ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    รัญจวนรักเพลิงพิศวาส

    ลำดับตอนที่ #13 : ตอนที่ 13 ความลับไม่มีในโลก

    • เนื้อหานิยายตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 527
      1
      12 พ.ย. 58




    เวลาเช้าของวันทำงาน มันวุ่นวายเช่นเดิมของมันทุกวันจนเป็นเรื่องปรกติเสียแล้ว ภูรินท์พาเธอกลับมาตั้งแต่เมื่อคืนและนอนค้างอยู่ที่ห้องเธอ เช้านี้เขาจะมาส่งแต่เมลินดายืนยันว่าจะนั่งรถเมล์มาทำงานเอง เพราะเธอคิดว่ามันยังไม่ถึงเวลาที่จะให้คนอื่นรู้ในตอนนี้ แม้ความรู้สึกผิดชอบชั่วดีจะคอยสะกิดอยู่ในใจลึกๆ แต่สิ่งที่ห้ามอยากกว่าคือใจตัวเอง ทุกครั้งที่พยายามจะปฏิเสธก็เหมือนมาบางอย่างมาคอยฉุดเอาไว้เสมอ หรือเพราะเธอเองใจไม่แข็งพอกันแน่นะ

    เมลินดามาถึงบริษัทก่อนเวลางานเพียงนิดเดียวเท่านั้น นี่ขนาดว่าเธอเผื่อเวลาไว้แล้ว แต่เป็นเพราะการจลาจรที่คับคั่งจึงทำให้การเดินทางล่าช้าเอามากๆ ทันทีที่ก้าวเข้ามาในบริษัทเธอเห็นอรดีซึ่งมาก่อนเธอแค่นิดเดียวกำลังรอลิฟต์อยู่หญิงสาวจึงเข้าไปกล่าวทักทายเหมือนเช่นเคย หากแต่อีกฝ่ายนั้นกลับมองเธอด้วยสายตาแปลกๆ

    “อรุณสวัสดิ์ค่ะคุณอร”

    “คุณเมย์...เป็นไงบ้างคะวันหยุดแรกไปเที่ยวไหนมาเอ่ย” น้ำเสียงที่ใช้เหมือนจะฟังดูสบายๆ ก็จริง แต่แววตานั้นกลับทำให้เธอรู้สึกอึดอัดอย่างบอกไม่ถูก

    “ก็...ไม่ได้ไปไหนค่ะ” รู้สึกไม่ดีเลยที่ต้องโกหก แต่ก็ขี้ขลาดเกินกว่าจะบอกความจริงออกมา หากมีคนรู้ว่าเธอไปเที่ยวกับสามีของเจ้าของบริษัท

    “งั้นเหรอคะ นึกว่าจะมีหนุ่มพาไปเที่ยวเสียอีก ไม่ไปก็ดีแล้วค่ะ เกิดไปทำอะไรที่ไม่เหมาะไม่ควร ถ้ามีคนเห็นอาจไม่ดีนะ เป็นฉัน ฉันจะระวังตัวให้มากกว่านี้”

    เมลินดารู้ทันทีว่ามันคือคำเตือน นี่อรดีรู้อะไรรึเปล่านะ คำพูดเหล่านี้มันแฝงความนัยให้เธอสงสัยยิ่งนัก หรือว่าความลับของเธอจะแตกเสียแล้ว ยิ่งคิดก็ยิ่งหวั่นใจ

    ช่วงเช้าเมลินดาทำงานไปพลางพร้อมกับอาการใจลอย เธอไม่ชอบความรู้สึกนี้เลย ไม่อยากอยู่แบบหลบๆ ซ่อนๆ เหมือนทุกอย่างมันกำลังบีบเธอเข้ามาทุกทีจนเธอแทบไม่มีที่แม้แต่จะหายใจ เธอกำลังตรวจรายงานที่ถูกส่งเข้ามาใหม่อยู่พอดีกับมีชายคนที่เธอจำได้ว่าเป็นนักสืบที่มัญชรีให้หามาขอพบ ชายคนนี้ก็เหมือนกันมองเธอด้วยตาแบบเดียวกับอรดีอีกแล้ว หรือเธอคิดมากไปเองรึเปล่านะ เธอกดอินเตอร์คอมรายงานเมื่อมัญชรีอนุญาตเขาจึงได้เข้าไป โดยที่เมลินดาเองนั้นไม่ได้ใส่ใจนัก เธอไม่รู้ว่ามัญชรีใช้ให้ชายคนนี้ไปทำอะไรและคิดว่ามันเป็นเรื่องของเจ้านายเธอจึงไม่อยากถามซอกแซกเดี๋ยวจะโดนเหวี่ยงเอาอีก

    แต่เวลาเดียวกันนั่นเอง ภายในห้องทำงาน มัญชรีไม่ได้เงยหน้ามองผู้เข้ามาใหม่เลยเพราะเธออยู่ในอารมณ์ไม่สู้ดีนักเนื่องจากเธอติดต่อภูรินท์ไม่ได้ตั้งแต่เมื่อวาน มัญชรีตวัดปลายปากกาเซ็นเอกสารจนครบก่อนเก็บมันไปวางรวมกันข้างๆ

    “ว่าไง ฉันหวังนะว่าจะมีอะไรคืบหน้า” น้ำเสียงห้วนหุ้นพอๆ กับใบหน้าที่บึ้งตึงยิ่งนัก

    “มีแน่นอนครับ แต่ผมอยากจะขอเตือน คุณควรทำใจเสียก่อนนะครับ เพราะมันจะเป็นอะไรที่คุณคาดไม่ถึงเชียวล่ะ” ชายหนุ่มบอกพร้อมกับหยิบกระเป๋าเอกสารสีดำของตนขึ้นมาเปิด ดึงเอาซองสำน้ำตาลมาวางตรงหน้า

    “ขนาดนั้นเขียว แต่ฉันว่าคงไม่มีอะไรที่จะทำให้ฉันช็อกตาค้างได้หรอกมั้ง” มัญชรีว่า ด้วยเพราะมั่นใจว่าคงไม่มีอะไรที่จะเหนือความคาดหมายไปมากกว่านี้ได้แล้ว เธอคิดมาตลอดว่าคนอย่างภูรินท์คงไม่มีวันสนใจผู้หญิงคนไหนได้ แต่พอมาวันนี้กลับไม่ใช่อย่างที่คิด แต่กระนั้นก็คิดว่าบางทีเขาก็อาจจะแค่หาคนแก้เหงา ชั่วครั้งชั่วคราวอีกเดี๋ยวก็คงจะเบื่อ เพียงแต่เธอก็แค่อยากรู้เท่านั้นว่าผู้หญิงประเภทไหนที่ดึงดูดความสนใจของเขาขนาดว่าเธอเสน่ห์แรงออกจากปานนี้เขายังเฉยเมยอยู่ได้

    ทว่าเมื่อได้ดูรูปภาพเหล่านั้นแล้ว ทำเธออึ้งไปอึดใจใหญ่เลยทีเดียว แทบไม่อยากเชื่อสายตาของตนเองเลย ในขณะที่เธอเอาแต่มองหาคนอื่นที่คิดว่าอยู่ไกลตัว แต่ใครเลยจะนึกนะว่าคนๆ นั้นอยู่เพียงแค่ปลายจมูกเท่านั้นเอง เธอถึงกับหัวเราะออกมาดังๆ ทีเดียวเชียว ซึ่งแม้แต่นักสืบหนุ่มเองยังแปลกใจกับอาการนี้ของเธอ

    “ไม่อยากจะเชื่อเลย ฉันเลี้ยงงูพิษไว้หรือนี่ มันน่าขำตัวเองจริงๆ” มัญชรีพูดไปพลาง ดวงตายังจับจ้องอยู่ที่รูปถ่าย แม้มันจะบาดตาแต่ก็ยังยอมถอนสายตาออกมาจากมัน

    ในเวลาเดียวกัน อีกด้านหนึ่งนั้น กายสูงโปร่งก้าวออกมาจากลิฟต์ ใบหน้าคมนั้นแช่มชื่นยิ่งนักเพราะวันนี้ปัญหาที่ค้างคามานานกำลังจะได้รับการสะสางเสียที แน่ล่ะเขาไม่คิดว่ามันจะง่ายหรอก เขาถึงได้เตรียมตัวมาพร้อม ภูรินท์ไปหยุดอยู่ที่โต๊ะหน้าห้องพร้อมกระแอมเบาๆ พอเมื่อเลขาสาวเงยหน้าขึ้นมา

    “คุณภู! คุณภูรินท์” เมลินดาเกือบจะลืมตัวเสียแล้วสิ เพิ่งนึกได้ถึงสถานะของเขาจึงปรับอาการให้สุภาพมากขึ้น

    “ทำงานวันนี้เป็นไงบ้างครับคนสวย เหนื่อยไหม”

    “คุณมีธุระอะไรรึเปล่าคะ” เธอไม่ตอบคำถามเขา และยังตำหนิทางสายตานิดกับท่าทางกะหลิ่มกะเหลี่ยของชายหนุ่ม

    “มีครับ แต่คุณยังไม่ตอบคำถามผมเลย ขยันทำงานมันก็ดีนะ แต่โหมงานมากไปจะเหนื่อยเอา เที่ยงนี้ไปทานข้าวกับผมนะ” เขายังพูดล้อเล่นไปเรื่อย เธอเองสิที่ไม่มีอารมณ์เล่นด้วย เขาช่างไม่รู้อะไรเอาเลยว่ามันไม่ใช่เวลาที่จะมาพูดเล่นแบบนี้

    “บอกธุระคุณเถอะค่ะ ฉันจะได้แจ้งคุณมัญชรีถูก”

    “แค่บอกว่าผมมาก็พอ” ภูรินท์แย้มยิ้มอยู่ตลอดเวลา ราวกับไม่มีอะไรจะมาทำให้เขาอารมณ์บูดลงได้เลยแม้แต่นิดเดียว เพราะเรื่องที่ค้างคากำลังจะจบเขาจึงคิดว่าไม่จำเป็นต้องเก็บอาการอะไรอีกแล้ว ก่อนจะเข้าไปเขายังขยิบตาอย่างขี้เล่นให้เธอตอบท้ายอีกแน่ะ

    ภูรินท์ไม่ได้เคาะบอกแต่ผลักประตูเข้าไปเลย ภายในห้องยังมีคนอื่นนอกจากมัญชรี ชายคนนั้นขยับลุกเมื่อเห็นเขาเข้ามา

    “คุณกลับไปก่อนไป” มัญชรีสั่งนักสืบหนุ่มเสียงเข้ม อีกฝ่ายพยักหน้ารับจากนั้นจึงออกไปตามคำสั่ง ภูรินท์เดินมานั่งลงแทนที่โดยที่ไม่คิดถามสักนิดว่าชายคนนั้นเป็นใครเพราะคิดว่ามันไม่ใช่เรื่องตนต้องใส่ใจ ยกขาขึ้นซ้อนในลักษณะไขว่ห้างดูอารมณ์ดีนัก

    “ไง เมื่อวานไปเที่ยวไหนมาเหรอคะ คุณนี่เป็นสามีที่แย่จังเลย ทิ้งให้ฉันอยู่บ้านคนเดียว”

    “ธรรมดาคุณก็อยู่บ้านคนเดียวอยู่แล้วนี่ น่าจะชินได้แล้วนะ เพราะอีกหน่อยมันจะกลายเป็นเรื่องปรกติสำหรับคุณ” เขาบอกเป็นนัยคล้ายกับจะเตือนให้เธอปรับตัวให้ชิน ซึ่งอันที่จริงเธอไม่จำเป็นต้องปรับตัวเลยด้วยซ้ำ เพราะที่ผ่านมาเธอกับเขาแทบจะไม่ได้ใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันเลย เหมือนต่างคนต่างอยู่มานานแล้วชีวิตคู่ที่ล้มเหลวตั้งแต่ยังไม่เริ่มและมันก็กระท่อนกระแท่นมาตลอด เมื่อมันไม่ได้เกิดจากความรักมันจึงไม่มีสายใยใดๆ ทั้งสิ้น ทั้งเขาหรือแม้แต่เธอเองต่างก็มีใครอีกคนไปแล้ว เขาจึงหวังว่าเธอจะยอมคืนอิสรภาพให้ ทว่ามัญชรีกลับรวบเอาภาพถ่ายที่ตอนแรกภูรินท์ไม่ใส่ใจมันเลยโยนใส่หน้า เขาจึงได้หยิบรูปๆ หนึ่งขึ้นมาดู ก่อนหัวเราะออกมา

    “มีอะไรจะอธิบายไหม” เธอถามเสียงแข็ง

    “มีอะไรต้องอธิบาย ถ้าจะมี ผมก็แค่แปลกใจที่คุณรู้ช้าจัง” ภูรินท์ลอยหน้าพูดอย่างสะทกสะเทือนที่ตนเพิ่งจะโดนจับได้

    “ไม่มีผู้หญิงคนอื่นแล้วหรือยังไง ถึงได้คว้าเอาเลขาฉันไปแก้ขัด” มัญชรีโกรธจัดกับอาการที่รู้สึกรู้สมนี้มาก

    “พูดให้ดีหน่อยสิ เมลินดาไม่ใช่ผู้หญิงอย่างว่าที่ผมจะเอาไว้ฆ่าเวลา เธอไม่ใช่แบบนั้น”

    “แล้วเธอเป็นแบบไหนฮึ ผู้หญิงดีๆ ที่ไหนที่แอบลักลอบเป็นชู้กับสามีชาวบ้าน”

    “มันก็คงไม่ต่างจากผู้หญิงที่เล่นชู้กับคนที่ไม่ใช่สามีตัวเองหรอกกระมัง ก่อนพูดคุณควรส่องกระจกดูตัวเองนะ และที่สำคัญเมลินดาเธอมาก่อนคุณ ผมรู้จักเธอก่อนที่จะแต่งงานกับคุณเสียอีก คุณอยากรู้ไม่ใช่เหรอว่าที่ผ่านมาผมรออะไร ก็นี่ไงคนที่ผมรอ ที่แล้วมาผมไม่เคยสน คุณจะทำตัวเละเทะแค่ไหน คุณอยากทำอะไรทำไปผมไม่แคร์ แต่ตอนนี้ ผมอยากได้ของๆ ผมคืนแล้ว มันคืออิสรภาพที่คุณถือไว้มาเป็นปี ตอนนี้ผมขอมันคืนเถอะ”

    “ฝันเอาสิคะ คงได้อยู่หรอกมั้ง”

    กระนั้นภูรินท์เองก็ดูใจเย็นเหลือเกิน เพราะเขาเองทำใจมาแล้วว่าเรื่องมันคงไม่ง่าย ชายหนุ่มผ่อนลมหายใจช้าๆ อย่างเยือกเย็น

    “ขอร้อง อย่าบีบผม ให้มันจบลงด้วยดีดีกว่าน่า”

    “ถ้าการจบลงด้วยดีของคุณ หมายถึงจะให้ฉันปล่อยคุณไปเสวยสุขกับยัยเลขาจอมฉกนั่นก็ อย่าได้หวัง ตราบใดที่ฉันยังอยู่...เมลินดาเข้ามานี่สิ” เธอจบประโยคโดยการเรียกอีกฝ่ายเข้ามา

    “คุณจะทำอะไร”

    มัญชรีไม่ยอมตอบคำถามของเขา รอยยิ้มที่ผุดขึ้นมันทำให้อีกคนเย็นวาบ รอจนกระทั่งเมลินดาเข้ามาตามคำสั่งเธอมายืนก้มหน้าระหว่างคนทั้งสอง ใจก็เริ่มหวั่นตั้งแต่โดนสายตาอีกฝ่ายสาดมาแล้วมันเต็มไปด้วยความชิงชัง แม้ยามปรกติมัญชรีจะดูน่ากลัวอยู่แล้ว แต่ครั้งนี้มันแตกต่างออกไปราวกับว่าแววตาของเธอเต็มไปด้วยพิษร้ายก่อนที่มัญชรีจะเป็นฝ่ายพูดขึ้น

    “เธอคงสงสัยล่ะสิว่าฉันเรียกเข้ามาทำไม ก่อนอื่นนะต้องขอชม เธอน่ะเป็นเลขาที่แสนสมบูรณ์แบบ ทำงานได้ดีไม่มีบกพร่อง ฉันมีเลขามาก็ต้องหลายคนแต่ไม่มีใครที่ทำแทนฉันได้ทุกเรื่องแบบเธอ แม้แต่เรื่องบนเตียงก็ยังทำแทนให้ ยอดเลขาจริงๆ แต่อย่าคิดนะที่ยอมให้เธอทำแทนไม่ได้หมายความว่าฉันจะยกให้ พวกผู้หญิงไร้ยางอายอย่างเธอเป็นได้ดีที่สุดคือนางบำเรอผัวฉันเท่านั้นแหล่ะ”

    “มัญชรี!” ภูรินท์ปรามเสียงดังเมื่ออีกฝ่ายยิงเข้าแบบตรงประเด็น เมลินดานั้นนิ่งอึ้งไปแล้วนึกไม่ถึงว่าเรื่องจะแตกเร็วปานนี้ คำพูดร้ายกาจที่มัญชรีจงใจตอกย้ำให้เธอรู้ว่าตัวเองอยู่ต่ำแค่ไหนและมัญชรีกำลังจะเหยียบเธอให้ต่ำลงติดดิน ฝ่ายนั้นไม่สนใจแม้ภูรินท์จะจ้องจนตาแทบถลนยังคงกล่าววาจาเสียดสีให้หญิงสาวเจ็บปวดต่อไป

    “แอบลักกินขโมยกินของคนอื่นสนุกไหม หึ! ไม่เห็นต้องถามเลยนี่เนาะ ไอ้พวกจ้องจะฉกของคนอื่นทีเผลอ สะกดคำว่าสามัญสำนึกเป็นไหม”

    เมลินดาไม่สามารถโต้เถียงคำกล่าวหานี้ได้เลยสักคำเดียว เพราะรู้อยู่เต็มอกว่าสิ่งที่มัญชรีพูดมาทั้งหมดมันคือความจริง ฝ่ายนั้นขยับลุกขึ้นมาภูรินท์รีบขยับตามทันทีด้วยเกรงว่ามัญชรีจะทำร้ายเมลินดา แต่เธอเพียงแค่หัวเราะเยาะอย่างหมั่นไส้เหลือคณาที่เขาดูห่วงใยแม่คู่ขาคนนี้เสียจริง

    “ฉันเกลียดจริงๆ เวลาที่เธอเสแสร้งทำหน้าเหมือนคนรู้สึกผิด ทั้งที่ความจริงแล้วเธอมันก็นางมารร้ายดีๆ นี่เอง ฉลาดก็หัดเจียมกะลาหัวเอาไว้เสียบ้างนะ เธอจะมีค่ามีราคาก็ตอนที่เขาอยากเท่านั้นแหล่ะ” มัญชรีย่างสามขุมเข้าหาโดยที่เมลินดาถอยหลังไปเรื่อยๆ ภูรินท์ทนฟังอีกต่อไปไม่ไหวจึงพูดขึ้น

    “พอทีมัญชรี อย่าให้มันเกินไปนักนะ”

    “อะไรคือเกินไป ทีคุณพานังนี่หนีไปพลอดรักกันทั้ง ๆที่ฉันยังยืนถือทะเบียนสมรสอยู่ไม่เกินไปรึไง”

    “หึ! คุณนี่มองเห็นแต่ความผิดของคนอื่นนะ อย่าให้ผมสาธยายเลยสามวันผมยังพูดไม่จบ เอาเป็นว่าวันนี้ผมมาเจรจากับคุณเป็นครั้งสุดท้าย หากคุณยอมตกลงแต่โดยดีจะเรียกร้องเท่าไหร่ก็ว่ามา แต่ถ้าไม่ครั้งหน้าเราคงจะต้องได้เจอกันที่ศาลแน่” เขาจบคำด้วยสีหน้าจริงจังอย่างที่สุดก่อนที่จะจูงมือเมลินดาออกมาโดยไม่เกรงสายตาเคียดแค้นของมัญชรีเลย เธอแทบจะร้องกรี๊ดอยู่ตรงนี้ด้วยความแค้นใจยิ่งนัก

    ภูรินท์พาเมลินดาออกมาโดยที่กุมมือเธอไว้ตลอด เดินผ่านห้องโถงมีคนอยุ่เต้มไปหมด แม้จะมีสายตาอยากรู้อยากเห็นมองมาเขาหาได้เกรงสักนิด เขาไม่คิดจะปิดบังความสัมพันธ์นี้อีกต่อไป หากแต่หญิงสาวกลับรู้สึกอับอายสายตาของคนอื่นมาก และพยายามจะดึงมือของตนออก

    “คุณภูคะ ปล่อยเมย์นะ ทำไมคุณทำแบบนี้”

    “ผมไม่อยากปิดเรื่องเราแล้วนะเมย์ ไหนๆ ความลับก็ไม่เป็นความลับอีกต่อไป ก็ให้มันรู้ไปให้หมดเลย”

    “แต่คุณคิดบ้างรึเปล่า ว่าคนอื่นจะคิดยังไงกับเรื่องนี้” เท่านี้เธอก็ถูกตราหน้าว่าแย่งสามีชาวบ้านแล้ว หากว่าภูรินท์ต้องหย่าขาดจากมัญชรีจริงๆ เธอต้องรู้สึกแย่มากกว่านี้อีกแน่

    “ทำไมคุณต้องสนใจคนอื่นด้วยเมย์ เขาอยากจะคิดอะไรก็ปล่อยเขาสิ ผมแค่อยากอยู่กับคุณเท่านั้น คุณต่างหากที่เป็นภรรยาผม ไม่ใช่เธอ”

    เธอก็อยากจะโกรธเขาเหมือนกันที่ทำอะไรบุ่มบ่ามโดยไม่ปรึกษาเธอก่อนแต่ก็ทำไม่ลง

    “แต่จริงๆ แล้ว จะทำอะไรก็น่าจะบอกเมย์ก่อนนะคะ”

    “ถ้าบอกก่อนคุณก็ไม่ให้ผมทำสิ อย่าคิดมากเลยน่า สักวันมันก็ต้องเกิดขึ้นอยู่แล้ว จะช้าหรือเร็วเท่านั้น ผมยอมมัญชรีมามากปล่อยให้ยืดเยื้อมานานเกินไปแล้วถึงเวลาที่มันจะสิ้นสุดลงเสียที ตั้งแต่วันนี้ไปคุณไม่ต้องทำงานแล้วนะ ลาออกซะ ผมจะดูแลคุณเอง”

    หญิงสาวเพียงแค่นิ่งแทนการตอบรับ มันก็ดีใจอยู่หรอกที่เขายอมทำเพื่อเธอขนาดนี้ แต่ที่กังวลคือมัญชรีจะยอมปล่อยเขาง่ายๆ หรือ แม้ไม่ได้รักแต่เธอก็ดูรู้ว่ามัญชรีหวงของมากแค่ไหน หนทางนี้มันคงไม่จบลงง่ายๆ แน่

    เย็นวันนั้นภูรินท์ส่งเธอที่อพาร์ตเม้นต์ เขาหงุดหงิดเล็กน้อยที่เธอไม่ยอมให้ขึ้นไป เนื่องด้วยวันนี้เมริสาจะมาต้องเกลี้ยกล่อมอยู่นานกว่าเขาจะยอมเข้าใจเพราะเธอไม่รู้ว่าเมริสาจะรับเรื่องนี้ได้มากน้อยแค่ไหน แต่ที่เธอมั่นใจคือเมริสาต้องไม่เห็นด้วยกันการกระทำนี้ของเธอเป็นแน่ตนจึงคิดว่าจะค่อยๆ บอกผู้เป็นแม่ หากแต่เพราะไฟล์ที่เมริสาโดยสารมาดีเลย์ไปเป็นชั่วโมงเพราะสภาพอากาศไม่ดี กว่าเมริสาจะมาถึงก็ดึกมากแล้วจึงไม่ได้คุยอะไรกันเลย

    เมลินดานอนคิดอยู่ทั้งคืน เมื่อเรื่องมันเป็นแบบนี้เธอคงไม่มีหน้าที่จะทำงานในบริษัทอีกต่อไป เธอจึงตัดสินใจยื่นใบลาออกในวันต่อมา มัญชรีไม่ได้แตะต้องซองสีขาวที่เธอยื่นให้เลยแม้แต่น้อย กลับเอาแต่จ้องหญิงสาวอยู่อย่างนั้นจนเธออึดอัดใจเอามากๆ

    “จะลาออก เธอเพิ่งบรรจุเข้าเป็นพนักงานประจำไม่ทันไรก็ยื่นซองขาวแล้ว แบบนี้บริษัทฉันเสียหายฉันฟ้องเธอได้นะ ฉันไม่อนุมัติ ฉันเคยบอกเธอแล้วไงเมลินดาว่าอย่าเอาเรื่องส่วนตัวมารวมกับเรื่องงาน เธอต้องทำงานที่นี่ต่อไปจนกว่าฉันจะหาคนใหม่มาแทนได้ ซึ่งก็ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่นะ”

    “ทำไมคะ เกิดเรื่องขนาดนี้ทำไมคุณยังให้ฉันทำงานต่อไปอีก” เมลินดาว่าอย่างอ่อนใจ มัญชรีเพียงเหยยีดยยิ้มเย็นๆ ทว่ามันวาบไปถึงไขสันหลังเลยทีเดียว

    “ทำไมน่ะหรือ เธอคงคุ้นกับคำว่าตีงูต้องตีให้ตายสิใช่ไหม แต่สำหรับฉัน หากมันตายจะง่ายไป เป็นฉันจะจับมันยัดใส่กรงทรมานเล่น คอยดูมันจนมันตายลงไปอย่างช้าๆ แบบนี้สะใจกว่ากันเยอะ ใครจะคิดนะว่าคนที่ดูภายนอกซื่อๆ แบบเธอจะมีพิษร้ายขนาดนี้ แต่ก็นั่นแหล่ะนะฉันชอบเสียด้วยสิ...วันนี้ฉันอนุญาตให้เธอหยุดได้อีกวัน เชิญไปพร่ำพรอดกันเสียให้พอ แต่รู้เอาไว้อย่างนะว่านี่ฉันแค่ให้ยืมเท่านั้น อย่าเผลอเรอยึดเสียล่ะ เพราะฉันขึ้เกียจตามทวงคืน”

    เมลินดาพูดอะไรไม่ออกเลย นี่คือการเอาคืนของมัญชรีสินะ ตั้งใจจะทรมานเธอ เวลานี้เหมือนเธอยังมองไม่เห็นทางออกของปัญหาจึงคิดจะถอยกลับไปตั้งหลักทว่ามัญชรีกลับเรียกเธอไว้ก่อน

    “เดี๋ยว...เย็นนี้จะมีปาร์ตี้ เลี้ยงรับพนักงานใหม่หน่อยเธอต้องมาให้ได้นะ เพราะงานนี้จัดขึ้นเพื่อเธอโดยเฉพาะ” มัญชรีบอกตบท้าย และนั่นมันยิ่งทำให้เธอรู้สึกไม่ดีเอาเลย นี่มัญชรีคิดจะทำอะไรอีกนะ










    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×