คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #7 : Chapter VII
= VII =
“อ่ะ...เสร็จแล้ว...ว่าแต่แน่ใจแล้วเหรอที่ทำแบบนี้” เบียร์ยื่นกล่องใส่อาหารเช้าสำหรับสองคนให้อีกฝ่ายที่กำลังนั่งอ่านหนังสือพิมพ์อยู่เพราะน้องชายตัวดีมาขอร้องให้ทำข้าวเช้าสาเหตุก็คือเจ้าตัวบ่นว่าเบื่ออาหารกองถ่ายและวันนี้ก็วันที่ห้าแล้วนะแถมยังให้ทำเผื่อใครอีกคนด้วยนี่สิ...ตกลงมันจะเอาจริงใช่มั้ยเนี่ย...อดใจไม่ได้จึงต้องถามออกไปในที่สุด
“ทำไรครับ” คนฟังถามด้วยหน้าตาใสซื่อสุด ๆ
“อย่ามาแถ...กันรู้ดีว่าพี่พูดเรื่องอะไร” เบียร์ตีแขนพ่อตัวดีไปหนึ่งทีก่อนจะนั่งลงบนโซฟาเดี่ยวอีกตัวก่อนจะตัดสินใจพูดสิ่งที่เธอคิดไว้คนฟังได้แต่คนกลับทำเป็นสนใจอาหารในกล่องมากกว่าจนหญิงสาวต้องแย่งกล่องอาหารมาถือไว้เองนั้นแหละพ่อตัวดีถึงยอมสบตาด้วย
“อย่ามองกันอย่างนั้นสิครับพี่เบียร์...” พอนภัทรเห็นสายตาเขม้งที่จ้องมาเลยต้องรีบอ่อนเข้าให้แต่อีกฝ่ายก็ไม่ได้ยอมให้เหมือนเคยแต่กลับพูดบางอย่างที่ทำให้คนฟังคิดหนัก
“อย่าเล่นกับความรู้สึกของคนอื่นนะกัน...ถ้ากันไม่ได้รู้สึกอย่างนั้นจริง ๆ พี่ก็อยากให้กันหยุด...ถามใจตัวเองให้ดีนะกัน” เบียร์พูดจบก็เดินกลับไปทำอาหารเช้าให้สามีต่อทิ้งให้ร่างสูงนั่งนิ่งทบทวนสิ่งที่พี่สาวเตือน...
“ลืมเอาปากมาเหรอ” ริททักคนที่นิ่งเงียบตั้งมาถึง...เพราะหลังจากวันนั้นทุกอย่างระหว่างเขากับกันก็เป็นปกติเพียงเปลี่ยนมาเป็นอาหารเช้าฝีมือพี่เบียร์ทุกวันเลย...แต่ไหงวันนี้มาแปลกแฮะทุกทีเห็นพูดโน้นพูดนี่ไม่มีหยุด...
“เปล่า...อิ่มยัง” เสียงทักจากคนตรงหน้าดึงเอาสติร่างสูงกลับมาอุตสาห์ได้มานั่งกินข้าวกันสองต่อสองในบรรยากาศดี ๆ แบบนี้กลับมีเรื่องที่ต้องคิดจนลืมคนตรงหน้าไปซะนี่
“อืมม...” สุดท้ายเมื่อบรรยากาศไม่ได้ขึ้นริทก็เลยตัดสินใจบอกว่าอิ่มแล้วก็ไปทำงานดีกว่าระหว่างทางไปกองถ่ายร่างสูงก็ยังเงียบได้อีกและก่อนที่ริทจะออกจากรถไปจึงเอ่ยปากบอกอีกฝ่ายไป
“วันนี้นายไม่ต้องมารับก็ได้นะ...เดี๋ยวชั้นจะไปทำธุระต่อแล้วพรุ่งนี้ก็ไม่ต้องมาเพราะรถกองจะแวะมารับไปพร้อมกันเลย” ร่างบางบอกเพราะคิวงานที่ต้องไปถ่ายแบบตจว.พรุ่งนี้จะติดรถทีมงานไปพร้อมกันพอดี...
“ไม่เป็นไร...ชั้นไปส่งนายนั้นแหละดีแล้วเดี๋ยวใครบางคนจะงอนอีก” นภัทรรีบบอกพร้อมรอยยิ้มครั้งแรกของวันนี้...ไอ้บ้าใครจะงอนมันกัน
“พูดไร...ชั้นหมายถึงถ้านายมีธุระก็ไปทำเถอะ...แล้วชั้นก็ไม่มีเวลาว่างมากพอที่จะคิดเรื่องไร้สาระด้วย” คนฟังอมยิ้มที่เห็นคนข้าง ๆ ใส่ใจ...ค่อยมีกำลังใจขึ้นมาหน่อยแม้ประโยคสุดท้ายเจ้าตัวจะเหวี่ยงขึ้นมาอีกก็ตาม
“หึๆ...เดี๋ยวสินายไปตั้งหลายวันจะไม่ร่ำลากันหน่อยเหรอ” นภัทรบอกพร้อมกับยื่นหน้าและทำสายตาวิบวับใส่เมื่อร่างบางกำลังจะเปิดประตู
“ปัญญาอ่อน” คำบอกลาสุดท้ายแรง ๆ ของอีกฝ่ายที่ทิ้งไว้ให้กลับทำให้นภัทรมีรอยยิ้มตลอดทางที่ขับรถกลับคอนโด
หลังจากกลับมาถึงคอนโดร่างสูงก็ไม่รู้จะทำอะไรเลยตัดสินใจโทรนัดเพื่อน ๆ ไปสังสรรค์ดีกว่าเพราะตอนนี้เขาเองก็ยังตอบตัวเองไม่ได้เลยว่ารู้สึกยังไงคำถามของพี่เบียร์
“เฮ้ย!...เหม่ออีกแล้วนะมึง” เก่งทักเพื่อนที่นั่งนิ่งอย่างกันคนที่ใจไม่อยู่กับตัว
“เออวะ...กูก็มันแปลก ๆ ไปนะหมู่เนี่ย...มึงมีอะไรปิดปังพวกกูหรือเปล่า” เซนที่นั่งข้าง ๆ นภัทรเห็นด้วยก่อนจะจ้องมองร่างสูงเพื่อจับผิดเต็มที่
“มึงกำลังแอบชอบใครอยู่ใช่มั้ย” เป็นเก่งที่เดาถูกในที่สุดเพราะถ้าจะมีเรื่องที่ไอ้เพื่อนคนนี้คิดมากก็คงจะเป็นเรื่องนี้แหละเพราะคนเฟอร์เฟคอย่างมันเนี่ยถ้าไม่ไปหลงรักสาวเข้าให้จริง ๆ คงไม่นั่งเซ็งแบบนี้
“ไม่มีโว้ยยยย...” ร่างสูงรีบร้องปฎิเสธซึ่งก็เข้าทางเพื่อน ๆ ทันที
“นั้นไง...บอกพวกกูมาเดี๋ยวนี้...ใคร!” ทั้งเซนและเก่งต่างก็คาดคั้นจนอีกฝ่ายจนมุมเลยยอมเปิดปากพูดเรื่องที่คาใจขึ้นมา
“กูก็แค่ไม่แน่ใจว่า...กูรู้สึกยังไง” นภัทรอธิบายความรู้สึกตอนนี้ก่อนจะนึกทบทวนถึงใครบางคน
“อ้าว...มึงไม่รู้แล้วพวกกูจะช่วยได้มั้ยเนี่ย” เก่งรีบโวยเพราะจู่ ๆ ไอ้นี่ดันมาปากหนักใส่ซะงั้น
“555...บอกไปมึงก็ช่วยไม่ได้หรอกเพราะมึงมันไม่เคยมีแฟน” นภัทรรีบย้อนคาสโนวาตัวพ่อที่เคยบอกไว้ชัดเจนว่าจะไม่จริงจังกับใครจนกว่าจะอายุ 40
“นี่ไงกูถึงไม่มีเรื่องกลุ้มอย่างมึง” เก่งตอกกลับก่อนจะยกแก้วขึ้นดื่มอย่างสบายใจ
“แล้วตกลงมึงรู้สึกยังไงกับเขาหล่ะ” เซนถามอีกครั้ง
“ไม่รู้สิวะ...กูไม่แน่ใจว่ามันใช่หรือเปล่าแต่กูก็ชอบที่อยู่กับเขานะ...รู้สึกมีความสุขเวลาได้ยั่วโมโหและกูก็ชอบเวลาที่เขายิ้มพอเห็นกูก็ให้เขายิ้มอย่างนั้นตลอดเลย” นภัทรตอบพลางคิดถึงใบหน้าและรอยยิ้มของคนที่เขาพูดถึง
“งั้นมึงก็ไม่ต้องคิดมากแล้ว...อาการอย่างนี้แถวบ้านกูเรียกว่า ‘รัก’ ว่ะ” เซนตบบ่าพร้อมกับยิ้มตาหยีประจำตัวให้เพื่อนรัก
“แหม...มึงพูดยังกะมึงรักใครอยู่งั้นแหละ” ร่างสูงจึงหันกลับมามองเพื่อนคนนี้อีกที...ส่วนเซนก็ได้แต่ยิ้มก่อนจะทิ้งท้ายไว้อีกที
“กัน...บางครั้งความรักมันก็ไม่เหตุผล...แค่ใช้ใจมึงตอบก็พอและถ้ามันบอกว่าใช่...มันก็คือใช่อย่างอื่นก็ไม่สำคัญ” เซนตอบก่อนจะหันกลับไปชนแก้วกับเก่งต่อ...ทิ้งให้นภัทรจมอยู่กับคำพูดที่เพื่อนรักทิ้งท้ายไว้
.............................................................................................................................................................
“โอ๊ยยย...สายจนได้เลย...ไปรึยังเนี่ยแล้วทำไมไม่รับโทรศัพท์วะ!!!” นภัทรบ่นขณะเหยียบคันเร่งมากขึ้นไปอีกเพื่อไปให้ทันก่อนทีมงานจะมารับคนที่ทำให้เขาว้าวุ่นมาทั้งคืน...ส่วนอีกด้าน
“จัดของไปครบแน่นะริท” เบียร์กำชับอีกครั้งด้วยความไม่แน่ใจเพราะนี่เป็นครั้งแรกที่ร่างบางเป็นฝ่ายจัดการทุกอย่างเองซึ่งปกติแล้วจะเป็นหน้าที่ของเธอ
“ครบ..มั้ง” ริทตอบกลับไปขณะมองกระเป๋าที่ตัวเองยัดทุกอย่างที่คิดว่าจำเป็นลงไปหมดแล้ว
“อ้าว...ก็พี่บอกว่าจะเข้าไปทำให้ก็ไม่ยอม” เบียร์บอก
“โหยยย...แค่นี้ริททำเองได้หรอกน่า” ร่างบางยังเถียง...เรื่องแค่นี้เองทำไม่ได้ก็แย่แล้ว
“แล้วนี่รถมากี่โมงจ๊ะ” สุดท้ายเบียร์เลยยอมว่าตามแล้วเปลี่ยนเรื่องแทน
“คงมาแล้วหล่ะ...งั้นริทไปก่อนนะครับ” ริทบอกเมื่อดูเวลา...งานนี้เป็นงานถ่ายแบบที่ไปถ่ายทำกันที่เขาใหญ่โลเคชั่นก็เป็นก็เป็นรีสอร์ตเล็ก ๆ แต่เป็นที่นิยมมากในตอนนี้และทีมงานถึงกับลงทุนปิดรีสอร์ตถ่ายกันเลยทีเดียวเพื่อให้ได้งานที่ดีที่สุดซึ่งงานนี้ก็จะได้เจอพี่โตโน่และเต้ยอีกด้วย
พอริทลงมาที่ล็อปปี้ก็แอบกวาดตามองหาใครบางคน...ก่อนจะเคาะหัวตัวเองเบา ๆ เพื่อเรียกสติกลับมา...มันจะมาอยู่ที่นี่ได้ไงหล่ะ...เป็นคนบอกเองดันลืมอีก...คิดได้อย่างนั้นร่างบางก็เดินไปที่รถตู้ที่จอดรถอยู่ด้านหน้าทันทีตอนนี้ต้องตั้งใจทำงานดีกว่าอย่าคิดเรื่องไร้สาระเลยจะดีที่สุด...เมื่อผู้โดยสารคนสำคัญขึ้นรถเรียบร้อยแล้วทีมงานก็เริ่มออกเดินทางทันที
“โทษนะครับ...รถที่จะมารับห้อง 808 มารึยังครับ” นภัทรถามเจ้าหน้าที่ประชาสัมพันธ์ทันทีที่ซิ่งมาจนถึงคอนโดหรู
“อ๋อ...เพิ่งไปเมื่อกี้เองค่ะ...ตามไปน่าจะทันนะคะ” พนง.สาวตอบพร้อมรอยยิ้มน้อย ๆ...คนที่ได้ฟังก็ได้แต่ยิ้มเก้อกลับไป...เฮ้อ...พลาดจนได้
หลังจากนั่งพักจนหายเหนื่อยแล้วนภัทรก็ตัดสินใจไปที่บ้านพี่สาวคนเดียวของเขาดีกว่าและจะได้ไปตอบคำถามที่ถูกถามเอาไว้เมื่อวันก่อนด้วย...อีกอย่างจะได้หาตัวช่วยด้วยอีกแรง...ก็ตัดสินใจแล้วนี่เนอะยังไงก็ต้องลองดูสักตั้งล่ะวะ
“หน้าเป็นตูดแบบนี้...ไปไม่ทันส่งริทอ่ะดิ” ว่าที่คุณแม่ทักน้องชายที่เพิ่งเดินเข้ามาในบ้าน
“ไรพี่...หน้ากันก็เป็นแบบนี้มาตั้งนานแล้วเหอะ” ร่างสูงเถียงก่อนทิ้งตัวลงบนโซฟาตัวใหญ่...พี่เบียร์รู้ได้ไงเนี่ย?
“เหรอออ...อยากตื่นสายเองนะ...แล้วนี่กินไรมายัง” เบียร์ส่งสายตาล้อเลียนก่อนจะเปลี่ยนเรื่อง...ไม่ล้อมันดีกว่า...อาการอย่างนี้มันคงจะจริงอย่างที่คิดไว้แน่เลย ^_^
“ยังฮะ...ว่าแต่มีไรกินบ้าง...หิวมากกกกกก” นภัทรตอบลากเสียงยาวชวนหมั่นไส้จนว่าที่คุณแม่ต้องลุกไปจัดมาให้น้องชายตัวดี...หลังจากปล่อยให้น้องชายจัดการอาหารเช้าจนเรียบร้อยเบียร์ก็กลับมานั่งในห้องนั่งเล่นอีกครั้งมองดูเจ้าน้องชายตัวดีเล่นเกมส์ที่อีกสองหนุ่มมักจะเล่นกันเป็นประจำเมื่อเจ้าตัวมีเวลาว่าง...ขณะกำลังนั่งมองเพลิน ๆ และคิดถึงน้องชายที่น่ารักมากอีกคนนภัทรก็พูดขึ้น
“กันมีคำตอบให้พี่เบียร์แล้วนะ” เสียงบอกชัดเจนแต่สายตาและมือยังคงทำหน้าจัดการพิชิตคู่ต่อสู้ในเกมส์อย่างต่อเนื่อง
“.........................” เบียร์ได้แต่นิ่งเงียบและรอฟังน้องชายตัวดีว่จะมาไม้ไหน
“กัน...จริงจังนะ” นภัทรบอกความรู้สึกที่เจ้าตัวสำรวจจนแน่ใจแล้วออกไปในที่สุด...รู้สึกดีจัง...จากนั้นเจ้าตัวก็กด pause เกมส์แล้วหันมามองหน้าคู่สนทนาที่เอาแต่เงียบ...เบียร์มองน้องชายตัวเองอยู่สักพักก่อนจะยิ้มออกมา
“จริงจังเรื่องอะไร...พี่ไม่เห็นรู้เรื่องด้วย” คำย้อนเล่นเอาคนที่รวบรวมความกล้าเริ่มหวั่น ๆ ...เอาแล้วมั้ยหล่ะ
“พี่เบียร์อ่ะ...อย่าทำเป็นไม่รู้ดิ๊” นภัทรโวยลั่นเมื่อโดนย้อนรอยเข้าให้...พอเห็นน้องชายหมดท่าเบียร์ก็ยิ้มอย่างอารมณ์ดีที่เป็นฝ่ายต้อนคนเจ้าเล่ห์จนมุมได้ในที่สุด
“ถ้ากันแน่ใจพี่ก็ไม่ว่าอะไร...แต่ถ้าทำน้องพี่ร้องไห้เมื่อไหร่หล่ะก็...เจ็บ!” คำพูดสุดท้ายบอกพร้อมชี้หน้าคาดโทษอีกด้วย
“โหยยย...พี่ไม่คิดว่ากันจะเป็นฝ่ายร้องเองบ้างเหรอ” ร่างสูงย้อนก่อนจะหันมาเล่นเกมส์ต่อ
“เออ...พี่ลืมไป...ยังมีเต้ยอีกคนนึงด้วยนี่หน่า” เบียร์บ่นเบา ๆ เมื่อนึกได้ว่าน้องชายเขามีคู่แข่งซะแล้ว...แถมงานนี้ได้ไปทำงานด้วยกันอีก...เอาไงดีเนี่ย
“เต้ย...ใครอ่ะ...แล้วเกี่ยวไรด้วย” นภัทรหันขวับทันทีที่ได้ยินชื่อบุคคลที่สาม...เบียร์จึงหันไปหยิบนิตยสารเล่มหนึ่งมายื่นให้น้องชายดูภาพที่เห็นคืนภาพของหญิงสาวหน้าตาน่ารักคนหนึ่งที่ใครเห็นคงต้องหวั่นไหวไปกับรอยยิ้มหวาน ๆ นั้นเพียงแต่นภัทรกับไม่ได้สนใจกับใบหน้าสวยนั้นแต่จ้องตาไม่กระพริบกับข้อความพาดหัวข่าวด้านล่าง...
“หมายความว่าไงครับพี่เบียร์” คนถามเอ่ยออกไปอย่างอยากรู้แต่ก็แอบกลัวกับคำตอบที่ได้
“ริท...เค้าชอบเต้ย” คำตอบสั้น ๆ ที่ไม่อ้อมค้อมทำเอาคนฟังใจแกว่งเล็กน้อยแต่ก็ไม่วายแสดงออกทางสีหน้าจนพี่สาวคนดีต้องรีบให้กำลังใจยิ่งถ้าได้รู้ว่างานนี้ริทไปกับเต้ยด้วยแล้วมีหวังใจเสียแพ้ตั้งแต่ยังไม่เริ่ม
“แต่เต้ยเขาไม่ได้ชอบริท” เท่านั้นแหละ...ร่างสูงทำงงก็จนเบียร์อยากจะขำ...ก่อนจะเฉลยให้น้องฟัง
“หยุดทำหน้าแบบนั้นก่อนได้มั้ย...จะเล่าให้ฟังอยู่เดี๋ยวนี้แล้ว” เบียร์รีบบ่นเมื่อใบหน้าหล่อเริ่มกลายเป็นตูดรอบที่สามเพราะโดนพี่สาวแกล้งปั่นหัวก่อนจะเล่าเรื่องระหว่างเต้ยและริทให้ฟังละเอียด
“โหยยย...พี่เบียร์ก็เล่นเอากันใจฝ่อหมดเลย...เต้ยมีแฟนอยู่แล้ว...กันก็ไม่ต้องกลัวเค้าหนิ” นภัทร
บอกหลังจากฟังเรื่องทั้งหมด...ไอ้เตี้ยนี่สเปคไม่เบาเลยทีเดียว
“อย่ามั่นใจให้มันมากเกินไป...ริทน่ะมีคนชอบเยอะจะตายไป...ถ้ากันอกหักขึ้นมาพี่จะสมน้ำหน้าให้” เบียร์บอกก่อนจะลุกขึ้นไปนอนพักรอบที่สามของวัน...ปล่อยให้นภัทรนั่งคิดหาวิธีเอาชนะใจซุปตาร์ชื่อดังเงียบ ๆ คนเดียว...
เผลอนั่งคิดอะไรแป๊บเดียวนภัทรก็งีบหลับไปที่โซฟาหน้าทีวีซะแล้วจนเวลาล่วงเลยไปถึงตอนเย็นหนึ่งก็กลับมาจากที่ทำงานพอมาเห็นน้องชายตัวแสบมาสิงอยู่ที่บ้านก็อดที่จะแปลกใจไม่ได้
“ไปไงมาไงถึงมาอยู่นี่ได้ห๊ะ...ไอ้เสือ” หนึ่งทักเสร็จก็นั่งลงข้างน้องชายทันที
“คิดถึงพี่บ้างไรบ้างไม่ได้หรือไง...มาเลยพี่แข่งกันหน่อย” นภัทรตอบกวนแล้วก็หันไปเล่นเกมส์ต่อ
“มาถึงก็เล่นเกมส์เลยนะ...แทนที่จะมาถามไถ่อาการเมียบ้าง...ไม่มี” คนที่ยกของว่างมาสมทบบ่นต่อว่าเข้าให้...จนนภัทรอดขำไม่ได้แล้วคิดในใจว่าพี่สองคนนี้เป็นสามีภรรยากันได้ไงเนี่ย...
“แหม...อย่างที่รักน่ะแก่ง่ายตายยากอยู่แล้ว...เค้าไม่ห่วงหรอกห่วงแต่ไอ้เสือนี่ต่างหาก” สามีสุดที่รักบอกพร้อมกับหนุนตักอย่างอ้อน ๆ
“เพี๊ยะ...ว่าใครแก่...ไม่ต้องกิน” คนโดนว่าจัดทรงผมใหม่ให้สามีทันทีที่เอนหัวเข้ามาใกล้รัศมีฝ่ามืออรหันต์
“555...พี่สองคนนี้...มาแต่งงานกันได้ไงเนี่ย...ทะเลาะกันได้ทุกวัน” นภัทรขำกับหนึ่งที่คลำหัวตัวเองส่วนอีกคนก็ตีหน้ายักษ์ทั้งที่ดูเท่าไหร่ก็ไม่น่ากลัวสักนิดเพราะดันแอบอมยิ้มด้วย
“อ๋อ...คืนนั้นพี่เมายาดอง...ส่วนเนี่ยก็เมาเหล้าขาว” หนึ่งตอบพร้อมเอี้ยวตัวหลบหมอนที่พุ่งมาอย่างชำนาญก่อนจะยักคิ้วให้คนโยนอีกต่างหาก...
“อย่ามากากเลย...เย็นนี้หาข้าวกินเองเลย...แกด้วย” คนงอนลุกขึ้นหนีขึ้นห้องทันทีทิ้งให้สองหนุ่มหัวเราะร่า...ก่อนจะขึ้นไปอ้อนให้เบียร์ลงมาทำกับข้าวให้กินจนได้...คืนนั้นบ้านหลังนี้เต็มไปด้วยความสุขและความอบอุ่นตลอดทั้งคืนเมื่อพี่น้องทั้งสามมาอยู่กันพร้อมหน้าพร้อมตา
++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
ตรวจคำผิดไม่ไหวหล่ะ...ง่วงมากมายแต่วันนี้มีความสุขเลยอัพสักหน่อย 555+
ขอบคุณคลิปน่ารักจากพี่หมูนะคะ...
~~ ไม่ต้องรู้ว่าเราคบกันแบบไหน...ไม่ต้องหาคำ...คำไหนมาเพื่ออธิบาย ~~
~~ ไม่ต้องรักเหมือนคนรัก...ก็สุขหัวใจ...เพียงแค่เราเข้าใจ...ก็เหนือคำอื่นใดในโลกนี้ ~~
ความคิดเห็น