ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    พรหมลิขิตรักสองภพ

    ลำดับตอนที่ #17 : ตอนที่ 16

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 732
      7
      20 ส.ค. 58



    CR.SQW



    พันอินพาเธอกลับมาที่เรือนอย่างโมโหโทโส เพียงออสะบัดแขนจนหลุดด้วยความโกรธกรุ่นเช่นกัน เพราะไม่เคยเห็นพันอินเป็นแบบนี้มาก่อน เลยทำให้เธอพูดอะไรไม่ออกชั่วคราว แต่หลังจากที่เรียกสติกลับมาได้ ถ้อยคำร้ายกาจที่เขาพ่นใส่เมื่อครู่ราวกับพิษร้ายที่แทรกซึมเข้าไปในหัวใจอันบอบบาง มันทำให้อารมณ์เธอคุกรุ่นขึ้นมาเรื่อยๆ แถมยังบังคับให้เธอกลับมา ทำราวกับว่าเธอเป็นบ่าวไพร่ในเรือนไม่มีสิทธิ์มีเสียงอะไร

    “ปล่อยฉันนะ! คุณมันบ้าอำนาจ...เอาแต่ความคิดตัวเองเป็นใหญ่”

    “หากเจ้าฟังแต่แรก พี่คงมิต้องทำเช่นนี้ดอก พี่เคยบอกแล้วใช่หรือไม่ว่าอย่าไปหามันอีก เหตุใดเจ้าจึงไม่ฟังคำพี่ จะให้พี่อกแตกตายหรืออย่างไร” เขาแค่นเสียงคำรามใส่หน้า ศรีนวลกับพวกบ่าวไพร่ลงมาจากเรือนด้วยความตกใจ

    “ฉันไม่ได้ทำอะไรเสียหาย คุณจะอะไรกับฉันนักหนา ฉันไม่ได้ทำอะไรผิดและฉันก็ไม่ใช่คนใช้ เพราะฉะนั้นอย่ามาออกคำสั่งกับฉัน” เธอเชิดหน้าขึ้นสู้อย่างไม่หวั่นเกรง

    “ใช่! พี่ออกคำสั่งกับเจ้าไม่ได้ แต่พี่ออกคำสั่งกับคนในเรือนได้ และหากมันผู้ใดไม่ฟัง พี่จักลงโทษมันให้หนัก อ้ายบุญลือเอ็งไปเอาหวายมา กูจะลงโทษอ้ายก้านโทษฐานที่มันกล้าขัดคำสั่งกู” เขาสั่งเฉียบขาด

    “ขอรับ!” บุญลือรับคำ ก่อนจะเดินหายไปหลังบ้าน ก้านที่นั่งหมอบ ตัวสั่นเทาด้วยความหวาดกลัว ยกมือไหว้เหนือหัว

    “ท่านพินอินโปรดเมตตากระผมด้วยเถอะขอรับ กระผมจะไม่ทำเยี่ยงนี้อีก”

    “มึงน่ะตัวดีอ้ายก้าน กูสั่งมึงแล้วใช่หรือไม่ แต่กระนั้นมึงก็ยังกล้าขัด หากกูมิลงทัณฑ์มึงให้หนัก คนอื่นจะเอาเยี่ยงอย่าง เรือนหลังนี้กูเป็นผู้ปกครอง คำสั่งของกูคืออาญาสิทธ์ หากมันผู้ใดมิฟังแล้วไซร้ มันก็จักต้องโดนเช่นนี้แล” สิ้นเสียงเขา บุญลือก็กลับมาพร้อมกับหวายขนาดเหมาะมือ เพียงออรีบไปขวางอย่างร้อนรน

    “นี่! อย่านะ คุณโกรธ คุณโมโหก็มาลงที่ฉันสิ ฉันบังคับก้านให้เขาพาไปเอง เขาไม่เกี่ยวอะไรด้วย”

    “พี่มิทำเจ้าดอก แต่ไอ้ก้านมันเป็นทาสในเรือน เมื่อกล้าขัดคำสั่งผู้เป็นนาย ก็ย่อมถูกลงโทษตามกฎ หลีกไป!” พันอินผลักเพียงออไปห่างๆ ก่อนจะหวดหวายลงไปบนแผ่นหลังของทาสหนุ่มอย่างไร้ความปราณี เสียงหวายกระทบเนื้อดังสนั่น ก้านร้องโอดโอยอย่างน่าเวทนา แต่กระนั้นเขาก็ไม่กล้าที่จะทัดทาน ยอมหมอบอยู่นิ่ง จนเพียงอออดสงสารเขาไม่ได้ พันอินลงหวายไปได้เพียงสามที หญิงสาวทนดูความป่าเถื่อนไม่ไหว

    “หยุดเดี๋ยวนะ ทำไมคุณถึงโหดร้ายแบบนี้ ถ้ากล้าตีเขาอีกแม้แต่ครั้งเดียว ฉันจะหนีไปจากบ้านหลังนี้” เพียงออพูดเสียงดังลั่น มองก้านนั่งหมอบคู้ตัวสั่นด้วยความสงสารจับใจ อดร้องไห้ตามไม่ได้ เธอทนมองเขาต่อไปไม่ไหว วิ่งกลับขึ้นเรือนไป โดยพันอินชะงักค้างและมองตามหลังเธออย่างสับสนสุดท้ายเขาจำต้องทิ้งหวายในมือ

    “มึงจำไว้ให้ดีนะอ้ายก้าน หากมึงกล้าขัดคำสั่งกูอีก คราหน้ามึงจะโดนหนักกว่านี้” จบคำ พันอินก็เดินลิ่วๆ กลับขึ้นเรือนไปอีกคน

    “บุญเอ็งแล้วอ้ายก้านเอ๋ย ที่โดนเท่านี้...นางอาบเอ็งช่วยหาหยูกยามาใส่ให้มันที” บุญลือว่า มองทาสหนุ่มด้วยความเห็นใจ เลือดซึมออกมาจากรอยยาวๆ พาดอยู่กลางหลัง เนื้อปริแตกอย่างน่ากลัว ศรีนวลกับนางปริกแอบหัวเราะคิกคักด้วยความสะใจเป็นอย่างยิ่ง


                                        

     

     

                                                   

    เพียงออกลับมาเข้ามาในห้อง ทิ้งตัวลงนั่ง ซบหน้ากับโต๊ะเครื่องแป้งร้องไห้ ทำไมเธอต้องมาเจอเรื่องโหดร้ายแบบนี้ด้วยนะ นึกสงสารก้านจับใจ เกิดเป็นทาสเขา แม้จะเจ็บปวดปางตายก็มิอาจมีสิทธิ์เรียกร้องอะไรได้ เขาต้องเดือดร้อนเพราะเธอแท้ๆ ทำไมพันอินถึงเป็นคนแบบนี้นะ เขาเคยเป็นคนจิตใจดีกว่านี้ แต่ทำไมถึงกลายเป็นคนโหดร้ายป่าเถื่อนไปได้ คิดแล้วก็ให้โมโหนัก เธอคว้าเอากระเป๋าสะพาย เก็บของใส่แบบลวกๆ ไม่อยู่มันแล้วบ้านหลังนี้ มีแต่คนใจดำ เสียงประตูเปิดเข้ามา พันอินมองกระเป๋าในมือด้วยสีหน้าตกใจ

    “แม่จะไปไหน”

    “ไปไหนก็ได้ที่ไม่ใช่ที่นี่”

    “พี่ไม่ให้ไป” ชายหนุ่มยืนขวางประตู ให้ตายยังไงเขาก็ไม่ยอมให้เธอไปไหน

    “หลีกไป! คุณมันคนใจร้าย ใจดำ เอะอะก็ใช้กำลัง คนเผด็จการแบบนี้ฉันอยู่ด้วยไม่ได้หรอก”

    “พี่ก็ไม่ได้ตีมันแล้วไง เจ้าก็อย่าเคืองขุ่นไปเลย” ชายหนุ่มมีสีหน้าอ่อนลงเพราะกลัวว่าเธอจะทิ้งเขา มองใบหน้านวลที่มันเต็มไปด้วยคราบน้ำตา ใจอ่อนยวบลงในทันใด

    “ถอยไป!” เธอยังมีสีหน้าดื้อรั้น จนคนฟังใจเสีย

    “พี่ให้เจ้าไปไม่ได้ดอก เจ้าเป็นเมียพี่ พี่จะไม่ยอมให้เจ้าไปตกระกำลำบากที่ไหน”

    “เลิกพูดคำนี้ซะทีได้ไหม คำก็เมีย สองคำก็เมีย ฉันไม่ได้เป็นเมียคุณ ฉันซาบซึ้งใจนะที่คุณเคยช่วยฉันไว้ แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าคุณมีสิทธ์ในตัวฉัน รู้ไว้ซะด้วยนะ ว่าระหว่างเรามันเป็นไปไม่ได้ ต่อให้ฟ้าถล่ม โลกทลายฉันก็ไม่มีวันรักคุณได้”

    คำพูดของเธอมันไปแทงจุดเจ็บในใจเขาอย่างแรง ความเจ็บปวดส่ออกมาทางแววตา

    “เพราะอะไร เจ้ารังเกียจพี่ถึงเพียงนี้เชียวหรือ”

    “ใช่ฉันเกลียดคุณ ฉันเกลียดคนที่ชอบวางอำนาจบาตรใหญ่ เกลียดคนที่เอะอะก็ใช้กำลัง”

    “ที่เจ้าเป็นเช่นนี้ ก็เพราะใครคนนั้นที่รอเจ้าอยู่ใช่หรือไม่ ที่อยากกลับบ้านนักหนา ก็มีชายคนรักรออยู่ใช่ไหม”

    “ถ้าใช่แล้วจะทำไม ใช่! ฉันมีคนรักรออยู่ และฉันก็รักเขามากด้วย ฉันเฝ้านับวันรอเพื่อที่จะได้กลับ กลับไปหาคนที่ฉันรัก พอใจไหม ฉันไม่มีวันรักคุณ เพราะฉันมีคนอื่นอยู่ในใจ ฉันจะไม่มีวันให้ใครเข้ามาแทนที่เขาตราบใดที่ฉันยังหายใจอยู่”

    พันอินกำหมัดแน่นด้วยคับแค้น เจ็บปวดแสนสาหัสกับคำพูดที่ไม่ใยดีของเธอ โกรธจนหน้ามืดตามัว ลืมสิ้นทุกอย่าง เขาคว้าเอากระเป๋าที่เธอกอดแนบอก ปามันลงพื้นด้วยความโมโห เขาทำสิ่งที่คาดไม่ถึงโดยการจับร่างเธอโยนลงไปบนที่นอน ก่อนจะขึ้นไปนั่งทับ กระชากเอาสไบผืนบาง ตามไปด้วยผ้าแถบรัดอกติดมือไปด้วย

    “จริงอยู่ที่ว่าพี่อาจจะไม่ได้ใจเจ้า แต่ไม่เป็นไร ขอเพียงครอบครองกายเจ้าก็ยังดี เจ้าต้องเป็นของพี่แต่เพียงผู้เดียวเท่านั้น”

    “อย่า! ปล่อยฉันนะ พันอินอย่าทำแบบนี้” เพียงออร้องห้ามเสียงสั่น ทั้งหยาดน้ำตาไหลอาบแก้ม แต่เขาหาได้หยุดฟัง เพราะโทสะที่พุ่งพล่านมันเข้าไปบดบังความรู้สึกผิดชอบชั่วดี หลงลืมตัวไปชั่วขณะ เสียงร้องห้ามของเธอเหมือนมันเบาเหลือเกินจนเขาไม่ได้ยิน รับรู้เพียงกลิ่นกายสาวที่มันกำลังทำให้เขาสติแตกกระเจิง

    เพียงออขัดขืนสุดแรง แม้จะสู้เขาไม่ได้ แต่เธอจะยอมให้เขาทำแบบนี้ไม่ได้ ต้องไม่ใช่ด้วยวิธีนี้ เขากำลังล่วงล้ำ ล่วงเกินพื้นที่ต้องห้าม ยามนี้เขาเหมือนหมาป่าที่หิวกระหาย ไม่สนใจคำทัดทานของคนที่อยู่ใต้ร่าง เธอทั้งทุบ ทั้งตีเพื่อให้เขาหยุด

    “พันอิน! ถ้าคุณทำแบบนี้ ฉันจะเกลียดคุณไปตลอดชีวิต” เธอขู่เสียงกร้าว ทั้งที่ใจหวาดหวั่น มันได้ผล พอจบคำเธอ เขาก็หยุดกึกทันที เงยหน้าขึ้นมองใบหน้านวล พวงแก้มเลอะไปด้วยคราบน้ำตา ดวงตาแดงก่ำ มันมีความผิดหวัง เสียใจระคนกรุ่นโกรธ เขาเพิ่งจะรู้ตัวว่าตนเพิ่งทำสิ่งที่น่ารังเกียจลงไป และก็เสียใจเป็นอย่างยิ่ง ผละออกจากร่างเธอ

    เพียงออรีบลุกขึ้น มือควานหาผ้าแถบเพื่อเอามันมาอำพรางร่างกึ่งเปลือยเปล่า ผิวเนื้อขาวผ่อง มันเต็มไปด้วยรอยอัปยศที่พันอินตีตราเอาไว้ เจ็บกายยังไม่เท่ากับเจ็บใจ ที่โดนย่ำเหยียบศักดิ์ศรี ไม่ว่ายุคไหนสมัยไหนผู้ชายมันก็เหมือนกันหมด เห็นผู้หญิงเป็นสิ่งมีชีวิตที่ไร้ค่า ไร้ความรู้สึก พันอินเอื้อมมือมาแตะร่างที่สั่นเทาของเธอ หญิงสาวสะดุ้งเฮือก ปัดมือเขาออกด้วยความโมโห ชายหนุ่มอ้าปากจะพูด แต่โดนเธอฟาดฝ่ามือใส่หน้าดัง เผียะ! แต่ถึงกระนั้นเขาก็ไม่ได้รู้สึกโกรธเลยที่โดนตบหน้า คิดว่ามันสมควรแล้วกับสิ่งที่เขาทำ

    “พี่...”

    “ออกไป! ฉันบอกให้ออกไปไง ไปให้พ้นหน้าฉัน” เธอตะโกนใส่หน้า

    พันอินมองหญิงสาวอย่างเศร้าสลด เขาไม่ได้ตั้งใจให้มันเป็นแบบนี้เลย ไม่ได้อยากให้เธอเกลียดเขา จำต้องเดินคอตกออกไปอย่างคนรู้สึกผิด คล้อยหลังชายหนุ่ม เพียงออนั่งกอดเข่า นอกจากร้องไห้แล้วก็ไม่รู้จะทำอะไรได้ เธอเกลียดที่สุดก็คือคนพาล เมื่อไม่ได้ดั่งใจ ก็ใช้กำลัง เธอเข้าใจแล้วว่าผู้หญิงยุคนี้เขาเป็นยังไง ผู้ชายคือช้างเท้าหน้า คือเพศที่แข็งแกร่งกว่า ในขณะที่สตรีเป็นเพศที่อ่อนแอถึงถูกกดขี่ข่มเหงซักเท่าไหร่ก็ต้องกัดฟันทน ห้ามค้าน ห้ามเถียง ขนาดผัวมีเมียหลายคนก็ยิ้มระรื่นทั้งที่ใจเจ็บปางตาย แต่มันไม่ใช่เธอแน่นอน ผู้หญิงยุคนี้อาจยอมรับชะตากรรมของตัวเอง แต่เธอไม่ คิดแล้วก็เจ็บใจ ตั้งเกิดมาเพิ่งเคยโดนคนรังแกขนาดนี้ เธอเกลียดเขาจริงๆ



     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×