ตอนที่ 7 : LAST TALE AND WAR 7 :: เคลื่อนไหว (RE-WRITE) 100%
6
“ฉันก็ยังไม่เข้าใจอยู่ดีว่ามาหาเนจิดีกว่าไปหาหมอตรงไหน”
“นารูโตะ!”
เสียงดุของซากุระทำให้คนถูกว่าถึงกับทำหน้าหงอยก่อนจะเงียบไป ประตูกระดาษถูกปิดลงพร้อมกับร่างสูงของเนจิที่สวมใส่ชุดลำลองสบายๆเหมือนทุกครั้งเมื่ออยู่บ้านเดินเข้ามาในห้องต้อนรับแขก
“เกิดอะไรขึ้นกับตาเธอ”ความพยายามในการเก็บความรู้สึกของเนจิไม่ได้ช่วยได้ดีนักในสถานการณ์นี้
คนตัวสูงรีบนั่งคุกเข่าลงต่อหน้าซากุระที่ตอนนี้ไม่สามารถลืมตาได้เพราะเลือดที่ไหลออกมาไม่หยุด เธอชักกลัวตัวเองว่าจะเป็นเหมือนกับซาสึเกะที่ใช้เนตรวงแหวนมากเกินไป…แต่เนตรของเธอคือเนตรแห่งการรักษาไม่ใช่เหรอไง
“ฉันไม่รู้ จู่ๆเลือดมันก็ไหลออกมา”ซากุระตอบ พยายามหาหลักยึดและในที่สุดเธอก็คว้าเข้าที่แขนของเนจิได้
“เธอทำอะไรกับมันรึเปล่า?”คำถามของเนจิทำให้ซากุระสงสัย เธอไม่รู้ขีดจำกัดพลังของตัวเองด้วยซ้ำ แล้วจะไปรู้ได้ยังไงว่าตัวเองไปทำอะไรกับดวงตาตอนไหน หรืออาจจะเป็น…
“ฉันรักษาแขนให้นารูโตะน่ะ แต่ตอนที่รักษาจู่ๆตามันก็รู้สึกแปลกๆขึ้นมา”
“ลืมตาซิซากุระ”
คนตัวเล็กพยายามที่จะเปิดเปลือกตาตามที่เนจิสั่ง แต่ทว่ามันไม่ง่ายอย่างนั้น เนจิจึงต้องใช้มือข้างหนึ่งประคองหน้าของซากุระเอาไว้ และใช้นิ้วชี้กับนิ้วโป้งอีกข้างหนึ่งเบิกตาซากุระขึ้นมาตรวจอาการ
“เธอใช้พลังของเนตรโดยไม่รู้ตัว และมันเกินขีดจำกัด…เธอยังควบคุมพลังของเนตรไม่ได้”
“ฉันไม่เข้าใจ…ทั้งๆที่แต่ก่อนฉันไม่เคยเป็นแบบนี้แท้ๆ”
“พลังเนตรของเธอถูกกระตุ้นให้ตื่นขึ้นมา บางทีมันอาจถูกกระตุ้นโดยอะไรบางอย่าง…มีใครพยายามจะแย่งเนตรไปจากเธอรึเปล่าซากุระ”
“…”
ซากุระไม่อยากจะพูดออกไปเรื่องของซาสึเกะ เธอได้แต่กัดริมฝีปากของตัวเองแน่นเพราะไม่รู้จะพูดมันออกมายังไง ถ้าบอกว่าซาสึเกะกลับมาหาเธอพร้อมทั้งใช้เนตรวงแหวนกับเธอ…มันจะต้องเป็นเรื่องใหญ่โต นารูโตะจะต้องออกตามหาซาสึเกะทันที
“ฉันเองก็ไม่รู้เหมือนกัน”
รอยยิ้มบางๆถูกระบายบนใบหน้าของเธอเพื่อตบตาเนจิและคนอื่นๆ เนจิขมวดคิ้วอย่างไม่เข้าใจนัก เขาหันไปหยิบตลับยาบางอย่างขึ้นมาก่อนจะลงมือทาที่เปลือกตาของซากุระเบาๆ ผ้าเช็ดหน้าผืนเล็กถูกเช็ดที่ใต้ขอบตาและข้างแก้มของซากุระในเวลาต่อมา เนจิดูแลซากุระอย่างทะนุถนอมจนนารูโตะที่ยืนดูอยู่รอบนอกอดที่จะสงสัยไม่ได้ ท่าทีของเนจิดูแปลกๆ
“เนจิ นายมีอะไรแปลกๆที่ทำให้ฉันสงสัยนะ”นารูโตะเป็นคนที่เก็บความคิดของตัวเองไม่เป็นจริงๆ ถ้าเขาเล่นเกม…เขาก็จะเป็นคนที่บุกเข้าใส่ศัตรูตรงๆแบบไม่ลังเล
“นายควรเอาเวลาไปคิดเรื่องรับตำแหน่งโฮคาเงะดีกว่านะนารูโตะ”
ทำเป็นขรึม! นารูโตะคิดในใจก่อนจะเบ้ปากสะบัดหน้าใส่ เนจิส่ายหน้าอย่างระอาก่อนจะจัดการเก็บข้าวของลงกล่องยา ซากุระที่หลับตาอยู่พยายามจะดึงแขนเนจิเอาไว้เพราะเธอไม่สามารถลืมตาขึ้นมองอะไรตอนนี้ได้
“ฉันมองไม่เห็น อยู่ตรงนี้ก่อนได้มั้ย”
“…”
เนจิไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกันว่าทำไมเขาถึงยอมนั่งอยู่ตรงหน้าของซากุระง่ายๆ เขารู้สึกพอใจที่ตัวเองถูกขอร้องให้ทำแบบนั้น มันจะใช่เหตุผลเดียวกันกับที่เขารู้สึกหงุดหงิดตลอดช่วงเวลาหลายวันที่ผ่านมานี่รึเปล่านะ นัยน์ตาสีขาวของเนจิละสายตาออกจากใบหน้าของซากุระ เขาปะทะเข้ากับนัยน์ตาสีเขียวอมฟ้าของกาอาระพอดิบพอดี
กาอาระยืนกอดอกไม่พูดจาอะไรตั้งแต่มาถึงที่นี่ เขาเอาแต่จ้องมองที่ซากุระอย่างเป็นห่วง แต่ตอนนี้สายตานั่นก็กำลังมองเนจิไม่วางตา ราวกับกำลังจับตาดูทุกท่าทีของเนจิ…และมันน่าหงุดหงิดสำหรับเนจิ ที่ยังเห็นทั้งกาอาระและนารูโตะยืนอยู่ตรงนี้ด้วย
“ยังไงก็แล้วแต่…เธอจะต้องไม่ทำอะไรที่ส่งผลกระทบกระเทือนต่อตาของเธอ จนกว่าฉันจะค้นพบสาเหตุที่แท้จริงที่ทำให้พลังเนตรเธอถูกกระตุ้น”
“รวมถึงการร้องไห้ด้วยรึเปล่า”จู่ๆกาอาระก็ถามขึ้นมา เนจิเหลือบตามองเล็กน้อยก่อนจะพยักหน้ารับ คนที่เป็นต้นเหตุที่ทำให้ซากุระร้องไห้ถึงกับสะดุ้งโหยง เพราะเขาถึงทำให้ซากุระเลือดไหลออกมาจากตาสินะ…
ถ้าเขาทำร้ายความรู้สึกของซากุระ ถ้าเขาทำให้ซากุระเป็นห่วง เธอก็จะร้องไห้ออกมาด้วยความเจ็บปวดทรมาน…และถ้าเธอร้องไห้มันจะส่งผลกระทบต่อดวงตาของเธอ นั่นมันแย่มาก
“ซากุระจัง ฉันขอโทษนะ”
“นายจะขอโทษฉันทำไมน่ะนารูโตะ ฉันยังไม่ได้ตาบอดสักหน่อยนะ”
“ฉันทำให้ซากุระจังต้องเจ็บปวด…ถูกทุกอย่างที่กาอาระว่า…ฉันมันไม่คู่ควรกับตำแหน่งโฮคาเงะจริงๆ ฉันยังขาดความรับผิดชอบ ขาดการตัดสินใจที่ถูกต้อง เธอคงจะไม่โกรธฉันนะถ้าฉันจะไม่รับตำแหน่งนั่นตอนนี้”
“…”
“แต่ไม่ใช่ว่าฉันจะไม่รับตำแหน่งโฮคาเงะนะ ฉันจะรับตำแหน่งโฮคาเงะแต่ให้ฉันได้เรียนรู้ที่จะรับผิดชอบมากกว่านี้ เป็นโฮคาเงะที่คนทั้งหมู่บ้านต่างไว้ใจและพึ่งพาได้ ฉันจะไม่เอาอนาคตตัวเองมาตัดสินโดยซาสึเกะ…ฉันจะไม่เอาซาสึเกะมาเป็นตราบาปในการก้าวต่อไป ถึงฉันจะเป็นโฮคาเงะแล้วแต่ฉันก็จะหยุดซาสึเกะไปพร้อมๆกับการเป็นโฮคาเงะให้ได้”
“ขอบใจนะนารูโตะ…ขอบใจที่นายไม่ทิ้งฉันไปอีกคน”
ถึงนารูโตะจะไม่ได้ตัดสินใจตายในทันที แต่ใครจะไปรู้อนาคตกันล่ะ เขาก็แค่หวังว่าจะทำวันนี้เพื่อซากุระให้ดีที่สุด ถ้าเธอไม่ใช่ผู้หญิงที่เขารักมากที่สุดในชีวิตนี้…เขาคงจะไม่แคร์เธอ ห่วงเธอ และเปลี่ยนความคิดใหม่แน่ๆ เพียงแค่เห็นรอยยิ้มเล็กๆที่เคลือบบนริมฝีปากบางของซากุระทั้งๆที่เธอยังหลับตาอยู่ แค่นั้นก็เหมือนกับของขวัญในชีวิตของนารูโตะแล้ว
“ขอบใจนะกาอาระ ที่ทำให้ฉันคิดได้”
“เราเป็นเพื่อนกันนี่”
พรึ่บ พรึ่บ พรึ่บ!!
ขายาวๆทั้งสองข้างที่สลับไปมาอย่างรวดเร็วส่งผลให้ร่างสูงของซาสึเกะก้าวกระโดดไปตามต้นไม้ใหญ่ในป่าเพื่อมุ่งหน้าไปยังโคโนฮะงาคุเระรวดเร็วยิ่งขึ้น พวกเขาหนีการตรวจจับของนินจาที่เป็นเวรยามในการตรวจสิ่งผิดปกติอย่างง่ายดายตรงชายแดนหมู่บ้าน และตอนนี้เขากำลังจะเข้าสู่ตัวหมู่บ้านโคโนฮะแล้ว
“ไม่ได้กลับมาที่นี่ตั้งนานนะซาสึเกะ”ซุยเงสึที่เป็นคนติดตามซาสึเกะตลอดมาร้องบอก เขากำลังกระโดดเกาะกิ่งไม้และเหวี่ยงตัวไปยังกิ่งไม้ต้นถัดไป
“หยุดตรงนั้น”
ซาสึเกะบอกเสียงเรียบ เขาหยุดตัวเองอยู่ตรงลานเล็กๆกลางป่าใหญ่แทบจะทันทีที่สิ้นเสียงพูด ทำให้นินจาคนอื่นๆที่เดินทางมาด้วยความเร็วพอๆกับซาสึเกะถึงกับวิ่งเลยไปสองสามต้นไม้ใหญ่
“ไม่ใช่ว่าใครๆก็สามารถหยุดการเคลื่อนไหวได้รวดเร็วและแม่นยำอย่างนายนะซาสึเกะ”
“ซุยเงสึ ฉันอยากให้นายเข้าไปสืบเรื่องในหมู่บ้านโคโนฮะ ตรวจจำนวนนินจาทั้งหมดที่มีอยู่ในหมู่บ้าน สืบข่าวเกี่ยวกับการรับตำแหน่งโฮคาเงะของนารูโตะ รวบรวมข้อมูลนั่นมาให้ฉัน”
สนใจฟังคนอื่นซะไม่มีล่ะ
“เราไม่ได้มาที่โคโนฮะเพราะเนตรแห่งการรักษานั่นหรอกเหรอซาสึเกะ”
“เรื่องซากุระฉันจะเป็นคนไปสืบด้วยตัวเอง ส่วนคนอื่นที่เหลือให้รอฟังคำสั่งจากฉันอยู่ที่นอกหมู่บ้านโคโนฮะ จูโกะ นายจะต้องอยู่รอที่นี่จนกว่าฉันจะติดต่อกลับมา ฉันกับซุยเงสึจะเข้าไปที่โคโนฮะแค่สองคนเท่านั้น”
“ฉันอยากไปด้วย”
มินะ ซาโยริ นินจาหญิงที่มีขีดจำกัดสายเลือดหนึ่งในหญิงสาวที่ตกหลุมรักซาสึเกะและถูกพาตัวมากับเขาด้วยนั้นร้องบอก ซาสึเกะจ้องมองเธอด้วยแววตาเย็นชาเหมือนกับที่เขาใช้มองหญิงสาวทุกคนที่เขาพาตัวมาเป็นภรรยา เธอโชคดีที่มีขีดจำกัดสายเลือดที่มีประโยชน์ต่อการทำงานในครั้งนี้ ซาสึเกะถึงได้พาตัวเธอมาร่วมทีม
“เธอต้องอยู่ที่นี่ พลังของเธอจะมีประโยชน์เมื่อฉันได้ตัวซากุระ”
น้ำเสียงเย็นชานั่นทำให้ซาโยริหน้าสลด ขีดจำกัดสายเลือดของเธอเป็นที่น่าสนใจของซาสึเกะก็เพียงเพราะภารกิจเท่านั้นสินะ เธอก็แค่หวังว่าซาสึเกะอาจมีสักเศษเสี้ยวที่จะรักเธอเกินกว่าภรรยาคนอื่นๆ
“จูโกะ จับตาดูซาโยริอย่าให้ก่อเรื่อง”
เสียงเย็นชาของซาสึเกะสั่งเพียงเท่านั้นก่อนที่ร่างของเขาจะหายไป ซุยเงสึกรอกตาไปมาก่อนจะตามซาสึเกะไปติดๆ
“ฉันเป็นภรรยาของเขาใช่มั้ยจูโกะ…แต่ดูเหมือนมันจะไม่มีความหมายอะไรเลย”
“ซาสึเกะ…มีเหตุผลทุกอย่าง”
“อืม…คงงั้นล่ะ”
เหตุผลที่ขึ้นอยู่กับสมอง ไม่ใช่หัวใจ…
การจัดเตรียมงานสำหรับขึ้นรับตำแหน่งโฮคาเงะของนารูโตะกำลังดำเนินไปตามแผนที่วางไว้ เหล่าคาเงะที่ผ่านสมรภูมิรบร่วมกันในสงครามนินจาครั้งที่สี่ต่างทยอยเดินทางมาถึงโคโนฮะงาคุเระตามกำหนด คงจะมีแต่นารูโตะที่ยังคงเตร็ดเตร่ไปนั่นไปนี่โดยที่ใครก็หาตัวได้ยากขึ้นทุกที เห็นทีจะมีแต่ซากุระที่จะพบตัวนารูโตะบ่อยที่สุด เพราะเจ้าหน้าหนวดแมวยังคงแวะเวียนมาหาซากุระทุกๆวัน
“นารูโตะ ฉันบอกแล้วไงว่าไม่เป็นไรแล้วน่ะ”ซากุระบอกเสียงสูงเพื่อเป็นการกลบเกลื่อนไม่ให้นารูโตะเป็นห่วงเธอมากไปกว่านี้
นารูโตะทำปากย่น ยกแขนขึ้นรองหัวตัวเองก่อนจะก้าวเดินด้วยท่าทีประหลาดๆ
“ซากุระจังอย่าโกหกฉันเลยน่า ฉันเห็นซากุระจังยังไปหาเนจิทุกวัน”
“ก็…ก็แค่ให้เนจิช่วยตรวจอะไรให้นิดหน่อยเท่านั้นเอง นายเถอะ ทำไมไม่เตรียมตัวล่ะ อีกไม่นานพิธีรับตำแหน่งโฮคาเงะก็จะเริ่มแล้วนะ พวกท่านคาเงะทั้งห้าแคว้นก็รีบเดินทางมากันตั้งเยอะแยะ แถมนินจาจากแคว้นต่างๆอีก งานนี้ยิ่งใหญ่มากนะนารูโตะ”
“ฉันบอกซากุระจังไปแล้วนี่นา…ว่าฉันจะไม่รับตำแหน่งโฮคาเงะตอนนี้น่ะ”
“แต่ทุกคนเขาลงมือจัดงานเพื่อนายไปแล้วนะ นายจะหาข้อแก้ตัวยังไงกับพวกเขาล่ะ”
ซากุระย่นคิ้วอย่างไม่เข้าใจนารูโตะเลยสักนิด คนหัวดื้อพูดเท่าไหร่ก็ไม่ยอมฟัง แถมท่านสึนาเดะยังบงการมาอย่างชัดเจนอีกต่างหากว่าให้เกลี้ยกล่อมนารูโตะให้ได้ เฮ้อ! มอบงานหนักให้เธอชัดๆ
“ฉันคิดๆมาแล้วล่ะ ฉันว่าจะให้อาจารย์คาคาชิรับตำแหน่งโฮคาเงะไปก่อนนะ!”
ผลั่ก!!
“โอ๊ย ซากุระจัง ต่อยฉันทำไมล่ะ!~”
“พูดจาได้ไม่มีความรับผิดชอบสมเป็นนายจริงๆนะ บทที่จะจริงจังนายก็ดูจริงจังซะจนพึ่งพาได้! แต่บทจะไม่ได้เรื่องนี่ก็โคตรจะงี่เง่าเลยนะเจ้าบ้าเอ้ย!”
“ฮ่ะๆ ดีจังเลยนะที่ซากุระจังกลับมาร่าเริงได้เหมือนเดิมแล้วน่ะ”
ซากุระล่ะไม่รู้จริงๆว่าจะทำยังไงกับเจ้าบ้าหนวดแมวนี่ เธอถอนหายใจออกมาอย่างเหนื่อยใจก่อนจะยกยิ้มที่มุมปากให้นารูโตะ ก็นะ…เธอจะโกรธเจ้าเพื่อนบ้าคนนี้ได้ยังไงกันล่ะ
“แล้ววิชาใหม่ที่นายกำลังพัฒนาไปถึงไหนแล้วล่ะ?”
“อะ…อ้าว นี่ถ้าซากุระจังไม่พูดถึงเนี่ยนะ ฉันคงลืมไปแล้วล่ะ”
“ลืม! อย่างนายเนี่ยนะลืมการฝึก ไม่น่าเป็นไปได้เลยนะ”
“ก็ช่วงนี้ฉันเป็นห่วงซากุระจังนี่นา”
“…”คำพูดของนารูโตะที่ดูจริงใจและจริงจังนั้นทำเอาสาวเจ้าถึงกับเงียบเพราะน้ำท่วมปาก ใบหน้าที่รู้สึกร้อนผ่าวของซากุระเป็นอาการผิดปกติที่เธอไม่ควรจะรู้สึกเลยสักนิด
“มีเลือดไหลออกมาจากตาแบบนั้น น่ากลัวจะตายไป! มันยิ่งทำให้ซากุระจังหลอนมากกว่าเดิมร้อยล้านเท่าเลยนะ!!”
“ละ…หลอนงั้นเหรอ!!”
“บรื๋อ!! น่ากลัวเหมือนผีเลยล่ะ”
“นารูโตะ!!”
“ฮ่าๆๆ”
คนตัวสูงรีบวิ่งหนีนำหน้าออกไปก่อนที่คนตัวเล็กจะฟาดหมัดใส่หน้าเขาได้อีกครั้ง นารูโตะหัวเราะเสียงดังจนเปลือกตาของเขาเกือบปิดทั้งสองข้าง ซากุระที่วิ่งตามนารูโตะมาค่อยชะลอฝีเท้าลงเมื่อนารูโตะกำลังวิ่งถอยหลัง วันเวลาดีๆที่พวกเธอยังเป็นเด็กเริ่มเวียนกลับมาอีกครั้ง ซากุระอดใจที่จะยิ้มไปกับภาพเหล่านั้นไม่ได้จริงๆล่ะนะ
นารูโตะ นายโตขึ้นเรื่อยๆแล้วสินะ…นายต้องผ่านความเจ็ยปวดทรมานมาตั้งเท่าไหร่ นายจะต้องแบกรับความทุกข์ ความรู้สึก ความแค้น และความเกลียดชังของใครต่อใครมาไม่รู้กี่ครั้ง แล้วนายยังแบกรับคำขอร้องและความรู้สึกที่แสนเห็นแก่ตัวของฉันได้อีก ขอบใจนะนารูโตะที่เห็นแก่ฉัน…
“ซา…กุระจัง~”
“หืม?”
นารูโตะที่วิ่งถอยหลังกลับมาอยู่ข้างซากุระแล้วฉีกยิ้มกว้างจนแก้มแทบปริ ซากุระกระพริบตาปริบๆเมื่อนัยน์ตาสีฟ้าสดใสของนารูโตะกำลังจ้องมองเธอ
“มีอะไรเหรอนารูโตะ?”
“ที่ซากุระจังอยากให้ฉันเป็นโฮคาเงะเนี่ย…”
ใบหน้าที่เริ่มยิ้มแบบคนโรคจิตทำให้ซากุระชะงัก นารูโตะกำลังคิดอะไรประหลาดๆอยู่ในความคิดอย่างที่ซากุระไม่ต้องจินตนาการซะให้ยาก
“นายกำลังคิดอะไรประหลาดๆอยู่ใช่มั้ยล่ะ ฮะ?”
ว่าแล้วซากุระก็จัดการดึงหูของนารูโตะเล่น ทำเอาคนที่ถูกดึงถึงกับหน้าเบ้เพราะความเจ็บ
“อูย ซากุระจังนี่อ่านความคิดฉันออกด้วยนะ ฉันแค่จะถามเฉยๆว่าที่อยากให้ฉันเป็นโฮคาเงะ เพราะซากุระจังอยากตอบคำถามฉันไวๆใช่มั้ยล่ะ อูย~ เจ็บจัง”
“คำถาม…?”
“ที่ฉันเคยถามไว้ไง…อย่าบอกนะว่าซากุระจังลืมไปแล้ว”
“…”
คำถามที่นารูโตะถามเธอคงไม่ใช่คำถามเกี่ยวกับเรื่องแต่งงานหรอกนะ ซากุระถอดถอนหายใจออกมาอีกครั้งก่อนจะมองหน้านารูโตะด้วยสายตาที่อ่อนโยน ทำเอาคนตัวสูงถึงกับชะงักกับใบหน้าอ่อนโยนที่ไม่ค่อยได้เห็นนัก มันส่งผลทำให้อัตราการเต้นของหัวใจนารูโตะเพิ่มขึ้นอย่างไม่รู้ตัว…
เขาคงปฏิเสธไม่ได้จริงๆว่าชอบซากุระมาก ชอบที่สุด จนอาจต้องเปลี่ยนคำที่ใช้เป็นรักแทน
“นารูโตะ”
“ฮะ…หา!”นารูโตะร้องเสียงดังเพราะตกใจที่ถูกเรียก เขามีสีหน้าลุกลี้ลุกลนและใบหน้าที่แดงขึ้นเรื่อยๆ
“นายควรเอาเวลาไปออกเดตกับฮินาตะบ้างนะ”
เปรี้ยง!!!
ราวกับฟ้าผ่า ซากุระที่พูดประโยคนั้นออกมาทั้งๆที่สองมือบีบไหล่ของนารูโตะอยู่นั้นทำให้คนตัวสูงอยากจะล้มลงไปนอนกับพื้นเสียให้ได้ ทำไมถึงพูดแบบนั้นล่ะ…ทั้งๆที่เขาหวังคำตอบจากการขอแต่งงานเอาไว้นะ มันควรจะเป็นอีกอย่างสิ…มันไม่น่าจะเป็นคำตอบแบบนี้ มันเหนือความคาดหมายเกินไปแล้ว!!
“ยังไงๆ…ฉันก็แต่งงานกับนายไม่ได้หรอก”
เปรี้ยง!!!
นั่นคือฟ้าผ่าครั้งที่สอง!! นารูโตะได้แต่พยายามทำใจดีสู้เสือด้วยการฉีกยิ้มเคลือบริมฝีปากที่อยากจะเบะปากร้องไห้เพราะความผิดหวัง นัยน์ตาสีฟ้าราวมหาสมุทรถึงกับมีแววหม่นหมองลงไปอย่างเห็นได้ชัด ยังไงๆความรักของเขามันก็ไม่สมหวังสินะ ยังไงๆ…ซากุระก็จะต้องผลักดันเขาไปให้คนอื่นจริงๆสินะ
“นายมีคนที่ดีกว่าฉันรักนายขนาดนี้ นายยังจะไม่เหลียวแลเธอเลยเหรอ”
“…”
“ฮินาตะน่ะเขารักนายจริงๆนะ”
“พอเถอะ!! หยุดพูดสักทีเถอะน่า…”
“นะ…นารูโตะ”
“ซากุระจัง ไม่พูดซะยังดีกว่า”
“…”
“นะ อย่าพูดอีกเลยนะ ซากุระจัง ฮ่ะๆ”
รอยยิ้มที่ฝืนทนกลั่นมันออกมามันช่างเจ็บปวดทรมานใจของเขาเหลือเกิน นารูโตะทนยืนฝืนยิ้มปั้นหน้าต่อหน้าซากุระอีกต่อไปไม่ได้ ร่างสูงของเขารีบหมุนตัวก่อนจะหายตัวไปต่อหน้าต่อตาซากุระ
ถึงแม้ว่าคนตัวเล็กจะรู้…ถึงแม้ว่าเธอจะรู้ดีเลยล่ะว่าการยัดเยียดนารูโตะให้คนอื่นจะเป็นการทำร้ายความรู้สึกของเจ้าตัวมากแค่ไหน แต่มันก็ดีแล้วไม่ใช่เหรอที่นารูโตะจะได้เจอคนที่ดีกว่าเธอ สำหรับเธอน่ะ…มันไม่คู่ควรกับใครทั้งนั้น
“กำลังนึกเสียใจที่ทำร้ายความรู้สึกนารูโตะล่ะสินะ”
“ฉัน…ฉันไม่ได้นึกเสียใจอะไรสักหน่อยนะ”
“แล้วไอ้มือที่พยายามเช็ดน้ำตานั่นล่ะ?”
“เดี๋ยวนี้ท่านสอดรู้…”
“อ้อ ฉันสอดรู้ไปแล้วเหรอ?”
คนตัวเล็กถึงกับกัดริมฝีปากที่ถูกย้อนกลับมาแบบนั้น ความจริงเธอไม่ได้ตั้งใจจะพูดแบบนั้นกับคาเสะคาเงะเลยสักนิด ซากุระสะบัดหัวไปมาเพื่อไล่ความคิดฟุ้งซ่านที่อยู่ในหัวออกไป น้ำตาที่รินไหลผ่านนัยน์ตาสีมรกตมันชัดเจนเสียจนคนตรงหน้าต้องเอื้อมมือมาสัมผัส…นิ้วเรียวยาวของเขาไล้ไปตามน้ำตาที่ยังไม่หยุดไหล
“เธอร้องไห้มากเกินไปแล้วนะซากุระ”
“มีเรื่องมากมายที่ฉันต้องคิด…มีเรื่องให้ต้องเจ็บปวดทรมานอีกมากมาย นารูโตะเป็นคนดีจริงๆนะ”
“นั่นสินะ…”
อะไรก็ตามที่เขาสามารถทำให้เธอได้ตอนนี้ คงไม่มีประโยชน์อะไรถ้าเขาไม่สามารถเข้าใจความรู้สึกของผู้หญิงตรงหน้าได้ กาอาระได้แต่ใช้ดวงตาสีเขียวอมฟ้าราวกับน้ำทะเลของตนจ้องมองซากุระอยู่เงียบๆ แบกรับความรู้สึกของเธอเอาไว้โดยไม่ต้องเอ่ยปากพูดอะไรให้มากมาย
เขาจะใช้เวลาทั้งหมดที่มีเพื่อเรียนรู้เธอ เข้าใจเธอ ลบบาดแผลที่มีในจิตใจของผู้หญิงคนนี้ ถึงแม้ว่ามันจะยากเย็นและใช้เวลานานแค่ไหนก็ตาม
“คาเสะคาเงะ…หึ”
เงามืดที่หลบอยู่ภายใต้ต้นไม้ใหญ่ริมถนนทางเดินภายในหมู่บ้านโคโนฮะได้แต่กร่นด่าอยู่ในจิตใจ แววตาสีดำเป็นประกายที่อัดอั้นไปด้วยความแค้นกำลังจดจ้องไปยังผู้หญิงตัวเล็กเรือนผมสีชมพูผู้มีนัยน์ตาสีเขียวมรกต ตอนนี้เธอกำลังหลั่งน้ำตาออกมาท่ามกลางผู้คนที่เดินผ่านไปมาพร้อมทั้งมีคาเสะคาเงะอยู่ข้างกาย
“จากนารูโตะก็มากาอาระงั้นสินะ”ซาสึเกะพึมพำกับตัวเอง ภาพเหตุการณ์ตั้งแต่เมื่อกี้ปรากฎอยู่ตรงหน้าของเขาอย่างชัดเจน
ความรู้สึกร้อนรุ่มไม่เป็นปกติเกิดขึ้นในใจของเขาผู้เฉยชาตลอดกาล กำปั้นหนักๆทุบเข้าที่ต้นไม้ข้างๆเพื่อระบายอารมณ์แค้นเคืองอย่างไม่ทราบสาเหตุ เขาไม่รู้หรอกว่าตัวเองเป็นอะไร แต่ใครก็ตามมายุ่งกับของสะสมของเขา คนนั้นจะต้องใจกล้ามากพอที่จะมีเรื่องกับอุจิวะ!
“ของสะสมของฉัน ถ้าฉันยังไม่ได้แตะ! ใครก็ห้ามเข้าใกล้”
ดูไร้เหตุผลสำหรับปีศาจจอมเอาแต่ใจอย่างเห็นได้ชัด ซาสึเกะยืนนิ่งอยู่หลังต้นไม้อยู่สักพักจนกระทั่งซากุระและกาอาระเดินจากไปแล้ว นัยน์ตาสีดำเปล่งประกายวาววาบกลายเป็นสีแดงฉานขณะจ้องมองไปยังร่างบางที่เดินเคียงข้างไปกับร่างสูง เขานึกแค้นใจอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน
คนอย่างเขาอุตส่าห์เข้ามาช่วยชีวิตเธอเพื่อรักษาเนตรแห่งการรักษานั่นไว้! แล้วยังมีหน้าไปยุ่งกับชายอื่นอีกเรอะ!!ซาสึเกะกัดฟันกรอดๆก่อนจะใช้คาถาเพื่อหายตัวไปยังสถานที่ที่เขาควรจะไป
ซาสึเกะออกวิ่งไปในหมู่บ้านโคโนฮะโดยซ่อนเงาและหลบเหลีกการตรวจจับจักระจากนินจาภายในหมู่บ้าน เขาเลือกที่จะไปยังสถานที่ประชุมลับของตระกูลอุจิวะเพื่อเข้าไปค้นเกี่ยวกับข้อมูลของเนตรแห่งการรักษา เขาไม่อยากพลาดการครอบครองเนตรนั่น เขาจึงต้องรวบรวมข้อมูลและศึกษาให้มากที่สุด
แต่มันก็ว่างเปล่า…คัมภีร์ทุกเล่ม บันทึกทุกอย่างของตระกูลอุจิวะไม่ได้ระบุอะไรเกี่ยวกับเนตรแห่งการรักษาชัดเจนนัก สิ่งเดียวที่จารึกเอาไว้คงมีแต่ประวัติของเนตรแห่งการรักษา ที่สิบปีจะปรากฏขึ้นในสายเลือดหญิงสาวจากตระกูลฮารุโนะ และจะถูกปกป้องโดยองครักษ์ เพื่อให้ผู้ที่ครอบครองเนตรแห่งการรักษาได้มอบพลังให้กับผู้ใช้เนตรที่เหมาะสมอย่างแท้จริง
“ฮึ่ย! ทำไมมันไม่มีอะไรจารึกเอาไว้!!”
ซาสึเกะหงุดหงิดกับความว่างเปล่าที่เขาค้นพบ เขาโยนคัมภีร์ทั้งหลายลงกับพื้น ร่างสูงของเขาทรุดตัวลงนั่งกับแท่นศิลาประจำตระกูล มือเรียวยาวของเขากุมเข้าที่ตาของตนเอง…ถึงแม้ว่าเขาจะผ่าตัดเนตรของตนกับอิทาจิแล้ว และได้ครอบครองพลังของอุจิวะทั้งสามคนโดยสมบูรณ์ แต่เมื่อถึงเวลาที่ใช้เนตรมากเกินไป ความเจ็บปวดสาหัสก็จะเล่นงานเขาอย่างจัง
เนตรนั่น…เขาจะต้องได้มาให้ได้ เพราะถ้าเขามีเนตรแห่งการรักษานั่น ต่อให้บาดแผลฉกรรจ์ โรคร้ายแรง ความเจ็บปวดทั้งหลาย ก็ไม่มีอะไรที่ขัดขวางเขาได้ทั้งนั้น!!!
“คืนนี้โคโนฮะจัดงานเลี้ยงสำหรับต้อนรับคาเงะทั้งห้า ท่านต้องไปเตรียมตัวเพื่อเข้าร่วมไม่ใช่เหรอ”
ซากุระหมุนตัวกลับมาหากาอาระในขณะที่ยืนอยู่ตรงหน้าทางเข้าบ้านตระกูลฮิวงะ กาอาระมาที่นี่เพื่อส่งซากุระ ทุกๆวันซากุระจะต้องมาที่นี่เพื่อให้เนจิตรวจเช็คตา ถึงแม้ว่ากาอาระจะไม่เข้าใจเท่าไหร่ก็ตามที่ซากุระมาให้เนจิตรวจแทนที่จะไปหาหมอหรืออาจารย์ของเธอ
“ฉันคงเห็นเธอที่งานนะ”
“ไม่พลาดอยู่แล้ว ฉันต้องไปที่นั่นแน่ๆ”
“อืม ก็ดีแล้ว”
รอยยิ้มเล็กๆเจือไปทั่วทั้งใบหน้าหล่อเหลานั่น ซากุระฉีกยิ้มตามเหมือนทุกครั้งนั่นล่ะ
“ฉันชอบเวลาท่านยิ้มนะ”
“เธอเคยบอกฉันแล้ว”
“ฉันก็จะบอกแบบนี้ทุกๆวันนั่นล่ะ! จนกว่าท่านจะยิ้มได้เต็มที่”
“นี่ก็เต็มที่แล้วนะ”กาอาระบอกเสียงนิ่ง ซากุระหัวเราะออกมา
“ท่านทำได้ดีกว่านี้แน่ เจอกันที่งานนะ”
“ซากุระ”
“หืม?”ซากุระต้องหมุนตัวกลับมาอีกครั้งเพราะเสียงเรียกของกาอาระ คนตัวสูงจ้องมองมาที่เธอแน่นิ่งก่อนที่พยายามจะสรรหาคำพูดออกมา
“เธอบอกฉันได้มั้ย…ทำไมเธอต้องมาหาเนจิทุกวัน? ตาของเธอมีอะไรกันแน่”
“…”
“ถ้าไม่อยากบอกก็ไม่เป็นไร ขอโทษที”
คำพูดที่ตรงข้ามกับน้ำเสียงน่ะเป็นอะไรที่ดูน่ารักและเป็นอะไรที่ดูเป็นกาอาระมากเลยนะ ซากุระยิ้มออกมา นัยน์ตาของเธอโค้งงอไปพร้อมๆกับรอยยิ้มนั่น
“ไว้ฉันจะบอกท่าน แน่นอน สัญญาเลยล่ะ”
“อืม...ว่าแต่ที่โคโนฮะมีที่เที่ยวที่ไหนบ้างล่ะ เธอน่าจะพาฉันไปทัวร์บ้างนะ”
กาอาระกลั้นใจพูดออกไปอย่างกล้าๆกลัวๆ เขาไม่ค่อยสันทัดเรื่องผู้หญิงนัก แต่เพราะมาดที่ดูแน่นิ่งราวกับไร้ความรู้สึกไปแล้ว ทำให้กาอาระดูเป็นคนที่มั่นใจไปเสียทุกเรื่อง แต่ใครจะรู้ล่ะว่าความจริงแล้วเขาเป็นคนที่ขี้กลัวและแคร์ความรู้สึกคนอื่นมากแค่ไหน
“ทัวร์เหรอ? ฮ่ะๆ ที่นี่มีที่เที่ยวเยอะเลยล่ะ แต่อาจจะไม่เจ๋งเท่าปาฏิหารย์แห่งทะเลทรายหรอกนะ”
“พาฉันไปเห็นด้วยตาสิ”
“โอเค! หลังงานคืนนี้เลยเป็นไง?”
“อืม!”
“งั้นฉันเข้าไปข้างในก่อนนะ”ว่าแล้วก็ทำท่าใช้นิ้วโป้งชี้เข้าไปในตระกูลฮิวงะ กาอาระพยักหน้าเล็กน้อยก่อนจะโบกมือให้ซากุระอย่างกล้าๆกลัวๆ เขาทำตัวไม่ค่อยถูก…เวลาแบบนี้เขาควรจะโบกมือหรือ…ยังไงดีล่ะ
“ฮ่ะๆ กลับบ้านดีๆนะ”ซากุระยกมือขึ้นมาโบกกลับ
เธอหัวเราะจนท้องแข็งที่เห็นกาอาระทำท่าทางที่ตรงกันข้ามกับลักษณะภายนอกที่แสดงออกมา เธอรู้สึกหัวใจพองโตทุกครั้งที่กาอาระส่งยิ้มมาให้ เธอรู้สึกมีความสุขทุกครั้งที่เห็นกาอาระทำอะไรสักอย่าง หรือแม้กระทั่งตอนที่เขายิ้ม…มันก็ทำให้ทั้งเธอและหัวใจของเธอยิ้มตามไปด้วย
“ซากุระจัง”
ฮินาตะที่สวมชุดลำลองสีดำเดินออกมาเจอซากุระเข้าพอดี ซากุระส่งยิ้มกว้างให้กับฮินาตะ เธอหน้าแดงเล็กน้อยก่อนจะรีบโค้งหัวทำความเคารพอย่างมีมารยาท บางทีก็มีมารยาทมากไปนะ
“ฮินาตะเธอไม่ต้องพิธีมากขนาดนั้นก็ได้นะ ทำเหมือนเราไม่เคยเจอกันงั้นล่ะ”
“แฮ่ะๆ…ฉันเผลอลืมตัวไปน่ะค่ะ”
“แล้วนี่ทำอะไรอยู่เหรอ? เนจิอยู่รึเปล่า”
“พี่เนจิ…กำลังซ้อมอยู่ที่สวนหลังบ้านน่ะค่ะ”
ว่าแล้วฮินาตะก็เดินนำซากุระลัดเข้าตัวบ้านตัดออกมาที่สวนหลังบ้านซึ่งจัดเป็นสวนหินเล็กๆและมีน้ำพุจากไม้ไผ่ที่กระทบเข้ากับหินเป็นจังหวะตลอดเวลา
ซากุระกระพริบตาเล็กน้อยเพื่อรับแสงแดดเวลาเที่ยงที่ส่องเข้ามา ฮินาตะผายมือให้ซากุระไปนั่งริมชานบ้านที่ตอนนี้มีคนในตระกูลฮิวงะนั่งดูการซ้อมของเนจิอยู่ ซากุระคิดว่าเขาน่าจะเป็นพี่เลี้ยงของฮินาตะ
“เชิญเลยค่ะ ฉันจะไปเอาน้ำชามาให้นะ”ฮินาตะบอก แต่คนในตระกูลฮิวงะกลับฉวยโอกาสลุกขึ้นไปเอาน้ำชามาให้เสียก่อน
“ขอบคุณมากค่ะ ความจริงไม่เห็นต้องลำบากขนาดนั้นเลยนะฮินาตะ”ซากุระพูดไปยิ้มแบบเกรงใจไป
ฮินาตะส่ายหน้าเล็กน้อย เธอดูเรียบร้อยและขวยเขินอยู่ตลอดเวลา ยิ่งเธอนั่งท่าคุกเข่าเรียบร้อยพร้อมทั้งเอามือมาประสานตรงหน้าตักแล้ว น่าแปลกใจจริงๆที่ฮินาตะดันหลงรักนารูโตะ
“พี่เนจิกำลังซ้อมอยู่ คงจะไม่สังเกตเห็นพวกเราจนกว่าจะซ้อมเสร็จนั่นล่ะค่ะ”
นั่นแปลว่าเนจิมีสมาธิในการซ้อมมากสินะ ซากุระนั่งจ้องมองเนจิที่กำลังวาดหมัดไปกลางอากาศ เห็นการประสานอิน และการเบิกเนตรวงแหวน ใบหน้าของซากุระเอียงไปตามเนจิที่กำลังกระโดดเตะอยู่กลางอากาศ ความน่าทึ่งของเนจิเกิดขึ้นเมื่อเขาใช้มวยอ่อนของตนฟันฉับเข้ากลางใบไม้จนขาด…!! สมแล้วที่เป็นโจนิน
“ท่านฮินาตะ”เนจิดูเหมือนจะซ้อมเสร็จแล้ว เขาหันมาหาฮินาตะที่ตอนนี้ลุกลี้ลุกลนรีบขานรับ
“คะ! ค่ะ!!”
“ท่านควรจะจดจำท่าพวกนั้นเอาไว้และเริ่มซ้อมนะครับ”
คนขี้เก๊ก! ซากุระรีบหันหน้าไปด้านข้างเพื่อย่นจมูกให้กับท่าทีขี้เก๊กนั่น เนจิที่เหมือนจะสังเกตคนผมสีชมพูแล้วมีแววแปลกใจนิดหน่อยที่ตนเองไม่รู้ตัวว่าเธอมา
“มาทำไม?”คนขี้เก๊กถาม และมันเป็นคำถามที่กวนโมโหชะมัดเลย!
ซากุระเก็บอารมณ์ครุกรุ่นเอาไว้ในใจ คิ้วที่กระตุกนั่นเป็นสัญญาณไม่ดีที่นารูโตะมักรู้ แต่สำหรับเนจิ…เขาไม่มีทางรู้หรอก
“นายเป็นคนบอกให้ฉันมาเองนะ!”
“ตาหายแล้ว ไม่ต้องมาก็ได้”
ขี้เก๊กที่สุด! ถ้าเขาพูดแบบนี้ตั้งแต่เมื่อวาน ซากุระก็ไม่ถ่อมาหาเขาถึงที่บ้านแบบนี้หรอก ซากุระสะบัดหน้าใส่เนจิก่อนจะลุกขึ้นอย่างอารมณ์เสีย ฮินาตะที่กำลังจะเริ่มต้นซ้อมร้องเรียกเธอเอาไว้
“อ้าว ซากุระจังจะไปไหนน่ะ เพิ่งมาเองไม่ใช่เหรอคะ”
“พอดีว่าฉันไม่มีธุระอะไรกับเนจิแล้วน่ะ ตาหายแล้ว ฉันไม่ต้องมาก็ได้แล้วน่ะ ขอโทษที่รบกวนนะ!”
คำพูดทิ้งท้ายนั่นซากุระจงใจที่จะลงเสียงหนักเพื่อให้รู้ว่าเป็นการประชดประชัน ร่างบางโค้งหัวลงก่อนจะเดินหมุนตัวเพื่อจะเดินหนีไปให้พ้นๆ เนจิที่มีความไวรีบคว้าแขนของซากุระเอาไว้ คนฟอร์มจัดหลบนัยน์ตาสีเขียวมรกตที่จ้องมองมาตรงๆ
“ไม่ต้องรีบก็ได้…”
“…”
“ฉันหมายถึง…เราควรจะพูดถึงเรื่องตาเธอ”
เนจิว่าและชี้ไปที่บริเวณตาของตัวเอง ซากุระหน้าหงิกขึ้นมาทันทีเพราะความขี้เก๊กของคนตรงหน้า อีกสองคนที่อยู่ด้านหลังก็คงคิดเหมือนกัน ทั้งฮินาตะและคนติดตามต่างพากันหัวเราะคิกคักกับท่าทีของเนจิ ไม่ใช่บ่อยนักหรอกนะที่จะมีคนทำให้เนจิฟอร์มหลุดได้น่ะ
“นี่คือตำราที่จารึกเกี่ยวกับเนตรของเธอ พลังของเนตร”
ประตูกระดาษถูกปิดตัวลงพร้อมกับเนจิที่เดินมานั่งข้างๆซากุระ เขาวางม้วนกระดาษขนาดใหญ่บนโต๊ะดื่มชาก่อนจะใช้มือข้างขวาเลื่อนมันให้คลี่ออกไป
“เธอใช้เวลาว่างศึกษามันได้”
ซากุระไม่ได้พูดอะไร เธอให้ความสนใจกับกระดาษแผ่นนั้น นัยน์ตาสีเขียวกวาดสายตาไปทั่ว ใบหน้าของเธอเริ่มตะแคงซ้ายขวาเมื่อรู้สึกว่ามันคุ้นๆตา
“มีอะไรเหรอ?”เนจิถามอย่างอยากรู้ ซากุระจึงรีบหยิบม้วนกระดาษเล็กๆอีกอันหนึ่งออกมาจากกระเป๋าหลัง
“มันมีบางส่วนสอดคล้องกับคัมภีร์แพทย์เล่มใหม่ที่ท่านซึนาเดะให้ฉันน่ะสิ มันมีส่วนที่เกี่ยวข้องกันตรงที่พลังเนตรและวิธีการใช้ วิชา เคล็ดลับ…”
“ท่านซึนาเดะคงรู้เรื่องเนตรของเธอ ท่านถึงได้ส่งมอบคัมภีร์ฝึกให้ ฉันคิดว่าถ้าเธอฝึกวิชาควบคุมเนตรสำเร็จ และศึกษาคัมภีร์ของท่านซึนาเดะจนสำเร็จแล้วล่ะก็…เธอจะควบคุมพลังของเนตรได้และยังได้วิชาแพทย์ใหม่ที่เกิดจากตาเธอ”
“มันจะมีประโยชน์…มันจะมีประโยชน์ต่อนารูโตะและหมู่บ้านโคโนฮะ”
“ฉันนึกว่า…”
“อะไร? อะไรเหรอ?”
ซากุระหันหน้าไปทางเนจิที่ตอนนี้ใบหน้าของเขากับเธอห่างกันเพียงไม่เท่าไหร่ นัยน์ตาสีขาวที่เคยจดจ้องอยู่ที่คัมภีร์เงยหน้าขึ้นมามองเธอ
“ฉันแค่คิดว่าเธอจะนึกถึงตัวเองก่อนเป็นอันดับแรกซะอีก…”
“ฮ่ะๆ อ้อ…เหรอ”
คนตัวเล็กรีบหลบสายตาสีขาวที่จ้องมองมา เธอห่อไหล่ลงเล็กน้อยก่อนจะแสร้งทำเป็นสนใจกระดาษที่วางอยู่บนโต๊ะ เนจิไม่ได้ขยับเขยื้อนไปไหน เขายังคงนั่งคุกเข่านิ่งอยู่ไม่ห่างซากุระ สายตาของเขาสำรวจไปทั่วทั้งคนตัวเล็กโดยไม่เกรงใจเลยสักนิด
คนตัวเล็กเริ่มรู้สึกถึงความอึดอัดและกดดันที่คนตัวสูงสร้างขึ้น ซากุระเผลอเงยหน้าขึ้นมาสบตาเข้ากับนัยน์ตาสีขาวของเนจิพอดี แรงดึงดูดอะไรบางอย่างทำให้คนตัวสูงขยับเข้าหาคนตัวเล็กที่เบิกตากว้าง ซากุระกลืนน้ำลายลงคออย่างยากลำบาก สถานการณ์แบบนี้ใครจะไปบังคับตัวเองไม่ให้ใจสั่นได้ล่ะ…
เปรี้ยง!! พรึ่บ!!!
เสียงดังอย่างฟ้าผ่าดังขึ้นก่อนที่ไฟในห้องจะดับลง พร้อมทั้งแรงกระแทกที่ทำให้เนจิกระเด็นออกไปติดข้างฝา ซากุระไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น เธอพยายามมองผ่านความมืดที่เกิดขึ้น แต่แล้วมือเย็นเฉียบก็แตะเข้าที่กลางหลังของเธอ เธอขนลุกซู่ ในขณะเดียวกันก็พยายามควานหาอาวุธมาถือไว้
“เตือนแล้วไม่จำใช่มั้ยซากุระ…”
เสียงนั่น!! ซาสึเกะอย่างไม่ต้องสงสัย ซากุระหันซ้ายหันขวาเพื่อมองหาตัวซาสึเกะ เงาดำตะคุ่มๆเริ่มเคลื่อนไหวอีกครั้งก่อนที่ประตูจะถูกเปิดพร้อมทั้งแสงแดดจากภายนอกที่ในที่สุดก็สอดส่องเข้ามาในห้องจนได้…
นั่นคือซาสึเกะแน่ๆ ซากุระจำได้ขึ้นใจ เขามาทำอะไรที่นี่ ในวันที่ใกล้จะรับตำแหน่งโฮคาเงะแบบนี้ เขาต้องการอะไร?...ต้องการเนตรของเธองั้นเหรอ
“บ้าชิบ!”เสียงสบถของเนจิทำให้ซากุระรีบเรียกสติกลับคืนมา ร่างบางของเธอรีบคลานไปหาเนจิที่นอนหมดสภาพอยู่ที่ฟากของห้อง เลือดไหลลงมาที่ริมฝีปากนั่น
“เนจิ เป็นยังไงบ้าง”
ไม่น่าจะถาม เนจิกัดฟันกรอดๆในขณะที่ใช้แขนเสื้อเช็ดเลือดที่ปากของตน ซากุระไม่รู้จะทำหน้ายังไง ไม่รู้จะหาคำแก้ตัวอะไรออกมากับสถานการณ์แบบนั้น เนจิคงไม่รู้หรอกใช่มั้ยว่าเป็น…
“ซาสึเกะ!! หมอนั่นมันจะหยามกันมากเกินไปแล้วนะ!!”
เนจิรู้จริงๆว่าคนที่โจมตีเมื่อกี้คือซาสึเกะ ซากุระรีบพยุงเนจิให้ลุกขึ้นนั่ง มือเรียวเล็กของซากุระเอื้อมไปแตะที่ริมฝีปากของเนจิเพื่อหวังจะเช็ดเลือดออกจากมุมปากของเขา เนจิดันมือของซากุระออกเบาๆ
“ซาสึเกะต้องการเนตรของเธอแน่ๆ”เนจิพูดเสียงหนักแน่น
“เราจะต้องปกป้องเนตรของเธอไม่ว่ายังไง…เขาจะได้เนตรนั่นไปไม่ได้”
ซากุระนึกขำกับตัวเอง การที่มีเนตรพิเศษแบบนี้อยู่กับตัวมันไม่ใช่เรื่องดีเลยสินะ…ถ้าเธอเลือกได้เธอจะไม่มีทางขอให้ตัวเองมีเนตรพิเศษแบบนี้หรือตลอดชีวิตของเธอ…เธอหวังว่าพลังของเนตรมันจะไม่ถูกปลุกขึ้นมา เพราะดูเหมือนใครๆก็เอาแต่สนใจเนตรของเธอมากกว่าที่จะเป็นเธอซะเอง
ไม่ว่าจะเป็นซาสึเกะที่กลับมาหาซากุระเพราะต้องการเนตรของเธอ หรือจะเป็นเนจิที่ทำดีกับเธอเพื่อจะปกป้องเนตรของเธอเอาไว้ สุดท้ายแล้วเมื่อทุกคนได้สิ่งที่ตนเองต้องการ…เธอก็จะไม่มีค่าอะไรนอกไปจากคนที่ครั้งหนึ่งเคยมีเนตรพิเศษ
“ต่อให้ใครก็ห้ามได้เนตรฉันไปทั้งนั้นสินะ…”
“ใช่ พลังเนตรของเธอมันสำคัญมาก มันสามารถเปลี่ยนทุกอย่างได้”
“งั้นสินะ”
“…”
“ฮ่ะๆ ฉันขอตัวกลับก่อนแล้วกัน ลืมไปเลยว่ามีงานอีกเยอะแยะให้ต้องทำ”
มันเป็นการขอตัวกลับที่อ้างเหตุผลได้ค้างๆคูๆมาก ซากุระรีบลุกขึ้นยืนโดยไม่คิดจะเหลียวหลังกลับไปดูสีหน้าของเนจิอีก มือเรียวนั่นกำหมัดแน่นในขณะที่ก้าวเดินออกไป เธอไม่รู้ว่าตัวเองจะรู้สึกยังไงกับเรื่องที่เกิดขึ้น ทุกเรื่องที่ประเดประดังเข้ามาในชีวิตเธอตอนนี้เต็มไปด้วย…ความสับสน เธอควรจะดีใจรึเปล่านะที่ตั้งแต่เนตรของเธอถูกปลุกพลังขึ้นมา ทุกๆคนก็ดูให้ความสนใจไปเสียหมด
สนใจแต่เนตร…แล้วมีใครสนใจในตัวฮารุโนะ ซากุระบ้างมั้ย?
“คนๆนั้นน่ะเหรอ ฮารุโนะ ซากุระ…”
ร่างบอบบางของผู้หญิงที่แนบกับเงามืดของแสงอาทิตย์เอื้อนเอ่ยออกมาอย่างเลื่อนลอย นัยน์ตาสีน้ำตาลของซาโยริเหม่อลอยออกไปไกลโดยมองข้ามใบหน้าของจูโกะที่ยืนประกบคู่กับเธอ ทุกสิ่งทุกอย่างที่เธอเห็นการกระทำของซาสึเกะที่มีต่อผู้หญิงผมสีชมพูคนนั้น มันทำให้เธอปวดร้าว…
“เห็นสิ่งที่ซาสึเกะทำรึเปล่าจูโกะ เขาแคร์เธอ”
“ฉันไม่คิดว่าซาสึเกะจะแคร์ใคร ถึงแม้ว่าเขาจะเป็นมนุษย์ธรรมดา…ก็ต้องมีบ้างที่มีความรู้สึก แต่เขาอาจเห็นค่าของเธอเพียงแค่เนตร”
คำปลอบใจของจูโกะถึงแม้ว่ามันจะฟังดูดีในเวลานี้ แต่มันก็ไม่ได้ลบภาพนัยน์ตาสีดำรัตติกาลของซาสึเกะที่เฝ้ามองฮารุโนะ ซากุระตลอดเวลา ไม่ได้ลบภาพที่เขาโกรธแค้นฮารุโนะ ซากุระซึ่งอยู่กับผู้ชายอื่นจนพังต้นไม้เป็นแถบๆ ไม่ได้ลบภาพที่เขาเข้าไปขวางฮิวงะ เนจิไม่ให้จูบเธอ…
“ความเจ็บปวดมันเป็นอย่างนี้นี่เองสินะ…”
“ยังไงซะเธอก็เป็นภรรยาของซาสึเกะนะซาโยริ”
“ยังไงซะฮารุโนะ ซากุระก็จะเป็นภรรยาของซาสึเกะเช่นกัน เมื่อถึงเวลานั้น…ฉันก็ไร้ความหมาย”
จากผลสำรวจคอมเมนต์ของนักอ่าน
สรุปได้รวมๆว่านักอ่านฟิคเรื่องนี้เป็นพวกมาโซคิสอย่างไม่ต้องสงสัย 55555 แค่ไอ้เกะออกมากะติ๊ดนึงได้เรียกน้ำย่อยความร้าย
ซาดิส โรคจิต ทราม เลว นิดๆ ก็พากันยกโขยงกรี๊ดกันเสียเเล้ว 555 ดูท่าว่าว่าที่พระเอกของกาอาระจะสั่นคลอนมั้ยหนอ
ดูคนอ่านจะรักแบดบอยกันใช่ย่อย หึหึหึ เนื้อเรื่องกำลังจะเข้มข้นขึ้นเเล้ว กร๊ากๆๆ
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ

ส่วนกาอาระก็จะคอยปลอบใจไปถึงไหนจ้ะ คุณสมบัติพร้อมแต่อยู๋ในฐานะเพื่อนนี่ แสนเจ็บปวด
จะเป็นใครก็ได้ที่ไม่ใช่
ซาสึเกะรักของแกมันหลอกลวงซะจริง!
ก้อยเริ่มสงสารซาโยริ มาก TT^TT
ซากุระเลือกกาอาระเลยยย >O<
ซาสึเกะ นายเลวร้ายไปน่าาาา
โตะเราสงสารเธอ
กาก้า เรารักนายยยยย
เนจิ ลูก เก๊กไป๊!55555
กาก้า อ๊ายยย เชียร์คนนี้
โตะ ลองหันไปข้างๆนะลูกจะเห็น ฮินะจัง!!555
หนูไม่รู้ว่าจะเลือกใครเป็นพระเอก
น่ารักทุกคนอ่ะ >w< เกะก็ดูจะออกมาหน่อยแล้วด้วย
เนจิปกติก็ชอบตัวละครนี้อยู่แล้วอีกต่างหาก
มาเจอแบบนี้เลือกยากแหะ =.,=
นารูโตะก็น่ารักน่าชังน่าสงสารน่ากิน เอ้ย! น่ากอด
กาอาระก็...น่ารักดี
up สนุกมากค่ะ
แอร๊ย.........>_
ปกติจะเกลียดคนที่มายุ่งกับอิเกะ แต่นี่...สงสารอ่ะToT
อัพอีกเน้อ!>-<
เชอะ ๆ แค่ 10% คนอ่านก็แทบจะเป็นลมม ' อินจะบ้าแล้ว
อุสาขยันเม้นแล้วน๊า ;p
จงรัก จงหลง เพี้ยง ๆ ๆ ชอบอิเกะโหด ๆ สาดิส ๆ อ๊ายยยยยยย ! จะเป็นลม
ไรเตอร์ขอตอนหนึ่งอิเกะงาม ๆ รักไรเตอร์จุฟ ๆ ๆ ขยันอัพคนอ่านก็ขยันเม้นน (มีต่อรอง > โดนถีบ)
อัพไว ๆ เด้ออออ > 3<
ยังยืนยันนารุไม่ก็กาอา ^^
ซาสึเกะเอ๊ย! นายนี่มันแย่จริงๆ-_-+แอบสงสารซาโยริอ่ะ
ซากุระจ๊า...ยังไงนารูโตะกับกาอาระก็ชอบเธอไม่ใช่เพราะเนตรนะจ้ะ^_^ไปหาพวกเค้าเถอะ!
กาอาระ + ไรเตอร์ ไฟต์ติ้ง!
ขอเถอะ ขอบ้างน้าาาา ยังไงเกะก็หลายเรื่องแล้วอ่ะ
อยากได้โตะๆๆๆ อยากได้กาอาระด้วย
ขออิเกะเน้น ๆ ! ฮิ้ววว
ขออิเกะเน้น ๆ ! ฮิ้ววว
นายมันเก๊กเกิน บทพระเอกไม่ได้แอ้มหรอก
to.. ke
ไปตายซะ -0-
to.. GaGa
น่ารักที่สุด!! บทพระเอกไม่ไกลเกินเอื้อม!! >w<
to.. NaRu
no.. comment...
ps. to.. TO
น่าสงสาร _ _
ถึงร้ายก้รักน้ะเกเรยังไงก้รักน้ะ555555