ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    เล่ห์ร้ายเผด็จรัก

    ลำดับตอนที่ #24 : ตอนที่ 24

    • เนื้อหานิยายตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 373
      11
      6 ก.ค. 58

                                                    


     






    “แบบนี้เรียกเมียได้รึยัง”

    มือเรียวยังเกาะอยู่ที่คอเสื้อของเขานัยน์ตาคูสวยหวานฉ่ำและปรือหยี มองใบหน้าอันเหล่อเหลาช่างมีเสน่ห์ยั่วใจนัก เครื่องหน้ารับกันอย่างไม่มีที่ติ หรืออาจเพราะยามนี้เธอกำลังตาพร่าเพราะรสรักรสสวาทจนมองข้ามข้อด้อยไป ลมหายใจติดขัดเป็นช่วงๆ และปากคอแห้งผาก เธออยากเร่งให้เขาทำต่อเร็วๆ แต่ก็อายเหลือเกิน ทำไมเขาใจเย็นจังนะทั้งที่เธอร้อนเป็นไฟไปหมดแล้ว ขนาดว่าเธอไม่เหลืออะไรปกปิดร่าง ยืนเปลือยต่อหน้าเขา เดเมียนเดินไปหยิบไวน์ในตู้มาเปิด ไม่เสียเวลารินใส่แก้วยกมันดื่มทั้งขวด และเอามาป้อนให้เธอ รสหวานปนาดไหลเข้าปากจากนั้นจึงผ่านลำคอก่อนที่มันจะร้อนวูบขึ้นหน้าเพราะแอลกอฮอล์ออกฤทธิ์อย่างรวดเร็ว เธอติดใจที่จะดื่มมันจากปากเขาเสียแล้ว ยกแขนนุ่มโอบรอบลำคอแกร่ง แค่ดื่มไปไม่กี่อึกรู้สึกมึนและสติพร่าจนกล้าที่จะทำสิ่งที่ปรกติเธอไม่มีวันทำ

    เอริยาถอดเสื้อแจ็คเก็ตของเขาออกอย่างเร่งรีบตามด้วยเสื้อยืดแล้วโยนมันทิ้งไป ขณะจูบอย่างติดพันมือนั้นก็มุ่งไปที่เข็มขัดตอนนี้เหมือนเธอจะเริ่มคุมตัวเองไม่อยู่แล้ว

    “ใจเย็นทูนหัวเบาๆ หน่อย อย่าให้ซิบโดนเกิดใช้งานไม่ได้ผมไม่รู้ด้วยนะ”

    คนบอกลำพองใจเป็นนักหนากับอาการร้อนรนของอีกฝ่าย เขาปล่อยให้เธอทำตามอำเภอใจขณะที่เขายืนรับความสุขแบบเต็มๆ แต่พอความเป็นชายของเขาออกมาอวดโฉมเท่านั้นแหล่ะมือเล็กก็หยุดกลางคัน เอริยามึนเบลอจนลืมตัวไปชั่วครู่ ไม่รู้ว่าเมาไวน์หรือว่าเมาเขากันแน่

    ครั้นพอเธอชะงักค้างไม่ยอมทำต่อ เดเมียนจึงเป็น่ายกลับมารุกเอง ล่ะอาภรณ์ของตนเองทิ้งไปเสีย เขาใช้โฟาเนื้อนุ่มเป็นที่รองรับร่างอ่อนส่วนตัวเองก็ขยับกายใหญ่ขึ้นไปทาบแหวกด่านสุดท้ายเพื่อเข้าไปหาเธอ จมลึกสู่ห้วงเสน่หาเส้นทางมันช่างคับแคบและบีบรัดให้รู้สึกรวดร้าวระคนสุขสม เสพกายหอมเข้าจนเต็มรักอีกฝ่ายครวญครางแสนสยิว ขยับขับเคลื่อนเชื่องช้าแต่มั่นคงจังหวะหนักหน่วงเร่าร้อน

    ใบหน้าสวยส่ายหวืออย่างหวิวซ่าน ไรผมเปียกชื้นจนชุ่มโชก รู้สึกรากับร่างตนกำลังลุกไหม้ ร้องเรียกเขาไม่หยุดฉุดอารมณ์ที่แตกกระเจิงไม่อยู่ เธอจำอะไรไม่ได้แล้วนอกจากความซ่านซาบที่ประดังเข้ามา กลิ่นความสุขมันแรงเสียจนห้ามใจไม่อยู่ ส่ายรับความแข็งแกร่งของบุรุษเพศ เสียงหอบพร่าดังก้องกังวานไปทั่วห้องและอาจจะลอยไปถึงข้างนอกได้ กระนั้นยามราตรีเช่นนี้คงไม่มีใครจะมาได้ยิน

    เมื่อเสียงสวรรค์เพิ่มระดับอย่างไม่อาจปกปิด พาให้ชายหนุ่มฮึกเหิมกับบทรักอันแสนสุดวิเศษมันไม่ได้มีเพียงแต่ตัณหาเท่านั้น หากเป็นเมื่อก่อนเขาสามารถขึ้นสวรรค์กับใครก็ได้ตามแต่เขาจะพอใจ หากเวลานี้คนเดียวที่จะทำให้เขามีความสุขได้คือผู้หญิงคนนี้คนที่เขาสามารถพูดได้เต็มอย่างไม่ตะขิดตะขวงใจว่ารัก คนที่ทำเขาเป็นบ้าเป็นหลัง มองภาพคนร่างเล็กบิดเกลียวมันช่างเร่งเร้าอารมณ์เสียมากมาย

    เดเมียนลูบไล้เรียวขาด้วยความบรรเจิดและเพลิดพริ้งสุดจะบรรยาย ปากก็ละเลงรักไปทั่วตัวนุ่มลื่น บดเน้นสะโพกเป็นจังหวะจะโคนปรนเปรอความสุขให้แก่เธอเฉกเช่นที่เขาได้รับ  เขาไม่รู้หรอกว่าเธอถึงเส้นชัยก่อนเขาไปกี่ครั้งแล้ว และตอนนี้เขาก็กำลังจะไปถึงเช่นกัน ก่อนที่จะปลดปล่อยปลายทางแห่งฝันสู่กายเธอ

     

    ร่างเล็กนอนในลักษณะตะแคงข้างหนุนแขนบางของตน เรือนกายเปล่าเปลือยโดยที่ชายหนุ่มวางศีรษะอยู่บนไหล่เธอ วงหน้าคมนั้นฉาบไล้ไปด้วยความอิ่มเอม แต่เธอเอาแต่คิดซ้ำไปซ้ำมา ทำไมนะทำไมเธอถึงทนเขาไม่ได้ ทำไมถึงชอบให้เขาไล่เล่นอยู่บนกายตน ทำไมถึงต้องการเขามากขนาดนี้ หรือเพราะเธอรักเขาเข้าแล้ว ทันใดนั้นเองเสียงโทรศัพท์ก็ดังขึ้น เดเมียนหยิบเอากางเกงขาตนขึ้นมาเพื่อหาโทรศัพท์ แต่พอเห็นเบอร์เขาจึงหยุดชะงักและเหลือบมองเธอ

    เอริยาพอเห็นสีหน้าของเขาเธอเบือนหน้าหนีทันที ไม่อยากฟังเขาคุยโทรศัพท์กับคนอื่นเลย มันเหมือนจะทนไม่ได้ ไม่อยากให้เขายุ่งกับใครนอกจากเธอคนเดียว

    หากแต่เดเมียนไม่ได้กดรับ แต่เขากลับปิดเครื่อง รู้ว่าเธอน้อยใจเขาอยู่ และตนไม่อยากให้เธอคิดมาก ไม่อยากให้เธอเสียใจ จึงตัดปัญหาโดยการไม่รับสายเสีย พอเขาโน้มตัวลงนอนเหมือนเดิม เธอก็ยังไม่ยอมหันหน้ามาหา ชายหนุ่มละเลงจูบไปตามแขนเรียวไซร้ขึ้นมาที่ริมขอบหูเธอก็ยังทำเฉย อมยิ้มอย่างเอ็นดูให้กับคนขี้งอน

    “เป็นอะไรฮึ โกรธผมเหรอ”

    “เปล่านี่ค่ะ”

    “งั้นก็หันมายิ้มหวานให้ผมหน่อยสิ นะครับ”

    เอริยายังเฉยเมยต่อน้ำเสียงวอนเว้า เดมียนจึงแหย่โดยการโลมเล้าแขนนุ่ม นิ้วหนากรีดไปตามเรียวขาไต่ระดับขึ้นมายังสะโพกก่อนจะวกไปที่จุดกึ่งกลาง รูขุมขนขยายพร้อมไรขนบนร่างอ่อนลุกชันเธอจึงตีมือเขาดังเผียะ!

    “อย่าเล่นสิคะ”

    ส่งสายตาตำหนิ ชายหนุ่มหัวเราะและยังก้มลงไถคางสากของตนที่บัดนี้มันเต็มไปด้วยเคราแข็งพอมันสัมผัสเนื้อนุ่มบริเวณเนินอกเลยมีรอยแดงขึ้นทันตา มันจักกะจี้จนเธอทนไม่ไหวจับหน้าเขาให้อยู่นิ่งๆ

    “เดเมียน ถ้าไม่หยุดทำฉันจะโกรธคุณนะ”

    “โอเคครับ ไม่แกล้งก็ได้ วันนี้คุณน่ารักที่สุด เป็นแบบนี้ต่อไปได้ไหม ผมชอบเวลาคุณร้อนแรงแบบนี้จัง รู้สึกดีใช่ไหมพอได้ปลดปล่อย คุณชอบทำหน้าบึ้งกับผมอยู่เรื่อยเห็นทีไรมันน้อยใจทุกที”

    หญิงสาวย่นหน้าอย่างหมั่นไส้เหลือประมาณ ก็เพราะใครกันเล่า ตั้งแต่รู้จักเขามาแทบจะลืมไปเลยว่าเวลายิ้มมันเป็นยังไง

    “คุณน่ะเหรอน้อยใจ ฉันต่างหาก คุณน่ะมันหน้ามึนแล้ว ถ้าอยากจะอ้อนไปอ้อนคนของคุณเลยไป”

    เธอโบ้ยไปถึงอีกคนและทำไม่รู้ไม่ชี้ เดเมียนมีอาการหน้าเสียที่เธอวกกลับมาเรื่องนี้อีกแล้ว ฝ่ามือร้อนแตะใบหน้าเล็กให้หันมาสบตาตน

    “เราไม่ต้องพูดถึงคนอื่นได้ไหม อยู่ที่นี่จะมีแค่เราสองคนได้รึเปล่า คนอื่นช่างเขาผมอยากมีความสุขโดยไม่มีคนอื่นมาข้องเกี่ยว”

    “แล้วฉันจะทำแบบนั้นได้ยังไงในเมื่อคุณ”

    เดเมียนจ่อนิ้วที่ปากอิ่มส่งเสียงดังชู่ว เธอจำเป็นต้องเงียบ พอพูดขึ้นมาทีไรเขาชอบทำเฉไฉอยู่เรื่อย เขาจะทำอะไรของเขากันแน่

    “ตอนนี้ผมพูดได้แค่ว่าผมมีคุณคนเดียวเท่านั้น ส่วนเรื่องอื่นเมื่อถึงเวลาผมจะอธิบายให้ฟัง เทียนหอมของผมได้โปรดเชื่อผมอีกสักครั้งนะ มันไม่ได้เป็นอย่างที่คุณเห็น”

    นัยน์ตาคู่งามจับจ้องคนเบื้องหน้าด้วยความสับสนยิ่ง อะไรที่เคยคิดไว้ไม่เป็นอย่างใจเลยสักอย่างเดียว อยากเป็นคนเข้มแข็งแต่ความอ่อนแอก็เล่นงานไม่หยุด มันยากที่จะผลักไสเขาออกไปจากใจเพราะนับวันเขายิ่งปักหลักอย่างมั่นคง แม้เขาจะทำไม่ดีมากมาย แม้จะมีแต่รอยน้ำตา

    เขาไม่อาจเดาได้ว่าเธอจะเชื่อที่เขาพูดไหม แต่เมื่อเธอไม่ปฏิเสธและยังเงียบไป เขาจึงถือเอาว่ามันคือการตอบตกลง ปรายยิ้มนุ่มนวลลูบผมนุ่มสลวยเล่น

    “เรากลับขึ้นไปข้างบนดีกว่า อยู่ตรงนี้ไม่ค่อยสะดวก  คืนนี้คุณอาจจะไม่ได้นอนนะ”

    เอริยาตาพองขึ้นเมื่อเขาพูดจบ นี่เขายังจะต่ออีกหรือ มองเขาลุกขึ้นใส่กางเกงหยิบเสื้อเชิ้ตมาสวมให้เธอ ส่วนที่เหลือปล่อยทิ้งมันไว้แบบนั้นไม่หันไปใยดีมันอีก พอเธอยังอิดออดชายหนุ่มจึงอุ้มเธอแล้วพากลับขึ้นไปข้างบน

    เมื่อหญิงสาวถูกวางลงบนเตียงใหญ่ กายหนาทิ้งน้ำหนักลงบนร่างเล็ก รอยยิ้มผุดผายบนเรียวปากสวยได้รูปมันช่างน่ามองและมักทำให้เขาหลงจนไม่ลืมหูลืมตา เธอเป็นคนแรกที่สามารถกะเทาะเปลือกใจที่แข็งดังหินของเขาได้ หัใจที่เคยบอบช้ำเหมือนได้รับการเยียยา ที่ผ่านมาเขาจมปลักอยู่อดีตมากเกินไปและอาจเพราะยังไม่เจอคนที่ใช่ หากตอนนี้เธอคือคนที่ใช่ที่สุดสำหรับเขา

    “คุณนี่เก่งนะ ทำให้ผมหลงคุณขนาดนี้ได้ อย่างนี้ต้องให้รางัลเยอะๆ”

    “ฉันไม่ได้ทำอะไรสักหน่อย ฉันไม่เอาหรอกรางวัล”

    รีบบอกเพราะรางวัลของเขานั้นอาจทำให้เธอลุกไม่ขึ้น เขายิ่งขี้โกงอยู่ด้ยที่่าจะให้รางัลที่จริงเขาเป็นคนได้มากกว่า

    “แน่ใจเหรอ่าไม่อยากได้ ผมให้โอกาสคุณพูดใหม่อีกที”

    “ฉันก็ยังพูดเหมือนเดิมนั่นแหล่ะ ฉันเหนื่อยและง่งนอนแล้วด้วย”

    “แต่ผมยังไม่ง่วง บอกแล้วไงว่าคืนนี้คุณจะไม่ได้นอนเลย คนเก็บกดก็แบบนี้แหล่ะ เวลาหิวมากๆ เข้ากินไม่มีเหลือ ผมตะกละนะจะบอกให้ โดยเฉพาะเนื้อหานอย่างคุณผมจะแทะไม่ให้เหลือเลย ดูสิ่าคุณกับผมใครอึดก่ากัน”

    “ไม่เอา ฉันไม่อยากรู้หรอก”

    “ไม่ยอมผมปล้ำนะ”

    “คุณ”

    เอริยามองตาเขีย เขายังทำหน้ามึนใส่ ถึงไม่ยอมเขาก็ทำเธอยอมจนได้ ร้ายจริงๆ มันก็เป็นที่ตัเธอเองด้วยที่พอเมื่อโดนเขาเย้าหยอกเข้าหน่อยก็ละลายเหมือนเทียนที่โดนไฟลนจนเหลือแต่ไส้ กายบางระทดระทวยเพียงแค่โดนลิ้นสากไล่หยอกเอินบนเนินนุ่ม ไม่ใช่แค่เขาหรอกที่ต้องการใต้ห้งจิตสำนึกของเธอเองก็เรียกหาสิ่งนี้เหมือนกัน

    “เบาๆ หน่อยสิคะ อย่ารุนแรงได้ไหม”

    เสียงหวานตำหนิเมื่อเขาเผลอขบเรือนยอดปทุมถันสีหวานมันทั้งเจ็บระคนซ่าซ่าน มือก็ยังขย้ำเฟ้นอีกข้างอย่างเมามัน เขาตักตงเพลินเสียจนคงลืมไปว่า กายนิ่มนั้นบอบบางแค่ไหน

    “ขอโทษครับ ผมจะระวังมากกว่านี้”

    เดเมียนบอกด้วยน้ำเสียงแตกพร่า เขาเหมือนเสือหิที่กำลังโหยกายหอม ความต้องการที่ไม่มีวันเติมเต็มได้ยังคงอยากได้อยู่เรื่อยๆ ไม่มีขีดจำกัด ต้องการที่จะเผด็จศึกรักอีกคราเพียงแต่คราวนี้นุ่มนวลขึ้นหน่อยเพราะเดี๋ยวกระรอกน้อยของเขาจะช้ำ เหมือนกลีบดอกไม้อันหอมหวนที่จะต้องเด็ดดมอย่างระมัดระวังไม่เช่นนั้นกลีบดอกอาจจะเฉามือเสียก่อน

    เขาสนุกกับการเก็บทุกอณูบนเรือนกายอรชร ตั้งแต่ใบหน้า ทรวงอก เอวคอด กระทั่งต้นขาขา ผิวกายละเอียดและเนียนนุ่มแถมตอนนี้มันยังชุ่มไปหมด เทียนหอมเล่มนี้กำจายกลิ่นหอมฟุ้ง

    “เทียนหอมคุณทำผมบ้าแล้วจริงๆ”

    ปากพร่ำบอกคล้ายตนสติหลุด ก้มลงเชยชมดอกตูมตึงที่ส่ายพลิ้ว มือเล็กนั้นยังกอดศีรษะเขาไว้แน่นแนบ  เดเมียนสอดรับสะโพกกลมกลึงก่อนกระโจนสู่สนามรัก ร่างบางสะดุ้งเฮือกแต่ไม่ใช่เพราะคามเจ็บปวด หากแต่เพราะความซ่านเสียต่างหาก เหมือนเธอเธอเมามายอีกครั้งเพียงแต่หนนี้มันเมารัก

    เดเมียนประเคนความรื่นรมย์โดยไม่เว้นระยะว่าง เลือดลมฉีดพล่านภายในกายหนุ่ม ไม่รั้งรอที่จะปล่อยเพลิงสาทเพื่อมอมเมาอีกฝ่ายจนต้องครางครวญอย่างรื่นหู เขาเองก็ไม่น้อยหน้าเสียงใหญ่กระหึ่มอยู่ในลำคอแกร่งรากับราชสีห์บดเบียดกายเล็กเน้นหนักปรารถนาที่อยากเข้าไปอยู่ในกายเธอให้ลึกที่สุด ขณะที่เรียขาพาดอยู่บนเอวหนา แขนกำยำค้ำอยู่บนที่นอนนุ่ม ลำตัวแนบกับหน้าท้องแบนสวย เขาเร้ารุกหนักขึ้นทุกทีอีกไม่ไกลแล้ว เสียงเล็กนั้นครวญแผ่วไม่หยุดจนในที่สุดเขาก็พาเธอแตะขอบสรรค์สำเร็จเป็นครั้งที่สอง แต่เขายังไม่ถอนตัออก ยังนอนราบอยู่บนตัวหญิงสาว วงหน้าซบอยู่บนอกนุ่มนิ่ม นานพอดูก่าที่เธอและเขาจะมีแรงกลับมา

    “ออกไปได้รึยังคะ ฉันหนักนะ”

    เอริยาว่าแต่มือเรียวยังกอดศีรษะหนาเอาไว้อยู่ มันสุขจนพูดแทบไม่ออก เดเมียนเงยหน้ามาจากทรวงสล้างพร้อมรอยยิ้มจุดประกายพราวแพรว นัยน์ตาคมโชนแสงอย่างแรงกล้า

    “ยังไม่อยากออก อยากจะต่ออีก”

    เขาว่าแบบคนโลภมาก จนเอริยาต้องตาพองอีกรอบ เขาต้องบ้าไปแล้วแน่ สองครั้งติดเธอก็ว่ามากแล้วนี่เขายังไม่พอ หญิงสาวเอ่ยต่อไปด้วยเสียงอ่อยว่า

    “พอเถอะนะ ฉันหมดแรงแล้ว”

    “หมดแรงอะไรกัน คุณนอนเฉยๆ ไม่ได้ทำอะไรเลยแค่ส่งเสียงครางเท่านั้น”

    เขาช่างกล้าพูด เธอไม่รู้เขาเอาเรี่ยวแรงมาจากไหนหนักหนา อึดยิ่งกว่าม้า พละกำลังมหาศาลที่กระหน่ำมาเธอสิต้องรับกรรมไปยันเช้า ไม่สงสารเธอบ้างเลย



                          
                               







    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×