ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Ghost...ลองของเฮี้ยน (ไรท์กลับมาแล้วยังจำกันได้มั้ย!!)

    ลำดับตอนที่ #6 : บทที่ 1 ข่าวใหญ่

    • อัปเดตล่าสุด 25 ก.ย. 56


    BlackForest



     

    "นี่เธอได้ยินเรื่องเบ็ทนี่หรือเปล่า"

    "ได้ยินสิ ตอนนี้อยู่โรงพยาบาลอยู่เลย"

    "เห็นบอกว่าเสียสติไปเลยไม่ใช่เหรอ"

    "น่ากลัวออก ไหนจะโดนข่มขืนแล้วยังโดนผีหลอกอีก"

    "พวกที่รุมข่มขืนนะตายยกแก๊งเลยนี่"

    "สมน้ำหน้า กรรมตามสนองแล้ว"

    "แล้วที่พวกมันตายละ พวกเธอเชื่อว่าพวกนั้น โดยผีฆ่าเหรอ"

    "แน่นอนสิ"

    "ไม่งั้นใครจะฆ่าล่ะ"

     "เบ็ทนี่นะไม่มีแรงพอจะทำอย่างนั้นหรอก"

    "พวกตำรวจก็เชื่อน่ะ เพราะมีคนตายตั้งหลายราย แต่ก็เอาไปรายงานไม่ได้"

    "แล้วจะให้ตำรวจไปจับผีเหรอไง"

    เสียงคุยกันที่โถงทางเดินเข้าหูชาลิดา วงศ์สุวรรณศิลป์หรือชาเข้าโดยบังเอิญ เธอรีบเดินไปหาเพื่อนสนิทที่ห้องเรียนทันที

    "เจนเธอได้ยินเรื่องเบ็ทนี่ที่อยู่ห้อง 50C หรือยัง!" ชาส่งเสียงเรียกลั่น เจเรน่า เทโฟเลอร์เด็กสาวผมสั้นท่าทางห้าวใช่เล่นหันมาทันที  

    "ได้ยินเหมือนกันตอนที่เดินเข้ามา เป็นข่าวใหญ่น่าดู"

    "เธอเชื่อมั้ยอ้ะ"

    "ของแบบนี้เชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่ง"

    "อย่าดูถูกพวกวิญญาณนะค่ะ เรามองไม่เห็นใช่ว่าจะไม่มีอยู่จริง" เสียงหวานๆดังมาจาก พาเมร่า ซีลเลน่าส์เธอมีผมสีชมพูถักเปียสองข้างที่ดูเด่นมาก

    "พิมคิดว่ามีจริงเหรอผีเนี่ย" ชาทำหน้าตกใจเล็กน้อยก่อนจะเอ่ยปากถามเพราะพิมไม่ค่อยจะพูดกับใครเท่าไหร่

    "คิดว่ามีค่ะ เพราะฉันก็เคยเจอ" พิมยิ้มบางๆ ที่ดูเศร้าออกมา

    "เหลวไหลจะตาย ผีเผออะไร เดี๋ยวนี้มันยุควิทยาศาสตร์แล้วนะ" อเล็กซ์ หรือ อเล็กซ์ ซี เชส เนียร์ เดินเข้ามาขัด

    "ไม่เชื่ออย่าลบหลู่สิ" ชาพูดทั้งๆที่รู้ว่ามันเป็นคำต้องห้ามของอเล็กซ์

    "ฉันเกลียดคำนี้" อเล็กซ์พูดออกมาเบาๆ

    "นายไม่เชื่อก็อย่ามาเชื่อสิ นี่คนเขาเชื่อจะคุยกัน" ชาบอกพลางกวักมือไล่

    "ของพรรค์นั้นไม่มีจริงหรอก"

    "เอ๊ะ นายไม่เชื่อก็อย่ามายุ่งสิ"

    "แล้วเธอเคยเห็นเหรอไง"

    "อึก" ชาสะอึกเพราะเธอเองก็แทบไม่เคยเห็น

    "นั่นไง บอกแล้วว่าผีไม่มีจริงหรอก"

    "ดะ ดีละ งั้นไปพิสูจน์กันดูให้รู้แน่ไปเลยมั้ย"

    "เอาสิ แต่ถ้าผีไม่มีจริงๆ ล่ะ"

    "ฉันจะเลี้ยงข้าวนาย 10 มื้อเลย แล้วนายละถ้าผีมีจริง"

    "ฉันจะเชื่อเรื่องนี้ แล้วก็ฉันจะยกโทรศัพท์เครื่องใหม่ของฉันให้แล้วกัน"

    "ตกลง ว่าแต่ที่ที่เขาลือกันมันอยู่ที่ไหนเหรอ" ชาหันไปมองพิมกับเจน แต่ทั้งคู่ก็ส่ายหน้า

    "โรงแรมร้าง ซอย 66 หลังโรงเรียน เป็นบริเวณที่เปลี่ยว และไม่มีการดูแลให้เข้าถึง บางจุดยังเป็นพงหญ้าทึบ อาคารบ้านเรือนมีน้อยทั้งๆที่เป็นซอยใหญ่ เสาไฟเก่าและขาดการดูแล โรงแรมนั้นเคยถูกไฟไหม้ไปครึ่งหนึ่ง มีคนเสียชีวิตจากเหตุเพลิงไหม้ 1 คน หลังจากนั้นก็ถูกปิดถาวร และมีผู้หญิงไปผูกคอตาย รวมถึงถูกฆ่าข่มขืนอีกหลายคน มีวัยรุ่นหลายกลุ่มเข้าไปลองดี แต่กลับมาไม่ครบกันทุกกลุ่ม" ข้อมูลอย่างละเอียดดังออกมาจาก แคทเทอรีน แอนมาริน่า หัวหน้าห้อง 50A ที่พิมกับเจนและอเล็กซ์อยู่

    "รู้ละเอียดจังเลยเคท เธอสืบมาเหรอ" เจนหันมาถาม

    "เปล่า เคยได้ยินข่าวมานะ ฉันเห็นข่าวเรื่องโรงแรมร้างนี้บ่อยๆ และซอยที่อยู่หลังโรงเรียน ฉันเดินผ่านหน้าซอยนั่นประจำ เลยรู้ว่าเป็นซอย 66 ที่เหลือก็มาจากข่าวในโทรทัศน์และหนังสือพิมพ์ทั้งหมด" เคทบอกเรียบๆ แล้วหันไปอ่านนิยายภาษาอังกฤษในมือต่อ

    "งั้นเราไปพิสูจน์กันที่โรงแรมร้างนั่นกันเลย ไปวันไหนดีล่ะ" ชาเมื่อรู้ข้อมูลจากผู้รู้เรียบร้อยก็หันมาคุยกับอเล็กซ์ต่อ

    "เย็นนี้เลยเป็นไง ตอน 20.00 น. โอเคมั้ย"

    "ดีๆ สองทุ่มเจอกัน"

    "ฉันว่าอย่าไปจะดีกว่า เคทหันมาบอก"

    "ไม่เห็นเป็นไรเลย ฉันไปด้วยนะชา เผื่อจะน่าสนุก!" เจนตะโกนทั้งๆ ที่ไม่จำเป็น

    "ฉันก็เห็นด้วยกับเคทนะค่ะ อย่าไปเลย มันอันตรายถ้าพวกวิญญาณมีจริง ฉันกลัวว่าจะมีอันตรายกันนะค่ะ" พิมพยักหน้าสนับสนุนเคท

    "ไม่เป็นไรหรอกน่า ไปนิดเดียวเอง" ชาบอกแล้วหันไปคุยกับอเล็กซ์ต่อ

    "ฉันเห็นลางร้ายบนตัวพวกเขา และอายชั่วร้ายมาจากโรงแรมนั่น" เคทพูดเบาๆ กับพิม แล้วมองออกไปทางหน้าต่าง โรมแรมที่มีสีดำไปครึ่งตึกมันดูทะมึนและน่ากลัวแม้จะเป็นตอนกลางวันก็ตาม

    "ฉันก็เห็น พวกวิญญาณป้วนเปี้ยนอยู่แถวนั้น เพื่อจะหาตัวตายตัวแทน และอาจจะโกรธแค้นได้ ถ้าพวกเราไปลองดี" พิมเอามือแตะกระจกใส แล้วมองไปทางโรมแรมด้วยสายตาที่ยากจะคาดเดา ก่อนที่พิมกับเคทจะพูดออกมาพร้อมกัน

    "ถ้าไม่เกิดอะไรขึ้นก็ดีนะสิ"

    ……………………………………………….

    'วาคามิยะ เรกะ' เด็กสาวตัวเล็กอายุเพียง 13 ปี แต่ต้องรับภาระที่กดทับหลายๆ อย่าง และยังสอบเทียบได้เท่ากับ ม.5 ทุกคนในห้องต่างเป็นรุ่นพี่ของเธอทั้งนั้น ทำให้เธอไม่มีเพื่อนวัยเดียวกันที่สนิทใจด้วย เลยไม่มีใครที่จะให้คำปรึกษาและปรับทุกข์กับเธอได้ เธอนึกถึงเมื่อเช้า เธอพลั้งปากบางอย่างออกไป ทำให้ตอนนี้ลำบากใจแบบสุดๆ

    "เรกะแม่ว่าลูกไม่ต้องพยายามมากนักหรอก นอกจากจะทำให้ปวดหัวแล้ว ยังไงลูกก็สู้พี่ๆ เขาไม่ได้หรอก" แม่บอกกับเธอในตอนเช้า

    "ไม่ค่ะ ไม่งั้นหนูกับแม่จะอยู่ยังไงค่ะ หนูจะสู้ค่ะ"

    "ใช่ เลิกล้มเถอะเรกะ เธอเป็นผู้หญิงไม่เหมาะกับการเป็นเจ้าบ้านอยู่แล้ว" พี่ชายเธอกำลังนั่งที่โซฟาตาจ้องอยู่กับหนังสือพิมพ์บนมือ

    "ยังไงก็เปลี่ยนความคิดไม่ได้หรอกค่ะ ถ้ายอมแพ้ตั้งแต่ยังไม่สู้ นั่นเป็นวิธีของคนขี้ขลาด" เรกะหันมาบอกด้วยท่าทีจริงจัง

    "แล้วเธอมีวิธีไหนมาพิสูจน์ล่ะ"

    "เฮ้ เรกะโรงเรียนเธอลงข่าวด้วยละ" พี่ชายอีกคนยื่นหนังสือพิมพ์ให้เธอดู

    "เอ๋ เบ็ทนี่ห้อง 50C เหรอ" เรกะพึมพำเบาๆ แล้วอ่านรายละเอียด

    “...โรงแรมร้างผีสิง ผงาดอีกแล้ว มีหญิงสาวถูกข่มขืนที่นั่น และยังเข้าโรงพยาบาล หมอบอกว่าเธอเริ่มเสียสติเพราะพูดซ้ำไปซ้ำมาว่า ผี นี่นั่นมีผี นี่นั่นมีผี ไม่ไม่ ผี นี่นั่นมันน่ากลัว ผีผี กรี๊ดดด!!’ และมีวัยรุ่นชายถูกฆ่าอย่างน่าสยดสยองที่นั่น โดยไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นฝีมือของใคร การลงมือฆ่านั้นไม่น่าจะเป็นผีมือของคน

    โรงแรมร้างนั้นเมื่อหลายปีก่อนถูกไฟไหม้ลามไปครึ่งหลังก่อนจะถูกดับไฟได้ทัน เจ้าของไม่อยากรับภาระการซ่อมแซมที่มากโขจึงปิดตายโรงแรมซะ แต่ไม่นานก็มีหญิงสาวผูกคอตาย วัยรุ่นฆ่ากันแล้วทิ้งศพไว้ที่นั่น หญิงสาวถูกรุมข่มขืนแล้วฆ่าปิดปาก และวัยรุ่นลองของอีกหลายคนที่เข้าไปลองดี สุดท้ายรอดปกติมีจำนวน 1 ต่อ 10 ที่เข้าไปทั้งหมด...

    "ใช่แล้วนี่ไงล่ะ ฉันจะไปพิสูจน์ที่นั่น"

    "ว่าไงนะ!" พี่ชายกับแม่ร้องถามเป็นเสียงเดียวกัน

    "พิสูจน์ความกล้าไงล่ะ ไหนๆ ก็อยู่ใกล้โรงเรียนนี่นา เย็นนี้ฉันจะไปลองของที่นั่น แล้วจากนั้นก็ห้ามใครคัดค้านอีกเรื่องที่ฉันจะชิงตำแหน่งเจ้าบ้าน!"

    คิดคิดดูแล้วที่นั่นมันก็น่ากลัวเหมือนกัน ถ้าเธอเข้าไปคนเดียวมันก็ดูน่ากลัว แถมข่าวลือยังมีอยู่อีกเยอะด้วย ความกล้าเมื่อเช้าเริ่มเลือนหายไปทีละนิด เรกะคิดไปคิดมา จนเผลอเหม่อลอยมีคนคนหนึ่งวิ่งผ่านหน้าเธอจนล้มหัวขม้ำทั้งคู่

    "โอ๊ย เจ็บ เดินยังไงกันค่ะคุณ ดูสิ" เรกะพูดออกมาอย่างฉุนเฉียว ขาเธอมีแผลถลอกหลายจุด และเข่าเธอก็มีเลือดไหล เพราะกระแทกกับพื้นคอนกรีต

    "ขอโทษๆ พี่ไม่ได้มอง หวา เลือดไหลเลย!" ภัทร วาโยเหมันต์เด็กหนุ่มที่ดูบ้าๆ บอๆ มีสร้อยกางเขนสีแดงคล้องที่คอเป็นจุดเด่น

    "อ๊ะ พอดีเลยขิม ขิม มานี่หน่อยสิ" ไนท์ร้องทักหญิงสาวร่างเล็กคนหนึ่งที่เดินผ่านมา

    นริศรา ศิลปฉัตรีที่ไนท์เรียกว่าขิมหันมามอง ก่อนจะเดินเข้ามาหา

    "แกล้งเด็กเหรอไนท์" ขิมย่อตัวลงนั่งยองๆบนพื้น เพื่อให้ได้คุยกันในระดับสายตา

    "เปล่า เอ๊ะ หรือว่าใช่ เอาเป็นว่าผมเดินชนน้องคนนี้ล้มนะ เลือดไหลเลย มีพลาสเตอร์แปะแผลมั้ย"

    "ไม่เป็นไรค่ะ เดี๋ยวฉันจะเดินไปห้องพยาบาลเอง" เรกะบอกแต่ดูเหมือนทั้งคู่จะไม่ได้ฟัง

    "เรามีทิชชู่เช็ดแผลไปก่อนแล้วกัน ถ้าแปะพลาสเตอร์ตอนนี้เดี๋ยวเชื้อโรคมันจะยังอยู่ เป็นบาททะยักได้ ขอเวลาเราหาพลาสเตอร์สักครู่นะ" ขิมหันไปค้นกระเป๋าตัวเอง

    "มาๆ พี่เช็ดให้ ขอโทษอีกทีนะ" ไนท์ยิ้มแล้วเอาทิชชู่เช็ดแผลและซับเลือดที่หัวเข่าให้เรกะ

    "นี่พลาสเตอร์ โชคดีที่เรายังเก็บไว้"

    "ได้ๆ เอาเข่ามานี่นะ" ไนท์แกะพลาสเตอร์แล้วทำท่าจะแปะให้ แต่เรกะเขยิบหนี

    "รังเกียจพี่เหรอ" (T^T)

    "ปละ เปล่าค่ะ" เรกะพูดแล้วให้ไนท์แปะพลาสเตอร์แต่โดนดี

    "เอาเผื่อนะจ้ะ อย่าลืมไปล้างแผลด้วยนะ" ขิมยื่นพลาสเตอร์อีก 2 – 3 อันให้เรกะ

    "เดินดีๆ นะ เด็กน้อย" ไนท์ลุกขึ้นแล้วพยุงให้เรกะลุกขึ้นด้วย

     "มะ ไม่ได้รู้สึกขอบคุณอะไรเป็นพิเศษหรอกนะคะ รู้ไว้ด้วย!" เรกะพูดแล้ววิ่งออกไป แต่ก็แอบหันไปมองเล็กน้อย

    "ไนท์ก็มีแผลนี่ ดูคนอื่นจนไม่ห่วงตัวเองอีกแล้วนะ เราให้พลาสเตอร์กับน้องเขาไปหมดแล้วด้วย" เสียงขิมดังมาเข้าหูเรกะ

    "แฮะ แฮะ อุ้มไปห้องพยาบาลหน่อยดิ"

    "ฝันไปพลางๆ ละกันนะ"

    "เฮ้ย ผมเจ็บมากเลยนะ"

    "คลานไปเถอะค่ะ"

    "ขิมใจร้าย~"

    'เขามีแผลด้วยเหรอ แล้วทำไมต้องมาคอยห่วงเราด้วยละ แล้วจะเจ็บมากมั้ยนะ แต่คงไม่เป็นไร ผู้หญิงคนนั้นคงเป็นแฟนเขามั้ง เดี๋ยวก็ไปห้องพยาบาลเองแหละ' เรกะคิดในใจอย่างเป็นห่วงเล็กน้อยก่อนจะวิ่งไปที่ห้องตัวเอง

    ..................................................

    "ขิมใจร้าย~"

    "ชายหญิงไม่ควรถูกเนื้อต้องตัวกันค่ะ"

    "นางในวรรณคดีแผลงฤทธิ์อีกแล้ว หลุดมาจากเรื่องทวิภพเหรอไงแม่คู้ณ~"

    "จะไปห้องพยาบาลไหม"

    "ไป ไป" ไนท์พยักหน้ารัวๆ

    "ไนท์เมื่อเช้าได้ยินข่าวไหม เรื่องโรมแรมร้าง"

    "ได้ยินดิ ขนลุกเลย"

    "เราว่าน่าสนใจดี"

    "หมายความว่างาย"

    "ไปพิสูจน์กันไหม"

    "ม่าย~"

    "ผู้ชายอะไรกัน ไม่เข้มแข็งเลย"

    "ไม่ไป"

    "น่าสนุกดีนะค่ะ ไปพิสูจน์กันเถอะ"

    "ไม่"

    "อะไรกัน ผู้ชายเมื่อสุภาพสตรีออกปากชวนแล้วยังไม่ตอบรับมารยาทอีก"

    "ม่าย~~~~"

    "งั้นฟังเราพูดเรื่องการอนุรักษ์ความเป็นไทยกับการเล่นดนตรีไทยอีก 2 ชม.เต็มแทนละกัน"

    "ไปวันไหนกี่โมงดีละ"

    ...........................................................

    "กรี๊ดดด~ คุณไททัน!"

    "พี่ไททันน่ารักเนอะ"

    "เมื่อกี้พี่ไททันมองฉันด้วยแหละ"

    เสียงกรี๊ดกร๊าดของพวกผู้หญิงที่ต้นเหตุมาจาก ศราวิน สิทธิโชคชัยฤทธิ์ หรือไททัน ประธานนักเรียนที่ฮอตติดอันดับ 1 ใน 3 ผู้ชายหล่อที่สุดในโรงเรียน ซึ่งเขาเองก็ได้แต่ยิ้มแห้งๆ ซึ่งเพิ่มเสียงกรี๊ดได้อีกระลอก

    "พวกคุณเห็นคุณฟาโรห์มั้ยครับ"

    "กรี๊ดดด~ บอกแล้วไงว่าเธอนะหมดสิทธิ์"

    "คุณฟาโรห์ฉันเห็นว่าขึ้นไปดาดฟ้าแล้วค่ะ"

    "ขอบคุณครับ"

    "บอกแล้วไงว่าเขาแอบคบกัน"

    "กรี๊ดดด! จริงอ้ะ"

    "แบบนี้สาววายต้องเชียร์ค่า"

    ไททันหลบกลุ่มผู้หญิงทั้งหลายแหล่ แล้วขึ้นไปบนดาดฟ้า บนดาดฟ้ามีฟาโรห์นอนอ่านหนังสือพิมพ์อยู่

    "คงได้ยินข่าวแล้วใช่มั้ย" ไททันพูดเสียงเรียบ

    "กำลังอ่านอยู่"

    "น่าสนใจไม่เลว คุณจะไปมั้ย"

    "แน่นอน ผมจะไปศึกษาเพิ่มเติมเกี่ยวกับเรื่องที่ผมค้นคว้ามาตลอด"

    "เย็นนี้มั้ย"

    "คุณขึ้นมาจะพูดแค่นี้เหรอ"

    "แล้วไม่ได้เหรอ"
     

    ............................................

    "นี่ ยัยผี เธอได้ยินข่าวเรื่องพี่เบ็ทนี่หรือเปล่า" กลุ่มเด็กสาวท่าทางเอาเรื่องคนหนึ่งถาม กัญญารัตน์ เวทย์วิสิทธิ์ เด็กสาวใส่ชุดโกธิคโลลิต้าที่กำลังนั่งคุยอยู่กับตุ๊กตาที่เหมือนตัวเธอทุกระเบียบนิ้ว

    "ได้ยินสิ" กัญญาตอบแล้วพยายามทำไม่สนใจ

    "อ๋อ นี่เมินกันเหรอ จริงสิ เรื่องของพี่เบ็ทนี่นั่นเป็นฝีมือเธอใช่มั้ย ในทีวีเขาบอกว่าเป็นฝีมือผีนี่นา"

    "ใช่ๆ"

    "ฮะฮ่าฮ่าฮะฮ่าฮ่า"

    "คุยบ้าอะไรกับตุ๊กตาอยู่ได้" เด็กสาวหัวโจกดึงตุ๊กตาของเธอออกจากมือ แล้วชูไปมาในอากาศ

    "เอาคืนมา!" กัญญาเริ่มมีน้ำโห

    "เพื่อเป็นการพิสูจน์เรื่องโรงแรมร้างนั่นไง ฉันจะคืนให้ตอนเย็นนี้ ที่หน้าโรงแรมร้างละกันนะ"

    "ไม่รักชีวิตเอาซะเลยนะ!!" กัญญาตะคอก

    "ถ้าเจ็บใจละก็เย็นนี้เจอกัน ถ้าเธอไม่ไป มันจะอันตรธานไปอยู่ที่เตาเผาขยะก็ได้น้า" กลุ่มเด็กสาววิ่งออกห่างจากกัญญาไปพร้อมกับเสียงหัวเราะ

    "โดนแกล้งอีกแล้วเหรอ" ซาวาริ ฮาคุเรนเพื่อนร่วมห้องของกัญญาเดินมาถามเบาๆ

    "อืม" กัญญาพูดเบาๆเหมือนเสียงครางในลำคอ

    "ไม่คิดจะแกล้งพวกนั้นกลับบ้างเหรอไง" อาเรีย ซี นอกซ์ เด็กสาวที่ดูเย็นชาและน่ากลัวพูด

    กัญญาไม่ตอบอะไร เรนกับอาริเซียเผลอถอนหายใจพร้อมกัน

    "งั้นเย็นนี้ใช่มั้ย ไอไปด้วย" อาริเซียตบไหล่กัญญาเบาๆ

    "ไม่จำเป็น" กัญญาพูดแต่ความหมายจริงๆ คือเธอเกรงใจ

    "ไม่เป็นไร ที่นั่นน่ากลัวออก ไปกันนะ ใช่มั้ย" คำสุดท้ายอาริเซียเหล่ไปทางเรน

    "อะ เอ่อ ใช่ใช่ ใช่ก็ได้"

    "ไปกันเยอะๆ อุ่นใจกว่านะ"

    "นี่ๆ ทำไมไม่หัดยิ้มกับคนอื่นเขาบ้างละ เขาบอกผู้หญิงยิ้มแล้วจะสวยนะ" เรนยิ้มให้ดู

    "อยะ อย่าเลย" อาริเซียเอามือดีดนิ้วหน้าผากเรน เพราะเธอเคยเห็นตอนกัญญายิ้ม น่ากลัวกว่าตอนปกติอีก

    "ทำไมอ่ะ"

    "ไปไกลๆ เลย นายตลกจืด"

    "ใครตลกจืด มันแค่ไม่ฮา"

    "แล้วต่างกันตรงไหน"

    "เขาเรียกว่าแตกต่างเหมือนกัน แฮ่ๆ"

    "ต่างแค่คำใช่มั้ย ไปตลกจืดไกลๆ เหอะ ไม่ฮาจะพากันเครียดเปล่าๆ"

    ...........................................................

    "ไงริน" เสียงทักทายจาก วายุภัค ราชาศิตาเวช เด็กหนุ่มที่ติดอันดับฮอต 1 ใน 3 ของโรงเรียนดังมาแต่ไกล จน รินศิตา เนตรศิตานนท์ หันขวับมาทันทีแล้วทำหน้ารำคาญ ทั้งๆ ที่ผู้หญิงคนอื่นภาวนาให้วายุเรียกแบบนั้นมาตลอดชีวิตยังไม่ได้เลย แต่รินกลับทำหน้ารำคาญใส่ซะนี่

    "ไป – ไกล – ไกล" รินพูดเน้นทีละคำ

    "พูดยังกับเธอเคยไล่ฉันได้" วายุยิ้มลอยหน้าลอยตา

    รินไม่พูดอะไรอีก แล้วรีบเดินหนีทันที

    "จะไปไหนเล่า มาคุยกันก่อนสิ"

    "ไม่" รินสวนกลับอย่างเย็นชา

    "เธอได้ยินข่าวรึยัง คนในโรงเรียนเราที่โรงแรมร้าง ถูกผีหลอก และมีคนตายด้วยนะ"

    "ได้ยิน" รินพูดเบาๆ ราวกับจะไม่ให้วายุได้ยิน

    "ไปลองดูกัน"

    "ลองอะไร"

    "ไปลองพิสูจน์ข่าวไง ว่าเป็นจริงหรือเปล่า ท้าทายดีออก อยู่ใกล้ๆ นี่เองด้วย"

    รินนิ่งคิดไปชั่วครู่ เธอไม่อยากตอบรับคนอย่างหมอนี่ให้เสียหน้า แต่เธอก็อยากไป ถ้าเธอแอบไปแล้วจับได้ทีหลังหมอนี่จะแกล้งหนักขึ้นหรือเปล่านี่สิ

    "ตกลง"

    "งั้นเย็นนี้สองทุ่มแล้วกัน มาเจอกันที่หน้าโรงแรมร้างมั้ย"

    "อือ"

    "เลิกเรียนฉันมารับ"

    "ไม่ต้อง ฉันมีขา เดินไปเองได้"

    "เผื่อเธอเดินตกบันไดขาแพลง หรือเดินรถเฉี่ยว"

    "ฉันไม่ตายง่ายๆ หรอก จะไปไหนก็ไป"

    "เดี๋ยวก่อนสิ เฮ้"

    "ไปไกลๆ ฉันได้แล้ว"

    "ไม่"

    "ไปไกลๆ !"

    "ไม่"

    "ไปไหนก็ไป!"

    "ไม่"

    "นายจะแกล้งฉันอีกนานมั้ย รีบๆ ไปซะ รำคาญ"

    "ไม่"

    "นายวายุ ไสหัวไปไกลๆ ฉันได้แล้ว!"

    "ไม่"

    "นายนี่มัน"

    "ไม่"

    "ไปตายซะ!"

    "ไม่"

    ....................................................

    "ชานมหวัดดี" เอกพงศ์ ยศเกียรติกุล ทักแฟนสาว มินตรา กิจวัฒนาวงศ์ คู่รักนักกีฬาที่คบกันมาตั้งแต่ ม.2 จนขึ้น ม.4 ก็ยังไม่เลิกกันอีก (ไรท์ป่าวแช่งนะ) ชานมนั่งรออยู่ก่อนที่ม้าหินอ่อนหน้าโรงยิม

    "ไงเอ็ม ทำการบ้านมาป่ะ"

    "ทำดิ ไม่ทำมาอีกแล้วเหรอ" เอ็มเอื้อมมือไปขยี้ผมสีครีมของแฟนสาวอย่างหมั่นไส้

    "ก็มันยากนี่นา เมื่อวานซ้อมซะดึกเลย เอาการบ้านมาลอกก่อน"

    "มีค่าตอบแทนมั้ยล่ะ"

    จุ๊บ

    "หอมแก้มแล้ว เอาการบ้านไปลอกได้"

    "ชอบให้ทำอะไรก็ไม่รู้"

    "แล้วเธอไม่ชอบเหรอ"

    "ไปไกลๆ คนจะลอกการบ้าน" (-////-)

    "หน้าแดงนี่"

    "หันไปเลย"

    "เออนี่ เธอได้ยินข่าวป่ะเด็กโรงเรียนเรานะ"

    "อ๋อ ได้ยินอยู่ น่ากลัวเป็นบ้า"

    "ไปลองดูกันป่ะ ได้ยินหลายคนพูดกันอยู่ว่าจะไปลองของที่นั่นกัน"

    "บ้า ไปทำไม อยู่ดีไม่ว่าดี ไม่เอาๆ กลัวผี"

    "ไปพิสูจน์ไง ว่าเราจะไม่ทิ้งเธอถ้าเกิดอะไรขึ้น"

    "พิสูจน์อย่างอื่นสิ"

    "เอาอันนี้แหละ อยากแกล้งชานมด้วย"

    "ไม่อาว~"

    "สัญญาๆ ว่าเราจะไม่ทิ้งเธอแน่"

    "แน่นะ" ชานมเงยหน้าจากสมุดการบ้านแล้วถามเสียงเบา

    "ลองดูสิ แล้วจะเห็นน้า"

    "อืม แต่ถ้าทิ้งเราบอกเลิกเลยนะ"

    "แน่นอนครับ"

    "ตกลง"



     

    ....................................................................



    ป.ล สอบถามผู้ปกครองของไททันกับฟาโรห์ก่อน ตกลงนี่จะไรท์จิ้นวายจริงๆ รึ ?? จะให้จิ้นจริงๆก็จิ้นได้นะ ไรท์สาววายอยู่แล้ว เอาคู่นี้ไปจิ้นเองเลือดกำเดาแทบกระฉูด -.,-
    ป.ล 2 ยังออกกันไม่ครบไรท์จนปัญญาเจ้าค่ะ เพราะเหตุผลมันก็เหมือนกันหมด คือไปลองของเพราะมันดูท้าทายดี แต่มีอยู่ไม่กี่คนที่ไรท์สนใจ คือ อเล็กซ์ พิม เคท เรกะ ไนท์ ไททัน ฟาโรห์ กัญญา 
    เพราะมันดูแปลกๆ ดี ไรท์ชอบของแปลก 555
    ป.ล 3 สำหรับผู้ปกครองบางท่าน ไรท์ขอเปลี่ยนนิสัยเล็กน้อยนะค่ะ เพราะมันนิสัยใกล้ๆ กันหมดเลย มันจะออกยากเน้อ โดยเฉพาะหนูขิม ขออนุญาตปรับเปลี่ยนนิสัยรักสันโดษนิดหน่อยนะค่ะ









    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×