ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [GOT7] 'SO LUCKY' (SF/OS)

    ลำดับตอนที่ #11 : [OS/Challenge] Hope I Don’t Fall in Love With You (JB x Jr.)

    • อัปเดตล่าสุด 6 ส.ค. 58


    Hope I Don't Fall in Love With You

    JB/Jr.

    Note: ส่วนหนึ่งของ challenge #1เพลง1คู่


    -----


    กติกา #1เพลง1คู่ #จบหนึ่งเรื่อง

    1. รับโจทย์ โจทย์จะกำหนดให้แต่งฟิคสั้นๆ ประมาณ 100-300 คำ ด้วยตัวละครหรือคู่ที่กำหนด และให้แต่งจากเพลงที่กำหนด
    2. แต่งฟิคตามโจทย์ แล้วโพสต์ลง twitlonger.com หรือบล็อกส่วนตัวโดยโพสต์กติกานี้ไว้ด้านบนด้วย
    3. แท็กคนอื่นต่อโดยกำหนดตัวละครหรือคู่ และเพลง ถ้าเป็นเพลงภาษาต่างประเทศ รบกวนแนบคำแปลมาให้ด้วยจะขอบคุณมากค่ะ เช่น JB x Jr. (GOT7) เพลง A Thousand Years (Christina Perri) https://www.youtube.com/watch?v=XBZUZAcon-M
    4. ไม่บังคับรูปแบบความสัมพันธ์ position จะเขียนออกมาแบบไหนก็ได้ค่ะ โดยให้เพลงเป็นตัวกำหนด theme
    5. ก่อนแท็กใคร กระซิบถามกันก่อนก็ดีะนะคะว่าสะดวกไหม อยากให้เล่นกันด้วยความสมัครใจมากกว่า
    6. ขอให้สนุกค่ะ ;)

     


     รับโจทย์มาจาก @wnnwn_ : Tom Waits – Hope I Don’t Fall In Love With You




    เด็กหนุ่มหน้าตาน่ารักตรงหน้าเขาชื่อโพ่เจินหรง

     

    “หลานชายของผมเอง คุณหลิน” โพ่เสียนชือ เจ้าสัวตระกูลดังผู้มีวันคล้ายวันเกิดครบรอบหกสิบปีในวันนี้กล่าวแนะนำ “คุณหลินไม่เคยเห็นหรอก เขาไปเรียนเมืองนอกแต่เด็ก”

     

    ที่จริงหลินไจ้ฟ่านอยากพูดเข้าประเด็นว่า หลานชายคุณโพ่หน้าตาดีเหมือนคุณเหม่ยอิ๋งเลยนะครับ เพราะเขาจำได้ว่าลูกสะใภ้ของโพ่เสียนชือเคยเป็นดาราภาพยนตร์ชื่อดังมาก่อน แต่คิดว่านั่นคงไม่เหมาะสมนัก ไจ้ฟ่านจึงเก็บถ้อยคำนั้นไว้ใช้ชื่นชมเจินหรงอยู่ในใจอย่างเดียว และเอ่ยออกมาอย่างสมกับมาดนักธุรกิจเลือดใหม่ของวงการว่า

     

    “แต่หลังจากนี้คุณหนูเจินหรงก็คงจะได้ออกงานบ่อยกว่านี้สินะครับ โตเป็นหนุ่มแล้ว อีกไม่นานก็คงเข้ามาช่วยธุรกิจคุณโพ่เต็มตัว”

     

    “ครับ แต่คงอีกหลายปีเลยกว่าจะพร้อม”

     

    ไจ้ฟ่านไม่แน่ใจนักว่ารอยยิ้มบางเบาที่ปรากฏอยู่บนใบหน้าของเจินหรงมีความหมายอย่างไร แค่เพียงต้องการแสดงท่าทีเป็นมิตร หรือเจินหรงหยั่งรู้ความในใจของเขาตั้งแต่แรกเห็น

     

     

    And I hope that I don’t fall in love with you.

     

     

    หากไม่นับคนในครอบครัว งานแซยิดของโพ่เสียนชือก็มีแต่เพื่อนพ้องนักธุรกิจระดับสูงในวงการมาร่วมงาน ไจ้ฟ่านมั่นใจว่าตัวเองเป็นหนึ่งในกลุ่มนักธุรกิจหน้าใหม่ที่อายุน้อยที่สุด แต่ฝีมือไม่แพ้รุ่นเก่า เขาเก่งกาจพอที่จะฟื้นฟูธุรกิจที่กำลังซบเซาของครอบครัว พลิกโฉมโรงแรมสองดาวที่รอวันล้มละลายกลายเป็นโรงแรมห้าดาวที่กลายเป็นจุดสนใจแห่งใหม่ของนักท่องเที่ยว ธุรกิจของเขาจึงได้เข้ามาอยู่ในชั้นแนวหน้าของเกาะฮ่องกง พร้อมๆ กับที่ไจ้ฟ่านกลายเป็นคนหนุ่มใหม่ไฟแรงที่คนเก่าแก่อย่างเสียนชือยอมรับ

     

    ไจ้ฟ่านนั่งมองเจินหรงนั่งฟังผู้ใหญ่ในโต๊ะคุยกันตามมารยาทด้วยรอยยิ้มและสายตาที่ค่อนข้างโดดเดี่ยว เขาคาดเดาว่าเด็กวัยอย่างเจินหรงคงไม่ได้สนใจเรื่องราวที่คนกลุ่มนั้นคุยกันเท่าใด ยิ่งไม่ได้เติบโตที่นี่และไม่รู้จักใครสักคน บรรยากาศที่นี่คงน่าเบื่อทีเดียวสำหรับเจินหรง เด็กหนุ่มหันมามองทางเขาบ่อย และที่เขารู้ก็เพราะว่าทุกครั้งที่เขาสบโอกาส เขาก็จะลอบมองไปทางเจินหรงอยู่เสมอ

     

    หากเจินหรงไม่ใช่หลานชายวัยสิบแปดของเจ้าสัวเสียนชือ หากไจ้ฟ่านไม่ใช่ชายหนุ่มวัยสามสิบสามที่ควรจะมีคู่ครองแต่งงานเป็นหลักเป็นฐานได้แล้ว หรือหากที่นี่เป็นสถานบันเทิงข้างนอก ไม่ใช่ในห้องจัดเลี้ยงในโรงแรมที่มีแขกอันทรงเกียรตินั่งร่วมอยู่ด้วยไปหมด ไจ้ฟ่านคงสลัดเหตุผลทุกอย่างทิ้ง แล้วเชิญชวนให้เจินหรงมานั่งบนเก้าอี้ว่างข้างๆ (หรือบนตัก) แต่เพราะใช้ชีวิตที่มีหลักเหตุผลและการประเมินความเสี่ยงมาช่วยประกอบการกระทำของตัวเองตลอด สุดท้ายไจ้ฟ่านเลยได้แต่นั่งเฉยๆ

     

    ไจ้ฟ่านรู้ว่าเขาปิดสายตาตัวเองได้ไม่มิด เจินหรงล่วงรู้ความรู้สึกของเขา เพราะรู้ถึงได้มองไจ้ฟ่านอย่างรอคอยและคาดหวังว่าเมื่อไรไจ้ฟ่านจะเริ่ม และเขาก็รู้ใจตัวเองดีกว่านั้น เพียงแต่สมองสั่งไม่ให้เขากระทำ

     

    เขาทำอย่างที่ใจต้องการไม่ได้ ไม่ใช่ตอนนี้ ไม่ใช่ที่นี่ มีสายตาของคนมากมายจับจ้องพวกเขามากเกินไป – โพ่เสียนชือจะมองเขาอย่างไรหากล่วงรู้ความคิดของไจ้ฟ่านที่มีต่อหลานชายตัวเอง

     

     

    And I hope that you don’t fall in love with me.

     

     

    ไจ้ฟ่านลุกออกไปห้องน้ำ กำลังจัดเครื่องแต่งกายตัวเองให้เรียบร้อยอยู่หน้ากระจก เจินหรงก็เดินเข้ามา

     

    พวกเขาสบตากันผ่านกระจก ไม่มีใครพูดอะไร เด็กหนุ่มไม่ได้มาทำธุระ เขาเพียงแค่ล้างมือ แต่เป็นการล้างมือที่ออกจะนานไปหน่อยสำหรับไจ้ฟ่าน กระทั่งเขาผูกหูกระต่ายสีดำของตัวเองใหม่เสร็จเรียบร้อยแล้ว เจินหรงก็ยังไม่หยุดล้างมือ

     

    “เบื่อไหม” สุดท้ายไจ้ฟ่านก็ยอมเป็นฝ่ายทำลายความเงียบก่อน

     

    “อื้ม เบื่อ”

     

    “ไม่สนุกล่ะสิ งานแบบนี้มีแต่คนแก่”

     

    “ผมชอบนั่งฟังผู้ใหญ่พูดนะ ผมว่าคนที่ผ่านโลกมามากมีเสน่ห์ออก แต่งานนี้มันน่าเบื่อตรงที่เราทำอะไรตามใจชอบไม่ได้เลย”

     

    ดวงตาเรียวของไจ้ฟ่านสบมองกับเจินหรงผ่านเงาสะท้อนอีกครั้ง เขาเห็นอีกฝ่ายยิ้ม ทั้งสายตา รอยยิ้ม และคำพูดที่แฝงความนัยชวนให้ไจ้ฟ่านคิดถึงไปไหนต่อไหน ไจ้ฟ่านผลักเจินหรงให้ชิดกับขอบอ่างล้างมือ ประกบจูบปิดริมฝีปากอิ่มอย่างเอาแต่ใจ ดื่มด่ำกับผิวขาวนวลกระจ่างที่ซ่อนอยู่ใต้ทักซิโดสีดำ กระชากกางเกงลงไปกองบนพื้น เม้มกัดต้นขาแน่นๆ แล้วก็

     

    “…นั่นสินะ”

     

    ไจ้ฟ่านพูดเพียงแค่นั้นแล้วก็รีบปลีกตัวมาจากในห้องน้ำ บังคับใจตัวเองไม่ให้หันกลับไปมองเจินหรงเพราะรู้ว่าความคิดของเขาได้เตลิดไปไกลเกินกว่านั้นแล้วเรียบร้อย เขาพาตัวเองกลับมาอยู่ในห้องจัดเลี้ยง การคุยกับคนอื่นๆ ที่ไม่ใช่เจินหรงคงดีกว่านี้

     

    เจินหรงตามเขาเข้ามาไม่นานหลังจากนั้น ไจ้ฟ่านไม่หันไปมองทางนั้น บังคับไม่ให้ตัวเองได้เห็นว่าเจินหรงก็ยังคงมองมาทางเขาอยู่เสมอ

     

     

    And I hope that you don’t fall in love with me.

     

     

    งานเลี้ยงจบลงพร้อมๆ กับที่บรรดาแขกเหรื่อเริ่มเตรียมตัวที่จะกลับบ้านของตัวเอง หลายคนที่รีบๆ ก็เข้ามากล่าวอำลาและอวยพรโพ่เสียนชืออีกครั้งก่อนที่จะขอตัวออกไปจากห้องจัดเลี้ยง ไจ้ฟ่านก็เป็นหนึ่งในนั้น

     

    “ผมขอตัวกลับก่อนนะครับ คุณโพ่” เขาไม่ลืมที่จะกล่าวอำลาต่อโพ่จวิ้นอี้ เฉินเหม่ยอิ๋ง จากนั้นก็มาหยุดที่เจินหรง “ไว้เจอกันอีกนะครับ คุณเจินหรง”

     

    “แต่ก็คงไม่ใช่เร็วๆ นี้หรอกนะคุณหลิน” เสียนชือกล่าวอย่างอารมณ์ดี “มะรืนนี้เขาบินไปอเมริกาแล้ว เขาสอบติดมหา’ลัยที่นั่นน่ะ อีกหลายปีเลยกว่าจะได้กลับฮ่องกง”

     

    ไจ้ฟ่านฟังคำบอกเล่าของเสียนชือโดยที่ไม่ละสายตาไปจากเด็กหนุ่มที่สะกดสายตาและความรู้สึกเขาได้ตั้งแต่แรกพบหน้า เจินหรงยิ้มให้เขาอีกครั้ง ยิ้มเหมือนตอนที่พบหน้ากันเมื่อครู่นี้ ยิ้มแบบที่ทำให้ความคิดของไจ้ฟ่านลอยเตลิดไปไกลในห้องน้ำ

     

    “น่าเสียดายนะครับ…”

     

    หากไม่นับตัวเขาเอง คงมีเพียงเจินหรงที่รู้ว่าเขาหมายถึงอะไร

     

    “…ที่เราจะไม่ได้เจอกันเร็วๆ นี้”

     

    “ไม่ต้องเสียดายหรอกคุณหลิน ไว้เจินหรงเรียนจบกลับมาเมื่อไหร่ ดีไม่ดีผมอาจจะต้องฝากคุณหลินช่วยเขาด้วย อย่างน้อยคุณก็วัยใกล้กันกับเขามากกว่า น่าจะให้คำปรึกษาและคุยกันได้เข้าใจกว่าคนแก่ๆ อย่างผม”

     

    หลินไจ้ฟ่านรับคำเป็นมั่นเป็นเหมาะ ก่อนที่จะเดินจากครอบครัวโพ่ออกมาด้วยความรู้สึกเสียดาย เขาหันกลับไปทางนั้นอีกครั้งตอนที่กำลังจะก้าวพ้นห้องจัดเลี้ยง พวกผู้ใหญ่สามคนกำลังพูดคุยอำลาแขกอีกคนหนึ่งอยู่ ส่วนเจินหรงก็ยังคงมองมาทางเขาเหมือนอย่างที่มองมาตลอดก่อนหน้านี้ เขายกมือขึ้นแล้วลอบโบกมือลา


    ไจ้ฟ่านโบกมือกลับ ในใจได้แต่นึกเสียดาย

     

    สั่งตัวเองว่าหากมีครั้งต่อไป ต่อให้อยู่ต่อหน้าคนเป็นร้อยเป็นพัน เขาจะทำตามอารมณ์ตัวเองมากกว่านี้ แล้วจูบเจินหรงอย่างที่หัวใจเรียกร้อง

     

     

    And I think that I just fell in love with you.

     

     

     

     

    END.

     

     

    #ทีมเปลี่ยนทุกเพลงให้กลายเป็นฟิคผิดศีลธรรม

    แต่ตอนอ่านเนื้อเพลง (แบบยังไม่ได้ฟัง) มันคิดถึงแต่อะไรแบบนี้จริงๆ ค่ะ อยากกินเค้าแต่มัวแต่คิดนู่นคิดนี่เลยนกไม่ได้กิน (…)

     

    แท็กกลับ @wnnwn_ คู่ แจบอม/จินยอง เพลง Hana – Orange Range แต่ขอให้อ่าน คำแปล (ภาษาอังกฤษ) เจ้านี้แทน ซึ่งแปลไว้ดีกว่าในซับแล้วแต่หายไป 4 ท่อน เลยแถม คำแปล (ภาษาไทย) เอาไปอ่านด้วยเพราะท่อนที่หายไปมันพีคมาก



    (c) Chess theme
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×