คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : ตอนที่ 1- HOT!!
◊ SQWEEZ
วรรณกรรมสำหรับผู้ใหญ่18+
มัจจุราชพ่ายรัก
ณ คฤหาสน์หลังใหญ่ เป็นเวลาดึกสงัดขณะที่ผู้คนภายในบ้านต่างหลับใหล แต่บนห้องนอนใหญ่ของบ้านเสียงครวญครางดังสะท้อนสลับกับเสียงบางอย่างกระทบกันดังถี่รัว บนเตียงขนาดใหญ่หนุ่มใหญ่ร่างบึกบึนสมชายชาตรีกำลังบรรเลงเพลงรักอย่างพริกถึงขิงกับคู่ขาคนใหม่ อีกฝ่ายตั้งรับได้ถึงใจไม่แพ้กัน สะโพกผายส่ายพลิ้วรับแรงกระแทกกระทั้นอย่างหนักหน่วง
“เร็วอีกนิดสิค่ะท่านขา อื้อ...”
เสียงเร่งเคล้าสั่นแอ่นกายรับขนาดใหญ่โตเกินมาตรฐาน มือลูบไล้วนไปที่หน้าท้องอันประดับไปด้วยมัดกล้ามแม้อายุเขานั้นย่างเข้าสามสิบตอนปลายแล้ว แต่เรี่ยวแรงไม่แพ้หนุ่มน้อย ยามปรกติเขามีอุปนิสัยเงียบขรึม หากแต่เมื่ออยู่บนเตียง เขาจะเปลี่ยนคนล่ะคน เหมือนปีศาจร้ายที่แฝงอยู่ในคราบเทพบุตร
“ใจร้อนจริงคนสวย ไม่ต้องห่วงคืนนี้ของเราอีกยาวนาน อา...เธอนี่ช่างร้อนแรงเสียจริง”
ปากชมเปราะ ขณะบั้นท้ายกระหน่ำแบบไม่ยั้ง ค่ำคืนอันแสนหฤหรรษ์สุดรัญจวน เหมาะแก่การปฏิบัติกามกิจยิ่ง ด้วยเป็นคนมีความต้องการทางเพศสูงทุกคืนจะต้องมีสาวสวยมาบำเรอสวาทไม่เคยขาด เหมือนมัจจุราชที่คอยออกล่าเหยื่อสวาทในยามค่ำคืน เพียงแต่เหยื่อเหล่าล้วนแต่มาติดกับเขาเองทั้งนั้น สิ่งเหล่านี้เหมือนเป็นกิจวัตรที่ คริษฐ์หนุ่มลูกครึ่งไทยผรั่งเศสมีทุกวันไม่เคยว่างเว้น จ้วงโถมเข้าใส่และยังตวัดปลายลิ้นสากบนยอดอกที่แข็งเป็นไตดูดดึงจนเจ้าตัวร้องซีดด้วยความเสียวซ่าน บีบเคล้นอีกข้างดันมันเข้าหากันลากลิ้นสลับไปมา
“โอ๊ว..ท่านขา อื้อ...ชอบจังค่ะ”
คริษฐ์ยิ่งได้ใจซัดเข้าไปจนเต็มรัก ก่อนขยับเปลี่ยนท่วงท่า อุ้มร่างระหงขึ้นมาโดยเรียวขานั้นพาดอยู่บนท่อนแขนกำยำ มือนวดคลึงสะโพกอันกลมกลึง ขยับเข้าออกตามใจชอบยามเมื่อตัวตนของเขาจมลึกอยู่ในโพรงสวาทกลีบเกสรชุ่มฉ่ำช่างบีบรัดจนซ่านสยิวไปทั่วสรรพางค์กาย เสพสมเพศรสจนเต็มคราบ วงหน้าคมสันต์นั้นเงยสูง ขณะเรียวเล็บจิกเนื้อบริเวณเอวสอบ กระนั้นมันกลับเพิ่มอารมณ์ให้โชนขึ้น เสียงใหญ่ครางกระเส่าสัน
“อืม...”
“อ๊า...ฉันไม่ไหวแล้วค่ะท่าน”
เมื่อเสียงหวานเซ็กซี่เอ่ยบอกเขาจึงเร่งเครื่องเต็มอัตราเพื่อตามให้ทัน กระทั่งไฟราคะลุกโหมรุนแรงก่อนที่สายธารแห่งความสุขจะไหลหลั่ง จากนั้นทั้งคู่จึงทิ้งกายลงนอน เกมส์กามสงบลงหากแต่ไม่นานมันก็เริ่มต้นขึ้นใหม่อีกครั้ง เป็นเช่นนี้ตลอดทั้งคืนมิรู้หน่าย ตราบใดที่ไฟตัณหายังไม่มอดดับลง
หญิงสาวร่างอรชรเดินตามชายสูงวัยตรงไปยังด้านหลังของคฤหาสน์ มือเล็กถือกระเป๋าเดินทางสีดำไว้แน่น นัยน์ตาสีนิลยังกวาดไปรอบๆ ด้วยอยากรู้ เธอเพิ่งเคยได้เข้ามาอยู่ในบ้านหลังใหญ่โตขนาดนี้เป็นครั้งแรกจึงตื่นตาเป็นพิเศษ เธอมองทางบริเวณสวนเห็นชายหนุ่มร่างสูงสง่ายืนคุยกับชายอีกคน
“นั่นคุณคริษฐ์เจ้าของฟาร์ม”
ขจิตพ่อบ้านวัยห้าสิบเอ่ยบอก เขาไม่ได้พาเธอไปหาเจ้านายหนุ่มทันที เพราะเห็นว่าคุยงานอยู่ก่อนพาเธอไปยังห้องคนพักคนงาน
“เอ็งพักอยู่นี่แหล่ะนังหนู จำที่ลุงบอกได้ใช่ไหม ไม่จำเป็นก็อย่าไปวุ่นวายที่ตึกใหญ่ท่านไม่ชอบให้คนแปลกหน้าเข้าไปยุ่มย่าม”
ขจิตสั่งกำชับเสียงเข้ม หญิงสาววัยยี่สิบจึงพยักหน้ารับด้วยใบหน้ายิ้มแย้มชวนมอง บุลลาเพิ่งมาจากบ้านต่างจังหวัด เป็นครั้งแรกที่ต้องโบยบินออกจากอ้อมอกพ่อแม่ เพราะฐานะทางบ้านที่ไม่ค่อยดี เธอจึงต้องมาทำงานเพื่อหาเงินจุลเจือครอบครัวอีกแรง
“แล้วอย่าไปเพ่นพ่านที่ไหนล่ะ หน้าที่เอ็งอยู่เรือนกระจกโน่น”
ขจิตบอกย้ำ ตนก็ไม่อยากรับเธอมาสักเท่าไหร่ แต่เพราะขัดน้องชายไม่ได้ เหตุเพราะไม่อยากให้บุลลาไปทำงานที่อื่น อย่างน้อยอยู่ที่นี่ก็ยังมีลุงคอยดูแล หากแต่ขจิตนั้นค่อนข้างหนักใจ เพราะอยู่บ้านนี้ไม่ปลอดภัยพอกัน เพราะมีแต่เสือสิงห์ อีกอย่างเธอไม่ใช่เด็กน้อยที่เที่ยววิ่งเล่นซุกซนเหมือนแต่เก่าก่อน ตอนนี้เธอกลายเป็นสาวสะพรั่งเต็มตัวแล้วนี่สิมันน่ากังวลอยู่ไม่ใช่น้อย โดยเฉพาะไอ้ตาณคนจองหองนั่น สายตาเขาแพรวพราวยิ่งนักไม่สนหรอกลูกเขาเมียใคร เมื่อครู่เดินผ่านมันมายังมองตามจนเหลียวหลัง
“ค่ะลุงจิต หนูจะขยันทำงานไม่ให้ลุงผิดหวังเลยค่ะ”
หญิงสาวรับคำอย่างมั่นเหมาะ ก่อนจะเอาของเข้าไปเก็บในห้อง เธอคงต้องพยายามปรับตัวขนานใหญ่รู้สึกโหวงเหวงกับสถานที่ที่ไม่คุ้นเคย เธอเอาเสื้อพับเก็บใส่ตู้อย่างเรียบ ห้องแม้ไม่กว้างมากแต่ก็ไม่คับแคบพอจะอยู่ได้ ขจิตใจดีให้เธอพักหนึ่งวันก่อนจะเริ่มงานในวันรุ่งขึ้น
บุลลาตื่นมาในเช้าอีกวันเธออาบน้ำเปลี่ยนผ้าจากนั้นไปทานข้าวที่โรงครัว ซึ่งบ้านนี้มีคนนับสิบชีวิต คริษฐ์มีฟาร์มโคเนื้อที่ใหญ่ที่สุดในจังหวัด มีฐานะร่ำรวยแต่ยังโสดไม่มีลูกเมีย คนที่นี่อัธยาศัยดีมาก โดยเฉพาะตาณที่เป็นผู้จัดการฟาร์มโคเนื้อแห่งนี้
“มาใหม่ใช่ไหมเรา ที่นี่คุณคริษฐ์ไม่ค่อยรับคนใหม่เข้ามานัก อย่างไรเสียหากมีอะไรให้พี่ช่วยก็บอกพี่ได้นะ”
แววตากรุ้มกริ่มฉายมองสาวน้อย เธอยิ้มตอบกลับมาดูไร้เดียงสานัก นานแล้วที่เขาไม่ได้เห็นภาพกระชุ่มกระชวยแบบนี้ เขาต้องเก็บเขี้ยวเสือไว้ให้มิดทั้งใจอยากโดดงับเธอเต็มแก่ อีกเดี๋ยวเถอะไม่นานหรอกเขาจะกวาดเธอให้เรียบ
“ขอบคุณค่ะ พี่ตาณใจดีจัง”
เธอไม่ได้อยู่คุยกับตาณนาน พอทานข้าวเสร็จก็ตรงไปยังเรือนกระจก คนดูแลคนเก่าดูแลมันอย่างดี ดอกไม้หลากสีสันกำลังเบ่งบานชูช่อน่าชมเป็นอย่างยิ่ง หญิงสาวเริ่มงานโดยจัดการหน้าที่ที่ได้รับมอบหมายมา จัดการพรวนดินใส่ปุ๋ย หยิบจับโน่นนี่ไม่หยุดรู้ตัวอีกทีก็สายแล้ว อากาศร้อนอบอ้าวจนเนื้อตัวของเธอเปียกชุ่มไปด้วยเหงื่อ เสื้อที่สวมจึงแนบเนื้อจนเห็นสัดส่วนได้ชัดโดยเฉพาะทรวงอกที่นูนเด่น ขณะที่เธอวุ่นวายอยู่กับกระถางต้นไม้ มีสายตาคู่หนึ่งจับจ้องอิริยาบถของเธออยู่
คริษฐ์เดินเหม่อจนถึงเรือนกระจก วันนี้ไม่รู้นึกยังไงถึงอยากมาที่นี่ เรือนกระจกแห่งนี้เป็นของมารดาของเขาที่ล่วงลับไปแล้ว ชายหนุ่มจ้างคนมาดูแลให้มันสวยงามเหมือนเดิมเพียงแต่ตนไม่ได้แวะเวียนมาเลย มันยังคงเหมือนเก่าทว่าวันนี้แปลกไปเพราะมีสาวน้อยหน้าตาจิ้มลิ้มยืนดอมดมดอกไม้สีสวยอยู่ เขาไม่รู้เธอเป็นใครมาจากไหน แต่นั่นไม่ได้ทำให้เขาสนใจเท่ากับร่างอรชรอ้อนแอ้นนั้น ยามเมื่อก้มลงตัดแต่งกิ่งไม้ สะโพกงามงอนผายผึ่งน่าบีบชะมัด มันส่ายไปมาเล็กน้อยเมื่อเธอขยับไปยังอีกกระถางหนึ่งเขาจึงเผลอกลืนน้ำลาย ให้ตายเถอะแค่ยืนมองอยู่ห่างๆ ยังรู้สึกว่าเป้ากางเกงเขาคับจนแน่น
“อะแฮ่ม”
ชายหนุ่มเดินไปหาพร้อมกระแอมให้เธอรู้ เมื่อหันมาร่างเล็กสะดุ้งนิด มองจากด้านหลังมันยังน่าจับฟัดขนาดนั้น พอเห็นด้านหน้า เอวเป็นเอว อกเป็นอกเสื้อตัวนั้นพอมันเปียกเหงื่อแนบไปกับเนื้อบางเสียจนจึงได้เห็นเนินอูมและขอบบราฯ ทำเอาเลือดลมไหลเวียนจนเขาต้องระบายออกมาตามลมหายใจ หากไม่มีเสื้อตัวนั้นปกปิดทรวงอวบอัดนั้นมันจะสวยแค่ไหนหนอ สีของยอดมันคงจะเหมือนกลีบกุหลาบนี้กระมัง เผลอจินตนาการตามอย่างเคลิ้มฝัน ครั่นคร้ามอยากเห็นมันจริงๆ
“เธอเป็นใคร”
“เอ่อ...ฉันบุลลาหลานลุงขจิตค่ะ”
เธอมีอาการประหม่าเล็กน้อย พอจะเดาได้ว่าเขาคือเจ้าของบ้าน เพราะเมื่อวานเห็นเขาอยู่แวบๆ เธอไม่ค่อยกล้าสบตาคู่นั้น ใจมันสั่นแปลกๆ ไม่นึกเลยว่าเมื่อได้มองใกล้ๆ เขาจะดูดีปานนี้
“งั้นเหรอ ฉันลืมไปเลยว่าให้ขจิตรับคนใหม่มา เพิ่งมาเมื่อวานสิ”
เมื่อถามดวงตานั้นยังจ้องอยู่ที่เนินสวยมันโผล่พ้นคอเสื้อมาหน่อยพอได้เห็นแบบวับๆ แวมๆ ร่องอกขาวอวบมันน่ามุดหน้าเข้าไปจัง เธอเอาแต่ก้มหน้า ตอนแรกที่ขจิตบอกเขายังนึกว่าเธอจะหน้าตามอมแมมดูไม่ได้ตามประสาเด็กบ้านนอก แต่ไม่นึกเลยว่าตัวจริงหน้าตาผิวพรรณจะดูดีปานนี้ เขาต้องพยายามข่มใจ ตนคิดบ้าอะไรเนี่ย เธอเป็นเพียงคนในบ้านเท่านั้น เขาจะเป็นสมภารที่อยากกินไก่วัดได้ยังไง เพียงแต่ไก่วัดตัวนี้มันน่ากินเหลือเกิน เธอคงจะสวยกว่านี้หากปราศจากอาภรณ์ อา...แค่คิดน้องชายก็ตื่นเสียแล้ว ยิ่งปากเล็กขยับตอบมันน่าจูบเอามากๆ มันช่างน่าแปลกที่เขามีปฏิกิริยาต่อเธอคนรวดเร็วนัก รู้สึกพึงพอใจเป็นอย่างมาก
“ค่ะ ขอบคุณที่เมตตารับฉันเข้าทำงาน หากคุณจะเรียกใช้อะไรฉันก็ได้นะคะ ฉันยินดีทำทุกอย่างที่คุณสั่ง”
ไม่รู้เป็นไงยามเมื่อเขาจับจ้องเธอรู้สึกแปลกพิกล มันร้อนวูบวาบไปทั่วหน้า เขาก็แค่ถามไถ่ธรรมดา แต่เป็นเธอเองที่ไหวสั่น แอบมองกายใหญ่เบื้องหน้า หุ่นสมส่วนแบบบุรุษที่พึงมี
พอเธอบอกคนฟังกลับคิดไปเป็นอย่างอื่น ยินดีทำทุกอย่างงั้นหรือ มันคงจะดีไม่น้อยหากว่า โอย...ยิ่งคิดยิ่งฟุ้งซ่าน เขาคงบ้าแล้วแน่ๆ ทั้งที่เพิ่งพบหน้า แต่ตนกลับฝันถึงกิจกรรมรักแสนวิเศษกับสาวน้อยคนนี้ไปเสียได้ เมินหน้าไปทางอื่นเพื่อที่จะได้ไม่มองภาพอันยั่วใจนี้
“ชื่อบุลลาเหรอ อืม แปลว่าดอกไม้ใช่ไหม ได้ยินว่าเพิ่งเคยออกจากบ้านมาไกล อยู่นี่คงเหงาสินะ แต่ไม่เป็นไรหรอก อยู่นานๆ ไปก็ชินเอง หากขาดเหลืออะไรก็บอกฉันนะหนู ไม่ต้องเกรงใจ”
คริษฐ์ว่าอย่างใจดีบุลลารู้สึกประทับใจกับความอารีย์นี้มาก รู้สึกอบอุ่นที่เขาใส่ใจคนงานต่ำต้อยอย่างเธอ ทันใดนั้นเสียงห้าวของตาณก็ดังขึ้น เขาเพิ่งกลับมาจากฟาร์ม ได้ยินขจิตถามหาเธอจึงขันอาสามาตาม ซึ่งดูแล้วตาแก่นั่นคงไม่ชอบใจตนอาจเป็นเพราะหวงหลานสาวก็เป็นได้ ร่างใหญ่บึกบึนของตาณก้มลงอย่างนอบน้อมก่อนจะกระซิบบอกเธอต่อ
“บุลลา คุณท่าน ขออภัยครับ ลุงจิตให้มาเรียกไปกินข้าว”
บุลลาเหลือบมองคริษฐ์นิดเพราะยังคุยติดพันกับเขาอยู่จึงไม่กล้าปลีกตัวไปกลัวจะเสียมารยาท เมื่อเขาเห็นดังนั้นจึงพยักหน้าอนุญาต
“ไปเถอะ”
สายตาเสือหนุ่มยังมองตามร่างกลมกลึงของหญิงสาว มันเต็มไปด้วยความเสียดาย หลังม่านตาเหมือนจะมีไฟตัณหาค่อยๆ โชนขึ้น กระนั้นก็ยังบอกตัวเองว่าตนจะทำแบบนั้นไม่ได้ มิเช่นนั้นจะเสียการปกครอง เกลี่ยกลีบกุหลาบดอกงามที่เธอดมไปเมื่อครู่คิดว่ากลีบดอกของสาวน้อยเผลอขยี้จนมันช้ำคามือ
ระหว่างทางเดินกลับไปโรงครัว บุลลายังยิ้มน้อยยิ้มใหญ่เมื่อนึกใบหน้าเจ้านาย ไม่อยากเชื่อเลยว่าเขาจะอายุเกือบสี่สิบแล้ว ช่างเป็นชายรูปงามนัก แถมวางตัวเป็นกันเองไม่เหย่อหยิ่งยโสเลยสักนิด แม้ว่าเธอจะเป็นคนดูแลเรือนกระจก เป็นแค่คนอาศัย ขณะนั้นตาณชำเลืองมอง พอเห็นอาการเธอเขาจึงแกล้งเปรยขึ้นคล้ายจะเตือน
“พี่ว่าเธออยู่ห่างๆนายท่านไว้หน่อยก็ดีนะ”
“ทำไมล่ะ”
“เพราะท่านไม่ใช่คนที่เธอจะยุ่งด้วย เมียท่านมีเป็นสิบผลัดกันมาไม่หวาดไม่ไหว อย่าให้พูดตกกลางคืนทีไรเสียงดังไปทั่วคฤหาสน์ แถมยังซาดิสอีกด้วย บางคนถึงกับสลบคาเตียง”
ตาณจงใจพูดให้เธอกลัว แค่เห็นสายตาของคริษฐ์ก็ดูออกแล้วว่าคิดยังไง มันออกจะแปลกไปหน่อย แม้จะรู้คริษฐ์ชอบหมกมุ่นกับพวกสาวๆ มากแค่ไหน แต่ที่ผ่านมาเขาไม่เคยยุ่งกับคนในบ้าน แต่มาหนนี้เหมือนจะไม่ใช่ แน่ล่ะหุ่นแม่เจ้าประคุณอวบอัดเสียนี้ เขาเองก็ยังหมายมั่นปั้นมือในตัวเธอเช่นกัน พวกสาวๆ ภายในบ้านตนฟาดเรียบมาหมดแล้ว หากเทียบกันบุลลาทั้งสาวสวยกว่าใครเพื่อน เธอยังอ่อนอยู่ในวัยขบเผาะไม่เหมือนพวกแม่ครัวแม่บ้านทั้งหนังเหี่ยวเหนียงยานจับทีเหลวไปหมด
บุลลานั้นแอบใจเสียอยู่นิด ถึงว่าอยู่จนป่านนี้ไม่มีเมียเป็นตัวเป็นตนที่แท้ก็มีเมียเล็กน้อยอยู่นี่เอง กระนั้นเองก็ไม่เห็นด้วยที่ตาณจะเอาเรื่องพฤติกรรมที่ไม่พึงประสงค์ของผู้เป็นนายมานินทา เขาเป็นถึงผู้จัดการไม่น่าเอาเรื่องเจ้านายมาพูดแบบนี้เลย แต่เพราะเธอเพิ่งมาใหม่จึงไม่กล้าทักท้วง อีกอย่างปากคนก็เหมือนปากหอยปากปูที่มาคู่กับคำติฉินนิทาอยู่แล้ว หากเจ้าตัวไม่ทำตัวแบบนั้นใครเขาจะไปว่าอะไรได้
เสียงใหญ่หอบพร่าดังแผ่ว คริษฐ์นอนหงายอยู่บนเตียงใหญ่ปล่อยใจลอยล่อง มือหนาลูบศีรษะเล็กที่กำลังส่ายอยู่บนเรือนกายแกร่ง ฉัตรพร เธอเป็นคู่สวาทคนโปรด ในบรรดาผู้หญิงของเขา คริษฐ์เรียกหาเธอบ่อยที่สุด เพราะลีลารักที่ร้อนแรงราวกับนางแมวป่า ยามเมื่อปากเล็กครอบลงที่ตัวตนของเขาชายหนุ่มสูดลมหายใจแรงๆ อย่างสยิวเสียว ดวงตาคู่คมหลับพริ้มแล้วนึกจินตนาการไปว่าคนที่กำลังทำแบบนี้นั้นเป็นบุลลาสาวน้อยหน้าหวาน ทั้งที่ความจริงมันไม่ใช่เมื่อเธอโงหัวขึ้นมาส่งยิ้มหวานอย่างประจบเอาใจ
“แบบนี้ดีไหมค่ะท่านขา”
“จ๊ะ...ดีมากคนสวย ทำต่อสิจ๊ะกำลังได้อารมณ์เลย”
ออกปากชมนิดขณะจับเธอกดลงที่เดิม ยามเมื่อตัวตนของเขาคับแน่นอยู่ในปาก เสียงใหญ่ครางอืออา อยากให้มันเป็นบุลลาเหลือเกิน ยิ่งคิดกำหนัดหนุ่มยิ่งประทุเดือดจึงสั่งให้หยุดก่อนที่มันจะแตกโพล๊ะเสียก่อนร่างบางเซ็กซี่ขยับขึ้นมาตามคำสั่ง จ่อกลีบเกสรที่ชุ่มชื้นไปด้วยหยาดน้ำหวานจากนั้นกดลงบนตัวเขาจนมิด ร่างใหญ่สะดุ้งเล็กน้อยเมื่อเข้าไปจนสุดลำรัก เธอขย่มเบาๆ แค่นั้นเขาก็ครางออกมา
“อา...บุลลา”
คนที่ตั้งใจทำชะงักนิด ร่วมรักกับเธออยู่แท้ๆ แต่กลับพร่ำชื่อคนอื่น เธอรู้ว่าคริษฐ์เลี้ยงผู้หญิงไว้มากมาย นี่ก็ไม่รู้ว่าเป็นอีหนูคนไหน มันช่างน่ารำคาญเสียจริงที่เธอต้องคอยตามกำจัดอีนังหน้าด้านพวกนั้น
“โอ๊ว..ทูนหัวสุดยอดจริงๆ”
สะโพกหนาเด้งรับโยกกระแทกสวนกลับ เคล้นคลึงบั้นท้ายสวย อีกฝ่ายส่งเสียงครางกระเส่าอย่างเร่าร้อน โน้มหน้าลงไล้เลียไปตามแผ่นอกเน้นที่ยอดหัวนมเล็กเป็นพิเศษ คริษฐ์ทนไม่ไหวจับศีรษะเล็กนั้นขึ้นมาจูบพร้อมสอดลิ้นร้อนระอุอย่างคล่องแคล่ว ก่อนจะจับเธอพลิกลงไป ช้อนร่างเธอให้อยู่ในท่าคลานสี่ขาจวงลำรักจนมิดด้ามเสียงหน้าท้องกระทบรัวกับแผ่นหลังขาว เสียงอื้ออ๊า...สุดซาบซ่านของเธอดังขึ้นเรื่อยๆ กระทั่งเกร็งสุดตัวเมื่อถึงปลายทางหากแต่ชายหนุ่มยังกระหน่ำไม่ยั้ง อารมณ์วาบหวามกำลังบรรเจิด เชิดหน้าขึ้นสู้ฟ้า ขับบรรเลงลำนำรัก ขณะที่ใบหน้าสาวน้อยวนอยู่ในห้วงลึกเขากำลังเอื้อมมือไปหาเธอก่อนพุ่งทะยานสู่เส้นชัย
นิ้วมือเรียวยาวพาดอยู่บนอกกว้างอันเต็มไปด้วยไรขนสีน้ำตาลอ่อนอย่างหลงใหล ใบหน้าคมเข้ม จมูกโด่งคมสันต์แบบลูกครึ่งที่ได้มาจากมารดาผสมผสานระหว่างความเป็นไทยที่ได้จากบิดามันลงตัวเป็นอย่างยิ่ง
“ฉัตรถามนิดได้ไหมคะ บุลลานี่ใคร อีหนูคนใหม่ของท่านหรือ”
“ไม่ใช่เรื่องของเธอ บุลลาก็แค่เด็กในบ้านเท่านั้นแหล่ะ”
คริษฐ์บอกปัด คนฟังแอบขบฟันเบาๆ แค่เด็กในบ้านแต่เก็บเอามาฝันหวานเชียว ไม่รู้เสร็จเขารึยัง ชักอยากเห็นหน้าจริงๆ
ความคิดเห็น