ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ฤทธิ์รักคนเถื่อน ผ่านพิจารนาสำนักพิมพ์ แสนรัก (ไลต์ออฟเลิฟ)

    ลำดับตอนที่ #16 : ตอนที่ 16 RENEW

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 1.4K
      2
      3 เม.ย. 59


    f SQWEEZ






    หมู่บ้านจัดสรรแห่งหนึ่ง เวลาพลบค่ำ แสงไฟจากรถเก๋งสาดส่องเข้าไปในตัวบ้านหลังเก่าขนาดสองชั้น เมื่อมันจอดสนิทมาธาวีก้าวเท้าลงมาพร้อมกับของพะรุงพะรังเต็มสองมือ หลังเลิกงานเธอแวะซุปเปอร์มาเก็ตใกล้ๆ บ้านหาซื้อเสบียงมาตุนไว้เหมือนอย่างเคย ดึงเอากุญแจบ้านออกมาจากกระเป๋าก่อนจะขมวดคิ้วมุ่นเมื่อเธอพบว่าประตูบ้านมันมีรอยงัดแงะ ผลักบานประตูเบาๆ ข้างในมืดสนิท เธอเอื้อมมือไปเปิดสวิตไฟที่อยู่ซ้ายมือ พอไฟติดพรึ่บก็เห็นคนนั่งอยู่บนโซฟาอย่างสบายอารมณ์ มาธาวีเผลอร้องอุทานออกมาด้วยความตกใจ

    ยชญ์! มาทำอะไรที่นี่” เอ่ยทักเสียงเขียวขุ่นพร้อมกับความไม่พอใจที่เขาถือวิสาสะเข้ามาโดยไม่ได้รับอนุญาต

    ทำเป็นแปลกใจไปได้ ก็มาหาเมียนะสิจ๊ะ ใจร้ายนะเธอเนี่ย แอบเปลี่ยนกุญแจบ้าน”

    พอดีฉันทำกุญแจบ้านหาย เลยเปลี่ยนใหม่” แก้ตัวแบบขอไปที ทั้งที่ความเป็นจริงเธอจงใจเปลี่ยนใหม่ชัดๆ แล้วนี่..เธอได้งานรึยัง”

    ยัง..แต่ฉันตั้งใจจะไปทำงานกับเพื่อนฉันที่ต่างประเทศ” มาธาวีเผลอยิ้มด้วยความโล่งใจได้แป๊บเดียวเท่านั้น ก่อนที่มันจะเลือนหายไปเมื่อชยญ์พูดต่อไปว่า แต่มันมีค่าใช้จ่ายสูง ฉันก็เลยว่าจะมายืมเงินเธอไปทำทุนสักหน่อย”

    ฉันไม่มีหรอก”

    อะไรกัน ฉันได้ยินบริษัทที่เธอเข้าไปทำงานมันกำลังไปได้สวยเลยไม่ใช่เหรอ ได้ยินว่ากำลังจะได้โบนัสนี่” ข่าวนี้ไปไวมากเมื่อวันก่อนเขาบังเอิญได้ยินพนักงานของบริษัทนี้พูดคุยกัน “ไม่เอาน่า เรามันก็คนคุ้นเคย อย่าใจร้ายกับฉันสิ”

    ได้น่ะมันได้อยู่แล้ว แต่คงจะไม่มากหรอก” มาธาวีว่า พยายามไม่แสดงอาการหงุดหงิดใส่ ไอ้หมอนี่มันแมงดาชัดๆ คิดจะดัดหลังเพื่อนเพื่อความสะใจกลับกลายเป็นเอาห่วงมาผูกคอตัวเอง แอบเมินหน้าหนีด้วยความเจ็บใจ ก่อนที่ตาคู่เฉี่ยวจะหรี่ลงเมื่อคิดอะไรออก เธอสยายยิ้มนิดๆ จากนั้นจึงเดินไปนั่งลงข้างๆ เบียดร่างกระแซะเข้าไปใกล้ เอางี้ไหมล่ะ ถ้าเธออยากได้เงิน งั้นก็...ไปขอแฟนเก่าเธอสิ”

    หือ! เอมนะเหรอ เฮอะ...นี่เธอคิดว่าฉันโง่รึไง ขืนโผล่ไปมีหวังจับฉันโยนเข้าคุกนะสิ”

    โอ๊ย..ไม่หรอกน่า ฉันว่านะเอมน่าจะยังรักเธออยู่นะ ไม่งั้นเธอคงเอาเรื่องฉันแล้ว  แต่นี่ยังยอมให้ฉันกลับเข้าไปทำงานในบริษัท  เธอก็รู้ยัยเอมขี้ใจอ่อนจะตายถ้าเธอตื้อเขาหน่อยนะ อีกอย่างเดี๋ยวนี้นะบริษัทกำลังรุ่งเลย แถมตอนนี้ยัยเอมได้นายทุนใหม่รวยระดับมหาเศรษฐี ถ้าเธอเกาะยัยเอมได้ รับรองสบายไปทั้งชาติ” มาธาวีพยายามยุแยง แน่นอนถ้าเขาทำสำเร็จเธอจะได้มีโอกาสจัดการเอมมาลินกระเด็นออกไปให้พ้นทาง เธอรู้ว่าชายคนนี้มีความละโมบโลภมากอย่างหาที่ใดเปรียบ และดูเหมือนอีกฝ่ายก็ดูจะคล้อยตามจึงแอบยิ้มกริ่มอย่างหมายมั่น

    มันก็น่าสนอยู่นะ..ว่าแต่เธอเถอะ มายุฉันแบบนี้ ไม่ใช่หวังจะงาบไอ้เศรษฐีนั่นเองหรอกนะ” ยชญ์สวนกลับอย่างคนรู้ทัน มันทำเอารอยยิ้มบางๆ จางไปใบหน้าสวย แต่ก็ยังปั้นหน้าฝืนยิ้มต่อไป

    แหม! ยชญ์ก็ พูดอะไรอย่างนั้น ถ้าเธอสบายฉันก็สบายไปด้วยไม่ใช่เหรอ”

    แล้วไป อย่าให้ฉันรู้นะว่าเธอคิดจะหักหลังฉัน ไม่งั้นฉันเอาเธอตาย”

    ไม่หรอก ฉันรักเธอจะตาย ทำแบบนั้นได้ยังไง” ยกแขนนุ่มพาดคอชายหนุ่มพร้อมส่งยิ้มหวานไปให้และอีกฝ่ายก็ดูพออกพอใจนัก วงแขนแกร่งฉวยเอาร่างบางเข้ามาแนบชิด ก่อนจูบอย่างดูดดื่มเจ้าตัวจำเป็นต้องตอบรับ แม้จะรังเกียจและขยะแขยงเต็มทนแต่เพราะหวังจะใช้ประโยชน์จากเขาจำเป็นต้องยอมทนอย่างเสียไม่ได้

     

    ในตัวเมืองของวันถัดมา ย่านชุมชนที่มีผู้คนพลุกพล่าน จังหวัดพังงาเป็นเมืองท่องเที่ยวขึ้นชื่อแห่งหนึ่ง เป็นเมืองที่สวยงามติดอันดับ ดังนั้นจึงไม่น่าแปลกที่จะมีคนต่างชาติปนเปคละเคล้ากันให้เห็นจนชินตา เอมมาลินเดินออกมาจากโรงพยาบาลหลังจากที่มาตรวจสุขภาพประจำปีตามที่หมอซึ่งเธอก็ทำเป็นประจำอยู่แล้ว พลันสายตาเหลือบไปเห็นใครคนหนึ่งที่อยู่อีกฟากของถนนกำลังมุ่งตรงมาหา

    เอม..” ชายร่างสูงใหญ่เอ่ยทัก หญิงสาวมองชายคนที่อยู่ตรงหน้า ชายคนที่ครั้งหนึ่งเธอเคยหลงจนหัวปักหัวปำ และก็ลงเอยด้วยการถูกทรยศหักหลัง

    ภายในร้านคาเฟ่ริมทาง เอมมาลินนั่งนิ่งจ้องมองอีกฝ่ายโดยไม่รู้สึกรู้สาอะไรแล้ว แม้ที่ผ่านมาเธอจะโดนเขากระทำย่ำยีหัวใจจนไม่เหลือชิ้นดี ความรู้สึกดีๆ ที่เคยมีให้มันจางหายไปกับสายลมนานแล้วคงเหลือเพียงแต่ความเกลียดชังที่เบาบาง

    “ฉันเสียใจจริงๆ กับเรื่องที่เกิดขึ้น ฉันผิดไปแล้ว น้ำเสียงวิงวอนร้องขอความเห็นใจจากอีกฝ่ายที่ไม่มีแม้แต่ความอาทรอยู่ในแววตา

    มาเสียใจตอนนี้มันสายไปหน่อยไหม” ปรายตามองเขาอย่างนึกรังเกียจ

    ฉันขอโทษ ฉันรู้ว่าเธอยังโกรธ แต่ฉันยังรักเธออยู่นะ” เขาพูดแบบหน้าด้านๆ หวังว่ามันจะได้รับการอภัย

    กล้าพูดนะ อย่างเธอรักก็แต่ตัวเองเท่านั้นแหละยชญ์ คิดว่าก่อเรื่องให้ฉันมากมาย แล้วมาบอกว่ารักคำเดียวมันจะจบทุกอย่างได้เหรอ เคยได้ยินคำนี้ไหม เจ็บแล้วจำคือคน เจ็บแล้วทนคือควาย เธอคิดว่าฉันจะเป็นคน หรือเป็นควายดีล่ะ” น้ำเสียงค่อนขอดแบบสุดๆ พร้อมจุดยิ้มที่มุมปากอย่างดูหมิ่น ยิ่งนับวันเธอยังรู้สึกว่าเขาน่าขยะแขยงเต็มทน ไม่น่าเชื่อเลยว่าเธอเคยตาต่ำถึงขนาดไปคว้าเอาชายคนนี้มาเป็นแฟน “เหตุผลเดียวที่ฉันยังไม่ส่งเธอเข้าคุก ก็เพราะฉันเบื่อที่จะต้องจองล้างจองผลาญกันไม่จบไม่สิ้น สิ่งเดียวที่ฉันอยากได้จากเธอตอนนี้ ไม่ใช่คำขอโทษหรือคำว่ารัก เพราะมันไม่มีค่าอะไรกับฉันอีกแล้ว แต่ที่ฉันอยากได้จากเธอที่สุดในตอนนี้ก็คือ ช่วยไปไกลๆ จากชีวิตฉัน” บอกอย่างเน้นหนักกับเจตนารมณ์ที่ไม่ต้องการให้อีกฝ่ายเข้ามาวุ่นวายกับชีวิตเธออีกต่อไป

    เอม..” ชายหนุ่มครางเสียงอ่อย ทั้งที่ใจเดือดแบบสุดๆ เอื้อมมือออกไปกุมมือเรียว แต่เธอดึงมันกลับไม่อยากให้เขาแตะต้องเธอแม้แต่ปลายเล็บ

    อย่ามายุ่งกับฉันอีก ไม่งั้นฉันอาจเปลี่ยนใจอยากได้เงินคืน” กล่าวทิ้งท้ายก่อนจะสะบัดร่างระหงลุกเดินออกมาอย่างไม่สนใจใยดี ยชญ์มองตามหลัง พร้อมบดกรามแน่นจนเกิดเสียงดังกรอดๆ ทำเป็นหยิ่ง รู้หรอกน่าว่ายังอาลัยอาวรณ์เขาอยู่ ไม่งั้นคงจับเขาเข้าคุกไปแล้ว ให้เลิกยุ่งเหรอ ไม่มีทางซะล่ะ ยิ่งตอนนี้เธอเป็นเหมือนบ่อเงินบ่อทองพร้อมยกมือเกาคางสากพร้อมมุมปากจุดประกายเมื่อมองรถคันงามแล่นออกไป

    ภายในบริษัทยามสาย เอมมาลินเดินขึ้นมายังห้องทำงาน ทิ้งตัวลงนั่งบนเก้าอี้ตัวโปรดอย่างอ่อนแรงในใจยังคิดว่าคนเราจะด้านได้ขนาดนี้เชียวหรือ ทำเรื่องเลวๆ เอาไว้ยังกล้ากลับมาขอความเห็นใจ เธอก็อยากจะเอาเรื่องอยู่หรอก แต่ถึงทำไปก็ไม่ช่วยให้อะไรดีขึ้น เพราะรู้ว่าคนอย่างยชญ์คงไม่มีเงินมาคืนหรอกและเธอก็ไม่อยากจองเวรอะไรอีกแล้ว แค่ทุกวันนี้ก็ปวดหัวจนแทบจะระเบิดอยู่แล้ว ไม่อยากเอาเรื่องเก่ามาทำให้กลุ้มหนักขึ้นไปอีก โดยขณะนั้นเองเสียงโทรศัพท์บนโต๊ะก็ดังลอยขึ้นมา พอยกหูฟังเธอก็ต้องย่นคิ้วเรียวนิดเมื่อเสียงจากปลายดังลอดออกมา นิ่งฟังอยู่ชั่วครู่ ก่อนจะวางมันลงด้วยความไม่พอใจแล้วลุกออกไป

    เอมมาลินมาหยุดยืนหน้าห้องทำงานของเจมส์อย่างเสียไม่ได้ พอเธอก้าวเท้าเข้ามาในบริษัทไม่ทันไร เขาก็เรียกเธอมาหาทันที พรูลมหายใจช้าๆ เธอไม่เห็นมาธาวีอยู่หน้าห้อง เลยตัดสินใจเคาะประตูก่อนจะแทรกร่างเข้าไปเมื่อได้ยินเสียงอนุญาตจากด้านใน เจมส์นั่งไขว่ห้างโดยเอนหลังพิงพนักเก้าอี้ใบหน้าคมสันเคร่งเข้มอยู่ตลอดเวลา สองมือประกบกันและยังปรายตามองหญิงสาวที่เดินหน้ามุ่นมุ่ยมาหา

    คุณเรียกฉันมาทำไมคะ” เอ่ยถามห้วนหุ้นแบบไม่มีหางเสียง เขาแทบจะไม่เคยเห็นเธอพูดเสียงอ่อนเสียงหวานกับเขาเลย

    “เห็นญารินดาบอกว่าเมื่อเช้าคุณไปโรงพยาบาลมาเหรอ”

    “ค่ะไปตรวจสุขภาพประจำปี”

    “ทำไมไม่บอกผมล่ะ ผมจะได้พาไป”

    “มันก็แค่เรื่องเล็กน้อย ทำไมต้องรบกวนคุณด้วยคะ ฉันไปเองได้”

    “ไหนดูสิ หมอว่าไง” ชายหนุ่มเอ่ยถามต่อและยื่นมือไปหาแต่เธอกลับเบี่ยงหลบ

    “คุณจะรู้ไปทำไม ไม่เกี่ยวกับคุณเสียหน่อย” เธอไม่เข้าใจเลยว่าเขาจะมาใส่ใจเรื่องของเธอทำไมมันไม่ได้เกี่ยวอะไรกับเรื่องงานเลยสักนิด

    “แล้วผมจะรู้อะไรเกี่ยวกับหุ้นส่วนตัวเองไม่ได้หรือ”

    “ฉันไม่เป็นอะไรค่ะ ทุกอย่างปรกติดี” หญิงสาวตอบแบบขอไปทีแต่มันทำเอาชายหนุ่มเกิดอาการหมั่นไส้ที่เหมือนพยายามจะกันเขาออกจากเธอจึงนึกสนุกคว้าเอวเล็กหมับก่อนจับมานั่งตัก

    “เจมส์ ทำอะไรของคุรเนี่ย”

    “ไหนๆ ก็ให้หมอตรวจไปแล้ว ก็ให้ผมตรวจซ้ำอีกทีจะเป็นไรเผื่อหมอตรวจไม่ละเอียด หากเป็นอะไรผมจะได้รักษาให้มันหายไง” โดยเฉพาะโรคความจำเธออาจจะเป็นหนักเพราะมักทำเป็นลืมเรื่องสัญญาอยู่เรื่อย มือไม้เริ่มตรวจตราไปตามสัดส่วนทำเอาเจ้าตัวเกร็งทีเดียว พอเขายื่นใบหน้าคมเข้มเข้าหา เธอเอี้ยวหน้าหลบซะด้วย มือน้อยๆ ก็ยังยันอกเขาไว้ ดวงหน้าแดงก่ำไม่ชอบสายตาแบบนี้ของเขาเลย มันเปล่งประกายความเจ้าเล่ห์ฉายชัดออกมาและมักทำให้ใจดวงน้อยร้อนรุ่มอย่างอธิบายไม่ได้ มือหนาของเขาพาดอยู่บนเอวคอดแล้วลูบไล้ป่ายปัดเวียนวนอยู่ตามแผ่นหลัง แม้มีเนื้อผ้าลินินคั่นกลางก็ไม่อาจปิดกั้นไอร้อนจากฝ่ามือแข็งแรงของเขาได้ บางอย่างพุ่งจากท้องน้อยขึ้นมาบนใบหน้าหวานจนร้อนวูบวาบ มืออีกข้างก็ยังเชยคางมนให้หันมาสบตาสีไพลินที่แสนทรงเสน่ห์ชวนใจละลาย มันทำให้นัยน์ตาคู่หวานสั่นระริก เอมมาลินเกิดอาการลมหายใจติดขัดซึ่งมักเกิดขึ้นอยู่บ่อยๆ เมื่อเขาทำแบบนี้ ร่างบางพยายามจะปลดพันธนาการที่รัดแน่น

    ฉัน..ถ้าคุณไม่มีอะไรแล้ว ฉันไปทำงานล่ะนะ” เธอพยายามเลี่ยง แต่อีกฝ่ายไม่ยอมปล่อยมือ

    ทำไม อยู่กับผมแค่ห้านาทีไม่ได้รึไง”

    ก็นี่มันวะ..” เขาไม่ยอมให้เธอพูดจบก็ปิดปากเธอด้วยจุมพิตอันแสนเร่าร้อน เธอทำได้เพียงส่งเสียงดังอื้อๆ อยู่ในลำคอเล็กอุ้งมือหนากดแผ่นหลังเนียนเข้าหาตัว ความรู้สึกบางอย่างแล่นพล่านอยู่ในใจเมื่อลิ้นร้อนนั้นดุนดันเข้ามาจุมพิตอันหวามไหวทำให้เธอเผลอเปิดรับโดยไม่รู้ตัวเหมือนว่าตัวเธอกำลังจะละลายด้วยไฟปรารถนาอันแรงกล้าของเขาหรือไม่ก็ของเธอเอง มันอ่อนยวบยาบเมื่อมือหนาสัมผัสวุ่นวนไปตามส่วนเว้าส่วนโค้งของเรือนร่างอรชร เอมมาลินหลงปล่อยใจระเริงกับรสจูบอันดูดดื่ม จนเมื่ออยู่ๆ ก็มีเสียงเคาะประตูดังขึ้นขัดจังหวะเลยทำให้เอมมาลินได้สติและพยายามจะดันตัวออกจากตักกว้างด้วยเกรงว่าคนด้านนอกอาจจะเข้ามาเห็นภาพที่ไม่น่าดูนี้โดยเฉพาะเมื่อเธออยู่บนตักของชายหนุ่ม แต่ทว่าวงแขนแกร่งไม่ยอม ยังเกาะอยู่บนเอวกิ่วอย่างเหนียวแน่น

    เจมส์ ปล่อย” เธอบอกเสียงอ่อย แต่ชายหนุ่มส่ายหน้าพร้อมกับกระตุกยิ้มพรายอย่างคนเจ้าเล่ห์ ก่อนจะเอ่ยอนุญาตคนที่อยู่ด้านนอก เอมมาลินเขม่นตาขวางใส่ พอบานประตูเปิดออกมา พร้อมกับร่างบางของเลขาคนสวยหล่อนถึงกับผงะเมื่อเห็นภาพที่เอมมาลินนั่งอยู่บนตักประธานหนุ่มสุดหล่ออย่างสนิทสนม

    มีอะไร” เสียงแหบห้าวเอ่ยถาม โดยที่มือยังไม่ล่ะจากเอวบาง แสดงให้เห็นถึงความสัมพันธ์อันลึกซึ้งผิดจากเอมมาลินที่อยากมุดลงไปใต้โต๊ะด้วยความอับอายเหลือเกิน เธอไม่กล้าแม้แต่จะสบตามาธาวีตรงๆ

    คือ ฉันเอาเอกสารรายชื่อโรงแรมมาให้ค่ะ”

    อืม..วางไว้นั่นแหล่ะ” จบคำเขา มาธาวีเข้าใจว่าโดนไล่ จำต้องปลีกตัวออกมาอย่างเลี่ยงไม่ได้ เหลียวกลับไปมองทั้งที่เธอยังออกมาไม่ทันพ้นประตูเลย สิ่งที่ทั้งสองแสดงออกต่อกันมันเป็นภาพที่ขัดตาเธอมากเหลือเกินคนที่นั่งอยู่ตรงนั้นไม่ควรจะเป็นเอมมาลินแต่ควรเป็นตนต่างหาก พลางคิดในใจว่านายยชญ์ทำบ้าอะไรอยู่เนี่ย ไม่ลงมือเสียที

     





     









    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×