ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ฤทธิ์รักคนเถื่อน ผ่านพิจารนาสำนักพิมพ์ แสนรัก (ไลต์ออฟเลิฟ)

    ลำดับตอนที่ #8 : ตอนที่ 8 RENEW

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 7.8K
      28
      26 มี.ค. 59







    SQWEEZ

                    Maroon 5 - One More Night (Boyce Avenue acoustic 




     

    บริเวณห้องโถงด้านล่าง เอมมาลินส่งเสียงหัวเราะอย่างสดชื่นแจ่มใสเมื่อได้ฟังมุกตลกของญารินดาที่พยายามสรรหามาเพื่อให้เธอได้ผ่นคลาย เสียงหัวเราะนี้ดังอยู่ได้ไม่นานมันก็เลือนหายไปเมื่อทั้งคู่เห็นมาธาวียืนอยู่ตรงเคาน์เตอร์ประชาสัมพันธ์กำลังพูดคุยเพื่อผูกไมตรีกับเพื่อนร่วมงานอย่างออกรส คงจะหาพรรคพวกล่ะสิ เอมมาลินก้าวฉับๆตรงปรี่เข้าไปหาเพราะเรื่องบาดหมางเก่าๆ มันเลยไม่ง่ายนักหากเธอจะทำไม่รู้ไม่เห็น

    กล้ามากนะ มาธาวีที่กลับมาเหยียบที่นี่อีก” ปรายตามองบุคคลที่เธอแสนจะเกลียดซึ่งครั้งหนึ่งเคยได้ชื่อว่าเป็นเพื่อนรักก่อนจะเปลี่ยนสถานะมาเป็นศัตรู

    เอม..ไม่เจอกันนานเลยนะ เธอสบายดีรึเปล่า” หล่อนแกล้งทักตอบอย่างคนคุ้นเคย แม้ใจจะหวั่นอยู่บ้าง แน่ล่ะหล่อนเองก็คาดไม่ถึงว่าเอมมาลินจะยังอยู่ที่นี่ หล่อนนึกว่าบริษัทเก่ามันเจ๊งไปแล้ว คิดว่าเปลี่ยนเจ้าของใหม่แล้ว ที่ไหนได้เธอยังอยู่

    ยชญ์ไปไหนซะล่ะ”

    ฉันจะไปรู้กับเขาเหรอ” มาธาวีแกล้งทำไม่รู้ไม่ชี้ ขืนเอมมาลินรู้ว่าหล่อนติดต่อกันอยู่ เกิดยัยนี่เอาเรื่องขึ้นมา หล่อนจะต้องโดนไปด้วยแน่ ฉันเพิ่งรู้ว่าเขาโกงเงินเธอไป ฉันไม่รู้จริงๆ นะ สาบานก็ได้”

    แหม! กล้าพูดนะ ใครๆ เขาก็รู้ว่าพี่กับนายยชญ์แอบมีอะไรกันตั้งนานแล้ว จะมาบอกไม่รู้ไม่เห็นใครจะเชื่อ” ญารินดาแทรกขึ้นมาอย่างเหลืออดพร้อมกันนั้นก็มองหล่อนแบบเหยียดๆ

    เธอไม่รู้อะไรก็อย่าพูดมากดีกว่านะ ญารินดา” มาธาวีจ้องตาเขียวขุ่นแบบคนไม่พอใจเช่นกัน คิดในใจว่าพูดไปเถอะไม่รับเสียอย่างใครจะทำไม

    คนเราทำอะไรไว้ย่อมรู้แก่ใจดี เอาเถอะ..ไอ้เงินก้อนนั้นฉันถือว่าทำบุญทำทานให้สัมภเวสี เธอไปบอกมันด้วยนะว่า ฉันกรวดน้ำสาปส่งมันไปแล้ว ฉันถือว่าดีแล้วที่ฉันเนรเทศมันออกไปจากชีวิตฉันได้ พอไม่มีมันชีวิตฉันก็รุ่งขึ้นมาทันตาเห็น เธอเองก็เถอะ ระวังไว้ให้ดีก็แล้วกัน เวรกรรมเดี๋ยวนี้มันติดจรวด” เอมมาลินใช้รอยยิ้มหยันเยาะเป็นครั้งสุดท้าย ก่อนเดินกระแทกไหล่หล่อนอย่างจงใจ แล้วจากไปพร้อมกับญารินดา

    โดยมาธาวีนั้นยืนกัดฟันแน่นเมื่อโดนอดีตเพื่อนว่าเหน็บ จริงอย่างที่เธอว่า ตอนนี้บริษัทไม่ได้กิ๊กก๊อกเหมือนเดิมแล้ว พอหล่อนรู้ว่าบริษัทนี้กำลังรุ่งสุดๆ ก็รีบมาสมัครงาน แต่โชคร้ายดันมาเจอคู่ปรับเก่าอย่างเอมมาลินจนได้ ตัวมารจริงๆ แต่ไม่เป็นไร หล่อนกำลังคิดว่าจะหากำลังเสริมเอาไว้หนุน และเป้าหมายคงไม่ใช่ใครที่ไหน นอกจากประธานหนุ่มสุดหล่ออย่างเจมส์ แถมยังรวยอื้อซ่า ไม่คว้าไว้ก็โง่แล้ว

                                                               

          

    เอมมาลินออกจากออฟฟิศตั้งแต่บ่าย เหนื่อยกับคน เหนื่อยกับงาน เธอจึงมาเดินเล่นริมทะเล ลัดเลาะไปตามริมหาดที่สงบเงียบ จะมีผู้คนบ้างประปราย  เฝ้าคิดทบทวนเรื่องวุ่นวายที่มันเกิดขึ้นเร็วมากจนเธอตั้งรับไม่ทัน ปัญหาที่เกิดมันก็ไม่ใช่จากใครที่ไหน เพราะเธอเองล้วนๆ ถ้าไม่เพราะความสัมพันธ์ชั่วข้ามคืนในวันนั้น มันก็คงไม่ตามมาซึ่งความกระอักกระอ่วนในวันนี้ แล้วจะโทษใครได้ หากเป็นคนอื่นคงลืมเธอไปนานแล้ว แต่นี่เจมส์กลับตามราวีเธอราวกับพญามัจจุราชที่คอยลากเธอลงหลุมนรกอเวจี ไม่รู้ต้องการอะไรจากเธอนักหนา เพราะฤทธิ์แอลกอฮอล์ตัวร้ายนั่นเลยทีเดียว เธอสาบานกับตัวเองว่าจะไม่แตะต้องมันอีกเด็ดขาด ดวงตาคู่สวยเหม่อมองดวงอาทิตย์ที่เริ่มอ่อนแสง ซึ่งมันก็พอๆ กับคนที่ชักจะเริ่มอ่อนใจ

    อีกมุมหนึ่งชายหนุ่มยืนกอดอกมองออกไปนอกหน้าต่าง ท้องฟ้าเริ่มมืดสลัวแล้ว นึกถึงหญิงสาวอีกคน เธอยังไม่กลับมาเลย ดูท่าว่าจะยังโกรธเขาอยู่ มันก็มีอยู่แวบที่รู้สึกว่าตัวเองพูดแรงไป บางครั้งก็รู้สึกแปลกใจกับตัวเองว่าจะอะไรกับผู้หญิงคนนี้นักหนา นึกถึงค่ำคืนนั้นมันทำให้ใจสับสน เรือนร่างที่แสนยวนใจของเธอยังติดตาตรึงใจ นึกถึงเสียงหวานที่เร่งเร้าอารมณ์ มือเรียวนุ่ม ทุกอย่างในตัวเธอมันทำให้เขาไม่สามารถลืมเรื่องในคืนนั้นได้ลง แม้รู้ว่าเธอไม่อยู่ในสถานะที่จะปฏิเสธได้ รู้ว่าเธอไม่ได้เปิดรับเขาอย่างเต็มที่ และนั่นมันยิ่งทำให้เขาอยากได้เธอเอามาไว้ครอบครอง ความอยากเอาชนะต่อผู้หญิงคนนี้มีมากขึ้นเรื่อยๆ พร้อมๆ กับความรู้สึกบางอย่างที่ก่อขึ้นมาโดยไม่รู้ตัว

    เมื่อหลายวันผ่านไป เอมมาลินยังคงมีสีหน้าบึ้งตึงกับเขาอยู่ตลอดเวลา และเช้านี้เธอก็ออกไปทำงานคนเดียวอีกแล้ว ไม่รู้จะขยันอะไรนักหนา ไอ้บริษัทนี้มันสำคัญกับเธอมากมายขนาดนี้เลยหรือ เช้ายันเย็นคลุกอยู่กับมันไม่มีเบื่อ แรกๆ ก็สนุกดีอยู่หรอกที่เข้ามาจัดการเปลี่ยนแปลงหลายๆ อย่างให้มันดีขึ้น พอตอนนี้มันเข้าที่ เขาก็อยากจะมีเวลาเป็นส่วนตัวทำอย่างอื่นบ้าง ซึ่งตอนนี้เธอยังไม่ยอมทำตามสัญญาเลย

    ในวันหนึ่ง ชายหนุ่มนั่งตรวจงานตามปรกติ โดยมีเลขาสาวสวยยืนประกบในชุดรัดรูปแนบเนื้อ เพียงแต่ว่าบอสหนุ่มกลับเอาแต่นั่งก้มหน้าอยู่กับเอกสาร ไม่สนใจเรือนร่างอันเย้ายวนใจนั่นเลย มาธาวีแอบขัดใจอยู่เงียบๆ มองเขาเซ็นเอกสารขยุกขยิกด้วยใบหน้าเคร่งขรึม ให้ตายสิ ผู้ชายอะไรไม่รู้ดูดีชะมัด เครื่องหน้าสัดส่วนที่มันลงตัวราวกับเทพบุตร ไม่ว่าจะมองมุมไหนก็ดูดีไปหมด หล่อนแกล้งขยับตัว พร้อมกันนั้นแกล้งก้มตัวลงนิดๆ

    เซ็นตรงนี้ด้วยค่ะ” คอเสื้อที่มันกว้างอยู่แล้วยิ่งเปิดหนักเข้าไปอีกเมื่อหล่อนโน้มตัวลง หล่อนแอบสืบประวัติมาคร่าวๆ พอรู้ว่าชายหนุ่มเป็นเสือผู้หญิงตัวฉกาจอย่างหาตัวจับยาก และมั่นใจเสน่ห์ของตนว่าจะทำให้ผู้ชายสนใจได้ไม่ยาก แต่ทว่าเจมส์ไม่แม้แต่จะชำเลืองมองเลยแม้แต่น้อย มัวแต่สนใจเอกสารต่อไปอย่างไม่รู้ร้อนรู้หนาว มันทำความตั้งใจที่จะหว่านเสน่ห์ใส่นายหนุ่มหดลีบลง พอๆ กับใบหน้าเรียวยาวเจื่อนไปเมื่อเขาไร้ความสนใจในตัวเธอ หากเป็นคนอื่นถ้าเธอยั่วขนาดนี้ต้องมีรู้สึกบ้างแหล่ะ เมื่อมือหนาส่งแฟ้มคืนให้หล่อน

    ขอบคุณค่ะ” แอบลอบชำเลืองมองนายหนุ่มจากปลายหางตาท่าทีนิ่งมาก ไม่มีแววลอกแลกปรากฏให้เห็น พลางนึกในใจว่า เอ๊ะรึว่าที่ได้ยินมามันผิดนะ ดูแล้วไม่มีเขี้ยวเล็บเอาเสียเลย

    มีอะไรอีกรึเปล่า” ชายหนุ่มเอ่ยถาม เมื่อหล่อนยังยืนอยู่ที่เดิมไม่ยอมไปไหน

    ไม่มีแล้วค่ะ..เพียงแต่..ฉันกำลังคิดว่า บอสนี่ทั้งหล่อ ทั้งเก่งเลยนะคะ” แถมรวยด้วย หล่อนคิดต่อในใจ ฉันล่ะอดอิจฉาภรรยาของบอสไม่ได้จริงๆ ค่ะ” น้ำเสียงหวานเลี่ยนจีบปากจีบคอประจบประแจงเอาใจ ชะม้อยชายตาให้ประธานหนุ่มแบบสุดๆ

    ภรรยา...ผมไม่มีหรอก” แต่ขณะตอบ อยู่ดีๆ หน้าสวยๆ ของเอมมาลินก็แวบเขามาสร้างความประหลาดใจให้ตัวเขาเองไม่น้อย โดยที่เลขาสาวนั้นพอใจมากกับคำตอบนี้

    อุ้ย! ขอประทานโทษค่ะ เห็นท่านประธานออกจะเพอร์เฟกต์ขนาดนี้เลยคิดว่า...ขออภัยค่ะที่ละลาบละล้วง งั้นฉันขอตัวก่อนนะคะ” แต่หล่อนหันไปได้ไม่กี่ก้าว อยู่ๆ เขาก็เรียกไว้

    เดี๋ยวก่อน”

    มาธาวีแอบอมยิ้มกริ่มนึกว่าแผนยั่วน้ำลายหมาป่าของหล่อนสัมฤทธิ์ผล หันมาส่งยิ้มหวานหยดย้อยให้ คะ”

    ทีหลังแต่งตัวให้เรียบร้อยกว่านี้นะ คุณควรรู้ ว่าแบบไหนถึงจะเหมาะ...ไปได้ละ”

    มาธาวียืนยิ้มค้างกับคำตำหนิที่คาดไม่ถึง หล่อนอุตส่าห์ไปถอยชุดนี้มาตั้งหลายพัน ไม่เพียงไม่ได้ถอนทุนคืน ยังไม่ได้รับความสนใจ พ่วงด้วยคำตำหนิกับความไม่รู้กาลเทศะ ทำเอามึนอยู่ชั่วครู่ก่อนเดินออกมาอย่างงวยงงเป็นที่สุด

    ขณะนั้นเองเจมส์ส่ายหน้าตามหลัง ใช่ว่าเขาจะรู้ไม่ทันว่าหล่อนให้ท่า แบบนี้เขาเจอบ่อยมากจนชิน หากเป็นเขาเมื่อก่อนคงจะตะครุบอย่างตะกละตะกลามไปแล้ว ไม่รู้เหมือนกันว่าความรู้สึกแบบนั้นมันหายไปไหนหมด ความหลงใหลในเนื้อหนังมังสามันเหือดแห้งหายไปตั้งแต่ตอนไหนไม่รู้เลย อาจเป็นเพราะช่วงนี้เขาทำงานหนักจนไม่มีเวลาให้กับเรื่องพวกนี้ก็เป็นได้ ตอนนี้เขากลายเป็นแมวเซาที่ไร้เขี้ยวเล็บไปซะแล้ว พอมาถึงจุดๆ หนึ่งที่มันเริ่มเบื่อหน่าย ชีวิตสำราญที่เขากอดไว้แน่นมาหลายปี แต่กระนั้น เขาก็คงยังไม่พร้อมที่จะมีพันธะ เวลานี้เขาควรอยู่ที่เอมริกาแต่กลับมานั่งทำบ้าอะไรอยู่ตรงนี้ ไม่รู้ป่านนี้น้องชายตัวดีจะหัวหมุนสักแค่ไหนคงบ่นอุบอยู่เป็นแน่ที่โดนทิ้งให้สะสางงานคนเดียว พลันนึกขำในใจ แต่เขาทำแบบนี้ก็ดีเหมือนกัน รายนั้นชอบเตร่ไปเตร่มาไปวันๆ ไม่ค่อยเอางานเอาการและมักทำเรื่องให้เขาปวดหัว ชายหนุ่มคลี่ยิ้มบางๆออกมา เมื่อนึกถึง เลียม ลูกพี่ลูกน้องแสนจะเอาแต่ใจนั่งจมอยู่กับกองเอกสาร คงเป็นอะไรที่น่าขำเอามากๆ เลียมเป็นญาติคนเดียวที่เหลืออยู่ของเขา รักอิสระเป็นที่สุด ถ้าจะให้หยุดนิ่งอยู่กับที่ยากยิ่งกว่าอะไรดี เมื่อนึกขึ้นได้คงต้องโทรไปเช็คเสียหน่อยแล้ว

    “ไงพี่ชาย โทรมาได้เสียที หายไปเลยนะนึกว่าจะตัดขาดกันไปแล้วเสียอีก” คำแรกที่ได้ยินจากคนทางปลายสายสนทนาคือคำประชดประชันซึ่งมันกลับทำให้เจมส์หัวเราะร่วนอย่างขบขัน คิดว่าตอนนี้เลียมคงหัวเสียเป็นอย่างมากแน่

    “เฮ้ย พูดอะไรอย่างนั้นเล่าทำอย่างกับฉันไม่ได้ติดต่อไปเลยอย่างงั้น ก็แค่ช่วงนี้ฉันยุ่งมากเท่านั้นเอง แล้วที่นั่นเป็นไงบ้างฮึ”

    “ปวดหัวมาก พี่ก็รู้ว่าผมไม่ชอบอยู่กับกองเอกสารเห็นแล้วมันทำให้สุขภาพจิตตก เมื่อไหร่พี่จะกลับมาเสียทีขืนปล่อยให้ผมอยู่กับมันต่อไปผมต้องบ้าแน่ๆ” โอดครวญให้ผู้เป็นพี่ฟัง

    “เอาน่าคงอีกพักใหญ่แหละ แกก็อย่าบ่นนักเลยให้ดูแลบริษัทแทนแค่นี้ไม่ตายหรอก แกอยู่สบายมานานแล้วทีนี้จะได้รู้ไงว่าฉันรู้สึกยังไง”

    “โหย...ไม่แฟร์เลย ทำไมพี่ได้ไปเที่ยวแต่ผมกลับต้องมานั่งแหง่วตรงนี้คนเดียว ไม่รู้ล่ะผมจะตามพี่ไป”

    “ห้ามมานะเข้าใจไหม ถ้าแกมาแล้วใครจะดูบริษัทล่ะ น่าเลียมไว้ฉันเคลียงานตรงนี้ให้เรียบร้อยก่อน” เจมส์สั่งเสียงเข้มอีกฝ่ายไม่ได้ตอบรับหรือปฏิเสธแต่กลับส่งคำถามมาแทน

    “ถามจริงเถอะที่นั่นมีอะไรดี จริงรึเปล่าที่พี่ติดหญิงน่ะ”

    “เฮ้ย...ติดหญิงอะไรกันฉันมาทำงานนะเว้ย” น้ำเสียงติดขัดเล็กน้อยปฏิเสธความจริงที่ว่าเขาอยู่ที่นี่ก็เพราะผู้หญิงจริงๆ นั่นแหล่ะ แต่ไหนแต่ไรมาสำหรับเขางานต้องมาเป็นอันแรกเสมอแต่เพราะเธอกลับทำให้เขาต้องทิ้งมันมา “เอาเป็นว่าแกอยู่นั่นดูแลบริษัทให้ดีแล้วกัน และเลียมห้ามขัดคำสั่งฉันนะเข้าใจไหม” เจมส์ยังสั่งย้ำตบท้าย แม้รู้ว่ามันอาจไม่ค่อยเป็นผลสำหรับเลียมเพราะรายนั้นไม่ค่อยทำตามคำสั่งอยู่แล้ว

    และก็จริงดังที่เจมส์คาด เลียมไม่ใช่คนที่ทำตามคำสั่งใครง่ายๆ อยู่แล้วแม้แต่กับพี่ชาย ก็มันน่าสงสัยเจมส์ไปทำอะไรที่เมืองเล็กๆ แบบนั้นกัน แน่ล่ะเมื่อสงสัยจะมีอะไรสนุกไปกว่ากับไปดูมันกับตาตัวเอง อาจมีเรื่องสนุกรออยู่ก็เป็นได้ ความคิดนี้ทำให้ใจกระชุ่มกระชวยขึ้นมาเป็นกองเลย เขาทนหมกตัวอยู่ในทำงานมานานนับเดือนก็ถือว่ามีความอดทนสูงมากแล้ว แล้วเจอกันนะพี่ชาย หึๆ เลียมเหยียดยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์กับแผนการของตน




     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×