ตอนที่ 1 : LAST TALE AND WAR 1 :: ลำนำแห่งความเจ็บปวด (RE-WRITE) 100%
วาระสุดท้ายของสงครามนินจาครั้งที่สี่กำลังดำเนินมาถึงจุดสิ้นสุด นารูโตะกำลังออกไปสู้จนตัวตายกับกลุ่มแสงอุษา แต่ฉันกลับทำอะไรไม่ได้เลยนอกจากยืนอยู่ตรงนี้…
“ซากุระ! รีบปฐมพยาบาลเร็วเข้า มัวยืนเหม่ออะไรอยู่”
คุณชิซึเนะที่กำลังขนย้ายผู้ป่วยเข้าไปในที่พักตะโกนเรียกฉันอยู่หลายครั้ง ฉันสะดุ้งก่อนจะได้สติกลับคืนมา ขาข้างขวาของฉันก้าวถอยหลังเพื่อเตรียมกลับเข้าไปทำหน้าที่นินจาแพทย์ให้สมศักดิ์ศรี แต่ขาข้างซ้ายของฉันกลับยึดแน่นิ่งอยู่กับที่ไม่ยอมขยับไปไหน นารูโตะ…
“ซากุระ!! นั่นเธอจะไปไหนน่ะฮะ!!”
“…!!”
ฉันรู้ว่าถึงฉันจะไปที่กลางสนามรบก็ไม่อาจจะช่วยอะไรนารูโตะได้มากนัก ฉันรู้ว่าถึงฉันไปที่นั่นฉันอาจจะต้องตาย แต่ครั้งหนึ่งในชีวิตนินจาแพทย์ที่ไม่เคยมีบทบาทอะไร รังแต่จะเป็นภาระที่ทำให้ทั้งอาจารย์คาคาชิ หัวหน้ายามาโตะ ซาอิ นารูโตะ และคนอื่นเดือดร้อนอยู่เรื่อยนั้น ฉันก็ขอ…ขอที่จะออกไปสละชีวิตและสู้จนตัวตายดีกว่า!
ขาของฉันก้าวกระโดดไปตามกิ่งไม้ให้รวดเร็วที่สุด จากป่าใหญ่ที่อยู่ลึกสุดในหมู่บ้านสึนะงาคุเระจนผ่านพ้นเข้าสู้เขตทะเลทราย เสียงอึกทึกของการต่อสู้ครั้งยิ่งใหญ่กำลังระเบิดอยู่ตรงหน้าของฉัน ภายใต้นัยน์ตาสีเขียวมรกตภาพของนารูโตะพุ่งเข้าใส่มาดาระ…ไม่สิ ชายที่อยู่ภายใต้หน้ากากนั่นไม่ใช่มาดาระอย่างที่เราเคยเข้าใจ เขาเป็นใครกัน….?
“ซากุระ เธอมาทำอะไรที่นี่”
เสียงแข็งกร้าวของเนจิทำให้ฉันสะดุ้ง ฉันรีบลุกขึ้นยืนทรงตัวให้เข้าที่ก่อนจะกระชับถุงมือให้แน่นขึ้น นัยน์ตาสีขาวของเนจิจ้องเขม็งมาที่ฉันราวกับผู้ใหญ่กำลังไม่พอใจ
“เธอควรอยู่ประจำการที่กองปฐมพยาบาลเพื่อรักษากองกำลังของเรา แล้วเธอมาทำอะไรที่นี่”
“ฉันจะไม่ปล่อยให้นารูโตะต้องต่อสู้เพียงลำพังอีก”ฉันยืนยันหนักแน่น แต่เนจิกลับขมวดคิ้วปั้นหน้าโมโหร้ายใส่ฉัน
“เธอทำเกินคำสั่ง หน้าที่ของเธอคือรักษานินจาที่ได้รับบาดเจ็บ”
“ฉันรู้”
“เธอจะต้องได้รับโทษที่ฝ่าฝืนคำสั่งโฮคาเงะ”
“ฉันรู้ถึงบทลงโทษนั่นดี ฉันจะกลับมารับโทษทันทีที่สงครามจบลง ถึงแม้ว่าฉันอาจจะ…”
ตาย…ฉันอาจไม่รอดชีวิตก่อนได้รับโทษในวันนั้น
ร่างบางของฉันหมุนตัวกลับเพื่อเตรียมจะวิ่งต่อไปยังกลางสมรภูมิรบ แต่แขนบางของฉันกลับถูกจับไว้ด้วย…
“คุณไปที่นั่นไม่ได้นะครับคุณซากุระ นารูโตะน่ะกำลังต่อสู้เพื่อพวกเราอยู่”
คุณลีที่ยืนอยู่ข้างๆเนจิเป็นคนจับแขนฉันไว้ ใบหน้าที่จริงจังนั่นไม่อาจทำให้ฉันปฏิเสธได้ ทำไมกัน…ทำไมฉันถึงต้องยืนดูนารูโตะสู้เพียงลำพังอีก…
“ฉัน…!”
“นอกจากเธอจะฝ่าฝืนคำสั่งโฮคาเงะแล้ว เธอยังจะฝ่าฝืนความตั้งใจของนารูโตะอีกอย่างนั้นเหรอ”
“แต่…จะให้ฉันยืนดูเฉยๆโดยไม่ทำอะไรเลยอย่างนั้นเหรอ! นายทำได้อย่างนั้นเหรอเนจิ”
“คำสั่งย่อมเป็นคำสั่ง ถึงเราเข้าไปช่วยนารูโตะตอนนี้ก็รังแต่จะเป็นภาระให้กับเขา”
“แต่ก็ยังดีกว่ายืนดูเขาต่อสู้เฉยๆ!!”
“เขาเคยเอาชนะเพนมาแล้ว!!”
มือของเนจิปัดมือของคุณลีที่จับแขนฉันอยู่ออก เขาเป็นคนที่ลงมือจัดการบีบแขนของฉันเสียจนปวดหนึบไปหมด นี่เขาใส่จักระมากไปรึเปล่าน่ะฮะ?
“เพราะแบบนั้นเราถึงต้องเชื่อมั่นเขาใช่มั้ย เชื่อมั่นว่าเขาจะทำได้! เชื่อมั่นว่าเขาจะชนะและยืนดูเขาเฉยๆ…แบบนั้นน่ะเหรอ…”
“ใช่ นั่นคือสิ่งที่พวกเราทุกคนควรทำ”
“…!!!”
“เอาตัวซากุระไป แล้วจับตาดูเธอไว้อย่าให้ไปไหน”
“นายทำอย่างนี้ได้ยังไงเนจิ!! เพื่อนฉัน เพื่อนของนาย!! เพื่อนของพวกเราทุกคนกำลังต่อสู้อยู่นะ!!!”
“ลี เอาตัวเธอไป เท็นเท็นเธอจับตาดูซากุระเอาไว้”คำสั่งเด็ดขาดของเนจิทำเอาฉันถึงกับอึ้ง เขาเป็นบ้าอะไร ทำไมถึงไม่เข้าใจความรู้สึกของคนอื่นบ้างนะ!!
คุณลีและเท็นเท็นรีบถลาเข้ามาล็อคแขนของฉันเอาไว้คนละข้างตามคำสั่งของเนจิ นัยน์ตาสีขาววาวโรจน์นั่นทำให้ฉันโกรธอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน! เขาไม่เคยเข้าใจความรู้สึกของคนอื่นเลย!!
ภายในร่างกายของฉันกำลังคุกกรุ่นด้วยเปลวเพลิงแห่งความโกรธ จักระที่เค้นออกมาถูกปล่อยออกมาในรูปแบบของพลังมหาศาล ฉันสะบัดตัวคุณลีและเท็นเท็นออกอย่างง่ายดาย เนจิเบิกตาขึ้นเล็กน้อยแต่ก็เข้าสู้ท่าพร้อมต่อสู้อย่างรวดเร็ว ยังไงๆก็ไม่ยอมให้ฉันไปสินะ!!
ตูม!!!!
กำปั้นมหาศาลถูกซัดใส่พื้นดินจนแตกเป็นเสี่ยงๆ เนจิกระโดดขึ้นเหนือฟ้าก่อนจะเบิกเนตรสีขาวของเขาขึ้น ฝ่ามือแปดทิศของเขาคงกำลังจะทำงานแล้วสินะ ฉันหมุนตัวกลับและพุ่งเข้าใส่เขาก่อนที่ปลายเท้าของเนจิจะถึงพื้น ฝ่ามือนั่นคว้าเข้าที่ขาของเนจิจัดการเหวี่ยงเขาเพื่อหวังจะซัดหมัดหนักๆสักทีใส่หน้าเขา แต่เพราะเขาเป็นถึงโจนินแล้ว เขาถึงได้ตั้งรับฉันได้อย่างรวดเร็ว
ไหล่ของฉันถูกคว้าด้วยแขนของเนจิ ฝ่ามือของเขารั้งเข้าที่ไหล่ของฉันและกำลังจะเหวี่ยงฉันลงกับพื้น ฉันพยายามจะดันตัวออกจากการเกาะกุมนี่ ฝ่ามืออีกข้างที่ว่างอยู่ของเนจิสวนลงมาหมายที่จะปล่อยพลังมวยอ่อนของเขา แต่ฝ่ามือของฉันที่ว่างอยู่ก็พุ่งเข้าใส่คอเขาเช่นเดียวกัน
ซู่!!!
“นี่มัน…”
“ทรายงั้นเรอะ”
“หยุดอยู่แค่นั้นล่ะ สงครามนินจากำลังปะทุอยู่ตรงหน้าพวกเธอแท้ๆ แต่พวกเธอกลับมาต่อสู้กันเองนี่นะ?”
คลื่นทรายขนาดย่อมที่บรรจุไปด้วยจักระเป็นตัวผลักให้ทั้งฉันและเนจิกระเด็นออกไปคนล่ะฝั่ง ฉันสำลักเล็กน้อยเพราะแรงของมวยอ่อนเมื่อกี้ที่เกือบจะโดนตัวฉัน กาอาระ…ไม่สิ ท่านคาเสะคาเงะก้าวเดินออกมาจากเงาของเมฆที่ทาบทับลงมา เทมาริและคันคุโร่เดินตามขนาบข้างเขามาติดๆ
“นี่ไม่ใช่เวลาที่จะมาทะเลาะกัน ฮิวงะ เนจิ คงไม่เป็นอะไรถ้าจะปล่อยให้ซากุระอยู่ในการควบคุมดูแลของฉัน”
“ถ้าท่านคาเสะคาเงะว่าอย่างนั้นก็แล้วแต่เถอะ”
เนจิว่าเสียงเรียบก่อนใช้มือบีบนวดที่ต้นคอของตัวเอง ฉันไม่ได้คิดจะเล่นงานเนจิถ้าเขาไม่ได้เข้ามาขวางทางฉันและคิดจะใช้มวยอ่อนนั่นจัดการกับฉัน ฉันขมวดคิ้วใส่เนจิที่จ้องมองมาด้วยแววตาไร้ความรู้สึก แน่ล่ะ คนอย่างเนจิจะแสดงอารมณ์ออกมาได้สักกี่ครั้งกัน
ร่างสูงกว่าฉันก้าวเดินมาหาร่างบางที่กำลังนั่งอยู่กับพื้นทราย ท่านคาเสะคาเงะยืนกอดอกมองฉันด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยคำถาม
“ฉันจะไปช่วยนารูโตะ”
“เธอไปไม่ได้”
“ฉันไม่สนถ้าใครคิดจะขวางทางฉัน แม้แต่ท่าน…”
“มันไม่มีประโยชน์ถ้าเราจะไปช่วยเขาในตอนนี้ สิ่งที่เราทำได้ตอนนี้คือรอฟังข่าวจากเขา ทางเราก็ยังมีศึกที่ต้องรับมือเช่นกัน คาถาสัมภเวสีคืนชีพไม่ใช่คาถาที่เรารับมือได้ง่าย…”
“เขาอยู่ที่ไหนเรายังไม่รู้เลย ถ้าเขาเป็นอะไรขึ้นมาแล้วใครจะช่วยเขากัน! ใครจะพาตัวเขากลับมา!! แม้แต่คนส่งสาส์นยังไม่มีด้วยซ้ำ นี่เราเชื่อมั่นในตัวนารูโตะมากไปรึเปล่า ยังไงเขาก็ยังเป็น…ยังเป็นอุซึมากิ นารูโตะ…”
“เธอคงดื้อรั้นไม่ฟังคำฉันสินะ”
“ค่ะ ฉันไม่ฟัง!”
เสียงหนักแน่นของฉันทำให้ท่านคาเสะคาเงะส่ายหน้าอย่างเอือนระอา ทรายมากมายพวยพุ่งออกมาจากนาฬิกาทรายที่ท่านคาเสะคาเงะแบกไว้ ทรายพวกนั้นพุ่งตรงเข้ามาเพื่อจับฉันมัดเอาไว้ แต่ฉันเตรียมพร้อมที่จะสู้อยู่แล้วล่ะ!!
“คันคุโร่!”
“รู้อยู่แล้วล่ะ!”
แต่ยังไม่ทันที่ฉันจะได้ออกแรงเพื่อทำลายทรายของคาเสะคาเงะ ทรายพวกนั้นก็รั้งตัวฉันเข้าไปก่อนจะจับฉันยัดเข้าสู้หุ่นกระบอกของคุณคันคุโร่ที่เปิดบริเวณช่วงอกออกมา
ปัง!!!
เสียงนั่นเป็นเสียงสุดท้ายก่อนที่ฉันจะถูกจับขังอยู่ในหุ่นเชิดของคุณคันคุโร่
ปึง!!! ปึง!!!
“ปล่อยฉัน!! ปล่อยฉันสิเว้ย!!!”
“เธอกำลังโกรธจัดเลยล่ะ คงต้องรีบทำอะไรสักอย่างก่อนหุ่นเชิดของคันคุโร่จะพัง”
ฉันพยายามสุดแรงเกิดที่จะกระแทกไอ้หุ่นบ้านี่ออกไป แต่พยายามอยู่หลายชั่วโมงก็ไม่สามารถทลายมันออกไปได้! ให้ตายสิ!! ป่านนี้นารูโตะจะเป็นยังไงบ้างก็ไม่รู้…
“ฉันรับช่วงต่อเอง”
“แต่กาอาระ…นายควรจะไปคุมกองทัพไม่ใช่เหรอ พลังสถิตย์ร่างกำลังใกล้เข้ามาแล้วนะ”
“อืม เธอกับคันคุโร่ไปตรึงกำลังตรงหน้าทางเข้าแคว้นให้ดี อย่างน้อยๆในตอนที่อุจิวะ มาดาระตัวจริงและคาถาสัมภเวสีคืนชีพถูกอุจิวะ อิทาจิผนึกไปแล้ว เรายังพอมีเวลาคิดแผนจัดการกับพลังสถิตย์ร่างที่เหลืออีก”
“เข้าใจล่ะ”
เสียงของคุณเทมาริหายไปแล้ว เหลือเพียงแต่เสียงเคลื่อนไหวของใครบางคนที่อยู่ด้านนอก การเคลื่อนไหวนั่นหยุดลงพร้อมๆกับฝ่ามือของท่านคาเสะคาเงะที่สัมผัสเข้ากับหุ่นไม้ของคันคุโร่
“ฉันเข้าใจความรู้สึกของเธอดี”
คาเสะคาเงะพูดเสียงเรียบนิ่งราวกับคำพูดนั่นไม่ได้เป็นไปตามคำพูด ฉันนั่งอยู่ในหุ่นเชิดนั้นพร้อมกับพยายามใช้เท้าเตะเข้าที่ตัวหุ่น ฉันคิดว่ามันคงกระเทือนเข้าหาคาเสะคาเงะไม่มากก็น้อยล่ะ
“อย่าพูดว่าเข้าใจความรู้สึกของฉันในเมื่อท่านไม่เคยทำอะไรเลย”
“ท่านงั้นเหรอ? เธอให้ความเคารพนับถือฉันในฐานะคาเสะคาเงะเหมือนคนอื่นๆตั้งแต่เมื่อไหร่”
“นั่นเป็นคำที่ฉันควรจะเรียกท่าน ท่านคาเสะคาเงะ”
ผลั่ก!!
“ถ้าเธอจะเรียกฉันว่าคาเสะคาเงะแต่ถีบเข้าหน้าฉันแบบนี้ เธอก็ไม่ควรเรียกนะ”
“จะปล่อยฉันออกไปได้รึยัง ฉันเสียเวลามามากพอแล้วนะ!”
“หุ่นเชิดฮิรุโกะของคันคุโร่ขึ้นชื่อว่าเป็นหุ่นที่ใช้กักขังซึ่งแข็งแรงที่สุด แม้แต่พลังมหาศาลของเธอก็ไม่สามารถทำลายได้ง่ายๆหรอกนะ”
กรอก!
ฉันเตรียมที่จะพังทลายให้ดูไม่ว่าวิธีใดก็ตาม แต่ก่อนที่ฉันจะได้พังหุ่นเชิดนี่เป็นเสี่ยงๆ เสียงซ่าๆราวกับของแข็งละเอียดกำลังเคลื่อนไหวนั้นก็หยุดฉันไว้เสียก่อน ทรายขนาดเล็กแทรกเข้ามาตามรอยเชื่อมของหุ่นและแยกมันออกอย่างง่ายดาย
“ฉันบอกว่าเข้าใจความรู้สึกเธอ แต่ในฐานะคาเสะคาเงะฉันไม่สามารถละทิ้งหน้าที่ในการเป็นผู้นำหมู่บ้านไปได้ และในฐานะที่ฉันเป็นผู้นำกองทัพนินจาทั้งห้าแคว้นฉันก็ไม่สามารถละทิ้งทุกอย่างเพื่อไปช่วยเพื่อนได้เช่นเดียวกัน”
“ท่านถึงจะปล่อยฉันไปอย่างนั้นสินะ”
“เธอรู้ใช่มั้ยว่าถ้าก้าวพ้นไปจากเขตของกองทัพนินจา ภายหน้าจะมีอุปสรรคอะไรบ้างก็ไม่รู้ หรือแม้แต่ความตาย”
“ฉันเคยกลัวตาย…และเพราะความกลัวตายมันทำให้ฉันพ่ายแพ้ต่อตนเองและสูญเสียทุกสิ่งไป ฉันจะไม่ยอมเสียนารูโตะไป ฉันจะไม่ยอมให้เขาต่อสู้เพียงลำพังอีก ถึงแม้เขาจะเก่งแค่ไหนแล้วก็ตาม”
“แบบนี้สิถึงจะเป็นฮารุโนะ ซากุระ ผู้หญิงที่ครั้งหนึ่งเข้ามากระโดดขวางหน้าพลังสถิตย์ร่างโดยไม่กลัวตายเพียงเพื่อปกป้องคนที่ตัวเองรัก”
ดวงตาสีมรกตของฉันได้แต่กระพริบตาปริบๆกับคำพูดนั่น ท่านคาเสะคาเงะยังจำเรื่องในวันนั้นได้อีกเหรอ…รอยยิ้มบางๆเจืออยู่ที่ริมฝีปากสีชมพูอ่อนของฉัน ฉันไม่รู้จะทำท่ายังไงเมื่ออยู่ต่อหน้าท่านคาเสะคาเงะที่จ้องมองตรงมาทางนี้
เรื่องมันนานมากแล้วเมื่อฉันคิดถึงซาสึเกะซึ่งกำลังจะถูกทำร้ายในวันนั้น ทั้งๆที่แข้งขาฉันก็สั่นและฉันไม่มีแม้แต่ปัญญาจะต่อสู้กับท่านคาเสะคาเงะ…ฉันนี่มันช่างบ้าบิ่นสิ้นดี
“เธอโตขึ้นมากฮารุโนะ ซากุระ”
“ขะ…ขอบคุณที่ปล่อยฉันไป”
ฉันจะมัวมาเสียเวลามากไปกว่านี้ไม่ได้อีกแล้ว…ร่างบางกำลังจะหมุนตัวเพื่อวิ่งออกไปยังกลางสมรภูมิรบ แต่ทว่าเม็ดทรายเบาบางที่แทบจะไม่รู้สึกถึงความหยาบกระด้างของมันเลยนั้นกลับล้อมรอบมือฉันเอาไว้ นัยน์ตาสีมรกตหันกลับไปมองผู้ควบคุมทรายเหล่านั้น
“ฉัน…จะไม่ปล่อยให้เธอไปคนเดียว”
“แต่…”
“ฉันจะไปกับเธอ”
“ท่านเป็นคาเสะคาเงะ”
“ใครกำหนดกฎเกณฑ์นั่นกัน ไปเถอะ ก่อนที่พวกคันคุโร่กับเทมาริจะเอะใจ”
“แต่ว่า…ท่าน…”
“เร็วเถอะ นารูโตะก็เป็นเพื่อนคนสำคัญของฉัน”
ภายใต้เงามืดที่เต็มไปด้วยต้นไม้ของป่าใหญ่ ร่างบางของซากุระกำลังเร่งฝีเท้าเพื่อตามให้ทันร่างที่สูงกว่าของตนไปยังทางที่ไม่อาจคาดเดาได้ คาเสะคาเงะของหมู่บ้านสึนะงาคุเระหรือกาอาระ เขากำลังวิ่งนำหน้าเธอไปเพื่อช่วยเหลือนารูโตะ เขาแหกกฎเกณฑ์ทุกๆอย่าง…
“จากการคาดเดาของฉัน ร่องรอยการต่อสู้ล่าสุดของนารูโตะอยู่แถวๆบริเวณนี้ แต่นั่นก็ยังเป็นเพียงร่างแยกของเขา ร่างที่แท้จริงน่าจะตรงไปด้านทิศเหนือของป่าทะลุออกไปยังเขตแคว้นของเมืองคุโมะงาคุเระ”
“…”
“ซากุระ เธอฟังที่ฉันพูดอยู่รึเปล่า”
ร่างบางของซากุระสะดุ้งเล็กน้อยเมื่อนัยน์ตาสีฟ้าอมเขียวนั่นหันกลับมามองเธอ เธอชะงักและหยุดฝีเท้าไปจนคนตัวสูงต้องวิ่งถอยหลังกลับมาเพื่อดูอาการของเธอ
“เกิดอะไรขึ้น”
“ทำไมท่านถึงทำขนาดนี้ ท่านควรจะอยู่เป็นผู้นำให้กับกองทัพนินจา”
“ก็อย่างที่เธอพูด…เพื่อนที่สำคัญคนหนึ่ง จะให้เรายืนรอเฉยๆโดยไม่ช่วยเหลืออะไรเขาน่ะรึ?”
“แต่ว่า…”
“เป็นถึงคาเสะคาเงะแต่ปกป้องเพื่อนเพียงคนเดียวไม่ได้ แล้วจะเป็นคาเสะคาเงะได้ยังไงกัน นารูโตะเองก็เป็นคนพูดแบบนี้ไม่ใช่รึ”
“ท่าน…”
“เลิกเรียกฉันว่าท่านเถอะถ้าเราจะร่วมเป็นร่วมตายกันในสมรภูมินี้ ไม่มีคำว่าคาเสะคาเงะ ที่อยู่ ณ ที่นี้มีแต่เพื่อนเท่านั้น”
หญิงสาวไม่รู้จะหาคำพูดใดมาโต้ตอบในบทสนทนานี้ดี เธอได้แต่กระพริบตาปริบๆเพราะไม่อยากจะเชื่อว่าคาเสะคาเงะจะเปลี่ยนไปได้มากถึงขนาดนี้ นับตั้งแต่เธอเจอเขาเมื่อครั้งล่าสุดทุกอย่างก็ดูเปลี่ยนไปเสียหมด ความคิดของเขา จิตวิญญาณแห่งการเป็นคาเงะ ความรู้สึก จิตใจ ไม่เหมือนกับพลังสถิตย์ร่างคนนั้นที่พยายามจะคร่าชีวิตซาสึเกะไป
ตูม!!!
เสียงระเบิดครั้งใหญ่ทำให้ทั้งกาอาระและซากุระหันขวับไปดูว่าเกิดอะไรขึ้น พลังระเบิดบอลสัตว์หางที่กินอาณาเขตบริเวณกว้างจนเกือบจะถึงตะเข็บชายแดนป่าที่ทั้งคู่อยู่พังพินาศไม่เหลือเค้าความอุดมสมบูรณ์ ซากุระเป็นคนแรกที่ออกวิ่งไปโดยไม่ได้รอกาอาระ เธอเร่งฝีเท้าเพื่อไปให้ถึงจุดเกิดเหตุให้เร็วที่สุด ภาวนาเพียงอย่างเดียวคือขออย่าให้คนที่ล้มลงไปในสงครามนี้เป็นนารูโตะ…!!!
“ซากุระ!”เสียงรั้งของกาอาระไม่ได้ทำให้คนตัวเล็กใจกล้าอย่างซากุระหยุดฝีก้าวลง
ครืด!!
เรียวขาเหยียดตรงของซากุระหยุดการเคลื่อนไหวได้ทันท่วงที นัยน์ตาสีเขียวมรกตกวาดสายตามองไปทั่วทั้งบริเวณของสมรภูมิรบที่ราบเป็นหน้ากลอง เสื้อสีส้มๆนั่น…นารูโตะไม่ผิดแน่
“นารูโตะ!”
“ซา…กุระจัง”
นารูโตะแทบจะไม่มีแรงที่จะเอื้อนเอ่ยคำใดออกมาอีก เขาหมดแรงแม้แต่เหยียดตัวนอนให้ตรง ซากุระพุ่งตรงเข้าไปหานารูโตะก่อนจะแบกเขาขึ้นมาประคองเอาไว้ด้วยวงแขนทั้งสองข้าง เลือดไหลอาบหน้าของนารูโตะจนทำให้ลำคอขาวของซากุระสะอึกราวกับมีก้อนอะไรบางอย่างติดอยู่
“ทำไมสภาพนายถึงได้แย่แบบนี้”
“นะ…หนีไป ซากุระจังต้องไม่อยู่ที่นี่…”
“ยังจะมาพูดแบบนี้อีกเหรอ…”
“เนตรวงแหวนกระจกเงาหมื่นบุปผา!!”
“ซากุระ!!”
ครืด!!!
เพียงชั่วเวลาที่เนตรวงแหวนกระจกเงาหมื่นบุปผาทำงาน ทรายของกาอาระที่ตามมาสมทบก็สร้างเกราะกำบังระหว่างนารูโตะและซากุระได้ทันท่วงที มาดาระตัวปลอมสภาพย่ำแย่ไม่ต่างอะไรไปจากนารูโตะ ใบหน้าของเขาครึ่งหนึ่งหน้ากากหลุดลอกออกไปแล้ว และถึงแม้จะไม่ได้เห็นเต็มใบหน้านั่น…ทั้งซากุระและนารูโตะก็เดาได้ไม่ยากว่ามาดาระตัวปลอมภายใต้หน้ากากนั่นคือใคร พลันเสียงที่คุ้นเคยเสียงหนึ่งก็ดังขึ้น
“อุจิวะ โอบิโตะ”
“อุจิวะ…ซาสึเกะ!!”
“ซาสึเกะคุง…”
ความเย็นชาที่แพร่ผ่านออกมาจากนัยน์ตาสีแดงฉานที่อาบไปด้วยความแค้น ความเจ็บปวดที่ซ่อนผ่านนัยน์ตาคู่นั้น ครั้งสุดท้ายที่เธอได้พบเจอกับเขามันช่างเจ็บปวดทรมาน การแยกทางระหว่างความถูกต้องและความรัก คนทรยศต่อหมู่บ้านที่ไม่เคยเมตตาต่อใครปรากฎตัวต่อหน้าซากุระอีกครั้งในเวลาแบบนี้…
“ในที่สุดก็ถึงวันที่ฉันจะได้พลังทั้งหมดของแกไปแล้วสินะ อุจิวะ โอบิโตะ”
“แก…”
“ความสามารถสูงสุดของเนตรวงแหวนกระจกเงาหมื่นบุปผาเมื่อถึงขีดจำกัดขั้นสูงสุด เนตรต่อมาที่จะได้รับก็คือเนตรสังสาระ คงต้องขอบใจแกล่ะนะที่ทำให้ฉันรู้ถึงความลับของขุมพลังเนตรมาดาระ ต่อจากนี้ฉันจะเป็นคนที่ได้รับพลังเดียวกันนั่น จากการฆ่าแก!!”
ซากุระไม่สามารถมองเห็นภาพเหตุการณ์เบื้องหน้าได้อีกเพราะเกราะทรายที่ก่อตัวกันหนาขึ้น
“อย่าร้องไห้แบบนั้นสิ ซากุระจัง…”
“เจ้านารูโตะบ้า! นายเจ็บขนาดนี้ยังจะให้ฉันหัวเราะได้อีกงั้นเหรอ…”
นารูโตะอยากจะเอื้อมมือไปเช็ดน้ำตาที่ไหลอาบข้างแก้มบอบบางนั่นเหลือเกิน แต่มันติดก็ตรงที่ว่าเขาไม่สามารถจะขยับตัวไปได้มากกว่านี้อีกแล้ว ซากุระจัดการปาดน้ำตาที่ไหลนั่นออกลวกๆ นารูโตะหัวเราะออกมาได้ยังไงกันในสถานการณ์แบบนี้ จะทำตัวเป็น nice guy ไปถึงไหนกัน…!
ซากุระเกลียดตัวเองจริงๆที่ต้องร้องไห้ออกมาเพียงแค่เห็นใบหน้าของเขา ไม่ว่าเวลาผ่านไปนานเท่าไหร่จิตใจของเธอก็ไม่เคยลบเลือนเขาออกไปได้เสียที มันมีแต่จะเพิ่มความทรงจำและความเจ็บปวดทรมานที่เธอมีต่อเขา ซาสึเกะ…ทำไมนายถึงเป็นได้ขนาดนี้
“เป็นยังไงบ้าง”กาอาระที่กระโดดลงมาอยู่ข้างๆตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้เรียกสติของซากุระกลับคืนมา
“ฉันกำลังจะรักษาเขา อดทนหน่อยนะนารูโตะ”
“อั่ก!!”นั่นไม่ใช่เสียงกรีดร้องจากความเจ็บปวดของนารูโตะที่ถูกรักษา แต่มันอาจเป็นเสียงของอุจิวะ โอบิโตะที่กำลังต่อสู้กับซาสึเกะอยู่ด้านนอกนั่น ภายในเกราะทรายซากุระไม่สามารถมองเห็นอะไรได้ชัด ไม่มีอะไรทำอันตรายคนที่อยู่ในนี้ได้
“ฉันต้องออกไปสู้กับซาสึเกะ”นารูโตะพูดอย่างดื้อรั้นทั้งๆที่แทบจะไม่มีแรง
“อย่าบ้าไปหน่อยเลย ตอนนี้นายไม่มีแรงจะขยับด้วยซ้ำ”กาอาระห้ามปรามเสียงนิ่ง ใบหน้านิ่งๆนั่นจ้องมองซากุระตลอดเวลาที่เธอใช้จักระรักษาร่างกายของนารูโตะอย่างทุ่มเท และเพราะจักระของจิ้งจอกเก้าหางจึงทำให้เขารักษาตัวเร็วยิ่งกว่าที่เคย
“เราควรจะกลับไปที่สึนะงาคุเระ”ซากุระบอก และนั่นเป็นคำพูดที่กาอาระไม่อยากเชื่อหูตัวเอง
เดินทางมาตั้งไกลเพียงเพื่อจะรับนารูโตะกลับไป…?? นี่มันบ้าสิ้นดี กาอาระเตรียมตัวสู้และละทิ้งทุกอย่างมาที่นี่พร้อมๆกับเธอ เพียงเพราะจะร่วมสู้ตายกับนารูโตะนะ
“เรากลับกันเถอะนะนารูโตะ ฉัน…ฉันไม่อยากให้นายต้องสู้กับซาสึเกะ”
“ซากุระ ถ้านั่นเป็นทางเดียวที่จะพาเจ้านั่นกลับไปยังหมู่บ้าน…”
“นายก็รู้ดีไม่ใช่รึไง!! นายพูดเองไม่ใช่รึที่ว่าจุดจบของพวกนายทั้งคู่คือการตายจากโลกนี้ไปพร้อมๆกัน ถ้าพวกนายสู้กันขึ้นมาจริงๆ…!!!”
“ฉันพร้อมที่จะตาย”เสียงหนักแน่นนั่น พระเจ้า ซากุระอยากจะร้องไห้ออกมาซะเดี๋ยวนี้
ถ้าเกิดพวกเขาจะต้องสู้กันขึ้นมาจริงๆ แล้วทำไมถึงต้องเป็นวันนี้ วันที่สงครามทั้งหลายปะทุขึ้นมา วันที่ทุกๆอย่างจะต้องจบลง ทั้งเรื่องของอุจิวะ โอบิโตะ ปมปัญหาทุกอย่าง เธอยังไม่พร้อมที่จะเสียทั้งนารูโตะและ…ซาสึเกะ
“นารูโตะ…”
“แค่เพื่อนคนเดียวยังรักษาไว้ไม่ได้”
“แล้วจะเป็นโฮคาเงะได้ยังไงสินะ…ฉันเข้าใจแล้วล่ะ”
“ซากุระจัง”
“ฉันเข้าใจแล้ว…ยังไงวันนี้ก็ต้องมาถึงสินะ ยังไงวันนี้ก็ต้องมาถึง”
เสียงสั่นเครือนั่นเรียกยิ้มบางๆจากริมฝีปากของนารูโตะ ถ้าจุดจบคือความตาย วันนี้เขาก็พร้อมที่จะตายไปพร้อมกับซาสึเกะ ความแค้นของซาสึเกะเขาจะแบกรับมันไว้ครึ่งหนึ่ง
“กาอาระ ฝากดูแลซากุระจังด้วยนะ”
“นารูโตะ นายจะไม่ได้สู้คนเดียวในศึกครั้งนี้”
นัยน์ตาสีฟ้าราวกับมหาสมุทรของนารูโตะเหลือบมองไปยังมือของกาอาระที่บีบรั้งไหล่ของนารูโตะเอาไว้ นารูโตะฉีกยิ้มกว้างก่อนจะจับมือกาอาระนั่น เขารับรู้ถึงความรู้สึกทั้งหมดนั่นและเข้าใจดี มันคือความรู้สึกของเพื่อนยังไงล่ะ
“ไม่ว่ายังไงชะตาชีวิตของฉันกับซาสึเกะก็ถูกกำหนดมาแล้ว ไม่มีทางที่จะเปลี่ยนได้อีกแล้วล่ะ ฝากดูแลซากุระด้วยนะ”
ร่างสูงของนารูโตะพุ่งพรวดออกไปทันทีโดยไม่รอให้กาอาระตอบรับอะไรอีก มันเป็นจังหวะพอดีกับตอนที่ซาสึเกะเหวี่ยงร่างของอุจิวะ โอบิโตะลงกับพื้นและปล่อยพลังพันปักษาของตนเข้าตรงจุดตายของอุจิวะ โอบิโตะ ตอนนี้เขาได้รับพลังแห่งอุจิวะ ที่แท้จริงมาแล้ว
“หึหึหึ!!! พลังของตระกูลอุจิวะ อยู่ที่ฉันหมดแล้ว!! พลังของอิทาจิ พลังของโอบิโตะ พลังของมาดาระ และพลังเซียนหกวิถี!!!”
“ซาสึเกะ!!! ย้าก กระสุนวงจักร!!!”
“นารูโตะ!!!”
เสียงหวีดร้องของซากุระนั่น ร่างบางของซากุระพยายามที่จะพุ่งออกไปจากเกราะทรายของกาอาระที่ปิดผนึกแน่นทันทีที่นารูโตะวิ่งออกไป ขาของซากุระที่ยิ่งพยายามก้าวออกไปเท่าไหร่ทรายทั้งมวลก็ยิ่งรั้งเธอเอาไว้มากเท่านั้น นัยน์ตาสีเขียวมรกตเอ่อล้นไปด้วยน้ำตา แขนของเธอถูกตวัดกลับมาด้วยทรายจนร่างบางกระแทกเข้ากับพื้น
“ซากุระ”
“ปล่อยฉัน กาอาระ ปล่อยฉัน!! ได้โปรด!!”
“ฉัน…ทำแบบนั้นไม่ได้”
“ทำไม!!! ทำไม ปล่อยฉันไปกาอาระ ปล่อยฉัน ฮึก นารูโตะ!!!”
ซากุระพยายามตะเกียดตะกายสุดชีวิตเพื่อออกไป แต่กาอาระกลับเป็นอีกคนที่พยายามฉุดรั้งเธอเอาไว้ด้วยทรายทั้งหมด ถ้ามันเป็นเพียงคำฝากฝังของนารูโตะที่มีให้กับกาอาระมันคงไม่ทำให้เขาต้องลำบากใจอย่างนี้ ไม่ใช่ว่าเขาไม่อยากจะออกไปสู้ตายที่นั่น ไม่ใช่ว่าเขาไม่เข้าใจคำว่าเพื่อน แต่เพราะเขาไม่เข้าใจที่ตนเอง…ทำแบบนี้กับซากุระ
“นารูโตะ!!!”
“กระสุนวงจักร!!!”
“เนตรวงแหวนกระจกเงาหมื่นบุปผา!!!”
ตูม!!!!!!!!!
“นารูโตะ!!!!! ซาสึเกะ!!!!!”
พลังจักระถูกเค้นออกมาที่แขนและขาของซากุระซึ่งโดนเหนี่ยวรั้งไปด้วยทรายมากมาย เธอเค้นพลังออกมาและระเบิดพลังทั้งหมดออกเพียงเพื่อจะหลุดพ้นจากทราย ทรายทั้งหมดที่เหนี่ยวรั้งซากุระออกไว้กระจัดกระจายฟุ้งไปทั่วบริเวณ ร่างบางของซากุระพุ่งตรงออกไป เธอวิ่งอย่างไม่คิดชีวิตไปยังนารูโตะและซาสึเกะที่กำลังพุ่งกระโจนเข้าใส่กันอย่างไม่คิดชีวิต
ไม่!!! คำๆเดียวที่อยู่ในหัวของซากุระ มันจะต้องไม่เป็นแบบนี้ ทั้งคู่จะจบชีวิตลงแบบนี้ไม่ได้ พวกเขาจะตายไม่ได้!!
“หยุดนะ!!!!”
เสียงหวีดร้องนั่นเรียกความสนใจได้แต่นารูโตะที่เหลือบสายตาหันมามอง ซาสึเกะที่เห็นช่องโหว่กำลังจะซัดพันปักษาเข้าใส่ตัวนารูโตะ แต่ซากุระที่พุ่งตรงเข้าไปกลับชักคุไนออกมาและปาดเข้าที่ท้องของซาสึเกะซึ่งไวกว่า แต่นั่นเป็นเพียงตัวหลอกซึ่งทำให้ซากุระได้ซัดหมัดพลังช้างศาลของตนเข้าที่หน้าของซาสึเกะได้อย่างจัง
เปิดจังหวะให้นารูโตะสร้างกระสุนวงจักรดาวกระจายที่ผสมเข้ากับจักรของจิ้งจอกเก้าหาง เขาจัดการขว้างมันออกไปยังจุดตายของซาสึเกะโดยไม่ลังเล กระสุนวงจักรนั่นพุ่งเข้าใส่ตัวซาสึเกะเป็นจังหวะประจวบเหมาะกับตอนที่ซากุระคว้าแขนของนารูโตะไว้ เธอตั้งใจจะไม่ให้นารูโตะขว้างมันใส่ซาสึเกะแต่ก็ช้าไปเสียแล้ว
“ซาสึเกะ!!!”
ตูม!!!!!
“ซากุระจัง!!!”
ร่างบางที่ไม่คาดคิดว่าจะเข้าขวางวิถีกระสุนวงจักรทำให้นารูโตะถึงกับร้องเสียงลั่น ร่างสูงของนารูโตะพยายามที่จะเข้าไปรั้งร่างของซากุระเอาไว้แต่ก็ช้าเกินไป กระสุนวงจักรกำลังจะพุ่งเข้าใส่ร่างบางซากุระที่เข้ามาขวางวิถีของกระสุนวงจักรเอาไว้
“ให้ตายสิ…งี่เง่าชะมัด”
“…!!!”
“เนตรวงแหวนกระจกเงาหมื่นบุปผา”
ตูม!!!!
“ซาสึ…ซาสึเกะคุง”
“เลิกร้องไห้ เลิกเรียกชื่อฉันแบบนั้น และเลิกไล่ตามฉันสักที”
“…ซาสึเกะ…”
“เธอมันน่ารำคาญซากุระ น่ารำคาญไม่เปลี่ยน”
นั่นสินะ เธอมันน่ารำคาญจริงๆ ไม่ว่าจะทำอะไรเธอก็ไม่เคยเปลี่ยนแปลง แม้แต่ความรู้สึกเจ็บปวดจากคำพูดของผู้ชายเย็นชาคนนี้…ซาสึเกะคุง
Talk with writer :: วันที่ 8 ธ.ค. 59
สวัสดีค่าเพื่อนๆทุกคน วันนี้ไรต์นำฟิคฉบับรีไรท์มาลงพร้อมกับแจ้งข่าวดีให้เพื่อนๆทราบกันนะคะ ว่าตอนนี้ฟิคของเราอยู่ในขั้นตอนการรวมเล่มแล้วค่า สำหรับใครที่สนใจรบกวนติดตามรายละเอียดในเพจเเละหน้านิยายนะคะ
เจอกันตอนหน้านะคะ :)
My Banner ฟิคเรื่องนี้และเรื่องอื่นของคนแต่ง
Loading :: 100% แล้ว เม้นท์กันเยอะๆถ้าชอบ ไม่ชอบก็ไม่ต้องอ่าน -_-v
ช่วงนี้พิเศษ ช่วงตอบเม้นท์คนอ่าน (ถึงจะไม่รู้ว่านักอ่านที่น่ารักจะมาอ่านตรงนี้รึเปล่า 555)
ประจำวันที่ 1 เดือน 11 ปี 54
เนื่องจากคนสนใจฟิคเรื่องนี้มากมายกว่าที่คิด 555 ลงแ่ค่ 20% แรกก็มีคนเม้นท์ให้กำลังใจดีเเบบนี้
เราอัพกันวันล่ะครั้งเลยดีมะ!! คนอ่านน่ารักเกิน 55
ตอบเม้นท์ คห 1 :: ขอบคุณนะคะที่ชื่นชอบเนื้อเรื่อง แต่มันยังไม่จบแค่นี้นะ มีอีกเยอะ 55 แถมเรื่องนี้ยาวจุใจ ชนิดที่ว่าแต่งกันเรื่อยๆเลยทีเดียว ไม่จบง่ายๆ ติดตามกันต่อไปน้า
ตอบเม้นท์ คห 2 :: ฮ่าๆ แบบนี้ล่ะที่ไรท์เตอร์ต้องการเช่นกัน -..- สงสัยเราเป็นสาวกแนวนี้เหมือนกันนะ
ตอบเม้นท์ คห 3 :: ขอบคุณมากค่าที่ชมว่าสนุก เป็นกำลังใจดีเยี่ยมเลยจริงๆ
ตอบเม้นท์ คห 4 :: จ้า พรุ่งนี้มาอัพให้อีกแน่นอน ไม่พลาดจ้า
ตอบเม้นท์ คห 5 :: ครับผม รับทราบ จะรีบอัพต่อเน้อ ตามอ่านกันต่อไปนะจ๊ะ! Xoxo
ตอบเม้นท์ คห 6 :: เราก็ลุ้นไส้บิดเหมือนกันว่าใครเป็นโทบิ และในเรื่องนี้ก็มีข้อสันนิษฐานเหมือนกัน เอิกส์ ตามความคิดของเราอ่ะนะ 55 ไม่น้องมาดาระ ก็อุจิฮะ ชิซุย 555 บ้ามั้ยล่ะ!! ยังไงก็ตามอ่านกันต่อนะจ๊ะ
ตอบเม้นท์ คห 7 8 :: น่าอ่านมาก ตามอ่านกันจนจบนะจ๊ะ เห็นตามอ่านอีกเรื่องด้วยนี่นา ขอบคุณมากนะคะที่ติดตาม แต่เนื้อเรื่องตั้งแต่ตอนสามเป็นต้นไปจะเป็นเนื้อหาของความรักที่จะทวีคูณความเข้มข้นมากขึ้นไปอีก หึหึหึ ใครเป็นสาวกแนวนี้ตามอ่านและเป็นกำลังใจให้ตัวละครกันต่อไปเน้อ
ตอบเม้นท์ คห 9 :: ฮัยยะ อายุไม่ถึง 15 ก็ไม่เป็นไร ขอให้มีใจเข้มเเข็งพอรับความเลวร้ายของอิเกะมันได้ก็พอ 555 เรื่องนี้ร้าย ร้าย ร้าย ร้ายสุดๆ T_T ร้ายจนสงสารนางเอกเลย เเง่งๆ
ตอบเม้นท์ คห 10 :: เข้มข้นๆ นี่เเค่เริ่มต้นของความเข้มข้นจ๊ะ ยังมีเยอะกว่านี้!! O_O
ตอบเม้นท์ คห 11 :: แน่ะๆ เด็กไม่ถึงสิบห้าติดใจใหญ่เลยเน้ 555
ตอบเม้นท์ คห 12 :: มาอัพให้แล้วนะจุ๊บุ๊ <33
ตอบเม้นท์ คห 13 :: ฮัยยะ ติดตามกันต่อไปเน้อ อย่าหายกันไปล่ะ ขอบคุณมากที่ติดตามเรื่องนี้อีกคน ฮ่าๆ
ตอบเม้นท์ประจำวันที่ 2-3 พ.ย 54
ตอบเม้นท์ คห 14-15 :: ติดตามกันต่อไปนะคะ
ตอบเม้นท์ คห 16 ::ถ้าเปลี่ยนนางเอกคงต้องข้ามศพไรท์เตอร์ก่อนนะ ไรท์เตอร์คลั่งกาอาระมากโดยส่วนตัว 555
ตอบเม้นท์ คห 17 ::ฮ่าๆๆๆ รู้สึกฟิคนี้รวบรวมสาวกกาอาระนะเนี่ย ฮ่าๆ
ตอบเม้นท์ คห 18 19 20 :: ติดตามกันต่อๆไปนะ อย่าหายไปไหน จะพยายามจำคนอ่านทุกๆคนเลยจ้า
ตอบเม้นท์ คห 21 22 23 24 :: กาอาระมีบทแน่ๆ คนอื่นๆก็มีพอๆกันล่ะจ๊ะ จะไม่ยอมให้ตัวละครหายไปไหนเลย และจะพยายามอัพเรื่อยๆนะ รับรองสนุก ขอบคุณที่ติดตามจ้า
ตอบเม้นท์ คห 25 :: รออีกไม่นานนะ เกะกับโตะจะมีบทมากขึ้นๆ
ตอบเม้นท์ คห 26 27 :: ชอบกดไลค์กันได้นะ โหวตให้กับเรื่องนี้ ให้ความรักกับเรื่องนี้กันเยอะนะจ๊ะ จะอัพเรื่อยๆเลย
ตอบเม้นท์ คห 29 :: ยังดราม่าได้มากกว่านี้อีกจ้า
ตอบเม้นท์ คห 30 :: อาจเป็นไปได้ก็ได้นะ ทุกๆอย่างเป็นไปได้หมดในนารูโตะ 555
ตอบเม้นท์ คห 31 32 33 34 35 36 37 :: เกะออกโรงแล้ว และโตะยังไม่ตายง่ายๆแน่นอนจ๊ะ อย่าเพิ่งรีบแช่งกันแบบนั้น =O=;
(ไรท์เตอร์ไมได้สปอยด์เรื่องแต่อย่างใด ไรท์เตอร์แค่ชอบกาอาระมากเท่านั้น ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับนิยาย 555)

Rebirthing – Skillet Song Lyrics
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ

ดราม่าอ่ะไรท์ รุ้สึกปวดตับเลยเวลาอ่านอ่ะ
วะฮ่าฦฯฯฯฯฯฯฯฯฯฯฯ
ซาสึเกะแกเพี้ยนแน่ๆ =__=;; เนื้อเรื่องพาอารมณ์เศร้าจริง
แก้ไขครั้งที่ 1 เมื่อ 27 เมษายน 2555 / 21:16
ทุกอย่างของเรื่องนี้ ทั้งการบรรยาย คำพูด ความคิดของตัวละคร หรือแม้กระทั่งฉากต่อสู้ มันให้ความรู้สึกสมจริงมากๆ
ทำให้เห็นได้ชัดเลยว่าไรเตอร์ต้องรู้เรื่องนารูโตะดีมากจริงๆ
คุณเก่งมากๆค่ะ
สนุกมากๆเลยอ่ะ แต่งได้โดนใจมากเลย แต่งดีสุดๆ
อัพต่อนะคะ