะ ภูรินท์หยุดคิดอยู่อึดใจจึงได้ได้หันกลับมา

    “ผู้หญิง”

    มัญชรีเงียบไป ใบหน้าของเธอนิ่งเสียจนเขาไม่อาจเดาความรู้สึกได้แต่ด้วยนิสัยอีกเดี๋ยวเธอคงอลาวาดคราแรกเขาก็คิดแบบนั้นทว่ามัญชรีไม่เพียงไม่ต่อว่ากลับกระยิ้มเบาๆ

    “ไม่เป็นไร เราแฟร์ๆ กันอยู่แล้วนี่ใช่ไหม..ในเมื่อฉันเองก็ยังได้ปลดปล่อย...คุณจะมีอีหนูสักกี่คนก็ย่อมได้ขอเพียงแค่เรายังคงสถานะสามีภรรยากันเช่นเดิม” มัญชรีกล่าวจบก็หันกลังให้ เธอรู้เขาหวังจะเห็นเธอปรี๊ดแตก เขาจะไม่ได้สมหวัง ขณะนั้นภูรินท์เองเริ่มรู้สึกอึดอัดใจขึ้นมาทั้งที่เมื่อก่อนเขาไม่เคยสนใจอะไรเลย

    “เพื่ออะไร? หนึ่งปีนี้ที่คุณเที่ยวบอกใครต่อใครทั้งที่ความเป็นจริงเราไม่เคยมีสถานะแบบนั้นกันจริงๆ เลยสักครั้ง คุณกับผมเป็นแค่ผู้ร่วมชีวิตกันเท่านั้น เราไม่เคยมีความรู้สึกดีๆ ให้กันเลย เหมือนอยู่ไปวันๆมันจะไปมีความสุขอะไร”

    “คุณไม่มีแต่ฉันมี...คุณไม่รู้สึกแต่ฉันรู้สึกที่เราเป็นแบบนี้เพราะคุณเองต่างหากที่ไม่ยอมเปิดรับฉัน คุณก็ลดๆ ลงบ้างได้ไหมทิฐิน่ะ คุณเห็นไหมฉันยังยืนอยู่ตรงนี้ เป็นภรรยาที่ถูกต้องตามกฎหมายของคุณเมื่อไหร่คุณจะรู้ว่าฉันมีตัวตนเสียที ถ้าฉันไม่รู้สึกอะไรจะยื้อคุณไว้ทำไมตั้งเป็นปีๆ เพื่อให้ตัวเองเจ็บช้ำ” เธอพากายเพรียวบางกลับยืนตรงหน้า บัดนี้ดวงตาคู่เฉี่ยวนั้นไม่ได้แข็งกร้าวแต่มันกำลังวอนขอสิ่งที่เธอรอมานาน สองแขนยื่นไปโอบรับกรรมสิทธิ์ของตน

    “ฉันรักคุณนะภู ฉันรอคุณอยู่ทุกวัน ทุกวินาที รอว่าเมื่อไหร่คุณจะกลับมาจากโลกของคุณเสียที โลกที่คุณโหยหานั้นมันอยู่ไกลเหลือเกิน...คุณมองฉันสิ ฉันต่างหากที่คือความจริง เลิกคิดถึงใครคนนั้นได้ไหม ฉันไม่รู้ว่าคุณรอใคร แต่คนๆ นั้นไม่มีตัวตน แต่ฉันสิที่มีเลือดมีเนื้อ มีความรู้สึก ยืนอยู่ตรงหน้าคุณนี่ไง”

    เมื่อเขานิ่งไปเธอจึงมีความหวังขึ้นมาเล็กน้อย เธอพยายามโอ้โลมเขาใช้ความอดทนแม้เขาจะแข็งปานหินเพียงใดก็ตาม เธอเลื่อนมือขึ้นไปเกาะอยู่บนบ่าก่อนเปลี่ยนไปที่ลำคอกดมันลงมาหาตนหากแต่แค่ชั่ววูบที่เพิ่งจะได้แตะริมฝีปากนั้นเขากลับเบือนหนีสร้างความไม่พอใจให้เธอเป็นอย่างมาก

    “ผมทำใจมองคุณแบบนี้ไม่ได้หรอก” โดยเฉพาะบัดนี้ใครคนนั้นปรากฏตัวแล้ว เธอไม่ได้เป็นเพียงความทรงจำอีกต่อไป

    “เพราะคุณไม่พยายามเลยต่างหาก ทำไมภู ฉันมันน่ารังเกียจนักหรือคุณถึงทำกับฉันแบบนี้...แค่เพียงคุณยอมให้ฉันเข้าไปในชีวิตคุณ ฉันก็พร้อมที่จะหยุดทุกอย่างเพื่อคุณ” เธอหว่านล้อมเขาสารพัด ทั้งวาจาหรือสายตา ผลักเขาลงไปนั่งเก้าอี้ก่อนขึ้นไปอยู่บนตักเขา โลมไล้ไปตามผิวหน้าคมสากพร้อมกระซิบเบาๆ “ฉันต้องการคุณนะภู มากกว่าผู้ชายคนไหน ฉันพร้อมที่จะยอมคุณทุกอย่าง แค่คุณยอมรับฉัน” เธอจับมือใหญ่ที่พยายามจะแข็งขืนมาทาบบนอกนุ่มของตนโดยปากก็ยังไม่ยอมผละออกมาลำคอแกร่งของอีกฝ่าย

    “มัญชรี พอเสียที อย่าทำแบบนี้เลย” ภูรินท์ว่าเสียงกร้าว เขาไม่ได้มีท่าทีเคลิบเคลิ้มไปกับการกระทำเหล่านี้เลยสักนิด แม้เธอจะอยู่ในฐานะภรรยาแต่เขาไม่เคยรู้สึกแบบนั้นเลยว่าเธอเป็น

    “ทำไมคะ คุณไม่ต้องการฉันสักนิดเลยหรือ มองฉันสิ...คุณเห็นไหม ฉันก็เป็นผู้หญิง ฉันสามารถสนองให้คุณได้ตามที่คุณต้องการ” เธอรู้ว่าแม้เขาจะไม่ได้รักใคร่ชอบพอตน แต่ชายก็ยังเป็นอยู่วันยังค่ำ ตันหาราคะที่ไม่เคยหมดไปจากมนุษย์ตราบใดที่ยังมีความรักโลภโกรธหลง แม้ผู้ชายคนนี้จะเย็นชาเพียงใด แต่เขาก็ไม่ได้ไร้ความรู้สึก เมื่อยามนี้เธอสัมผัสบางอยู่ใต้ร่างของตน สะโพกผายผึ่งยิ่งส่ายบดยั่วเย้า

    “พอทีมัญชรี” เขาผลักเธอออกแล้วลุกขึ้นมายืนมองหน้าเธอ  กายร้อนจัดมันอัดแน่นไปด้วยเพลิงราคะเพียงแต่เขาไม่ต้องการปลดปล่อยมันกับเธอแต่เป็นผู้หญิงอีกคน

    “ทำไมคุณใจร้ายกับฉันนักฮึ ฉันไม่ดีตรงไหน”

    “คุณถามผมรึถามตัวเองกันล่ะ”

    มัญชรียืนกัดฟันทนมองผู้ชายใจน้ำแข็งตรงหน้า ความอดทนที่เพิ่งมีอยู่น้อยนิดหมดไป เธอไม่เคยแพ้ให้ใครมาก่อน เธอคือที่หนึ่งเสมอ แต่ผู้ชายคนนี้ทำให้เธอรู้สึกต่ำต้อยด้อยค่าเหลือเกิน

    “ในเมือคุณไม่ให้ฉัน คุณก็จะไม่ได้อะไรจากฉันเช่นกันแม้แต่ลายเซ็น ฉันรู้คุณทรมานที่ต้องทนอยู่กับฉัน แต่อยากบอกให้รู้ว่าคุณจะต้องทนอยู่แบบนี้ต่อไปชั่วชีวิต ฉันจะไม่มีวันปล่อยคุณไปเด็ดขาด” เธอสะบัดหน้าหนีมาด้วยความโมโห หากแต่หยุดไว้ที่ก้าวที่สามก่อนหันกลับมา “หนึ่งปีที่อยู่กันมาฉันไม่เคยเห็นคุณสนใจผู้หญิงคนไหนเลยจนกระทั่งเดี๋ยวนี้ และนั่นมันทำให้ฉันอยากรู้แล้วว่าหล่อนเป็นใคร...และฉันจะต้องรู้ให้ได้”

    เธอทิ้งไว้เพียงคำพูดที่ทำให้คนฟังหวั่นใจพิกล บางครั้งเขาก็อยากจะเข้าใจเธอ กระนั้นก็มีหลายอย่างที่ไม่สามารถลงรอยกันได้ มัญชรีเป็นคนดื้อรั้นเอาแต่ใจและชอบบงการคนอื่นเสมอเธอมักยกตัวเองขึ้นสูงเหนือคนอื่น เขาต้องการคนที่จะรับฟัง แบ่งปันและพร้อมที่จะเดินเคียงคู่ไม่ใช่เดินนำและเขารู้ว่าคนนั้นๆ ไม่ใช่มัญชรี นึกถึงเมื่อปีก่อน ก่อนแต่งงานเขาตกลงกับเธอไว้ หากไปกันไม่รอดฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งจะเป็นคนยอมถอย แต่ผ่านมาหนึ่งปีมัญชรียิ่งมัดเขาแน่นยิ่งกว่าเดิม ขณะที่เธอเองก็เที่ยวไปสำเริงสำราญกับใครต่อใครมากมาย เขารู้แต่ไม่เคยพูดและไม่เคยสนใจ ทว่าตอนนี้เขาทำเฉยต่อไปไม่ได้แล้ว เขาอาจต้องทำอะไรสักอย่างเพื่อเรียกคืนอิสรภาพของตน

     

    เมลินดาจัดการตั้งเอกสารที่กองพะเนินอยู่บนโต๊ะ งานใหม่อะไรก็ใหม่หมดจึงยังรู้สึกไม่ค่อยชิน กระนั้นเธอก็ปรับตัวได้เร็วเริ่มคุ้นเคยกับคนที่นี่แล้ว หญิงสาวรวบเอาเอกสารที่ตรวจเสร็จแล้วก่อนที่จะส่งต่อไปให้มัญชรีอีกที ทันใดนั้นอรดีก็เดินออกมาจากห้องทำงานของมัญชรีพร้อมด้วยอาการหงุดหงิดเล็กน้อย

    “วันนี้บอสเป็นอะไร เหวี่ยงแต่เช้าเลย” เธอหยุดคุยกับเมลินดาดูจากสีหน้าคงโดนมัญชรีเล่นงานมาเป็นแน่

    “เมย์ก็ไม่รู้ค่ะ มาก็เห็นบูดแบบนี้แล้ว”

    “เหรอ..สงสัยทะเลาะสามีมั้ง” อรดีเดาสุ่มไปตามเรื่องตามราว แต่มันทำเมลินดาสะดุด ทะเลาะกันหรือ ใช่เรื่องของเธอรึเปล่านะ เมื่อคืนภูรินท์นอนค้างห้องเธอทั้งคืนเลย ระหว่างนั้นเองเสียงอินเตอร์คอมก็ดังลอยมา

    เมลินดา...เข้ามานี่หน่อย

    “ค่ะ” หญิงสาวรีบตอบรับทันทีเพราะเช้านี้บอสสาวยิ่งอารมณ์ไม่ดีอยู่ ขืนทำอะไรชักช้าไม่ทันใจเดี๋ยวจะโดนปาระเบิดใส่ เธอเคาะประตูสองทีก่อนเปิดเข้าไปพร้อมกับเอกสารในอ้อมแขน “ฉันเอารายงานมาให้ค่ะ”

    “อืม...วางไว้ก่อน” มัญชรีเอนหลังพิงเก้าอี้ เธอไม่ชำเลืองมองแฟ้มเหล่านั้นเลยแม้แต่น้อย “เธอหานักสืบเก่งๆ ให้ฉันหน่อย”

    “นักสืบ!” เมลินดาทวนคำอย่างงงวย

    “ใช่! ฉันต้องการที่จะสืบเรื่องใครสักคนหน่อย” มัญชรีไม่ได้บอกรายละเอียดว่าจะสืบเรื่องใคร และเมลินดาเองก็ไม่อยากถามเซ้าซี้ให้เธออารมณ์เสียยิ่งกว่าเดิม

    “ค่ะ” รับคำแล้วออกไปจากห้อง

    ขณะนั้นมัญชรีนั่งกัดนิ้วตนเล่น คุณอยากใจดำกับฉันก่อนทำไม อยากรู้นักผู้หญิงคนนั้นเป็นใครกันที่ทำให้ผู้ชายที่เยือกเย็นและแข็งทื่อไม่ต่างจากตอไม้สนใจได้ ทั้งที่เขามีภรรยาที่แสนเพอร์เฟคอยู่ตรงหน้ายังไม่ใยดี คิดว่าฉันจะอยู่เฉยๆ งั้นเหรอ ไม่มีทาง!







    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×