คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : Chapter II
--II--
“ไงจ๊ะ...เมื่อคืนคงมีความสุขมากเลยหล่ะสิ” แจงส่งเสียงแซวเพื่อนสาวคนสนิทเมื่อรับสาย
“ที่สุดเลยหล่ะจ๊ะ...ชั้นไม่เคยเจอใครเฟอร์เฟ็คเท่าคนนี้มาก่อน” เสียงหวานของปลายสายตอบกลับไป
“ให้มันจริงเถอะจ้า...ทางบ้านเธอจะได้สบายใจสักที” คนฟังพูดเหมือนไม่เชื่อเพราะฉายา...คาสโนวี่ตัวแม่..ของเพื่อนสนิทที่หนังสือบันเทิงทั้งหลายตั้งให้แต่ดูเหมือนเจ้าตัวจะไม่แคร์แถมยังชอบอกชอบใจทำตัวเป็นข่าวรัก ๆ เลิก ๆ ให้นักข่าวได้เขียนกันเล่นเป็นประจำจนครอบครัวต้องปวดหัวกับความเป็นผู้หญิงที่ทันสมัยเกินตัว
“รับรองคนนี้ชัวร์...เดี๋ยวเจอกันที่เดิมนะ” ตองหรืออินทุกร...ลูกสาวคนสวยเพียงคนเดียวของเจ้าของธุรกิจพันล้านที่มาพร้อมกับรูปร่างหน้าตาที่สวยหยาดเยิ้ม การศึกษาจากอังกฤษทำให้เธอคนนี้เป็นที่รู้จักในวงสังคมชั้นสูงได้ไม่ยากเลยแต่แทนที่เธอจะเป็นที่รู้จักในนามนักธุรกิจสาวรุ่นใหม่แต่กลับกลายเป็นว่าเธอใช้ชีวิตไม่ต่างกับปารีส ฮิลตันเลยเรื่องฉาวโฉ่ของเธอที่พูดถึงแทบทุกวัน...
จนกระทั่งเมื่อคืนนี้ที่เธอได้พบกับชายหนุ่มคนนึงที่เธอรู้สึกแตกต่างจากทุกครั้งที่ได้พบยิ่งได้พูดคุยและทำความรู้จักกันอย่างลึกซึ้งแบบถึงเนื้อถึงตัวก็ทำให้เธอรู้ทันทีว่าคนนี้แหละที่เหมาะจะยืนเคียงข้างเธอ...แต่น่าเสียดายที่เขาคนนั้นกลับไปเสียก่อนไม่อย่างนั้นเธอคงทำความรู้จักอย่างลึกซึ้งอีกสักรอบยิ่งคิดก็ยิ่งใจเต้นแรง...อินทุกรหยิบโน๊ตเล็ก ๆ ขึ้นมาดูแล้วก็ยิ้ม... ‘Beautiful night with beautiful lady’ อย่างนี้สิมันถึงน่าตื่นเต้น
...............................................................................................................................
“เป็นไงบ้างวะ...ชอบหรือเปล่า” เซนถามเมื่อทั้งคู่เดินดูห้องจริงของคอนโดหรูแห่งหนึ่งที่ติดริมแม่น้ำเจ้าพระยา...
“เออ...สวยดีงั้นกูเอาที่นี่แหละ...มึงก็ช่วยเป็นธุระให้ด้วยหละกัน” นภัทรมองไปรอบ ๆ อีกครั้งก่อนจะตอบตกลงไป...วิวห้องนอนสวยดีเห็นแม่น้ำและวิวฝั่งตรงข้ามด้วยตอนพระอาทิตย์ตกคงสวย
“ได้เดี๋ยวกูจัดการให้...ว่าแต่เมื่อคืนเป็นไงบ้างวะ” เซนเดินมานั่งที่มินิบาร์เล็ก ๆ ในห้องนั่งเล่น
“ก็ดี..มึงถามทำไมวะ” นภัทรตอบทั้งที่ยังคงมองวิวด้านนอกอยู่
“ต้องถามสิวะ...ก็สาวคนนั้นน่ะคาสโนวี่คนดังของเมืองไทยเลยนะโว้ยย” เซนตอบก่อนจะจิบเหล้าเข้าปาก
“มิน่าหล่ะ...แต่กูไม่ได้สนใจก็แค่ one night stand ไม่มากไปกว่านั้นวะ” ร่างสูงเห็นด้วยเมื่อนึกถึงลีลาของเจ้าหล่อนเมื่อคืนร้อนแรงไม่เบานี่ถ้าไม่ติดว่าเขามีเรื่องกวนใจคงสนุกกว่านี้...แต่เขาก็ไม่คิดจะสานสัมพันธ์กับเธอต่ออยู่แล้วเพราะลึก ๆ แล้วเขารู้ว่าผู้หญิงคนนี้ไม่ธรรมดาไม่ยุ่งด้วยน่ะดีที่สุด
“กูกลัวว่าจะไม่เป็นอย่างนั้นสิ...เพราะเลขากูเพิ่งโทรมาบอกว่าหล่อนโทรมากูด้วย” ร้อยวันพันปีที่เขาพยายามจีบเธอแต่เธอกลับไปสนใจแต่นี่กลับโทรหาเขาเพื่อจะขอเบอร์ไอ้กันเนี่ยนะ...คงต้องมีอะไรมากกว่า one night stand แน่นอน
“กูแค่จะเตือนว่ามึงก็ระวังตัวให้ดีหล่ะกัน” ทั้งคู่เปลี่ยนบทสนทนาเป็นเรื่องอื่นก่อนจะโทรนัดเก่งให้มาฉลองบ้านใหม่ด้วยอีกคน
.................................................................................................................
“ริทคิววันนี้หมดแล้วนะ...บ่ายนี้อยากจะไปไหนต่อหรือเปล่า” เบียร์ถามเมื่อริทเดินกลับเข้ามาในห้องพักนักแสดง
“ไม่แล้วฮะ..แต่ตอนนี้ริทหิวข้าวชะมัดเลย” ร่างบางบ่นพร้อมกับทำท่าลูบท้องไปด้วยจนคนมองอดจะยิ้มอย่างเอ็นดูไม่ได้...อาการอ้อน ๆ น่ารักที่น้อยคนนักจะได้จากคน ๆ นี้ เรืองฤทธิ์ ศิริพานิช นักร้องและนักแสดงที่กำลังประสบความสำเร็จมากที่สุดคนหนึ่งของวงการบันเทิงและที่ริทคนนี้ได้รับความนิยมมากก็คงจะหนีไม่พ้นความสามารถของเจ้าตัวที่ดูจะเยอะเกินรูปร่างที่เล็ก ๆ น่ารักนี่และสิ่งที่เจ้าตัวคิดมากเป็นพิเศษก็คือเรื่องงาน...บางครั้งอาจจะกลายเป็นเรื่องมากในสายตาคนอื่นโดยที่เจ้าตัวก็ไม่เคยสนใจมุ่งแต่จะทำให้งานออกมาดีที่สุดและยิ่งกลับการที่เจ้าตัวกำลังอยู่ในช่วงขาขึ้นคนรอบข้างก็เลยต้องพยายามเอาใจเจ้าตัวมากเป็นพิเศษ...
แต่สำหรับเบียร์แล้วแม้ภายนอกที่ดูจะเรื่องมากเอาแต่ใจต้องได้ทุกอย่างตามที่เจ้าตัวต้องการนั้นไม่ได้เป็นเรื่องลำลากสำหรับเธอเลยเพราะจริง ๆ แล้วถ้าใครได้รู้จักตัวตนที่แท้จริงของริทหล่ะต้องบอกว่าคนละเรื่องเลยริทที่น่ารักอีกคนนั้นมักจะซ่อนอยู่ภายใต้หน้าตาที่นิ่งและวางเฉยกับคนรอบข้างที่ไม่สนิทแทน...เว้นก็แต่กับแฟนคลับเจ้าตัวแหละที่ริทให้ความสำคัญมากอีกที่สุด
“งั้นไปกินข้าวบ้านพี่มั้ยหล่ะ...เดี๋ยวจะทำของโปรดให้กิน” เบียร์บอกก่อนจะโทรสามีให้จัดเตรียมของไว้
“ขอตัวดีกว่าฮะไม่อยากรบกวนคนอื่น” แค่คิดว่าต้องไปเจอใครอีกคนเจ้าตัวก็เอ่ยปากปฎิเสธออกไป
“คนอื่นอะไรกันหล่ะ...ไปด้วยกันนี่แหละ” ผู้จัดการคนสวยบอกเด็ดขาดแล้วก็ลากร่างบางไปทันที
พอไปถึงบ้านเบียร์ก็ลากหนึ่งเข้าไปช่วยเตรียมอาหารแทนปล่อยให้ริทนั่งเล่นรอแต่สุดท้ายเจ้าตัวก็เผลอหลับไปตรงโซฟานั้นเอง
“กันถึงไหนแล้วหล่ะ...พี่ฝากซื้อขนมเข้ามาหน่อยสิ” เบียร์บอกให้น้องชายแวะเค้กร้านประจำ
“เอ่อ...พี่เบียร์กันคงกลับไปทานอาหารไม่ได้แล้วหล่ะ...ไอ้พวกนั้นมากันอีกแล้ว” นภัทรบอกปฎิเสธเสียงอ่อยทั้งที่เพิ่งจะรับปากพี่สาวไปแล้วเมื่อเช้า
“อ้าวแล้วกัน...พี่ก็เตรียมอาหารไว้ซะเยอะเลย...ไม่เป็นไรเดี๋ยวพี่ไปซื้อกับริทเองก็ได้” ปลายสายพูดเสร็จก็ทำท่าจะวางสายแต่ได้ยินเสียงน้องชายตัวดีร้องเรียกไว้ก่อน
“ดะ...เดี๋ยว� งั้นกันไปซื้อให้...แค่นี้นะครับ” แค่ได้ยินชื่อใครอีกคนร่างสูงก็รีบวางสายแล้วเปลี่ยนใจตรงกลับบ้านทันทีหลังจากที่ซื้อเค้กเสร็จเจ้าตัวก็แปลกใจว่าทำไมเขาถึงอยากกลับบ้านขึ้นมาซะอย่างงั้น...จนกระทั่งเดินเข้ามาในบ้านนั้นแหละถึงได้รู้แล้วว่าทำไมเขาถึงอยากกลับบ้าน
ร่างบางที่นั่งหลับคอพับบนโซฟาใบหน้าใสที่สงบนิ่งเป็นสิ่งที่นภัทรไม่คิดว่าจะได้เห็น...ขนตางอนยาวแต่ไม่มากจนเกินไป...จมูกโด่งพอดีกับรูปหน้าและริมฝีปากบางสีดูเหมือนจะมีสีชมพูตามธรรมชาติก็เชิดจนน่าหมั่นเขี้ยว...ทำให้นภัทรหยุดนิ่งมองอยู่ตรงนั้นอย่างละสายตาไปไม่ได้...นี่อย่าบอกนะว่ากูหลงเสน่ห์ไอ้เตี้ยนี่เข้าอีกคนซะแล้ว
“กันมาเมื่อไหร่พี่ไม่เห็นได้ยิน...เอ้า...หลับไปซะแล้ว” เบียร์ทักน้องชายที่ยืนนิ่งมองอีกฝ่ายเมื่อออกมาหยิบของเพิ่ม
“นี่ฮะเค้กที่สั่ง...ว่าแต่พ่อซุปตาร์ของพี่มาได้ไงกันนึกว่าจะเลี้ยงขึ้นบ้านใหม่กันซะอีก” ร่างสูงแกล้งทำเป็นสงสัยทั้งที่ตัวเองกลับบ้านมาเพราะได้ยินชื่อเจ้าตัวต่างหาก
“พี่ชวนมาเองแหละ...กลับห้องไปริทก็อยู่คนเดียวมานี่แหละดีแล้ว” เบียร์รับเค้กมาแล้วก็เอาไปเก็บ...คนฟังก็เลยเดินตามมาด้วยก่อนจะเริ่มหาข้อมูลเพิ่มเติมอีกนิด
“แล้วไอ้เตี้ย..อุ๊บ..แล้วเจ้านายพี่เขาไม่กลับไปอยู่กับที่บ้านเขาหล่ะครับ” ร่างสูงนั่งเท้าคางบนเคาน์เตอร์อีกด้านถามแล้วก็หยิบแม็กกาซีนจากชั้นมาอ่าน
“ไม่มีแล้วหล่ะ...พ่อแม่ประสบอุบัติเหตุรถยนต์เสียชีวิตทั้งคู่” เบียร์เล่าแค่นั้นแล้วก็หันมาหรี่ตาจ้องน้องชาย
“ถามทำไม...นี่อย่าบอกนะว่าแก...” แต่ยังไม่ทันจบประโยคนภัทรก็ยกมือห้ามทันที
“หยุดเลยครับ...กันแค่สงสัยเท่านั้นว่าทำไมพี่ถึงใจดีกับเขามากขนาดนี้” คนถามทำเป็นเปิดหนังสืออย่างไม่สนใจ
“พี่ก็แค่สงสารริทเท่านั้นแหละ” เบียร์พูดจบก็ตกใจเพราะเห็นคนที่เพิ่งพูดถึงยืนนิ่งฟังอยู่
“งั้นพี่ก็ไม่ต้องลำบากหรอก...เพราะริทไม่ต้องการ” พูดจบร่างบางก็เดินออกไปทันทีทำให้ทั้งสองคนตกใจมากโดยเฉพาะเบียร์ถึงกับทำเค้กในมือตกเพราะรู้ว่าริทไม่ชอบให้ใครมาสงสารแล้วดันเป็นเธอเองที่ทำ
“เดี๋ยวริท...ฟังพี่ก่อนค่ะ” เบียร์รีบวิ่งออกไปด้วยความตกใจจึงไม่ทันระวังก้าวพลาดล้มหัวฟาดพื้นจนหมดสติไป...นภัทรและริทที่ได้ยินเสียงโครมครามหันกลับมามองก็รีบวิ่งเข้ามาดูเธอทันที
“พี่เบียร์ๆๆ ...เป็นไรมากมั้ย” นภัทรที่วิ่งไปถึงร่างหมดสติก่อนประคองเบียร์มาไว้ในอ้อมกอดแต่สิ่งที่น่าตกใจคือเลือดที่ไหลเป็นทางยาวเต็มใบหน้าสวยนั้น
“พะ...พี่เบียร์” ริทได้แต่ยืนนิ่งเมื่อเห็นเลือดจำนวนมากขนาดนั้นพลันเหตุการณ์ที่เลวร้ายที่สุดในความทรงจำของกลับมาอีกครั้ง...ใบหน้าของแม่ที่เต็มไปด้วยเลือดหายใจรวยรินอยู่ในตำแหน่งที่นั่งข้างคนขับซึ่งก็คือเขาเอง...และนั้นก็เป็นเหตุผลที่ริทเลิกขับรถตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา
“ริท...ริท...ริท!!” ร่างสูงตะโกนเมื่อเห็นว่าร่างบางยืนนิ่งจนผิดปกติ
“อะ..อะไร” เสียงที่ดังนั้นแหละดึงเอาสติของริทกลับมา
“ไปตามพี่หนึ่งให้เอารถออก” นภัทรกลับมาพูดด้วยน้ำเสียงปกติอีกครั้ง...แล้วร่างบางก็วิ่งเข้าไปตามหนึ่งทันที
นภัทรที่ประคองร่างพี่เบียร์อยู่เบาะหลังเหลือบมองร่างบางเป็นระยะเพราะดูเหมือนเจ้าตัวจะดูนิ่งจนน่ากลัวแทนที่จะตกใจเหมือนกับเขาและพี่หนึ่งแต่เจ้าตัวกลับนั่งนิ่งขยับปากพูดเบา ๆ กับตัวเองอยู่อย่างนั้น...เมื่อถึงโรงพยาบาลหญิงสาวก็ได้รับการช่วยเหลืออย่างเร่งด่วนเพราะอาการดูไม่หนักแต่หมอก็เป็นห่วงเรื่องการเสียเลือดมากกว่าทั้งเขาและพี่หนึ่งต่างก็โล่งใจที่อาการของเบียร์ไม่หนักมากแต่ดูเหมือนว่าใครบางคนจะอาการน่าเป็นห่วงมากกว่า
“เป็นอะไรหรือเปล่า” เสียงนุ่มของนภัทรทำเอาคนที่นั่งก้มหน้าเงยมามองด้วยเขาด้วยน้ำตาอาบแก้มใส...
“เฮ้ๆๆ...พี่เบียร์ไม่เป็นไรแล้วนะ” พอเห็นน้ำตาบนใบหน้าสวยนภัทรก็ย่อตัวลงนั่งตรงหน้าอีกฝ่ายทันทีก่อนจะค่อย ๆ บรรจงเช็ดน้ำตานั้นออกอย่างลืมตัว...ทำเอาทั้งหนึ่งและเจ้าตัวเองรู้สึกแปลกใจกับท่าทางดังกล่าวแต่ริทเองก็ไม่ได้หันหน้าหนีแต่อย่างใดปล่อยให้นภัทรเช็ดน้ำตาบนแก้มออก
“อะแฮ่ม...” เสียงหนึ่งทำให้นภัทรรู้สึกตัวว่าตอนนี้เขาทำอะไรมากเกินไปแล้วหล่ะ...ลืมตัวไปได้ไงวะเนี่ย
“ริทไม่ต้องคิดมากนะ...มันเป็นอุบัติเหตุ” หนึ่งเดินมานั่งข้าง ๆ แล้วก็โอบไหล่บางเอาไว้ด้วยความรู้สึกที่ต้องการให้กำลังใจอีกฝ่ายมากกว่าจะแต๊ะอั้ง
“ตะ..แต่เพราะริทพูดไม่ดีกับพี่เบียร์ไว้...พี่เบียร์ถึงได้” ร่างบางเริ่มอึกอักอีกรอบก่อนจะก้มหน้าลงกับมือตัวเองอีกครั้ง...ไม่นานนักพยาบาลก็มาตามทั้งหมดให้เข้าไปเยี่ยมเบียร์ได้
สิ่งแรกที่เห็นทำเอาทั้งสามหนุ่มงงเพราะภาพที่เห็นคือหญิงสาวกำลังนอนยิ้มอยู่...เอ่อ...ได้ข่าวว่าพี่เบียร์หัวฟาดพื้นหรือสมองแกจะกระทบกระเทือนจนเพี้ยนไปแล้วคงเป็นเพราะสีหน้าของทั้งสามคนทำให้เบียร์รีบพูดขึ้นมาก่อนที่ทั้งหมดจะคิดว่าเธอป่วย
“นี่เลิกทำหน้าแบบนั้นได้แล้ว...ไอ้แก่ กันและก็ริทด้วย...พี่สบายดี...ดีที่สุดในชีวิตเลยหล่ะ” เบียร์ยิ้มกว้างขึ้นไปอีก
“เพี้ยนชัวร์” หนึ่งหันไปกระซิบกับน้องชายตัวดีซึ่งก็พยักหน้าเห็นด้วยจะมีก็เพียงแต่ริทเท่านั้นที่ยังคงจ้องเธออย่างไม่วางตา
“ริทมานี่สิ...มานั่งข้าง ๆ พี่” เบียร์เรียกคนที่อาการหนักที่สุดเข้ามาก่อน...
“พี่ไม่เป็นอะไรมาก...ดูสิเย็บแค่สี่เข็มเองเห็นมั้ย” ก่อนจะเปิดไรผมให้เจ้าตัวเห็นว่ามันไม่ได้หนักหนา
“แต่...แต่ริทเห็นเลือดออกเยอะ” หน้าที่ขาวใสกลายเป็นซีดไปแล้วตอนนี้
“พอดีแผลมันลึกน่ะเลือดมันเลยออกมากหน่อยก็แค่นั้น...ห้ามโทษตัวเองเด็ดขาด...นี่เป็นคำสั่ง” คำพูดหนักแน่นทำให้ร่างบางพยักหน้ารับและเบียร์ก็เป็นฝ่ายดึงริทเข้าไปกอด...กอดให้เจ้าตัวเลิกคิดมากเพราะเธอรู้สาเหตุของการที่ริทไม่ขับรถและนั้นก็ทำให้เธอรู้ว่าตอนนี้ริทคงกำลังโทษตัวเองเหมือนที่เคยทำเมื่อนานมาแล้ว...พอจะผละตัวออกเบียร์ก็ดึงร่างบางไปกระซิบอะไรบางอย่างที่ทำให้ริทร้องอุทานออกมาเสียงดังลั่น
“จะ...จริงเหรอฮะพี่เบียร์” ใบหน้าน่ารักกลับมามีรอยยิ้มอีกครั้งจนอีกสองคนสงสัย...มีอะไรน่าดีใจเหรอ...หรือไอ้เตี้ยนี่จะได้งานอะไรอีก
“จริงจ๊ะ” คนป่วยยิ้มอย่างอาย ๆ จนสองหนุ่มหันมองหน้ากันอีกรอบ
“ไปซะแล้วเมียกู” หนึ่งบ่นเบา ๆ ก่อนจะเดินเข้ามายืนอีกด้านของเตียง
“ไม่เป็นไรนะที่รัก...โรงพยาบาลดี ๆ มีเยอะไม่ต้องกลัวนะ” หนึ่งจับมืออีกฝ่ายแล้วก็มองหน้าพร้อมกับมีน้ำตาคลอ
“ป้าบบบบ...นี่แกว่าชั้นบ้าเหรอไอ้หนึ่ง” เบียร์เอื้อมอีกมือที่ว่างไปจัดการสัมผัสแรง ๆ จนคนพูดหัวทิ่มแล้วก็ขยับตัวไปบอกข่าวดีสามีทันที
“ท้อง...ท้องกับใครบอกมานะ!!!” เพราะยังเล่นไม่เลิกเลยโดนไปอีกรอบ
“โอ๊ยยย...ที่รักอ่ะโหดจังแต่เมื่อกี้พูดจริงนะ” หนึ่งกุมหัวที่โดนเบิร์ดไปสองทีก่อนจะทำหน้าจริงจัง...หญิงสาวได้แต่พยักหน้าแทน
“เย้ๆๆๆๆๆ...สำเร็จแล้วโว้ยยยย” ว่าที่คุณพ่อตะโกนอย่างลืมตัวทำให้ห้องข้าง ๆ ได้รู้ข่าวดีด้วยอีกคน
“โหยยย...เยี่ยมไปเลยพี่...ยินดีด้วยนะครับ” นภัทรที่ได้รู้ข่าวดีก็เข้ามาแสดงความยินดีด้วยอีกคน...ภาพครอบครัวที่อบอุ่นกำลังดีใจกันทำให้คนที่เป็นส่วนเกินค่อย ๆ แอบออกจากห้องไปแต่ยังเดินได้ไม่กี่ก้าวริทก็ต้องหยุดเพราะเสียงเรียกชื่อหนึ่งดังขึ้น
“แล้วนี่ว่าที่คุณพ่อทูนหัวจะรีบไปไหนจ๊ะ” เบียร์ที่นั่งรถเข็นพูดขึ้นเบา ๆ แล้วหนึ่งก็เข็นรถให้เข้าไปใกล้ร่างบางที่ยืนนิ่งอยู่อย่างนั้น...เบียร์เอื้อมมือไปจับมือเล็กที่สั่นอยู่เพราะเจ้าตัวกำลังพยายามกลั้นน้ำตาเอาไว้
“ว่าไง...อย่าบอกนะว่าจะไปซื้อของขวัญมาแสดงความยินดีกับพี่น่ะ” คนฟังได้แต่นิ่งแล้วค่อย ๆ หันมาสบตาด้วย
“พี่เบียร์” ริทพูดออกมาได้แค่นั้น...นี่มันมากเกินกว่าหน้าที่ของผู้จัดการแล้วนะ
“ริทเป็นน้องคนนึงของพี่นะ...เพราะฉะนั้นริทก็คือคนในครอบครัวนี้นะ...จริงมั้ย” คำสุดท้ายหันมาถามสามีที่เข็นรถคนเจ็บมาใกล้ร่างบางมากขึ้น
“ถูกต้องที่สุดครับที่รัก...แล้วว่าที่คุณพ่อทูนหัวเนี่ยต้องมีส่วนร่วมตั้งแต่ตอนนี้เลยนะ” หนึ่งพูดก่อนจะเอื้อมมือไปยีผมร่างบางอย่างเอ็นดู...และแล้วไอ้น้ำตาที่เจ้าตัวกลั้นเอาไว้ก็ร่วงพรูอย่างกลั้นไม่อยู่สุดท้ายริทก็ทรุดลงไปกอดกับพี่สาวคนเดียวที่เจ้าตัวรักและเคารพมากที่สุด
“ห้ามคิดมากเรื่องนี้อีกแล้วนะ...สัญญากับพี่มาก่อน” เบียร์ดันร่างบางให้หันมาสบตาด้วย
“ฮะ...” ริทพยักหน้าทั้งน้ำตา...ภาพความรักความผูกพันของทั้งสองคนทำให้นภัทรรู้สึกดีใจและอบอุ่นใจไปด้วยอย่างบอกไม่ถูก...หลังจากที่ปลอยคนขี้นอยด์จนหายดีแล้วเบียร์ก็ขอตัวกลับไปนอนพักต่อเพราะเริ่มเวียนหัวซะแล้ว
“พี่เบียร์พักผ่อนเยอะ ๆ นะครับ...พรุ่งนี้ริทจะมาเยี่ยมใหม่” ร่างบางบอกเมื่อเห็นว่าตอนนี้ดึกมากแล้ว
“พรุ่งนี้พี่ก็ออกแล้วริทค่อยแวะมาที่บ้านก็ได้...แล้วเรื่องงานหล่ะ” หญิงสาวบอกก่อนจะล้มตัวนอนแล้วก็พลางค้นรื้อข้าวของอย่างเอาเป็นเอาตายจนริทต้องบอกห้าม
“ริทโทรไปบอกพี่อุ๋ยเรียบร้อยแล้วครับ...ว่าจะพักสักวันสองวัน” เบียร์หันมามองหน้าร่างบางทันทีแล้วก็คิดได้ว่ากองถ่ายละครเรื่องใหม่จะต้องวุ่นวายแน่เลยเพราะเพิ่งจะเปิดกล้องได้ไม่นาน
“แล้ว....พี่อุ๋ยก็ไม่ได้ว่าอะไรเหรอ” หญิงสาวยังกังวลเพราะผู้กำกับคนนี้ก็เป็นผู้ใหญ่ในวงการและเป็นคนที่นักแสดงอยากร่วมงานด้วยมากมายเพราะรางวัลจากการกำกับละครจากทุกสถาบันการันตีฝีมือการทำงานมากมายซึ่งการที่ได้ร่วมงานด้วยถือเป็นโอกาสที่ดีมากสำหรับนักแสดงทุกคน...แล้วนี่ริทโทรไปเลื่อนคิวที่อัดแน่นของตัวเองออกไปมีหวังออกไปสับรางงานกันวุ่นแน่เลย
“เลิกกังวลเลย...ริทโทรไปบอกพี่เขาดี ๆ หรอกน่า” ร่างบางเหมือนจะรู้ทันเลยรีบออกตัวไว้ก่อนเพราะกลัวผู้จัดการส่วนตัวคนเก่งจะไม่ได้นอน
“แหะๆๆ...พี่ไม่ได้ห่วงเรื่องนั้นสักหน่อย...เอาเถอะริทกลับบ้านเถอะดึกแล้ว” สุดท้ายเบียร์ก็เลิกคิดเพราะยังไงก็แก้ไขอะไรไม่ได้แล้วอีกอย่างต่อไปเธอต้องคิดเรื่องอื่นแทนแล้วสิ
“โอเคครับ...ริทกลับก่อนนะ” พูดจบปุ๊บก็หันหลังเดินออกไปโดยไม่ได้หันมองใครอีกคนที่ลอบมองเจ้าตัวมาตั้งนานแล้ว...และเมื่อเบียร์จะทันสังเกตเห็นว่าน้องชายตัวดีเงียบผิดปกติซึ่งเธอก็ทันเห็นว่านภัทรกำลังมองตามใครบางคนออกไป
“กันพี่วานเราไปส่งริทให้พี่หน่อยสิพี่เป็นห่วงมันดึกแล้ว...แล้วเราก็กลับบ้านเลยพรุ่งนี้ค่อยเอาเสื้อผ้ามาเปลี่ยนให้พวกพี่” เบียร์ยิ้มให้อยากคนที่เริ่มมีความคิดบางอย่างขึ้นมาในหัว
“ไม่เป็นไรมั้งครับ...ดูเขาก็สบายดีนี่” เจ้าตัวยังคงวางมาดนิ่งทำเป็นไม่สนใจจนเบียร์เกิดหมั่นไส้เลยต้องฝากอีกคนให้ช่วยกระตุ้นสักหน่อย
“งั้นเธอช่วยไปส่งริททีนะ...ส่งให้ถึงห้องเลยหล่ะ” ซึ่งหนึ่งก็ไม่รอช้าก้มลงหอมแก้มว่าที่คุณแม่ก่อนจะรีบตามริทออกไป
“น้องริทคร้าบบบ...” เสียงที่รั้งเอาไว้ทำให้ริทหันมามองพี่ชายที่วิ่งตามอย่างงง ๆ
“เดี๋ยวพี่ไปส่ง...เบียร์เขาเป็นห่วงน่ะ” ชายหนุ่มยิ้มให้อีกฝ่ายก่อนที่ทั้งคู่จะเดินเข้าไปในลิฟท์ที่มาถึงพอดีแต่ไม่ทันที่ประตูปิดดีก็เปิดออกอีกครั้ง...และคนในลิฟท์ต้องแปลกใจที่ใครบางคนมายืนตรงหน้าส่วนหนึ่งนั้นกลับยิ้มอย่างอารมณ์ดี...เมียใครวะเจ๋งชิบ ^_^
...........................................................................................................
ความคิดเห็น