ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ไอรักเจ้าชายอสูร

    ลำดับตอนที่ #2 : ตอนที่ 2 ตาฝาด

    • อัปเดตล่าสุด 31 ธ.ค. 58








    แสงสว่างจากกระบอกไฟฉายพอได้เห็นทางที่โล่งเตียนเท่านั้น บริเวณโดยรอบนั้นมืดสลัวเนื่องจากแสงจันทร์ไม่อาจส่งลอดเรือนพุ่มของยอดไม้ลงมาได้ เป็นอุปสรรคในการเดินฝ่าความมืดเป็นอย่างยิ่ง กระนั้นแพรวดาวก็ยังมุ่งหน้าไปยังจุดหมาย แสงไฟภายในบ้านยังเปิดอยู่ แต่ขณะนั้นเองเสียงกร๊อบแกร๊บดังอยู่ใกล้ๆ เธอหันเหไฟฉายไปตามเสียง เห็นพุ่มไม้ไหวๆ ปลอบใจตนเองว่ามันคงเพราะลมพัดแน่ๆ ถึงอย่างนั้นบรรยากาศก็ชวนขนลุกนัก แถมลมพัดมาเย็นวาบไปทั่วกายจนขนลุกกราว เริ่มคิดแล้วว่าเธอคิดถูกรึเปล่านะที่ออกมาเดินในยามราตรีแบบนี้ เวลานี้เธอควรซุกตัวอยู่ใต้ผ้าห่มอุ่นๆ สิถึงจะถูก เสียงของความเคลื่อนไหวรอบกายเริ่มทำให้เธอผวา กลัวสิ่งที่มองไม่เห็นเสียแล้วเพราะไม่รู้ว่าหลังพุ่มไม้นั่นมันคืออะไร หรือจะเป็นผีจริงอย่างที่น้อยว่านะ จู่ๆ ก็รู้สึกกลัวขึ้นมา

    “ใครอยู่ตรงนั้นน่ะ ออกมานะ” เธอแกล้งทำเสียงดุเข้ม หากแต่ใจเริ่มเต้นผิดจังหวะเมื่อเธอเห็นคล้ายๆ กับเงาร่างของคนอยู่ในความมืด อาการตื่นกลัวส่อวาบอยู่ในแววตา หรือเธอควรจะหันหลังกลับดีนะ หญิงสาวก้าวถอยหลังพร้อมอาการหอบเริ่มกำเริบ ล้วงมือเข้าไปในกระเป๋าชุดนอนหยิบเอายาพ่นออกมา เสียงกิ่งไม่หักดังขึ้นอีกครั้งคราวนี้ชัดเจนมากเพราะมันดังอยู่ตรงหน้าเธอจากนั้นร่างสูงทะมึนก็ก้าวออกมา แพรวดาวตกใจจนทำยาหล่นลงพื้นมันกลิ้งหลุนๆ ไปที่หยุดอยู่ที่แทบเท้าของเงาร่างนั้น

    โอยไม่นะ หัวใจกระตุกวูบ ความกลัวแล่นพล่านไปหมด ไม่แค่นั้นอาการหอบทำให้ลมหายใจของเธอขาดห้วง ระหว่างความกลัวสิ่งที่อยู่ตรงหน้าไม่รู้ว่าคนหรือผี กับความกลัวตาย เวลานี้เธอเลือกอย่างหลัง เพราะหากไม่ได้ยาเธอคงได้ไปอยู่ในสภาพเดียวกันเจ้าของบ้านคนก่อนเป็นแน่ แต่ยาของเธอไปอยู่ที่แทบเท้าของเงาร่างนั้น ไม่ เธอยังไม่อยากตายคิดได้เช่นนั้นหญิงสาวพุ่งไปผลักร่างนั้นออกแล้วรีบก้มลงเก็บยาของตนขึ้นด้วยความรีบร้อน เมื่อได้รับยาหลอดลมที่หดตัวลงเมื่อครู่เริ่มขยายจนหายใจโล่งขึ้นมาถนัดตา ชั่วขณะหนึ่งเธอเกือบลืมเงาร่างนั้นไปเลย และทางนั้นก็เหมือนจะงงอยู่เหมือนกันคล้ายคนทำอะไรไม่ถูกว่าควรจะทำอย่างไรกับเธอ เมื่อได้สติแพรวดาวรีบลุกขึ้นมายืน

    “คุณเป็นใครน่ะ มาอยู่ที่นี่ได้ยังไง ที่นี่เป็นเขตหวงห้ามนะ” เธอบอกอีกฝ่ายให้รู้ถึงกฎข้อห้ามที่เธอเองก็ยังละเมิด

    “ไสหัวไป!” เสียงใหญ่แหบห้าวตะคอกเสียงดังจนเธอสะดุ้งโหยง แต่ก็ยังทำใจกล้าไม่ยอมขยับ

    “ฉันไม่ไป คุณนั่นแหล่ะเป็นใคร เป็นโจรใช่ไหม คงรู้ว่าบ้านหลังนี้ไม่คนอยู่เลยคิดจะมาขโมยของล่ะสิ ฉันจะแจ้งตำรวจ” เธอเพียงแกล้งขู่ไปเท่านั้น นี่คงเป็นเรื่องใจกล้าบ้าบิ่นที่สุดเท่าที่เธอเคยทำมา หากชายคนนี้เป็นขโมยจริงเธอมีเพียงไฟฉายกระบอกเดียวจะไปสู้อะไรได้ รูปร่างก็สูงใหญ่กว่าเธอหลายเท่าแถมยังสวมเสื้อคลุมยกฮูดคลุมหัวปิดบังใบหน้า กระนั้นเขาก็ไม่ได้ทำอะไรเธอนอกจากยืนมอง

    “ไปให้พ้น ไป!” เสียงตวาดซ้ำเต็มไปด้วยความกราดเกรี้ยว หากเป็นคนอื่นคงแจ้นหายไปตั้งแต่แรกแล้ว แต่ไม่ใช่คนขี้สงสัยอย่างแพรวดาว เขาซ่อนใบหน้าเอาไว้เพื่อไม่ให้ใครเห็นยิ่งทำให้เธอสงสัยว่าเขาเป็นใคร คนงานในไร่ทุกคนต่างรู้ดีว่าบริเวณนี้ห้ามเข้าจึงคิดว่าไม่น่าจะใช่คนงาน แถมยังเอาแต่ไล่เธอท่าเดียว ดูแล้วคงไม่ใช่โจรเป็นแน่เพราะถ้าเป็นเช่นนั้นคงจัดการเธอไปแล้ว เธอไม่เพียงไม่ไปตามที่เขาบอกแต่กลับยื่นมือออกไปดึงเอาฮูดที่คลุมหัวออกเสียอีกฝ่ายปัดมือเธออย่างแรงแต่ไม่ทันเสียแล้วเมื่อใบหน้าที่ซ่อนถูกเผยออกมา แพรวดาวอ้าปากค้าง ภาพเบื้องหน้าดูสยดสยองสำหรับเธอมาก ไฟฉายค้างอยู่ในมือโดยปลายทางส่องไปยังที่ใบหน้าของเขา ซีกหนึ่งนั้นไร้รอยตำหนิใดๆ หากแต่อีกด้านกลับมีแผลเป็นขนาดเท่าฝ่ามือเด็กพาดอยู่บนพวงแก้มมันดูน่ากลัวนัก คำพูดของน้อยฉายวาบขึ้นมาในใจ ที่นี่มีผีสิง วิญญาณเจ้าบ้านที่ยังไม่ไปไหน คอยวนเวียนหลอกหลอนคนงาน และยิ่งเมื่อเธอเห็นเขาสะแหยะยิ้มยื่นหน้าที่มีแต่รอยแผลเป็นนั้นเข้ามาใกล้ หัวใจวูบหล่นด้วยความหวาดกลัวก่อนหวีดร้องจนสุดเสียง

    “กรี๊ด!” เมื่อสิ้นสุดเสียงกรีดร้อง ทุกอย่างก็กลับมานิ่งสนิทพร้อมกับร่างของหญิงสาวร่วงลงไปกองกับพื้นพร้อมๆ กับสติก็ดับวูบตามไปด้วย

     

    แพรวดาวขยับตัวเพราะเสียงเรียก เธอยังอยู่ในอาการสะลึมสะลือ พยายามเรียกคืนสติของตนเมื่อ เธอลืมตาขึ้นมาจึงได้รู้ว่าตนนอนอยู่บนเตียงนุ่ม

    “ฟื้นแล้วเหรอแม่ตัวดี” ปรางทิพย์ยืนกอดอกมองอยู่ปลายเตียงนัยน์ตาขึงโกรธ โดยข้างๆ เธอนั้นมีน้อยถือผ้าขนหนูผืนเล็กคอยเช็ดหน้าให้

    “แพรวมาอยู่นี่ได้ยังไงคะ” เอ่ยถามด้วยอาการงุนงงเป็นนักหนาพยายามทบทวนความทรงจำ

    “ก็คุณปรางเธอได้ยินเสียงคุณกรี๊ดเลยตามไปดู พบคุณนอนหมดสติอยู่ที่เชิงเขาด้านนู้นน่ะค่ะ” น้อยตอบแทนผู้จัดการสาวซึ่งเวลานี้อยู่ในอารมณ์โกรธจัดที่เธอกล้าขัดคำสั่งบุกรุกเขตหวงห้ามทั้งๆ ที่สั่งนักสั่งหนาแล้ว

    “ฉันเตือนเธอแล้วนะแพรวดาว ทำไมเธอไม่ฟัง” น้ำเสียงเอาเรื่องพร้อมส่ายหนาระอา

    “ขอโทษค่ะ แพรวเห็นไฟมันเปิดอยู่ก็เลย...” หญิงสาวแก้ตัวเสียงอ่อย

    “แล้วมันแปลกตรงไหน ทุกคืนฉันก็เปิดไฟเอาไว้ตลอด คุณกานดาเธอสั่งเอาไว้” ปรางทิพย์ชี้แจงข้อสงสัยของเธอ

    “แต่แพรวเห็นผู้ชายคนหนึ่งด้วยนะคะ” เธอรีบแจ้งเผื่อว่าหากชายคนนั้นไม่ใช่คนในไร่ปรางทิพย์อาจจะไปดู

    “ไม่มีใครอยู่ที่นั่น บ้านหลังนั้นไม่มีใครอยู่มานานแล้ว” ปรางทิพย์แสดงอาการเหมือนไม่เชื่อ

    “แต่แพรวเห็นจริงๆ นะคะ” ยืนยันอย่างหนักแน่นว่าเธอไม่ได้โกหก

    “เธอตาฝาดน่ะสิ คงจะเดินละเมอแล้วคิดว่าตัวเองเห็น แพรวดาวนี่คือคำเตือนครั้งสุดท้ายจากฉันนะ ถ้าอยากจะทำงานที่นี่เธอต้องทำตามกฎ และที่ตรงนั้นเป็นพื้นที่ต้องห้าม หากเธอยังกล้าขัดคำสั่งฉันอีก กลางค่ำกลางคืนออกมาเดินเพ่นพ่านอีกล่ะก็ฉันจะไล่เธออก ฉันไม่ได้พูดเล่น” คำสั่งเฉียบขาดหมายมาดจะกำราบไม่ให้เธอสอดรู้สอดเห็นอะไรอีก

    เมื่อปรางทิพย์ออกไปแล้วแพรวดาวยังหน้าม่อยกับคำคาดโทษที่อีกฝ่ายให้เอาไว้ กระนั้นเธอก็ยังมั่นใจว่าตนไม่ได้ตาฝาดดังที่อีกฝ่ายว่าเป็นแน่ เธอหันไปหาน้อยหวังว่าอีกฝ่ายจะเชื่อ

    “ฉันเห็นคนจริงๆ นะน้อย ฉันไม่ได้ละเมอ”

    “แต่น้อยว่าคุณคงเห็นผีมากกว่าน่ะค่ะ มาวันแรกก็เจอเลยนะคะ อึ๋ย...” น้อยทำท่าขนลุกขนพองสยองเกล้าเมื่อคิดว่าหญิงสาวคงเจอดีเข้าให้แล้ว

    “ไม่...ไม่ใช่ผี หากเป็นวิญญาณจริงต้องจับต้องไม่ได้สิ แต่นี่ฉันยังได้คุยกับเขาอยู่เลย” แพรวดาวแสดงอาการมั่นอกมั่นใจว่าสิ่งที่ตนเห็นนั้นไม่ใช่แค่เพียงสิ่งเร้นลับที่ไม่มีตัวตน หากแต่เป็นคนที่มีเลือดมีเนื้อจริงๆ

    “เหรอคะ แล้วเขาว่าอะไรกับคุณบ้างคะ” น้อยถามพร้อมลอบมอง แอบคิดในใจว่าสงสัยเธอคงยังไม่ตื่นดีจึงสับสนกับสิ่งที่ตนได้เจอมาเป็นแน่ แพรวดาวนิ่วหน้าก่อนเอ่ยตอบ

    “เขาบอก ไสหัวไป!

    “นั่นประไร คุณตรัยคุณคงหวงที่ เจ้าที่แรง เพราะอย่างนี้คุณปรางทิพย์ถึงห้ามไงคะ น้อยว่าคุณอย่าไปอีกเลยนะคะ โชคดีนะคราวนี้กลับมาครบสามสิบสอง เกิดคราวหน้าโชคร้ายถูกผีคุณตรัยคุณหักคอ บรึ๋ย...แค่คิดก็สยองแล้ว”

    แพรวดาวจนปัญญาไม่รู้โน้มน้าวอย่างไรให้น้อยเชื่อ เธอมั่นใจว่าตนไม่ได้ตาฝาดอย่างแน่นอน ผู้ชายคนนั้นมีชีวิต แต่เขาเป็นใครกันนะ






    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×