คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #9 : ตอนที่ 9 เรื่องเก่าที่ไม่ลืม
กายเล็กขยับบิดเมื่อรู้สึกตัวในเช้าวันต่อมา มือนุ่มขยี้ตาก่อนจะรู้ตัวว่าเธอนอนอยู่บนเตียงที่ไม่ใช่ของตนเอง เธอหลับไปตั้งแต่ตอนไหนเนี่ย แถมหลับยาวถึงเช้าด้วยแย่จริง เธอมานอนค้างที่อื่นอีกแล้ว หยัดกายลุกนั่งมองไปที่ปลายเตียงเห็นร่างสูงยืนอยู่หน้าตู้เสื้อผ้า มือใหญ่ไล่ติดกระดุมเสื้อเชิ้ตสีฟ้าเทาอย่างคล่องแคล่ว เมื่อเขาเงยมองผ่านกระจกเงาหญิงสาวนั่งมองตาแป๋วจนเหมือนกระรอกน้อยขี้สงสัยเขาชอบมองดวงตาคู่นี้มาก เรือนยุ่งๆ กลับดูเซ็กซี่ไม่หยอก เรียวปากหนาคลี่ยิ้ม
“อรุณสวัสดิ์สาวน้อย หลับยาวเลยนะ รู้รึเปล่าผมลักหลับคุณไปกี่ที” หมุนกายกลับมาหา
“ไม่ต้องมาอำฉันเล่นหรอกค่ะ ฉันรู้คุณไม่ได้ทำอะไรฉัน” เพราะสำรวจตัวดูแล้วว่าเขาไม่ได้ล่วงเกินอะไรเธอ ซึ่งมันก็น่าแปลก นี่เขานอนเฝ้าเธอทั้งคืนเลยหรือ เดเมียนหัวเราะชอบใจเดินมาที่ปลายเตียงจากนั้นคลานขึ้นมาหา หญิงสาวจึงตาโต
“ทำอะไรคะ”
“มอนิ่งคิส” นัยน์ตาคมฉายแววเจ้าเล่ห์ จนอีกคนเกิดอาการหน้าแดง อีกฝ่ายยังยั่วต่อไปว่า “ หรือจะทำอย่างอื่นดีฮึ ชดเชยที่เมื่อคืนคุณหลับทิ้งผมมาให้ทำโทษเสียดีๆ “
“ทำโทษอะไรกัน อย่ามามั่วนะคะ คุณนี่คิดแต่เรื่องพรรค์นี้อย่างเดียวเลยนะ” เอริยาขยับหนีให้พ้นอุ้งมือหนาที่ยื่นมาราวกับกรงเล็บสิงห์
“ก็ผมชอบ ไม่ได้ชอบคิดอย่างเดียวนะ ยังชอบทำด้วยมาเถอะเรามาทำกิจกรรมแก้ง่วงกันดีกว่า รับรองผมจะทำให้คุณตาสว่างไปทั้งวัน ออกกำลังกายกันหน่อยดีไหม”
“ไม่ดี ออกกำลังกายแบบนี้มีแต่จะหมดแรงนะสิ”
“งั้นคุณก็แค่นอนเฉยๆ เดี๋ยวผมทำเอง ปรกติผมก็เป็นคนทำเองอยู่แล้ว” คลานขึ้นมาอยู่บนตัว ดึงเอาผ้าห่มที่เธอกอดไว้แน่นออกแล้วใช้ต้นขาแยกเรียวขาสวยออก เอริยาถึงกลั้นหายใจเลยทีเดียวเมื่อร่างถูกกดทับ ยิ่งกลิ่นน้ำหอมที่เขาเพิ่งฉีดมาทำเอาเธอแทบลืมหายใจ
“คุณเดเมียน ออกไปเถอะคะ ฉันขอร้อง” ยามเมื่อเขามองเธอด้วยสายตาโลมเลียแบบนี้เธอเหมือนคนติดอ่างยังไงไม่รู้ มักจะพูดอะไรไม่ออกอยู่เรื่อย อยากจะต่อว่าอยากจะผลักไส แต่ทั้งมือทั้งปากกลับแข็งทื่อไปเสียอย่างงั้น
“ผมชอบนะเวลาคุณขอร้องผมแบบนี้ แต่อยากเปลี่ยนจากขอให้หยุดเป็นขอให้ทำน่าจะดีกว่า ผมอยากได้ยินแบบนั้นตอนผมอยู่ในตัวคุณ รู้ไหมตอนนี้ผมอยากทำอะไร” แสงโชนฉายวาบอยู่ในดวงตาอันคมปลาบ อาวุธประจำกายที่สามารถทำให้คนมองอ่อนแรงได้ราวกับถูกสาป ก้มลงกระซิบสิ่งที่ทำเธอร้อนวาบราวกับตกอยู่ในวงล้อมของไฟ
“ผมอยากถอดเสื้อตัวนี้ของคุณและจับคุณขึงไปกับเตียงเพื่อลงโทษ ฐานที่ทำให้ผมค้าง ฟังเสียงคุณเรียกชื่อผม อา..คงจะแสนวิเศษ” ปากหนาขยับพูดขณะที่มือนั้นก็ไม่อยู่เฉยยื่นไปปลดกระดุมเสื้อนอนหญิงสาว พอกลีบปากขยับอ้าจะพูดจึงโดนฉกวูบ เป็นเช้าที่แสนเร่าร้อนเสียจริง ยังไม่ลงจากเตียงก็โดนเอาเปรียบเสียแล้ว เธอสู้แรงของเขาไม่ได้เลย ถึงจะดิ้นจนสุดแรงแค่ไหนก็ตาม
เดเมียนเพียงอยากแกล้งเธอเล่นเท่านั้นแม้ใจอยากจะทำแบบนั้นจริงก็เถอะ หากไม่เพราะเช้านี้เขามีประชุมคงจะจับเธอขึงทั้งวัน ผละกายออกมาโดยที่กายเล็กที่ปราศจากอาภรณ์นั้นนอนหอบสั่นอยู่เตียง เห็นแล้วมันน่าขย้ำเสียจริง
“ผมไม่อยากไปทำงานเลยจริงๆ” สายตาอ้อยอิ่งอย่างอาลัยสาวสวยตรงหน้าเสียเหลือเกิน ทำไมเขาเป็นไปได้ถึงขนาดนี้หนอชอบที่จะคลุกเคล้าคลอเคลียอยู่เธอ ขยับลุกขึ้นเดินไปหยิบสูทมาสวม “คุณจะนอนต่อก็ได้นะ วันนี้ไม่มีงานไม่ใช่เหรอ”
“คุณรู้ได้ไง” เรียวคิ้วสวยขมวดถาม
“มีอะไรบ้างที่เกี่ยวกับคุณแล้วผมจะไม่รู้” ยักคิ้วเข้มพร้อมพรายยิ้ม จากนั้นจึงพากายสูงออกไปจากห้อง คนบ้าอะไรจับเธอแก้ผ้าแล้วก็ไปเฉย หญิงสาวปล่อยลมหายใจชุดใหญ่
ร่างเพรียวบางเงยมองตึกสูงเบื้องหน้า หลังจากที่ลงเครื่องมาตั้งแต่เมื่อวานก่อนจะพักผ่อนอยู่ที่โรงแรมทั้งวัน เช้านี้เธอมีนัดกับเดเมียน เธอแปลกใจมากที่อยู่ดีๆ เขาก็โทรฯหา และยังบอกอีกว่าสนใจบริษัท C.L อินเตอร์เทรด ของเธอ ตนรีบตอบรับทันทีด้วยว่าเดมียนนั้นกว้างขวางในวงการนี้เป็นอย่างมาก หากได้เขามาเป็นใบเบิกทางย่อมดีกับบริษัทของตนเป็นแน่ เขามาไกลกว่าเธอมาก ขณะที่บริษัทของตนเหมือนย่ำอยู่กับที่แม้จะเคยพยายามตีตลาดต่างประเทศแต่ความนิยมนั้นเทียบไม่ได้กับบริษัทยักษ์ใหญ่อย่างเขา ยังแอบเสียดายอยู่ลึกๆ เพราะอีกฝ่ายประสบความสำเร็จขณะที่ตนได้แต่ยืนมอง นี่อาจเป็นโอกาสที่จะสานต่อเรื่องราวเก่าๆ
เธอถูกเลขาสาวพาไปยังห้องรับรองซึ่งมีเดเมียนรออยู่ก่อนแล้ว ผ่านมาหลายปีหลายอย่างก็เปลี่ยนตาม โดยเฉพาะคน เขาไม่ใช่เดเมียนคนเดิมแต่กระนั้นเดเมียนคนใหม่นี้น่าหลงใหลกว่า ดูสง่ามีราศีคงมีสาวๆ คิดแบบเดียวกับเธออย่างแน่นอน สุรีนาเลื่อนเก้านั่งลงเมื่อชายหนุ่มผายมือเชื้อเชิญ
“ผมยินดีมากที่คุณตอบรับคำเชิญของผม” กล่าวด้วยน้ำเสียงนุ่มลึก
“ฉันต้องหากล่ะคะที่ต้องขอบคุณคุณ เป็นเกียรติมากที่คุณสนใจบริษัทเล็กๆ อย่างฉัน “ เอ่ยบอกอย่างไว้ตัว ไม่อยากแสดอาการมากจนเกินไปนัก แม้ตนจะดีใจเพียงใดก็ตาม
“ไม่หรอกครับ เสื้อผ้าแบรนด์ของบริษัท C.L อินเตอร์เทรดออกแบบมาค่อนข้างแปลกตา แต่น่าสนใจมากสำหรับผม หากมันได้มาตีตลาดแถบนี้ผมเชื่อว่าต้องมีคนสนใจมากทีเดียว ผมไม่ค่อยเห็นแบรนด์ของคนไทยโดดเด่นเท่าไหร่นัก แต่ของคุณกำลังเป็นที่นิยมขึ้นเรื่อยๆ หากเรามาจับมือกันมันต้องไปไกลอย่างแน่นอน” รอยยิ้มจุดประกายขึ้นอย่างมุ่งหวังบางอย่าง สิ่งที่เขาต้องการหาใช่เพียงดึงเธอมาร่วมหุ้นเท่านั้นหรอก
“คุณคงไม่ว่าอะไรถ้าฉันจะขอศึกษารายละเอียดต่างๆ ก่อน บริษัทฉันเป็นเพียงบริษัทเล็กๆ จึงต้องทำความเข้าใจให้มากกว่านี้” เธออยากโดดตะครุบโอกาสนี้ใจแทบขาด กระนั้นสำหรับเธอจะลงมือทำอะไรต้องรอบคอบและศึกษาข้อมูลให้แน่นเพื่อกันความผิดพลาด ของอะไรที่มาอยู่ในมือเธอแล้วยากที่จะหลุดลอยไปได้ง่าย ณ ที่นี้เธอหมายรวมถึงอย่างอื่นเช่นกัน เพราะใจคนที่ไม่อาจหยั่งถึงได้ง่ายยิ่งคนตรงหน้าที่เปลี่ยนไปแล้วจึงไม่อาจวางความระแวงระวังได้
“สำหรับคุณได้อยู่แล้ว ผมจะให้เลขาของผมส่งข้อมูลที่คุณต้องการให้ ผมหวังจริงๆ ว่าคุณจะยอมมาร่วมงานกับผม” เดเมียนปรายยิ้ม นึกอยู่แล้วว่าคนรอบคอบอย่างสุรีนาคงไม่ยอมเสี่ยงกับอะไรง่ายๆ
“ขอบคุณค่ะ”
“ผมจะเข้าไปดูงานที่สตูดิโอ จะไปกับผมด้วยไหม วันนี้เอริยามาถ่ายแบบเผื่อคุณอยากจะไปทักทายเธอหน่อย” เอ่ยชวนเป็นงานเป็นการ สุรีนาชั่งใจอย่างใคร่ครวญ เจอกันคราวที่แล้วไม่มีโอกาสได้แวะทัก เธอเองก็อยากรู้ว่าสองคนนี้ไปถึงไหนกันแล้วจึงตอบตกลง
“ก็ดีค่ะ ฉันไม่ได้เจอเอริยานานแล้ว คราวก่อนเจอที่ผับก็ว่าจะทักแต่คุณ...” ทิ้งค้างพลางชำเลืองมอง
“ไม่มีอะไรหรอกครับ พอดีวันนั้นเธอมีปัญหานิดหน่อย” เขาบอกเพียงเท่านี้เพื่อให้อีกฝ่ายคิดต่อ รู้ว่าสุรีนาสนใจเรื่องนี้มันยิ่งเข้าทางเขา “เธอก็แค่นางแบบในสังกัดผมเท่านั้น”
“อืม..ไม่รู้สินะ ใครๆ ก็รู้ว่านางแบบของคุณทุกคนได้รับสิทธิพิเศษกันทั้งนั้น” แววตาคล้ายจะล้อเลียน หากแต่ภายในใจลึกลงไปกลับรู้สึกอิจฉาผู้หญิงพวกนั้นเหลือเกิน
“พวกเธอได้รับสิทธิ์เท่าเทียมกันทุกคน ไม่มีใครพิเศษกว่าใคร สำหรับผมคนที่จะเป็นคนพิเศษได้นั้นเธอต้องมีอะไรจูงใจมากกว่ารูปร่างหน้าตา ของอย่างบางก็เหมาะแค่เคี้ยวเล่นเท่านั้น บางทีของบางชิ้นก็อาจทำให้ลืมไม่ลงได้เช่นกัน แม้ว่าของชิ้นนั้นอาจทำให้เราเจ็บปวด แต่ผมก็ยังคิดถึงมันอยู่” คำพูดที่ดูเหมือนไม่มีอะไร แต่คนฟังกลับคิดไปไกล เหมือนว่าที่เขาสื่อออกมานั้นต้องการจะบอกบางอย่างแก่เธอ เขาคิดอะไรของเขาอยู่กันแน่นะ
เอริยายืนให้ช่างแต่งหน้าละเลงบรัชออนบนพวงแก้มสีชมพูอมส้มคล้ายลูพีช ไล่เฉดสีเพื่อให้ดูมีมิติ เพิ่มความมันเงาอีกนิดจนผิวสวยกลายเป็นสีแทนสะท้อนแสง เรือนผมถูกจัดให้ดูยุ่งๆ เขากับคอนเซปเซ็กซี่เล็กๆ ชุดซีทรูพลิ้วไหวผ่าอกพอได้เห็นบิกินี่ตัวจิ๋วกับหน้าท้องท้องแบนสวย เบื้องหลังเป็นฉากที่ถูกเซ็ตขึ้นมาใหม่ แสงจากสปอตไลท์ทั้งสองตัวฉาบไล้ผิวสีแทนเป็นประกายน่ามอง เธอและนายแบบอีกคนที่ถ่ายร่วมกับเซ็ตนี้ด้วยขยับท้วงตามแต่ช่างกล้องจะสั่ง และออกแบบท่าทางของตัวเองด้วยจนได้รับคำชมไม่ขาดปาก
โดยที่ระหว่างนั้นเดเมียนกับสุรีนาพากันมาเยี่ยมชมสตูดิโอ สตูดิโอแห่งนี้เดเมียนเนรมิตเพื่องานของเขาโดยเฉพาะ ซึ่งบางครั้งก็มีออกนอกสถานที่บางแล้วแต่คอนเซปของงาน ในแต่ล่ะปีบริษัทเปิดตัวคอนเลคชั่นใหม่อยู่เนืองๆ ทั้งจากดีไซเนอร์ของบริษัท และของเขาเอง แบรนด์ของเขาเป็นที่นิยมมากจนแผ่ขยายสาขาไปทั่วโลก เขาไม่เพียงมีแบรนด์เสื้อผ้าเท่านั้น แต่ยังมีแบรนด์น้ำหอมและนาฬิกาอีก
“ถึงไหนแล้ว” เอ่ยถามทีมงานคนหนึ่ง
“เพิ่งได้ไม่กี่เซ็ตเองค่ะ แต่คุณไม่ห่วงนะคะ งานจะต้องออกมาดีเยี่ยมอย่างแน่นอนคะ”
“ผมก็หวังว่าจะเป็นเช่นนั้น นี่เป็นฝีมือของดีไซเนอร์คนใหม่ ผมชอบงานของเขาสวยทุกชิ้น กว่าผมจะได้ดีไซเนอร์คนนี้มายากมาก” เดเมียนกล่าวพร้อมมองผลงานชิ้นล่าสุดด้วยความภูมิใจ
“ฉันก็ได้ยินมา ดีไซเนอร์คนนี้คุณลงทุนแย่งมาจากมือ โลแกน ใช่ไหม” สุรีนานึกถึงเจ้าพ่อแห่งวงการแฟชั่นอีกคน เขาคนนี้มีชื่อเสียงมานานอยู่ระดับแถวหน้าจนกระทั่งเดเมียนแซงขึ้นมาเทียบชั้นเขาได้ ข่าวลือที่ว่าทั้งคู่นั้นไม่ค่อยกินเส้นกันท่าจะเป็นจริง
“อย่าเรียกว่าแย่งเลยดีกว่า ผมก็แค่ยื่นเสนอดีๆ ให้เท่านั้น มันก็แค่ธุรกิจ” ชายหนุ่มหัวเราะเสียงต่ำอย่างครึ้มอก เขาไม่ได้จงใจจะงัดข้อกับใคร หากแต่วงการนี้ใครดีใครได้ แม้แต่โลแกนเองก็ต้องทำแบบเขา หวนคิดเมื่อตอนที่เขาเพิ่งเข้ามาในวงการนี้ใหม่ๆ เขาเองก็ถูกสกัดดาวรุ่งจากโลแกนคนนี้ เพราะตอนนั้นผลงานเขาเป็นที่สะดุดตาคงเกรงว่าตนจะขึ้นมาเป็นคู่แข่งแบนงานเขาอยู่เป็นปี กระนั้นเขาก็หาทางเอาตัวรอดจนได้ ความสำเร็จที่ไม่ใช่จะได้มาง่ายๆ อาศัยแค่โชคอย่างเดียวไม่พอ เดเมียนยืนยิ้มกับความสำเร็จของตนได้ไม่นานมันก็ต้องหุบลง มองนางแบบสาวสวยกับนายแบบสุดหล่อ คลอเคลียแนบเนื้อ มันมีความไม่ชอบใจจางๆปรากฏขึ้น เดเมียนเดินไปหาช่างภาพที่กำลังร้องสั่งนายและนางแบบสาวให้ชิดกันมากกว่าเดิม ขณะที่มือถือกล้องจับภาพอย่างอิสระ เก็บทุกมุมเพื่อจะเอาไปคัดเลือกทีหลัง
“นายแบบช่วยโน้มหน้าลงมาอีกหน่อยได้ไหมครับ นั่นแหล่ะครับ ซบลงไปที่อกเลยครับ คุณเอริยายกแขนโอบคอด้วยก็ดีครับ เยี่ยมครับ สวยงามมาก” จากนั้นเสียงรัวกดชัตเตอร์ดังขึ้นอีกหลายช๊อต
“ผมไม่ค่อยชอบมุมนี้เลย ให้เขาขยับออกจากกันหน่อยได้ไหม” เดเมียนพูดแทรกขึ้น ทั้งกองจึงหยุดฟัง
“จะดีเหรอครับ มันเป็นคอนเซปคู่รักนะครับ ก็ต้องสนิทแนบเนื้อแบบนี่สิครับ” ช่างภาพแย้งขึ้นอย่างงุนงง เขาทำงานกับเดเมียนมานานไม่เคยเห็นเดเมียนค้านการทำงานของตนเลย วันนี้มาแปลก
“แต่ผมไม่ชอบแบบนี้ ชุดนี้พอแค่นี้แหล่ะ ไปเปลี่ยนชุดใหม่ปะ”
“แต่ชุดนี้ได้ไม่กี่ช๊อตเองนะครับ”
“เท่านี้ก็พอแล้ว ผมอยากเห็นชุดต่อไป” ช่างภาพหนุ่มถึงกับงงหนัก ธรรมดาแต่ละชุดจะต้องได้ภาพอย่างน้อยไม่ต่ำกว่าสิบช๊อตเพราะจะต้องเอาไปคัดกรองอีกที เมื่อเดเมียนยืนกรานดังนั้นทีมงานอีกคนจึงมากระซิบบอก
“คุณเดเมียนให้เปลี่ยนก็เปลี่ยนเถอะค่ะ” จากนั้นจึงหันไปหาเอริยาที่ต้องหยุดค้างเพราะเพราะเดเมียนเข้ามาแทรก “มาค่ะคุณเอริยา เปลี่ยนชุดต่อไปกัน” เอริยาทำตามอย่างว่าง่าย
ปรากฏว่าชุดใหม่ก็ยังไม่ถูกใจเขา สั่งเธอเปลี่ยนใหม่เป็นว่าเล่นทำเอาทีมงานป่วนกันทั้งกองกว่าเขาจะได้อย่างใจ เอริยาเริ่มหงุดหงิดที่เขาติโน่นตินี่ไม่เลิกทั้งที่มันก็เป็นชุดที่เขาคัดสรรมาเองแท้ๆ
“นี่คุณเดเมียน คุณทำฉันและทีมงานเสียเวลานะ ฉันต้องเปลี่ยนใหม่อีกกี่รอบคุณถึงจะพอใจ”
“ผมเป็นเจ้าของบริษัท ผมจะสั่งให้คุณเปลี่ยนอีกกี่ชุดก็ได้ตราบเท่าที่ผมพอใจ เสียเวลายังไงก็ต้องรอ” เขายังสั่งเอาชุดอื่นมาอีกเรื่อยๆ โดยไม่สนอาการหน้างอของอีกฝ่าย เพราะตอนที่เลขาของตนเอาแบบมาให้เขาชอบมากแต่ลืมคิดไปว่ามันจะถูกตัดเย็บมาให้เอริยาใส่ ยังแปลกใจที่เมื่อเห็นเธอสวมกลับดูขัดตาพิกล แถมเธอยังไปยืนให้ไอ้นายแบบหน้าหล่อคนนั้นมันเลื้อยอีก จริงๆ ภาพแบบนี้เขาก็เห็นจนน่าจะชินได้แล้ว
สุรีนามองอาการของเดเมียนด้วยความสนใจ รู้สึกเขาจะเข้มงวดกับนางแบบคนนี้มากเป็นพิเศษ ไม่เพียงแต่เธอที่คิดแบบนี้ ทีมงานคนอื่นก็ยังแอบกระซิบกระซาบอยู่ข้างๆ
“วันนี้คุณเดเมียนมาแปลกนะ ปรกติเห็นไม่ค่อยมายุ่มย่ามกับทีมงานเลย”
“เธอไม่รู้อะไร คนนี้เด็กใหม่เขาล่ะ มันก็ต้องเห่อเป็นธรรมดา”
“ก็ว่าอยู่ แต่จะอยู่นานรึเปล่านี่สิ เห็นแต่ล่ะคนมาไวไปไวปานสายฟ้าแลบ รู้กันอยู่ว่าคุณเดเมียนเขาเบื่อง่าย เมื่อคราวที่แล้วเห็นควงนางแบบจากบราซิลอยู่แหมบๆ ยังไม่ถึงอาทิตย์เลย เปลี่ยนใหม่อีกแล้ว”
“แหม..ก็เขาหล่อน่ากินขนาดนั้นใครบ้างไม่เอา แถมยังรวยอื้อซ่า หล่อล่ำครบสูตร เมื่อไหร่ฉันจะมีราชรถแบบนี้มาเกยบ้างหนอ” สองสาวหัวเราะคิกๆ แอบนินทาเจ้านายอย่างสนุกปากโดยไม่รู้ว่าสุรีนายืนฟังอยู่ พอหันมาเห็นจึงรีบพากันเดินหนีไป
รอยย่นตรงหว่างปรากฏขึ้นอย่างช้าๆ เมื่อคำพูดพวกนั้นมาสะกิดใจ หากเขาแค่ควงเล่นแล้วผ่านไปมันก็ดีสิ แต่นี่เธอกลับมองเห็นบางอย่างที่ทำให้รู้สึกไม่สบายใจ แววตาแบบนี้เธอเคยเห็นเมื่อนานมาแล้ว มันจะไม่เป็นไรเลยหากเขาจะใช้มองคนอื่น แต่ต้องไม่ใช่เอริยา ความริษยาตั้งเค้าอยู่ในใจ ผู้หญิงคนนี้ที่ครั้งหนึ่งเธอเคยเอาชนะมาแล้ว หากว่าหนนี้ต้องแพ้คงเป็นอะไรที่น่าอดสูยิ่ง
“เทียนหอม” เอริยาซึ่งกำลังยืนให้ช่างเสื้อจัดแต่งเครื่องประดับให้เข้าชุดอยู่นั้นหันมาตามเสียงเรียกจากนั้นจึงแสดงอาการรำคาญใจโดยไม่ปิดบัง
“สุรีนา” น้ำเสียงที่เอ่ยทักนั้นมันดูเหมือนคนไม่เต็มใจ ไม่ว่าเวลาจะผ่านไปนานเท่าไหร่ความเจ็บแค้นที่ถูกหักหลังไม่เคยเหือดแห้งหายไปแม้เพียงน้อย เปรียบได้ว่าสุรีนาเป็นศัตรูคู่อาฆาตที่ชาตินี้ทั้งชาติเธอจะไม่มีวันอภัยให้ สิ่งที่ต้องสูญเสียให้ผู้หญิงคนนี้มากมายเหลือจะกล่าว สุรีนาไม่เพียงยึดเอาทุกอย่างของเธอไปยังทำให้คนอื่นเข้าใจผิดว่าเธอมีส่วนกับอุบัติเหตุครั้งนั้นของบิดาเธอ แม้เธอจะหาหลักฐานมาพิสูจน์ได้กระนั้นในสายตาของคนอื่นเธอกลายเป็นผู้ร้ายไปเรียบร้อยแล้ว
“สบายดีใช่ไหม”
“สบายดี ยังมีลมหายใจอยู่” ยังกล้าถามออกมาได้ผู้หญิงคนนี้ไม่เคยสำนึกในสิ่งที่ทำ กล้าได้พูดเต็มปากหน้าไม่อายว่าตัวเองเป็นคนดีทั้งที่เหยียบหัวคนอื่นขึ้นมา
“ฉันได้ข่าวเธอมาตลอดหลายปีนี้ ยอมรับนะเธอเปลี่ยนไปมาก เก่งนะที่อุตส่าห์มายืนอยู่ตรงจุดๆ นี้ได้ ขอบอกว่าเลื่อมใสอย่างแรง คงพยายามสูงมาก แน่ล่ะดูจากผลงานแล้วมันคงคุ้มค่าอยู่หรอกกับสิ่งที่แลกไป” แววหยันเย้ยและเหน็บแนมเจืออยู่บนรอยยิ้มที่เย็นเยียบปรายตามองเดเมียนที่กำลังคุยอยู่กับทีมงานเหมือนจะเยาะอยู่ในทีว่าที่เธอได้งานนี้มาคงเพราะเอาบางอย่างเข้าแลก เอริยาเหยียดมองอีกฝ่ายเช่นกันแม้จะรู้สึกชานิดๆ ที่โดนค่อนแคะทางอ้อมแต่เธอไม่สนว่าใครจะคิดยังไง เพราะใจมันชินและชากับการที่โดนคนอื่นเหยียบย่ำ แม้ความร้ายกาจของผู้หญิงคนนี้คงจะไม่สะเทือนเธอได้มากนัก
“มาทำอะไรที่นี่”
“ฉันก็มาคุยธุระกับเดเมียน คงไม่ต้องบอกเธอหรอกนะ เพราะมันเป็นเรื่องระหว่างฉันกับเขา ฉันจะยังอยู่ที่นี่อีกหลายวัน หวังเราอาจจะนัดเจอกันบ้างในฐานะที่เราเคยเป็นคนในครอบครัวเดียวกัน”
“ไม่จำเป็น เพราะฉันไม่เคยถือว่าเธอเป็นคนในครอบครัว ก็แค่ผู้หญิงของพ่อฉันเท่านั้น โดยเฉพาะผู้หญิงหน้าหนาและโลภมากอย่างเธอ กอดไว้เถอะไอ้ของที่แย่งคนอื่นเขาไปน่ะเพราะมันจะอยู่ได้ไม่นานนัก”
“โถ! นี่เธอยังคิดแค้นเรื่องเก่าอยู่อีกหรือ เอริยาเรื่องมันก็ผ่านไปแล้วลืมๆ มันไปจะได้ไหม จริงๆ ฉันก็ไม่ได้อยากทำกับเธอแบบนี้นะ แต่พ่อเธอยกมันให้ฉันเอง เธอก็รู้นี่ว่าเพราะอะไร ลูกสาวที่เอาแต่สร้างปัญหา เอาแต่ใจนิสัยเสียแบบเธอเป็นฉันก็คงเอือมระอาเหมือนกัน แต่เธอจะมาโกรธฉันเพราะพ่อเธอไม่ให้อะไรเลยแบบนี้ไม่ยุติธรรมกับฉันเลย ฉันเห็นใจเธอนะ แต่มันไม่ใช่ความผิดฉัน” เอริยาได้ยินเท่านี้ก็ขำออกมากับความหน้าทนของอีกฝ่ายช่างกล้าพูดว่าตัวเองไม่ได้ผิด
“คนบางคนจิตสำนึกต่ำจนไม่รู้ผิดชอบชั่วดี คิดเข้าข้างตัวเองได้เสมอ ทำต่อไปเถอะ ถ้าคิดว่าสิ่งที่ทำมันถูกต้อง แต่ฉันรอดูสักวันสิ่งที่เธอทำมันจะย้อนรอยเธอเข้าไม่วันใดก็วันหนึ่ง วันแห่งความหายนะของเธอคงอยู่อีกไม่ไกล เมื่อถึงวันนั้นวันที่เธอไม่เหลืออะไรเหมือนกับฉัน ฉันเป็นคนแรกที่จะเหยียบเธอซ้ำ”
“งั้นรึ แต่เธออาจต้องรอนานหน่อย”
“นานเท่าไหร่ฉันก็จะรอ”
สุรีนามองดวงหน้าที่เชิดสู้ก่อนสะบัดใส่ จะรอดูงั้นเหรอแต่ก่อนจะถึงวันนั้นเธอจะแบนติดเท้าฉันก่อนนะสิ อุตส่าห์ปล่อยไปตั้งหลายปีไม่ได้ทำให้ความอวดดีลดลงเลย คิดจะประกาศสงคราม ช่างไม่ประมาณตนเอาเสียเลย
แต่ขณะนั้นเดเมียนยืนแอบอยู่หลังฉากฟังบทสนทนาของทั้งคู่ สองคนนี้มีอะไรซับซ้อนมากกว่าที่เขาเข้าใจ ที่ผ่านมาตนไม่เคนสนใจเรื่องนี้จนกระทั่งเอริยาเข้ามา เขาจึงให้คนไปสืบว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่ จึงได้รู้ว่าสุรีนาทำอะไรกับเธอบ้าง ตั้งแต่สุรีนาเข้าไปอยู่ในบ้านสองคนนี้ก็มีปัญหากันตลอด เอริยาถึงทะเลาะกับพ่ออย่างหนักเธอค้านหัวชนฝายังไงก็ไม่ยอมรับ ถึงขนาดประท้วงด้วยสารพัดวิธีจนเทียนชัยเอือมระอาเคยถึงประกาศออกมาว่าจะไม่ให้อะไรเธอเลย จากนั้นไม่นานเขาก็ประสบอุบัติเหตุ มีคนปล่อยข่าวลือออกมาว่าอาจเป็นฝีมือเอริยา แต่ก็มีการพิสูจน์ออกมาภายหลังว่ามันเป็นเพียงอุบัติเหตุเท่านั้น แต่ในพินัยกรรมที่ระบุว่ายกทุกอย่างให้สุรีนาหมดนี่สิเขาไม่ค่อยอยากเชื่อเท่าไหร่ เทียนชัยไม่น่าจะใจดำกับลูกสาวถึงเพียงนี้ แต่ไม่ว่าเรื่องจริงจะเป็นเช่นไร ยังไงเอริยาก็ควรมีสิทธิ์ที่จะเรียกร้องสิ่งที่เธอควรจะได้ หากทุกอย่างเป็นฝีมือของสุรีนาเขาพร้อมที่จะเอามันคืนให้เธอ เขารู้ดีว่าคนอย่างสุรีนาสามารถทำทุกอย่างเพื่อสิ่งที่ตนต้องการ ยอมแม้กระทั่งทิ้งเขาที่บอกว่ารักจะเป็นจะตาย ความเลือดเย็นมันคงอยู่ในสายเลือด
ความคิดเห็น