ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    MIDNIGHT TODAYノ☆

    ลำดับตอนที่ #2 : MIDNIGHT TODAYノ☆ :บทที่หนึ่ง

    • อัปเดตล่าสุด 5 ต.ค. 56


    บทที่ 1

     

    10:00 A.M

    ดอกไม้ เธอช่างสวยงดงามเหลือเกินถ้าอยู่ตรงนั้น
    อยู่ไกลๆ แค่เพียงได้มองเหมือนดั่งความฝัน
    ถ้าเก็บเอาไว้ข้างกายก็คงร่วงโรยโดยพลัน
    มันช่างคล้ายกับความรักในบางที

    My mom wanted me to come back home.*()*

    “ภาษาไทยมีให้ใช้หล่อน”

    “ฟังไม่ออกก็บอกมาเถอะ”

    “จ๊ะ ”

    “เฮ้ยอย่าทำน้ำเสียงอย่างงั้นดิ”

    “เล่ามา”

    “ฉันจะได้กลับไทยเว๊ย”

    “อื้อ กลับวันไหนฉันจะได้ไปรับถูก”

    “ทำหน้าเสียงดีใจกว่านี้สิ”

    “เย้เย้ กลับวันไหนคะจะได้ไปรับถูก”

    “เสแสร้งมากเกินไปแล้วนะ  3 เดือนข้างหน้ามั้ง”

    “เอาดีๆ”

    “ถ้าไม่เจอก็กลับ”

    “- - ใช่เรื่องหรอย่ะ”

    “เดี๋ยวบอกอีกที ฮ้าวง่วงแล้ว -o- ฝันดีแก”

    “ฝันดีบ้าบอคอแตก เมืองไทยสว่างโล่วขนาดนี้อ่ะ”

    “เออน่าจะบอกอ่ะ ฝันดีแก”

    ยัยเอเลี่ยนชิ่งตัดสายก่อนท่จะโดนฉันว๊ากใส่ ตลอดเลยยัย UFO ต่างด้าวชอบบอกฝันดีทั้งที่รู้ว่าเมืองไทยตอนนี้มัน 10 โมงเช้าไม่ใช่ 4 ทุ่มของอเมริกา เพื่อนฉันมันไปเรียนต่างประเทศตั้งแต่เด็กๆ เราจะคุยกันผ่าน SKYPE หรือไม่ก็ LINE

    พลั่ก!!

    อะไรบ้างอย่างลอยมากระทบที่ศีรษะเข้าอย่างจัง มันเสียงดังมากจนฉันแทบคิดว่ามันคือแผ่นดินไหว รอบบริเวณนั้นมันกำลังหมุนรอบตัวฉันคล้ายลูกข่าง ร่างของฉันบัดนี้มันกำลังเอียงและล้มลงในที่สุด ดวงตาฉันกำลังจะปิด ภาพสุดท้ายที่ฉันเห็นคือ..ภาพใบหน้าหล่อเหลาเหมือนเทพบุตร กำลังช่อนร่างฉันขึ้นจากพื้น ท่ามกลางสายตาเหล่านักเรียนที่เข้ามามุ่งดูฉัน

    “เฮ้ยไอ้ไนท์นั้นมันยัยจอมโหดหนิ”

    “.........”

    “บ้าชิบ เตะโดนใครไม่เตะดันมาเตะโดนยัยนี่ แก่เตรียมตัวเถอะไอ้ไนท์”

    “.....”

     

    22:00 P.M

     

                    ฉันลืมตาขึ้นมาในห้องขนาดใหญ่ห้องหนึ่งมันถูกตบแต่งด้วยสีเลือดหมูสลับสีน้ำเงินเหมือนทางม้าลาย รอบห้องถูกตกแต่งสไตล์ผู้ชาย คือ มีโต๊ะทำงานขนาดใหญ่ โซฟาโทนสีทึบ ชั้นหนังสือ สนุกเกอร์ เหล้า สาบานที่โรงเรียนไม่น่าเชื่อว่ามันจะเล็ดลอดสายตาคณะกรรมการไปได้ และหือ? มันดูคล้ายห้องรับแขกมากกว่าจะเป็นอย่างอื่น...และคำถามชิ้นสำคัญก็ผุดขึ้นมา ฉันอยู่ที่ไหน

    “......”

    ผู้ชายใบหน้าหล่อเหลาคนนั้นนั่งอยู่ที่ปลายสุดของโซฟา เขากำลังจ้องมองมาที่ฉัน ด้วยใบหน้าเรียบเฉย ฉันยันตัวขึ้นสะบัดศีรษะไปมาเผื่อมันจะช่วยลดอาการปวดหัวไปได้บ้าง

    “นายเห็นโทรศัพท์ฉันไหม?”

    “......”

    เขายื่นมันมาให้ฉันและลุกออกจากโซฟาแล้วเดินหายเข้าไปในห้องครัว(?) โทรศัพท์ฉันมันไปอยู่กับหมอนั่นได้ยังไงกัน เพราะเมื่อตอนเที่ยงฉันกำลังยืนคุยอยู่กับเอเลี่ยนเพื่อนต่างด้าว พอฉันวางสายได้ไม่ถึง 5 นาที อะไรบ้างอย่างที่ฉันว่ามันน่าจะเป็นลูกบอลร้อยล้านเปอร์ ที่สามารถเตะอัดศีรษะแล้วทำให้สลบได้ขนาดนั้น ก่อนที่จะสลบฉันเห็นภาพของใครสักคนเข้ามาอุ้มฉันขึ้น และฉันก็มาฟื้นอีกทีตอนเออ...22:12!!!

    ฉันหลับไป 12 ชั่วโมง! นี่สลบหรือตาย!

    “เรส~ มาทานยามา”

    เสียงเล็กๆใสๆ นี่ทำไมดูคุ้นแปลกๆวะ

    “เฮ้ย! เธอมาทำอะไรที่นี่”

    ฉันรับยามาจากมือยัยนุ่มนิ่ม อ้อเธอชื่อ ใบตองน่ะ

    “กินสิ”

    “เออ...”

    “อย่าทำหน้าเหมือนจะอ้วกอย่างนั้นสิ รีบๆกินเข้าไปเร็วๆ”

    ฉันตัดสินใจยัดยาเข้าไปในปาก รสขมนั่นแตะที่ปลายลิ้นฉัน อาการ คลื่นไส้ก็ก่อตัวขึ้นทันที  แต่ฉันก็รีบดื่มน้ำเข้าไป แหวะ! ฉันเกลียดยา

    “เธอยังไม่ได้ตอบฉันเลยนะ”

    วางแก้วไว้บนโต๊ะ

    “อ้อเสื้อสูทของเธอ ฉันซักให้แล้วล่ะ แต่มันอยู่ในรถเพริล์น่ะเดี๋ยวฉันโทรบอกให้เขาให้นะ”

    ใบตองเอยเลียงๆแล้วก็วิ่งหายเข้าไปในห้องครัว (กลับรู) มาทางไหนกลับทางนั้น

    ตอนนี้ด้านนอกมืดจนแทบมองไม่เห็นทาง เพราะฝนตกหนักมาก โรงเรียนของฉันเป็นระบบอัตโนมัติ คือเปิดปิดไฟอัตโนมัติ หากมีคนกำลังเดินอยู่ที่ถนนตอนนี้ไฟก็จะเปิด แต่หากไม่มีไฟก็จะดับ และตราบใดที่เราอยู่ในโรงเรียนในเวลานี้ก็ไม่ต้องห่วงว่าจะมีพวกแปลกหน้าเข้าทำร้าย

    นายตาสีเทาเดินกลับมาอีกครั้ง  เขามองหน้าฉันเพียงเสี้ยววินาทีและนั่งลงที่โซฟาด้านตรงข้ามฉัน ในโลกนี้จะมีใครนิ่งได้เท่าหมอนี่ไหมวะ?

    ตึ่กตึ่ก

    “ยะ...แย่แล้ว”

    ใบตองวิ่งกระหืดกระหอบเข้ามาพร้อมโทรศัพท์ที่แนบอยู่ข้างหู น้ำตาไหลอาบทั้งสองพวงแก้มนวล

    “เกิดอะไรขึ้น”

    “ตะ..ตอนนี้เพริล์อยู่ที่โรงพยาบาล เพิร์ลอยู่ที่โรงพยาบาล”

    เธอพูดราวกับขนาดสติ นายตาสีเทาที่นั่งนิ่งเป็นตอไม้เมื่อครู่ ฉายแววความตกใจออกมา เขาลุกขึ้นและก้าวออกไปจากห้องนี่ทันที ฉันและใบตองได้แต่วิ่งห่อตามนายนั่นไป 

    รถ BMW สีแดงมันกำลังจอดเทียบท่าขวางทางเราสองคนที่หน้าตึก เจ้าของรถเลื่อนกระจกลง เผยให้เห็นดวงตาสีเทาของผู้ชายที่ฉันเจอในห้องเมื่อครู่ ใบตองกระโดดขึ้นรถทันที จากนั้นก็เป็นฉันที่ก้าวเข้าไปอย่างเก๋กั๋งๆเพราะไม่คุ้นชินกับเขา

    และรถ BMW สุดหรูก็ทะย้านไปข้างหน้าด้วยความเร็วที่คาดว่าน่าจะมากกว่าที่การจราจรกำหนด

    “ใบตอง”

    “ฮื่อๆ ”

    “เพิร์ลนี่ตัวอะไร”

    “คนสิ T_T

    “อ่าวหรอนึกว่าหมาซะอีก”

    “ฮื่อๆ”

    “อย่าร้องไห้เหมือนมีคนกำลังจะตายได้ไหมเนี่ย”

    “ก็นั่นมันแฟนฉันหนิ”

    “เออ....โอเค”

     

     

     

    23:00 P:M

     

    “ฮือ ๆๆ T__T

    ฉันชักจะรำคาญเสียงของยัยนี่เต็มทนแล้วนะโว๊ย ร้องไห้เป็นวรรคเป็นเวรตั้งแต่อยู่โรงเรียนยันโรงพยาบาล! ให้ตายสิเมื่อไรจะหยุดร้องสักที คนเดินผ่านไปผ่านมาเขาคิดว่าฉันแกล้งยัยนี่แน่ๆ แง๊~ จะครบครึ่งชั่วโมงแล้วต่อมน้ำตาของยัยนี่ไหล่ไม่หยุดอย่างกับน้ำประปารั่ว ใครก็ได้ช่วยฉันที~

    พลั่ก!

    เสียงประตูห้อง ICU เปิดขึ้นเผยให้เห็นเงาของ  4 หนุ่มที่สะท้อนออกมาจากประตู พวกเขายืนเรียงคล้ายกับดงบังชินกิในอดีตทั้ง 5 คน หากวันนี้ขาดซีดาร์ไปคนหนึ่งพวกเขาเลยเหลือเพียงแค่ 4  คนเท่านั้น และเมื่อประตูปิดก็เผยให้เห็นใบหน้าที่แท้จริง

    ทันทีที่ประตูเปิดออกยัยลูกแมวที่นั่งร้องไห้สะอึกสะอื้นในอ้อมกอดฉัน เธอไม่รอช้าวิ่งตรงดิ่งเข้าไปหาไอ้หน้ากวนตีนที่มีผ้ากอซแปะเอาไว้ด้านซ้าย ฮ่าๆ หมอนั่นดูเหมือนคนซื่อบื้อขึ้นมาทันทีเลยล่ะ

    “หัวเราะอะไรครับ...ผู้รักษาประตู 

    ฉันคงจะแสดงอาการออกมามากเกินไป จนหมอนั่นหันมาว่าให้ฉัน แต่แม้หน้านายตอนนี้มันโคตรตลกเลยจริงๆนะฮ่าๆ

    “ทำไมไม่โดนตีปาก ด้วยวะ ปากมากชิบ”

     “อยากโดนแทนไม่ล่ะ”

    “มาสิ”

    ไอ้ซื่อบื้อ(จำเป็น)ตั้งท่าจะกระโจนเข้ามาใส่ฉัน แต่เพราะนายหน้าหล่อ พูดน้อย ที่กำลังช่วยพยุงหมอนั่นอยู่ดึงเอาไว้ ไอ้หน้ากวนตีนเลยไม่ได้ไปนอนกองกับพื้น (หมอนั่นขาหักด้วยล่ะ )

     “ขาฉันหายเมื่อไร เธอนั้นแหละที่จะได้นอนโรงพยาบาล”

    “หายไวไวนะ ”

    “ฮึ่ย เพื่อนจับไว้หรอก”

    “อยากโดนอีกข้างไหม ยังว่างอยู่นะ”

    “ฝากไว้ก่อนเถอะ”

    “ตอนนี้ก็ได้นะ”

    “เฮ้ย! พอแล้วๆ”  

    อ้อ~ ฉันนึกออกแล้วเขาคือคูราซหนุ่มแสนดีประจำโรงเรียนรีโอนารด์ยังไงล่ะ ตำแหน่งนี้ได้มาจากผลโหวตทั้งหมดของโรงเรียนเมื่อปีที่แล้ว  พวกผู้หญิงต่างเทคะแนนนี้ให้เขาเพราะอะไรสักอย่างที่มีเงื่อนงำ แต่ฉันไม่ได้สนใจจะฟังเพราะมันไม่ใช่เรื่องของฉัน คูราซจับไอ้หน้าปลาช่อนนั่งลง พร้อมกับหันมายิ่มขอโทษให้แก่ฉัน...คูราซนายคือพ่อพระจริงๆ

    “เธอไม่เป็นอะไรแล้วใชไหม นางฟ้า?”

    นางฟ้าเหรอ? ฉันเป็นนางฟ้าหรอ? แอร๊ย~  หมอนี่ปากหวานชะมัด แต่เชื่อไหมล่ะว่าเขาไม่ได้หวานแค่เพียงปากแต่ใบหน้าหล่อเหลานั้นยังหวานคล้ายช็อกโกแลตอีกด้วย >////<

    “(-/////-)( _  _ )(-//////-)

    “แต่หน้าเธอดูแดงๆนะ ไม่ลองไปเช็คดูหน่อยล่ะ”

                    ที่มันแดงก็เพราะหน้านายนั่นแหละ อ๊าง~ ฉันแพ้คนหล่อนะ

     “ยัยนี่น่าจะเอาไปตรวจโรงพยาบาลสัตว์มากกว่า มาผิดแล้วล่ะ”

    ไอ้หน้ากวนตีนเอยขึ้นมา ระหว่างกำลังกินอะไรสักอย่างที่ยัยลูกแมวกำลังป้อนมันเข้าปาก ขอให้มันติดหลอดลมนาย เพี้ยง!!!

    “หุบปาก ถ้าไม่อยากโดนตีหัวแตกอีกข้าง”

     “ไนท์ แกจะไปไหน”

    คูราซถามระหว่างที่เขากำลังมองฉันทะเลาะกับไอ้หัวแตก

    “กลับบ้าน”

    เออวะกี่ทุ่มแล้วเนี่ย - -

    “อีก ครึ่งชั่วโมง เที่ยงคืนจ๊ะ”

    ใบตองตอบเมื่อเห็นฉันมองหานาฬิกา

    “....อื้อ”

    “เรสเธอก็จะกลับหรอ”

    ฉันลุกขึ้นเพราะเห็นว่ามันดึกมากแทบจะเช้าอยู่แล้ว พรุ่งนี้ตื่นขึ้นมาฉันจะต้องเป็นหมีแพนด้าแน่ๆเลย แง๊~ TOT

    “อื้อ ฉันว่าฉันควรจะกลับบ้านได้แล้วล่ะ”

    “แต่รถเธออยู่ที่โรงเรียนไม่ใช่หรอ”

    เออวะ T^T ป่านนี้โรงเรียนคงจะปิดแล้ว

    “เดี๋ยวฉันนั่งแท็กซี่กลับก็ได้”

    “มันจะปลอดภัยเหรอ ไนท์ไปส่งเรสให้ตองหน่อยสิ”

    “......”

    “นะๆ นี้มันก็ดึกแล้ว ถ้าครืนปล่อยเรสไปคนเดียวมันอันตรายนะ”

    “งั้นให้ฉันไปส่งเธอนะ”
                     นายหน้าหวานที่กำลังนั่งเล่นโทรศัพท์เอยขึ้นมา         
                    “ขับรถพ้นซอยบ้านแกให้ได้ก่อนเถอะ”

    ไอ้หน้ากวนตีนพูดขึ้นระหว่างพยายามหอบสังขารตัวเองขึ้นจากเกาอี้โดยมีใบตองช่วยอีกแรง  

    “T^T อย่าพูดแทงใจดำสิ”

    นายหน้าหวานเลยได้แค่นั่งลงและเล่นโทรศัพท์ของตัวเองต่อ...น่าสงสาร

    “ตกลงไนท์ไปส่งเรสได้ใช่ไหม?”

    เขาเหลือบมองฉัน แต่ก็ไม่ได้พูดอะไร  

    “ไปสิจ๊ะ”

    ฉันไม่แน่ใจว่าควรเดินตามเขาไปดีรึเปล่า เพราะหมอนั่นไม่ได้ชวนฉันกลับเลยด้วยซ้ำ แต่อยู่ๆหมอนั่นก็หันหลังกลับมาและเอยเรียกฉันด้วยประโยคสั้นๆ แทน

    “......มาสิ”

    “ไว้เจอกันพรุ่งนี้นะ”

    ก่อนไปฉันเอ่ยลาใบตองที่กำลังมองมาที่ฉันและหมอนั่นอยู่ แต่ทำไมสายตาของใบตองถึงแอบมีเลศนัยอย่างนั้นล่ะ เธอมองดูฉันแปลกๆ คล้ายกับซ่อนอะไรบ้างอย่างเอาไว้ในดวงตาสีเทานั่น

    “ไม่ให้เจอโว๊ย”

    “ไม่ได้พูดด้วย ปากหมาเอ๊ยมาก”

    “ไม่โดนไอ้บ้านั่นทุบตายก็ขอให้มันถีบเธอลงกลางทาง”

    “แบล็ก!!

     

     

    23.35  P:M

     

    รถ BMW สีดำคันโก้หยุดที่สี่แยกไฟแดง รถราผ่านไปผ่านมาไม่ขาดสาย แสงสีตามห้างร้านต่างๆ ยังคงเปิดเต็มทั่วราชอาณาจักร สมกับเป็นเมืองหลวง

    ด้านข้างของฉันคือ หนุ่มป๊อบของโรงเรียน รู้สึกเขาจะชื่อ..เออ

    “นี่ๆ แกดูพี่ไนท์ดิ ว๊ากหล่อกินไส้กิพุ่งเลยอ่ะแก”

    “นั่นดิๆ ใครนะจะโชคดีได้พี่ไนท์ไปเป็นแฟน ”

    “ฉันป่ะ?”

    “ฝันย่ะ!!

    มิดไนท์ใช่เขาชื่อมิดไนท์ ที่วันนั้นยัยเด็กบ้าผู้ชายสองคนกำลังยืนแอบมองหมอนี่จากทางด้านหลัง แล้วบังเอิญฉันแอบไปได้ยินพอดี รู้สึกหมอนี่จะออกเป็นคนเงียบๆไม่ค่อยพูดเท่าไร แต่ให้ตายหมอนี่เงียบซะจนฉันกลัวเลยอ่ะ T^T

                    “บ้านเธออยู่ที่ไหน”

    เขาเอ่ยหลังจากที่เงียบมานานมาก เพราหลังจากที่ฉันได้ยินคำว่า มาสิ ที่โรงพยาบาลจนถึงเวลาปัจจุบันฉันก็ยังไม่ได้ยินเสียงที่ออกมาจากกล่องเสียงเขาเลยด้วยซ้ำ ในรถของเขาฉันได้ยินเพียงแค่เสียงแอร์ภายในรถเท่านั้น

    “เออ...เลี้ยวขวา ตรงไปประมาณ  2 กิโลถึง”

    “เวกันดา?”

    “หือ...นายรู้จักด้วยเหรอ”

    “อือ”

    เขาตอบฉันสั้นๆ และขับตามที่ฉันบอกเขาเป๊ะ หมอนี่ขับเหมือนมาบ่อย คือยามหน้าบ้านโบกให้เข้าไปเลยโดยไม่ต้องลดกระจกลง ยามนี่บกพร่องต่อหน้าที่จริงๆ เกิดขโมยขโจรขึ้นบ้านจำทำยังไง

     “เดี๋ยวฉันเดินกลับเข้าไปต่อเองก็ได้”

    “เดินไปคนเดียวมืดๆ น่ะนะ”

    “นายดูไฟในหมู่บ้านสิ สว่างโล่วซะขนาดนั้นไม่มีใครมาทำร้ายฉันได้หรอกน่า”

    “เดี๋ยวก็รู้”

    แต่เดี๋ยวๆนะทำไมบ้านฉันมันดูแปลกๆ ไม่คุ้นตาอย่างนั้นล่ะ หรือเราจะมาผิดซอยหือ..ไม่หรอกน่า

     “ถึงแล้ว”

    “นี่มันไม่ใช่บ้านฉันนะ”

    ฉันพูดขึ้นหลังจากเข้าเลี้ยวเข้าบ้านหลังใหญ่โตมหึมา

    “ถ้าเป็นก็แปลกอ่ะ เพราะบ้านนี้มีแค่ลูกชายถ้าเธอเป็น ก็เป็นอย่างอื่น”

    อย่างอื่นที่ว่านี้อะไรอ่ะ? พูดไม่คิดนะนายน่ะ มืดๆอย่างนี้สนามหญ้าหน้าบ้านนายน่าจะนุ่มนะ =.=





















    ฝากมันด้วยนะคะ หลังจากที่ดองมันนาานมากกก~ #ลากเสียงให้รู้ว่าานานจริงๆ
    ก็เรื่อยเปื้อยไปเรื่อยแหละ คิดอะไรได้ใส่ๆลง ความจริงยาวกว่านี้แต่แบบไปสัญญา
    กับเพื่อไว้ว่าจะลงให้มัน ก็เอ่อตัดออกครึ่งหึ่งดีกว่า ให้เหลืออยู่แค่นี้ แหะๆ ถ้าพิมเสร็จเดี๋ญวลงให้อ่านต่อเน้อ ^^

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×