ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ลมรัก มายาลวง

    ลำดับตอนที่ #5 : ลมรัก 5

    • อัปเดตล่าสุด 18 ก.พ. 58


    CR.SQW

    เกลินยืนหมุนตัวอยู่หน้ากระจกเพื่อลองชุดใหม่ที่สั่งตัดแบบเร่งรีบ เนื้อผ้าชีฟองสีชมพูอมส้มอย่างดีที่บรรจงตัดเย็บอย่างละเอียดละไมสมราคาของมัน บอกถึงฝีมือช่างมือหนึ่งที่คนธรรมดาไม่สามารถสั่งตัดมันได้ แต่เมื่อมาอยู่บนตัวกลับทำให้หญิงสาวที่แสนจะธรรมดาดูเด่นเป็นสง่าขึ้นมาทันที นี้ขนาดว่ามิได้แต่งองค์เต็มยศ

    “ งามมาก ฉันเพิ่งเห็นแกสวยก็วันนี้แหล่ะ นี่สิถึงสมกับเป็นลูกสาวฉัน “

    “ แต่หนูชอบเสื้อยืดกางเกงยีนส์มากกว่านะแม่ “ คนเป็นลูกยังอดเถียงไม่ได้

    “ พอเลยไอ้ชุดเฉิ่มเบอะพวกนั้น ไหนหมุนตัวให้แม่ดูหน่อยสิ “ เมื่อปากว่า มือก็ยังจับร่างอรชรหมุนไปมา

    “ แม่! นี่ตกลงแม่แต่ง หรือหนูแต่งกันเนี่ย หนูสับสนแล้วนะ ก็แค่เพื่อนเจ้าสาวไม่จำเป็นต้องใส่ใจรายละเอียดขนาดนี้ก็ได้ “ หัวเราะเบาๆ ที่ผู้เป็นแม่เจ้ากี้เจ้าการกับชุดของเธอเหลือเกิน

    “ ไม่ได้หรอก ถึงจะไม่ได้แต่งเอง แต่วันสำคัญของฉัน แกต้องสวย “ รมย์นลินว่า

    “ มันเกี่ยวกันไหมเนี่ย “

    “ เกี่ยวสิ แม่สวยลูกก็ต้องสวย ไม่งั้นเดี๋ยวเขาจะหาว่าฉันทำแกออกมาไม่ดี “

    เกลินแอบขำจนท้องแข็ง ที่รมย์นลินให้ความสำคัญกับภาพลักษณ์ภายนอกมากจนเกินไป ขณะที่เธอคิดว่าคนจะสวยจริงมันต้องจากภายใน ไม่ใช่สวยแต่เปลือก แต่ก็นั่นแหล่ะวันแบบนี้ไม่ได้มีบ่อย และมันอาจจะเป็นครั้งสุดท้าย มันก็ไม่แปลกที่รมย์นลินอยากให้มันออกมาสมบูรณ์แบบที่สุด เพราะฉะนั้นเธอจึงเก็บปากเก็บคำยอมตามใจแม่ซักวัน แม้ว่าตอนนี้เธอไม่ต่างจากจากตุ๊กตาที่รมย์นลินจับเปลี่ยนโน่นเปลี่ยนนี่ตามใจชอบ ถึงมันจะเป็นแค่ของหุ้มกาย แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่ามันก็เย้ายวนใจให้หลงมอง ของสวยๆ งามๆ ผู้หญิงที่ไหนก็ชอบ ไม่เว้นแม้แต่เธอ

     

    เมื่อถึงวันงานช่วงเช้าจะมีพิธีในโบถ์ ซึ่งไร้เงาลูกชายหัวแก้วหัวแหวนทำเอาเบอนาร์ดอารมณ์เสียสุดๆ พอตกเย็นบ้านทั้งหลังวุ่นวาย มันเต็มไปด้วยแขกเหรื่อ คนดังที่มาร่วมงาน ตระกูลเลวิตคงจะมีหน้ามีตาอยู่มากเพราะแต่ล่ะคนที่มาบอกได้เลยว่าระดับเศรษฐีทั้งนั้น รถหรูคันแล้วคนเล่าแล่นเข้ามาจอดยาวเยียดจนแทบจะหาที่จอดไม่ได้ นี่ขนาดรมย์นลินเชิญเฉพาะคนสนิทเท่านั้น แต่เท่าที่เธอดูคร่าวๆ ปาเข้าไปเกือบร้อยแล้วมั้ง เพราะฉะนั้นทั้งแม่บ้าน และพนักงานที่จ้างมาเสริมอีกหลายสิบชีวิตพากันเดินจนขาแทบจะพันกัน เกลินที่ลงมาหาน้ำดื่มเห็นอรแม่บ้านเดินถือถาดเครื่องผ่านมา ดวงหน้าดูอ่อนเพลียอาจจะเพราะเธอวุ่นตลอดเช้าจนแทบจะไม่ได้พัก พอเดินไปได้หน่อยก็หน้ามืดจนเกลินต้องรีบเข้าไปประคองก่อนที่ทั้งเธอและถาดจะลงไปกองกับพื้น

    “ พี่อร! เป็นอะไรมากไหมคะเนี่ย พักก่อนเถอะ “ หญิงสาวพยุงแม่บ้านไปนั่งที่เก้าอี้ตัวหนึ่งที่อยู่ใกล้สุด

    “ พี่ไม่เป็นไรหรอกค่ะ คงเหนื่อยน่ะค่ะ “

    “ งั้นพี่ก็พักก่อนเถอะค่ะ “

    “ ไม่ได้หรอกค่ะ เดี๋ยวพี่จะเอาเครื่องดื่มไปเสิร์ฟให้แขกอยู่ คนเยอะจริงๆ จนไม่ทันกันเลย “ เธอว่าพลางก็ควักยาดมสมุนไพรออกมาดมแก้วิงเวียน

    “ ถ้าอย่างนั้นเดี๋ยวเกลเอาไปให้เองค่ะ “ เสนออย่างมีน้ำใจ

    “ อย่าเลยค่ะ เดี๋ยวชุดสวยๆ จะเลอะเอาเสียเปล่าๆ “

    “ โอ๊ย..ไม่หรอกค่ะ ก็แค่ยกเครื่องไปเสิร์ฟเท่านั้น แล้วนี่จะเอาไปให้ใคร “

    “ เอ่อ..” อรอึกอักอย่างอึดอัด เพราะยังไงเกลินก็เป็นถึงลูกเลี้ยงของเบอนาร์ด มันอดเกรงใจไม่ได้ถ้าจะต้องใช้เธอ

    “ พี่อร! “ แกล้งเสียงเข้มเมื่อเธอมีท่าทีเกรงอกเกรงใจเสียเหลือเกิน จนอรจำต้องยอมให้เกลินยกเครื่องดื่มไปแทน

    เกลินเดินตรงไปยังโต๊ะที่อรบอก เมื่อจัดแจงวางเครื่องดื่มเสร็จสรรพพอหมุนกายจะกลับเข้าไปในบ้านพลันมีเสียงหนึ่งเรียกไว้

                    “ นี่เธอ เดี๋ยวเอาเครื่องดื่มให้ฉันที “ เมื่อเสียงนั้นพูดจบ เธอจึงหันไปหา พอเห็นหน้าคนสั่งเท่านั้นแหล่ะแทบอยากจะหัวเราะออกมาให้ฟันหลุด นี่มันมันบังเอิญหรือโชคชะตาลิขิตรึไงนะ หากเป็นเป็นเพราะความบังเอิญมันบังเอิญบ่อยไปรึเปล่า มองศัตรูที่เธอเกลียดยืนมองอย่างตะลึงด้วยความประหลาดใจ สายตาคู่นั้นปราดมองเธอตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้าก่อนจะแค่นเสียงต่ำอย่างเยาะๆ “ เธอนี่เอง...มาทำอะไรที่นี่ “ พูดพลางมองถาดในมือ “ อ๋อ...ได้งานใหม่ที่นี่เองรึ “ นึกถึงคราวก่อนที่เขาเล่นซะเธอตกงาน มีอยู่ช่วงหนึ่งแอบรู้สึกผิดอยู่นิดๆ เหมือนกัน แต่พอเห็นเธอที่นี่เขาเข้าใจว่าเธอคงเป็นคนใหม่ที่เบอนาร์ดรับเข้ามา เธอคงเป็นคนของสองแม่ลูกมหาภัยนั่นแน่ๆ

                    “ งาน? “ เกลินทวนคำอย่างงุนงง ก่อนที่ดวงตาเรียวรีจะพองขึ้นเมื่อเริ่มเข้าใจความหมาย หมอนี่คิดว่าเธอมาเป็นคนใช้บ้านหลังนี้ “ นี่นายคิดว่าฉันทำงานที่นี่หรือ “

                    “ แล้วไม่ใช่รึไง ออกจากงานเก่าได้ไม่ทันไร ที่จริงฉันก็ว่างานที่นี่มันก็ยังดีกว่าไปเป็นหมอนวด แต่มันอาจจะไม่ได้ดั่งใจเธอหน่อยนะ เพราะที่นี่ไม่มีคนให้จับ “ น้ำเสียงนั้นช่างดูแคลนเธอเหลือเกิน

                    “ นี่นาย! ชอบจังเลยไอ้คิดเองเออเองเนี่ย จินตนาการสูงส่ง แต่ไร้สมอง นายดูฉันให้ดีๆ คนใช้ที่ไหนเขาแต่งตัวแบบนี้กันล่ะ “ เธอเผลอเอามือเท้าสะเอวพร้อมเชิดหน้ามอง แต่มันก็ทำเขาเริ่มเอะใจ เพราะเธอก็แต่งตัวไม่เหมือนคนใช้จริงๆ นั่นแหล่ะ “ ฉันไม่ได้อยู่ที่นี่ในฐานะคนใช้รู้ไว้ด้วย ฉันเกลิน เป็นลูกสาวคนใหม่ของบ้านนี้ ชัดไหม “ ยืดออกด้วยความภูมิใจ และยิ่งเมื่ออีกฝ่ายอึ้งอย่างตะลึงงัน รอยยิ้มจุดประกายความพอใจเป็นอย่างยิ่ง แต่เมื่อจบเสียงเธอ หญิงสาวที่ยืนอยู่ใกล้ๆ หันมามองทันทีด้วยความสนใจ เอมม่าไล่สายตามองเกลินอย่างพินิธพิจารนา

                    “ หึ! ลูกสาว เธอนี่นอกจากจะเซ่อซ่า ซุ่มซ่าม และยังขี้ตู่อีกนะ หน้าไม่อายจริงๆ “

                    “ ทำไมฉันต้องอายในเมื่อมันเป็นความจริง แล้วนายล่ะเป็นใครไม่ทราบ “ เธอย้อนหน้าตายเพราะคิดว่าเขาเป็นแค่แขกผู้มาร่วมงาน

                    “ อยากรู้ใช่ไหมฉันเป็นใคร ฉัน..มิคาเอล เลวิต คุ้นบ้างไหม “ จงใจเน้นเสียงแบบชัดถ้อยชัดคำ เกลินนิ่วหน้าใช่คุ้นมาก จะไม่คุ้นได้ไง ในเมื่อลูกชายเบอนาร์ดเองก็ชื่อ มิคาเอล ไม่นะ! ไอ้หมอนี่นะหรือลูกชายของพ่อเลี้ยงของเธอราวกับมีของหนักมากระแทกศีรษะทำเอายืนมึนอยู่หลายวินาที

                    “ นี่...นาย “ เธอลดเสียงเบาลง

                    “ ใช่! รู้แล้วใช่ไหมว่าฉันเป็นใคร คนที่เธอแอบอ้างพ่อฉันเอง และฉันก็จำได้นะว่าไม่มีพี่น้องที่ไหน ช่างกล้า...อย่างเธอเป็นได้ดีที่สุดก็แค่คนอาศัยเท่านั้นแหล่ะ แค่กาฝากกล้ามาเผยอหน้า “

                    “ จะมากไปแล้วนะ “ ลำพังแค่คำพูดเสียดสีก็แทบทำเธอชาวาบไปทั้งหน้า แต่นี่กลับเน้นเสียงดังจนแทบจะได้ยินไปทั่วงาน ซ้ำยังมีหลายคนมองเธออย่างนึกสงสัย เขาจงใจประจานเธอชัดๆ วงหน้าเรียวเริ่มเปลี่ยนสี

                    “ อายเหรอ? งั้นก็หัดเจียมตัวซะมั้งสิ ทั้งเธอ และก็แม่ผีพนันของเธอ “ เขาพูดอย่างสนุกปาก หากแต่เธอเลือดขึ้นหน้า แค่ว่าเธอก็ไม่ไหวจะทนแล้ว นี่ยังลามปามไปถึงมารดา มีหรือเธอจะยอม ถาดในมือจึงปลิวไปแบบตั้งใจ โชคร้ายที่เขาหลบทัน

                    “ กล้าทำร้ายเจ้าของบ้านเหรอ ยัยตัวแสบ “ ชี้หน้าพลางสืบเท้าเข้ามาหาอย่างน่ากลัว เกลินถอยไปตั้งหลัก ผ่านโต๊ะเครื่องดื่มที่วางเรียงอย่างเป็นระเบียบ แต่ไม่กี่นาทีต่อมามันก็เละไม่เป็นท่า เมื่อเกลินส่งมันไปหามิคาเอลอย่างโกรธจัด เขาก้มหลบอย่างจ้าล่ะหวั่น

                    “ ว๊าย...ตายแล้ว หนูเกล คุณมิกกี้ “ อรที่นั่งอยู่ใกล้ๆ รีบเข้ามาทัพก่อนที่งานแต่งจะกลายเป็นงานศพ

                    ห้องโถงของบ้าน เสียงดังลั่นจากเจ้าของงานด้วยความโมโหสุดขีด ยืนเท้าสะเอวอย่างเดือดดาลสุดๆ ตวัดสายตาเข้มดุ พร้อมเสียงคำรามใส่ผู้เป็นลูกชาย

                    “ หมดกัน! งานแต่งฉัน เมื่อไหร่แกจะโตเสียที ทะเลาะกันกลางงงานแต่งจนแขกเหรื่อหนีหายไปหมดแล้ว จะให้ฉันทำยังไงกับแกดีเนี่ย “

                    “ ผมไม่ผิดนะพ่อ ยัยนั่นลงมือก่อน “ เถียงแบบขาดใจอย่างไม่ยอมรับผิด

                    “ แกไม่ต้องไปโทษคนอื่น แกนั่นแหล่ะตัวต้นเหตุ นี่ฉันยังไม่ชำระความกับแกที่เมื่อเช้าแกไม่มางานหมั้นฉัน แล้วนี่ยังพังงานแต่งฉันอีก ยังมีอีกฉันขึ้นบัญชีดำตั้งแต่แกทำหนูเกลตกงาน แถมยังไปลวนลามเขาที่สนามบิน วีรกรรมยาวเยียดแบบนี้ยังมีหน้ามาลอยชายว่าตัวเองไม่ผิด “

                    “ อะไรนะ? ผมนี่นะลวนลาม พ่อนี่หูเบาเชื่อตามที่ยัยนั่นฟ้องเกินไปแล้วนะ ผมต่างหากที่เป็นลูกพ่อ ไม่ใช่ยัยหน้าเลือดกับแม่จอมเสแสร้งนั่น “

                    “ มิคาเอล! จะพูดอะไรระวังปากหน่อยนะ “ ตวาดเสียงดังเพื่อปราม

                    “ ก็มันจริงนี่ ผมไม่ได้ลวนลามยัยนั่นอย่างที่พ่อเข้าใจ มีความเป็นธรรมหน่อย นี่ขนาดเพิ่งแต่งยังเข้าข้างกันขนาดนี้ อีกหน่อยไม่เฉดหัวผมออกจากบ้านเหรอ “

                    “ แกช่วยประสาอะไรไปปลดกระดุมเสื้อเขา “

                    “ ก็ยัยนั่นเป็นลม ผมก็กลัวจะหายใจไม่ออก พอลืมตาขึ้นมาก็แหกปากร้องดังลั่นจนผมนี้อายแทบแทรกแผ่นดินหนี ถ้าไม่ปิดปาก แม่คงด่าลั่นสนามบิน “

                    “ ปิดปาก โดยการเอาปากปิดนี่นะ เขาไม่เรียกว่าช่วยหรอก เขาเรียกว่าถือโอกาส “ เบอนาร์ดเลิกคิ้วใส่ ชายหนุ่มจึงหน้าเสียลงแต่ก็ยังโต้ต่อไปแบบอึกอัก

                    “ ก็...ตอนนั้นผมคิดอะไรไม่ออกนี่ “

                    “ ฉันขอล่ะ..มิคาเอล แค่วันนี้วันเดียว แกยอมซักวันจะได้ไหม “ บอกอย่างเหนื่อยหน่ายใจกับความเอาแต่ใจของลูกชาย

                    “ ก็ได้...ถ้ายัยนั่นไม่หาเรื่องผมก่อน ผมก็ไม่อยากยุ่งด้วยหรอก “ เมื่อพูดจบ ก็เดินหุนหันออกไปอย่างอารมณ์เสียก่อนจะเจอสองแม่ลูกยืนอยู่ตรงทางเดิน จงใจกระแทกไหล่จนเกลินเซ หญิงสาวเม้มปากแน่นจะเดิมตามไปเอาเรื่อง รมย์นลินดึงแขนเอาไว้

                    “ เกล..ไม่เอาน่า ช่างเขาเถอะ “

                    “ ก็แม่ดูเขาสิ ไม่มีความเกรงใจกันเลย ไม่เคารพแม่ด้วยซ้ำ ที่บ้านไม่มีใครสอนรึไง...อุ้ย “ เกลินรีบเอามืออุดปากก่อนจะยั้งตัวเองไว้ไม่ทัน เธอหันไปยิ้มแห้งๆ ให้เบอนาร์ดที่เดินออกมาจากห้อง “ หนูขอโทษค่ะ หนูไม่ได้ตั้งใจจะว่าคุณ “ บอกพลางพนมมือขอขมาอย่างเสียใจที่พูดออกมาโดยไม่คิด หากแต่เขามิได้โกรธเธอแต่อย่างใด

                    “ ไม่เป็นไร หนูพูดถูก ฉันสอนลูกไม่ดีเอง “ น้ำเสียงทุ้มต่ำอย่างไม่ถือสายิ่งทำให้คนฟังรู้สึกผิดเข้าไปใหญ่ เห็นท่าว่าเธอคงต้องทบทวนเรื่องที่จะอยู่บ้านหลังนี้เสียแล้ว ยิ่งเมื่อรู้ว่าคู่ปรับที่แสนเกลียดอยู่บ้านหลังเดียวกัน เธอแทบอยากจะไปจากที่นี่ให้เร็วที่สุด

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×