ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Police Man คดีรักดักจับยัยแมวโขมย

    ลำดับตอนที่ #6 : พายุที่เริ่มก่อตัว

    • อัปเดตล่าสุด 11 ก.พ. 56


    ฉันกำลังเดินเข้าไปในห้องโถงที่เต็มไปด้วยผู้คนที่กำลังคุยกันอย่างมีความสุข แต่การสนทนานั่นก็ต้องหยุดลง เมื่อฉันและซิกส์เดินผ่านไป ทุกคนหยุดการเคลื่อนไหวแล้วจ้องมาที่เรา แต่ด้วยสายตาที่แตกต่างกันไปโดยสิ้นเชิง สำหรับซิกส์ ทุกคนมองเขาเหมือนเป็นเจ้าชาย ดวงตาที่เปล่งประกายไปด้วยความชื่นชมและนับถือ แต่กับฉัน ทุกคนมองฉันด้วยแววตาเหยียดหยามและพิจารณาว่าฉันเหมาะสมที่จะยืนอยู่ตรงนี่หรือไม่ อยู่ในอ้อมแขนของฉัน

     

                   “ไม่ต้องกลัวน่า มั่นใจเข้าไว้สิ”

     

                   ซิกส์โน้มหน้ามากระซิบข้างหูฉัน และด้วยรอยยิ้มของเขา ฉันถึงได้เชิดหน้าและเดินต่อไป

     

                   “สวัสดีครับแม่”

                   ซิกส์กำลังเรียกผู้หญิงวัยกลางคนคนหนึ่ง ที่จากสรรพนามที่เขาเรียกจึงทำให้ฉันรู้ได้ทันที่ว่าเขาคือแม่ของซิกส์ ผู้หญิงคนนั้นอยู่ในชุดผ้าไหมราคาแพงสีแดงสด ดูสดใสและหรูหราไปในคราวเดียวกันกำลังเยื้องก้าวมาหาผู้ที่เป็นลูกชายพร้อมกับรอยยิ้มกว้างที่อยู่บนหน้าของเธอ

                   “สวัสดีจ๊ะลูก แม่คิดถึงฉันเลย ขอกอดหน่อยนะ”

                   “แม่ผมโตแล้วนะ”

                   “จะโตแค่ไหน ก็ยังอายุน้อยกว่าแม่นี่นา”

                   “เอ้า แม่ลูกทำอะไรกันอยู่เนี่ย ไม่ยอมเรียกพ่อบ้างเลย” ชายแก่วัยกลางคน ในชุดสูตรสีดำเดินเข้ามาโอบเอวของคุณแม่ของซิกส์เอาไว้ด้วยความรัก ฉันมองภามนี้แล้วก็ได้แต่อมยิ้ม มันช่างเป็นภาพที่อบอุ่นเหลือเกิน

                   “พ่อ สวัสดีครับ”

                   “หวัดดี ไอ้ลูกชาย ผู้หญิงคนนี้ใคร สวยเชียว”

                   “อ๋อ อย่าไปสนเลยพ่อ คนใช้ผมเอง”

                   “-*-“ ตอนอยู่ในรถฉันยังเป็นเจ้าหญิงอยู่เลย เชอะ

                   “คนใช้สวยนี่หว่า ตาดีนะเนี่ยลูกเรา”

                   “ปั้น เธอไปเดินดูอะไรก่อนไป เดี๋ยวฉันขอคุยกับพ่อกับแม่หน่อย”

                   “ไม่ต้องให้เขาไปก็ได้ลูก เราก็ไม่มีอะไรเป็นความรับอยู่แล้ว” คุณนายพูดอย่างไว้หน้าฉัน แม่ของซิกส์ใจดีผิดกับไอ้บ้าหน้ากุดนี้เป็นไหนๆเลย

    “ไม่เป็นไรค่ะ ปั้นหิวน้ำนิดหน่อยเหมือนกันค่ะ”

     

    ฉันรีบเดินออกมาจากการสนทนาก่อนที่จะรบกวนเวลาครอบครัวของเขาไปมากกว่านี้

     

    ในตอนนี้ฉันรู้สึกเหงามากเลย การที่ฉันได้มองเห็นภาพครอบครัวที่สมบูรณ์แบบของเขามันทำให้ฉัน “อิจฉา” ใช้ ฉันอิจฉาเขามาก เขามีทุกอย่างที่ฉันมี ทุกอย่างที่ฉันอยากได้ พระเจ้าลำเอียง ขนาดแค่พ่อกับแม่ ท่านยังให้ฉันไม่ได้เลย ก่อนที่น้ำตาที่เอ่อล้นขึ้นมาจะหยดลงมา ฉันก็เหลือบเห็นภาพภาพหนึ่ง ในภาพมีเด็กผู้หญิงคนหนึ่งกำลังนั่งชันเข่าและกอดตัวเองเอาไว้ ข้างกายตัวเธอมีเมฆหมอกเต็มไปหมด บรรยากาศในนั้นทั้งหนาวและวังเวง บนมุมของภพมี่ดวงจันทร์กลมโตสีนวลกำลังส่องแสงอยู่ “เหงา” คือความรู้สึกที่ฉันได้รับจากภาพนี้ มันตอกย่ำฉัน ตอกย่ำความรู้สึกที่ฉันมีอยู่ลึกๆ และความรู้สึกที่อยากจะเก็บไว้ ไม่ให้มันเปิดเผยออกมา

    “สวัสดีครับ”

     

    เสียงนุ่มลึกของผู้ชายที่ฉันไม่รู้จับปลุกฉันออกจากภวังค์ เขามีดวงตาเป็นประกายสีฟ้าอ่อน บ่งบอกให้เห็นถึงสัญชาติทางตะวันตกที่เขาน่าจะมี  ผมสีทองเหลือบน้ำตาลถูกสไลด์ให้ระต้นขอขาวๆของเขา ความสูงประมาณร้อยแปดสิบกว่าๆ และสูตรสีขาวทำให้เขาดูเหมือนเจ้าชายรูปงามไม่ผิดเพี้ยน

     

    “อะ อ๋อ สวัสดีค่ะ”

    “ขอโทษนะครับ คุณเป็นแฟนไอ้...เอ้ย..ซิกส์หรอครับ ผมเห็นคุณมากับเขา”

    “ไม่ใช่ค่ะ แค่มาเป็นเพื่อนน่ะค่ะ และก็ไม่ต้องใช่คำสุภาพก็ได้นะคะ คุยกันชิวๆดีกว่าค่ะ”

    “ได้ครับ งั้นผมไม่เกรงใจแล้วนะครับ”

    “ฮิฮิฮิ ได้ตามนั้นเลยค่ะ”

    “เอ่อ... เธอชื่ออะไรหรอ”

    “นายควรบอกชื่อนายก่อนถามชื่อสุภาพสตรไหม?”

    “ฮ่าฮ่าฮ่า ลืมไปเลย ฉันชื่อคีย์”

    “คีย์หรอ ชื่อเท่ดีนะ ฉันชื่อรูปปั้น”

    “รูปปั้น ชื่อเธอนี่... ไม่เหมือนคนอื่นดีเนอะ”

    “พูดว่าแปลกก็ได้นะ ฉันเข้าใจ”

    “ฮ่าๆๆๆ”

     

    “กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด”

    ทันใดนั้นฉันก็ได้ยิงเสียงกรีดร้องดังก้องไปทั่วห้องโถง ฉันและคีย์รีบวิ่งไปที่เกิดเหตุทันที เห็นแม่ของซิกส์เดินจมกองเลือดอยู่ ท่านโดนแทง

     

    “ใครเป็นคนแทงคุณณีน่ะ”

                   “ฉันก็ไม่รู้อ่ะเธอ”

                   “ไหนบอกว่าการป้องกันของคฤหาสน์นี่แน่นหนามากไง”

                   “ถ้ามีเวลามาซุบซิบกันก็หลบไป ฉันจะพาแม่ฉันไปโรงพยาบาล!!

                  

                   เสียงซิกส์ตะโกนตวาดลั่นหยุดเสียงซุบซิบที่ดังไปทั่วงานได้ภายในพริบตา เขาอุ้มแม่ของเขาออกมาจากกองเลือดอย่างถนุถนอม และเดินออกไปทันที พร้อมกับพ่อของเขา และเพื่อนๆของคุณแม่ซิกส์เดินตามไปอีกสองสามคน แต่ก่อนที่เขาจะเดินผ่านฉันไปเขาก็เหลือบมามองฉันกับคีย์ และสบถออกมาอย่างเสียอารมณ์

                   “ไอ้คีย์ พารูปปั้นกับตัวนายไปโรงพยาบาลพร้อมฉัน เรื่องนี้ต้องเคลียร์”

                   และเขาก็วิ่งจ้ำอ้าวออกไป

     

    ในรถ

                   ในที่สุดฉันก็ตัดสินใจพูดขัดความเงียบที่มีในรถเย็นเฉียบของคีย์       

    “เอ่อ คือว่า”

    “หืม?”

    “คือฉันอยากรู้ว่า พวกนายจะคุยเรื่องอะไรกันหรอ”

    “อ๋อ ฉันก็เป็นตำรวจน่ะ มันคงอยากให้ฉันช่วยสืบเรื่องนี้ให้”

    “อ๋อ ทำไมนายดูไม่ตกใจเลยล่ะ ฉันนี่ใจหายตั้งแต่เห็นเลือดแล้ว”

    “ฮ่าๆๆ ฉันเป็นตำรวจนะ แค่นี้เห็นบ่อยอยู่แล้ว แล้วก็ในวงการธุรกิจ เรื่องรอบทำร้ายกันมีบ่อยจนฉันเห็นจนชินแล้วล่ะ”

    “อ๋อ เข้าใจแล้ว นายนี่ดีเนอะ อธิบายเยอะดี ฟังแล้วเข้าใจง่าย ไม่เหมือน....”

    “ไอ้ซิกส์หล่ะสิ อย่างมันแค่พูดก็ถือว่ามหัศจรรย์แล้ว”

     

    เขายิ้มมาให้ฉันจนตากลายเป็นขีดเล็กๆ น่ารักชะมัด เอ๊ะ ทำไมอยู่ๆหัวใจก็เต้นเร็วขึ้นมาล่ะเนี่ย เวลาน่าสิวน่าขวานแบบนี้ยังจะมาเต้นเร็วอีก ไอ้หัวใจจอมทรยศ

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×