ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Cutthroat wraith

    ลำดับตอนที่ #4 : รอยเลือดที่ 2 ตำรวจและผีดูดเลือด

    • อัปเดตล่าสุด 27 ธ.ค. 55


                 “คุณหนูริน ทำไมมีเลือดเต็มพื้นไปหมดล่ะครับ”เดลเดินเข้ามาในโรงเรียน

    “สะ...สไวป์ เขาปาดคอตัวเอง...”รินเงยหน้าขึ้นมามองเดล “เขา...”

    “พอแล้วครับ ไม่ต้องพูดแล้วนะ ผมจะพาไปขึ้นรถ ให้เจ้าหน้าที่กลับบ้านนะครับ”เดลกล่าว “พวกนายเก็บกวาดให้เรียบร้อย”เขาหันไปสั่งตำรวจคนอื่นๆ “คุณหนูยืนไหวไหมครับ”รินพยักหน้าเบาๆ

     

    “ฮึ่ย! ไอ้พวกตำรวจพิเศษพวกนี้มาทำไมว่ะ”สไวป์สบถ “ลูซ กลับบ้านกัน”สไวป์เบนสายตาจากลานหน้าโรงเรียน

    “อืม”เสียงหญิงสาวดังขึ้น สไวป์ จะทำยังไงกับเด็กคนนั้นดีล่ะเธอกล่าว

    ลูซ เธอเชื่อใจฉันไหม ถ้าเชื่อก็ไม่ต้องคิดมาก ฉันยังเป็นของเธอสไวป์บอกแล้วกระโดดลงจากดาดฟ้าก่อนจะวิ่งไปทางหลังโรงเรียน ลูเซียลอยตามหลังสไวป์ไป เมื่อถึงเวลา ฉันจะฆ่ายัยนั่นเอง

    เข้าใจแล้ว...ลูเซียกล่าวเบาๆ

    อย่าทำเสียงแบบนั้นซิ ลูซสไวป์หยุดเดิน เธอเป็นถึงสตรีผู้สูงศักดิ์เชียวนะ อย่าลดตัวมาเกรงใจผีดูดเลือดอย่างฉันเลย หยิ่งทระนงแบบคราวก่อนไว้ซิสไวป์หันมามองวิญญาณสาวผมฟ้าในชุดลูกสาวขุนนางอังกฤษ เธอยิ้มน้อยๆให้สไวป์ “!?!”สไวป์หันไปมองพุ่มไม้ใกล้ๆ ลูซ...ไปดูแถวนั้นซิสไวป์กระซิบ ลูเซียลอยไปสำรวจพุ่มไม้อย่างรวดเร็วก่อนจะพยักหน้าเบาๆ สไวป์กระโดดข้ามกำแพงเข้าไปในป่าหลังโรงเรียน บุคคลหลังพุ่มไม้ลุกขึ้นยืนแล้วหยิบวิทยุขึ้นมาว.บอกปลายสายของเขา ลูเซียมองนายตำรวจอยู่ครู่หนึ่งแล้วรีบไปหาสไวป์ ใคร?สไวป์ถามเมื่อเขารู้สึกได้ว่าลูเซียตามเขามาแล้ว

    ตำรวจ... สไวป์พวกเขาสงสัยเธอแล้วซินะหญิงสาวกล่าว

    กฎหมายพวกนั้น มันทำอะไรฉันไม่ได้หรอกสไวป์บอก จะต้องขังกี่ปี หรือประหารชีวิต มันก็ใช้กับฉันไม่ได้หรอกสไวป์เดินทะลุป่ามาจนถึงถนนสายเล็กๆ ลูซ กลับไปก่อนแล้วตามคาซมาหาฉันด้วยสไวป์สั่ง ลูเซียหายไปจากตรงนั้นแทบจะในทันที ตามมาทำไมเหรอครับ คุณตำรวจชายในชุดตำรวจเดินออกมาจากป่าหลังโรงเรียน

    คุณหนูริน บอกว่าเธอปาดคอตัวเองเขากล่าว ฉันคิดว่าคุณหนูไม่น่าพูดโกหก แต่ทำไมเธอ...สไวป์หันมามอง

    คุณหนูริน... ยัยนั่นเป็นลูกคนมีตังหรอกเหรอสไวป์พูด ไม่แปลกเลยที่ยัยนั่นพูดแต่คำสุภาพๆสไวป์แสยะยิ้ม เอ๊ะ ตะกี้คุณตำรวจพูดว่าอะไรนะ ผมปาดคอตัวเองใช่ไหม?สไวป์ถามด้วยน้ำเสียงกวนประสาท นายตำรวจพยักหน้า ถ้าใช่ แล้วคุณตำรวจจะทำไมเหรอครับ"

    เธอ...เดลมองเสื้อที่เปื้อนเลือด ถ้าใช่ ฉันก็จะพาเธอไปโรงพยาบาล

    ไม่จำเป็นเสียงเด็กหนุ่มอีกคนดังปนมากับเสียงสไวป์ ทำเอาเดลสะดุ้งเฮือก สไวป์ไม่จำเป็นต้องไปโรงพยาบาลเสียงของคาซนั้นเย็นยะเยือก

    ถ้าอย่างนั้นฉันขอดูแผลหน่อยเดลกล่าว

    ไม่มีหรอก แผลที่ว่านั่นน่ะสไวป์บอกแล้วหันหลังกลับ ถ้าไม่มีธุระอะไรแล้วผมขอตัวล่ะสไวป์บอกแล้วเดินไปตามถนน

    เธอยังไปไหนไม่ได้!!”เดลกล่าว สไวป์หยุดเดิน ฉันยังมีอีกคำถามจะถามเธอสไวป์หันหน้ามองเดลแล้วบุ่ยปากเล็กน้อย เธอฆ่าพวกเขารึเปล่าเดลลดเสียงตรงคำว่าฆ่า

    ฆ่าพวกเขา? ใครเหรอครับ พวกเขาที่คุณว่าน่ะสไวป์ถาม เดลค่อยๆสังเกตหาพฤติกรรมที่ผิดปกติของเด็กหนุ่ม ว่ายังไงล่ะครับ คุณตำรวจพิเศษสไวป์เน้นคำว่าพิเศษแล้วฉีกยิ้มแบบเด็กใสซื่อ เดลจ้องหน้าสไวป์ด้วยความสงสัย อาวุธลับเฉพาะของกองกำลังพิเศษภายใต้การบังคับบัญชาของอธิบอดีกรมตำรวจแห่งราชอาณาจักรไทยสไวป์หยิบปืนสีดำสนิทออกมาจากซองปืนที่ซ่อนอยู่ใต้เสื้อคลุม

    เธอกำลังพูดเรื่องอะไรเดลพูด

    ถ้าคุณอยากรู้ว่าผมฆ่าพวกเขาจริงๆรึเปล่า ก็ล้มผมให้ได้ซิปากกระบอกปืนเล็งเป้าที่หน้าผากของเดล

    เธอ...เดลกำลังเอ่ยคำพูด สไวป์ก็ลั่นไกปืนแล้ว เดลจึงต้องก้มหลบกระสุนปืนก็คว้าปืนที่อยู่ในซองปืนข้างตัว รีบบอกความจริงมา...เดลยกปืนขึ้นมา แกร๊ก สไวป์ยืนอยู่ข้างหน้าเดลพร้อมกับเล็งปากกระบอกปืนมาจ่ออยู่ที่หน้าผากของเดล

    คุณล้มผมไม่ได้หรอกสไวป์บอกก่อนเก็บปืนเข้าซอง ส่วนความจริง...สไวป์หันหลังแล้วเดินกลับไปที่เดิมก่อนหันหน้ามาบอกประโยคสุดท้าย สืบหากันเอาเองซิ

     

    กลับมาแล้วสไวป์เดินเข้ามาในบ้าน เขาโยนซองปืนลงบนโซฟานุ่มๆก่อนที่ตัวเขาเองจะทิ้งตัวลงนอนบนโซฟาสีแดงตัวโปรด ร่างวิญญาณของลูเซียปรากฎให้เห็นจางๆ เธอลอยเข้ามาใกล้สไวป์ก่อนนั่งลงบนพื้นข้างๆโซฟาสีแดง ลูซ ไม่ได้เห็นหน้าเธอชัดๆตั้งนานเลย...สไวป์เอื้อมมือไปจับแก้มลูเซีย เมื่อกี้แสงแดดทำให้ฉันเกือบมองไม่เห็นร่างเธอเลยนะ

    ฆ่าอีก สไวป์ เพื่อพวกเขาเสียงปริศนาที่บอกไม่ได้ว่าเป็นชายหรือหญิงดังขึ้นมาในโสตประสาทของสไวป์ ฉันอยู่ใกล้ๆเธอเสมอ...

    หลับซะนะ สไวป์ลูเซียลูบหัวสไวป์เบาๆ สไวป์ค่อยๆหลับตาลง

    เกิดอะไรขึ้น ลูซเสียงชายวัยกลางคนดังขึ้น ทำไมสไวป์ถึงดูเหนื่อยล้าแบบนี้ลูเซียเงยหน้าขึ้นมามอง

    สไวป์ฆ่าตัวตายอีกแล้วน่ะลูเซียกล่าว ชายวัยกลางคนถอนหายใจดังเฮือก คาซแล้วตะกี้เกิดอะไรขึ้นบ้างลูเซียหันไปถามร่างวิญญาณเด็กหนุ่มที่นั่งกินซากศพของเมื่อวานอยู่ตรงบันได

    ก็แค่ขู่ตำรวจนิดหน่อยคาซละสายตาจากซากศพในมือ แต่ตำรวจนั่นไม่กลัวเลยคาซบุ่ยปาก ทั้งๆที่ยิงปืนขู่แล้วนะ น่าจะตกใจกลัวหน่อย ทำหน้าเหวอหน่อยก็ได้คาซฉีกเนื้อออกมากิน ยังทำหน้าจริงจังอยู่ได้อีก แปลกคน

    ก็เขาเป็นตำรวจนี่ฮะเสียงเด็กผู้ชายดังขึ้น

    มาอีกแล้วลูเซียกับคาซพูดพร้อมกัน สไวป์เพิ่งจะได้พักผ่อนเองลูเซียหันมามองสไวป์ที่หลับอยู่

    ฉันจัดการเองเสียงปริศนาดังขึ้น ก่อนร่างของเสียงปริศนาจะปรากฏขึ้น ไม่มีใครสามารถเห็นร่างจริงๆของเขาได้เพราะผ้าคลุมสีดำสนิทนั้นคลุมทั้งตัวเขาและฮู้ดสีดำซึ่งปิดครึ่งหน้าด้านบน ตำรวจคนนั้นซินะ ลูเซีย...เสียงของผู้หญิงและผู้ชายปนกันให้มั่วไปหมด ลูเซียพยักหน้าเบาๆ เขาเดินไปที่ประตูบ้านแล้วเดินทะลุออกไปเหมือนประตูไม่ได้อยู่ตรงนั้น นัยน์ตาสีแดงมองไปรอบๆ อย่าซ่อนตัวอยู่เลย คุณตำรวจเสียงผู้หญิงดังขึ้นมาแล้วตามด้วยเสียงของผู้ชาย

     

    นายขี้โกง...เสียงของอัดดังขึ้นในโสตประสาทของสไวป์ ขี้โกงเหมือนพ่อของอรินดาเลย... ขี้โกง...

     

    นายตำรวจหนุ่มเดินออกมาจากมุมอับสายตา “คุณเป็นใคร ทำไมเดินออกมาจากบ้านหลังนั้น”เดลเอ่ยถาม เจ้าของนัยน์ตาสีแดงเอียงศีรษะเล็กน้อยก่อนแสยะยิ้ม

    “ปีศาจ...คิกคิก”เจ้าของนัยน์ตาสีแดงกล่าวออกมาเป็นเสียงผู้หญิง “คุณเชื่อไหมล่ะ”น้ำเสียงที่กล่าวออกมานั้นเต็มไปด้วยความขี้เล่นและความจริงจังปนกันไปเหมือนเสียงของผู้ชายและผู้หญิงที่ดังออกมาจากปากของบุคคลปริศนา เดลจ้องบุคคลปริศนาตาไม่กระพริบ “รองหัวหน้ากองกำลังพิเศษ เดล~”เสียงของผู้หญิงและผู้ชายหัวเราะอย่างมีความสุข

    คุณ...เดลกัดฟันกรอด

    มาตามสืบเรื่องของหนุ่มน้อยสไวป์เหรอเสียงของผู้หญิงดังขึ้นมามากกว่าเสียงผู้ชาย ไม่ได้นะ เด็กคนนี้เป็นของฉัน อย่ามายุ่งเจ้าของนัยน์ตาสีแดงพูดเน้นคำว่า อย่ามายุ่ง ด้วยเสียงเย็นๆ นายตำรวจขยับมือไปด้านข้างเพื่อคว้าเอาปืนที่อยู่ในซองปืนซึ่งซ่อนอยู่ใต้เสื้อนอกมาป้องกันตัว อย่าคิดแม้แต่จะจับปืนขึ้นมาเชียวนะร่างปริศนามายืนอยู่ข้างหลังนายตำรวจ นายตำรวจหันมามอง ผัวะ เรียวแขนขาวฟาดเข้าที่หน้าของนายตำรวจอย่างแรง คิกคิก...ริมฝีปากสีชมพูระเรื่อแสยะยิ้ม

    คุณ...เป็น...เดลพูดก่อนล้มลงไปนั่งกับพื้น

    ไม่ได้ใช้กายหยาบมานานเลยรุนแรงไปหน่อย โทษทีนะเรียวแขนขาวขยับไปมาเบาๆ กะแรงไม่ถูกเลยเจ้าของนัยน์ตาสีแดงกล่าว เดลลูบหัวตัวเองเบาๆแรงฟาดตะกี้ทำให้เขาวูบไปชั่วครู่

    คุณ...เป็น ผู้...หญิง...นายตำรวจพูด

    แค่ฟังเสียงยังไม่รู้อีกรึไงเสียงของผู้ชายและผู้หญิงปนกันไปหมด ใบหน้าใต้หมวกตำรวจ น่ารักใช้ได้เลยนี่เธอโน้มตัวมามองใบหน้าขาวใสของนายตำรวจ รอยแดงที่เกิดจากแรงฟาดของเจ้าของนัยน์ตาสีแดงประทับอยู่บนแก้มซ้ายของเดล เลิกเป็นตำรวจแล้วมาเป็นนักฆ่าให้ฉันดีกว่าไหมเธอกล่าว ว่าไง

    นักฆ่าให้คุณ... เด็กนั่นเป็นนักฆ่าอย่างนั้นซินะเดลขยับแว่นกรอบสี่เหลี่ยมสีเงินของเขา นัยน์ตาสีน้ำเงินหม่นๆจ้องนัยน์ตาสีแดงเขม็ง เจ้าของนัยน์ตาสีแดงนั่นคลี่ยิ้มบางๆ

    คิดเอาเองซิ คุณตำรวจสิ้นเสียงบุคคลใต้ผ้าคลุมก็หายไป ทิ้งไว้เพียงผ้าคลุมสีดำที่กองอยู่บนพื้น

    เธอกับเด็กคนนั้นเป็นอะไรกันแน่เดลมองผ้าคลุมผืนนั้น

     

    เกิดอะไรขึ้นเสียงของผู้หญิงกับผู้ชายดังขึ้นปนกัน ข้าวของในคฤหาสน์ถูกรื้อกระจุยกระจาย สไวป์อยู่ไหน!”เธอตะโกนถาม แต่ไม่มีเสียงใดตอบกับมา ลูซ คาซเธอตะโกนเรียก วินซ์ อยู่ไหนกัน

    หลบก่อนเถอะ...เสียงชายวัยกลางคนดังขึ้น

    บาธ... กึง เสียงอะไรบางอย่างดังขึ้นด้านหลังเธอ หิวเหรอ สไวป์เธอกล่าวเบาๆ มาม่ะ เด็กน้อยเธอเผยร่างมนุษย์ผู้หญิง นัยน์ตาสไวป์ที่เคยเป็นสีทองตอนนี้เปลี่ยนเป็นสีแดงฉานที่สว่างวาบในที่มืด หญิงสาวผมเงินยืนกางแขนเชื้อเชิญให้สไวป์เข้ามา มากินเลือดเร็ว เด็กดีสไวป์เดินออกจากห้องครัว และเดินไปหาหญิงสาวอย่างช้าๆ เขี้ยวสีขาวคมกริบกัดเข้าที่ต้นคอของหญิงสาว นั่นล่ะๆ ดื่มเข้าไปเยอะๆหญิงสาวกอดคอสไวป์และกดหัวสไวป์ไม่ยอมให้เด็กหนุ่มถอดเขี้ยว สไวป์สำลักเลือดจนต้องผลักหญิงสาวออกไป

    เธอ...สไวป์พยายามมองหน้าหญิงสาวผมเงินก่อนที่จะสลบไป

    เฮ่อ...เดือนนี้มันช่างวุ่นวายจริงๆร่างของหญิงสาวค่อยๆสลาย ฉันอยู่ในร่างมนุษย์นานเกินไปแล้ว...เธอกล่าวพึมพำกับตัวเอง บาธ เด็กๆหายไปไหนเธอหันไปถามวิญญาณร่างจางๆในมุมมืด

    หนีสไวป์กันน่ะซิ อีกซักพักคงกลับมาบาธกล่าว กัดแขนลูซ สูบพลังงานซะจนลูซกลับมาเป็นวิญญาณจางๆเหมือนฉันหญิงสาวส่ายหน้าเบาๆ

    “ไปตามกลับมาซะ บาธ”เธอสั่ง “เดี๋ยวเรื่องพลังงานของลูซฉันจัดการเอง”วิญญาณจางๆลอยขึ้นไปบนเพดานทะลุเพดานของชั้น 3 ไป “เพราะเด็กผู้หญิงคนนั้นซินะ...”

     

    เดลหยิบหมวกตำรวจขึ้นมาสวม “ฉันจะตามสืบเรื่องทั้งหมดให้ได้”เดลหันไปมองคฤหาสน์หลังใหญ่ก่อนจะก้มลงไปหยิบผ้าคลุมสีดำที่บุคคลปริศนาทิ้งไว้ ผ้าคลุมสีดำกลายเป็นขี้เถ้าแล้วปลิวไปตามลม “ไม่ยอมให้เก็บไปสืบหาซินะ”เขามองเศษขี้เถ้าที่กำลังปลิวว่อน ผมสีดำสนิทของเขาขยับไปมาตามแรงลมของพายุในฤดูฝน “สไวป์...เจ้าเด็กประหลาด”

     

    “อยากฆ่าๆๆๆๆ”สไวป์เริ่มเบื่อหน่ายกับเหตุการณ์ที่เพิ่งเกิดขึ้นแล้วหยิบมีดขึ้นมาแทงโต๊ะไม้ซ้ำๆกันหลายที “ผมอยากได้ยินเสียงกรีดร้อง สัมผัสรสเลือดที่ติดปลายมีด”สไวป์ขว้างมีดในมือออกไปเหมือนขว้างลูกดอก “อยากทำให้พวกเธอกลับเป็นเหมือนเดิม...”เด็กหนุ่มหันมามองความมืดด้านหลัง ลูเซียลอยมากอดคอสไวป์ “ที่อาละวาดเมื่อกี้ฉันขอโทษนะ”สไวป์กล่าวพึมพำให้ลูเซียได้ยินคนเดียว

    “ไม่เป็นไร”ลูเซียบอก “เดี๋ยวก็กลับมาเป็นเหมือนเดิมแล้ว”

    “เหยื่อรายต่อไปฉันให้เธอล่ะกัน ลูซ”สไวป์กล่าว

    ฉันก็คิดว่าลูเซียควรได้ เธอไม่ได้กินมาเป็นเดือนแล้วนิคาซโยนกระดูกต้นขาลงไปในเตาผิงว่างๆ ซักพักไฟสีดำก็ลุกพรึ่บเผากระดูกจนไม่เหลือซาก ฉันแนะนำ ให้ฆ่า เด็กผู้หญิงใน ม.5 ห้อง 4 คนนั้นคาซเสนอ หยิ่ง ทระนง เหมาะกับลูเซียดีคาซแสยะยิ้ม ลูเซียหันมาจ้องหน้าคาซ ก็นั่นมันนิสัยเธอเหมือนก่อนนี่นาคาซยักไหล่

    อย่าเพิ่งทะเลาะกัน เรามีเรื่องที่ต้องเป็นห่วงมากกว่าเรื่องนี้เสียงของผู้หญิงและผู้ชายดังขึ้นมาปนกันอีกครั้ง ตำรวจคนนั้น ท่าทางจะไม่ปล่อยพวกเราแน่ๆเธอกล่าว สไวป์หันไปมองร่างควันสีดำที่ลอยอยู่ข้างๆคาซ เขาแทบไม่เคยเห็นร่างของเจ้าของเสียงปริศนานี้เลย อย่ามองฉันแบบนั้น สไวป์เธอกล่าวด้วยเสียงของผู้หญิง

    ฉันไม่เคยเห็นเธอกินศพพวกนั้นเลยนะสไวป์พูด ตั้งแต่เรารู้จักกันเมื่อ...

    ฉันไม่จำเป็นต้องกินเธอกล่าวตัดหน้าสไวป์ แล้วไม่ต้องพูดถึงเมื่อก่อน ฉันไม่อยากนึกถึงสไวป์บุ่ยปากแล้วเดินไปเก็บมีดที่ปักอยู่ตรงผนังฝั่งตรงข้าม สไวป์...เสียงนั่นกล่าวเบาๆเหมือนสายลมพัดผ่าน อยู่ห่างๆเด็กผู้หญิงคนนั้นซะ เพื่อความปลอดภัยของเธอสไวป์ดึงมีดออกมาจากผนังก่อนหันกลับมามองร่างควันสีดำ

    ปลอดภัย? คำนั้นไม่จำเป็นต้องบอกผมหรอกสไวป์กล่าว ฉันไม่มีวันตายอยู่แล้ว

     

    แสงอาทิตย์ยามเช้าลอดเข้ามาทางหน้าต่างกระทบกับใบหน้าเนียนของเด็กสาวผมสีแดงเพลิง เสียงนาฬิกาปลุกทำให้เด็กสาวต้องลุกจากเตียง “คุณหนู นายท่านเรียกไปทานอาหารเช้าคะ”เสียงหญิงชราดังขึ้น เด็กสาวตะโกนตอบรับก่อนจะเดินไปอาบน้ำ

    “ริน เดลรายงานเรื่องเมื่อวานกับพ่อแล้วนะ”ชายวัยกลางคนในชุดตำรวจกล่าว มือของรินหยุดชะงัก “สิ่งนั้น...มันเกิดขึ้นอีกแล้วซินะ”พ่อของเด็กสาวกล่าวแบบกว้างๆไม่เจาะจง

    “คะ...”รินตอบ “แต่ว่า...”ยังไม่ทันที่เด็กสาวจะได้พูดอะไร เดล นายตำรวจหนุ่มก็เดินเข้ามาในห้องอาหาร นัยน์ตาสีน้ำเงินหม่นใต้กรอบแว่นนั้นฉายแววจริงจัง

    “ขอโทษที่มารบกวนเวลาทานอาหารเช้าครับ ท่านผบ.”เดลกล่าวอย่างสุภาพ “ผมมีเรื่องด่วนจะแจ้งให้ท่านทราบ ต่อจากเมื่อวาน...”พ่อของรินยกมือขึ้นบอกให้เดลหยุดพูด

    “ทุกคนออกไปก่อน”เขาสั่งเหล่าคนรับใช้ทั้งหลาย

    “งั้นหนูไป...”

    “ไม่ต้องริน ลูกควรจะฟัง”เขากล่าวเมื่อเห็นรินทำท่าจะลุกออกจากที่นั่ง “เอาล่ะ พูดมาได้แล้ว เดล”

    “เด็กคนนั้นอย่างมีชีวิตอยู่ครับ”เดลบอก “เขาไม่เหมือนคนที่เพิ่งปาดคอตัวเองเลย ยังวิ่ง กระโดด ได้เหมือนปรกติ...”เดลชะงักเล็กน้อย แล้วทำท่าเหมือนจะพูดอะไรบางอย่าง

    “ริน ลูกแน่ใจนะว่าเด็กคนนั้นปาดคอตัวเองจริงๆ”เขาถามลูกสาว

    “นะ...หนูไม่อยากพูดเรื่องนี้ตอนทานอาหาร”รินตอบปัดๆ

    “เด็กคนนั้นไม่ใช่...”ตึง รินลุกขึ้นจากเก้าอี้อย่างรวดเร็วทำให้เก้าอี้ล้มตึงไปด้านหลัง นัยน์ตาสีน้ำตาลเข้มของรินจ้องเดลเขม็งก่อนจะเดินออกจากห้องอาหารไป “รู้สึกคุณหนูไม่อยากให้ผมพูดเรื่องส่วนตัวของเด็กคนนั้น”เดลบอก

    “คนที่รอดพ้นจากคำสาปของรินคนที่ 2 งั้นเหรอ”ชายวัยกลางคนกล่าว “นอกจากปาฏิหาริย์แล้ว คง...”

    “ไม่ใช่มนุษย์ธรรมดาครับ”เดลตอบ “หลังจากที่ผมตามเขาไปเมื่อวาน เด็กคนนั้นต้องไม่ธรรมดาครับ รอยเลือดที่เปื้อนบนเสื้อกับคอเป็นหลักฐานอย่างดี ที่บอกได้ว่าเขา... ได้ไปทำอะไรบางอย่างมา”เดลสันนิษฐาน “ซึ่งบนใบหน้าและแขนเสื้อด้านขวาไม่มีรอยเลือดปรากฏอยู่เลย ผมคิดว่าไม่น่าจะใช่รอยเลือดของบุคคลอื่นนอกจากของเขาเอง...”

    “แค่สะกดรอยตามก็สันนิษฐานได้ถึงขนาดนี้แล้วรึ”ชายวัยกลางคนหัวเราะอย่างชอบอกชอบใจ

    “เพราะผมได้พูดกับเด็กคนนั้นด้วยล่ะครับ ผมเลยได้เห็นความผิดปกติหลายๆอย่าง”เดลกล่าว “เด็กคนนั้นพกปืนกับอาวุธอื่นติดตัวด้วยล่ะครับ”ชายวัยกลางคนหยุดหัวเราะทันที “ผมไปตรวจเอกสารเกี่ยวกับบุคคลที่ขออนุญาตครอบครองอาวุธปืนแล้วแต่ไม่มีชื่อของเด็กคนนั้นครับ แม้แต่ทะเบียนราษฎรก็ไม่มีชื่อ”

    “ไม่ใช่คนไทยรึ ค้นหาในบัญชีรายชื่อนักท่องเที่ยวรึยัง”เขากล่าวอย่างร้อนรน

    “ไม่มีครับ ไม่ว่าจะประเทศไหนก็ไม่มีชื่อของเด็กคนนั้นครับ ยกเว้นแต่ข้อมูลของโรงเรียนซึ่งผมคิดว่าน่าจะถูกเมคขึ้นมา”เดลเปิดหนังสือในมือ “แต่ในหนังสือประวัติศาสตร์บางเล่มมีชื่อและรูปภาพที่เหมือนเด็กคนนั้นครับ”เดลวางหนังสือที่เปิดหน้าที่กล่าวมาไว้บนโต๊ะอาหาร

    “ผีดูดเลือดงั้นเหรอ”

    “นี่คือรูปเด็กคนนั้นในปัจจุบันครับ”เดลวางรูปถ่ายของสไวป์ไว้บนหน้าหนังสือ “เมื่อเปรียบเทียบกันแล้ว ผมคิดว่าถ้าไม่ใช่ลูกหลานที่หน้าตาคล้ายกันมาก ก็คงเป็นคนๆเดียวกัน”

    “เหมือน เหมือนมาก นี่มันไม่ใช่คดีธรรมดาๆแล้วนะ เด็กคนนี้มีส่วนเกี่ยวข้องกับการหายตัวไปของนักเรียนหลายคนด้วยใช่ไหม”ชายวัยกลางคนกล่าว เดลพยักหน้ารับ “แล้วจดหมายที่รินได้รับใช่มาจากเด็กคนนี้รึเปล่า”

    “คฤหาสน์ที่คุณหนูรินเข้าไปคราวก่อนกับบ้านของเด็กคนนั้นเป็นที่เดียวกันครับ”ชายวัยกลางคนถอนหายใจเฮือกใหญ่ “ท่านผบ.คิดว่ายังไงครับ”

    “ไปโรงเรียนล่ะคะ”เสียงของรินดังขึ้น

    “คอยตามดูแลรินเหมือนปกติก็พอแล้ว”

    “ครับท่าน”เดลตอบรับอย่างหนักแน่นก่อนเดินตามไปส่งรินที่โรงเรียน

     

    สไวป์เดินมาโรงเรียนตามปกติแต่ดูแปลกตาไปหน่อยตรงที่เขาทำท่าสะลึมสะลือมาโรงเรียน “ฮ้าววววว”สไวป์หาววอด เพราะพลังงานของเขาถูกใช้จนเกือบหมดจากการที่เขาอาละวาดเมื่อวาน จะชาร์จแบตด้วยการนอนหลับก็มีเสียงของอัดด่าทออยู่ตลอดเวลาที่หลับตา “เมื่อวานมันวันอะไรกัน...”สไวป์พึมพำ นัยน์ตาสีทองมองไปรอบๆเพื่อหาเหยื่อสำหรับวันนี้ แต่ก็ต้องสะดุดกึกเมื่อเห็นนายตำรวจคนเมื่อวานยืนอยู่ที่ประตูโรงเรียน “ชิ”เด็กหนุ่มสบถก่อนจะเลี้ยวไปเข้าทางประตูข้างโรงเรียน

     

    พักเที่ยง ตึง สไวป์เคาะ(?)ประตู ม.5 ห้อง 4 คนทั้งห้องหันไปมองแต่เมื่อเห็นว่าเป็นสไวป์ก็รีบหันหน้ากลับ “ใครชื่อ สุนิสา”สไวป์เอ่ยถาม แต่ก็ไม่มีเสียงใดตอบมา “ใคร...”เสียงของสไวป์บ่งบอกว่าเริ่มโมโห

    “ฉันเอง...”เด็กสาวผมเปียที่ยืนอยู่ข้างหลังสไวป์กล่าว

    “ยัยสุ จะไปบอกทำไม”เพื่อนของเธอดึงเธอออกห่างจากสไวป์

    “กะ...ก็เขาถามนี่นา”เด็กสาวบอกกับเพื่อนร่วมชั้นของเธอ

    “ฉันไม่ได้หมายถึงเธอ”สไวป์บอกก่อนเดินเข้าไปในห้อง 4 “ฉันหมายถึงเธอ ยัยหัวทอง”เด็กหนุ่มมายืนอยู่ข้างเด็กสาวไฮโซคนหนึ่ง เด็กสาวละสายตาจากการทาเล็บเงยหน้าขึ้นมามองสไวป์ “วันนี้ เธอถึงฆาตแน่”สไวป์แสยะยิ้มแล้วเดินออกจากห้อง เด็กสาวอ้าปากค้างก่อนจะลุกขึ้นยืนแล้วด่าทอสไวป์แบบไม่ยั้ง “หึ แล้วคอยดูกัน ว่าพวกนายจะสืบสาวมาจนถึงตัวฉันไหม”สไวป์พึมพำอยู่คนเดียว โดยหารู้ไม่ว่าเด็กสาวผมเปียก็ได้ยิน

    “สไวป์...”รินเดินมาที่ชั้น ม.5 “หะ...หายแล้วเหรอ”สไวป์หันมามองด้วยสายตาเย็นชาแล้วเดินกลับห้องตัวเอง “อย่าหนีซิ สไวป์”รินรีบตามเด็กหนุ่มไป

    “สไวป์”เด็กสาวผมเปียทวนชื่อของเด็กหนุ่ม “ในที่สุด ก็เจอซักที...”

     

    “หยุดเดินหนีนะ”รินตะโกนจนคนแถวนั้นหันมามอง “สไวป์ อย่าเดินหนีฉันซิ”สไวป์ไม่หยุดเดิน “นี่!!!”รินวิ่งมาฉุดแขนสไวป์ “อย่าหนีนะ”

    “...”สไวป์เหลือบมองแปปนึงก่อนสะบัดแขนแล้วเดินเข้าไปในห้องเรียนตน

    “สไวป์...”รินได้แต่มองตามสไวป์ไป

    “ให้ช่วยไหมคะ”เสียงหนึ่งดังขึ้น รินกันไปมอง เด็กสาวผมเปียยืนยิ้มอยู่ข้างหลังริน “ท่าทางรุ่นพี่จะมีปัญหาเรื่องความรักนะคะ”เด็กสาวผมเปียลดเสียงลงตรงคำว่า เรื่องความรัก

    “ขอโทษนะ ฉันต้องไปเรียน”รินตอบปัดๆ ขณะได้ยินเสียงสัญญาณเข้าเรียนแล้วเดินไปชั้นของม.6 เด็กสาวผมเปียมองตามรินก่อนคลี่ยิ้มบางๆ

    “ยัยสุ เข้าห้องเถอะ”เพื่อนของเด็กสาวสะกิดเธอเบาๆก่อนฉุดแขนเด็กสาวกลับเข้าห้องเรียน

     

    เลิกเรียน

    เด็กสาวผมทองขอร้องให้เพื่อนๆในห้องเธอช่วยเดินกลับเป็นเพื่อนเธอ เพื่อนๆหลายคนเสนอกลับเป็นเพื่อน เธอจึงมีคนเดินกลับบ้านด้วยหลายคน

    “มีบอดี้การ์ดหลายคน มันก็ได้เท่านั้นล่ะ อย่างไงเธอก็ต้องตายอยู่ดี”สไวป์เดินออกมาจากห้องเรียนของตัวเองก่อนหันไปมองกลุ่มของเด็กสาวผมทอง “ภายในวันนี้ล่ะ คุณหนูไฮโซ”สไวป์แสยะยิ้มก่อนเดินไปทางบันได เด็กสาวผมทองตัวสั่นด้วยความกลัว ถึงปกติเธอจะมีนิสัยเย่อหยิ่งไม่สนใจใคร แต่พอเจอคำพูดแบบนี้จากปากสไวป์ทำให้เธอต้องขอร้องเพื่อนร่วมชั้นของเธอ ทิ้งศักดิ์ศรีทั้งหมดของเธอเลยทีเดียว เด็กสาวผมเปียเดินออกมาจากห้องเรียนพร้อมๆกับเพื่อนของเธอ เธอหันไปมองสไวป์ที่กำลังเดินลงบันไดไป

    “ฉัน...ฉันยังไม่อยากตาย”เด็กสาวผมทองกล่าว เพื่อนๆหลายคนช่วยกันปลอบเธอ

    “สัมผัสที่ 6 บอกฉันว่า หมอนั่นไม่ได้โกหก”เด็กสาวผมเปียกล่าวก่อนเดินไปที่บันไดพร้อมๆกับเพื่อนเธอ ก่อนหยุดยืนอยู่ที่บันไดขั้นบนสุดแล้วหันมามองเด็กสาวผมทอง “ระวังตัวด้วยล่ะ”

     

    รินมายืนอยู่หน้าประตูบ้านของสไวป์ เธอมองลูกบิดประตูอยู่ครู่หนึ่ง “เฮ่อ...คงยังไม่กลับหรอก”รินพูดกับตัวเองเบาๆ แสงอาทิตย์ส่องลงมาที่ประตู ทำให้เงาของคนๆหนึ่งทอดลงมาที่ตัวริน รินหันกลับไปดูด้วยความหวังที่ว่าคนที่ยืนอยู่จะเป็นเจ้าของบ้านหลังนี้

    “คุณหนูมาทำอะไรที่นี่ครับ”นัยน์ตาสีน้ำเงินหม่นๆของเดลฉายแววสงสัย

    “ไม่มีอะไรหรอกคะ แค่เดินเล่น”รินเดินกลับไปที่ประตูรั้ว โดยที่เดลเดินตามหลัง เดลหันกลับมามองคฤหาสน์หลังดังกล่าวและสายตาของเขาก็ไปสะดุดอยู่ที่หน้าต่างชั้น 3 ของคฤหาสน์ บุคคลปริศนาในผ้าคลุมยืนโบกมืออยู่ที่หน้าต่างบานที่เดลมองอยู่พอดี ก่อนจะเดินหายเข้าไปในความมืด “คุณเดล ยืนมองอะไรคะ”รินถาม เดลหันกลับมาส่ายหน้าแล้วเดินตามรินออกไป

     

    “ได้เวลาลักพาตัว”สไวป์ยืนมองกลุ่มนักเรียนที่เดินคุยกันอยู่ เหยื่อของเขา เด็กสาวผมทองเดินอยู่ตรงกลางพอดี สไวป์แสยะยิ้ม “มองกันให้ทันล่ะกัน คุณบอดี้การ์ด”สิ้นเสียงก็มีลมพัดมาอย่างรุนแรง จนทำให้ทุกคนต้องปิดตา กันไม่ให้ฝุ่นนั้นเข้าตา

    “กริ๊ด...”มีเสียงกรีดร้องดังขึ้นอยู่ชั่วครู่แล้วหายไปพร้อมๆกับลมที่ค่อยๆสงบลง เด็กสาวผมทองหายไปจากกลุ่มนักเรียนกลุ่มดังกล่าว เพื่อนของเธอเอะอะโวยวายกันใหญ่

     

    “กริ๊ดดดดดดดดดดดด”เด็กสาวผมทองกรีดร้องลั่นตลอดเส้นทางที่สไวป์พาตัวเธอมา ตึง สไวป์โยนร่างเด็กสาวเข้ามาในบ้านของเขา เด็กสาวล้มกลิ้งไปบนพื้นจนไปชนกับผนัง “อย่าทำอะไรฉันเลยนะ ฉันกลัวแล้ว”เด็กสาวพูดเสียงสั่นพยายามยันตัวขึ้นมานั่ง “นายเป็นใคร ต้องการอะไร...เงินสินะ...”เด็กสาวพูด

    “โทษที ฉันไม่ได้ต้องการเงิน”สไวป์แสยะยิ้ม เด็กสาวสะดุ้งทันทีที่ได้ยินเสียงสไวป์

    “ขะ...ข่าวลือนั่นเป็นความจริง”เด็กสาวตกใจ

    “ถ้าไม่มีไฟ มันจะมีควันได้ยังไงล่ะ”สไวป์หยิบมีดสีเงินเล่มสวยขึ้นมา “เอาล่ะ อยากตายแบบศพสวย หรือไม่สวยกันล่ะ”เด็กสาวลุกขึ้นยืน “มืดๆแบบนี้ เธอยังคิดจะวิ่งหนีฉันอีกเหรอ”สไวป์มองเด็กสาวที่พยายามคลำหาทางก่อนเดินเข้าไปใกล้ๆเด็กสาว “นี่ ทางออกน่ะอยู่ข้างหลังฉันนะ”

    “กริ๊ดดดดด”เด็กสาวหันมาเจอใบหน้าของเด็กหนุ่มในระยะประชิดบวกกับความมืดนั้น มันทำให้เธอหลอนไม่ใช่น้อย “อย่าฆ่าฉันเลยนะ ฉันขอร้อง”เด็กสาวกลัวจนตัวสั่น สไวป์จับผมของเด็กสาวแล้วกำผมของเธอแน่น “โอ๊ย เจ็บ”สไวป์ดึงผมของเธอไม่แรงไม่เบาแค่พอให้เด็กสาวรู้ว่าหนังศีรษะเธอกำลังถูกดึงจนแทบจะหลุดออกมาจากศีรษะของเธอ ก๊อกๆ เสียงเคาะประตูดังขึ้น สไวป์ปล่อยผมเด็กสาวแล้วหันไปดูประตู

     

    “บ้านหลังนี้ซินะ”เด็กสาวผมเปียเดินมายืนอยู่หน้าประตูรั้วบ้านของสไวป์ “น่าอยู่เป็นบ้าเลย”เธอคลี่ยิ้มบางๆก่อนเดินเข้ามาภายในเขตรั้วบ้านของสไวป์โดยไม่มีความรู้สึกกลัวแต่อย่างใด “จะมาขัดจังหวะรึเปล่านะ”เธอหัวเราะคิกคักก่อนเคาะประตูบ้านสไวป์

    “ใคร”เสียงสไวป์ลอดออกมา

    “เปิดประตูก่อนซิ แล้วฉันจะบอก”เด็กสาวกล่าว

    “เธอ... คนที่ชื่อสุนิสา”เด็กสาวคลี่ยิ้ม ซักพักก็มีเสียงของผู้หญิงดังออกมา ถ้าตั้งใจฟังจะรู้ว่าเจ้าของเสียงนั้นต้องการความช่วยเหลืออย่างมาก “เงียบ!!”สไวป์ตะคอกแล้วก็มีเสียงปืนดังขึ้น 1 นัด

    “โอ๊ะโอ เล่นแรงจังเลยนะคะ”เด็กสาวพูด

    “เธออยากตายรึไง ออกไปจากเขตบ้านฉันซะ”เสียงสไวป์เต็มไปด้วยความหงุดหงิด

    “สไวป์ คุณผีดูดเลือดพันธุ์เลือดผสม...”เด็กสาวหยุดพูด เมื่อได้ยินเสียงทุบประตูแรงๆ “ว่าแล้วเชียว ถ้าพูดคำนี้คุณต้องโกรธ”เด็กสาวหัวเราะคิกคัก

    “เธอเป็นใคร”สไวป์เปิดประตูออกมา “!!!”เด็กสาวโอบคอสไวป์ ก่อนประกบจูบเบาๆ

    “ก็พวกเลือดแท้ยังไงล่ะคะ”เขี้ยวสีขาวของเด็กสาวปรากฏขึ้นให้เห็น

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    นิยายแฟร์ 2024

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×