ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    {{TVXQ}}[[Club Love Love~]]

    ลำดับตอนที่ #385 : * ตัดมาเฉพาะยุนแจนะคะ เพราะคนแปลอิงแปลมาแค่นี้ =s= เฟิร์สไม่มีความสามารถภาษาจีน

    • เนื้อหานิยายตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 210
      1
      17 เม.ย. 52

    มันเป็นRetold Storyที่แคสเขียนขึ้นนะคะ บังเอิญเราไปเจอมา อ่านแล้วแบบว่า รู้สึกชอบมากๆ อ่านแล้วรู้สึกดี ก็เลยอยากเอามาแบ่งปันกับทุกๆคนนะคะ^^
    เป็นประวัติของแจจ๋าที่ชาวเราก็พอจะรู้ๆกันอยู่ แต่เค้าเขียนได้ดีมากเลย..อยากแบ่งปันให้ทุกๆคนจริงนะคะ อ่านกันหน่อยเถิดด

    ลิงค์>> http://www.asianpopcorn.com/default.asp?di..._Story...-22165 <<<ต้นฉบับค่ะ เป็นภาษาอังกิดน้า


    เรา แปลมาเฉพาะบางส่วนนะคะ บางส่วนก็ย่อมาค่ะ เพราะเรารู้สึกว่ามันออกจะยืดเยื้อหน่อยๆ เวลาแปลเป็นภาษาไทย คือจริงๆ แค่นี้ก็ยาวแล้วล่ะค่ะ
    แต่ถ้าใครอยากได้เต็มๆก็บอกนะคะ จัดให้ๆๆๆ(แต่จริงๆแนะให้อ่านภาษาอังกิดจะได้feelกว่านะ)
    (เอ่อ เพราะเป็นการแปลครั้งแรก ภาษามันเลยแปลกๆหน่อย ผิดพลาดประการใดต้องขอโทษด้วย yenta4-emoticon-0025.gif )



     Reduced: 64% of original size [ 800 x 600 ] - Click to view full image



    เมื่อเด็กหนุ่ม วัย15ปีเดินทางจากบ้านเกิดเพื่อมาแสวงหาความฝันให้เมืองหลวง
    เค้า ไม่เคยเห็นอะไรอย่างนี้มาก่อน เมืองที่น่าตื่นตาตื่นใจ ถนนที่วุ่นวาย เค้ารู้สึกเหมือนหัวใจเค้าอ่อนแรง เพราะถูกใช้งานหนักเหลือเกิน ...
    จริงหรือ? ที่เค้าจะเจอสถานทีที่พอจะใช้อาศัยได้ในเมืองใหญ่นี่่ เด็กหนุ่มยั้งคิด
    จิตวิญญาณของเค้าสั่นเทา..

    แต่... ความฝันในจิตใจเค้ายังไม่ตาย ถ้าเค้ากลับบ้านทั้งแบบนี้
    เค้า จะไม่มีวันให้อภัยความขี้ขลาดของตัวเองแน่ โดยไม่ต้องการความช่วยเหลือจากใคร ในที่สุด เด็กหนุ่มก็เจออพาตเม้นข้างๆโรงงานปลาทูน่ากระป๋อง
    ที่ที่เค้าจะเรียกมันว่าบ้้าน..


    SM Entertainment ค่ายเพลงที่ใหญ่ที่สุด ได้จัดให้มีการการแข่งร้องเพลงเป้นครั้งที่ 2 เด็กหนุ่มไปที่ล๊อบบี้บริษัท
    เค้า เห็นเด็กผู้ชายอีกหลายๆคน ที่เหมือกับเค้า ที่หวังว่าตัวเองจะถูกเลือกจากการแข่งครั้งนี้ และจะสามารถเป็นนักร้องที่ประสบความสำเร็จได้..
    เด็กผู้ชายพวกนั้นต่าง แต่งตัวด้วยเสื้อผ้าที่ดูดีที่สุด ทุกคนมฟังmp3และซ้อมร้องเพลงของตัวเอง เด็กหุ่มก้มมองดูตัวเอง....เสื้อยืดสีเทาและกางเกงยีนส์ ......
    เค้าคิดว่าเค้าแพ้ไปแล้วกว่าครึ่งเลยทีเดียว


    เค้าเป็นผู้เข้าประกวดหมายเลข 12 และเมื่อถูกเรียก เค้าก็เข้าห้องไปเจอกรรมการที่ดูไร้ความรู้สึก 5 คน..
    เค้ารู้สึกประสาทกินเลยทีเดียว...



    และเมื่อกรรมการสั่งให้เค้าร้องเพลง เสียงของเค้าก็โดนใจทุกๆคนในห้อง มันเป็นเสียงที่ไม่มีการปรุงแต่ง
    นุ่มนวล เศร้าสร้อย และดูออ่นแรงคุณจะอยากฟังเสียงของเค้าไปเรื่อยๆ


    แต่เหตุผลที่เด็กหนุ่มชนะการแข่งครั้งนี้น่ะหรอ? ก็เพราะเค้ามีใบหน้าที่ไร้ตำหนิ ผิวขาวเหมือนหิมะที่สมบูรณ์แบบ
    ขนตาที่ยาว ดวงตาโตชุ่มฉ่ำ ส่วนประกอบต่างๆที่ทำให้ดูน่ารักยื่งกว่าเด็กผู้หญิง!!
    เหล่ากรรมการต่างบอกว่าเค้ามีใบหน้าที่เกิดมาเพื่อวงการบันเทิงโดยเฉพาะ



    เค้าได้เซ็นสัญญากับSM 7 ปี ระหว่างปีที่ฝึกเค้าจะต้องจ่ายค่าเรียนเต้นและร้องเอง
    เด็กหนุ่มรู้ดีว่าฐานะทางบ้่านของเค้าไม่ค่อยสู้ดีนัก
    ดังนั้นเค้าจึงไม่เคยขอเงินจากพ่อแม่เลยซักกะแดงเดียว..
    ทุกวัน เค้าจะต้องวิ่งโล่ทำงาน 3 อย่าง..
    ในเวลาที่คนอื่นๆยังคงมีความสุขอยู่บนเตียงนอน เค้าจะต้องขี้จักรยานคันเก่าๆไปส่งนสพ.บ้านแล้วบ้านเล่า
    ในตอนบ่ายเค้าจะต้องทำงานก่อสร้าง ใบหน้าที่งดงามจะต้องถูกปกคลุมด้วยซีเมนและสิ่งสกปรก
    ต่อจากนั้นเค้าก็จะเข้าห้องฝึก ซึ่งเค้าจะต้องพยายามอย่างหนัก เพราะอยากจะเป็นที่ถูกใจของคนที่อยู่เบื้องบน
    ตกเย็นเค้าก็ต้อง ไปทำงานต่อที่ร้านอากหารซึ่งอยู่ไกล เค้าต้องยอมเดินกว่า 3 ชม.ทุกๆวันเพื่อประหยัดค่ารถ..
    แทบไม่น่าเชื่อเลยว่านี่คือสิ่งที่เด็กอายุ 15 ต้องเผชิญ กว่า 2ปี เพื่อที่จะก้าวไปสู้ชีวิตที่สาดส่องด้วยแสงสว่าง



    เมื่อเค้าได้ค่าแรงมา อย่างแรกที่เค้าจะทำคือจ่ายค่าเรียน แต่เงินที่เหลือจากนั่นเกือบไม่พอสำหรับค่าอาหารหรือซื้อเสื้อผ้า..
    ในที่สุด วันหนึ่ง เค้าก็ค้นพบว่า เค้าไม่มีเงินเหลือพอสหรับค่าอาหารอีกแล้ว หลังจาก 2 วันของความหิวโหย ร่างกายเค้าก็อ่อนแรง
    แต่ถึงอย่างนั้น เค้าก็ยังคงไปทำงาน ไปฝึก และไปทำงานที่ร้านอาหารในตอนดึก
    ระหว่างที่เค้าทำความสะอาดร้านอยู่นั้น เค้าก็เห็นชามบะหมี่ของลูกค้าที่กินเหลือไว้ น้ำซุปนั้นยังร้อนๆอยู่เลย
    ด้วยความหิวเค้าจึงยกมันขึ้นมาซดด้วยมืออันสั่นเทา เค้าหยิบช้่อนขึ้นมากินเส้นที่เหลืออยู่ yenta4-emoticon-0146.gif yenta4-emoticon-0111.gif
    แล้ว ก็ต้องรู้สึกประหลาดใจกับรสชาติที่อยู่ดีๆก็เค็มขึ้น แล้วก็ได้รู้ว่ามันเป็นรสชาติของน้ำตาของเค้า ที่ไหลลงมาอย่างไม่รู้ตัว...(แจจ๋า ทำไมตอนนั้นไม่ติดต่อมาหาเค้าน้า เค้าจารับเลี้ยงเองTT)




    วันนึงเค้าเกิดมีไข้ขึ้นมา ไข้สูงมากเลยทีเดียว เค้าต้องนอนอยู่บนห้องเล็กๆนั่นกว่า 3 วัน (เดาว่านะ นอนเฉยๆไม่ไปไหนอ่ะ)
    ขอบบคุณพระเจ้าที่เค้าจ่ายค่าเรียนไปแล้ว แต่การที่เค้านอนมา 3 วันมันน่าเสียดายมากทีเดียว
    เค้าจึงลุกขึ้น และพาร่างกายที่อ่อนแอไปทำงานที่ร้านอาหารในตอนเย็น



    ขากลับจากร้านอาหาร เค้าเห็นบูธบริจาคโลหิต... กระเพาะของเค้าเริ่มรอ้งขออาหาร..
    เค้าจึงต้องทำในสิ่งที่เค้าไม่อยากทำอีกครั้ง..เค้าเดินเข้าไปที่บูธนั้น ชั่วโมงกว่าๆต่อมา
    เค้าก็เดินออกมาพร้อมค่าตอบแทนเล็กๆน้อยๆ
    เค้าเดินไปที่ร้านสะดวกซื้อเพื่อซื้อแครกเกอร์ที่ถูกที่สุดกลับไป..
    (TT)



    ในที่สุดเค้าก็ผ่าน 2 ปีอันโหดร้ายนี้มาได้(ในที่สุดมันก็ผ่านไปซักทีน้าTT ลำบากมากมาย)
    เค้าได้เดบิวต์ และถึงแม้มันจะมีเพียง 2 ซิงเกิ้ลแต่อัลบั้มของพวกเค้าก็ขึ้นสู่ที่1
    เค้าได้รับจดหมายจากแฟนๆ แล้วเคาก็รู้ว่า 2 ปีที่ผ่านมา มันคุ้มค่า..




    แต่ช่วงเวลาแห่งความสุดช่างแสนสั้นในงานมีทครั้งแรกนั้น กลับไม่มีใครมาต่อแถวอยู่ข้างหน้าเค้า
    สมาชิกคนอื่นๆไม่อยากให้มันเลวร้าย
    จึงให้ตัดแถวมาที่ข้างหน้าเค้า แต่แฟนคลับคนนนั้นกลับบอกว่า เธอไม่ได้ชอบเค้า แต่ถูกบังคับให้มายืนที่แถวนี้
    เค้าอยากจะกรีดร้องและร้องไห้ที่ตรงนั้นเลย..




    เค้ามารู้ในภายหลังว่าเพราะสถานที่จัดงานใในวันนั้นเล็กเกินไป ทำให้มีแฟนๆที่ไม่ได้เข้าไปในงาน และก็เป็นแฟนคลับของเค้ารวมอยู่ด้วย
    และแฟนๆคนอื่นๆก็ไม่ได้เกลียดเค้า
    (ท่อนจากนี้ขอก๊อปแปะนะ เพราะเรารู้สึกว่าเราลำดับเหตุการณ์ + คำพูดไม่ถูก)
    ....Once he found out online that it's not that others don't like him nor he did anything wrong,
    but because has just too pretty.. even the girls are jealous.. reading this silly gibberish,
    the boy chuckled. He never gave up, everyday he puts on his sincere smily face to public,
    hoping and praying that others will see him for who he really is, hear his voice.
    But the harder he try the more pressure he felt. Whenever he makes a mistake during performances,
    it makes him nervous, because has scared that others will dislike him even more because of it.
    So little by little. The boy stopped smiling in front of the camera, watching his every action and words.....



    แต่เพราะเหตุนั้นเองทำให้มีคนพูดกันว่า เค้าเสแสร้งเพื่อที่จะได้ดูดี
    บริษัทจึงมีความคิดที่จะให้เค้าออกจากกลุ่ม..
    แฟนคลับของเค้าต่างมารวมกันที่ท้องถนนเป็นวันๆ..
    ชางมิน(ทั้งๆที่ผู้จัดการสั่งห้้ามแล้ว) ได้พูดต่อหน้ากล้องว่า
    ถ้าบริษัทเอาเค้าออก ชางมินเองก็จะกลับไปใช้ชีวิตเป็นเด็กม.ปลายธรรมดาเช่นกัน.


    เด็กหนุ่มถึงกับน้ำตาไหลออกมา เค้ารู้ดีว่า ทุกๆคนในวงต่างก็รักกดนตรี
    ชางมินที่เด็กที่สุดเองก็ต้องใช้ความพยายามอย่างมากกว่าจะมีวันนี้
    เด็กหนุ่มจึงพยายามมากขึ้น เค้าต้องการจะแสดงถึงสิ่งที่ดีที่สุด
    เพื่อให้กับแฟนๆที่รักเค้า บนเวทีคนเสิร์ตผู้กำกับบอกว่าเค้าดูตลกที่มักจะมองไม่เป็นทิศไม่เป็นทาง แทนที่จะจ้องนิ่งๆ
    เด็กหนุ่มบอกว่าเค้าอยากจะมองทุกๆคนให้มากๆ ถึงใครจะจับรูปตอนที่ดูน่าเกลียดไว้ก็ไม่เป็นไร




    ครั้งนึงขณะฝึกเต้น เด็กหนุ่มพลาดและล้มลง..ปรากดว่าขาของเค้าหัก 2 วันหลังจากขาหัก
    และไม่ถึง24ชม.ของการผ่าตัด เค้าต้องเดินทางไปโอลิมปิกสเตเดียม
    ในระหว่างแฟนมีท มีคนถามชางมินว่า เค้าต้องการขอพรอะไรในวันปีใหม่นี้ ชางมินบอกว่า เค้าอยากให้อาการของพี่ดีขึ้นเร็วๆ



    เด็กหนุ่มเกลียดการร้องไห้ เค้าจึงก้มหน้าลงกลั้นน้ำตาอย่างหนัก แต่เมื่อเค้าเห็นใบหน้าของแฟนๆที่ร้องไห้เพื่อเค้า เค้าก็พูดว่า
    "มันไม่เจ็บแล้วครับ จริงๆนะ ได้โปรด อย่าร้องไห้เพื่อผมเลย ได้โปรด ยิ้มให้ผม.."
    ซึ่งนั่นคงเป้นครั้งแรกที่เค้าโกหก เพราะการผ่าตัดมันผ่านไปไม่ถึงวัน..แล้วเค้าจะไม่เจ็บได้ยังไง?



    วันหนึ่ง หลังจากกลับจากการสังสรรค์(หลังจากที่ขาหายดีแล้ว) เค้าขับรถชน และโดนข้อหาขับรถขณะมึนเมา
    ยุนโฮมารับที่สถานีตจำรวจโดยไม่ปริปากพูดอะไร เด็กหนุ่มรู้ดีว่าเค้าทำให้ยุนโฮและทุกๆคนผิดหวังแค่ไหน..
    เด็กหนุ่มถูกสั่งให้เก็บตัวเงียบที่บริษัท เป็นเวลา 2 อาทิตย์ เค้ารู้ดีว่า นี่เป็นโทษสถานเบา
    และรู้ดีว่า สมาชิกคนอื่นๆ ได้ขอร้องบริษัทหลายต่อหลายครั้งเพื่อที่จะไม่เตะเค้าออก
    ด้วยเหตุผลเหล่านี้ในงานแฟนมีทครั้งถัดมา เค้าจึงตั้งใจมาก
    เค้ากล่าวขอโทษต่อแฟนๆ และก็ต้องร้องไห้ออกมาต่อหน้าแฟนๆเป็นครั้งแรก เมื่อแฟนๆต่างให้อภัย และบอกว่ายังคงรักเค้าอยู่



    เวลาผ่านไป...เด็กหนุ่มก็ได้รับความนิยมมากขึ้นๆ
    ผู้คนต่างชื่นชอบเค้าไม่ใช่แค่เพียงรูปลักษณ์ที่สวยงามภายนอก แต่ชอบในน้ำเสียงที่งดงาม
    และความกล้าหาญที่จะเผชิญต่อความผิดพลาดของตัวเอง
    เพียงแค่คำว่า"ไม่เป็นไร"จากแฟนๆ มันก็จะทำให้เค้าเดินต่อไปได้




    เด็กหนุ่มคนนี้ ..คิมแจจุง..ที่มีฉายาว่าฮีโร่ แจจุง ..มีแฟนๆของดงบังชินกิเคยคิดเรื่องที่
    เค้าถึงใช้ชื่อฮีโร่ เธอคิดว่ามันไม่เข้ากับแจจุง เพราะมันดูไม่เหมาะกับรูปลักษณ์ภายนอก..
    แต่ตอนนี้เธอรู้แล้ว...ว่า(ตัดเป็นภาษาอังกิดมานะคะ เพื่อความคลาสสิก yenta4-emoticon-0099.gif )
    why his name is Hero, because underneath his beauty, lies the soul of a true HERO.

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×