คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #5 : ตอนที่ 5 คนหัวดื้อ
พื้นดินแข็งๆ ทำให้ไม่สบายตัวเท่าไหร่ กระนั้นพจณิชาก็หลับยาวข้ามคืน รู้ตัวอีกทีก็เช้าของอีกวัน เป็นเพราะอากาศหนาวมากเธอจึงพยายามซุกหาไออุ่นจากคนข้างๆ โดยไม่รู้ตัว หากแต่พอรู้สึกตัวตื่นเห็นตัวเองนอนหนุนอยู่บนไหล่หนารีบเด้งตัวขึ้นมาทันที อีกฝ่ายขยับตัวตื่นและลุกขึ้นนั่งก่อนบิดไปมา เขาสะบัดแขนข้างที่เธอนอนหนุนเพราะมันเป็นเหน็บชาไปทั้งแขน เขายังมีอาการเหมือนเดิมชอบมองเธอด้วยดวงตาแข็งขวาง บางทีเธอก็แทบลุ้นว่าตาคู่นั้นของเขามันจะทะลุออกมานอกเบ้าเมื่อไหร่
โยฮันพาพจณิชากลับมาที่กระท่อมกลางป่าของเขา ในความรู้สึกของเธอมันก็ไม่ต่างกับต้องเผชิญฝูงช้างป่าพวกนั้นเลย เพราะมันก็เลวร้ายพอกัน ยิ่งตอนนี้คุมเธอแจไม่ยอมให้ห่างกายเขาใส่กุญแจมือเธอไว้ตลอดเวลาแม้แต่ตอนที่เธออาบน้ำเขายังไปยืนเฝ้าหน้าห้องคนบ้าอะไรหลับหูหลับเชื่ออย่างเอาเป็นเอาตาย เธอนั่งหน้างอตวัดสายตามองชายหนุ่มที่นอนราบอยู่บนโซฟาดูโทรทัศน์เฉย
“นี่คุณ คุณจะขังฉันไปถึงเมื่อไหร่”
“ก็บอกแล้วไง จนกว่าเธอจะกลับเยอรมันไปกับฉัน”
โยฮันเอ่ยตอบด้วยอาการเฉื่อยชา มันช่างน่าหมั่นไส้สำหรับพจณิชานัก ไม่ว่าเธอจะพูดจนปากเปียกปากแฉะแต่เหมือนเขาจะไม่ฟังเลยน่าโมโหชะมัด
“เมื่อไหร่คุณจะเข้าใจเสียที ว่าฉันไม่ใช่คนที่คุณคิด”
เธอพูดออกมาด้วยอารมณ์หงุดหงิด มือคอยเอาแต่ดึงกุญแจมือจนทำให้แขนของโยฮันกระตุกไปด้วยเนื่องจากเขาใส่กุญแจไว้กับมือของเขาชายหนุ่มจึงกระชากมันด้วยความรำคาญจนร่างเธอถลาไปปะทะกับอกแกร่ง กระนั้นก็รีบดันตัวออกมาอย่างรวดเร็วพลันขึงตามอง
“เมื่อไหร่เธอจะยอมรับความจริงฮึ มันน่าอายมากหรือถ้าจะยอมรับว่าตัวเองมีลูก ผู้หญิงแบบเธอจิตสำนึกมันคงอยู่ลึกมาก ปฏิเสธแม้กระทั่งสายเลือดตัวเอง”
“คุณมันเข้าใจอะไรยากจริงๆ ก็ฉันไม่ใช่ จะให้ยอมรับอะไรผู้หญิงคนนั้นไม่ใช่ฉัน”
พจณิชาพูดอย่างเหลือทน ส่ายหน้าให้กับความดื้อดึงที่เขาหลงเชื่อในสิ่งผิดๆ หากแต่เขามองเธอตาขวางหนักกว่าเก่า ขยับเข้ามาใกล้จนเธอต้องกระถดหนี
“หากไม่ใช่ งั้นอธิบายเรื่องรูปถ่ายมาสิ ทำไมเธอถึงได้มีหน้าตาเหมือนแบบนั้นนอกเสียจากว่าเธอจะมีฝาแฝด”
และอีกเหมือนเคยพจณิชานิ่งเงียบเพราะไม่สามารถโต้แย้งข้อนี้ได้ เธอเองก็ไม่เข้าใจเหมือนกันเพราะมันไม่ใช่แค่คล้ายแต่มันเหมือนกันราวกับแกะ โยฮันตัวมาข้างหน้าหญิงสาวจึงเอนหลังเพื่อรักษาระยะห่างชายหนุ่มจึงยิ้มเยาะออกมาเมื่อแสดงอาการราวกับกลัวเขาจะทำอะไรเธอ
“เถียงไม่ออกสิ คนไม่ยอมรับความจริง” เขาแค่นเสียงเยาะ หากแต่เพราะเขาอยู่ใกล้เกินไปเธอจึงยกมือขึ้นยันอกแกร่งนั้นไว้ “ไม่ต้องกลัวขนาดนั้น ฉันไม่นิยมของเหลือจากคนอื่น ผ่านมือใครมาบ้างก็ไม่รู้ ห้อยย้อยหมดแล้วล่ะสิท่า”
เพียงแค่ได้ยินประโยคนี้เธอเลยถลึงตาโปนๆ ใส่ อย่างอื่นพอรับได้ แต่ไอ้ที่ว่าเธอห้อยย้อยนี่มันเหลือทนจริงๆ เขาพูดเพราะใช้อคติถึงอย่างนั้นมันก็ทำให้วงหน้าเล็กมีรอยแดงๆ ปรากฏขึ้นบนพวงด้วยความโมโห
“มันจะมากไปแล้วนะ อย่างฉันยังเต่งอย่างตึงอยู่ย่ะ”
“เขาว่ากันว่าคนที่มีลูกแล้วมักนมยาน ก้นย้อย สงสัยท่าจะจริง”
โยฮันว่าพลางเลื่อนลงมาที่เนินอวบขาวมันโผลพ้นขอบเสื้อเชิ้ตตัวใหญ่ออกมาเล็กน้อย แสร้งทำเป็นสำรวจจริงๆ มันก็ไม่ได้อยู่หย่อนยานสักเท่าไหร่ ดูอวบอัดด้วยซ้ำ หญิงสาวรีบดึงคอเสื้อปิดเมื่อเขามองมันอยู่นาน
“รู้ได้ยัง เคยจับแล้วหรือ”
เธอถามออกไปโดยลืมคิด ทว่านัยน์ตาคมพราวแสงทันที เห็นเธอกลัวนักกลัวหนาเลยคิดจะแกล้งมันเสียเลย เขาช้อนเอวเล็กขึ้นมาด้วยวงแขนแข็งแรงของตน จนใบหน้าเธอขึ้นมาอยู่ระดับเดียวกับเขา ตอนนี้กายบอบบางแนบชิดจนไม่มีช่องว่าง พจณิชาใจเต้นแรงด้วยความหวาดหวั่น
“งั้นเธอยินดีให้ฉันทดสอบไหมว่ามันยานจริงเปล่า”
ตาบ้านี่ช่างหน้าด้านหน้าทน กล้าขอออกมาแบบนี้ ทั้งยังใช่สายตาแทะโลมอย่างไร้มารยาทที่สุด นัยน์ตาสีอำพันนั้นมันช่างแพรวพราว
“อย่าทำอะไรบ้าๆ นะ ปล่อยฉันนะไอ้คนผีทะเล ทำเหมือนว่ารังเกียจแล้วลวนลามฉันทำไม”
“อยากลองของแปลก อยากรู้ว่าผู้หญิงที่มีลูกแล้วจะฟิตเปรี้ยะเหมือนพวกสาวๆ หรือเปล่า ถ้าเธอว่าเธอยังเต่งตึง ขอพิสูจน์หน่อยได้ไหม”
โยฮันยื่นหน้าเข้ามาใกล้มากๆ เสียจนรู้สึกถึงลมหายใจร้อนๆ รดแก้ม หญิงสาวเอียงหน้าหลบปากร้องโวยวาย แขนทั้งสองของเธอเกาะอยู่เอวหนา เขาอย่างเล่นงานเธอไม่เลิก ปลายจมูกคมดุจใบมีดกรีดอยู่บนลำคอสวย
“ปล่อย อย่ามาแตะตัวฉัน ไอ้...ไอ้”
พจณิชาหยุดอยู่แค่นั้นเพราะมือเธอคลำไปเจออะไรบางอย่างที่เกระเป๋าหลังของเขา โทรศัพท์มือถือ! เท่านี้เธอหยุดดิ้นทันทีปล่อยเขาซุกไซร้ต่อไป กระทั่งไร้แรงต้านจากอีกฝ่ายเขาจึงผละออกด้วยความแปลกใจ อะไรเนี่ยยอมง่ายจังทำเป็นสะดีดสะดิ้งเล่น แต่พอเอาเข้าจริง ผู้หญิงไวไฟก็แบบนี้ นิ่งดูแคลนเธอยิ่งนักเมื่อเธอไม่ขัดขืนเขาจึงหมดสนุก หากแต่เขาขยับออกมาไม่ได้เมื่ออีกฝ่ายกอดเขาแน่น
“ฉันเปลี่ยนใจล่ะ ฉันว่าไปหาเอาจากพวกสาวๆ ท่าจะมันกว่าเยอะ”
“ทำไม...ไม่อยากลองดูแล้วหรือไม่แน่ว่าคุณอาจจะติดใจฉันก็ได้นะ”
โยฮันยิ้มไม่ออกเลย ใบหน้าเข้มคล้ายกับกระตุกนิดเมื่อแขนเรียวบางโอยรัดเอวหนาของตนไว้มืออีกข้างหนึ่งไล้ไปตามแผ่นหลังลงไปยังขอบกางเกงยีนส์ด้านหลังต่ำลงเรื่อยๆ จนเขาหวั่นใจ
“ฮึ เธอนี่มันร่านได้ใจจริงๆ คิดจะหว่านเสน่ห์ดูสารรูปตัวเองก่อนเถอะ”
หญิงสาวกัดฟันทน บอกตนเองในใจช่างมันอย่าได้แคร์ เธอกอดเขาแน่นกว่าเดิมและเล่นงานเขาที่ใบหู มือก็พยายามดึงเอาของออกมาโดยพยายามไม่ให้เขารู้ตัว บ้าจริง! ทำไมไอ้โทรศัพท์มือถือเครื่องนี้มันดึงออกยากนักนะ
“คุณไม่ลองแล้วคุณจะรู้ได้ยังไง ฉันอาจมีดีมากกว่าที่ตาเห็นก็ได้นะ”
น้ำเสียงเธอยวนยั่วสุดฤทธิ์กระซิบข้างหูมันเบาเสียจนเหมือนมีเพียงลมหายใจรินออกมาจนกายหนุ่มลุกซู่ทุกรูขุมขน เธองับริมขอบหูเขาเบาๆ หญิงสาวพยายามนึกภาพแหล่งข้อมูลที่เธอมักไปหามาเพื่อเขียนฉากพวกนี้ในนิยายแล้วจำเอามาใช้ มันได้ผลเมื่ออีกฝ่ายผ่อนแรงต้าน
กายหนุ่มเหมือนร้อนขึ้นราวกับอยู่ในเตาอบก็ไม่ปาน ผู้หญิงคนนี้แรงจริงและมันทำเขาแทบจะเคลิ้มตามไป กายนุ่มนิ่มเบียดชิดแนบแน่นมากเหลือเกิน มือเขาค้างอยู่กลางอากาศไม่กล้าแตะต้องเธอ ไม่ได้โยฮัน เธอเป็นแม่ของไลลา เป็นน้องสะใภ้ เขาทำแบบนี้กับเธอไม่ได้เด็ดขาด เมื่อคิดเช่นนั้นจึงฝืนใจดันเธอไป
“ออกไป คิดว่าฉันเป็นเสารึไง รูดอยู่ได้ กรุณาอย่าเอาสันดานเดิมมาใช้กับฉัน”
พจณิชาเม้มปากแน่น เขาหาว่าเธอเป็นโคโยตี้ ทนไว้ๆ เธอต้องไม่ใส่ใจผู้ชายปากเสียคนนี้ ไว้ฉันออกไปได้เมื่อไหร่ คุณจะรู้สึก เธอคิดแค้นอยู่ในใจเงียบๆ หากแต่พอเห็นเขาไขกุญแจมือก่อนเอามันคล้องที่ขาโต๊ะหญิงสาวจึงถามขึ้น
“ทำอะไร”
“ฉันจะออกไปซื้อของมาตุนไว้ ดูท่าเราคงจะอยู่ที่นี่อีกยาว ตราบใดที่เธอยังไม่ยอมกลับไปกับฉัน เธอก็ต้องอยู่ที่นี่จนตาย”
บอกจบเขาก็หมุนกายจากไป หญิงสาวทำปากขมุบขมิบตามหลัง กระทั่งรอจนเสียงรถขับออกไปเธอจึงยิ้มกว้างด้วยความโล่งใจดึงเอาโทรศัพท์ที่เธอซุกไว้ใต้หมอนอิงออกมา
ความคิดเห็น