คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : ความซวยของแมวสาว
ตุบ!! “อ๊า.. เจ็บ”
สงสัยว่าฉันจะตกจากโซฟาแฮะ เอ๋... โซฟางั้นหรอ??? (O.O) ทำไมบ้านฉันถึงมีโซฟา? เฮ้ยยยย นี้มันไม่ใช่บ้านฉัน แล้ว.. แล้วนี้ห้องใครอ่ะ ทำไมถึงได้หรูซะขนาดนี้
“โอ้ยย.
หลังจากที่สมองน้อยๆของฉันได้รับการกระทบกระเทือนจากการล้มกระแทกพื้น ฉันก็เริ่มที่จะรำลึกชาติได้ว่าเมื่อคืนฉันถูกตำรวจหน้าโหดจับตัวมาเป็นแม่บ้าน แล้วก็...ใช่! ฉันต้องทำข้าวเช้าให้เขา ไม่งั้นฉันได้ไปกินข้าวแดงในคุกแน่เลย
ฉันรีบจ้ำอ้าวไปที่ตู้เย็นพร้อมลองส่องดูว่าจะมีอะไรที่ใช่มาทำข้าวเช้าได้บ้างไหม ปรากฏว่าเจอแต่ เบียร์ เบียร์ แล้วก็เบียร์อยู่เยอะมากมายล้านเก้า อีตาตำรวจกินแต่เบียร์หรือไงนะ เฮ้อเป็นตำรวจซะเปล่ากินแต่ของมึนเมา แล้วที่นี่ฉันจะทำข้าวเช้าอะไรให้เขาได้เนี้ย ระหว่างกำลังคิดหาวิธีแก้ปัญหาฉันก็เหลือบไปเห็น.... ฮึฮึฮึ ไอ้คุณตำรวจขี้เก๊กฉันมีข้าวเช้าให้นายแล้วล่ะ ฮึฮึฮึฮึ ฮาฮาฮา
ผ่านไปไม่นานคุณตำรวจก็เดินงัวเงียออกมาจากห้อง พร้อมกับชุดตำรวจสีดำที่ถูกปลดกระดุมลงมาจนถึงกลางอกเผยให้เห็นส่วนบนของซิกแพคที่น่าหลงใหล และหยดน้ำที่ปลายผมทำให้เขาดูเซ็กซี่มากจนฉันไม่อยากจะยอมรับ ไม่น่าเชื่อว่าจะมีผู้ชายที่สมบูรณ์แบบขนาดนี้อยู่บนโลกด้วย
“ยัยหื่น... น้ำลายไหลแล้ว” นายตำรวจพูดออกมาพร้อมกับเสียงแหบพร่า ทำเอาฉันสดุ้งรีบเช็ดปากทันที
“O-o”
“ฮ้าฮ้าฮ้า เชื่อด้วยหรอ ยัยโง่”
“นี่นาย ฉะ ฉันไม่ได้แอบมองนะ”
“ยังไม่ได้พูดว่าเธอแอบมองเลย คิดเองนะเนี่ยเรา”
“ไอ้ ไอ้ ไอ้ตำรวจบ้า”
ไอ้บ้านี่มันจะมากเกินไปแล้วนะ ถ้าเขาไม่ใช่คนที่จะชี้ชะตาว่าฉันจะไปนอนในคุกหรืออยู่ลั้ลลามีชีวิตสุขสบายข้างนอกล่ะก็ ฉันกระโดดถีบยอดหน้าไปแล้ว แหนะ! อีตำรวจไร้มารยาทยังทำหน้านิ่งเช็ดผมต่ออีก หนอย...ไอ้หน้าหนา!
“ข้าวเช้า?”
“อ่ะ... เติมรดชาติด้วยไอ้นี้เองแล้วกัน...ฮึ”
ฉันส่งข้าวสวยร้อนๆให้เขา บวกกับน้ำปลาสูตรเด็ดที่ฉันเจอในตู้อาหารชั้นล้าง พร้อมกับกระตุกยิ้มกวนๆส่งไปให้นายตำรวจที่นั่งหน้างงอยู่ที่โต๊ะอาหาร ฮ้าฮ้าฮ้า งงล่ะสิ อีตาผู้คุมกฎ นี้แหละ “ข้าวเช้า” ของแท้เลย
“นี่เธอ นี้มันแค่ข้าวนะ แล้วไหนกับล่ะ”
“นี้ไง นายไม่เห็นหรอ “ข้าว” น่ะ”
“เธอนี่มัน”
นายตำรวจลุกขึ้นยืนเต็มความสูง ทำท่าเหมือนจะเดินมาหาเรื่องฉัน ที่ตอนนี้ตัวแถบจะจมไปกับพนังห้องแล้ว คนอะไรน่ากลัวเป็นบ้าเลย
“ก็...ก็นายจะให้ฉันทำกับข้าวเสริฟพร้อมเบียร์รึไงเล่า”
“ฮะ?”
“ในตู้เย็นนายมีแต่เบียร์ เบียร์ แล้วก็เบียร์ จะให้ฉันทำไงเล่า”
“เฮอะ...ตาเธอบอดรึไง นู้น!!”
ไอ้บ้าหน้าตาน่ากลัวชี้นิ้วไปที่ตู้ที่อยู่ใกล้ประตู พร้อมกับสงสัยตาพิคาดบอกเป็นนัยๆว่าให้ฉันเดินเข้าไปดูที่ตู้นั้น ฉันจึงค่อยๆจำใจเดินไปที่ตู้ตู้นั้นอย่างช้าๆ ระหว่างที่เยื่องเก้าไปที่ตู้ปริศนา นัยน์ตาสีเฮเซลนัทคมกริบก็จ้องมาที่ฉันอย่างไปวางตา
“ปึป”
ความเย็นประถะเข้าหน้าฉันเต็มๆ พร้อมกับเสียง เพร้งในใจ ... หน้าแตกจ้างหมอยังไม่เย็บให้เล้ย ยัยรูปปั้น
“ฮึ... สงสัยที่อยู่ในนั้นคงเป็นอากาศสินะ ฮึฮึ”
“ใครจะไปรู้ว่ามันคือ ตู้เย็น เล่า”
“โง่”
“เอ๊ะ...อะไรของนายเนี่ย อยู่ๆมาว่าคนอื่นเขาโง่ ไม่มีมารยาท”
“ฉันเป็นเจ้านาย ฉันมีสิทธิ”
“นี่ นะ..นาย!!”
โอ้ย ! ไม่รู้จะหาคำอะไรมาด่าไอ้ตำรวจหน้าทน ไร้จิตสำนึกนี้แล้ว ก็ฉันไม่ได้เกิดมารวยอย่างนายนี่ ใครจะไปรู้ว่าไอ้ตู้บ้านั้นมันคือตู่เย็น เชอะ
“แล้วที่นี้ เธอจะแก้ตัวยังไงอีกล่ะ หรือว่าของในตู้เย็นมันยังไม่พอที่จะให้เธอทำข้าวเช้าอีก ฮึ?”
ไม่พอก็บ้าแล้ว ในตู้เย็นมีทั้งผักทั้งเนื้อหมู เนื้อปลา และอีกสารพัดของที่สามารถเอามาทำเป็นอาหารได้ จัดเป็นงานปาร์ตี้ยังได้เลย โธ่เอ้ย ที่นี้ฉันก็ผิดเต็มๆเลยล่ะสิ แต่ใครจะยอมรับให้โง่
“เออ เออ เออ นายผิดเองที่ไม่บอกฉันว่าไอ้ตู้ที่อยู่ตรงนั้นเป็นตู้เย็น ดังนั้นมันไม่ใช่ความผิดของฉัน!”
“อ๋อหรอ ความผิดอยู่ที่ฉันที่นึกว่าเธอฉลาดพอสินะ”
“นี่นาย ปากไม่มีหูรูด มาว่าคนอื่นโง่ได้ไง”
“พอ เงียบได้แล้ว ปวดหัวจริงๆ”
คุณตำรวจหันมาตะคอกใส่หน้าฉัน พร้อมกับเอามือมาบีบข้อมือของฉันจนขึ้นรอยแดง เขาใช่นัยน์ตาสีไม้อ่อนจ้องลึกมาในดวงตาของฉันอีกครั้ง จนเห็นถึงความหงุดหงิดที่เขามีต่อฉันได้อย่างชัดเจน
จะโกรธอะไรนักหนา เขาทำรุนแรงกับฉันอีกแล้วนะ ฉันไปทำอะไรให้เล่า!!!
“โอเค! ฉันขอโทษ พอใจไหม?!”
“ขอโทษดีๆไม่เป็นรึไง”
“นี่นาย!”
“- -!”
“0_o”
“- -!”
“ค่ะ ขอโทษค่ะ”
“ฮึ ก็แค่นั้น ยากตรงไหน”
นายตำรวจน่าโหดเอามือมาลูบหัวฉัน ด้วยสายตาที่ว่างเปล่า แต่มันกลับทำให้คนที่มองดูอยู่อย่างฉันรู้สึกเจ็บปวดเหมือนจะร้องไห้ทั้งๆที่ไม่รู้ว่าทำไม แต่ก่อนที่ฉันจะได้ถามเขาว่าอะไรคือสาเหตที่ทำให้ดวงตาคู่สวยคู่นั้นดูเศร้าได้ขนาดนี้
“ฉันไปทำงานล่ะ”
“เฮ้ย เดี๋ยวนายชื่ออะไรอ่ะ”
“ฮึ”
“เฮ้ย เดี๋ยวเซ่!”
ไม่ทันที่ฉันจะได้รั้งเขาเอาไว้ เขาก็ปิดประตูใส่หน้าฉันแล้วเดินออกไปซะแล้ว อะไรอีกเล่า อีตาบ้านี้ชาติที่แล้วเป็นคนปิดประตูรึไง ชาตินี้ถึงชอบปิดประตูใส่หน้าคนอื่นน่ะ นิสัย!!
เวลาผ่านไปสองชั่วโมง
หลังจากที่คุณตำรวจออกไปแล้วฉันก็ทำข้าวเช้าให้ตัวเองกินจนตอนนี้อิ่มท้องเต็มที่แล้ว สงสัยคุณตำรวจคงจะเชื่อใจฉันมากไปหน่อย ปล่อยให้ฉันอยู่ห้องคนเดียว ฉันต้องหนี! ไม่แน่วันไหนไอ้บ้าเครื่องแบบนั้นอาจจะอารมณ์เสียยัดฉันเข้าไปนอนเล่นในตารางก็ได้ แล้วงี้ใครจะไปอยู่เล่า เผ่นแล้ว!
ฉันรีบวิ่งไปที่ประตูแต่ก็ต้องช็อค เพราะประตูมันเปิดไม่ออก! เฮ้ย! มันจะเป็นได้ได้ยังไง ก็ในเมื่อฉันอยู่ข้างในนะไม่ได้อยู่ข้างนอก แล้วทำไมฉันจะเปิดออกไม่ได้ อีตาบ้านั้นขังฉันเรอะ โธ่เอ้ยยย ฉันพยายามที่จะออกแรงดันประตูสีขาวบานใหญ่แต่ก็ไม่ได้ผล มันไม่มีทีท่าว่าจะขยับเลยแม้แต่น้อย พอจะหาที่สะเดาะกุญแจก็ต้องพบกลับความผิดหวังเพราะอีประตูนี่มันไม่มีรูกุญแจ
“โอ้ย ทำไมแกถึงได้ซวยซ่ำซวยซ้อนอย่างนี้วะ ปั้นเอ้ย”
“ปัง!”
ฉันถีบประตูไปเต็มแรงเพื่อระบายความโกรธ แล้วอยู่ๆก็มีกระดาษแผ่นเล็กๆตกลงมาที่เท้าของฉัน
“ประตูมันล็อกอัตโนมัติน่ะ ให้ตายก็เปิดไม่ออกหรอก…. จาก ฉัน”
“ไอ้บ้า! นายนี่มัน ฉลาดแกมโกง ใช้สมองผิดหน้าที่ รอยหยักเยอะ เฮอะ! คิดว่าเก่งกว่าฉันนักรึไง ถึงได้มาเดาว่าฉันจะทำอะไรน่ะหะ?!? ไอ้น่าโหด คอยดูเถอะ คิดว่าที่นี้มีทางออกทางเดียวรึไง”
ฉันชักจะฟิวส์ขาดแล้วนะ พอคิดได้ดังนั้นฉันจะเดินไปที่หน้าต่าง แต่ก่อนที่จะได้เก้าขาออกไปฉันก็ต้องรีบชักกลับทันที
“เฮ้ย นี่มันสูงขนาดนี้เลยเหรอ?!!”
ก่อนที่ฉันจะตัดสินใจผิดหน้าต่างฉันก็เหลือบเห็นกระดาษใบเล็กสีขาว ติออยู่ที่ขอบหน้าต่าง ฉันจึงหยิบขึ้นมาดูอย่างอยากรู้อยากเห็น
“ชั้นยี่สิบ ปีนลงไปมีหวังเธอตกตึกตายก่อนได้หนีแน่…. จาก ฉัน”
“ไอบ้าาาาาาาาาาาาาาาาา มันชักจะมากเกินไปแล้วนะ ฉันโกรธจริงๆแล้วด้วย”
หนอย! ไอ้คุณตำรวจ วันนี้ตอนเย็นนายกลับมา เจอหมัดแมวแน่!!
ความคิดเห็น