คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #20 : ตอนที่ 20 หมดเวลารอ
take me to church
“เทียนหอม เธอจะกลับก็ได้นะ”
ลูอาน่าเหลือบมองเพื่อนพลางเอ่ยขึ้นเสียงเบา และรู้สึกผิดขึ้นมาตนไม่น่าชวนเธอมาด้วย เห็นภาพแบบนี้มันคงทำใจได้ยาก
“ไม่..ไหนๆ ก็มาแล้ว ไปหาคุณเคสเลอร์กันเถอะ”
เมื่อสองสาวเดินไปยังอีกมุมหนึ่งของร้านเดเมียนจึงเพิ่งได้เห็นเธอ เขามีอาการตกใจเล็กน้อย แต่ก็ยังยิ้มพราย ถึงอย่างนั้นก็แอบไม่สบายใจเล็กๆ เธอมาทำอะไรที่นี่นะจนเมื่อเห็นเธอเดินไปหาโลแกน หัวคิ้วหนาดกจึงย่นโดยอัตโนมัติ
“อา...มาแล้วสาวสวยของผม”
โลแกนยิ้มรับสองสาว ท่าทางเขาดูผ่อนคลายและผายวงแขนอันแข็งแรงรับลูอาน่าที่เดินเข้าไปหาและกำลังจะจูบที่แก้มชายหนุ่มเพื่อทักทายแต่เขาขึงตาปรามไม่ให้เธอทำแบบนั้นขณะเดียวกันก็เบนสายตาสะกดตรึงอยู่ที่เอริยาเพียงแต่เธอไม่ได้ใส่ใจความนัยที่เปล่งวาบอยู่ภายในดวงตาคู่นั้นของเขาเลยเพราะเธอมองไปที่อีกโต๊ะ
“รอนานไหมคะ ขอโทษที่ช้าคะ”
ลูอาน่าเอ่ยทักอย่างสนิทสนมแต่โลแกนดูเมินเฉยยังไงชอบกล รอยยิ้มของเธอจึงเจื่อนไป และส่งคำถามที่เหมือนจะถามแค่เอริยามากกว่า
“ไม่เลย จะดื่มอะไรกันดี”
“อะไรก็ได้คะ”
เอริยาตอบอย่างเนือยเนืองดูไม่ร่าเริง โลแกนรู้ถึงเหตุผลของอาการนี้และยังแอบพอใจอยู่ลึกๆ แน่นอนเขารู้ว่าเดเมียนมาทานอาหารที่ร้านนี้นั่นเพราะว่าสุรีนาโทรฯบอก ตนจึงให้ลูอาน่าชวนเธอมาเขาเห็นเธอมองไปทางตลอดจึงเปรยขึ้นมาลอยๆ แต่มันเหมือนตอกย้ำให้เจ็บใจ
“ดูสินั่น เจ้านายคุณนี่เสน่ห์แรงไม่เบา ได้ยินว่าเขาเคยรักกันมาก่อน ถ่านไฟที่ยังไม่ดับสนิทยังไงมันก็มีโอกาสลุกโชนขึ้นมาได้ใหม่เมื่อเชื้อไฟมันแรงพอแค่ลมวูบเดียวก็ลุกพรึ่บได้โดยง่าย สุรีนาทั้งสวยทั้งเก่งถ้าผมมีคนรักเก่าแบบนี้ผมก็คงไม่ปล่อยหลุดมือหรอก”
เธอไม่รับรู้หรอกว่าที่โลแกนพูดขึ้นมานี้เพื่ออะไร รู้แต่ว่าแม้แต่ปลายหางตาเขายังไม่ชำเลืองมองมาทางนี้เลยสักนิด เขาเห็นรึเปล่านะว่าเธอนั่งอยู่ตรงนี้ หรือเพราะเขาไม่สนกันแน่ นี้หรือคือผลของการรอคอย แค่ชั่ววูบที่เธอมีความคิดที่จะรอมันช่างโง่เขลาเสียนี่กระไร เวลานี้มันมีความแสบร้อนที่สองตาเมื่อมองไปที่อดีตคู่รักนั่งคลอเคลีย ไม่สิเรียกว่าอดีตไม่ได้แล้วเพราะตอนนี้มันคือปัจจุบัน มันเทียบกันไม่ได้เลยเพราะเธอไม่ได้เป็นทั้งอดีต ปัจจุบัน หรือกระทั่งอนาคตของเขา เพียงแค่บังเอิญผ่านมาหนึ่งในหลายคน
เอริยากลับมาเพียงคนเดียวโดยปฏิเสธโลแกนที่อยากชวนไปต่อ เพราะเธอไม่อยากไปนั่งเป็นส่วนเกินของใคร เมื่อโลแกนมาส่ง ซึ่งลูอาน่าไปต่อกับเขาที่อื่น เธอยังไม่อยากกลับขึ้นห้อง เลยเดินเล่นบนบาทวิธีไปอย่างเอื่อยเฉื่อย ที่นี่ยิ่งดึกยิ่งหนาวนักยิ่งมันพร้อมกับความเหงาเหมือนจะเข้าคู่กันได้ดีอณุภาพของมันอาจทำให้แข็งตายได้ในชั่วพริบตา จะร้องหาความอบอุ่นได้จากที่ไหนในเมื่อรอบกายมีแต่ความว่างเปล่า มันเหมือนเพื่อนเก่าที่แวะเวียนมหาเธออยู่ไม่ขาด และเธอก็ทำใจยอมรับและทักทายความเหงาดังเพื่อนสนิทที่คุ้น
หญิงสาวเดินวนกลับมาตั้งใจจะกลับไปพักผ่อน ยามนี้กายใจอ่อนล้าจนอยากจะพักยาว แต่กระนั้นเธอคงไม่ได้ทำอย่างที่คิดเมื่อมองไปข้างหน้าเห็นร่างสูงยืนรออยู่หน้าตึก
“คุณไปไหนมา”
ความห่วงใยที่เจือมากับน้ำเสียงเธอกลับมองว่ามันเป็นการเสแสร้ง วงหน้าเรียวมีแต่ความเฉยชาคงไม่มีอะไรจะทำให้เธอรู้สึกรู้สมได้อีกแล้วเพราะมันชาด้านไปหมดทั้งใจ
“มาทำอะไร”
คำถามเพียงสั้นๆ แต่มันสื่อถึงความหมางเมินได้เป็นอย่างดี ระยะห่างที่ไม่ถึงครึ่งเมตรแต่เขากลับรู้สึกว่าเหมือนเธอยืนห่างอยู่เป็นล้านไมล์
“อยากจะอธิบาย”
“คำอธิบายมันจะมีค่าก็ต่อเมื่อคนๆ นั้นอยากฟัง ซึ่งคุณน่าจะรู้ว่าฉันไม่อยู่ในอารมณ์นั้น มันไม่ใช่เรื่องจำเป็นที่ฉันจะต้องสละเวลาเพื่อฟังเรื่องของคุณ ฉันรู้คุณคงมีเหตุผล แต่ฉันก็มีเหตุผลของฉันเหมือนกัน เหตุผลของฉันนั้นง่ายมากและไม่ซับซ้อนจนยากจะเข้าใจเหมือนคุณ ตอนนี้เราเดินมาถึงทางแยกแล้วฉันรู้ว่าควรจะไปทางไหน คุณเองก็เช่นกัน”
“เราเดินไปด้วยกันได้นี่ ไม่จำเป็นต้องแยกทาง”
“คุณยังไม่เข้าใจ ฉันไม่ต้องการเพื่อนร่วมทาง ฉันต้องการจะเดินเพียงลำพัง ฉันไม่ต้องการคุณ เดเมียนถนนบางสายมันก็มีเพียงแค่สองเลนมันไม่สามารถตีคู่กันไปได้ หากฝืนต่อไปคุณอาจจะประสานงานกับรถคันที่แล่นสวนมาสุดท้ายก็เจ็บกันทั้งสองฝ่าย อย่าขับย้อนศรเพราะไม่เพียงคุณจะบาดเจ็บ แต่คนอื่นจะเจ็บไปกับคุณด้วย”
“นี่เรากำลังพูดถึงเรื่องอะไรอยู่เนี่ย ผมงงนะถนนอะไร รถอะไรถ้าทางมันแคบก็ไปเส้นอื่นสิ เส้นที่มันกว้างกว่า”
“เพื่อที่คุณจะได้เอารถคันอื่นมาวิ่งด้วยงั้นเหรอ”
เดเมียนส่ายหัวกับคำเปรียบเปรยที่ฟังแล้วรู้สึกไม่ดี อยู่ดีๆ เธอจะมาขอแยกทางอย่างกับเขาจะยอมตอนนี้เธอกับเขามาได้เกินครึ่งทางแล้วเหลืออีกนิดเดียวเท่านั้นก็จะไปถึงเส้นชัย มือหนาค้ำที่เอวอีกข้างยกขึ้นลูบใบหน้าคมของตนอย่างใจเย็นที่สุด
“นี่ฟังนะ ผมยังพูดอะไรไม่ได้มากตอนนี้ ผมแค่อยากจะขอให้คุณรออีกนิด”
“รออีกแล้ว รู้ไหมสิ่งที่ฉันเกลียดที่สุดคืออะไร คือการรอคอยอย่างไม่มีจุดหมาย เมื่อไหร่คุณจะเลิกมองว่าฉันเป็นคนโง่เสียที คุณเองก็กลับไปหาเธอแล้วยังจะดึงฉันไว้ทำไม ปล่อยมือฉันอย่ายื้อต่อไปอีกเลย”
“ไม่ได้ ผมปล่อยคุณไม่ได้คุณเป็นของผม เป็นของที่ผมหวงมาก”
“หวงเพื่อ? คุณจะเอาฉันไปไว้ตั้งโชว์เพื่อให้ฝุ่นจับรึไง”
น้ำเสียงนั้นเพิ่มระดับขึ้นและอารมณ์เธอก็ค่อยๆ คุกรุ่น เขาพูดแบบคนเห็นแก่ตัวอีกแล้ว ช่างกล้าพูดว่าหวงทั้งที่ตัวเขาเองนั้นแหล่ะที่เป็นคนทำร้ายเธอ
“ผมทำแบบนั้นที่ไหนกัน กรุณาอย่ามโนเอาเองจะได้ไหม ไม่ว่ายังไงคุณก็สำคัญกับผมนะ”
“คุณพูดแบบนี้กับสุรีนาด้วยรึเปล่า”
คำย้อนของเธอทำเขาสะอึก ใช่เขาพูดแต่มันต่างกัน กับสุรีนาเขาพูดเพื่อเอาใจเพื่อให้อีกฝ่ายหลงคล้อยตาม แต่กับเธอเธอเป็นเช่นนั้นจริงๆ และตอนนี้เขารู้แล้วว่าไม่อยากเสียเธอไป เดเมียนขยับมือเพื่อจะไปประคองวงหน้าเล็ก ถึงอย่างนั้นเธอก็ยอมให้เขาไปถึง
“เทียนหอม ขอร้องอย่าเพิ่งยอมแพ้ตอนนี้ ขอเวลาผมอีกนิด”
“เวลาของคุณหมดแล้ว ฉันไม่รอคุณแล้ว”
เธอไม่ได้เดินหนีมาอย่างที่ตั้งใจเพราะเมื่อวงแขนใหญ่โอบรัด ความพยายามที่จะไขว่คว้าหาอิสรภาพจึงเริ่มต้นขึ้น เสียงตุบตับจากมือน้อยทุบไปที่แขน เธอก็อยากเข้มแข็งกว่านี้แต่เพราะเสียงทุ้มที่กรอกใส่หูนั่นจึงอดไม่ได้
“เทียนหอมคนดีอย่าทำอย่างนี้ คุณทิ้งผมได้เหรอ”
“ฉันไม่ได้ทิ้งคุณ คุณต่างหากที่ทิ้งฉัน”
“มันไม่เคยอยู่ในหัวผมเลย”
พวงแก้มนวลแนบอยู่ที่ปลายจมูกคมสันต์ลมหายใจของเขาช่างอุ่นนัก เสี้ยวหนึ่งของใจเธออยากอยู่ในอ้อมแขนนี้ต่อไป เธอหยุดดิ้นก่อนหมุนกายกลับไปหา
“งั้นคุณก็เลิกยุ่งกับสุรีนาสิ”
เขาลำบากใจเหลือเกิน แต่ถ้าให้ล้มเลิกตอนนี้ก็เท่ากับที่ทำมาเสียเปล่านะสิ มันใกล้จะสำเร็จแล้วเขาไม่สามารถวางมือได้ ก้มหน้าลงส่ายหัวอย่างช้าๆ
“ยังไม่ได้ ยังไม่ใช่ตอนนี้”
“ถ้าอย่างนั้นก็อย่ามายุ่งกับฉัน”
.................................................
สนุกมากมายกับการอ่านนิยายค่ะ
ความคิดเห็น