ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    รัญจวนรักเพลิงพิศวาส

    ลำดับตอนที่ #23 : ตอนที่ 23

    • เนื้อหานิยายตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 365
      1
      12 ธ.ค. 58



    “ยังหรอก คุณยังไม่ได้ไปไหน ในเมื่อคุณยอมเป็นเมียเก็บของมันได้ คุณก็ต้องเป็นของผมได้เช่นกัน”ใบหน้าคมสากถากไถไปตามลำคอระหงจนแสบไปหมด เธอทั้งรังเกียจและขยะแขยงเป็นที่สุด เธอเคยรักผู้ชายแบบนี้ได้ยังไงกันนะ เธอช่างตาบอดจริงๆ

    “อ๊ายนวัฒน์ ปล่อยฉันนะ คุณทำแบบนี้ไม่นึกถึงยัยพิมพ์บ้างเลยหรือ”

    “ผมเบื่อที่จะต้องคิดถึงคนอื่นแล้ว เป็นคนดีมันยากนะ และมันไม่ใช่แนวผม ผมอยากได้คุณ”

    “นวัฒน์ อย่านะ” เธอพยายามต่อสู้ดิ้นรนเพื่อให้เอาตัวรอดจากการรุกรานของอีกฝ่าย ในขณะที่เขากำลังหน้ามืดตามัวอยู่นั้นจู่ๆ ก็มีมือมาดึงเขาออกไปเขายังไม่ทันกะพริบตาด้วยซ้ำก็ถูกกระแทกเข้าที่หน้าด้วยหมัดหนักๆ จนเขามึนอยู่ครู่หนึ่ง

    “ไอ้เลว! กล้าดียังไงมาแตะต้องเธอ แกนี่มันนี่มันชั่วจริงๆ นั่นนะพี่เมียแกนะ”

    “แล้วยังไงวะ ถึงเป็นพี่เมียแต่ก็เคยเป็นเมียฉันมาก่อน ใช่ไหมทูนหัว” นวัฒน์เมามันกับการโกหก เพียงแต่เมลินดากลับไม่ได้รู้สึกโกรธหากแต่เธอรู้สึกสมเพชชายคนนี้นักได้แต่ส่ายหน้า

    “แก ไอ้!  ภูรินท์กำคอเสื้อนวัฒน์แน่น

    “คุณภู อย่าต้องเจ็บมือเลยค่ะ ถ้าเขาคิดว่ามีความสุขกับการโกหกก็ปล่อยเขา”

    “แกจำใส่หัวเอาไว้นะ คนอย่างแกไม่มีสิทธิ์มาแตะต้องเธอ” ภูรินท์ยอมปล่อยมือถึงใจจะโกรธสักแค่ไหนก็ตาม เขาจูงมือเธอเดินหนีมาเพราะไม่อย่างนั้นแล้วอาจอดใจไม่ไหวกระแทกหมัดใส่หน้ามันอีกรอบก็เป็นได้

    “ไม่มีสิทธิ์หรือ ฉันจะทำให้แกรู้ว่าฉันทำอะไรได้มากกว่านี้อีก” นวัฒน์แค่นเสียงคำรามต่ำๆ ผ่านลำคอ ใช้หลังมือปาดคราบเลือดที่มุมปากของตนด้วยความแค้นใจเป็นที่สุด รอยแค้นนี้เขาจะไม่ลืมเลย

     

    “คุณปล่อยฉันได้แล้ว” เมลินดาดึงมือออกมาจากการเกาะกุม เขาไม่ได้พากลับเข้าไปข้างใน แต่กลับพาออกมายังสระน้ำของโรงแรมที่อยู่ด้านนอกแทน

    “มันทำคุณเจ็บตรงไหนรึเปล่า ไหนดูสิ”เขาว่าและยังยื่นมือมาหมายจะสำรวจตรวจตราเธอดูว่ามีอะไรสึกหรอไปรึเปล่า ทว่าหญิงสาวเบี่ยงหน้าหลบไม่ยอมให้เขาแตะต้อง

    “ฉันว่าเรากลับเข้าไปข้างในกันดีกว่านะคะ ฉันออกมานานแล้ว”

    “ถ้ากลัวเจ้านายสุดที่รักเป็นห่วงขนาดนี้ก็ไม่ควรแอบออกมาเจอคนรักเก่าสิ คุณนี่เสน่ห์แรงจริงนะมีแต่ผู้ชายมารุมตอมไม่หวาดไม่ไหว เก่งจริงกับการหว่านเสน่ห์ให้คนหลง” แม้แต่เขาเองก็ยังหลงเธอหัวปักหัวปำชนิดที่ว่าไม่ยอมโงหัวขึ้นมาเลย

    “มันเรื่องของฉัน ถ้ามันขัดหูขัดตาคุณมากก็อย่ามองสิ มันจะแปลกถึงไหนถ้าฉันอยากจะบริหารเสน่ห์ตัวเองบ้าง อย่างน้อยฉันก็ไม่ทำแบบนั้นกับคุณก็แล้วกัน”

    “นี่ขนาดไม่ทำนะเนี่ย ผมยังไปไหนไม่รอดเลย ถ้าคุณทำผมคงตายคาอกคุณเลยมั้ง แค่ทุกวันนี้ผมก็จะบ้าตายเพราะคุณแล้ว”เขาว่าประชด หากแต่สายตาที่มองมันกลับดูอ่อนโยนลงกว่าเดิม ซึ่งมันทำให้เธอไม่อยากมองเลย

    “ฉันไม่อยากคุยกับคุณแล้ว ฉันจะเข้าไปข้างใน” หากแต่พอเธอหันหลังกลับต้องชะงักนั่นเพราะอ้อมแขนแข็งแรงนั้นรวบรัดเธอไว้ ไออุ่นจากอกแกร่งส่งผ่านมาให้เธอได้รู้สึก เธอแทบจำครั้งสุดท้ายไม่ได้แล้ว เหมือนมันเลือนรางจนแทบจำความรู้สึกนี้ไม่ได้แล้ว

    “อยู่คุยกับผมสักเดี๋ยวได้ไหม” เสียงใหญ่นั้นกระซิบแผ่วอยู่ริมขอบหู และลมร้อนคลอเคลียอยู่ข้างแก้มนวลไม่ห่าง

    “ฉันไม่มีอะไรจะคุยค่ะ”

    “งั้นคุณก็ไม่ต้องพูดอะไร แค่ฟังผมเท่านั้น” คำวอนร้องขอเอื้อนเอ่ยพร้อมวงแขนที่รัดแน่นไม่ยอมคลาย อยากจะกักขังเธอไว้แบบนี้ต่อไป

    “อย่าพยายามอีกเลยค่ะ ไม่ว่าคุณจะใช้วิธีไหนมันก็ไม่ได้ผลหรอก เพราะฉันจะไม่กลับไปหาคุณอีกแล้ว” เธอจะไม่ยอมกลับไปให้เขาหลอกอีก

    “ทำไมคุณใจแข็งกับผมแบบนี้เมย์ ระหว่างเราทำไม่มันถึงกลายเป็นแบบนี้ไปได้ ผมไม่เข้าใจเลย คุณปล่อยให้คนอื่นมาแทรกกลางระหว่างเราได้ยังไง” เขาเผลอต่อว่าเธอโดยไม่ตั้งใจ

    “มันไม่เคยมีเรามาตั้งแต่ต้น มันมีแค่คุณกับภรรยาของคุณ คุณหลอกให้ฉันหลงเชื่อไปวันๆ ว่าคุณจะหย่าแต่...”

    “ผมหย่ากับมัญชรีแล้ว”

    “อย่ามาโกหกฉัน ฉันไม่เชื่อคุณแล้ว เมื่อกี้คุณกับเธอก็ยังดูปรกติดี คิดว่าคำโกหกของคุณมันจะทำให้ฉันเชื่ออีกอย่างนั้นหรือ”

    “ผมพูดความจริงนะ ที่ผมทำไปเมื่อกี้เพราะผมหมั่นไส้คุณหรอกก็เลยประชด นี่ไม่รู้รึไง หรือจะให้ผมเอาใบหย่ามาใส่กรอบเหลี่ยมทองแล้วแขวนคอไว้เลยไหมคุณจะได้เชื่อผมซะที”

    “ฉันไม่เชื่อ” เมลินดาสะบัดตัวออกมาแต่อีกคนก็คว้าเอาไว้ได้เหมือน ยื้อยุดกันไปมาจนทั้งคู่ล้มลงไปบนเก้าอี้ตัวยาวที่ริมสระน้ำ โดยเธอนอนราบอยู่บนตัวเขา พอขยับจะลุกขึ้นเขากลับกอดเอวเธอไว้แน่นกลายเป็นว่าตอนนี้เธอนั่งอยู่ตักเขาโดยมีสองแขนแข็งแรงนั้นรัดแน่นราวกับปมพันธะนาการที่เธอไม่มีวันหนีพ้น

    “เมย์ เมย์คนดีของผม อย่าใจร้ายกับผมเลยนะ คุณลงโทษโดยที่ผมไม่ได้ทำผิดอะไรมาพอแล้ว พอได้แล้วนะ”

    “ไม่ค่ะ” เธอยังยืนยันนักแน่นเช่นเดิม เธอไม่ได้คิดว่าจะเชื่อหรือไม่กับสิ่งที่เขาบอก แต่กำลังคิดถึงคำพูดร้ายๆ ของเขานึกในใจว่าคนปากว่าตาขยิบ

    “เมย์...ทำไมคุณดื้อแบบนี้ ผมทนไม่ไหวแล้วนะ”

    “เมย์ก็เป็นของเมย์แบบนี้ ถ้าคุณทนไม่ไหวก็ไม่ต้องทนสิคะ” เธอบอกด้วยสีหน้าดื้อดึง ภูรินท์เม้มปากแน่นอย่างคนไม่สบอารมณ์จากนั้นเขาก็จับมือเธอไว้ทั้งสองข้าง “คุณจะทำอะไร”

    เผี๊ยะ!

    ฝ่ามือหนาๆ ของเขากระทบเข้าที่บั้นท้ายงอนงามของเธอแบบเน้นๆ หญิงสาวสะดุ้งเฮือกพร้อมร้องโวยวายด้วยความโมโห

    “คุณภู คุณตีก้นเมย์ทำไม เมย์เจ็บนะ” อันที่จริงแรงแค่นี้ไม่ได้ทำให้เจ็บมากนักหรอก หากแต่ฝ่ามือใหญ่นั่นยังบีบเน้นที่บั้นท้ายของเธออย่างจงใจสร้างความไม่พอใจให้เธอเป็นอันมาก

    “ก็คุณดื้อไง ผมก็ต้องตีเพื่อสั่งสอน”

    “ไม่ต้องมาทำฟอร์มจับก้นเขาเลยนะ เอามือออกไปเลย” เธอไม่ยอมนั่งอยู่นิ่งๆ ให้เขาได้สมใจ ดีดดิ้นสุดแรงเตะเท้าสะเปะสะปะ อีกฝ่ายนั้นกลับหัวเราะร่าด้วยความเอ็นดูกับท่าทีงอนเง้าของหญิงสาว

    “รู้ทันด้วย ก้นคุณนิ่มจัง อย่างกับแก้มเด็กเลย” ท่าทางทะเล้นตึงตังมันทำให้เธอหัวเสียนัก เขาเปลี่ยนอารมณ์ไวกว่าเธออีก

    “ปล่อยฉันเถอะ ฉันอยากกลับเข้าไปข้างในแล้ว” น้ำเสียงของเธออ่อนลง ไม่ใช่ว่าหายโกรธอะไร แต่กลัวไม่อยากอยู่กับเขาสองต่อสอง ความกลัวไม่ได้เกิดจากเขาแต่เธอกลัวใจตัวเอง

    “อยากกลับเข้าไปเหรอ จ่ายค่าผ่านทางมาก่อนสิ” ว่าจบนัยน์ตาคมพราวแสงจากนั้นก็ดันร่างเธอลงไปนอนแทนที่เขา

    “คุณจะทำอะไร นี่สระน้ำของโรงแรมนะ” หญิงสาวว่าพลางแอบเคืองในใจ นี่เขาไม่เกรงเลยรึไงนะ ที่สาธารณะแท้ๆ ยังกล้าทำ

    “คิดว่าผมสนด้วยเหรอ” เธอคงอยากจะเถียงต่อหากแต่ไม่อาจเปล่งเสียงเพราะเขาจัดการปิดด้วยริมฝีปากอันร้อนฉ่า บดเน้นหนักหน่วงและร้อนแรงเหมือนเสือหิวที่กำลังโหยหาเหยื่อ เธอพยายามต้านแรงเสน่หาที่กำลังลุกฮืออยู่ภายในใจ ทั้งดิ้นทั้งผลัก แต่เขาทิ้งร่างหนักลงทับ เธอพยายามอย่างที่สุดแล้วกระนั้นก็ไม่อาจดับไฟปรารถนาในใจตนได้ ถูกมันเผาไหม้อย่างช้าๆ โดยเธอไม่สามารถควบคุมได้เลย

    ขณะเดียวตรงทางเดินที่มืดสลัว ร่างสูงของพิภพมองภาพเบื้องหน้าอย่างสับสน ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไมเขาถึงไม่เดินไปห้าม หรืออาจเพราะเขาเห็นแววตาของเธอมันมีความต้องการอีกฝ่ายเช่นกัน มีหลายครั้งที่เขาอยากไปนั่งตรงนั้นแทนภูรินท์ แต่ก็ไม่อาจทำได้

    “ปวดใจใช่ไหม คุณนี่ความอดทนสูงนะทนยืนดูอยู่เฉยๆ ได้” เสียงของมัญชรีเอ่ยผ่านความเงียบขึ้นมา

    “แล้วคิดว่าผมจะต้องทำยังไงงั้นหรือ” มันคือคำถามที่ไม่ต้องการคำตอบ น้ำเสียงเฉยชาที่แฝงมาด้วยความเจ็บปวดอยู่ลึกๆ นั่นเพราะผู้หญิงที่เขาหมายตากลับมีใจให้กับคนอื่นแทน

    “หากว่านี่เป็นเรื่องธุรกิจ ถ้าเจอคู่แข่งคุณจะทำยังไง มันไม่บ่อยนะที่จะได้เจอของที่ถูกใจแบบนี้สักที และมันก็น่าเสียดายนะหากปล่อยมันหลุดไปโดยที่ไม่พยายามคว้าเอาไว้ หากตอนนี้ฉันเป็นคุณล่ะก็ ฉันจะจัดการรวบหัวรวบหางเผด็จศึกเสียเลย คุณเองก็ชอบแม่นั่นมากไม่ใช่เหรอ” เธอพูดพลางหางตายังเหล่มอง พิภพหันมากระตุกยิ้มนิด

    “ผมไม่ใช้วิธีสกปรกแบบนั้นหรอก มันไร้ศักดิ์ศรี”

    “แล้วศักดิ์ศรีมันทำให้คุณได้ในสิ่งที่ต้องการรึเปล่าล่ะ เพราะมันคือการแข่งขัน ของแบบนี้ใครดีใครได้ ถ้ามัวแต่มาเป็นสุภาพบุรุษ เชื่อสิ อีกไม่นานหรอกเดี๋ยวเธอก็หลุดมือคุณ”

    “ได้มาด้วยกลโกงจะมีประโยชน์อะไรเพราะยังไงก็รักษาไว้ไม่ได้อยู่ดี ดูคุณสิ คุณเองก็ยังไม่สามารถรั้งเขาไว้ได้ คุณไม่เหนื่อยบ้างเหรอที่ต้องคอยวิ่งตามคนอื่น”

    “แต่ยังไงฉันก็เคยได้” เธอเถียงแบบไม่เต็มเสียง นั่นเพราะเริ่มมีความหวั่นไหวต่อคำพูดที่เสียดแทงใจนี้ เธอพยายามเป็นปีๆ แล้วเธอได้อะไรบ้างล่ะ นอกจากความว่างเปล่า ตั้งใจจะยุเขาให้ลงมือทำแต่ตนกลับโดนย้อนมาแบบนี้ ไม่ใช่ไม่เหนื่อย เพราะภูรินท์นั้นไม่เคยเลยสักครั้งที่จะมองตนให้เต็มตา เธอคว้าได้แต่อากาศที่ว่างเปล่า พิภพเองนั้นก็เงียบไปเช่นกัน แม้ปากจะบอกมัญชรีอย่างนั้นแต่ใจเขาคิดต่างออกไป เพราะนักธุรกิจคร่ำหวอดอยู่ในสนามที่เต็มไปด้วยคู่แข่ง หากจะบอกว่าเขามือสะอาดมันก็ไม่ใช่ เพราะเขาเองก็เคยใช้เล่ห์เหลี่ยมเพื่อเอาชนะคู่แข่งทางธุรกิจมาแล้ว และตอนนี้กำลังเจอศัตรูหัวใจที่ถือแต้มเหนือกว่าเพราะคนกลางนั้นมีใจให้ งานนี้เขาเสียเปรียบเห็นๆ ทั้งคู่ไม่ทันได้พูดอะไรกันต่อเมื่อจู่เมริสาเดินดุ่มๆ ออกไปยังสระน้ำ ใบหน้าเธอนั้นเต็มไปด้วยความโกรธ

    “เมลินดา!” สุ่มเสียงดังกังวานและแข็งกร้าวนัก เมลินดาสะดุ้งเฮือกด้วยเสียงนี้ ก่อนผุดลุกอย่างร้อนรน

    “แม่”








    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×