คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #8 : Chapter VIII
- VIII -
หลังจากทำงานทั้งวันสามซุปตาร์ก็ได้มานั่งทานอาหารเย็นที่ทางรีสอร์ตจัดให้เป็นพิเศษแถมด้วยการแสดงต่าง ๆ ในบรรยากาศรอบกองไฟกลางทุ่งโล่ง ๆ ยิ่งทำให้การมาทำงานครั้งนี้เหมือนได้ชาร์ตแบตในตัวไปด้วย...โตโน่ที่เห็นว่าน้องชายคนนี้มีความสุขอย่างออกนอกหน้าเพราะว่าได้ร่วมงานกับคนที่เจ้าตัวแอบชื่นชอบมานานก็ไม่อยากจะแซว
“เดี๋ยวพี่ขอตัวไปทางโน้นก่อนนะ” โตโน่ลุกขึ้นพร้อมกับส่งสายตาวิววับให้น้องชาย...เห็นน้องอารมณ์ดีก็ไม่อยากจะแกล้ง...พออยู่กันสองต่อสองริทก็ไม่รู้จะพูดอะไรดีนอกจากนั่งมองเต้ยที่ยิ้มกำลังบรรยากาศรอบข้าง
“แหม...มองอย่างนี้เต้ยก็เขินเป็นนะ” หญิงสาวเอ่ยเมื่อหันมาสบตาหลังจากทำเฉไฉอยู่นาน
“แหะ ๆ ๆ ...ก็นาน ๆ ได้ทำงานร่วมกันทีริทก็ขอมองให้หายคิดถึง” ริทยิ้มเขิน ๆ แค่ได้เจอกันก็รู้สึกดีใจมากทั้งที่อีกฝ่ายให้ได้แค่ความเป็นเพื่อนเท่านั้น
“ริทเครียดมั้ย...เต้ยเห็นริทโดนเขียนข่าวกับพี่โตโน่อีกแล้ว...” เต้ยถามไถ่ด้วยความเป็นห่วงเพื่อนคนนี้
“เลิกเครียดแล้ว...แล้วข่าวที่เขียนกับเต้ยหล่ะ...เค้าว่าไรมั้ย” ริทเองก็ถามถึงอีกข่าวที่ทั้งคู่โดนด้วยกัน
“ไม่หรอก...พี่เขาเข้าใจว่าเต้ยกับริทเป็นเพื่อนกัน” คำพูดสุดท้ายย้ำความสัมพันธ์ระหว่างทั้งคู่ทำให้ริทรู้สึกไม่เสียใจเหมือนเมื่อก่อนในเมื่อเป็นมากกว่านั้นไม่ได้ก็ขอเป็นเพื่อนกันอย่างนี้นี่แหละมันยืนยาวดี
“ไม่รู้ถ่ายแบบวันนี้จะเป็นข่าวอีกหรือเปล่านะ” ริทแกล้งแซวก่อนทั้งคู่หัวเราะอย่างสนุกสนาน...ทำเอาทีมงานต่างมองดูแล้วก็แอบชื่นชมว่าน่ารักทั้งสองคนเลย
“แล้วนี่เมื่อไหร่ริทจะมีแฟนหล่ะ...เต้ยเห็นคนมาขายขนมจีบให้ตั้งเยอะนะ” เต้ยแกล้งแซวเรื่องหัวใจของอีกฝ่ายบ้าง
“โอ๊ยยย...ไม่ดีกว่ามาแต่ละคน...น่าเบื่อ” ซุปตาร์หนุ่มบ่นเมื่อนึกถึงหลาย ๆ คนที่เข้ามา
“งั้นเหรอ...แล้วไม่มีใครที่ทำให้ใจเต้นแรงบ้างเลยเหรอ” คำถามที่จากเพื่อนคนสวยทำให้ริทนึกไปถึงใครคนหนึ่งขึ้นมาที่มักจะทำให้เจ้าตัวรู้สึกแปลก ๆ ได้อย่างเช่นเมื่อเช้าแถมยังเป็นคนที่ขโมยจูบแรกอีก...ขนาดเล่นละครยังไม่เคยจูบจริงเลยนะเฟ้ย
“มีแล้วใช่มั้ยเนี่ย...บอกเต้ยมานะว่าใคร” เต้ยโพล่งออกมาเมื่อเห็นคนตรงหน้าเหม่อคิดถึงใครบางคนจริง ๆ
“เฮ้ยยย...ไม่มี...เต้ยพูดไร...ริทไปหาพี่โตโน่ดีกว่า” ตอบเสร็จก็รีบลุกไปสมทบกับพี่โตโน่ทันที...เต้ยพูดเหมือนกับรู้เลย...พอเห็นว่าทุกอย่างเป็นไปตามแผนเต้ยก็รีบโทรไปรายงานแหล่งข่าวทันที
“ว่าไงจ๊ะ...พอมีแววมั้ย” เสียงตื่นเต้นรีบบอกเมื่อรู้ว่าใครโทรมา
“เต้ยว่าน่าจะพอไหวนะคะ...ลุกหนีไปหาพี่ชายเขาทันทีเลยค่ะที่พูดถึงเรื่องนั้นแต่เต้ยไม่รู้หรอกนะว่าจะหมายถึงคนเดียวกันกับที่พี่บอกหรือเปล่า” เสียงใสตอบไปมองริทที่อยู่อีกด้านหนึ่งไปด้วย
“ขอบคุณมากนะจ๊ะ...พี่ไม่รบกวนเต้ยแล้วหล่ะ...แต่เรื่องนี้เป็นความลับระหว่างเรานะจ๊ะ” เบียร์บอกขอบคุณน้องสาวที่น่ารักอีกคน
“ไม่มีปัญหาค่ะ...สวัสดีค่ะ” เต้ยบอกลาเช่นกันและที่เจ้าตัวยอมร่วมมือทันทีเพราะอยากให้เพื่อนคนนี้มีคนดูแลแม้จะยังไม่รู้ว่าเป็นใครก็ตามแต่ถ้าเบียร์เอ่ยปากแล้วเต้ยก็มั่นใจว่าต้องเป็นคนที่ดีแน่นอนเพราะพี่เบียร์เองก็รักริทมากคงไม่ให้คนไม่ดีเข้ามาใกล้ริทแน่นอน
“อ้าว...ไมมาเร็วจังวะ” พอเห็นน้องชายเดินเข้ามาหาทั้งที่เพิ่งได้มีโอกาสทำคะแนนแท้ ๆ
“ก็คุยเสร็จแล้ว” ริทตอบสั้น ๆ แล้วก็นั่งลงรอบกองไฟก่อนจะคิดอะไรเรื่อยเปื่อย...โตโน่เห็นน้องชายซึมผิดปกติก็ลงมานั่งด้วยอีกคน
“ทำไมวะ...เต้ยยังไม่ใจอ่อนอีกเหรอ” พี่ชายแกล้งแซวอีกครั้ง
“โหย...ริทเลิกหวังแล้ว...เป็นเพื่อนกันดีกว่าพี่โน่” ร่างบางตอบอย่างจริงใจเพราะตอนนี้เขาก็ไม่ได้รู้สึกกับเต้ยมากกว่าเพื่อนอีกแล้ว
“เออ...ถ้าริททำใจได้พี่ก็ดีใจด้วย...แล้วทำไมดูหงอย ๆ หล่ะมีอะไรไม่สบายใจหรือเปล่า” โตโน่ตบบ่าน้องแล้วก็เอ่ยถามอีกครั้ง
“ไม่หนิ...ริทก็สบายดีจะตายเห็นมั้ย” ตอบเสร็จก็หันมายิ้มแป้นให้พี่ชายดูจนโดนผลักหัวด้วยความหมั่นไส้แต่ริทก็ไม่โกรธ...พอน้องไม่มีอะไรจะพูดทั้งคู่ก็นั่งนิ่ง ๆ อยู่อย่างนั้นจนเสียงบีบีของริทดังขึ้น
‘ทำไรอยู่’ พอได้เห็นข้อความปุ๊บก็รู้สึกแปลกใจเพราะไม่คิดว่าอีกฝ่ายจะสนใจ...ว่างอย่างนี้ไม่ออกไปเที่ยวเหรอนี่...ริทคิดแล้วก็พิมพ์ข้อความกลับไป
‘หายใจอยู่ดิ๊...ถามแปลก’ พิมพ์เสร็จก็ขำอย่างอารมณ์ดีจนพี่ชายสงสัยแต่ก็ยังไม่ได้แสดงอาการอะไรออกมา...พิมพ์ไปยิ้มไปเอาแล้วไง...สาวที่ไหนวะ
‘กวนนะ...เดี๋ยวจะโดนไม่ใช่น้อย’ คำขู่ที่ริทอ่านแล้วก็เบะปาก...อยู่ไกลขนาดนี้ยังจะมาขู่อีกนะ...แต่ยังไม่ได้ตอบกลับพี่ชายที่นั่งมองอยู่นานก็เอ่ยปากขึ้น
“สาวที่ไหนวะ...ถึงได้อารมณ์ดีขนาดนี้เนี่ย” โตโน่บอกแล้วก็ดึงบีบีในมือน้องชายไปอ่านก่อนจะหันกลับมามองหน้าน้องตัวเองใหม่อย่างไม่แน่ใจ...ก็ไอ้รูปบนบีบีเนี่ยมันผู้ชายชัด ๆ !!!
“เฮ้ย...เอามานะพี่โตโน่...ริทกำลังคุยงานอยู่” ร่างบางโวยก่อนจะแย่งบีบีกลับมาแล้วก็เดินหนีกลับเข้าห้องไปทันที
“คุยงาน...แล้วไมมันต้องหน้าแดงด้วยวะ” โตโน่บ่นอย่างไม่เข้าใจแต่ก็ยอมหยุดไม่ตามไปเซ้าซี้...ไว้เดี๋ยวค่อยตามไปรีดข้อมูลมันทีหลังตอนนี้ขอชิล ๆ เอาแรงไว้ก่อนดีกว่าเพราะพรุ่งนี้มีคิวสาย
พอหลบพี่ชายจอมยุ่งเข้ามาอยู่ในห้องได้ร่างบางก็โดดลงบนเตียงนุ่นก่อนจะเริ่มตอบกลับอีกฝ่ายนึงกลับไปหลังจากที่ฝ่ายโน้นส่งข้อความมาตั้งมากมาย...
‘ว่างนักรึไง...ทำไมไม่ไปดูแลพี่เบียร์บ้าง’ ริทตอบกลับไปอีกครั้ง
‘รู้ได้ยังไงว่าไม่ดูแล...แล้วงานเป็นไงบ้าง’ ข้อความที่ลงท้ายด้วยความห่วงใยทำให้คนอ่านรู้สึกแปลก ๆ อีกแล้วก่อนจะตอบอีกฝ่ายไป
‘ง่าย...มือชั้นนี้แล้ว’ ทั้งสองคนต่างตอบกันไปมาอยู่อย่างนี้จนกระทั่งริทเผลอหลับไปและเมื่อนภัทรเห็นว่าอีกฝ่ายเงียบไปนานกว่าปกติก็เลยเดาได้ว่าริทคงเผลอหลับไปซะแล้ว...อีกอย่างตอนนี้ก็เกือบจะเที่ยงคืนแล้วเหรอเนี่ย...ก่อนจะพิมพ์ข้อความสุดท้ายกลับไปแล้วก็ปิดไฟนอนบ้าง
‘ฝันดีครับ...ซุปตาร์คนเก่ง’ ริทสะดุ้งเล็กน้อยเมื่อรู้ตัวว่าเผลอหลับไปได้สักพักใหญ่ก่อนจะนึกขึ้นได้ว่ากำลังคุยค้างอยู่...พอหยิบบีบีขึ้นมาอ่านก็เจอข้อความที่ทำให้ใจแกว่งอีกแล้ว...มันหมายความว่าไงวะ...ร่างบางได้แต่สงสัยแต่ก็ไม่อยากจะคิดอะไรมากคงเป็นเรื่องปกติสำหรับคนรู้จักกันล่ะมั้งคงไม่มีอะไรมากกว่านั้นหรอก...พอหาคำตอบให้ตัวเองสบายใจได้แล้วก็ปิดไฟนอนสักทีแต่คำตอบสำหรับความรู้สึกโหว่งชอบกลในท้องนี่สิมันหมายความว่ายังไงกันนะ
เพราะความที่เป็นมืออาชีพต่อให้เมื่อคืนนอนดึกเพราะคนบางคนแค่ไหนริทก็ยังตื่นมาถ่ายช็อตตอนเช้าได้อย่างตรงเวลาแถมงานก็เสร็จเร็วกว่าที่ทีมงานคิดเพราะร่างบางดูอารมณ์ดีขึ้นสีหน้าที่แสดงออกมาตรงตามคอนเซ็ปต์ของ In love ทีเดียว...เล่นเอาพี่และเพื่อนที่มาร่วมงานด้วยมองหน้ากันอย่างสงสัยแต่เรื่องเดียวกันรึเปล่าเนี่ยโตโน่เลยต้องเอ่ยปากถามเต้ย
“ตกลงนี่ริทมันแสดงเก่งขึ้น...หรือมันกำลังอินเลิฟจริง ๆ ห๊ะเต้ย” โตโน่กระซิบให้สาวน้อยได้ยินเพียงคนเดียว
“เต้ยว่าพี่โตโน่ถามเจ้าตัวเองดีกว่าค่ะ...แต่ถ้าให้เต้ยเดา...อย่างหลังชัวร์” รอยยิ้มที่น่ารักเผยบนใบหน้าหวานเมื่อมั่นใจแล้วว่าเพื่อนคนนี้กำลังมีความรักอยู่แน่เลย...เป็นใครกันน้าที่พิชิตใจริทได้เนี่ยพี่เบียร์ก็ใจร้ายไม่ยอมบอกใบ้เลย
“หึๆๆ...พี่ก็ว่างั้น...” ทั้งสองต่างยิ้มน้อยยิ้มใหญ่จนคนถูกนินทาเริ่มสงสัยก่อนจะเดินเข้ามาถามแต่คำตอบที่ได้รับก็กลับทำให้หงุดหงิดเพราะทั้งคู่ไม่มีใครยอมบอกเขาสักคนได้แต่เปลี่ยนเรื่องคุยโน้นนี่นั้นจนทีมงานเรียกไปถ่ายหมู่เป็นเซ็ทสุดท้าย...
“โอเคครับ...ขอบคุณทุกคนมากครับ” เสียงตากล้องร้องบอกให้ทีมงานทุกคนทราบว่างานเสร็จเรียบร้อยตามที่วางแผนกันไว้ทำให้ทุกคนดีใจที่จะได้พักผ่อนกันให้เต็มที่ในช่วงเวลาที่เหลือของวันซึ่งกิจกรรมก็ได้ถูกทางรีสอร์ทจัดเตรียมไว้ให้อย่างเต็มที่เลย...งานนี้เหล่าซุปตาร์ต่างก็เคลียร์คิวงานเพื่อมาร่วมสนุกในวันนี้ด้วยเช่นกันเว้นก็แต่ริทที่ติดถ่ายทำละครต่อเพราะงานนี้ที่รับไว้ก็เพราะอยากจะมาเจอพี่ชายและเพื่อนสาวคนสวยนี้ต่างหากทำให้เจ้าตัวต้องขอแทรกคิวกระทันหันซึ่งกว่าพี่เบียร์และพี่อุ๋ยจะยอมก็แทบแย่ได้แค่นี้ก็ถือว่าดีมากแล้ว
“แล้วนี่ริทจะกลับเลยเหรอ” โตโน่ถามร่างบางที่กำลังเช็ดเมคอัพออกเพื่อเตรียมตัวกลับไปทำงานต่อเพราะทีมงานก็จัดรถตู้ให้เรียบร้อยแล้ว
“ฮะ...อิจฉาพี่กะเต้ยจัง...เที่ยวเผื่อริทด้วยนะ” ริทบ่นแล้วเตรียมกลับไปเก็บของที่ห้องโตโน่ได้แต่ยิ้มให้น้องชายที่เดินคอตกกลับที่ห้อง...หลังจากเก็บของเรียบร้อยริทแล้วพนักงานก็มารับกระเป๋าไปที่รถร่างบางจึงใช้เวลาที่เหลือไปร่ำลาก่อนจะเดินอย่างเซ็ง ๆ ไปที่ล็อบบี้
‘ที่เดินช้า...เพราะขาสั้นใช่มั้ย’ แค่เสียงข้อความเข้าก็ทำให้แปลกใจแล้วริทยิ่งแปลกใจมากขึ้นเพราะข้อความที่ได้รับ
“อะไรวะ...ส่งไรมาไม่เห็นจะรู้เรื่อง” ร่างบางบ่นแล้วก็จะเก็บโทรศัพท์ลงเพราะตอนนี้เซ็งที่ไม่ได้พักเลยไม่มีอารมณ์ต่อปากต่อคำแต่เจ้ามือถือก็ดังขึ้นซะก่อนและปลายสายก็ไม่ใช่ใครที่ไหน
“เดินเร็ว ๆ หน่อยได้มั้ยคร้าบบ...สตาร์ทรถรอเนี่ยมันเปลืองน้ำมันนะ” น้ำเสียงทักที่แสนจะกวนประสาทแต่คนฟังกลับรู้สึกดีใจที่ได้ยินแต่ก็ฉุกคิดขึ้นมาได้อย่างหนึ่ง
“เปลืองน้ำมันอะไร...แล้วนายรู้ได้ไงว่าชั้นเดินอยู่” ริทถามแล้วก็หันซ้ายหันขวาพลางคิดว่าอีกฝ่ายคงอำเขาอยู่แน่ ๆ
“เอ้า...มัวแต่หมุนไปหมุนมาอยู่นั้นแหละ...แล้ววันนี้จะถึงมั้ยเนี่ย” นภัทรตอบอย่างขำ ๆ เมื่อมองเห็นอาการของร่างบางที่งงหนัก
“นี่...นายเล่นอะไรเนี่ย!” คราวนี้ร่างบางเริ่มหมดความอดทนแล้วจนนภัทรต้องรีบเฉลย
“ก็ชั้นจอดรถรอนายตั้งนานแล้วนะ...” คำตอบที่ได้รับทำเอาริทอึ้งไปก่อนจะรีบเดินมาที่ล็อบบี้ก่อนจะจ้องมองรถฟอร์จูนเนอร์สีขาวที่คุ้นตาจอดนิ่งอยู่ตรงนั้นจริง ๆ ด้วย...เมื่อนภัทรเห็นอีกฝ่ายยังไม่เชื่อทั้งที่เห็นรถแล้วก็เลยกดประจกลงก่อนจะส่งยิ้มกวน ๆ มาให้
“เฮ้ย...มาได้ไง” ริทอุทานทั้งที่ยังถือโทรศัพท์อยู่แต่ใบหน้าที่เซ็งเพราะต้องกลับไปทำงานก่อนคนอื่นก็มีรอยยิ้มจาง ๆ ทำให้คนที่แอบสังเกตการณ์สองคนหันมองหน้ากันทันที...ใครวะทำให้น้องกูยิ้มออกเนี่ย
“หึๆๆ...ก็ขับรถมาดิ๊...แล้วทีนี้จะรีบมาได้ยัง” คนฟังขำแล้วก็เร่งให้ร่างบางเดินมาที่รถเร็วขึ้น...พอริทเห็นว่าคนที่ปลายสายนั้นอยู่นั้นจริง ๆ ก็รู้สึกแปลก ๆ อย่างบอกไม่ถูก...ไม่รู้ว่าไอ้ความรู้สึกนี้มันเรียกว่าอะไรแต่ก็รู้สึกดีกว่าเมื่อกี้เยอะเลย
“รู้แล้วน่า...” ริทบ่นก่อนจะตัดสายไปแล้วก็เดินไปที่รถโดยที่ไม่รู้ว่าเหตุการณ์ทั้งหมดนั้นมีพยานรับรู้และแอบคิดไปไกลแล้วด้วย...
“เต้ยเห็นอย่างที่พี่เห็นมั้ย” โตโน่ถามน้องที่ยืนซุ่มอยู่ด้วยกันมาสักพักแล้ว
“แล้วพี่โตโน่คิดว่าไงล่ะค่ะ...ถ้าคนนั้นทำให้ริทมีความสุขได้ก็ดีออก” เต้ยตอบแล้วเดินกลับไปเข้ากลุ่มกับทีมงานเพื่อเตรียมลุยกิจกรรมที่รออยู่...โตโน่ที่รู้สึกเห็นด้วยก็ไม่ได้ทักท้วงอะไรถ้าน้องชอบใครพี่ก็ชอบด้วยอยู่แล้ว
“นายมาได้ไง...แล้วถ้าตอบว่าขับรถมาชั้นจะลงทันที” ร่างบางเอ่ยปากถามพร้อมกับดักคอคนข้าง ๆ ไปด้วยเมื่อเข้ามานั่งตรงที่ประจำแล้ว
“พี่เบียร์ให้มารับ” นภัทรก็ไม่คิดจะยวนคนน่ารักเพราะแค่ได้เจอก็รู้สึกดี...เฮ้อ...ตกลงเค้าหลงเสน่ห์หมอนี่จริง ๆ เข้าให้แล้วแน่นอนอาการแบบนี้
“มารับทำไมยังไงทีมงานก็จะไปส่งอยู่แล้วนี่...แปลกจัง” ริทบ่นเพราะไม่เข้าใจว่าพี่เบียร์จะให้หมอนี่มารับเขาทำไมแต่ก็ไม่ถามต่อกลับปรับเบาะเอนลงอีกนิดแล้วทำท่าจะนอน
“เหนื่อยเหรอ...งั้นก็หลับเถอะ...เดี๋ยวถึงแล้วจะเรียก” ร่างสูงบอกแล้วก็ยิ้มให้อีกฝ่ายก็ก่อนจะหรี่เพลงลงนิดหน่อย...
“นี่...นายกินยาผิดป่ะ” พอได้ยินอีกฝ่ายทักนภัทรถึงกับขำก่อนจะพูดกวน ๆ ตามสไตล์กลับไป
“คงงั้น...หรือนายว่าไง” ริทที่สงสัยอยู่ก็พลอยเลิกคิดเมื่อเห็นใบหน้ากวนประสาทเหมือนเดิม...ไอ้บ้า!...ไม่น่ามองมันผิดไปเลยกวนประสาทที่สุด!
ริทได้แต่แยกเขี้ยวใส่เมื่อได้ฟังคำตอบจากนั้นก็หันหลังให้อีกฝ่ายแล้วก็เผลอหลับไปในที่สุด...นี่ถ้าชั้นบอกว่าคิดถึงนายเนี่ย...นายจะเชื่อชั้นมั้ย...นภัทรได้แต่ตั้งคำถามในใจก่อนจะขับรถต่อไปเพื่อไปให้ถึงจุดนัดหมายที่เค้าจะเซอร์ไพร์สคนข้าง ๆ หวังว่าคงจะชอบนะ
ใช้เวลาเพียงไม่นานนักนภัทรก็ขับรถถึงรีสอร์ตเล็ก ๆ ที่ตั้งอยู่ในหุบเขาไม่ไกลจากที่รีสอร์ตที่ริทเพิ่งไปทำงานมาแผนการของนภัทรก็ได้รับความร่วมมือจากพี่ทั้งสองอย่างเต็มที่โดยเฉพาะหนึ่งที่จะได้โอกาสไปพักผ่อนบ้างเพราะนานแล้วเหมือนกันที่สองสามีภรรยาไม่ได้ไปพักผ่อนอย่างนี้...หนึ่งเลยเสนอตัวจัดการหาที่พักสวย ๆ ให้ซึ่งก็ใช้เวลาไม่นานเพราะลูกค้าคนหนึ่งเป็นเจ้าของบ้านพักตากอากาศและเต็มใจให้ทั้งหมดไปพักได้โดยจัดบริการพิเศษไว้อีกต่างหาก
ภายในบ้านพักส่วนตัวที่ถูกแวดล้อมไปด้วยต้นไม้มากมายราวกับบ้านที่ซ่อนตัวอยู่กลางป่าแถมยังมีน้ำตกเล็ก ๆ ที่อยู่ด้านหลังของบ้านพักด้วยทำให้บรรยากาศของบ้านพักนั้นร่มรื่นและให้ความรู้สึกได้พักผ่อนตัดขาดจากความวุ่นวายของโลกภายนอกจริง ๆ ...หลังจากนภัทรจอดรถที่โรงจอดซึ่งแยกตัวออกจากบ้านพอสมควรเขาก็ไม่ได้เรียกให้ร่างบางตื่นขึ้นแต่กลับมองใบหน้าอีกฝ่ายซึ่งตอนนี้หันหนีแดดมาทางเขาเรียบร้อยแล้วเงียบ ๆ คิดอะไรเรื่อยเปื่อยไปจนกระทั่งเสียงเคาะกระจกดังขึ้น
“ก๊อก...ก๊อก” หนึ่งยืนส่งสายตาเจ้าเล่ห์ให้น้องชายตัวดี...คนถูกจับได้ทำได้แต่ส่งยิ้มให้แล้วก็เปิดประจกลง
“มองอยู่ได้...ขืนชักช้าคนอื่นคว้าไปแล้วจะหาว่าหล่อไม่เตือนนะคร้าบ” หนึ่งบอกก่อนจะเดินเลยไปทิ้งให้นภัทรนั่งคิดกับคำเตือนของพี่ชายตัวดี...ก่อนจะเรียกร่างบางให้ตื่น
“ถึงแล้ว...ตื่นสักที” ร่างสูงไม่เรียกเปล่ากลับยื่นหน้าเข้าไปใกล้อีกฝ่ายด้วย...แกล้งให้เขินดูดีกว่า
“อือ...ถึงแล้วเหรอ...เฮ้ยยยย” ริทบิดขี้เกียจเมื่อได้ยินเสียงเรียกก่อนจะตกใจร้องลั่นเมื่อเจอใบหน้าหล่อเหลาในระยะใกล้ผิดปกติ...
“555...ร้องซะอย่างกับเจอผี...ลงมาได้แล้ว” นภัทรตอบอย่างอารมณ์ดีเมื่อแกล้งคนน่ารักได้สำเร็จแล้วก็ลงมายืนยืดเส้นยืดสายสูดอากาศบริสุทธิ์รอร่างบางที่กำลังทั้งเขินทั้งงงว่าตอนนี้เขาพามาที่ไหนกันแน่
“นายพาชั้นมาที่ไหน...ชั้นต้องกลับไปทำงานต่อนะ” ริทโวยลั่นเมื่อลงจากรถแล้วสำรวจรอบ ๆ ตัวที่แน่ ๆ มันไม่ใช่กองถ่ายชัวร์...แต่ยังไม่ทันได้คำตอบก็มีเสียงหนึ่งทักมาซะก่อน
“น้องริท...เป็นไงบ้าง...เหนื่อยมั้ย” เบียร์ร้องทักเมื่อรถไฟฟ้าคันเล็กเลื่อนเข้ามาใกล้...
“พี่เบียร์...มาได้ไงฮะ” ร่างบางร้องทักอย่างแปลกใจแต่ไม่นานหนึ่งก็เดินกลับมาสมทบด้วยอีกคนแล้วก็ช่วยนภัทรขนกระเป๋าขึ้นรถกอล์ฟไฟฟ้ากลับบ้านไป
“ขึ้นมาก่อนเดี๋ยวพี่เล่าให้ฟัง” ว่าที่คุณแม่พูดแล้วก็เรียกให้ร่างบางขึ้นมานั่งข้าง ๆ แล้วก็เล่าเรื่องพักร้อนให้ฟัง
“แล้วพี่อุ๋ยเขาไม่ว่าเหรอฮะ...ที่ริทจะขอหยุดต่ออ่ะ” ริทถามเมื่อได้ฟังเรื่องทั้งหมดหลังจากเข้ามานั่งพักในบ้านแล้ว...
“พอดีน้องขวัญป่วยน่ะ...พี่อุ๋ยเลยยกกองจนกว่าน้องเค้าจะหายแล้วอีกอย่างซีนที่เหลือก็มีแต่น้องขวัญกับน้องริทซะส่วนใหญ่ด้วย...แกคงไม่อยากให้คนอื่นติดมั้ง” เบียร์อธิบายให้ร่างบางเข้าใจ
“ถึงกับยกกองเลยเหรอฮะ” ริทถามอย่างสงสัย
“เห็นว่าตอนนี้ถ่ายได้เร็วกว่าที่วางแผนไว้น่ะ...พี่เค้าก็เลยให้ทุกคนได้พักบ้างเพราะเร่งถ่ายเช้ายันดึกมาหลายอาทิตย์แล้ว” คราวนี้นภัทรเป็นคนบอกให้ร่างบางฟังบ้างซึ่งเจ้าตัวก็พยักหน้าเข้าใจ
“แต่ถ้าน้องริทอยากกกลับไปพักที่คอนโดพี่ก็ไม่ว่าอะไร...เดี๋ยวพี่จะให้กันไปส่งก็ได้นะ” เบียร์รีบบอกเมื่อเห็นร่างบางยังคิดอะไรอยู่ในใจ
“ไม่เอาๆ...ริทก็อยากพักบ้างเหมือนกันนะ...ได้อู้สักสองสามวันก็ดีเหมือนกันฮะ” ริทรีบปฎิเสธพลางมองหน้าคนที่ต้องไปส่งด้วย
“ดีแล้ว...กันเอาของขึ้นไปเก็บสิ” เบียร์บอกให้น้องชายเอาของไปเก็บซึ่งก็หมายถึงของส่วนตัวของริทด้วย
“เดี๋ยวริทเก็บเองได้...เอามาดิ๊” บอกเสร็จเจ้าตัวก็เดินไปแย่งกระเป๋ามาถือแต่มีเหรอที่นภัทรจะยอม...ร่างสูงไม่ปล่อยมือแถมเดินนำขึ้นไปก่อนอีกต่างหาก
“เสร็จแล้วก็ออกไปสิ...ยืนมองไรเล่า” ริทบ่นเมื่ออีกฝ่ายยังไม่ยอมออกจากห้องเขาไป...เป็นไรมากมั้ยเนี่ยวันนี้...คนเจ้าเล่ห์ไม่ยอมตอบแต่กลับทำท่าขนลุกใส่แล้วก็เดินออกมาจนริทต้องรีบตามออกมาเช่นกันเพราะท่าทางเมื่อกี้นั้น
“อะไร...ทำท่าแบบนั้นหมายความว่าไง” ริทคว้าแขนอีกฝ่ายไว้เมื่อนภัทรจะเดินลงไปข้างล่าง
“เปล๊า...ชั้นแค่...ไม่พูดดีกว่า” นภัทรตอบแค่นั้นแล้วก็เดินหนีไปข้างล่างเลยทิ้งให้ริทมองบ้านกว้าง ๆ อยู่สักพักก่อนจะตามลงมาด้วยอีกคน...ไมบ้านใหญ่จังอ่ะ...แล้วไอ้บ้านี่ยังจะมาทำให้คิดอีก
พอลงมาข้างล่างจะมาฟ้องพี่เบียร์ก็ไม่เจอแต่ดันมาเจอสองหนุ่มนั่งสุมหัวดูอะไรกันก็ไม่รู้แถมยังหัวเราะกันอีกด้วยทำให้ริทอยากรู้ขึ้นมาทันที...เผื่อจะมีเรื่องไปฟ้องพี่เบียร์ให้จัดการคนนิสัยแย่ได้บ้างพอคิดได้อย่างนั้นร่างบางจึงค่อย ๆ เดินเข้าไปด้านหลังสองหนุ่มแล้วก็ชะโงกดูแต่สิ่งที่เห็นถึงกลับทำให้พูดไม่ออกเลยทีเดียว...ริทที่กำลังจะหันหลังหนีไปหาพี่เบียร์แต่ก็ไม่ทันที่จะได้เดินไปไหนเบียร์ก็ส่งสัญญาณให้ริทเงียบเอาไว้แล้วก็เดินมายืนข้าง ๆ ร่างบางก่อนจะชะโงกดูบ้างว่าอะไรทำให้ริทถึงกับหน้าแดงขนาดนี้...
“หน่อย...นี่แกสองคนดูอะไรอยู่เนี่ยยย...โป๊ก...โป๊ก” พอเห็นต้นเหตุที่ทำให้น้องรักเขินขนาดนี้...เบียร์ก็รีบจัดการเพ่นกบาลสองหนุ่มทันทีก็จะไม่ให้ริทอายได้ยังไงกันเล่า...กูก็อายเป็นนะโว้ยไอ้หนึ่ง!!!
“โอ๊ยยยย...ที่รักอ่ะ/พี่เบียร์อ่ะ” สองเสียงประสานกันโดนมิได้นัดหมายก่อนจะรีบแยกย้ายหลบฝ่ามือพิฆาตที่กำลังจะตามมาซ้ำอีก...ริทจากที่อายอยู่ก็กลับมาขำจนท้องแข็งแทน
“ไม่ต้องมาร้องเลย...แกนี่ตัวดีพาน้องเสียคน...มานี่เลย” เบียร์รีบคว้าสามีตัวแสบไว้ก่อนที่จะลุกหนีไปแล้วก็ดึงหูให้มานั่งข้าง ๆ ทันทีส่วนนภัทรที่ไหวตัวทันหลบมานั่งที่โซฟาอีกตัวให้ห่างพี่สาวได้ทัน
“เสียคนที่ไหนหล่ะที่รัก...วิทยาศาสตร์ทั้งนั้น...เห็นมั้ยเนี่ย” หนึ่งเถียงพร้อมกับยกหน้าปกหนังสือให้ดู... ‘คู่มือพ่อแม่มือใหม่ ฉบับข้าวใหม่ปลามัน’ หนังสือที่คู่มือที่ดูน่าเชื่อถือแต่เนื้อหาที่เห็นเมื่อครู่ก็ทำให้เบียร์ยังมองเขม้งอีกฝ่ายไม่วางตา...จนหนึ่งยื่นหนังสือให้เจ้าตัวเปิดดูเอง
“เห็นมั้ย...ไม่ได้เป็นอย่างที่พี่คิดสักหน่อย” ร่างสูงรีบสนับสนุนเมื่อเบียร์เริ่มเปิดหนังสือดูซึ่งตอนนี้ริทเองก็มานั่งร่วมวงด้วยแล้ว
“แล้วทำไมแกสองคนดูแต่...เรื่องบ้า ๆ หล่ะ...แถมยังมาเปิดให้น้องริทดูอีก” เบียร์โยนหนังสือกลับไปให้สามีแต่ก็ยังไม่ยอมปล่อยตัวไป
“น้องพี่มาแอบดูเองต่างหาก...สงสัยจะอยากศึกษาเอาไว้บ้าง...จริงมั้ย” นภัทรย้อนแล้วก็ส่งสายตากะล่อนมาให้คนที่พูดถึงด้วย
“ไม่ใช่สักหน่อย!!” ริทรีบปฎิเสธทันทีที่โดนใส่ความ...ไอ้บ้า...ใครจะอยากรู้กันเล่า...ลามกที่สุด!!!
“ไม่ต้องอายหรอกครับน้องริท...เรื่องอย่างนี้มันเรื่องธรรมชาติ...ถ้าอยากให้ลูกออกมาน่ารักก็ต้องศึกษาเอาไว้บ้าง” หนึ่งตอบอย่างหน้าตาเฉยจนคนฟังสองคนเริ่มงง
“ลูกน่ารัก...แล้ว...แล้วมันเกี่ยวอะไรกันด้วยหล่ะพี่หนึ่ง” ริทเอ่ยถามอย่างสงสัยส่วนเบียร์เริ่มเห็นเค้าลางความสัปดนนิด ๆ แล้ว...คนเปิดประเด็นเห็นหน้าน้องรักเหวอจนเสเว่ก็อดเอ็นดูไม่ได้เลยต้องขยับมาใกล้ร่างบางอีกนิดก่อนจะตอบ
“ก็แล้วน้องริทคิดว่าลักยิ้มบนแก้มเด็ก ๆ เนี่ย...มันเกิดขึ้นได้ยังไงหล่ะครับ” พอหนึ่งพูดเสร็จคนที่เป็นตัวอย่างที่ดีที่สุดก็ดันหันมายิ้มให้ซะจน ‘ลักยิ้ม’ ขึ้นเด่นชัดเลย...
“พี่หนึ่ง!!!...ริทไม่คุยด้วยแล้ว” พูดจบริทก็เดินหนีออกไปทันที...เมื่อก่อนไม่เห็นพี่หนึ่งเป็นขนาดนี้เลยนะ...บ้าทั้งพี่ทั้งน้องเลย!!! ริทได้แต่คิดในใจก่อนจะเดินไปทางสวนที่อยู่ด้านหลังของบ้านพัก...เบียร์ได้แต่ส่งสายตาเอื้อมระอาให้กับสามีและน้องชายตัวแสบที่เอาแต่หัวเราะที่แกล้งริทให้เขินจนลุกหนีได้สำเร็จ
“เอ้าๆๆ...แล้วนี่นั่งทำอะไรอยู่หล่ะรีบตามไปสิ...ต้องให้พระเอก” สอนอยู่เรื่อย หนึ่งแกล้งทำเป็นขัดใจที่ยังเห็นน้องรักนอนอมยิ้มอยู่ไม่ตามไปทำคะแนนสักที...ไอ้เราก็อุตส่าห์ชงให้แล้วยังต้องให้สอนอีก...ร่างสูงยิ้มกว้างแล้วก็ยกนิ้วโป้งให้ปลาไหลตัวพ่ออย่างหนึ่งทีนึงก่อนจะลุกเดินตามหัวใจตัวเองออกไปทันที
“ทีนี้...ก็เหลือเราแค่สองคนแล้วนะตัวเอง” หนึ่งขยับตัวเบียดภรรยาสุดที่รักเมื่อทุกอย่างเป็นไปตามแผนและคนที่รู้ทันอย่างเบียร์ก็หน้าร้อนขึ้นมานิด ๆ ...นี่มันยังไม่มืดเลยนะไอ้แก่!!!
“จะบ้าเหรอ...น้องนุงก็อยู่...อย่าแม้แต่จะคิด” เบียร์ดันหน้าสามีให้ออกห่างทันทีแต่แรงทีผลักออกไปนั้นไม่สื่อความหมายว่าให้ออกห่างเลย
“นิดนึงน่า...นะ...นะ” พอเห็นว่าเบียร์เงียบหนึ่งก็ลุกต่อทันทีด้วยการหยิบหนังสือเมื่อครู่มาโน้นนาวคนข้าง ๆ อีกที
“นี่ไง...ไม่เป็นอันตรายต่อลูกด้วยนะ...” คนฟังได้แต่หน้าแดงแต่ก็ไม่ได้ขัดขืนอะไรยอมให้สามีประคองขึ้นไปบนห้องแต่โดยดี ^_^
++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
สั้นไปหน่อย...แต่จะพยายามอัพบ่อย ๆ เพราะกลัวรีดเดอร์จะลืม
ขอบคุณทุก ๆ คอมเมนท์นะคะ...
รัก GuN สุด RiT รัก RiT เหมือน GuN
ความคิดเห็น