ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Ghost...ลองของเฮี้ยน (ไรท์กลับมาแล้วยังจำกันได้มั้ย!!)

    ลำดับตอนที่ #17 : บทที่ 11 วินาทีระทึกขวัญ

    • อัปเดตล่าสุด 4 ธ.ค. 56


    BlackForest✿

    "ค่ะ ค่ะ ไม่เป็นไรค่ะ งั้นเดี๋ยวฉันจะไปสำรวจเองคนเดียวแล้วกันนะค่ะ ค่ะ รักษาตัวกันดีๆ นะค่ะ บายค่ะ" เด็กสาวผมสีชมพูซากุระกดวางสายโทรศัพท์ไปทันทีที่พูดจบ เธอถอนหายใจเล็กน้อย ก่อนจะแหงนหน้ามองนาฬิกาในห้องพัก ซึ่งบอกเวลา 18.00 น. แล้ว

    "กินข้าวเย็นเสร็จค่อยไปแล้วกัน" พิมวางโทรศัพท์มือถือไว้ที่เดิม แล้วนอนพลิกไปพลิกมาบนเตียงอย่างไม่มีอะไรทำ การบ้านง่ายๆ พวกนั้นก็ทำเสร็จไปหมดแล้วด้วย

    ไททันกับฟาโรห์เกิดอุบัติเหตุเล็กน้อยทำให้มาช่วยเธอสืบเรื่องของหวานต่อไม่ได้ ตอนนี้บอกว่าอยู่ที่โรงพยาบาล แต่เธอไม่เลื่อนวันหรอก เพราะถ้ายิ่งนานก็จะยิ่งมีคนตายเพิ่มอีกนะสิ

    พิมหยิบเสื้อคลุมฮู้ดตัวโปรดขึ้นมาแล้วสวมทับเสื้อยืดและหยิบกระเป๋าสตางค์กับโทรศัพท์มือถือมาใส่กระเป๋ากางเกงไว้ โดยไม่ลืมหยิบคีย์การ์ดห้องไปด้วย

    ห้องที่เธออยู่ค่อนข้างจะมีการรักษาความปลอดภัยดีพอสมควร เพราะมีระบบคีย์การ์ดและกล้องวงจรปิด มีห้องโถงขนาดใหญ่ที่ชั้นล่าง มีบริการชา กาแฟและอาหารทุกเมื่อปิดแค่ตอน 1.00 น. – 4.00 น. เท่านั้น และที่สำคัญราคาก็มากเท่ากับการบริการที่สะดวกสบายแบบนี้

    พิมไม่ลืมล็อคห้องของตัวเองก่อนจะเดินไปกดลิฟต์ เธอรอสักครู่ลิฟต์ก็มาเธอกดไปยังชั้นล่างซึ่งมีห้องโถงอยู่ หวังว่าจะกินข้าวสักจานก่อนจะไปสืบเรื่องของหวาน

    "สวัสดีครับคุณพาเมร่า วันนี้ต้องการอะไรมั้ยครับ" บริกรหรือบ๋อยทักเธอเหมือนเคย

    "อาหารชุดหนึ่งแล้วก็ชามะนาวแล้วกันค่ะ" พิมสั่งก่อนจะเดินไปนั่งที่โต๊ะริมกระจก เธอเขี่ยกระจกใสแล้วมองทอดสายตาไปยังถนนด้านหน้ามีผู้คนเดินขวักไขว่และรถรามากมาย

    ตู๊ด ตู๊ด ตู๊ด

    เสียงโทรศัพท์มือถือดังขึ้นทำให้พิมหลุดจากภวังค์ เด็กสาวเห็นเบอร์ที่คุ้นตาเลยกดรับไปอย่างไม่ลังเล

    "ว่าไง ชา"

    "ไงพิม ทำอะไรอยู่เหรอ ว่างหรือเปล่า" เสียงสดใสร่าเริงดังลอดออกมาจากโทรศัพท์

    "รอกินข้าวอยู่นะ" พูดมาเลยมีอะไรเหรอ

    "ไปเที่ยวกันม้า~"     

    "บ้าเหรอ จะไปเที่ยวที่ไหน นี่หกโมงแล้วนะ แถมฉันยังไม่ว่างด้วย"

    "ไปกันเถอะน่า คลายเครียดไงเล่า อเล็กซ์ฝากชวนมา 'เธอนั่นแหละบังคับ!' "เสียงของอเล็กซ์แทรกเข้ามาในบทสนทนาแว่วๆ แต่พิมก็ได้ยิน

    "ไปที่ไหนล่ะ" พิมถอนหายใจ

    "มีสวนสนุกกลางคืนเปิดใหม่อยู่ตรงซอย 74 ไปกันนะๆ " ชาทำเสียงอ้อนสุดฤทธิ์

    "แล้วเรื่องของ"

    "ลืมมันไปสักวันน่า คลายเครียดๆ อุตส่าห์จะพาไปเที่ยวให้หายคิดมากไง ผ่อนคลายสักวันก็ดีนะ Relaxๆ " ชาพูดแทรก

    "ก็ได้" พิมถอนหายใจพลางคิดว่าอุตส่าห์จะไม่เลื่อนวันแล้วเชียว

    "เย้ๆๆ จริงสิ ฉันชวนคนอื่นๆ ไปด้วยละ~"

    "ใครบ้างล่ะ" พิมถามแล้วหยิบแก้วชามะนาวที่พนักงานเข้ามาเสิร์ฟให้มาเขี่ยหยดน้ำข้างแก้วเล่น

    "ก็พวกที่เคยไปลองของด้วยกันนั่นแหละ ชวนไปหลายคนเลย แต่บางคนก็อยู่โรงพยาบาลไปไม่ได้กันนะ"

    "อืมๆ งั้นเจอกันกี่โมงล่ะ"

    "หกโมงครึ่ง ที่หน้าซอย 74 มาเร็วๆ นะ" ชาวางสายไปทันทีที่พูดจบ พิมแอบถอนหายใจเบาๆ ก่อนจะรีบจัดการอาหารตรงหน้าด้วยความเร็วที่น่าเหลือเชื่อ

     

    ............................................

     

    กลับไปเมื่อชั่วโมงก่อน ชานมกำลังนั่งร้อนใจอยู่หน้าห้องฉุกเฉินโรงพยาบาล ไททันกับฟาโรห์ที่ยังพอมีสติพาเอ็มมาส่งโรงพยาบาล ส่วนเธอก็ได้แต่ร้องไห้มาตลอดทาง ตอนนี้ทั้ง 2 คนแยกไปทำแผลแล้ว

    "ไม่เป็นไรนะชานม เอ็มจะต้องไม่เป็นไร" มีมี่บอกเบาๆ

    "ฮือฮือ แล้วถ้า ถ้า" น้ำตาของเด็กสาวนักกีฬาร่วงเผาะๆ ลงมาอีกครั้ง

    "เอ็มเขาเป็นคนดี บุญกุศลที่ทำมาคงจะช่วยยื้อชีวิตเขาได้ไม่มากก็น้อย ไม่เป็นไรน่ะ" มีมี่พยายามปลอบประโลม จนชายวัยกลางคนใส่แว่นกรอบหนาสวมชุดสีขาวเดินออกมาจากห้องฉุกเฉิน

    "คุณหมอค่ะ เอ็มเป็นยังไงบ้างค่ะ!" ชานมสะบัดตัวมาจากอ้อมกอดของเพื่อนอย่างรวดเร็ว แล้วถามเรื่องเด็กหนุ่มอย่างร้อนใจ

    "เพื่อนคุณไม่เป็นไรแล้วครับ เขาปลอดภัยแล้ว แต่คงไม่ได้สติไปอีกสักพัก พยายามอย่าปลุกคนไข้จะดีที่สุดนะครับ" คนเป็นหมอบอกยิ้มๆ แล้วเดินไปพักผ่อน

    ชานมกับมีมี่จึงรีบไปเยี่ยมเอ็มที่ห้องผู้ป่วยพักฟื้น จะอะไรก็ไม่ทราบแต่กัญญานอนอยู่ที่เตียงข้างๆ พอดี

    "อ้าว พวกยูที่ไปลองของด้วยกันวันนั้นหรือเปล่า" อาริเซียที่กำลังอ่านหนังสืออาวุธหันมามอง มีเคนั่งหลับอยู่ข้างๆ

    "ใช่ค่ะ" ชานมพยักหน้า ก่อนจะไปนั่งลงข้างๆ เตียงของเอ็ม ที่มีผ้าพันแผลอยู่รอบตัวดูราวกับมัมมี่ มีเครื่องอะไรไม่รู้ติดระโยงรยางค์ไปหมด

    "เอ็มปลอดภัยก็ดีแล้วล่ะ" มีมี่พูด กัญญาเองก็เหลือบไปเห็นสายตาของมีมี่ที่มองชานมกับเอ็ม ซึ่งทำเอาเด็กสาวขนลุกซู่ แล้วบีบตุ๊กตาตัวเองแน่น

    "เด็กคนนี้.." กัญญากลืนน้ำลายดังเอื้อกเพราะไม่กล้าพูด และพูดไม่ออก

     

    ..........................................

     

    "พีมมมมมมมมม~~~~~~" เสียงเจื้อยแจ้วของชา เรียกความสนใจจากพิมและคนรอบตัวได้เป็นอย่างดี ทุกสายตาหันมามองชาเป็นตาเดียว แต่เด็กสาวร่างสูงกลับไม่ใส่ใจเลยด้วยซ้ำ

    สวนสนุกนี้ เป็นสวนสนุกกลางคืนเพิ่งเปิดเป็นวันแรก อนุญาตให้เข้าเล่นเครื่องเล่นฟรี 1 วัน เปิดบริการตั้งแต่ 17.00 น. – 05.00 น. เลยทีเดียว สวนสนุกนี้เป็นสวนสนุกที่น่าสนใจมากสำหรับเด็กวัยรุ่น เพราะสวนสนุกล้วนเปิดแต่กลางวันเท่านั้น ทำให้แม้เพิ่งเปิดวันแรกก็มีคนมาอย่างอุ่นหนาฝาคั่งจนแทบจะเหยียบกันตาย

    และไฮไลท์ของที่นี่คือ ชิงช้าสวรรค์ที่สูงเกือบเท่าตึก 10 ชั้น รองลงมาคือ รถไฟเหาะสยองขวัญ เครื่องเล่นทั้งสองอย่างนี้มีคนต่อคิวรอเป็นสิบๆ คิว เรียกว่ารอจนรากงอกเลยทีเดียว แต่เมื่อได้เล่นแล้วก็ถือว่าคุ้มมาก และที่สวนสนุกแห่งนี้เปิดกลางคืน ทำให้มีไฟหลายสีสันเปิดประดับประดาทั่วงานราวกับทะเลแสง จะมีการจุดพลุทุกๆ เที่ยงคืน โชคดีที่มันตั้งอยู่ไกลบ้านคน ไม่อย่างนั้นคงโดนฟ้องเละกันไปหมด

    คนที่ชาชวนมาก็ล้วนแล้วแต่คุ้นหน้าคุ้นตา อย่างไนท์ที่กำลังทำท่าเหมือนพูดอยู่คนเดียว เรกะที่กำลังคุยโทรศัพท์กับทางบ้านเพราะมาเที่ยวกลางคืนเป็นครั้งแรก ขิมที่ยังตื่นไม่เต็มตาเท่าไหร่ อาเรียที่ยังอุตส่าห์มากับเขาด้วย วินที่กำลังยืนดูดอมยิ้มรูปก้นหอยอยู่เงียบๆ เคทที่กำลังทำท่าปวดหัวเพราะไม่ชอบเสียงดังๆ และความวุ่นวาย อเล็กซ์ก็กำลังกดโทรศัพท์เล่นอยู่ ชาก็มีทีท่ากระตือรือร้นอย่างเห็นได้ชัด

    "พวกที่เหลืออยู่โรงพยาบาลกันนะ น่าเสียดายจัง" ชาครางในลำคอ

    "มากันแค่นี้ก็เยอะแล้วนะ" เคทพูดพลางนวดขมับตัวเองที่เริ่มปวดหนึบ

    "ไปเล่นเครื่องเล่นกัน~" ชาตะโกนเสียงใสเหมือนเด็กๆ กลุ่มของชาจึงเดินไปต่อคิวเครื่องเล่นหนึ่งก่อนจะโดนฝูงชนกลืนหายไปจนมองไม่เห็นอีกเลย

    "ตกลงหวานมาที่นี่แน่นะ" ไนท์ถามเกศย้ำ

    "แน่ยิ่งกว่าแช่แป้ง" เกศตอบด้วยเสียงสั่นนิดๆ

    "แล้วหวานจ้องเล่นงานใครเป็นพิเศษหรือเปล่า" ไนท์ถาม

    "ไม่มีค่ะ เพราะจ้องเล่นงานทุกคนเท่ากัน" เกศตอบคำถามที่ชวนให้ไม่สบายใจกว่าเดิม

    "ไนท์พูดอะไรอยู่คนเดียวนะ" ขิมหันมาสะกิด

    "งั้นหนูปรากฏตัวก็แล้วกันค่ะ จะได้ช่วยสังเกตพี่หวานด้วย" เกศดีดนิ้วครั้งเดียว ก็ปรากฏตัวขึ้นมาท่ามกลางความว่างเปล่า แต่ลักษณะตัวและใบหน้าแตกต่างจากเดิมเล็กน้อย เพราะเกศไม่อยากให้หวานจำได้เท่าไหร่ แล้วเปลี่ยนตุ๊กตาผมทองให้กลายเป็นตุ๊กตาหมีธรรมดา

    "เอ๋ เกศ ทำไม่ยังอยู่ ไม่ใช่ขึ้นสวรรค์ไปแล้วเหรอค่ะ!" เรกะหันมาถาม

    "เรื่องมันยาวนะค่ะ เอาเป็นว่าพี่หวานเข้ามาปะปนในงานนี้ด้วย ต้องรีบหาตัวพี่หวานก่อน" เกศรีบบอก

    "ยัยผีนั่นนะเหรอ!" ขิมสะดุ้งสุดตัว แค่เจอในฝันก็ว่าน่ากลัวแล้ว เจอในโลกแห่งความจริงนั้นอาจจะน่ากลัวยิ่งกว่า

    "เพราะงั้นรีบช่วยกันตามหายัยผีนั่นก่อนเถอะ" ไนท์บอกแล้วทุกคนก็พยักหน้า รวมถึงอาเรียและวินที่แอบยืนฟังอยู่ห่างๆ ด้วย

     

    ...............................................

     

    23.51 น. บรรยากาศเริ่มครึกครื้นขึ้น แสงสีในงานสว่างไสว แต่คิวเครื่องเล่นยังยาวเหมือนเดิม อากาศที่เริ่มเย็นขึ้นทำให้ทุกคนมีกำลังใจจะต่อคิวมากขึ้นหน่อย

    "ทำไมฉันต้องขึ้นกับนายด้วย!" ชาโวยแว้ดๆ ขึ้นมาทันที เมื่อชิงช้าสวรรค์ที่อุตส่าห์ต่อคิวรอมานานสองนาน ต้องขึ้นคู่กับอเล็กซ์

    "ช่วยไม่ได้นี่ ใช่ว่าผมอยากจะขึ้นกับชานักหรอก" เขายักไหล่พลางถอนหายใจ ก่อนหน้านี้พิมขึ้นคู่ไปกับเคทเรียบร้อยแล้ว ทำให้เขาต้องคู่กับชาอย่างไม่มีทางเลี่ยง

    "ฉันไม่อยากต่อคิวใหม่หรอกนะ ถึงยอมขึ้นกับนาย" ชากระฟัดกระเฟียดแล้วเข้าไปในชิงช้าสวรรค์ และมีเด็กหนุ่มตามไปอีกที

    "สวยดี" อเล็กซ์มองวิวแล้วพูดขึ้นมาลอยๆ ชาที่กำลังหงุดหงิดอย่างไม่ค่อยมีเหตุผลเริ่มสนใจขึ้นมา แล้วมองลอดกระจกออกไปข้างนอก

    วิวทิวทัศน์ยามค่ำคืนสวยใช่เล่น บ้านเรือนกลายเป็นสีดำสนิท แต่ถูกแต่งแต้มด้วยสีสันต่างๆ มีไฟหลายดวงวูบไปวูบมาให้รู้ว่านั่นเป็นรถ ท้องฟ้ามีเมฆเล็กน้อยแต่พระจันทร์ครึ่งดวงยังคงทอแสงที่มันได้รับจากพระอาทิตย์มาอย่างต่อเนื่อง ดวงดาวเล็กๆ ไม่กี่ดวงยังคงทอแสงแข่งกับดวงจันทร์ทั้งๆ ที่มันก็รู้ว่าไม่อาจจะทอแสงเท่าดวงจันทร์ได้ก็ตาม

    "ว้าว~ สวยมากเลย" โชคดีจังที่มา ชาร้องอย่างลืมตัว ความหงุดหงิดหัวเสียหายไปจนหมด

    "ดูนั่นสิ" อเล็กซ์ชี้ไปทางภายในสวนสนุก ซึ่งเมื่อมองจากข้างบนแบบนี้แล้ว ก็เห็นได้ว่าเครื่องเล่นต่างๆ ที่ใกล้ๆ ดูเป็นรูปทรงพิลึกๆ แต่พอเปลี่ยนมุมมองกลับดูสวยขึ้นมาทันที เครื่องเล่นบางอันเหมือนรูปหัวใจ บางอันก็เป็นรูปดาวแปดแฉก หรือเครื่องเล่นเล็กๆ ต่อกันเป็นตัวอักษรย่อของสวนสนุก ชาถึงกับมองเพลินเลยทีเดียว

    จนเมื่อชิงช้าของพวกเขามายังจุดที่สูงที่สุด มันก็หยุด ซึ่งจะหยุดเป็นเวลา 1.30 นาที เพื่อให้คนข้างบนได้ถ่ายรูปและชมวิวที่สูงเท่าตึก 10 ชั้น

    "อเล็กซ์นายดูนี่สิ ดาวนั่นใช่ดาวเหนือมั้ยอ้ะ" ชาชี้ไปยังเพดานกระจกโปร่งใส

    "ใช่แล้ว ถ้าบ้านเราเหมือนเมืองนอกมันจะเป็นกลุ่มดาวราศีธนู และเป็นรูปคนถือธนู" อเล็กซ์อธิบายพลางใช้โทรศัพท์มือถือถ่ายรูปวิว

    "นี่ๆ ถ่ายรูปฉันบ้างสิ" ชาทำท่างอนแก้มป่อง เมื่อเขาสนใจแต่วิว

    "ก็ได้ๆ เอ้า ยิ้ม" อเล็กซ์เล็งกล้องไปยังเด็กสาวที่นั่งฉีกยิ้มชู 3 นิ้ว (ไม่ผิดหรอก 3 นิ้วจริงๆ)

    กึง

    ชิงช้าสวรรค์ของพวกเขาไหวอย่างแรง จนชาใจหายวูบแล้วรู้สึกเหมือนโลกเอียง แต่ก่อนที่จะไถลตัวไป อเล็กซ์ก็พยุงตัวเธอไว้ได้ทัน

    กึง

    ชิงช้าสวรรค์ของพวกเขาสั่นอีกครั้งมากกว่าเดิมจนน่ากลัว อเล็กซ์กอดไหล่เด็กสาวข้างตัวแน่น

    ชาหันไปมองนอกชิงช้าสวรรค์แวบหนึ่ง เด็กสาวเหมือนเห็นอะไรบางอย่างสีดำๆ ลอยผ่านไป ก่อนที่ดวงตาสีฟ้าจะไร้แววแล้วนั่งเหม่อลอย

    กึง

    ชิงช้าสวรรค์ไหวอีกครั้งจนเด็กหนุ่มร่างสูงได้ยินเสียงกรีดร้องมาจากกระเช้าข้างๆ และได้ยินเสียงกรี๊ดที่สนั่นหวั่นไหวมากขึ้น เมื่อประตูชิงช้าสวรรค์เปิดออกเองกลางอากาศ

    "ชา! ชา!! ชา!!!" อเล็กซ์ร้องเสียงดังลั่น เมื่อเด็กสาวข้างตัวสลัดเขาออกแล้วเดินไปทางประตูอย่างเหม่อลอย

    "ยัยบ้า เสียสติไปแล้วเหรอ!!!" อเล็กซ์รีบคว้ามือชาไว้ เมื่อขาข้างหนึ่งของหญิงสาวก้าวพ้นประตูไปแล้ว

    "เอ๊ะ อเล็กซ์ฉัน" ชาหันมามองเขาเหมือนจะได้สติ แต่ชิงช้าสวรรค์กลับสั่นไหวอีกครั้ง ทำให้เด็กสาวร่างสูงเสียการทรงตัวและร่วงไปยังอากาศธาตุเบื้องล่าง

    "กรี๊ดดดดดดดดดดด!!!!!!!!!!!!" เสียงกรี๊ดของชาปนเปกับเสียงกรี๊ดของทุกคนที่เห็นชาร่วงจากกระเช้าชั้นบนสุด

    "จับดีๆ นะยัยบ้า รอดจากนี่ไปได้ เธอตายแน่" อเล็กซ์คำราม มือของเขาจับมือที่เย็นเฉียบของชาไว้แน่น อีกมือก็จับขอบประตูไว้ และเขาก็เตะโทรศัพท์เครื่องใหม่ของตัวเองกระเด็นเมื่อมันหล่นมากระแทกข้อเท้าเขาจนเขาสะดุ้งเกือบจะปล่อยมือ

    "นายทำบ้าอะไรนะ พึ่งซื้อมาไม่ใช่เหรอ" ชาตั้งคำถามทั้งที่ตัวยังลอยอยู่

    "ตอนนี้เธอสำคัญกว่านะยัยบ้าเอ๊ย!" อเล็กซ์ตอบอย่างหงุดหงิดเมื่อชาถามไม่เข้าเรื่อง

    "อเล็กซ์จับไว้แน่นๆ นะ เดี๋ยวทางเจ้าหน้าที่จะส่งคนมาช่วย!" เสียงของพิมดังขึ้นมาจากกระเช้าข้างๆ

    "รู้แล้วน่า" อเล็กซ์กัดฟันกรอด เพราะมือที่เย็นเฉียบของชาเริ่มมีเหงื่อซึมทำให้มือลื่นกว่าเดิม

    "นี่ถ้าฉันตกลงไป ศพฉันจะสวยมั้ยอ้ะ" ชาถามอย่างไม่รู้เวลา

    "ใครเขาให้ถามในเวลาแบบนี้กันเล่า"

    "ก็ฉันต้องตายไง" ชาพูดด้วยน้ำเสียงเรียบเฉย แวบหนึ่งอเล็กซ์เหมือนเห็นหวานในแววตาของชา

    เขาไม่อยากจะเชื่อเท่าไหร่ แต่สิ่งที่เขาเจอมันก็พิสูจน์มาแล้วนี่ ทั้งท่าทางเหม่อๆ ลอยๆ จู่ๆ ก็เดินออกมาตรงประตูที่เปิดอยู่ แล้วยังมีอารมณ์มาถามโน่นนี่เขาอย่างใจเย็น แทบจะร้อยเปอร์เซ็นต์ว่า ชาถูกหวานสิงอย่างแน่นอน

    "รวมทั้งนาย ก็ต้องตายด้วยกัน" ชาแสยะยิ้มเย็นๆ ให้เขา พร้อมกับกำมืออเล็กซ์แน่น

    "บ้าชิบ!" อเล็กซ์เผลอสบถออกมา

     

    ....................................................

     

    "เร็วๆ ค่ะ พี่หวานอยู่นั่น" เกศรีบวิ่งในแบบมนุษย์มาทางชิงช้าสวรรค์ ไนท์ก็รีบแหวกฝูงชนที่มุงดูอยู่อย่างหวาดเสียวกับเด็กสาวเข้ามาใกล้ด้วยเช่นกัน

    "นั่นไงค่ะ!" เกศแตะแขนไนท์ ทำให้เขาได้เห็นว่ามีหวานซ้อนทับอยู่กับร่างของชา

    "เด็กคนนั้นถูกสิงงั้นเหรอ!" ไนทร้องถาม

    "ใช่ค่ะ หนูรู้สึกได้ คงกะจะให้ตายทั้งคู่" เกศคำนวณดูสถานการณ์และลักษณะของชาแล้ว เพราะร่างของชากำมืออเล็กซ์ไว้แน่น ถ้าเกิดเขาล้าเมื่อไหร่ คงได้หล่นไปกันทั้งคู่

    "ทางเจ้าหน้าที่เขาคงพยายามหาวิธีช่วยอยู่" ขิมพูดแล้วมองเจ้าหน้าที่ที่ปีนโครงเหล็กชิงช้าสวรรค์อยู่ แต่ความสูงเท่าตึก 10 ชั้นแบบนี้ คงจะอีกนานกว่าจะถึงตัวชากับอเล็กซ์

    "แล้วจะทำยังดีค่ะ!" เรกะเดินมาสมทบ

    "ก่อนอื่นคงต้องให้พี่หวาน ออกจากร่างของพี่คนนั้นก่อน ถ้าอย่างนั้น พี่คนนั้นคงจะตายแค่คนเดียว" เกศพูดอย่างไม่รู้ร้อนรู้หนาว

    "แล้วไม่มีวิธีจะช่วยทั้งคู่เหรอค่ะ" เรกะถาม

    "ไม่มี" เกศตอบมาเสียงเรียบและจริงจัง

     

    ......................................................

    ป.ล อีไรท์มาอีกแล้ว แวะมาเสิร์ฟความหลอนก่อนวันพ่อจ้าาา

    ป.ล 2 ตอนนี้เป็นตอนพิเศษ อยากให้ทุกคนลองคิดวิธีช่วยชากันหน่อย เพราะอีไรท์มันคิดไม่ออก เหอๆๆ ถ้าคิดไม่ออก ก็ไม่เป็นไร ถามดูเล่นๆ แต่ถ้าไม่มีใครเสนอวิธีที่จะช่วยชาขึ้นมาเลยสักวิธี หนูชาตายแน่ค่ะ บอกแค่นี้แหละค่ะ บะบาย

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×