ตอนที่ 13 : LAST TALE AND WAR 11 :: ชีวิต ลมหายใจ เพื่อเธอ 100%
11
พรึ่บ!!!
“รวบรวมจักระของตัวเองให้ดีซากุระ”
“…”
“เธอต้องเพ่งสมาธิไปที่เนตร รวบรวมพลังของมันเอาไว้ที่จุดศูนย์กลางของดวงตา…”
เสียงร้องของเนจิทำให้ซากุระทำตามอย่างตั้งใจ คนตัวเล็กห่อไหล่ลงก่อนจะผ่อนคลายไหล่ เธอกำลังรวบรวมสมาธิทั้งหมดที่มีในการควบคุมเนตรแห่งการรักษา
“ผ่อนคลาย อย่าตึงเครียด เพราะมันจะเป็นการเร่งรัดพลังของเนตร”
ซากุระสูดลมหายใจเข้าลึกๆในขณะที่ฟังคำพูดของเนจิ เธอปิดเปลือกตาของตัวเองลง เพ่งสมาธิไปยังดวงตาก่อนจะลืมตาขึ้นมา นัยน์ตาของเธอสะท้อนสีเขียวมรกตจัดจ้าน ตำแหน่งที่เธอกำลังจ้องมองคือปลาตัวใหญ่ที่ได้รับบาดแผลฉกรรจ์…
เธอเป็นนินจาแพทย์การควบคุมจักระไม่ใช่เรื่องยาก แต่การควบคุมทั้งพลังเนตรและจักระไปด้วยนั้นต้องอาศัยอะไรหลายๆอย่าง ทั้งแรงกาย แรงใจ สมาธิ และการแบ่งแยก
ซากุระเพ่งสายตาไปยังปลาตัวนั้นมากขึ้น และวินาทีต่อมาปลาตัวนั้นก็กลับมามีชีวิตดั่งเดิมโดยที่เธอใช้เพียงสายตามองเท่านั้น
“เธอทำได้!”
“ไม่มีเลือดไหล…ไม่เจ็บตา ฉันทำได้!! เนจิฉันทำได้!!”
ร่างเล็กของซากุระกระโดดไปรอบๆด้วยความดีใจ เธอยิ้มกว้างก่อนจะกระโดดกอดเนจิที่เดินเข้ามาหา คนตัวสูงชะงักนิ่งไปตอนที่ได้รับสัมผัสจากร่างบาง…ความรู้สึกที่เขาไม่อยากจะยอมรับ
“เธอทำได้แล้ว…”
“ฉัน…ฉันแค่คิดว่าตัวเองต้องทำได้ ฉันแค่คิดว่าปลาตัวนั้นเป็นคนสำคัญที่ฉันรัก…การดูแลเอาใจใส่คนที่เรารักทำให้เราเอาชนะทุกอย่างได้จริงๆ”
“เธอเรียนรู้การควบคุมเนตรด้วยการเติมความรักให้กับมัน”
“ทุกสิ่งทุกอย่างล้วนขับเคลื่อนด้วยความรัก…ไม่ว่าจะเป็นอะไรทุกอย่างล้วนมีความรักเป็นส่วนประกอบ ขอบคุณนะที่ช่วยฉันฝึกควบคุมเนตรตลอดสองอาทิตย์ที่ผ่านมา ขอบคุณจริงๆนะเนจิ”
ใบหน้าหวานมีรอยยิ้มกว้างๆประดับอยู่บนใบหน้า มันดูสวยงามและเหมาะสมมากเมื่ออยู่บนใบหน้าของซากุระ เนจิได้แต่จ้องมองรอยยิ้มนั่นก่อนจะด่ำดิ่งลึกลงไปจนยากที่จะถอนสายตาออก ใบหน้าของเขากำลังจะโน้มหน้าลงไปเพื่อลิ้มลองริมฝีปากบางที่อยู่ไม่ห่างจากเขา แต่ก็ช้าเกินไปเมื่อจู่ๆซากุระก็…
“อุ๊บ!!”
“ซ…ซากุระ?”
“อุ๊บ!! ขอโทษนะ!!”
ซากุระร้องเสียงแหบพร่าก่อนจะวิ่งกลับเข้าไปยังตัวบ้านพักซึ่งเป็นสถานที่หลบภัยชั่วคราว มันเป็นบ้านพักหลังเล็กๆของตระกูลฮิวงะที่อยู่นอกแคว้น ร่างเล็กวิ่งอย่างรวดเร็วไปยังห้องน้ำก่อนจะอาเจียนออกมายกใหญ่
เรียวขาเล็กทรุดนั่งลงกับพื้น ซากุระอาเจียนออกมาจนแสบคอไปหมด น้ำตาเอ่อคลอที่สองดวงตาคู่สวย ร่างสูงของเนจิที่วิ่งตามมาได้แต่เก้ๆกังๆไม่รู้ว่าควรจะทำยังไงดี
“ซากุระ เกิดอะไรขึ้น…เธอโอเครึเปล่า?”
“โอ้ก!!!”
คนตัวเล็กไม่สามารถจะตอบคำถามใดๆได้ ร่างสูงของเนจิจึงรีบเข้าไปทรุดนั่งข้างๆกับซากุระก่อนจะลูบหลังของเธออย่างเป็นห่วง ซากุระทัดผมขึ้นข้างหูก่อนจะกดน้ำที่ชักโครก
เธอเดินไปยังอ่างล้างหน้าอย่างยากลำบาก เรือนหน้าสวยมีเหงื่อประปรายตามใบหน้า น้ำใสๆที่ไหลออกมาจากก๊อกถูกใช้บ้วนปาก ก่อนที่เธอจะยกมือขึ้นเช็ดน้ำที่เกาะอยู่ข้างแก้ม
“เธอไม่สบายงั้นเหรอซากุระ ให้ฉันไปตามหมอมามั้ย?”
“ไม่ต้องหรอกเนจิ…ฉันสบายดี”
คนตัวสูงไม่เชื่อในสิ่งที่ซากุระพูดเลยสักนิด เขาขมวดคิ้วก่อนจะจับไหล่เล็กของซากุระให้หันมาเผชิญหน้ากับตัวเอง
“เกิดอะไรขึ้นกันแน่ เธอเป็นนินจาแพทย์เธอคงรู้ใช่มั้ย”
คำถามคาดคั้นนั่นทำให้ซากุระต้องก้มหน้าหลบสายตาของเนจิ เรียวแขนเล็กยกขึ้นมาแตะที่หน้าท้องของตัวเอง ดวงตาสีมรกตก้มมองท้องของตัวเองด้วยแววตาอ่อนโยน ก่อนที่รอยยิ้มบางๆจะเคลือบอยู่บนใบหน้า…
ไม่ผิดแน่…เธอไม่ได้เข้าใจผิดไปเอง การเป็นนินจาแพทย์ทำให้เธอสัมผัสได้ถึงชีวิตอีกหนึ่งที่อยู่ในท้องของเธอ
“เธอท้องงั้นเหรอ!!”
ไม่ใช่เสียงดังจากความคิดของเนจิ แต่เป็นร่างสูงของนารูโตะที่กำลังหอบหายใจตัวโยนอยู่ข้างประตูห้องน้ำ นัยน์ตาสีฟ้าน้ำทะเลเบิกตากว้างมองใบหน้าของซากุระพร้อมทั้งท้องของเธอ…มันไม่น่าจะเกิดขึ้นได้ มันไม่น่าจะเกิดขึ้น!!
นารูโตะสะบัดหน้าไปมาเมื่อไม่มีใครค้านความคิดของเขา ขายาวๆของคนตัวสูงที่เพิ่งวิ่งผ่านป่าเขามาระยะไกลค่อยๆถอยหลังออกไปทีล่ะก้าว นัยน์ตาสีฟ้ามหาสมุทรเริ่มเอ่อคลอด้วยน้ำตาอย่างชัดเจน…ซากุระพยายามที่จะเดินไปหานารูโตะ มันเป็นครั้งแรกจริงๆที่เธอเห็นผู้ชายคนนี้ร้องไห้เพราะเรื่องของเธอ…
“…นารูโตะ”
“เธอท้อง…เธอท้องจริงๆ”
“นารูโตะ”ซากุระพยายามจะร้องเรียกชื่อของเพื่อนตัวเอง แต่ทว่านารูโตะกลับถอยหลังห่างจากเธอไปขึ้นทุกที
ฝ่ามือเล็กของซากุระพยายามจะยื่นตรงไปข้างหน้า เธอพยายามที่จะคว้าแขนเสื้อของนารูโตะไว้ เธอยังไม่ได้บอกนารูโตะเลยว่าตัวเองรู้สึกดีใจแค่ไหนที่เห็นนารูโตะกลับมา เธอยังไม่ได้บอกเลยว่าช่วงเวลาที่นารูโตะหายไปนั้นเธอเป็นห่วงแค่ไหน…
“นารูโตะฟังที่ฉันพูดก่อนสิ…”
“ฉัน…ฉัน”
นารูโตะไม่รู้จะพูดยังไง ปากของเขาเริ่มสั่นระริก เขาควรจะปั้นหน้ายิ้มและยินดีกับเธอ แต่มันเป็นการทำร้ายตัวเองที่เจ็บปวดเกินไป มันเร็วเกินไปเกินกว่าที่เขาจะรับได้ ผู้หญิงที่เขารักมาทั้งชีวิตไปรักคนอื่นที่ไม่ใช่เขานั่นมันก็เจ็บปวดมากพอแล้ว…แต่เธอกำลังจะมีสมาชิกใหม่อีกคนหนึ่งเชื่อมสายสัมพันธ์กับคนอื่น…ซึ่งคนอย่างเขาจะไม่มีสิทธิ์ไปแทรกได้อีก ไม่มีวันที่จะเข้าไปภายในหัวใจของเธอ
“ฉันกลับมาที่นี่เพื่อจะได้ดูแลเธอ…”
“นายจะไปไหนอีกนารูโตะ…นายอย่าไปนะ อย่าไป…”
“…”ใบหน้าของคนตัวสูงส่ายไปมาอย่างสับสน เท้าของเขาเริ่มก้าวถอยหลังอีกครั้ง ซากุระใช้จังหวะที่นารูโตะกำลังจะหมุนตัวกลับไปคว้าตัวร่างสูงไว้ได้ทันเวลา
แขนทั้งสองข้างของเธอโอบรอบตัวนารูโตะเอาไว้แน่น น้ำตาของเธอไหลรินอีกครั้ง…เธอรู้สึกเหมือนกับว่าถ้าปล่อยอ้อมแขนนี้ไปเพื่อนรักของเธอจะหายไปตลอดกาล…เขาจะไม่กลับมาอีก เธอจะเสียเขาไปตลอดชีวิต ซึ่งเธอทำไม่ได้…เธอทั้งเป็นห่วงนารูโตะ ทั้งรักเพื่อนคนนี้
“อย่าไปนะ…นารูโตะ อย่าไป”
“…”
“ได้โปรด…นายไม่รู้เหรอไงว่าตอนนายหายไปฉันเป็นห่วงนายแค่ไหน ฉันกลัวเหลือเกินว่านายจะโกรธฉัน เกลียดฉัน ฉันกลัวจะเสียเพื่อนที่สำคัญที่สุดไป…ถ้าฉันปล่อยนายไปตอนนี้นายก็จะไม่กลับมาหาฉันอีกเลยใช่มั้ยล่ะ”
“…”
“ฉันเสียใจจริงๆนารูโตะ ฉันขอโทษที่ตัวเองไม่เคยเลือกรักนาย ทั้งยังเอาแต่เรียกร้องเห็นแก่ตัว ทำร้ายความรู้สึกนายเพื่อความสุขของตัวเอง แต่ได้โปรดเถอะนะอย่าจากฉันไปอีกคนเลย ตอนนี้ฉันไม่เหลือใครที่จะอยู่เคียงข้างอีกแล้ว…ช่วยเป็นไหล่ที่พักพิงให้ฉันอีกสักครั้งเถอะนะ”
“…”
“จนกว่าฉันจะเข้มแข็งขึ้น…จนกว่าฉันจะยืนได้ด้วยตัวเอง”
“มันเจ็บปวดเกินที่ฉันจะรับไหวจริงๆซากุระจัง…”
“…”
“ฉันเรียนรู้ความเจ็บปวดมามากมายเหลือเกิน…แต่ครั้งนี้มันคือความเจ็บปวดที่ร้ายแรงมากพอๆกับการสูญเสียซาสึเกะไป”
“…”
“ฉัน…ฉัน…”
ซากุระหลับตาลงช้าๆเพื่อปล่อยให้น้ำตาไหลลงมา นารูโตะเองก็หลับตาลงก่อนจะข่มความรู้สึกของตัวเองเอาไว้ ร่างสูงของนารูโตะค่อยๆหันหลังกลับมาหาซากุระก่อนจะปั้นหน้าฉีกยิ้มกว้างทั้งๆที่น้ำตายังไหลอาบแก้ม
“ฉันจะรักลูกของเธอกับกาอาระ…เหมือนที่ฉันรักเธอ เหมือนที่ฉันจะรักครอบครัวของตัวเอง…”
“ขอบคุณนะนารูโตะ”
Sound guren
“ทำเป็นคนดีแบบนั้นมันใช้ได้แล้วเหรอ”
คำถามของเนจิที่ถามออกมาเสียงเบาไม่ได้ทำให้นารูโตะรู้สึกโมโหอะไรเลยสักนิด คนตัวสูงกำลังนั่งเอนหลังพิงกับขอบหน้าต่างชมพระจันทร์เต็มดวงอยู่เงียบๆ ซากุระนอนหลับไปแล้วด้วยความเหนื่อยล้าจากการฝึก นารูโตะเองก็พักร่างกายจากการเดินทางด้วยการนั่งคิดอะไรเงียบๆเพียงลำพัง
“นายไม่เจ็บปวดอะไรเลยรึไงนารูโตะ”
“ฉันก็บอกไปแล้วนี่ว่ามันเจ็บปวดมากแค่ไหน…”
“แต่นายก็ยังทนที่จะอยู่กับความเจ็บปวดแม้นายเลือกที่จะหนีไปได้…”
เนจิค่อยๆนั่งลงตรงข้ามกับนารูโตะ ดวงตาสีขาวมองออกไปยังท้องฟ้าที่เงียบสงัดภายในค่ำคืนนี้
“การที่คนเราหนีไปก็ไม่ได้หมายความว่าเราละทิ้งซึ่งความเจ็บปวดออกไปได้ ไม่ว่านายจะไปที่ไหน ต่อให้ตายไปแล้ว นายก็ทิ้งซึ่งความเจ็บปวดที่อยู่ในใจไปไม่ได้ นอกเสียจากนายจะต้องทำใจยอมรับมันและเผชิญหน้ากับมันเสีย…ฉันจึงเลือกที่จะเผชิญหน้ากับความเจ็บปวดและมีความสุขกับการที่ได้เห็นซากุระจังมีความสุข”
“นายเลือกวิธีนั้นในการกำจัดความเจ็บปวดสินะ…”
“แล้วนายล่ะเลือกที่กำจัดความเจ็บปวดของตัวเองด้วยวิธีไหนกัน เนจิ”
“ฉันเอง…ก็คงเลือกที่จะอยู่แบบนี้โดยไม่แสดงความรู้สึกอะไรออกมา มันเป็นงานถนัดของคนอย่างฉันแล้ว”
“น่าแปลกใจนะที่นายเองก็มีความรู้สึกแบบนั้น…”
“ฉันก็เป็นเพียงแค่มนุษย์คนหนึ่ง…ก็เหมือนนายนั่นล่ะนารูโตะ ไม่ต้องพยายามเก็บความรู้สึกเจ็บปวดของตัวเองขนาดนั้นก็ได้ เพราะฉันเชื่อว่าสักวันหนึ่งนายก็ต้องระเบิดมันออกมาอยู่ดี ก็นายเป็นอุซึมากิ นารูโตะนี่นะ”
“อุซึมากิ…นารูโตะงั้นสินะ”
ฝ่ามือของนารูโตะถูกยกขึ้นมาจ้องมอง เขากำมือลงและแบมือออกเพื่อย้ำเตือนว่าตัวเองเป็นใคร เนจิจ้องมองนารูโตะเพียงชั่วแวบตาก็เดินจากไป
บนฝ่ามือที่กำลังร้อนจู่ๆก็มีหยดน้ำหยดลงมาบนฝ่ามือนั้น นารูโตะกระพริบตาเพื่อให้แน่ใจว่าหยดน้ำนั่นมาจากไหน เขาเบิกตาค้างเมื่อรู้ว่าหยดน้ำนั่นมันไหลออกมาจากดวงตาสีฟ้ามหาสมุทรของเขาเอง…เขากำลังเสียใจ เจ็บปวด และพยายามเก็บความรู้สึกทั้งหมดนั่นไว้ภายในสินะ…
หมับ!!
“มันเจ็บปวดจริงๆสินะ…”
มือข้างขวาของคนตัวสูงกำแน่นอยู่ตรงเสื้อด้านซ้าย จมูกของเขาเริ่มแดงซ่าน เสียงสะอื้นดังออกมาอย่างห้ามไม่อยู่ นัยน์ตาสีฟ้าหลับตาลงช้าๆก่อนจะปล่อยน้ำตาออกมา ทำไมมันถึงได้เจ็บแบบนี้ ทำไมเขาถึงทำใจยอมรับมันได้ยากเย็นเหลือเกิน ทำไม…ทำไม…
“ทำไมต้องเป็นแบบนี้…ฉันเจ็บปวด เจ็บที่ใจเหลือเกิน”
ความรักมันก็เจ็บปวดแบบนี้เองสินะ…
ตูม!!! เปรี้ยง!!!
เสียงระเบิดขนาดใหญ่ดังขึ้นไม่ห่างจากภูเขากลางป่าใหญ่นัก นัยน์ตาสีแดงฉานวาววับเป็นประกายในขณะที่ลงมือระเบิดพลังทั้งหมดของตัวเองกับภูเขา เศษหินก้อนเล็กก้อนใหญ่แตกกระจายลงมาเกลื่อนพื้นไปหมด ซาสึเกะเคลื่อนไหวตัวอย่างรวดเร็วก่อนจะเผาทั่วทั้งป่าใหญ่เป็นเพลิงบัลลัยกัลป์สีดำ เทวีสุริยา เผาผลาญทุดสรรพสิ่งที่เข้ามาใกล้ แม้กระทั่งซาโยริ ภรรยาของซาสึเกะที่เผลอโผล่เข้ามาไม่รู้เวลา
“กรี๊ด!!”
ซาโยริกรีดร้องสุดเสียง เพลิงสีดำแผดเผ่าไปทั่วทั้งแผ่นหลังเธอโดยไม่มีวี่แววที่คนเป็นสามีจะหยุดเพลิงนั่นเลยสักนิด ซาสึเกะสะบัดหน้าหนีก่อนจะปล่อยสายฟ้าขนาดยักษ์เข้ากับภูเขาอีกครั้ง แต่ครั้งนี้ภูเขาขนาดยักษ์กลับพังทลายลงมา จูโกะจึงต้องรีบไปคว้าตัวซาโยริเพื่อหลบหนีวิถีของหิน
ร่างสูงของซาสึเกะยังแน่นิ่งอยู่ตรงนั้น นัยน์ตาสีแดงฉานของเนตรวงแหวนเห็นทุกเส้นวิถีของหินที่จะตกลงมา หมัดแล้วหมัดเล่าที่ซาสึเกะอัดใส่หินที่ร่วงหล่นลงมา เขาระเบิดพลังทั้งหมดออกไป
“อ้าก!!!!!!”
เสียงร้องลั่นของซาสึเกะทำให้ซาโยริเป็นห่วง เธอพยายามที่จะหลบหลีกการเกาะกุมตัวของจูโกะเพื่อเข้าไปดูสามีอันเป็นที่รักอย่างไม่คิดชีวิต ทั้งๆที่เทวีสุริยากำลังจะแผดเผาเธอจนหมดสิ้น
จูโกะทนไม่ไหวกับสภาพที่เกิดขึ้น ลูกน้องคนอื่นๆของซาสึเกะต่างพากันหลบหนีไปอยู่วงนอกอย่างหวาดกลัวกับท่าทีของเจ้านาย คนตัวสูงพุ่งเข้าไปคว้าแขนของซาสึเกะเอาไว้ได้ทันก่อนที่พันปักษาจะถูกปล่อยออกไป นัยน์ตาสีแดงฉานคลอหน่วงไปด้วยน้ำตาใสๆ นับตั้งแต่วันที่อิทาจิตายเขาก็ไม่เคยเห็นซาสึเกะต้องหลั่งน้ำตาอีก มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่
“ซาสึเกะ! ซาสึเกะตั้งสติเอาไว้!”
เสียงของจูโกะไม่ได้ทำให้ซาสึเกะเลิกความพยายามที่จะทำลายทุกสิ่งที่อยู่เบื้องหน้าเขาเลยสักนิด จูโกะพยายามเรียกสติของซาสึเกะคืนด้วยการเขย่า
“นายต้องหยุดเทวีสุริยาของนาย! มันจะฆ่าพวกเราทุกคน!!!”
“…”
“ซาสึเกะ!!!!”
“หึ!”
ซาสึเกะหัวเราะออกมาก่อนจะดันร่างจูโกะที่พยายามเขย่าตัวเขาออก เนตรวงแหวนหันเหไปยังซาโยริที่กำลังจะถูกแผดเผา เขาดับเพลิงสีดำนั่นลงก่อนจะดับเพลิงทั่วทั้งบริเวณป่าอย่างง่ายดาย รอยยิ้มชั่วช้าปรากฏขึ้นที่ริมฝีปากบางเฉียบของเขา ร่างสูงของซาสึเกะเคลื่อนตัวไปยืนเหนือร่างบางของซาโยริที่เจ็บปวดทรมาน
“ซะ…ซาสึ…ซาสึเกะ”
“น่าสมเพช”
วาจาร้ายกาจทิ่มแทงลึกเข้าไปในจิตใจของหญิงสาว ซาโยริพยายามฉีกยิ้มเหนื่อยล้าให้กับสามี
“รู้เอาไว้ซะซาโยริ ฉันไม่เคยรักเธอเลย”
“…”
รอยยิ้มเลือนรางคือรอยยิ้มสุดท้ายก่อนที่ซาสึเกะจะลงมือพรากชีวิตภรรยาของเขาด้วยโทสะทั้งหมดที่มี จูโกะที่มองดูสถานการณ์อยู่ตรงนั้นได้แต่แน่นิ่งเพราะความช็อค เขาอ้าปากค้างในขณะที่ซาสึเกะสะบัดผ้าคลุมแสยะยิ้มเตรียมที่จะออกเดินทาง
“ซา…ซาโยริ”
จูโกะร้องออกมาเสียงสั่นเครือในขณะที่พยายามจะเข้าไปประคองร่างของซาโยริที่ไร้ซึ่งวิญญาณไปแล้ว ซาสึเกะอาจจะไม่รู้หรือรู้…ผู้หญิงที่จูโกะรักคือภรรยาของซาสึเกะ
“เป้าหมายใหม่…ถล่มสึนะงาคุเระซะ!!!”
เสียงประกาศก้องของซาสึเกะลั่นไปด้วยวาจาหนักแน่น ทั้งซุยเงสึที่ยังไม่หายช็อค ทั้งจูโกะที่พยายามกล้ำกลืนน้ำตาทั้งหมดลงไปต่างพากันมองหน้ากันและกันอย่างหมดสิ้นคำพูด ซาสึเกะที่พวกเขารู้จักตอนนี้ก็เป็นแค่ปีศาจดีๆนี่เอง
ผู้ชายที่เย่อหยิ่งทรนงไปด้วยความยโส ความแค้นคือสิ่งที่หล่อหลอมเขาให้มีชีวิตอยู่ ซาสึเกะสะบัดผ้าคลุมครั้งสุดท้ายก่อนจะหายไปกับสายลมหนาวเหน็บที่พัดผ่านเข้ามา
มีรึที่การกระทำทุกอย่างของฮารุโนะ ซากุระจะไม่ผ่านเนตรวงแหวนคู่นี้ มีรึที่คนอย่างอุจิฮะ ซาสึเกะจะไม่รู้ว่าเมื่อคืนก่อนเกิดอะไรขึ้นบ้าง! อย่างที่เขาเคยประกาศไว้แล้วยังไงล่ะ ถ้าหากเขายังไม่ได้แตะต้องของสะสมของตนใครก็อย่าหวังจะได้แตะต้อง! และในเมื่อคาเสะคาเงะกล้าหยามเขาถึงขนาดนี้ คงจะต้องคิดบัญชีกันเสียหน่อยแล้ว!!!
บังอาจมายุ่งกับฮารุโนะ ซากุระ หญิงในการครอบครองของปีศาจอย่างเขา!! อย่าหวังว่าจะมีชีวิตอยู่อีกต่อไปเลย!! เพราะถ้าเขาแค้นมากเท่าไหร่ เขาเสียใจและเจ็บปวดมากแค่ไหน! คนที่จะต้องรับผิดชอบทุกอย่างคือเธอคนเดียว!!! ฮารุโนะ ซากุระ!!!!!! เธอนั่นล่ะที่จะต้องเสียใจ อย่าหวังว่าจะได้รักกับไอ้คาเสะคาเงะนั่นง่ายๆ!!
“ฝากทีนะกามะคิจิ”
นารูโตะร้องบอกตอนที่ยื่นสาสน์ถึงกาอาระให้กับกามะคิจิ กามะคิจิได้แต่กระพริบตาในขณะที่มองหน้าของนารูโตะ ดวงตาของคนตัวสูงบวมแดงอย่างเห็นได้ชัด
“เกิดอะไรขึ้นงั้นเหรอนารูโตะ ดูท่าทีนายไม่ค่อยดีเลยนะ”
“อ่อ…ฮ่ะๆ นี่น่ะนะ ก็แค่ผลจากการฝึกซ้อมนิดหน่อยน่ะ”
โกหกได้ไร้สาระที่สุดเลย กามะคิจิหายตัวไปทันทีเมื่อไม่ได้คำตอบที่เป็นความจริง นารูโตะถอดถอนหายใจออกมาก่อนจะก้มลงมองพื้น
วันนี้เป็นวันแรกของความเป็นจริงที่เขาต้องทำใจยอมรับให้ได้…มันจะยากลำบากสักแค่ไหนกันนะ…นารูโตะคิดอยู่ในใจโดยไม่รู้ตัวเลยว่าซากุระกำลังยืนมองเขาอยู่ตรงริมระเบียงบ้าน
“เอาล่ะ! ไปดูแลซากุระจังดีกว่า!! เด็กเล็กๆจะต้องได้รับการดูแลเป็นพิเศษ!!”
นารูโตะร้องเสียงดังออกมาก่อนจะหมุนตัวกลับไปเพื่อจะเดินเข้าไปในบ้าน แต่เขาก็ต้องตกใจเพราะซากุระยืนอยู่ตรงหน้าเขา ดวงตาสีมรกตยังคงสวยงามเหมือนทุกครั้งที่เขาจ้องมอง นารูโตะฉีกยิ้มอย่างคนขี้เล่นให้กับซากุระ และนั่นทำให้คนตัวเล็กต้องยิ้มบางๆตามอย่างห้ามไม่อยู่…
“เช้านี้ซากุระจังอยากกินอะไรดีล่ะ ราเม็งดีมั้ยนะ! อ่า…ไม่ได้สิ! เด็กเล็กๆควรกินอาหารที่มีประโยชน์กว่านั้น ฮ่ะๆ”
“เจ้าบ้า…”
“เอ้อจริงด้วย หลังการฝึกเราไปหลังภูเขากันมั้ยซากุระจัง?”
“หลังภูเขา? มันมีอะไรเหรอ”
“ฮ่าๆ มีที่ที่ซากุระจังชอบมากๆอยู่ไงล่ะ ฉันจะพาไปเองนะ!”
“นายดูมีเวลาว่างเยอะดีนะ เจ้าบ้านารูโตะ”
“ฉันมีเวลาว่างอีกทั้งชีวิตเพื่อดูแลซากุระจังกับเจ้าซาการะน้อย”
“ซาการะน้อย?”ซากุระย่นคิ้วอย่างไม่เข้าใจ ซาการะ…นั่นใช่ชื่อคนรึเปล่าน่ะ?
นารูโตะหัวเราะร่วนก่อนจะเอามือเท้าที่ท้ายทอย คนตัวสูงยกเท้าสูงก่อนจะเดินไปหาซากุระ
“คึคึ ซาการะน้อยก็คือลูกของเธอยังไงล่ะ ซา มาจากซากุระ กา มาจากกาอาระ ส่วนระก็ได้มาจากพวกเธอทั้งสองคนยังไงล่ะ”
“นั่นมันดูเหมือนชื่อของลูกสาวไม่ใช่เหรอ แถมฟังดูประหลาดๆอีกนะ”
“ฉันเชื่อว่าลูกของซากุระจังจะเป็นลูกสาวล่ะ เพราะซาการะจะมีดวงตาสีมรกตเหมือนกับซากุระจัง…มีจมูกโด่งแบบคนดื้อรั้นอย่างซากุระจัง มีริมฝีปากสีชมพูอ่อนเหมือนกับซากุระจัง…นิสัยขี้โมโหเหมือนกับซากุระจัง เอาแต่ใจเหมือนกับซากุระจัง…”
“ฟังดูเหมือนนายกำลังด่าฉันเลยนะนารูโตะ!”
“ฮ่ะๆ…”
“นายอยากโดนสักป้าบเหรอไง”
ซากุระทำปากย่นก่อนจะสะบัดหน้าใส่นารูโตะ คนตัวสูงมองซากุระแล้วเผลอยิ้มออกมา รอยยิ้มที่แสนอ่อนโยน รอยยิ้มที่เขาจะมอบให้เธอเพียงคนเดียว
“แล้วซาการะจังก็จะได้รับความรักอย่างเต็มเปี่ยมจากคนรอบข้างเหมือนกับซากุระจัง…”
“…”
“ถ้าเป็นไปได้ฉันอยากเป็นพ่อทูนหัวของเด็กนะ ให้ฉันอุ้มเป็นคนที่สี่ล่ะ!”
“คนที่สี่…ทำไมนายถึงเป็นคนที่สี่ล่ะนารูโตะ”
“คนแรกที่จะได้อุ้มคือซากุระจัง คนที่สองคือกาอาระ คนที่สาม…”
“ก็ต้องเป็นนายสิ จะมีใครมาอุ้มก่อนนายได้อีกล่ะ”
“ฉันว่าเจ้านั่นจะต้องรักซาการะจังแน่ๆ…ซาสึเกะน่ะจะต้องได้อุ้มซาการะจังก่อนฉัน เพราะเขาเป็นคนที่สำคัญมากสำหรับพวกเรา…”
ซาสึเกะเนี่ยนะ…ซากุระได้แต่ยิ้มเศร้าๆ เธอไม่รู้ด้วยซ้ำว่าตอนนี้ซาสึเกะอยู่ที่ไหนและเป็นอย่างไร ตั้งแต่วันนั้นที่เธอรู้ว่าซาสึเกะมีภรรยาอยู่แล้ว เขาก็เหมือนกับผู้ชายต้องห้ามสำหรับเธอ แต่ช่วงเวลาดีๆที่พวกเขาเคยมีให้กันน่ะมันก็ไม่ได้จางหายไปเสียหมดหรอกนะ…
ซาสึเกะจะทำหน้ายังไงนะตอนที่รู้ว่าเธอกำลังจะมีลูก…เขาจะโกรธเธอ แค้นเธอรึเปล่า หรือไม่เขาก็แค่คิดว่าเป็นเรื่องตลกที่เธอเอามารายงานให้เขาฟัง…ก็เขาไม่เคยสนใจความรู้สึกของเธอเลยนี่นะ
“ฉันไปฝึกวิชาก่อนที่เนจิจะโมโหดีกว่านะ”
“อ่อ! งั้นไว้เจอกันตอนเย็นนะซากุระจัง”
“อะ…อืม”
นารูโตะ เขาช่างเป็นคนดีจนหาใครที่ไหนมาเปรียบไม่ได้อีกแล้ว…แต่สุดท้ายเธอก็ตอบแทนเขาด้วยความเจ็บปวดเสมอ จะมีทางไหนบ้างมั้ยนะที่เธอจะตอบแทนความดีของผู้ชายคนนี้ได้…มันจะมีทางไหนบ้าง
ซากุระแตะที่ท้องของตัวเองเบาๆ…ถึงมันจะผ่านไปได้แค่สองอาทิตย์แต่เธอก็สัมผัสได้ถึงชีวิตใหม่อีกหนึ่งชีวิตที่อยู่ในท้องของเธอ…ซาการะจัง? เธอจะปกป้องดูแลสาวน้อยคนนี้ สร้างครอบครัวที่อบอุ่นซึ่งเต็มไปด้วยความรัก มีเธอ กาอาระ นารูโตะ มันจะต้องมีความสุขมากแน่ๆ
ร่างสูงโปร่งของคาเสะคาเงะกำลังจะเดินเข้าไปยังห้องโถงขนาดกว้างซึ่งใช้เป็นที่รับรองแขกของไดเมียวแห่งแคว้นคาเสะโนะคุนิ
เขาเพิ่งเดินทางกลับมาถึงที่หมู่บ้านเมื่อเย็นวานนี้หลังจากที่เกิดเรื่องวุ่นๆมากมาย เขาต้องจัดการเรื่องของหมู่บ้านสึนะงาคุเระที่ตนเองทิ้งไปนาน อีกทั้งกว่าจะได้กลับมาจากหมู่บ้านโคโนฮะเขาก็ต้องสะสางเรื่องที่ตนเองหนีไปกับซากุระ การกระทำเพียงครั้งหนึ่งสร้างความวุ่นวายมากมาย แต่ทว่าเขาก็ต้องยอมรับถึงผลลัพธ์ที่คุ้มค่าของมัน
มือแกร่งที่กำลังจะคว้าเข้ายังบานประตูใหญ่ต้องหยุดชะงัก เมื่อจู่ๆควันฟุ้งก็ลอยตลบอบอวลทั่วไปหมด ดวงตาสีเขียวอมฟ้าฉายวายประหลาดใจเล็กน้อยเมื่อกามะคิจิ กบที่ถูกอัญเชิญมาโดยนารูโตะปรากฏตนต่อหน้าเขา
“มีสาสน์โดยตรงถึงคาเสะคาเงะ”กามะคิจิรายงานก่อนจะใช้ลิ้นตวัดสาสน์แล้วส่งยื่นให้กับกาอาระ
คนตัวสูงรับมันมาก่อนจะพยักหน้าเป็นการขอบคุณ กามะคิจิมองกาอาระก่อนจะฉีกยิ้มจนคนตัวสูงแปลกใจ
“มีเรื่องอะไรกันแน่เหรอ?”กาอาระถามอย่างสุภาพผิดกับหน้าตาที่ดูไม่เป็นมิตร
กามะคิจิพิจารณาคาเสะคาเงะตั้งแต่หัวจรดเท้า…อืม! นั่นสิ เขาเองก็ยังสงสัยอยู่ว่านารูโตะมีเรื่องด่วนอะไรถึงคาเสะคาเงะกันนะ ตัวเขาเองก็อยากรู้แล้วสิ จะเป็นการเสียมารยาทรึเปล่าถ้าคิดจะแอบฟังสาสน์นั่น
“เปล่าหรอก ท่านรีบเปิดสาสน์อ่านเถอะ!”
กาอาระระบายยิ้มบางๆที่ใบหน้าเล็กน้อยก่อนจะเปิดสาสน์นั่นออกอ่าน ข้อความระบุชัดเจนของนารูโตะทำให้คนตัวสูงถึงกับยืนนิ่งชะงักไป นัยน์ตาสีฟ้าอมเขียวเบิกตากว้างและค่อยๆประมวลความคิดของตนเอง ไม่ผิดแน่…สิ่งที่นารูโตะส่งมาให้เขาอ่าน มันไม่ผิดแน่
“มีอะไรงั้นเหรอ”กบสอดรู้รีบชะโงกหน้ายืดตัวให้สูงขึ้นเพราะความอยากรู้
นัยน์ตาสีเขียวอมฟ้าของกาอาระมีน้ำตาลคลอก่อนที่จะไหลลงอาบข้างแก้มขวา กามะคิจิตกใจถึงกับกระโดดถอยหลังหนี จู่ๆคาเสะคาเงะมาร้องไห้ต่อหน้าเขามันผิดปกติไปหน่อยแล้ว มีอะไรเกิดขึ้นกันแน่
“ฉัน…”
“ท่าน??”
“ฉันจะได้เป็นพ่อคนแล้ว!”
“ฮะ!! พ่อ!!!”
กามะคิจิตกใจขึ้นไปอีก เท่าที่เขารู้คาเสะคาเงะอายุไม่น่าจะเกินสิบแปดไม่ใช่เหรอ! แล้วใครกันที่คาเสะคาเงะ…โอ้!! นี่เขาเริ่มจะปะติดปะต่อเรื่องถูกแล้วนะ!! อย่าบอกนะว่าสาเหตุที่นารูโตะหน้าตาหมองๆช่วงนี้จะเป็นเพราะ…
“ซากุระ…เป็น…แม่เหรอ”กามะคิจิถามอย่างระวัง กาอาระหันมาก่อนจะปาดน้ำตาที่ข้างแก้มตนเองออก เขายิ้มอย่างที่กามะคิจิไม่เคยเห็นมาก่อน คาเสะคาเงะพยักหน้าตอบคำถามนั่นด้วยความรู้สึกที่เปี่ยมไปด้วยความปิติยินดี
“ฉันต้องรีบจัดการเรื่องที่นี่ แล้วไปหาซากุระ นายช่วยฝากคำขอบคุณของฉันไปถึงนารูโตะได้มั้ย?”
“อ่อ ได้อยู่แล้ว”
“ฝากด้วยนะ”
กาอาระยิ้มบางๆเพียงแค่นั้นก็ผลักประตูบานใหญ่เข้าไปในห้องโถง
ไดเมียวที่กำลังนั่งเคียงข้างกับลูกสาวที่มีรูปลักษณ์งดงามไม่แพ้กับซากุระนั้นเงยหน้าขึ้นมามองคนเพิ่งเข้ามาใหม่ รอยยิ้มปรากฏขึ้นภายใต้เงาที่ทาบทับบนใบหน้าของผู้เป็นใหญ่ หญิงสาวที่นั่งเคียงข้างไดเมียวก็มิได้ละสายตาไปจากใบหน้าหล่อเหลาของผู้มาเยือนเช่นกัน
“อ้าว ท่านมาแล้วรึคาเสะคาเงะ เชิญนั่งก่อนสิ”
การเชื้อเชิญให้นั่งถูกปฏิเสธด้วยการที่กาอาระก้าวเข้ามายืนตรงก่อนจะโค้งคำนับให้กับท่านไดเมียว ใบหน้าที่จริงจังเงยหน้าขึ้นมามองผู้เป็นใหญ่อย่างเถรตรง
“ข้าคงต้องขอเสียมารยาทปฏิเสธคำเชื้อเชิญของท่านไดเมียว เพราะมันดูจะเป็นการเหมาะสมกว่าที่ข้าจะยืนตรงอยู่ตรงนี้”
“พูดอะไรกันเล่า ไหนๆท่านก็จะมาเป็นบุตรเขยของเราอยู่แล้วไม่ใช่รึ! เอมิลูกสาวเราน่ะชื่นชมในความกล้าหาญเก่งกาจของท่านคาเสะคาเงะ ไม่เคยมีครั้งไหนเลยนะที่เอมิลูกสาวเราจะต้องชะตากับชายหนุ่มใดในแว่นแคว้นนี้!”
คำโอ้อวดของผู้เป็นพ่อทำให้หญิงสาวใบหน้าสะสวยสมชื่อของเธอก้มหน้าสะเทิ้นอาย เรือนร่างบอบบางขยับตัวเล็กน้อยก่อนจะอ้ำๆอึ้งๆอยู่ในลำคอ
“เอ่อ…คือว่า มันออกจะดูไม่เป็นสุภาพสตรีนักที่ท่านพ่อของเราจัดแจงพิธีสมรสระหว่างเราขึ้นมา ถ้าท่านจะปฏิเสธเพราะมันรวดเร็วเกินไปก็…”
“อะไรกันเอมิ! ลูกสาวที่สวยงามที่สุดในโลกหล้าของพ่อ มันผู้ใดกันจะกล้าปฏิเสธ!!”
ก็คนอย่างคาเสะคาเงะนี่ล่ะที่เดินทางมาเพื่อปฏิเสธ! ยิ่งคิดว่าขืนปล่อยไว้เรื่องราวจะบานปลายไปใหญ่ต่อ กาอาระก็รีบเงยหน้าขึ้นสบตาคนเป็นไดเมียวอย่างไม่คิดจะหลบหลีกอีกต่อไป สายตาของเขาจ้องมองไปยังคนเป็นพ่อและเอมิผู้เป็นลูกสาว
เขาไม่ได้เกิดความรู้สึกอะไรตอนที่จ้องมองตากับผู้หญิงที่สวยงามสมคำเล่าลือคนนี้เลยสักนิด ไม่เหมือนกับเอมิที่สะเทินอายเบี่ยงหน้าหลบแต่ก็ยังคอยชำเลืองตามองมาที่เขาตลอด ความรู้สึกที่เกิดขึ้นมันไม่เหมือนกับซากุระหรอก…
“ข้าเกรงว่าจะต้องขอประทานอภัยอย่างสูงจริงๆ แต่การวิวาห์ในครั้งนี้ข้าขอปฏิเสธ!”
“อะไรนะ!”
“ตัวข้านี้เดิมทีแต่แรกก็ไม่เคยคิดถึงเรื่องงานแต่งงานหรืออะไรพวกนี้มาก่อน เพราะข้ายังไม่เคยได้เรียนรู้จักคำว่ารักดีพอ แต่ทว่าตอนนี้…ตัวข้านั้นได้ถูกรักษาบาดแผลในนี้”
มือของกาอาระเอื้อมไปกุมที่หัวใจ รอยยิ้มเล็กๆผุดขึ้นที่มุมปากของกาอาระเมื่อเขากำลังนึกถึงใบหน้าหวานของซากุระที่คอยยิ้ม คอยเข้าใจ คอยให้ความรัก และความรู้สึกแปลกใหม่กับเขาตลอดเวลา จนถึงตอนนี้เธอก็คงจะรอเขาอยู่สินะ
“ด้วยความรักจากผู้หญิง ซึ่งทั้งชีวิตที่เหลือของข้ามีความหมายขึ้นมาได้เพราะเธอ”
“ผู้ชายเราไม่จำเป็นต้องมีรักเดียวเมียเดียวเสียหน่อย! อย่าได้มาปฏิเสธลูกสาวเราอย่างนี้สิท่านคาเสะคาเงะ!”
“…”
“ก็เอาอย่างนี้สิ ท่านก็แต่งงานกับลูกสาวเรา แล้วถ้าท่านรักผู้หญิงคนนั้นก็แต่งผู้หญิงคนนั้นด้วย ให้ผู้หญิงคนนั้นเป็นภรรยารอง คาเงะคนอื่นๆเขาก็ทำกันแบบนี้ตั้งถมไป”
“แล้วข้าจะเป็นผู้นำที่ดีให้แก่ผู้คนในหมู่บ้านได้อย่างไรกันล่ะท่านไดเมียว แค่รักเดียวใจเดียวกับผู้หญิงเพียงหนึ่งเดียวยังทำไม่ได้ แค่จะสร้างครอบครัวที่อบอุ่นเป็นแบบอย่างให้กับผู้คนในหมู่บ้านยังไม่ได้ แค่จะเป็นตัวอย่างที่ดีของลูกข้ายังทำไม่ได้เลย”
“…”
“คนเป็นพ่อที่ดีเขาต้องไม่ทำอย่างนั้นไม่ใช่รึ ท่านหญิงเอมิคงจะเข้าใจหัวอกของผู้หญิงด้วยกันใช่มั้ยล่ะ”
“…”
“อย่าเอาเวลาที่มีค่าของท่านหญิงมาเสียเวลากับข้าเลย ข้ามีผู้หญิงที่ข้ารักมาทั้งชีวิตกำลังเฝ้ารอข้าอยู่ และข้ายังมีอีกหนึ่มชีวิตซึ่งเป็นสายสัมพันธ์ที่สำคัญกำลังจะลืมตาดูโลก คนเป็นพ่อก็ควรจะไปอยู่กับลูกตั้งแต่วินาทีนี้จนกระทั่งเขาเกิดไม่ใช่เหรอ”
“ท่าน…ท่านมีลูกแล้ว…”
“ข้าหวังว่าพวกท่านทั้งสองจะเข้าใจ”
แผ่นหลังกว้างของกาอาระหมุนตัวเดินกลับออกมายังประตูบานใหญ่ แสงแดดจากภายนอกสาดส่องใส่ใบหน้าของเขาจนคนตัวสูงถึงกับต้องยกมือขึ้นป้องกันแสง เงาของหญิงสาวและหนึ่งชายหนุ่มซึ่งกำลังรอเขาอยู่ตรงทางเดินส่งเสียงทักทาย
“กาอาระ นายจัดการเรื่องนั้นเสร็จแล้วสินะ?”เทมาริเดินตรงมาหากาอาระ ก่อนจะจับที่ไหล่ของคนเป็นน้อง
“น่าเสียดายท่านหญิงเอมิจะตายไป! เธอออกจะสวย!!”
คันคุโร่ที่ปากพล่อยตลอดเวลาก็ถูกเทมาริกระทืบส้นเท้าใส่เท้าของตัวเองจนได้ กาอาระมองภาพตรงหน้าก่อนจะขยับเข้าไปหาทั้งสองคน แขนแกร่งของเขาวาดออกไปข้างตัวก่อนจะโอบกอดทั้งสองคนเอาไว้แน่น
“ยินดีด้วยนะโอบะซัง โอจิซัง”
“หา?!! โอบะซังงั้นเหรอ!”
“โอจิซังด้วยเหรอ!!”
กาอาระยิ้มอีกครั้ง วันนี้ดูเหมือนคนเป็นคาเสะคาเงะจะยิ้มบ่อยกว่าที่เคยเป็นนะ เทมาริกำลังเกาแก้มตัวเองอย่างงุนงงเฉกเช่นเดียวกันกับคันคุโร่
“ต่อจากนี้อีกเก้าเดือนไว้เราค่อยเจอกันนะ โอเนซัง โอนีซัง”
“หา! เรียกพวกเราว่าพี่ด้วยแหะ!!”
เสียงผสานของทั้งสองคนทำเอากาอาระหลุดขำออกมาเบาๆ
“แต่เดี๋ยวก่อนนะ…หมายความว่าไงว่าอีกเก้าเดือนน่ะ!!”
เทมาริโพล่งออกมาเมื่อประมวลความคิดของตนเองได้ กาอาระพยักหน้ารับก่อนจะเริ่มเดินออกไป
“ดูเหมือนว่าฉัน…พยายามจะเป็นโอโทซังที่ดีที่สุดอยู่น่ะ ไปนะ”
“โอโทซัง? นี่มันหมายความว่า…ไม่จริงน่า กาอาระเป็นพ่อคนแล้วเหรอ!!!”
“ก็นะ ดูเหมือนว่าจะเป็นแบบนั้นล่ะ”
“เฮ้ย เดี๋ยวก่อนดิ กาอาระ!! ฉันเพิ่งจะอายุเลขสองกว่าเองนะโว้ย จะให้ฉันเป็นลุงแล้วเหรอ!! นี่มันเร็วเกินไปหน่อยแล้ว!!!”
แต่กว่าคันคุโร่จะส่งเสียงตะโกนไม่พอใจไปถึงกาอาระ เขาก็ได้หายตัวไปกับเม็ดทรายที่ปลิวมาตามลมแล้ว…
“เบิกเนตร!!”
นี่เป็นครั้งที่ยี่สิบของวันนี้แล้วที่ซากุระยังคงฝึกฝนกับการควบคุมเนตรในระดับสูง เนจิที่เป็นคนควบคุมการฝึกของเธอดูจะเป็นกังวลมากขึ้นเรื่อยๆเมื่อเรือนร่างบอบบางเริ่มแสดงอาการผิดปกติ ทำไมเธอถึงต้องเร่งการฝึกฝนขนาดนั้น ทั้งๆที่เธอกำลัง…
พรึ่บ!!
ไม่ทันไรร่างบางของซากุระก็ไหวตัวไปทางด้านหลัง แผ่นหลังบางของเธอกำลังจะล้มลงไปสู่พื้น แต่โชคดีที่นารูโตะซึ่งอยู่ไม่ห่างจากตรงนั้นกระโดดเข้ามารับร่างบางเอาไว้ได้ทัน ดวงตาสีฟ้ามหาสมุทรของนารูโตะฉายแววเป็นห่วงมากกว่าทุกครั้ง
“ทำไมต้องโหมฝึกหนักแบบนี้ด้วยล่ะซากุระจัง ไม่ถนอมร่างกายตัวเองแบบนี้เดี๋ยวก็กระทบกระเทือนถึงลูกในท้องหรอกนะ”
“ฉันรู้ว่ามันเสี่ยงมากแค่ไหน แต่ฉันก็อยากจะฝึกเนตรนี่ให้สมบูรณ์ มันจำเป็นมาก”
“อะไรที่ว่าจำเป็นกัน”เนจิเป็นคนถามคำถามนั่น เขาสาวเท้าเข้ามาก่อนจะฉุดร่างของซากุระให้ลุกขึ้นจากอ้อมกอดของนารูโตะ ขาเรียวของซากุระยืนทรงตัวอยู่บนพื้นสักพักก่อนจะเงยหน้าไปคุยกับคนตัวสูง
“เนตรนี่คือเนตรแห่งการรักษา มันจำเป็นสำหรับการปกป้องลูกของฉัน กาอาระ นารูโตะ และก็นาย ถ้าหากเกิดอันตรายขึ้นมาวิชาแพทย์อาจไม่สามารถช่วยชีวิตได้ในทันที แต่ถ้าเป็นเนตรนี่…มันจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการใช้วิชาแพทย์ อีกทั้งยังช่วยรักษาพวกนายทุกคน”
คำตอบของซากุระทำให้คนตัวสูงเบิกตาขึ้นอย่างแปลกใจ ไม่ต่างจากนารูโตะที่ฟังอย่างเงียบๆอยู่ด้านหลัง พวกเขาไม่เคยคิดมาก่อนว่าตัวเองจะได้เป็นหนึ่งในรายชื่อที่ถูกปกป้องด้วยเนตรแห่งการรักษาของซากุระ เธอเป็นคนดี…อย่างนี้เสมอเลยสินะ
“ถึงยังไงก็เถอะ การเร่งรัดไม่ได้ทำให้ดีขึ้น มันยิ่งส่งผลกระทบต่อ…ลูกของเธอ”
“ฉันเห็นด้วยกับเนจินะซากุระจัง! เธอควรจะพักผ่อนให้มากๆ”
“แต่…เวลาตั้งหลายเดือน จะให้ฉันเอาแต่นั่งเฉยๆรึไงล่ะ”
คนตัวเล็กที่ถูกรุมด้วยความคิดเห็นของสองหนุ่มห่อไหล่ตัวเองลงเล็กน้อย นัยน์ตาสีเขียวเหลือบมองไปยังเนจิสลับกับนารูโตะ เธอไม่เคยคิดมาก่อนเลยด้วยซ้ำว่าทั้งสองคนจะมีความคิดเห็นตรงกันได้ เธอควรจะดีใจรึเปล่านะที่ลูกของเธอทำให้พวกเขาเห็นพ้องต้องกัน
“วันนี้เอาไว้แค่นี้”
เนจิกล่าวสั้นๆก่อนจะเดินหายไปในบ้านพัก เหลือแต่นารูโตะกับซากุระที่ยังยืนอยู่นอกลานท่านกลางบรรยากาศของพระอาทิตย์ที่กำลังจะตกดิน นารูโตะหันหน้ามาหาคนตัวเล็กก่อนจะฉีกยิ้มกว้างขี้เล่น นิ้วโป้งของเขาชี้ไปทางด้านหลัง ซึ่งเป็นทิศทางของด้านหลังภูเขา
“เราไปสำรวจภูเขาด้านหลังกันเลยดีกว่าเนอะ ซากุระจัง~”
“ทำเป็นเด็กๆไปได้นะนายน่ะ”
เธอล่ะไม่รู้จะหาคำพูดไหนมาว่าคนตัวสูงที่ไม่รู้จักโตคนนี้อีกแล้วล่ะ ซากุระยิ้มบางๆก่อนจะเดินไปกับนารูโตะ ทิวไผ่ลู่ลมเสียดสีกันจนเกิดเสียงซึ่งไพเราะเสนาะหู ท้องฟ้าที่กำลังเปลี่ยนสีจากฟ้ากลายเป็นส้มทำให้ทั้งคู่หยุดยืนดูภาพบรรยากาศอยู่ริมเนินเขา
สายลมพัดผ่านร่างของทั้งคู่จนเส้นผมปลิวไปตามแรงลม ซากุระเอื้อมมือเอาผมทัดหูตนเอง นารูโตะนั่งยองๆจ้องมองภาพตรงหน้าและยิ้มออกมา ดอกหญ้าที่ขึ้นอยู่ตามริมภูเขากำลังสั่นไหวให้กับกระแสลม
“บรรยากาศดีจังเลยเนอะ”นารูโตะว่าก่อนจะหันไปมองคนตัวเล็กที่ยืนอยู่ข้างๆเขา
ซากุระฉีกยิ้มบาง มือเล็กๆของเธอแตะที่ท้องของตัวเองก่อนจะขานรับนารูโตะ
“อืม นั่นสินะ”
“ซาการะจังมีความสุขมั้ยล่ะจ๊ะ!~”
“ฮึ…นารูโตะบ้า”
“หลานสาวที่แสนน่ารักของฉัน ฉันอยากให้เธอมีความสุข อยากให้เธอได้เห็นทุกสิ่งที่สวยงามบนโลกใบนี้”
“โลกสวยงามเฉพาะด้านที่เราอยากมอง…”
“ไม่หรอก ฉันจะทำให้โลกนี้สวยงามในทุกๆด้านที่เราอยากมองและไม่อยากแยแสมัน ฉันจะเปลี่ยนแปลงโลกนี้ให้ได้…ซาการะจังจะได้เกิดมาในโลกที่มีความสุขที่สุด”
“นารูโตะ…นายพูดเหมือนกับว่าซากาอาระเป็นลูกสุดที่รักของนายเลยนะ”
“ก็ฉันเป็นพ่อทูนหัวไม่ใช่เหรอ คิ…”
รอยยิ้มเห็นฟันขาวของนารูโตะทำให้ซากุระอดยิ้มไม่ได้ ซากุระค่อยๆนั่งลงข้างๆกับนารูโตะก่อนจะยกนิ้วชี้ไปที่หน้าของคนตัวสูง
“มาทำพันธะสัญญาต่อหน้าพระอาทิตย์ตกดินกันเถอะ!”
“พันธะ…สัญญา?”
“อื้อ ใครโกหกจะต้องถูกแผดเผาด้วยความร้อนของพระอาทิตย์!!”
“ฮ่าๆๆ เอาสิ!”
“แต่งงานกับลูกสาวฉันนะ!”
“ฮะ…หา!!!”
นารูโตะสะดุ้งตกใจจนถึงกับหงายหลังล้มตึง คนตัวสูงอ้าปากค้างเบิกตากว้าง นี่เป็นมุกตลกอะไรของคนตัวเล็กกันแน่เนี่ย
“ฉันล้อเล่นต่างหากเล่า!~ ฮ่าๆๆ”
“ซากุระจัง ล้อเล่นแบบนี้ไม่ตลกเลยนะ เห็นฉันเป็นไอ้แก่ตัณหากลับรึไงกันน่ะ”
ว่าแล้วก็ทำเสียงงอนใส่ซากุระ นารูโตะรีบผุดลุกขึ้นมานั่งเหมือนเดิมก่อนจะปัดเศษดอกหญ้าที่ติตามตัวออก นัยน์ตาสีฟ้ามหาสมุทรสะท้อนกับแสงยามเย็นจ้องมองมาที่ร่างบอบบาง ผิวขาวเนียนของซากุระเป็นสีชมพูอ่อนเพราะแสงที่ฉาบทับลงมา
“นายสัญญากับฉันนะนารูโตะ ว่านายจะเป็นครอบครัวเดียวกันกับพวกเราสามคน”
“คะ…ครอบครัว?”
“นายคือสมาชิกครอบครัวอีกหนึ่งของฉันนะนารูโตะ”
ความปรารถนาตลอดทั้งชีวิตของนารูโตะคือการได้มีใครสักคนหนึ่งซึ่งจะยืนอยู่เคียงข้างเขา เป็นครอบครัว ซึ่งเขาไม่เคยได้มี แต่ซากุระกำลังยื่นคำสัญญานั่นมาให้กับผู้ชายอย่างเขา ผู้ชายซึ่งครั้งหนึ่งก็เป็นได้แค่เด็กมีปัญหา…
ซากุระจัง เธอจะรู้บ้างมั้ยว่าคำขอข้อนั้นเป็นอะไรที่ทำให้เขามีความสุขที่สุด จนน้ำตาเอ่อล้นออกมายังขอบตาของเขา ซากุระมีแววตกใจที่เห็นนารูโตะน้ำตาคลอเบ้า คนตัวสูงหัวเราะเสียงดังก่อนจะใช้แขนเสื้อตัวเองเช็ดน้ำตาพวกนั้นออก
“ฮ่าๆ ฉันนี่…ชักจะมีความสุขเกินไปหน่อยแล้วล่ะนะ ฮ่ะๆ”
“ฉันอยากให้เราอยู่ด้วยกันแบบครอบครัวจริงๆนะนารูโตะ ฉันไม่อยากที่จะต้องสูญเสียใครไปสักคน พวกนายมีความสำคัญกับชีวิตของฉันมาก ต่อจากนี้เราจะดูแลซึ่งกันและกันได้มั้ย นายจะให้คำสัญญาต่อหน้าพระอาทิตย์ได้รึเปล่า”
“…”
“นะ นารูโตะ…”
“ฉันจะปฏิเสธคำขอที่ทำให้ตัวเองมีความสุขขนาดนี้ได้ยังไงล่ะซากุระจัง! ตกลง ฉันสัญญา!!”
แขนของนารูโตะยืดตรงไปยังหน้าพระอาทิตย์ เขาชูนิ้วโป้งขึ้นก่อนจะหันมาหาซากุระและยิ้มอย่างจริงใจ ท่าโพสต์ไนซ์กายของนารูโตะยังทำให้ซากุระเชื่อมั่นได้เสมอ
“เชื่อใจฉันได้! ฉันจะไม่ผิดคำพูดของตัวเองเด็ดขาด!!”
“อื้ม!”รอยยิ้มของซากุระปรากฏกว้างอยู่บนใบหน้าหวาน เรือนผมสีชมพูปลิวไปตามกระแสลมที่พัดผ่านมาพอดี
นารูโตะหัวเราะผสานไปกับซากุระ ช่วงเวลานี้คงเป็นช่วงเวลาผ่อนคลายที่มีความสุขที่สุดตั้งแต่วันนั้นสินะ…วันที่เธอได้พบกับซาสึเกะ ไม่สิ! เธอเองก็มีความสุขมากนะที่อยู่กับกาอาระ แต่ทว่าเขาก็จากไปแล้วนี่นะ และไม่รู้ว่าอีกนานแค่ไหนกว่าเขาจะกลับมา
“ฉันอยากให้ลูกเจอกับกาอาระไวๆจังเลย”
“เจ้านั่นจะต้องรีบมาแน่นอน เชื่อฉันเถอะซากุระจัง”
ฮัลโหลชาวเเฟนคลับฟิคนารูโตะทั้งหลาย รู้สึกว่าสไรท์เตอร์จะไม่โผล่หัวออกมาพูดคุยกับแฟนคลับเลยช่วงนี้ ทุกคนคิดถึงไรท์เตอร์กันบ้างมั้ยจ๊ะ -..- ขอสารภาพจากใจจริงที่ต้องอัพฟิคอาทิตย์ล่ะครั้งเพราะไรท์เตอร์เรียนหนักมากๆๆๆๆๆ กลับมาถึงบ้านไม่ทำงานก็นอนเลยเพราะโดนดูดวิญญาณกันเเบบสุดๆ แถมด้วยชีวิตไรท์เตอร์ที่ระหกระเหินไปอยู่หอพักจึงทำให้การใช้อินเทอร์เน็ตเล่นคอมโคตรจะลำบาก แบบนี้ล่ะที่โบราณท่านว่าที่ไหนก็ไม่สุขใจสบายกายเท่าบ้านเรา
พูดให้ดูดีไปอย่างนั้นกับชีวิตของไรท์เตอร์ มาต่อด้วยเรื่องฟิคกันดีกว่าที่ถึงช่วงเข้มข้นโค้งสุดท้ายกันอย่างเมามันส์
สารภาพกันมาตรงๆว่าสงสารนารูโตะใจเเทบขาด ตอนเเต่งไปด้วยก็ร้องกรี๊ดกับตัวเองเบาๆว่าเรื่องหน้าฉันจะเอานารูโตะเป็นพระเอกให้ได้เพราะสงสารจับจิต!! ยังไม่วายที่พ่อเนจิทำตัวน่าแบ่งปันใจเอนเอียงให้เชียร์อีกต่างหาก โอ้ย เกิดมาเป็นเเม่เรไรล่ะกลุ้ม!! (?) แล้วคนอ่านล่ะจ๊ะอินกันมากเเค่ไหนกับตอนนี้
ร้องไห้เพราะสงสารนารูโตะเหมือนไรท์เตอร์รึเปล่า ยอมรับออกมาซะดีๆนะจ๊ะ >_<)/
สุดท้ายนี้ รักคนอ่านคนเม้นท์ทุกๆคน เจอกันอาทิตย์หน้านะฮ๊าบบบบ
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ

♡♡ยินดีด้วยนะโอโตซัง โอกาซัง♡♡
แต่สงสารโตะมากก แบบคงพูดไรไม่ออกจริงๆอ่ะแหละ ถ้าอยู่ในเหตุการนั้น
แต่ถ้าโตะรักหนูกุจริง คงจะยินดีด้วยล่ะนะ โตะคงจะยินดีด้วยล่ะนะ
เกะมันบ้าชัดๆ สงสารซาโยริ มิน่าล่ะเกิดเรื่องทีไร จูโกะทุกทีสิน่า ที่ช่วยตลอดอ่ะ
ยังทำใจไม่ได้เลย TTOTT
ไรท์หายไปนานมามากกกกกก
นารูโตะ ตอนนี้เป็นพ่อทุูนหัวไปก่อนนะ เรื่องหน้าไรเตอร์บอกแล้วว่าจะให้เป็นพระเอก *0*
กาอาระ มัวแต่ดีใจ รีบๆไปหาซากุระเร็วๆเลย เขารอแกนานมากกกกกก
....ซาสึเกะ ไม่ทันไรมันก็โผล่มา =[]= จะมาทำไมเนี่ย มาทำลายความสุขชาวบ้านเขา เมียก็มีแล้วนะเออ
เพราะอย่างน้อยก็เป็นพระเอกในใจมาตั้งนาน
เพิ่งมาอ่านฟิคเรื่องนี้แหละค่ะที่เชียร์ซากุระ-กาอาระสุดใจขาดดิ้น
เป็นคู่ที่น่ารักมากๆๆๆ โตะเองก็ขอให้(ไรท์เตอร์)หาผู้หญิงที่ใช่ให้ซะทีเถิ้ดดด
ส่วน นารูโตะ นายได้เป็นพ่อทูนหัวแล้ว!!! ถึงจะไม่ได้เป็นพ่อแท้ๆก็เหอะ
เทมาริ เธอได้เป็นโอจิซังแร๊วว แก่ขึ้นแระนะจ้า
คันคุโร่ นายได้เป็นโอบะซังทั้งๆที่ยังไม่แก่ ดีใจด้วย^O^
ส่วน ซากุระ เธอได้เป็นแม่คนแล้ว^(O)^ดีใจด้วย ดูแลซาการะดีๆด้วยล่ะ
ส่วน...
....
.....
ซาสึเกะ นายได้เป็นอะไรอ่ะ??
แต่ก็ยังดีที่ตอนนี้หัวเราะออกแล้ว ไม่ใช่มัวแต่ร้องไห้^^
จูโกะรักซาโยริ!?!? ซาสึเกะ นายทำบาปเพิ่มอีกแล้วนะ!-[ ]-+
Ps. ขอกระทืบไลค์แรงๆให้กาอาระ>w<
Pss. เทมาริยอมน้องเหรอ! รีบแต่งกับชิกามารุให้ว่องเลย!! 555+
แก้ไขครั้งที่ 1 เมื่อ 1 สิงหาคม 2555 / 19:03
สงสารโตะอ่า TTOTT
อยากจะบอกว่า เราเชียร์เนจิ 55+
ถ้าซากุระไม่รักนารุโตะ ก็อย่าเหนี่ยวรั้งเขาไว้ ไม่ว่าจะด้วยการกระทำหรือคำพูด
เพราะจะยิ่งทำให้นารุโตะเจ็บขึ้นไปอีก
กาอาระรีบกลับมาดูซากุระเลยนะ!
ปล.คิดถึงไรเตอร์มากกก นานๆทีจะโผล่มาให้เห็น
สุดยอดมากค่า เลือกไม่ถูกจริงๆ แต่ ณ วินาทีนี้กาอาระเอาไปหมดใจ กรี๊ดดดด><
เคยคิดมาตั้งนานแล้วว่าจิ้นซากุระกับกาอาระ เพิ่งมาเจอฟิคเรื่องนี้ที่สนองนี้ดได้แบบสุดยอดไปเล้ย
แต่งได้ดีมากๆๆเลยค่ะ อินไปทุกอารมณ์ตัวละคร ฉากหวานๆก็น่ารักมากกก