ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [GOT7] Just A Little Bit of Us | yugmark (SF/OS)

    ลำดับตอนที่ #4 : [Roommate AU] 03. Ordinarily Special

    • อัปเดตล่าสุด 6 ส.ค. 58


    หมายเหตุ - อ่าน It's No Secret ก่อนก็ดีค่ะ จะเข้าใจเนื้อเรื่องมากขึ้น ;-;



    03. ordinarily special


    จะอ้วกเป็นสีแดงกับสีชมพูแล้ว...

     

     

    มาร์คได้แต่บังคับตัวเองไม่ให้ทำหน้าละเหี่ยหรือแสดงออกว่ากำลังอยากจะอาเจียนกับบรรยากาศในที่ทำงานของตัวเอง ใจจริงอยากจะสะกิดทุกคนเบาๆ แล้วบอกว่า 'พี่ครับ เข้าใจว่าวันนี้มันวาเลนไทน์ แต่พี่ค่อยไปอินตอนเลิกงานดีมั้ยครับ' แต่ผลตอบรับของมันอาจเป็นสายตาจิกกัดว่า 'ไม่เ-ือกสิ' เขาเลยได้แต่ทำเป็นไม่สนใจบรรยากาศหวานแหววรอบตัว -- ดอกไม้ ช็อกโกแลต และสติกเกอร์รูปหัวใจ

     

     

    กรรมเวรอะไรที่ต้องมาทำงานในวันเสาร์ที่เป็นวันวาเลนไทน์... ถ้าคนที่ทำงานด้วยมีแต่ระดับผู้ใหญ่ๆ ที่ไม่ค่อยอินกับเทศกาลก็ไม่เป็นไรหรอก แต่นี่ดันมีแต่หนุ่มๆ สาวๆ ที่วัยใกล้เคียงหรืออายุมากกว่าเขาไม่กี่ปี มาร์คอึ้งตั้งแต่ตอนที่ผลักประตูกระจกเข้ามาเห็นพนักงานฝ่ายต้อนรับสาวกำลังผูกลูกโป่งฮีเลียมรูปหัวใจสีแดงแปร๊ดกับต้นไม้ที่อยู่ในกระถางแล้ว

     

     

    หย่อนตัวนั่งลงบนเก้าอี้ได้ไม่ถึงชั่วโมงดีก็เริ่มมีสาวๆ เดินแวะเวียนเข้ามาวางช็อกโกแลตบนโต๊ะทำงานของเขา พวกช็อกโกแลตขนมชิ้นเล็กๆ นั้นไม่ใช่ปัญหา เพราะมองปุ๊บก็รู้เลยว่าซื้อเหมาโหลมาแล้วตระเวนแจกคนทั้งที่ทำงาน เป็นแค่น้ำใจเล็กๆ น้อยๆ ที่เข้ากับเทศกาลเท่านั้น แต่ไอ้ช็อกโกแลตที่มองหีบห่อก็รู้แล้วว่าแพงนี่ล่ะที่ทำให้มาร์คทำหน้าไม่ถูก ได้แต่บอกขอบคุณครับตามมารยาทเพื่อไม่ให้ความหวังแก่คนที่นำมาให้

     

     

    จะตอนนี้หรือตอนไหนเขาก็ไม่ได้เห่อตามกระแสคลั่งวาเลนไทน์เท่าไร ตอนที่ยังมีใครอีกคนอยู่ข้างๆ มันก็เป็นแค่วันพิเศษวันหนึ่งที่เอื้อโอกาสให้พวกเขาได้ใช้เวลาด้วยกัน (และอาจได้ใช้โปรโมชั่นพิเศษที่ผู้ให้บริการต่างๆ งัดออกมาเชิญชวนลูกค้าในช่วงเทศกาลแบบนี้) ไม่จำเป็นต้องมีเซอร์ไพรส์อลังการงานสร้างมากมาย แต่พอเหลือตัวคนเดียวแล้ว สิ่งที่ทำให้มาร์คอึดอัดปนขมขื่นคือช็อกโกแลตที่คนให้ให้มาเพราะหวังอะไรตอบแทน การมองเห็นคู่รักรอบตัวแล้วนึกถึงแฟนเก่า

     

     

    รวมทั้ง 'โบนัสพิเศษ' ที่เพิ่มขึ้นมาในปีนี้

     

     

    มาร์คนึกถึงบทสนทนาระหว่างตัวเองกับยูคยอมเมื่อเช้าก่อนออกมาทำงาน

     

     

    'นี่ไม่ออกไปฉลองวาเลนไทน์เหรอ?'

     

     

    'ผมเคยบอกพี่ไปแล้วไม่ใช่เหรอว่าไม่มีแฟน'

     

     

    'อ้าว ที่พูดวันนั้นน่ะพูดจริงเหรอ นึกว่าโกหกเพราะกลัวพี่จะเอาไปฟ้องพ่อ'

     

     

    'ไม่มี' ยูคยอมยืนกราน เขาเงียบไป ก่อนจะรีบโพล่งออกมาเหมือนเพิ่งตัดสินใจได้ ในตอนที่มาร์คกำลังจะเปิดประตูห้องออกไป 'แล้วพี่...ไม่ได้ไปไหนใช่มั้ย'

     

     

    'อื้ม เลิกงานแล้วก็คงกลับมานี่แหละ'

     

     

    มาร์คเพิ่งรู้ตัวตอนที่ประตูลิฟต์ปิดตรงหน้า ว่าพอเขาเลิกงานแล้วกลับมาที่ห้อง ก็จะต้องอยู่ด้วยกันกับยูคยอมแค่สองคน ชายโสดสองคนไม่ได้ออกไปไหนกับคนรักในคืนวันวาเลนไทน์อย่างพวกเขาคงได้แค่นั่งห่อเหี่ยวอยู่ในห้องนอนของตัวเองแน่ๆ ยกเว้นว่ายูคยอมจะหาเรื่องอะไรมาให้เขาบ่นอีก

     

     

    ชีวิตดูจะหดหู่เหลือเกิน

     

     

     

     


    ทันทีที่ถึงเวลาเลิกงาน มาร์ครีบปิดคอมพิวเตอร์ เก็บกระเป๋า กวาดช็อกโกแลตที่อยู่บนโต๊ะทำงานลงถุงพลาสติก เขาจำได้คลับคล้ายคลับคลาว่าหมอนั่นชอบชงช็อกโกแลตร้อนกินตอนเช้า งั้นก็น่าจะชอบช็อกโกแลตพวกนี้ด้วย ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของยูคยอมจัดการของหวานพวกนี้ไปแล้วกัน

     

     

    เขาพยายามออกจากที่ทำงานอย่างเร่งรีบ แต่ก็ไม่ทันพนักงานหญิงอีกคนหนึ่งที่คงมีฝีเท้าความเร็วสูง หล่อนก้าวมาถึงโต๊ะทำงานของเขาแล้วถามว่า "คืนนี้คุณมาร์คไปไหนหรือเปล่าคะ?" ซึ่งปกติมาร์คควรจะตอบว่าไม่ได้ไปไหนและจะกลับบ้าน แต่แววตาวิบวับในดวงตาของผู้หญิงตรงหน้าทำให้เขาเลือกที่จะไม่บอกความจริง

     

     

    "อืม...มีนัดแล้วน่ะครับ ต้องรีบกลับ"

     

     

    "มีนัด? อย่าบอกนะคะว่า..."

     

     

    "นัดพวกเพื่อนที่สนิทๆ กันไปดื่มกันที่ห้องน่ะครับ... ปาร์ตี้ชายโสดในวาเลนไทน์... อะไรแบบนั้น"

     

     

    "ว้า เสียดายจังค่ะ ฉันก็ว่าจะชวนคุณมาร์คไปด้วยกันพอดี" นั่นไง เขาเดาผิดเสียเมื่อไร ถ้าเมื่อกี้ตอบไปว่าไม่ได้มีนัดอะไรที่ไหนและจะกลับบ้าน มีหวังโดนตะล่อมให้ไปด้วยกันแน่ๆ

     

     

    "อ่า...ครับ คงต้องไว้โอกาสหน้า"

     

     

     

     

    ใช้เวลาไม่นานมาร์คก็กลับมาถึงห้อง เด็กหนุ่มร่วมห้องกำลังนั่งกินอาหารเย็นอยู่ที่โต๊ะอาหาร ดูจากปริมาณข้าวในชามของเจ้าตัวและปริมาณกับและเครื่องเคียงในชามบนโต๊ะที่ยังไม่พร่องลงไปมาก แปลว่าคงเพิ่งเริ่มกินมื้อนี้ได้ไม่นาน

     

     

    ไหนๆ ยูคยอมก็กำลังกินมื้อเย็นอยู่พอดี มาร์คเลยไม่รอช้าที่จะเข้าไปนั่งด้วย บนโต๊ะมีชามข้าวส่วนของเขาที่ยูคยอมเตรียมไว้อยู่ อุ่นกำลังดีเพราะเพิ่งนำมาวางไว้

     

     

    สายตาของยูคยอมสะดุดเข้ากับถุงช็อกโกแลตที่มาร์ควางไว้บนโต๊ะใกล้ๆ ตัวเอง เขาอ้าปากค้าง

     

     

    "นี่คือที่พี่ได้มาวันนี้เหรอ?"

     

     

    "จัดการให้หน่อยสิ พี่กินคนเดียวไม่ไหว ชอบไม่ใช่เหรอ?"

     

     

    ยูคยอมวางตะเกียบลงแล้วหยิบถุงช็อกโกแลตของมาร์คมาเปิดดู หยิบชิ้นนั้นชิ้นนี้ขึ้นมาดูอย่างสนใจ เขาหยิบช็อกโกแลตยี่ห้อที่แพงที่สุดออกมาแล้วถาม

     

     

    "ผมขอเดาว่าคนที่ให้ชิ้นนี้กับพี่คงปลื้มพี่มากแน่ๆ ไม่ใช่แค่ให้ตามมารยาท"

     

     

    มาร์คพยายามจับคู่ช็อกโกแลตชิ้นนั้นกับใบหน้าคนให้ "อ้อ... อืม ตอนเลิกงานเขาถามพี่ด้วยว่าจะไปไหนต่อรึเปล่า พี่ก็บอกว่าพี่ไม่ไป มีนัดแล้ว"

     

     

    "สวยมั้ยครับ?"

     

     

    "หืม?

     

     

    "คนให้น่ะสวยมั้ยครับ"

     

     

    "ก็สวยนะ"

     

     

    ฟังคำตอบของมาร์คเสร็จ ยูคยอมก็วางช็อกโกแลตนั้นไว้ข้างตัว ตั้งมั่นว่าจะจัดการกับของหวานราคาแพงชิ้นนี้ด้วยตัวเองหลังอาหารเย็น พี่มาร์คไม่ต้องกินหรอก "นี่ที่ทำงานคงมีคนชอบพี่เยอะเลยใช่มั้ยครับ"

     

     

    "ไม่ใช่หรอก บางคนเขาก็ให้ตามมารยาท"

     

     

    "แต่อีกหลายคนที่เหลือก็ให้เพราะชอบ"

     

     

    ยูคยอมหยิบช็อกโกแลตอีกชิ้นออกมาจากในถุง บนห่อช็อกโกแลตมีสติกเกอร์รูปหัวใจแปะอยู่ และด้านหลังมีกระดาษโพสต์อิทสีชมพูสะท้อนแสงที่มีข้อความว่า 'หวังว่าจะชอบนะคะ' -- อีกหนึ่งชิ้นที่ให้มาเพราะหวังอะไรตอบแทน 

     

     

    "เฮ้อ แต่ไม่แปลกใจหรอก ก็พี่น่ารักนี่นา"

     

     

    คำชมที่จู่ๆ ก็หลุดออกมาจากปากยูคยอมทำให้มาร์คทำตัวไม่ถูกและไม่รู้ว่าจะทำอย่างไรกับสิ่งที่ได้ยิน เพราะตั้งแต่อยู่ด้วยกันมา เขาว่าเขาไม่ได้ทำตัวน่ารักใส่ยูคยอมเสียเท่าไร 

     

     

    พวกเขาคุยกันมากที่สุดในวันแรก ส่วนใหญ่เป็นบทสนทนารำลึกความหลังประเภท 'พี่จำตอนนั้นได้มั้ย' หรือ 'แล้วนายจำได้มั้ยตอนนั้นที่พ่อนาย...' ซึ่งพอความหลังที่มีอยู่ด้วยกันน้อยนิดหมดลง มาร์คก็ไม่รู้จะคุยอะไรกับยูคยอมอีก ในช่วงสัปดาห์แรกจึงเหลือแค่คำถามที่เหมือนถามไปด้วยมารยาท เช่น จะกลับบ้านกี่โมง กินอะไรมาหรือยัง... ราวกับว่ายูคยอมเป็นแค่เพื่อนร่วมงานที่ทำงาน ไม่ใช่คนที่กำลังอยู่ร่วมห้องกับเขา เขาเพิ่งมาเริ่มเปิดใจ ออกจากเปลือกของตัวเอง และพยายามคุยกับยูคยอมให้มากขึ้นก็เมื่อไม่นานมานี้ หลังจากที่ยูคยอมระบายใส่เขาราวกับอัดอั้นตันใจว่า 'ผมรู้สึกว่าพี่รำคาญที่ผมมาอยู่ด้วย ไม่ใช่เพราะพี่บ่นผมนะ แต่เพราะพี่ไม่ยอมคุยกับผม ผมไม่รู้ว่าพี่มีอะไรในใจ เราสองคนก็ไม่ใช่คนแปลกหน้ากันขนาดนั้นไม่ใช่เหรอ' 

     

     

    ยังไม่พอ เด็กที่โตมาในบ้านหลังใหญ่โต มีทั้งแม่บ้านและพี่เลี้ยงและคนขับรถคอยปรนนิบัติรับใช้อย่างยูคยอมนั้นทำงานบ้านไม่ค่อยเป็น ผิดกับมาร์คที่ทำเองได้แทบทุกอย่างเพราะพ่อปลูกฝังมาแบบนั้น เขาต้องเขียนวิธีใช้เครื่องซักผ้าหยอดเหรียญและวิธีซักผ้าแต่ละประเภทให้แก่ยูคยอม เพื่อให้ยูคยอมเอาตะกร้าผ้าของตัวเองลงไปซักในร้านข้างล่างตึกเองได้ พอมาถึงขั้นตอนรีด เด็กหนุ่มก็สอบตกตามคาด   หลังจากทนกับความเงอะงะไม่ได้ มาร์คเลยจำใจรีดเสื้อผ้าของทั้งสองคนให้แทนเพื่อเป็นการสาธิตวิธีรีดไปในตัว และในสัปดาห์ถัดมา เขาก็ปลุกยูคยอมขึ้นมาแต่เช้าเพื่อให้เขารีดเสื้อผ้าทั้งหมด ซึ่งเด็กหนุ่มก็ใช้เวลานานกว่าที่มาร์คใช้ก่อนหน้านี้เกือบสองเท่า และทนทำด้วยสีหน้าบูดบึ้ง บ่นเป็นหมีกินผึ้งว่าทำไมไม่เอาให้ร้านรีดให้ก็จบ มาร์คให้เหตุผลว่าร้านแถวนี้รีดไม่เรียบร้อยและเคยทำเสื้อตัวโปรดของเขาเสียหายไปตัวหนึ่ง

     

     

    ฉะนั้นมาร์คเลยไม่คิดว่ายูคยอมจะเอาคำว่าน่ารักมาใช้พูดถึงตัวเขา และเขามองไม่ออกว่ายูคยอมพูดเล่นหรือพูดจริง ถ้าแค่พูดเล่นหรือพูดหยอกเขาก็คงจะหาทางกลบเกลื่อนได้ง่ายกว่านี้ แต่พอลองคิดว่ายูคยอมพูดจริงแล้ว...

     

     

    เอาเป็นว่า จะจริงหรือจะเล่น มาร์คก็มีทางเลือกเดียวคือเปลี่ยนหัวข้อที่คุยเสีย

     

     

    "แล้วนายล่ะ ตอนอยู่โรงเรียนก็น่าจะมีคนมาชอบเยอะใช่รึเปล่า"

     

     

    "ทำไมคิดอย่างนั้นล่ะ? แปลว่าพี่ก็คิดว่าผมน่ารักเหรอ?"

     

     

    ...ถ้าหลังจากนี้มาร์คจะกลับไปเป็นมาร์คคนเดิมที่ไม่ค่อยคุยกับยูคยอมอีก เขาคิดว่าเขาหาเหตุผลสนับสนุนการกระทำของตัวเองได้ และต่อให้ยูคยอมจะตัดพ้อน้อยใจเขาอีกเขาก็ไม่สน มันใช่เรื่องไหมล่ะที่ยูคยอมจะใช้ตรรกะที่ตัวเองคิดเองเออเองมาย้อนถามเขาจนเขาไม่รู้จะตอบอะไรแบบนี้

     

     

    "หลงตัวเอง"

     

     

    "ฮ่าๆๆ ตอบจริงๆ ก็ได้ ก็มีบ้างแหละ แต่ผมไม่สนใจ"

     

     

    "ทำไม?"

     

     

    "ผมมีคนที่ชอบอยู่แล้ว เลยไม่สนใจใคร แต่คนที่ผมชอบเขาไม่รู้"

     

     

    มาร์คได้ฟังแบบนั้นแล้วก็เริ่มสนใจว่าคนที่ยูคยอมชอบจะเป็นคนแบบไหน แต่เขาก็เก็บความอยากรู้อยากเห็นของตัวเองไว้ และแนะนำไปแทนว่า "ที่จริงก็น่าจะลองบอกไปนะ เก็บไว้แบบนั้นใครเขาจะรู้ แทนที่วันนี้อาจจะได้ออกไปไหนก็ต้องมานั่งอยู่กับพี่แบบนี้ เสียดายแทน"

     

     

    "ไม่น่าเสียดายหรอกครับ ปีนี้ได้อยู่กับพี่แบบนี้ก็ดี -- แต่ไว้เดี๋ยวจะลองหาทางบอกดูก็ได้"

     

     

     

     

     

    หลังจากกินอาหารเย็นเสร็จ มาร์คก็กลับเข้าห้องนอนของตัวเองเพื่ออาบน้ำและเปลี่ยนเสื้อผ้า ออกมาอีกทีก็เห็นว่ายูคยอมเก็บช็อกโกแลตที่เขาได้รับมาวันนี้เข้าตู้เย็นไปหมดแล้ว และกำลังนั่งกดมือถือเล่นอยู่บนโซฟา

     

     

    ชายหนุ่มหยิบรีโมตขึ้นมาเปิดโทรทัศน์เพราะรู้สึกว่าห้องเงียบเกินไป แต่เปิดไปช่องไหนก็เจอแต่ข่าวหรือสกู๊ปที่ต้องเกี่ยวข้องกับวันแห่งความรักสากล เขาเผลอถอนหายใจอย่างรำคาญ สุดท้ายเลยเปิดรายการตลกในช่องเคเบิลทิ้งไว้

     

     

    "วันนี้นี่มัน... นี่ถ้านายอายุถึงพี่จะลงไปซื้ออะไรมานั่งดื่มด้วยกันแล้ว"

     

     

    ยูคยอมนึกภาพตามแล้วหัวเราะ "ถามจริง นี่พี่รำคาญวาเลนไทน์จริงๆ หรือพี่แค่เหงาเนี่ย?"

     

     

    "ทั้งสองอย่างมั้ง พี่ไม่ค่อยเห่ออะไรกับเทศกาลพวกนี้อยู่แล้ว แล้วก็..."

     

     

    "แล้วก็อะไร?"

     

     

    "...ช่างมันเถอะ เดี๋ยวก็หมดวันแล้ว"

     

     

    เด็กหนุ่มคาดไว้แล้วว่าอะไรที่มาร์คคิดอยู่ในใจ เขาคงไม่ยอมพูดมันออกมา ซึ่งเขาก็ไม่อยากเร่งรัดให้มาร์คพูดในขณะที่เขายังไม่พร้อม ไม่เป็นไร เพราะยูคยอมยังมีเวลาอีกมากมาย

     

     

    จู่ๆ ยูคยอมก็ลุกออกไปที่ตู้เย็น แล้วกลับมาพร้อมกับช็อกโกแลตกล่องใหญ่ที่ข้างในบรรจุช็อกโกแลตชิ้นหลากหลายรูปแบบและรสชาติ ดูจากยี่ห้อหน้ากล่องแล้วก็ไม่น่าจะเป็นของราคาถูก มาร์คมองของหวานสีน้ำตาลเข้มที่อยู่ในนั้น สลับกับมองหน้ายูคยอมอย่างไม่เข้าใจ

     

     

    "เมื่อเช้าพี่บอกว่าคืนนี้ไม่ได้ออกไปไหน วันนี้ผมเลยออกไปซื้อมา ไหนๆ นี่ก็เป็นวาเลนไทน์ทั้งทีนี่นะ แถมพี่ดันต้องออกไปทำงานอีก ให้พี่กลับมาทำอะไรเหมือนทุกๆ วันก็น่าเบื่อแย่ ผมแค่อยากให้วันนี้มันมีอะไรสำหรับพี่หน่อย แต่..." ยูคยอมยิ้มแก้เก้อ "...ผมไม่รู้ว่าพี่จะได้ช็อกโกแลตมาเยอะขนาดที่ว่าต้องเอากลับมาให้ผมช่วยกิน แล้วก็ไม่รู้ด้วยว่าพี่จะไม่รู้สึกอะไรกับวาเลนไทน์ -- หรืออาจจะรู้สึกแย่จนไม่อยากรู้สึกอะไร..."

     

     

    "ยูคยอม..."

     

     

    เจ้าของช็อกโกแลตหยิบช็อกโกแลตที่โรยหน้าด้วยถั่วอัลมอนด์ขึ้นมากินเองชิ้นหนึ่งก่อนจะปิดฝากล่อง กำลังจะยกกลับไปเก็บ "ผมแค่...จะบอกเฉยๆ เห็นว่าถ้าพี่เปิดตู้เย็นก็คงเจออยู่ดี จะได้ไม่งง"

     

     

    มาร์คยิ้ม และถ้าเขาจำไม่ผิด นี่เป็นครั้งแรกที่เขายิ้มจากใจจริงในวันวาเลนไทน์ปีนี้ ไม่ใช่แค่ยิ้มตามมารยาทตอนที่ได้รับช็อกโกแลตจากคนอื่นในที่ทำงาน เขาไม่คาดคิดมาก่อนว่ายูคยอมจะทำอะไรแบบนี้ให้

     

     

    "ยูคยอม เอาวางไว้นี่ก่อนก็ได้ เดี๋ยวกิน"

     

     

    "หา พี่จะกินเหรอ?"

     

     

    "อื้ม ขอบใจนะ"

     

     

    กล่องช็อกโกแลตของยูคยอมไม่มีสติกเกอร์รูปหัวใจ ไม่มีสีแดงหรือสีชมพูตกแต่งอยู่บนกล่อง ไม่มีจดหมายหรือการ์ดหรือข้อความบอกความรู้สึกเหมือนกับช็อกโกแลตบางชิ้นที่เขาได้รับในวันนี้ เขาเปิดฝากล่องขึ้นอีกครั้งแล้วหยิบช็อกโกแลตรูปทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้าชิ้นเล็กขึ้นมากัดคำหนึ่ง

     

     

     

    ไม่หวาน

     

     

     

    แต่กลมกล่อม ละมุนลิ้น และประทับใจ

     

     

     

    อย่างน้อยวาเลนไทน์ปีนี้ก็ไม่แย่เหมือนปีก่อน และปีหน้าอาจดีกว่านี้

     

     

     

    *

     

     

    "ก็เข้าใจนะว่านี่มันวาเลนไทน์ แต่จำเป็นต้องทำขนาดนี้มั้ยล่ะ..."

     

     

    มาร์คมองลูกโป่งสีชมพูอ่อนสลับกับสีชมพูเข้มมากมายที่ยูคยอมแขวนผูกติดไว้กับส่วนต่างๆ ภายในห้อง ทำหน้าเหม็นเบื่อใส่บรรยากาศที่หวานแหววเกินเหตุที่ตัวเองเห็นตั้้งแต่ลืมตาตื่น ใครมันกำหนดว่าความรักต้องแทนที่ด้วยสีชมพู

     

     

    และใครดลใจให้ยูคยอมลุกมาทำอะไรแบบนี้

     

     

    "นี่ ไม่ชอบเหรอ ผมอุตส่าห์ตื่นมาทำแต่เช้า"

     

     

    "พี่ไม่ใช่เด็กสาวสิบห้าสิบหกนะจะได้มาอินกับอะไรแบบนี้" เขาดีดลูกโป่งใบหนึ่งที่ผูกติดอยู่กับชั้นวางของ "เฮ้อ หมดวันแล้วก็แกะออกให้หมดนะ ไม่จำเป็นต้องทำอะไรขนาดนี้ซะหน่อย"

     

     

    "ก็ผมเห็นว่าปีที่แล้วเราสองคน..."

     

     

    "ปีที่แล้วเรายังไม่ได้เป็นอะไรกันเลย"

     

     

    "ปีนี้เลยอยากจะทำให้มันดีขึ้นไง"

     

     

    มาร์คแกะลูกโป่งใบนั้นออกมาจากชั้นแล้วใช้มันตีศีรษะยูคยอมเบาๆ เชิงหยอกเล่นไปหนึ่งที

     

     

    "นี่ วาเลนไทน์น่ะ แค่นายอยู่กับพี่เหมือนปีที่แล้วก็ได้ ไม่ต้องทำอะไรให้มันเยอะแยะถึงขนาดนี้"

     

     

    เด็กหนุ่มทำหน้ามุ่ยเมื่อเห็นว่าแผนเซอร์ไพรส์ของเขาไม่ได้ทำให้มาร์คประทับใจนัก คนโดนเซอร์ไพรส์หลุดขำสีหน้านั้นเล็กน้อยพลางส่ายหน้า ก่อนจะเงยหน้าแล้วจูบแก้มของยูคยอมเบาๆ แทนคำปลอบใจ

     

     

    "แล้วเราก็อยู่ด้วยกันไปจนถึงวาเลนไทน์ปีหน้าและปีต่อๆ ไปนะ"

     

    end.

     




    เห็นเค้าอัพฟิควาเลนไทน์กันโครมๆ เลยอยากอัพบั้งงง ไงล่ะ เสร็จตอนห้าทุ่มสี่สิบ555555 ได้อัพตอนหมดวันไปแล้วเลย โธ่ T_T





    B E R L I N ❀
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×